22 พฤศจิกายน 2567, 04:37:14
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: มหาภารตยุทธ-มหาสยามยุทธ!  (อ่าน 18450 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
wat
มือใหม่หัดเมาท์
*

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 47

« เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2551, 14:32:20 »

สบายกันดีนะครับ พี่น้อง {หวังว่าเธอคงสุขดี อยู่ทางนั้นเจอสิ้งดีๆ...มีแต่คิดถึง...ฮึ ฮึ sing }

หายไปนาน มาอีกครั้ง เอามหากาพย์มาบ่น (ยาวหน่อยนะ)

การเมืองปัจจุบัน ทำให้นึกถึงเรื่อง มหาภารตยุทธ!!

เป็นมหากาพย์เรื่องยาวที่มีชื่อเสียงของอินเดียโบราณเคียงคู่มากับมหากาพย์รามายณะ หรือรามเกียรติ์บ้านเรานั้นเอง มหากาพย์สองเรื่องนี้เป็นไม่ใช่วรรณกรรมทั่วๆไปแต่จัดเป็นคัมภรีศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาฮินดูเลยทีเดียว กล่าวกันว่าใครอ่านคำภีร์สองเล่มนี้ จะเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ล้างบาปได้!!
สำหรับคนไทยแล้วอาจมีความคุ้นเคยกับเรื่องมหาภารตะน้อยกว่ารามเกียรติ์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว 2 เรื่องยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน



นักวิชาการทางประวัติศาสตร์บางสำนัก ให้ความเห็นว่า เรื่องมหาภารตะนี้มีเค้าโครงจากเรื่องจริงในอดีต บ้างก็ว่าเป็นแค่เรื่องแต่ง เนื้อเรื่องว่าด้วยสงครามระหว่างพี่น้องวงศ์กษัตริย์เลือดเนื้อเชื้อไขบรรพบุรุษเดียวกันคือ พวกปาณฑพ(ปาน-ดบ) และ พวกเการพ(เกา-รบ) ปมแห่งความขัดแย้งได้ก่อตัวตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นเด็กเล็กถึงโตเป็นกษัตริย์ปกบ้านครองเมือง

ต้นเหตุหลักๆของเรื่องก็ไม่พ้นเรื่องคลาสสิคแห่งการเกิดสงครามทั่วๆไปคือ ความขัดแย้งเชิงอำนาจ ผลประโยชน์ ความริษยา การชิงดีชิงเด่น ผู้หญิง การพนัน การโกง !! แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในเรื่องก็ได้ชี้ให้เห็นว่า ญาติผู้ใหญ่พยายามหาทางออกทุกทางเพื่อให้ความขัดแย้งได้คลี่คลาย แต่ก็ล้มเหลว เนื่องจากความขัดแย้ง สลับซับซ้อนซ่อนเงื่อน ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลข้ออ้าง ที่ยากจะกล่าวได้ว่าฝ่ายใดผิดถูกไปกว่ากัน พวกบรรดาญาติสนิทมิตรสหายประชาชนก็แตกแยกกันเข้าข้างใดข้างหนึ่ง แล้วสถานการณ์ได้ยืดเยื้อมาจนถึงจุดที่มิอาจกระทำการประณีประนอมสมานฉันท์อะไรกันได้อีก สงครามเท่านั้น คือทางออก!!


 แต่ก็มีบางคนไม่ได้เลือกเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งและไม่เข้าร่วมสงคราม อาทิ ท่านพลราม! พลราม เป็นญาติผู้ใหญ่ของคู่กรณีทั้งสองฝั่ง ช่วงที่ทั้งคู่ทำสงครามกัน พลราม ปลีกวิเวก เดินทางท่องเที่ยว ไม่ยุ่งไม่เกี่ยวใดๆทั้งสิ้น น่าคิดว่าเหตุใด พลราม ไม่เลือกเข้าข้างใดข้างหนึ่ง พลราม เป็นผู้มีความเที่ยงธรรมไม่นิยมสงคราม?, เป็นพวกไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดหรือเป็นนักฉวยโอกาสรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์?, เป็นพวกเห็นแก่ตัว-ตัดช่องน้อยแต่พอตัว?, หรือเห็นว่าทั้งสองฝ่ายแย่พอๆกันเลยไม่อยากยุ่งเกี่ยว? หรือไม่กระจ่างในสถานะการณ์เลยตัดสินใจไม่ได้ไม่รู้จะเลือกฝั่งไหนดี ฯลฯ . . .ไม่แน่พลรามอาจเป็นกลาง หรืออาจจะเชียร์ฝั่งใดฝั่งหนึ่งอยู่ในก็ได้! แต่ยังไงก็ต้องเคารพสิทธิ์ของพลราม(นะ)

ประเด็นที่น่าคิดอีกอย่าง คือพวกที่เข้าร่วมกับฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เข้าไปเพราะว่า มีความเข้าใจในสถานะการณ์ถ่องแท้แยกแย่ะถูกผิดได้ทะลุปรุโปร่งแล้วต้องการต่อสู้เพื่อความถูกต้องชอบธรรมจริงๆ? หรือเห็นแก่ที่เงินรับจ้างมา หรือเล็งเห็นผลประโยชน์ส่วนตนบางอย่างจึงเข้าร่วม! หรือเผอิญทำงานอยู่กับฝั่งใดฝั่งหนึ่งอยู่ก่อนแล้ว นายสั่งไปไหนทำอะไรก็ไปด้วย หรือแค่เฮๆมึนๆกันไป ฯลฯ ก็แล้วแต่เหตุผล ว่ากันไป...



สองฝ่ายก็ได้รบพุ่งประจัญบานกันที่ทุ่งกุรุเกษตร เป็นเวลาถึง 18 วันท้ายที่สุดสงครามยุติ ฝ่ายปาณฑพเป็นฝ่าย ชนะ

ผลของสงคราม คือ
พี่ฆ่าน้อง น้องฆ่าพี่ หลานฆ่าอา
ลุงฆ่าหลาน ลูกศิษย์ฆ่าอาจารย์
เพื่อนฆ่าเพื่อน ญาติฆ่าญาติ
ตายกันแบบยกโคตรแทบจะสูญพันธุ์
!!


และคนที่มีบทบาทสำคัญคนหนึ่งในกองทัพข้างฝ่ายชนะ คือ ท่านกฤษณะ ชาวฮินดูได้ยกย่องและให้ความเคารพสูงสุดในฐานะ องค์อวตารปางหนึ่งของพระนารายณ์ ที่เรียกว่า กฤษณาวตาร

นอกจากนี้แล้วบทสนทนาอันแฝงไปด้วยปรัชญาลึกซึ้งในเชิงให้กำลังใจและส่งเสริมความฮึกเหิมในการทำสงคราม ของท่านกฤษณะที่ได้กล่าวต่อ พี่น้องปาณฑพตัวเอกคนหนึ่งนามว่า อรชุน ที่เมื่อเริ่มสงครามได้เกิดอาการท้อแท้ไม่อยากรบเมื่อเห็นคนที่ตนต้องทำสงครามด้วยนั้นล้วนเป็นญาติสนิทมิตรสหายด้วยกันทั้งนั้น บทสนทนานี้ได้ถูกจัดให้เป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู ตั้งชื่อว่า. . .

ภควัทคีตา (บทเพลงของพระเจ้า)
- คัมภรีนี้มีความสำคัญมาก มหาตามะคานธีให้ความนับถือพระกฤษณะอย่างสูงสุดและนำภัควัทคีตรมาอ่านอยู่เนืองนิจเมื่อยามท้อแท้ไม่มีกำลังใจต่อสู้ ในช่วงเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษ
- และเคยได้ยินมาว่า ฮิตเลอร์ ได้แจงคำภีร์นี้ให้กองทัพนาซีอ่านช่วงที่ทำสงครามโลกครั้งที่สอง
- ในไทยเรา น้าแอ็ด คาราบาว ก็อ่านคำภีร์เล่มนี้เกิดความประท้บ ถึงกับนำมาแต่งเพลง ชื่อ ภควัทคีตาตัวอย่างเนื้อหาของ ภควัทคีตา ในสำนวนเนื้อเพลงของ น้าแอ็ด คาราบาว
"รบเถิด อรชุน หากท่านตายในสนามรบ สวรรค์ยังรอท่านอยู่ ยังเปิดประตูรอผู้ปราชัย แม้นหากว่าท่านชนะความเป็นใหญ่ในแผ่นดินนี้ ทุกพงพื้นปฐพีรอให้ท่านเข้ามาครอบครอง"
ฟังเพลงต้นฉบับ http://kateep.com/music/song/musiconline-id-5944.htm

มีนักคิดท่านหนึ่งให้ทรรศนะที่ เป็นมุมมองที่คิด...น่าสนใจมาก แต่ค่อนข้างแรง!. . . แท้จริงแล้ว ภควัทคีตา ก็แค่การพร่ำเพ้อปรัชญาไร้สาระที่สร้างขึ้นเพื่อกล่อมคนหัวอ่อนไม่มีความคิด ชักจูงไปในทางให้นิยมแก้ปัญหาด้วยวิธีรุนแรง การฆ่าฟันทำสงคราม แถมยังหลอกให้เชื่อว่าทำสงครามเพื่อความถูกต้องแล้ว แม้ตายก็จะได้บุญขึ้นสวรรค์ ภัควัทคีตานี้แหละเป็นรากเหง้าของ การทำสงครามศักดิ์สิทธิ์! สงครามของพระเจ้า! และการก่อการร้าย ภัควัทคีตานี้แหละ มิจฉาทิฏฐิ(ทัศนะอันตราย!)ตัวจริง! ซึ่งขัดกับหลักของพุทธศาสนาอย่างสิ้นเชิง ที่สอนให้มีเมตตา อหิงสา(ไม่เบียดเบียน) หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงทั้งปวง

แต่โดยส่วนตัวแล้วอาจมองได้อีกมุมว่า ภควัทคีตา เป็นสุดยอดแห่งคัมภีร์ที่มีศิลปะการประพันธ์ และจิตวิทยาชั้นสูงในการปลุกเร้าคน ให้สู้ชีวิต ให้สู้สิ่งยาก ฝ่าฟันอุปสรรค์ สร้างสรรค์สิ่งดีงาม(ย้ำอีกที...สิ่งที่ดีงาม)อย่างเอาชีวิตเข้าแลก อย่าซักแต่ใช้ชีวิตแบบซังกะตายไปวันๆ...(รบเถิด อรชุน)

ถึงแม้ในที่สุดมันไม่สำเร็จก็ไม่ต้องเสียใจ จงภูมิใจ เราได้ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว...(หากท่านตายในสนามรบ สวรรค์ยังรอท่านอยู่ ยังเปิดประตูรอผู้ปราชัย) แล้วถ้าทำทำสำเร็จ แน่นอนท่านคือผู้พิชิต...(แม้นหากว่าท่านชนะความเป็นใหญ่ในแผ่นดินนี้ ทุกพงพื้นปฐพีรอให้ท่านเข้ามาครอบครอง)

ส่วนการกล่าวในเชิงการรบ-สงครามฆ่าฟันนั้นเป็นแค่การอุปมาอุปมัยให้เห็นภาพ เพื่อความบันเทิง ไม่ใช่แก่นของคำสอนที่ต้องการสื่อ การรบอาจตีความเป็นการต่อสู้กับอุปสรรค์ปัญหาหรือกิเลสภายในใจก็ได้

"มหากาพย์ที่ยิ่งใหญ่มักมีปมปริศนาให้ตีความได้หลายมุมเสมอ นี่แหละคือเสน่ห์ของมหากาพย์"

- - - - -

*หมายเหต : สถานะการณ์การเมืองของไทยตอนนี้ดูคล้ายกับเรื่องราวในมหาภารตะเข้าไปทุกทีหวังว่าคงไม่ไปถึงขึ้นสงครามนะ (หรือได้เข้าไปสู่สงครามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มหาสยามยุทธ!)

{ดูทัศนะของ อ.ประเวศ วะสี..."ความขัดแย้งระหว่างพี่น้องคนไทยขณะนี้ซึ่งแบ่งข้างด้วยอารมณ์รุนแรงเป็นฝ่ายรักทักษิณกับฝ่ายเกลียดทักษิณ ข้างละเท่าไรไม่ทราบแน่ แต่อาจมากกว่าข้างละ ๑๐ ล้านคน จึงน่าจะเป็นความแตกแยกในหมู่คนไทยด้วยกันที่ใหญ่ที่สุดอันอาจนำไปสู่การนองเลือด จึงเรียกการต่อสู้ครั้งนี้ว่า “มหาสยามยุทธ” น่าจะมีผู้วิจัยเก็บข้อมูลบุคคลที่เกี่ยวข้องและเหตุการณ์ไว้อย่างละเอียดและนำมาประพันธ์เป็นมหากาพย์ เพื่อให้เป็นที่เรียนรู้ใหญ่ของคนไทยทั้งชาตสืบต่อ" อ่านเพิ่มเติมที่...
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000134004 }


บันทึกการเข้า
Max
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,435

« ตอบ #1 เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2551, 15:33:19 »

อืมๆ ... น่ากลัว
บันทึกการเข้า
Apirat T.
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,357

« ตอบ #2 เมื่อ: 14 พฤศจิกายน 2551, 07:25:48 »

เรื่องราว หรือ ประสบการณ์ในอดีตเป็นสิ่งที่เตือนใจการตัดสินใจของคนในปัจจุบันได้
จริงๆ แล้ว เรามีตัวอย่างพวกนี้มากมาย

เพียงแต่ ณ เวลานี้ พวกที่ฝังใจเชื่ออะไรไปแล้ว ก็เหมือนตาบอด
มองไม่เห็นสิ่งที่น่าจะเป็นบทเรียนที่ผ่านมาแล้วสำหรับพวกเขา

ต่างฝ่ายต่างต้องการชัยชนะ
มันก็ต้องมีฝ่ายชนะ และ ฝ่ายแพ้
และฝ่ายแพ้ ก็จะรอวันที่จะกลับมาแก้แค้น
แล้วทุกอย่างก็จะวนไปวนมา อยู่อย่างนี้ โดยไม่จบสิ้นแหละ

ความซวย ก็จะตกอยู่ตรงที่ว่า ทำไมบ้านเมืองมันถึงไม่เจริญขึ้นซักที

ตาแคม
บันทึกการเข้า
ppornson
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,724

« ตอบ #3 เมื่อ: 17 พฤศจิกายน 2551, 21:28:48 »

โอ้..ท่าน wat ศึกษาลึกซึ้ง..

ส่วนผมติดตามหนังสือของ อ.วีระ อยู่ อ่านแล้ววางไม่ลงเลย..มีคนนำมาเทียบกับความขัดแย้งในบ้านเรานานแล้วล่ะ..ต้องค่อยๆกันดูต่อไป

เพราะตอนนี้สถานการณ์ยิ่งอึดอัด พธม. ไม่มีมวลชนมากพอ เพราะแกนนำพาเข้ารกเข้าพง คนก็เบื่อรัฐบาล ไม่รู้จะมีนายกฯไปทำไม ไม่มี vision ใดๆเลย..ทำงานแบบไปวันๆ..สัมภาษณ์อะไรก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง..ไม่เกี่ยวซักเรื่อง..นี่มันจะแก้ รธน. อีกแล้ว..น่าเบื่อ.
บันทึกการเข้า
Max
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,435

« ตอบ #4 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2551, 12:21:23 »

ผมกลับมากระทู้นี้อีกครั้งน่ะ

เพราะคำว่า " สงครามกลางเมืองครับ"



วันก่อนไปประชุมกับท่านลูกค้ามา

เป็นความรู้ใหม่นะครับนี่ว่า เค้า โปรเจ็ค ช่าน

กันถึงสงครามกลางเมืองกันเลยอ่ะครับ

ฟังผู้ใหญ่เค้าแลกข้อมูลกัน ผมถึงกับอึ้ง smoke
บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2551, 20:09:18 »

พี่ขอฟังก่อนนะคะ!
 
อ้างถึง   
- ในไทยเรา น้าแอ็ด คาราบาว ก็อ่านคำภีร์เล่มนี้เกิดความประท้บ ถึงกับนำมาแต่งเพลง ชื่อ ภควัทคีตาตัวอย่างเนื้อหาของ ภควัทคีตา ในสำนวนเนื้อเพลงของ น้าแอ็ด คาราบาว"รบเถิด อรชุน หากท่านตายในสนามรบ สวรรค์ยังรอท่านอยู่ ยังเปิดประตูรอผู้ปราชัย แม้นหากว่าท่านชนะความเป็นใหญ่ในแผ่นดินนี้ ทุกพงพื้นปฐพีรอให้ท่านเข้ามาครอบครอง"
<a href="http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?songID=V2BFEGCEPB0&amp;Autoplay=0" target="_blank">http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?songID=V2BFEGCEPB0&amp;Autoplay=0</a>
p.nn
บันทึกการเข้า


ppornson
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,724

« ตอบ #6 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2551, 20:49:36 »

ของ อ.วีระเป็น 4 เล่มจบ เล่มสองนี้มาจบตอนที่วันรุ่งขึ้นจะทำสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตรแล้วล่ะ..ต้องรออีก 1 ปี ถึงจะออกเล่ม 3 แกทำค่อนข้างละเอียด และเรื่องราวประกอบแกก็จะมีอธิบายไว้ด้วย..อ่านมันส์มากๆ..
บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #7 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2551, 20:55:06 »

อ่านสนุกเหมือน Harry Potter,Aragon พี่จะมาซื้อไว้ในcollection!
อ่านยากรึปล่าวล่ะ??
p.nn
บันทึกการเข้า


Surachai Chantosakun
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 114

« ตอบ #8 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2551, 13:39:51 »

สวัสดีเพื่อนๆ

ไม่เคยอ่าน แต่ได้ฟัง CD ของอาจารย์ วีระ แต่ยังฟังไม่จบ น่าจะถึง ช่วงที่รบที่ทุ่งกุรุเกษตรประมาณวันที่ 8
อาจารย์เราได้มันมากและไม่งงแม้ตัวละครจะมาก เนื่องจากจะมีการเล่าย้อนประวัติหรือจุดสำคัญของตัวละครโดยตลอด
มันมากครับ ตอนนี้กำลังหา CD ที่เหลือใครมีบ้างครับ หรือแนะนำหน่อยว่าซื้อไดที่ไหน

บันทึกการเข้า
ppornson
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,724

« ตอบ #9 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2551, 18:09:29 »

ต้องคอยฟังในรายการเอาเอง..ส่วนข้าพเจ้าไม่ค่อยชอบฟังเพราะไม่มีเวลา..

p.nn อ่านไม่ยากหรอกครับ..ไม่ได้ซับซ้อนมาก..แต่เรื่องซ้อนเยอะเหลือเกิน..ประมาณว่า detail อะไรจะประมาณนั้น..
บันทึกการเข้า
Aj.O
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,241

« ตอบ #10 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2551, 16:10:19 »

อ้างจาก: wat
แต่โดยส่วนตัวแล้วอาจมองได้อีกมุมว่า ภควัทคีตา เป็นสุดยอดแห่งคัมภีร์ที่มีศิลปะการประพันธ์ และจิตวิทยาชั้นสูงในการปลุกเร้าคน ให้สู้ชีวิต ให้สู้สิ่งยาก ฝ่าฟันอุปสรรค์ สร้างสรรค์สิ่งดีงาม(ย้ำอีกที...สิ่งที่ดีงาม)อย่างเอาชีวิตเข้าแลก อย่าซักแต่ใช้ชีวิตแบบซังกะตายไปวันๆ...(รบเถิด อรชุน)

ถึงแม้ในที่สุดมันไม่สำเร็จก็ไม่ต้องเสียใจ จงภูมิใจ เราได้ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว...(หากท่านตายในสนามรบ สวรรค์ยังรอท่านอยู่ ยังเปิดประตูรอผู้ปราชัย) แล้วถ้าทำทำสำเร็จ แน่นอนท่านคือผู้พิชิต...(แม้นหากว่าท่านชนะความเป็นใหญ่ในแผ่นดินนี้ ทุกพงพื้นปฐพีรอให้ท่านเข้ามาครอบครอง)

อ่านแล้วนึกถึงข้อความในเพลงนึง ของแบล็คเฮด

 
อ้างถึง   
ก่อนฉันจะไม่หายใจ ให้รู้ได้สู้ถึงตายก็ยอม
แต่เธอจะต้องเสียใจ ถ้าเธอไม่สู้แล้วตายก็ยอม

*** เจอทางตันอย่าอ่อนไหว ค่อยๆทลายออก
ดินลมไฟสักแค่ไหน ไม่ต้องท้อใจ
มองการณ์ไกลที่สดใส เป็นจุดสนใจก่อน
คุมตัวเองจากวายร้ายภายในไม่ให้ออกมา

ปล.ผมว่าคนอย่าง พลราม คงมีอยู่มากในสังคม แต่ไม่แสดงตัว ก็เท่านั้น  sleep
นั่งในรู ดู...สู้กัน
บันทึกการเข้า

...
นายป้อ
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,124

« ตอบ #11 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2551, 16:08:00 »

 emo43อ่านมา  3  รอบแล้วเรื่องนี้...ทั้งเรื่อง ..เพราะพี่คนโตคนเดียว...เง้อ.....สู้...ศิวาราตรีของพนมเทียน...ก็..บ่..ได้..มันกว่าเยอะ...
บันทึกการเข้า
mmwindoo_79
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 254

« ตอบ #12 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2552, 14:52:01 »

อ้างถึง
ข้อความของ wat เมื่อ 18 พฤศจิกายน 2551, 09:40:39
ในรามเกียรติ์ ก็มีตอนหนึ่งน่าสนใจ "ตอนท้าวมาลีราชว่าความ" มีการขึ้นโรงขึ้นศาลการพิพากษาระหว่างพระราม กับ ทศกัณฑ์ กรณีนางสีดา โดยมี ท้าวมาลีวราช ซึ่งมีศักดิ์เป็นปู่ทศกัณฑ์ว่าความ แต่เนื่องด้วย ท้าวมาลีวราช(บ้างก็ว่าเป็น พรหมอวตาร)เป็นผู้เที่ยงธรรม ตัดสินไม่ลำเอียงเข้าข้างญาติ ว่าไปตามเนื้อความและได้ตัดสินให้ ทศกัณฑ์ผิด สั่งให้ทศกัณฑ์คืนนางสีดาให้พระราม ทศกัณฑ์ไม่ยอมรับคำตัดสิน เดินหน้าทำสงครามกับ พระรามต่อไปจนถึงที่สุด! (ก็ไม่แน่ใจนะว่าตอนนั้นหลังโดนตัดสินแล้ว ทศกัณฑ์ แกขายทีมสโมสรฟุตบอลทิ้งหรือเปล่า 555)

ท้าวมาลีวราช เป็นพรหมครับ คือ ต้นตระกูลกษัตริย์ยักษ์ตามเนื้อเรื่องนั้น เป็นพรหมตระกูลหนึ่งไง
นั้นหมายความว่า ทศกัณฑ์มีสายเลือดสูงส่งมากครับ แต่เสือกเป็นคนพาลซะงั้น
ท้าวมาลีวราช สถิตอยู่ที่เขายอดฟ้า บำเพ็ญธรรมสัตย์บริสุทธิ์จนเป็นผู้มีวาจาสิทธิ์ คือ พูดอะไร เป็นจริงหมด
ทศกัณฑ์หวังให้เปิดศาล เพื่ออาศัยฤทธิ์ของปู่ สาปแช่งพระราม แต่ประมาทธรรมของท่าน เพราะท้าวมาลีวราช เป็นผู้ที่ถือความสัตย์ยุติธรรมเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อสืบพยานครบและตัดสินให้ทศกัณฑ์คืนนางสีดาแก่พระราม ทศกัณฑ์ก็ขัดใจ เพราะไม่สนกฎเกณฑ์ มุ่งแต่กฎกู เลยบริพาทท้าวมาลีวราชด้วยโทสะ โชว์พาวว่า วันหลังจะเอาทัพยักษ์มาเหยียบเขายอดฟ้า

ปู่ท่านก็เลยอวยชัยให้ทศกัณฑ์ตายเพราะด้วยฝีมือพระรามซะเลย

เป็นท้าวมาลีวราชนี่ลำบากนะครับ ต้องระวังคำพูดคำจา อุทานผิดพลาดอะไรเข้า เช่น แม่ร่วง , ตาเถรตกบันได ฯลฯ ยุ่งตายห่าน
      บันทึกการเข้า
nu_eng
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10

« ตอบ #13 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2552, 16:18:06 »

 เหนื่อย อ่านจากการ์ตูน
      บันทึกการเข้า
Apirat T.
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,357

« ตอบ #14 เมื่อ: 08 มิถุนายน 2552, 07:37:26 »

เห็นได้ยินทางวิทยุ 96.5 ที่แกจัดรายการอยู่
เหมือนเล่ม 3 ออกขายแล้วหนิ
      บันทึกการเข้า
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><