23 พฤศจิกายน 2567, 04:23:11
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 10 11 [12] 13 14 ... 20  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: • • ยังชิน มาแล้วจ้า !!! • •  (อ่าน 186457 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 13 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
อ้อย17
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,908

« ตอบ #275 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2552, 20:02:04 »

อ้างถึง
ข้อความของ yc เมื่อ 21 มิถุนายน 2552, 10:42:58
เวลาคุยเรื่องเงินอย่างเป็นสาระมันเครียด

ไปอ่าน "นิทานการเงิน" ดีกว่า ไม่เครียด
ในนิทานการเงิน เรื่องที่ 10  โลมา เสนอสร้างเครื่องมือทางเศรษฐกิจใหม่
เรียกว่า "พันธบัตรไม้"

อยากเรียนว่า
พันธบัตรไม้นั้น โลมาน่าจะหมายถึง  "เงิน" อีกสกุลหนึ่ง
ไม่ใช่พันธบัตรที่ออกมาเพื่อเ้ปลี่ยนเป็นเงินในความหมายทั่วไป

สำหรับมุมคิดของนายยังชิน
เชื่อว่า ทางแก้ปัีญหาเศรษฐกิจของไทย คือ ต้องสร้างเครื่องมือทางเศรษฐกิจใหม่
คือสร้างเงินสกุลใหม่ของไทยใช้คู่ไปกับเงินบาท
เรียกว่า "ระบบเงินคู่"

โดยหลัีกการของ "ระบบเงินคู่"
เงินบาทแข็ง  เศรษฐกิจไทยยิ่งแข็งแรง
เงินบาทอ่อน เศรษฐกิจไทยยิ่งเติบโต

ขอจบเรื่่องการเงินในความคิดของผมไว้เพียงนี้

มาคุยกันเรื่องอื่นๆดีกว่า

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว.......


น้องยังชิน..
     แล้วจะทำยังไงจึงจะทำให้เมืองไทยเรามีการใช้ระบบเงินคู่ล่ะ...มันจะทำได้ง่าย ยากยังไง...น่าสนใจ..รีบขยายเร็วๆนะ...
      บันทึกการเข้า
super
Full Member
**


วิดยา'20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 368

« ตอบ #276 เมื่อ: 22 มิถุนายน 2552, 08:59:30 »

หวัดดี พี่อ้อย๑๗ ครับ ตามอ่านโพสท์ของพี่เสมอครับ
      บันทึกการเข้า
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #277 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2552, 09:22:33 »

อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย17 เมื่อ 21 มิถุนายน 2552, 20:02:04
อ้างถึง
ข้อความของ yc เมื่อ 21 มิถุนายน 2552, 10:42:58
เวลาคุยเรื่องเงินอย่างเป็นสาระมันเครียด

ไปอ่าน "นิทานการเงิน" ดีกว่า ไม่เครียด
ในนิทานการเงิน เรื่องที่ 10  โลมา เสนอสร้างเครื่องมือทางเศรษฐกิจใหม่
เรียกว่า "พันธบัตรไม้"

อยากเรียนว่า
พันธบัตรไม้นั้น โลมาน่าจะหมายถึง  "เงิน" อีกสกุลหนึ่ง
ไม่ใช่พันธบัตรที่ออกมาเพื่อเ้ปลี่ยนเป็นเงินในความหมายทั่วไป

สำหรับมุมคิดของนายยังชิน
เชื่อว่า ทางแก้ปัีญหาเศรษฐกิจของไทย คือ ต้องสร้างเครื่องมือทางเศรษฐกิจใหม่
คือสร้างเงินสกุลใหม่ของไทยใช้คู่ไปกับเงินบาท
เรียกว่า "ระบบเงินคู่"

โดยหลัีกการของ "ระบบเงินคู่"
เงินบาทแข็ง  เศรษฐกิจไทยยิ่งแข็งแรง
เงินบาทอ่อน เศรษฐกิจไทยยิ่งเติบโต

ขอจบเรื่่องการเงินในความคิดของผมไว้เพียงนี้

มาคุยกันเรื่องอื่นๆดีกว่า

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว.......


น้องยังชิน..
     แล้วจะทำยังไงจึงจะทำให้เมืองไทยเรามีการใช้ระบบเงินคู่ล่ะ...มันจะทำได้ง่าย ยากยังไง...น่าสนใจ..รีบขยายเร็วๆนะ...

ขอบคุณพี่อ้อย และพี่น้องทุกท่านที่สนใจ "ระบบเงินคู่"
ผมว่าจะไม่เขียนเรื่องหนักสมองในกระทู้นี้อีก

แต่คิดอีกที พวกเราก็จัดเป็นชนชั้นที่มีบทบาทนำในสังคมนี้
อ่านสิ่งที่หนักสมองบ้างก็น่าจะดี

แต่ขอออกตัวไว้ก่อนนะครับว่า เรื่อง "ระบบเงินคู่" นี้
ใหญ่เกินกว่าที่ผมคนเดียวจะคิดให้สำเร็จได้
ผมเพียงแต่มั่นใจว่า ทิศที่ผมชี้นี้ไม่ผิดแน่
เพียงแต่จะเดินไปถึงเร็วหรือช้า แต่ถ้าเดินตามทิศนี้ไม่ต้องถอยหลังแน่ครับ

และอีกข้อที่ขออ้างไว้ก่อนก็คือ
หากมีรัฐบาลชุดใดนำไปใช้ แต่ผลได้ไม่ดีหรือล้มเหลว
ก็ขอให้นึกประโยคต่อไปนี้
"ใช้ตะเกียบคีบถั่วไม่ขึ้น ไม่ได้หมายความว่า ตะเกียบไม่อาจใช้คีบถั่วได้"

ระหว่่างนี้ ฆ่าเวลาไปอ่า่น "ระบบเงินคู่" เพื่อปูพื้นความคิด ตามลิงค์ข้างล่างครับ

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,2708.0.html
      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #278 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2552, 10:43:25 »

โชคดี....คืนนี้จะได้ฟังจากปากคนเขียนนิทานฯ

แล้วเจอกันครับ.......พี่ยังชิน
      บันทึกการเข้า
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #279 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2552, 20:04:35 »

ผมยังไม่ได้อ่านเลยพี่ยังชิน
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
super
Full Member
**


วิดยา'20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 368

« ตอบ #280 เมื่อ: 24 มิถุนายน 2552, 09:55:40 »

แหลม,ตุ๋ย  หวัดดีครับ
เจ้ากระทู้toomy  ไปไหน...เอ่ย
      บันทึกการเข้า
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842

เว็บไซต์
« ตอบ #281 เมื่อ: 24 มิถุนายน 2552, 12:18:37 »

เมื่อคืนนึกว่าจะได้เจอ อดเลย
      บันทึกการเข้า

เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #282 เมื่อ: 24 มิถุนายน 2552, 20:17:12 »

ขอโทษท่านแหลม

มีเวลาค่อยว่ากันนะตุ๋ย

   
patooman24
ระดับชั้นเหนือเซียน
*****

   ตอบโดยอ้างถึงข้อความอ้างถึง
เมื่อคืนนึกว่าจะได้เจอ อดเลย

สำหรับนายทูนั้น  ถือว่าผมโชคดีที่ผมไม่ได้ไป
เพราะถ้าไปคงถูกหม่ำ
      บันทึกการเข้า
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #283 เมื่อ: 24 มิถุนายน 2552, 21:22:07 »

อด  อารายนายทู
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #284 เมื่อ: 25 มิถุนายน 2552, 16:24:37 »

ระบบเงินคู่

ระบบเงินคู่ คือ การที่รัฐบาลจัดการบริหารเศรษฐกิจของประเทศโดยใช้การขับเคลื่อนด้วยเงินตรา
ภายในประเทศ 2 สกุล
                                  โดยเงินตราสกุลหนึ่งเป็นสกุลเงินตราหลัก  ซึ่งสามารถใช้เป็นเงินที่ชำระหนี้
ได้ตามกฎหมายทั่วประเทศ มีรูปแบบของเงินสำหรับมูลค่าใดๆเพียงรูปแบบเดียว เงินตราสกุลหลักนี้
นอกจากใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายทั่วประเทศแล้ว ยังเป็นเงินที่สามารถแลกเปลี่ยนกับเงินตราต่าง
ประเทศได้อีกด้วย  เงินตราสกุลหลักนี้ออกโดยธนาคารแห่งชาติเท่านั้น
                                   เงินตราอีกสกุลหนึ่งเป็นสกุลเงินตรารอง สามารถใช้ขำระหนี้ได้ตามกฏหมาย
เฉพาะพื้นที่ที่มีกฏหมายสำหรับรูปแบบหนึ่งๆของสกุลเงินตรารองใดๆได้กำหนดไว้ กล่าวคือ  สกุลเงิน
ตรารองในพื้นที่ใดๆจะมีรูปแบบเงินที่แตกต่างกันแม้จะมีมูลค่าเท่ากัน และด้วยรูปแบบเงินที่แตกต่างกันนี้
จึงมีกฎหมายรองรับสำหรับเงินรูปแบบหนึ่งให้เป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฏหมายในพื้นที่หนึ่งเท่านั้น
 รูปแบบเงินตรารองในพื้นที่หนึ่ง ไม่อาจเป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายในต่างพื้นที่  เงินตรารอง 
สามารถแลกเปลี่ยนกับเงินตราหลัก แต่เงินตรารอง ทุกรูปแบบไม่สามารถแลกเปลี่ยนกับเงินตราต่างประเทศ   
ถ้าต้องการเปลี่ยนเงินตรารองไปเป็นเงินตราต่างประเทศจึงต้องเปลียนเป็นเงินตราหลักก่อน
แล้วจึงนำเงินตราหลักไปแลกเป็นเงินตราต่างประเทศ  ในทำนองเดียวกัน เงินตราต่างประเทศก็ไม่อาจ
แลกเปลียนเป็นเงินตรารองได้โดยตรง จำต้องเปลี่ยนเป็นเงินตราหลักก่อนแล้วจึงนำเงินตราหลักไปแลกเป็นเงินตรารอง
                                      การทำเงินตรารองออกใช้จำต้องมีทองคำและหรือเงินตราหลัก เป็นทุนสำรองเงินตรา
                                      (แง่มุมปรึกษา : เงินตรารองอาจออกโดยองค์กรการเงินของพื้นที่
ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งชาติ  หรือ…???...)
      บันทึกการเข้า
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #285 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2552, 07:55:53 »

 
อ้างถึง   
ป๋าเปรมแนะฟื้นกระแสนิยมไทย
หนังสือพิมพ์ข่าวสด สรุปข่าวเศรษฐกิจ

พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวในพิธีเปิดงาน "สหกรุ๊ปแฟร์" ครั้งที่ 13 จัดโดยกลุ่มบริษัทสหกรุ๊ป ระหว่าง 25-28 มิ.ย. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริติ์ ว่า วิกฤตเศรษฐกิจที่ลุกลามไปทั่วโลก ทำให้คนไทยเดือดร้อนโดยเฉพาะคนยากจน กลุ่มชาวไร่ ชาวนา ที่ไม่ได้ทำผิดอะไรแต่ต้องมาแบกรับเคราะห์กรรม แต่ยังเชื่อว่าวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้จะไม่มีรุนแรงเท่ากับวิกฤตต้มยำกุ้ง เมื่อปี'40 อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วง 20-30 ปีที่แล้ว เคยมีการรณรงค์ให้ประชาชนคนไทยใช้ของไทย กินของไทย แต่เมื่อเวลาผ่านไปแนวคิดการรณรงค์เรื่องนี้หายไป ซึ่งเห็นว่าการรณรงค์แนวคิดให้คนไทย กินของไทย ใช้ของไทย ควรนำมาปัดฝุ่นใหม่ และไม่ใช่เรื่องยาก โดยสิ่งแรกคือ คนไทยต้องรักใคร่สามัคคี พร้อมสร้างจิตสำนึกให้ขัดแย้งกันน้อยลง ซึ่งจะช่วยให้สามารถฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจได้ในไม่ช้า และหากคนไทยช่วยกันใช้ของไทย ปฏิบัติตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงก็จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศได้

ขอบใจทู ศุภชัย ตุ๋ย พี่อ้อย นิตตี้ แหลม แจง และคิดถึง ตุ่มมี่

เอ้าเร่เข้ามา พี่น้องเร่เข้ามา....

หลายคนอาจสงสัยว่า จะทำไปทำไม "ระบบเงินคู่" ที่ว่า
ก็พอดีว่าวันนี้มีข่่าวตามที่นำมาอ้างไว้

จะเห็นว่า หากต้องการเสริมสร้างการนิยมไทย
รัฐบาลสามารถใช้ระบบเงินคู่เป็นเครื่องมือได้
โดยการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนระหว่าง เงินบาทกับเงินพื้นที่
ให้ต้องใช้เงินพื้นที่มากขึ้น ในการเปลียนเป็นเงินบาท

"ระบบเงินคู่" ยังเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังอีกมากในโลกทุนนิยม
สำหรับประเทศอุดมที่มีขนาดพื้นที่และประชากรไม่ใหญ่โตนักเช่น
ประเทศไทยของเรา

      บันทึกการเข้า
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #286 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2552, 08:23:32 »

ในความเห็นของผมแล้ว
การเปลี่ยนแปลงไปของสังคมโลก ที่พัฒนาไปภายใต้ระบบทุนนิยม
อันมีต้นทางจากเงินดอลลาร์สหรัฐ
มาจนปัจจุบัน

วันนี้ การสร้างกระแสชาตินิยม
ไม่อาจใช่ประเด็นหลักในการสร้างความมั่งคั่งเฉกเช่นในอดีตอีกแล้ว
(ซึ่งในยุคหนึ่งญี่ปุ่นใช้เป็นเครื่องมือสร้างชาติอย่างได้ผล
แต่ผมไม่รู้ว่าวันนี้เปลี่ยนแปลงไปหรือยัง  ควรจะเปลี่ยนได้แล้ว
วันนี้ คิดอะไรให้ประเทศตัวเอง ต้องคิดถึงโลกทั้งใบ ประเทศตัวเองก็จะได้
แต่ถ้าคิดแต่ประเทศตัวเอง ไม่คิดถึงโลกทั้งใบ ประเทศตัวเองจะเสีย...
แต่คิดถึงประเทศตัวเอง ก็ยังดีกว่าผู้มีอำนาจที่คิดถึงแต่ตัวเองนะครับ)

แต่เป้าหมายที่ควรเป็นสำหรับประเทศไทยเวลานี้
คือการขยายขนาดเศรษฐกิจภายในประเทศให้เติบโตขึ้นเป็นประเด็นหลัก
โดยอาจใช้การนิยมไทยเป็นส่วนหนึ่ง

อ่านมาว่า วันนี้เศรษฐกิจไทย 70% เป็นการส่งออก
ขนาดภายใน 30%

ที่ต้องย้ำ
เพราะเกรงว่า หากรัฐบาลนำมาความเห็นจาก ท่านประธานองคมนตรี
มาปรับใช้
อาจหลงประเด็นทำนิยมไทย กลายเป็นกระแสชาตินิยม 




      บันทึกการเข้า
super
Full Member
**


วิดยา'20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 368

« ตอบ #287 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2552, 09:15:47 »

แวะกินอาหารเพิ่มพลังก่อนครับ ยังชิน
http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3316.25.html
      บันทึกการเข้า
super
Full Member
**


วิดยา'20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 368

« ตอบ #288 เมื่อ: 02 กรกฎาคม 2552, 09:05:51 »

ขอเปลี่ยนชื่อทู้ ชั่วคราวเป็น
"ยังชิน ยังไม่มาเลยจ้า"  ล้อเล่น น่ะครับ...
      บันทึกการเข้า
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #289 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2552, 20:51:43 »

พี่ยังชินเงินสลึง กับ 50 สต. ใช้ไม่ได้  เต็มเลยที่บ้าน
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #290 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2552, 17:23:58 »

สวัสดีครับ พี่ยังชิน หันมาเป็นโปรการเงินแล้วหรือครับ

ก้าน
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #291 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2552, 11:28:32 »

อ้างถึง
ข้อความของ super เมื่อ 26 มิถุนายน 2552, 09:15:47
แวะกินอาหารเพิ่มพลังก่อนครับ ยังชิน
http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3316.25.html

เพราะอาหารของนายอร่อยมาก อิ่มนาน..ผมจึงพักยาว

อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 03 กรกฎาคม 2552, 20:51:43
พี่ยังชินเงินสลึง กับ 50 สต. ใช้ไม่ได้  เต็มเลยที่บ้าน

ตุ๋ย..ถ้าหนักบ้านผมพร้อมจะไปขน..จะได้เพิ่มพื้นที่ใช้สอยในบ้านไง

อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 04 กรกฎาคม 2552, 17:23:58
สวัสดีครับ พี่ยังชิน หันมาเป็นโปรการเงินแล้วหรือครับ

ก้าน

ก้าน ยินดีมากที่ก้านเข้ามาพูดคุยในเวป
อย่าทิ้งหาย โปรดเข้ามาสม่ำเสมอ
แปลกแต่จริงตรงที่...ใครที่เข้าเวปหอ...
มักพบแต่สิ่งดีๆยิ่งขึ้นเข้ามาในชีวิตมากกว่าเก่าก่อน

ความจริง..ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก...เพราะ
1.เวปหอ..ช่วยให้น้องพี่ได้พูดคุย ผ่อนคลาย..จิตใจย่อมสบาย จึงทำสิ่งต่างๆได้ดีขึ้น
ผลดีย่อมบังเกิด
2.ความหลากหลายอาชีพของน้องพี่ซีมะโด่ง ย่อมมีผลต่อการส่งเสริมโดยตรงและโดยอ้อม
3.สติปัญญาและความสดใสอันเป็นรากเหง้าของชาวซีมะโด่ง ทำใ้ห้ความคิดดีๆบังเกิดในเวปนี้
มากมายหลากหลาย ผู้เข้ามาอ่านย่อมได้ปัญญา ได้ความคิด

สรุป ก้านเข้าเวปหอฯบ่อยๆนะจ๊ะ


      บันทึกการเข้า
SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #292 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2552, 17:21:16 »

อ้างถึง
ข้อความของ yc เมื่อ 07 กรกฎาคม 2552, 11:28:32
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 04 กรกฎาคม 2552, 17:23:58
สวัสดีครับ พี่ยังชิน หันมาเป็นโปรการเงินแล้วหรือครับ

ก้าน

ก้าน ยินดีมากที่ก้านเข้ามาพูดคุยในเวป
อย่าทิ้งหาย โปรดเข้ามาสม่ำเสมอ
แปลกแต่จริงตรงที่...ใครที่เข้าเวปหอ...
มักพบแต่สิ่งดีๆยิ่งขึ้นเข้ามาในชีวิตมากกว่าเก่าก่อน

ความจริง..ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก...เพราะ
1.เวปหอ..ช่วยให้น้องพี่ได้พูดคุย ผ่อนคลาย..จิตใจย่อมสบาย จึงทำสิ่งต่างๆได้ดีขึ้น
ผลดีย่อมบังเกิด
2.ความหลากหลายอาชีพของน้องพี่ซีมะโด่ง ย่อมมีผลต่อการส่งเสริมโดยตรงและโดยอ้อม
3.สติปัญญาและความสดใสอันเป็นรากเหง้าของชาวซีมะโด่ง ทำใ้ห้ความคิดดีๆบังเกิดในเวปนี้
มากมายหลากหลาย ผู้เข้ามาอ่านย่อมได้ปัญญา ได้ความคิด

สรุป ก้านเข้าเวปหอฯบ่อยๆนะจ๊ะ




ขอบคุณครับพี่

 บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
super
Full Member
**


วิดยา'20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 368

« ตอบ #293 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2552, 21:00:07 »

ยังชิน มาแล้ว... มาบ่อยๆ...วันนิดหน่อยก็ได้ครับ จะได้คุยกันทุกวันๆ

สวัสดีน้อง ก้าน ด้วยนะครับบ
      บันทึกการเข้า
SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #294 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2552, 19:12:15 »

อ้างถึง
ข้อความของ super เมื่อ 07 กรกฎาคม 2552, 21:00:07
ยังชิน มาแล้ว... มาบ่อยๆ...วันนิดหน่อยก็ได้ครับ จะได้คุยกันทุกวันๆ

สวัสดีน้อง ก้าน ด้วยนะครับบ

สวัสดีครับพี่

 
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #295 เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2552, 14:31:18 »


 ผมเห็นว่า เงินบาทแข็งดีกว่าเงินบาทอ่อน


มีข่าว ท่านนายกอภิสิทธิ์ ให้ไปหาวิธีทำให้เงินบาทอ่อน
http://dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&contentId=7391&categoryID=310

ผมใคร่เสนอตัวอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยผ่านกลไก "ระบบเงินคู่"
ลองอ่านกันดูนะครับ ผิดพลาดอย่างไรแนะนำผมด้วยครับ

กรณีไม่มีระบบเงินคู่
สมมติข้อมูล ณ   วันที่1 กค.    เป็นดังนี้
เงิน 1 ดอลลาร์ แลกได้  35 บาท
ราคาน้ำมันบาร์เรล ละ 70 ดอลลาร์
ราคาข้าวเปลือก  ตันละ   10500 บาท และส่งออกได้ 310 ดอลลาร์
(ซื้อข้าวเปลือกมา300 ดอลลาร์ จึงกำไร 10 ดอลลาร์)

แต่เพราะต้องการช่วยเหลือผู้ส่งออกทำให้ วันที่ 1 ส.ค.  ข้อมูลจึงเป็นดังนี้
เงิน 1 ดอลลาร์ แลกได้ 70บาท
ราคาน้ำมันบาร์เรลละ  70 ดอลลาร์
ราคาข้าวเปลือก  ตันละ  10500 บาท  และส่งออกได้ 310 ดอลลาร์ (
ซื้อข้าวเปลือกมา 150 ดอลลาร์ จึงกำไร 160 ดอลลาร์)
อยากถามว่า เดือดร้อนไหมครับ  ค่าเงินในกระเป๋าคนไทย เพิ่มหรือลด

มาดูกันในกรณี ใช้ระบบเงินคู่
สมมติข้อมูลเดียวกัน  ณ   วันที่1 กค.    เป็นดังนี้
เงิน 1 ดอลลาร์ แลกได้  35 บาท
ราคาน้ำมันบาร์เรล ละ 70 ดอลลาร์
ราคาข้าวเปลือก  ตันละ  10500 หน่วยเงินรอง
(ระบบเงินคู่ ต้องพยายามกำหนดราคาสินค้าที่คนไทยสร้างได้เป็นหน่วยเงินรอง)
ระบบเงินคู่  เงิน 1บาทแลกได้  1หน่วยเงินรอง 

แต่เพราะต้องการช่วยเหลือผู้ส่งออก รัฐบาลจึงใช้กลไกระบบเงินคู่เข้าช่วย
โดยไม่ไปยุ่งกับอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินบาทกับเงินดอลลาร์ 

1 ส.ค.  ข้อมูลจึงเป็นดังนี้
เงิน 1 ดอลลาร์ แลกได้ 35 บาท
ราคาน้ำมันบาร์เรลละ  70 ดอลลาร์
ราคาข้าวเปลือก  ตันละ  10500  หน่วยเงินรอง
รัฐบาลผลักดันจนได้ เงิน 1 บาท แลกได้ 2 หน่วยเงินรอง
จะเห็นว่า กรณีใช้ระบบเงินคู่เข้าช่วย
ผู้ส่งออก ใช้เงินบาทเพียง 5250 บาท(150 ดอลลาร์) จะได้ข้าวเปลือก 1 ตัน ในขณะที่ชาวนา ได้เงิน 10500 หน่วยเงินรอง

มาวิเคราะห์เฉพาะผู้ส่งออกก่อน
กรณีใช้ระบบเงินคู่
ผู้ส่งออก ใช้เงินบาทเพียง 5250 (150ดอลลาร์)ในขณะที่ส่งออกได้ดอลลาร์เท่าเดิม 
เมื่อนำมาแลกเป็นเงินบาทแม้จะได้ไม่เท่าเงินบาทอ่อนตัว
แต่ก็ได้กำไรถึง 5600(160ดอลลาร์) บาท
ซึ่งสามารถซื้อน้ำมันได้ 5600/35/70 เท่ากับ 2.285 บาร์เรล

(แต่ เงิน 10850 บาทยังสามารถซื้อน้ำมันได้ (310/70 เท่ากับ ) 4.428  บาร์เรล )

ส่วนในกรณีที่ไม่ใช้ระบบเงินคู่ ทำให้บาทอ่อนตัว
ผู้ส่งออกได้เงินสูงขึ้น 310x70 เท่ากับ  21700 บาท ได้กำไร 11200 บาท(21700-10500)
 ซึ่งกำไรดังกล่าวก็ซื้อน้ำมันได้เพียง 2.285 บาร์เรลเท่ากัน(1120/70/70) 
จะเรียกว่าผู้ส่งออกได้ประโยชน์โดยสมบูรณ์ได้อย่างไร
ผู้ส่งออกเพียงแต่แข่งขันได้และไม่เจ็บตัวเท่านั้น 
แต่ที่ต้องแบกรับการแข่งขันได้และไม่เจ็บตัวของผู้ส่งออกก็คือ
ความมั่งคั่งที่สะสมมาของประเทศไทย
(ยังไม่นับการสูญเสียจาการขาดทุนเนื่องจากการแทรกแซงค่าเงินโดยตรง) 
คือเบียดบังจากคนไทยทั้งประเทศ โดยที่ได้ไม่คุ้มเสีย
เพราะผู้ส่งออกก็คือคนไทย เมื่อประเทศเสียเปรียบในที่สุดผู้ส่งออกก็สูญเสียเช่นกัน

มาดูในส่วนของชาวนา
กรณีใข้ระบบเงินคู่
 ซึ่งแม้จะได้ค่าข้าวเปลือกเป็นหน่วยเงินรองเท่าเดิมคือ 10500 หน่วยเงินรอง
 แต่เมื่อเทียบกลับเป็นเงินบาทจะเหลือเพียง  5250 บาท
ซึ่งซื้อน้ำมันได้  2.142 บาร์เรล(5250/35/70)
กรณีไม่ใช้ระบบเงินคู่ แต่ใช้วิธีการแทรกแซงค่าเงินบาทให้อ่อน 
ชาวนาขายข้าวได้ราคา 10500 บาท ซึ่งซื้อน้ำมันได้
2.142 บาร์เรลเช่นกัน (10500/70/70)
จะเห็นว่า แม้ขาวนา จะได้เงินบาทน้อยลง แต่ก็ยังซื้อน้ำมันได้เท่ากัน   
และถ้าพัฒนากิจกรรมโดยใช้หน่วยเงินรองมากขึ้น
ก็จะเป็นการเพิ่มความมั่งคั่งสะสมในที่สุด 
แม้ในระยะแรกจะเหมือนกับชาวนาต้องแบกรับทางอ้อม
(ซึ่งความจริงทุกวันนี้เกษตรกรไทยก็เป็นผู้แบกรับอยู่แล้ว)
แต่เมื่อประเทศได้ ในที่สุดชีวิตเกษตรกรจะดีขึ้น

จากกรณีสมมติ  ผลได้ของความแตกต่างในระยะยาวจากการใช้ระบบเงินคู่จะส่งผลดีดังนี้
1.ความมั่งคั่งของคนไทยและประเทศไทยเมื่อเทียบเป็นดอลลาร์ไม่ได้ลดลง
2.เมื่อความมั่งคั่งไม่ลดลง ย่อมสร้างความแข็งแกร่งขึ้นเป็นลำดับ
 ย่อมสร้างสรรค์การผลิตทีมีคุณภาพได้ดีขึ้น
สามารถสร้างผู้ประกอบการที่พัฒนาผลิตผลการเกษตรได้หลากหลายขึ้น
3.คนมีความั่งคั่งขึ้น  ย่อมรับต่อการเพิ่มราคาสินค้าเกษตรได้
4....................

      บันทึกการเข้า
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #296 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2552, 09:03:57 »

นอกจาก ระบบเงินคู่ จะช่วยในเก็บรักษาความมั่งคั่ง ดังตอบ#296แล้ว

วันนี้มีข่าวเกี่ยวกับการร่วมมืออาเชียน การลดภาษีระหว่างอาเซียน
ดังคอลลัมภ์คุณลม เปลี่ยนทิศ
http://www.thairath.co.th/content/pol/21079

และคุณลม เปลี่ยนทิศ ยังแสดงความเป็นห่วงการแข่งขันค้าข้าวต่อชาวนาไทย
http://www.thairath.co.th/content/pol/21324

หากมีเครื่องมือคือ ระบบเงินคู่  ไม่เพียงไม่ต้องห่วง
แต่ยังเป็นโอกาสของคนไทยทั้งหมดด้วย
      บันทึกการเข้า
super
Full Member
**


วิดยา'20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 368

« ตอบ #297 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2552, 09:42:18 »

สวัสดี ยังชิน สบายดีนะครับ
ผมไม่ถนัดเรื่องการเงิน ขอตามดูไปเรื่อยๆนะครับ...
      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #298 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2552, 11:20:16 »

อ้างถึง
ข้อความของ super เมื่อ 23 กรกฎาคม 2552, 09:42:18
สวัสดี ยังชิน สบายดีนะครับ
ผมไม่ถนัดเรื่องการเงิน ขอตามดูไปเรื่อยๆนะครับ...

ตามพี่ศุภชัย.....ด้วยคน...ครับ
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #299 เมื่อ: 26 กรกฎาคม 2552, 00:14:17 »

พี่ยังชิน,
ไปไหน?
หนิงคิดถึง.


nn.20+7
      บันทึกการเข้า


  หน้า: 1 ... 10 11 [12] 13 14 ... 20  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><