23 พฤศจิกายน 2567, 04:29:39
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 8 9 [10] 11 12 ... 20  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: • • ยังชิน มาแล้วจ้า !!! • •  (อ่าน 186509 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 16 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
super
Full Member
**


วิดยา'20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 368

« ตอบ #225 เมื่อ: 02 มิถุนายน 2552, 10:37:31 »

ตี๋ สวัสดีครับ เห็นพอดี ทักทายกันหน่อย

สวัสดียังชิน ตุ๋ย อ้อยเค็ม  พวกสาวๆ ๒๐ ส่งเสียงหน่อยครับ
      บันทึกการเข้า
ti2521
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #226 เมื่อ: 02 มิถุนายน 2552, 10:58:08 »

   

               .....หวัดดีครับ  พี่ super    ตอนนี้ หลานสาวผมเข้าเป็นน้องใหม่หอหญิง    คณะวิดยา เคมีวิศวกรรม  ครับ.....
      บันทึกการเข้า

เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ
สำหรับผม
อย่างไรก็ได้
super
Full Member
**


วิดยา'20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 368

« ตอบ #227 เมื่อ: 02 มิถุนายน 2552, 12:40:31 »

อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 02 มิถุนายน 2552, 10:58:08
   

               .....หวัดดีครับ  พี่ super    ตอนนี้ หลานสาวผมเข้าเป็นน้องใหม่หอหญิง    คณะวิดยา เคมีวิศวกรรม  ครับ.....
เรียนดี กิจกรรมเด่น นะครับ อย่าลืมออกกําลังกายด้วยนะ หลานสาว
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #228 เมื่อ: 02 มิถุนายน 2552, 18:28:48 »

วันที่ 1 มิถุนายน 2495 เป็นวันแรกเปิดรับนิสิตหอหญิงเข้าพัก ถึงวันนี้เป็นเวลา 57 ปีเต็ม+ 1 วัน
พบกับประวัติ เจ้าจอมสมบูรณ์ มันประเสริฐ ท.จ. ในรัชกาลที่ 5 และประวัติหอเจ้าจอม ที่

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3055.new.html#new
      บันทึกการเข้า
super
Full Member
**


วิดยา'20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 368

« ตอบ #229 เมื่อ: 03 มิถุนายน 2552, 08:40:39 »

ขอบคุณครับพี่เหยง  ๑๖
      บันทึกการเข้า
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #230 เมื่อ: 03 มิถุนายน 2552, 13:15:53 »

ขอบคุณพี่เหยง เช่นกันครับ
จำได้ว่า ผมอยู่หอเจ้าจอมจนห้องข้างเคียง ซ้าย-ขวา ถูกรื้อหลังคาไปแล้ว
ด้วยความเกรงใจ  คนงานที่รับงานมารื้อหอฯ ผมจึงย้ายไปอยู่หอ5ชั้น
เสียดาย วันนั้น ถ้าตัดสินใจเก็บป้ายแกะสลักชื่อเจ้าจอมฯ ซึ่งติดอยู่ตรงหิ้งวางหนังสือ
ตรงหัวเตียงของทุกเตียงไว้..วันนี้คงมีของที่ระลึกไปคืนหอฯ

สวัสดีตี๋ สวัสดีศุภชัย และพี่น้องทุกท่าน (เอ...พี่อ้อย17 หายไปจากกระทู้นี้นานเลยครับ)
      บันทึกการเข้า
super
Full Member
**


วิดยา'20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 368

« ตอบ #231 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2552, 09:49:05 »

ยังชิน หวัดดี
ผมจบแล้วได้งานเลย วันหยุดยังแวะมาเที่ยวที่หอเจ้าจอม
ตอนนั้นยังไม่ได้รื้อ  ชาวหออยู่สบายๆ เพราะสอบเสร็จแล้ว
      บันทึกการเข้า
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #232 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2552, 20:00:38 »

วันที่ 04 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11408 มติชนรายวัน


ธปท.รับแทรกแซงค่าเงิน"บาท"

หลังแข็งค่าทำสถิติในรอบ8เดือน ปัดข้อเสนอกรอ.แยกสองตลาด



ธปท. รับเข้าแทรกแซงค่าเงินบาท หลังแข็งค่าขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 8 เดือน แต่จะทำเท่าที่จำเป็น คาดบาทจะไม่แข็งค่ามากเหตุราคาน้ำมันพุ่งดันเงินเหรียญสหรัฐแข็งตาม ไม่รับข้อเสนอ กรอ. แยกอัตราแลกเปลี่ยน 2 ตลาด อุ้มส่งออก ชี้ช่วยได้เล็กน้อย กำลังซื้อของประเทศคู่ค้าคือปัจจัยหลักฟื้นส่งออก

เมื่อ วันที่ 3 มิถุนายน นางสุชาดา กิระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า ธปท.ได้เข้าแทรกแซงเงินบาท หลังจากค่าเงินบาทเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 8 เดือน แต่จะทำเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เนื่องจากยังเชื่อว่าเงินดอลลาร์จะกลับมาแข็งค่าขึ้นจากราคาน้ำมันที่ขยับ ตัวสูงขึ้น และปัญหาการทดลองนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนืออาจทำให้เกิดความต้องการเงินสกุล ดอลลาร์เพิ่มมากขึ้น

นางสุชาดากล่าวว่า ธปท.จะไม่เข้าดูแลค่าเงินเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับภาคธุรกิจส่งออกเท่านั้น คงต้องดูแลทุกภาคส่วนให้สมดุล ดังนั้น ผู้ส่งออก-นำเข้าต้องปรับตัว และไม่ควรชะล่าใจว่า ธปท.ดูแลอยู่ ต้องป้องกันความเสี่ยงด้วยตนเอง โดยปัจจุบันอัตราการป้องกันความเสี่ยงทั้งภาคส่งออกและนำเข้าลดลงจาก 50% เป็น 25% และจาก 40% เป็น 20-25% ตามลำดับ ส่วนที่คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) เสนอให้แยกระบบค่าเงินบาทเป็น 2 ตลาด คือตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทสำหรับผู้ส่งออก และตลาดสำหรับตลาดทุน เพื่อให้ผู้ส่งออกสามารถทำตลาดแข่งขันกับต่างประเทศได้นั้น ธปท.ไม่เห็นด้วย เพราะไม่ใช่หลักสากล และควรให้เป็นไปตามกลไกตลาด

นาง สุชาดากล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เริ่มเห็นภาคการผลิตกลับมาสะสมสต๊อคเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บัญชีดุลสะพัดเกินดุลลดลง และคาดน่าจะเห็นสัญญาณที่ชัดเจนในไตรมาส 2 นี้ "หากพิจารณาดัชนีค่าเงินบาท (NEER) เดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 77.22 ลดต่ำลงจากเดือนเมษายน ที่อยู่ในระดับ 77.32 ถือว่ามีเสถียรภาพ ไม่ผันผวนมากนัก ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ที่ลดต่ำลง จาก 80.00 อยู่ที่ระดับ 79.00 แสดงให้เห็นถึงความผ่อนคลายความวิตกกังวล สะท้อนถึงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว นักลงทุนจึงกล้ากระจายความเสี่ยงมายังภูมิภาคอื่น รวมทั้งไทยด้วย หากเงินบาทผันผวนเร็ว ธปท.ก็ต้องรีบเข้าดูแล โดยที่ผ่านมามีเงินไหลเข้าจากการกระจายการลงทุนในสหรัฐมายังประเทศต่างๆ แต่ไม่แน่ใจว่ามีการเก็งกำไรด้วยหรือไม่" นางสุชาดากล่าว และว่า การที่ผู้ส่งออกจะมีรายได้น้อยลงจากเงินบาทแข็งค่าขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนถูกลงก็เป็นผลดีต่อผู้นำเข้าวัตถุดิบเพื่อใช้ในการ ผลิต อีกทั้งปัจจัยการแข่งขันน่าจะมาจากกำลังซื้อของคู่ค้ามากกว่าการแข็งค่าของ เงินบาท

นักค้าเงินจากธนาคารพาณิชย์รายหนึ่งเปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันที่ 3 มิถุนายน เปิดตลาดที่ 34.06-34.13 บาทต่อดอลลาร์ จากวันก่อนหน้าที่เปิดตลาดที่ 34.10-34.12 บาทต่อดอลลาร์ และระหว่างวันค่าเงินบาทปรับตัวตามกระแสตลาดที่มองว่าเศรษฐกิจเริ่มกลับมา ฟื้นตัว จึงมีการโยกเงินลงทุนจากเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐไปยังตลาดอื่น ส่งผลให้เงินสกุลอื่นๆ แข็งค่าขึ้น เช่นเดียวกับค่าเงินบาท โดยระหว่างวันค่าเงินบาทแข็งค่าไปถึงระดับ 33.98 บาทต่อดอลลาร์ และอ่อนค่าลงในช่วงบ่ายปิดตลาดที่ระดับ 34.01-34.09 บาทต่อดอลลาร์

หน้า 17

http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01eco01040652&sectionid=0103&day=2009-06-04

ผมนำข่าวข้างต้นมาจาก เว็บมติชน

บอกตามตรง สงสารประเทศไทย และสมเพชวิธีแก้ปัญหาของแบงค์์ชาติทุกยุคทุกสมัย
(ขออภัย ขอแก้เป็นยุคตั้งแต่ปี 251X)

ใครก็ได้ ช่วย ส่ง "นิทานการเงิน" ไปให้ รมต.คลัง และ คนในแบงค์ชาติอ่านหน่้อย
(แล้วส่งบิล มาเบิกกับผม พร้อมค่าป่วยการ)

ผมเขียน "นิทานการเงิน" โดยสาระที่ต้องการนำเสนอที่เป็นหัวใจหลัก ก็คือ 
วิธีการแก้ปัญหา ระบบการเงิน ของโลกทุนนิยมครับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับประเทศไทยอันอุดมสมบูรณ์นี้



      บันทึกการเข้า
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #233 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2552, 07:16:21 »

ผมเขียน "นิทานการเงิน"จบ ในเดือน ตุลาคม 2550

ในขณะนั้นราคาน้ำมัน กำลังถีบตัวสูงขึ้นอย่างมากๆ
และมีเสียงวิเคราะห์ว่าเป็นเพราะเศรษฐกิจโลกดี มีความต้องการน้ำมันมาก
แต่ผมไม่เชื่อ..ผมเชื่อว่า เป็นเพราะปัญหาการเงิน...ปัญหาเงินดอลลาร์

ในขณะนั้น เงินบาทมีค่าแข็งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
มีเสียงเรียกร้องจากผู้ส่งออกให้แทรกแซงค่าเงินให้อ่อนลง

คำถามก็คือ
เงินบาทแข็งก็เดือดร้อน
เงินบาทอ่อนก็มีปัญหา
แล้วอะไรคือ สิ่งที่ควรเป็น
ทั้งแข็งทั้งอ่อนมีปัญหา นั้นแสดงว่า มีความผิดปกติต่อวิธีจัดการมีปัญหา
แสดงว่าเครื่องมือที่มีอยู่ใช้ไม่ได้ ไม่ดีพอ จึงแก้ปัญหาไม่ได้

อ่าน "นิทานการเงิน" หลายๆรอบ
รมต.คลังและคนในแบงค์ชาติ อาจพบเครื่องมือที่ใข้แก้ปัญหา

สงสารชาวไร่ ชาวนา เกษตรกร และผู้ใช้แรงงานระดับล่าง
ซึ่ง ต้องเป็นผู้แบกรับสังคมนี้ทุกครั้งด้วยเถิดครับ
      บันทึกการเข้า
super
Full Member
**


วิดยา'20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 368

« ตอบ #234 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2552, 08:57:30 »

สวัสดี ตอนเช้า ยังชิน
      บันทึกการเข้า
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #235 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2552, 12:41:30 »

สวัสดี ศุภชัย

ผมขอขายความคิดของผมต่อ

แบงค์ชาติ ไม่ควรเข้าแทรกแซงค่าเงิน ไม่ว่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น หรืออ่อนค่าลง
เพราะ อย่่างไรก็ไม่อาจต้านทานแนวโน้มดังกล่าวได้
การแทรกแซงไม่ว่าครั้งใดๆ จึงนำการสูญเสียโดยรวมบั่นทอนความมั่งคั่งของไทย
มวลรวมของเงินเรากระจ่อยร่อยเมื่อเทียบกับมวลเงินที่อยู่แวดล้อมเรา

หา "นิทานการเงิน" มาอ่าน อ่าน และอ่าน
เมื่อเข้าใจว่า "เงิน" ของโลกทุนนิยมในวันนี้
แตกต่างไปจากเดิมแล้ว ตั้งแต่ ประธานาธิบดีนิกสัน
ประกาศไม่ผูกติด ค่าเงินดอลาร์กับทองคำ
นับแต่นั้น "เงินของโลก" ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

"เงินของโลก" เปลี่ยนไปนานแล้ว รมต.คลังและแบงค์ชาติ ต้องเข้าใจเสียที
      บันทึกการเข้า
super
Full Member
**


วิดยา'20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 368

« ตอบ #236 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2552, 14:53:13 »

ดูอยู่...ต่อเลยคราบบ ..ผมไม่ค่อยถนัดเรื่องเงินๆทองๆ พลอยได้ความรู้ไปด้วย
      บันทึกการเข้า
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #237 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2552, 19:40:09 »

ว่ากันที่จริง
จุดเริ่มต้นของการค้าขายระหว่างประเทศ
เริ่มจากความต้องการทรัพยากรจากธรรมชาติของอีกประเทศหนึ่ง
แล้วก็พัฒนามาเป็นลำดับ ทั้งเครื่องมือในการแลกเปลี่ยน และสินค้าที่จะแลกเปลี่ยน

ในที่สุด ก็มาลงตัวที่ตัวกลาง ซึ่งทุกฝ่ายยอมรับ คือ ทองคำ

เงินของแต่ละประเทศ จะมีค่าเพียงไรมีปริมาณเท่าไร จึงขึ้นกับทองคำสำรองที่มีอยู่ของประเทศนั้น

แต่ก็เกิดปัญหา จนมีทางออกหนึ่ง
โดยการประชุมระหว่างประเทศ ณ เมืองเบรตตันวูดส์ มลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 2487
เป็นจุดเริ่มต้นของระบบเบรตตันวูดส์ (The Bretton Woods System)
      บันทึกการเข้า
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #238 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2552, 20:06:41 »

ง่ายๆของ ข้อตกลงเบรตตันวูดส์

คือ การที่ประเทศต่างๆยินยอมให้สหรัฐผูกติดค่าเงินของตนเอง
ไว้กับทองคำ โดย  35 ดอลลาร์ แลกทองคำได้ 1 ออนซ์ (พ.ศ.2552 1ออนซ์ 900-1000 ดอลลาร์)
ข้อตกลงดังกล่าว ทำให้เงินดอลลาร์เป็นที่เชื่อถือของนานาประเทศ

แล้วในเดิอนสิงหาคม พ.ศ.2514
หลังจากที่มีการขอแลกคืนดอลลาร์เพื่่่อเปลี่ยนเป็นทองคำจากบางประเทศ
สหรัฐซึ่งรู้ว่า หากคงทองคำไว้ที่ 35 ดอลลาร์ต่อ ออนซ์ ทองไม่พอแน่
ประธานาธิบดีนิกสัน จึงยกเลิกการผูกติดทองคำกับดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐถูกปล่อยให้ลอยตัวนับแต่นั้น...


นับแต่นั้น การส่งออกเงินดอลลาร์ จึงเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์
และทำให้โลกใบนี้มีการพัฒนา(ตามที่ว่ากัน)อย่างมากมาย
เำพราะมีปริมาณเงินเพียงพอที่จะผลักให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ
โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องปริมาณเงิน

      บันทึกการเข้า
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #239 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2552, 20:15:50 »

หวัดดีพี่ศุภชัย  พี่ยังชินครับผม
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
แจง-24
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2524
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 10,028

« ตอบ #240 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2552, 22:00:56 »

เห็นด้วยกับพี่ยังชิน 100 % เรื่องที่รัฐบาลไม่ควรแทรกแซงค่าเงินบาท...เป็นภาระแก่ประชาชนผู้เสียภาษีจริงๆค่ะ

และขอเพิ่มเติมอีกกรณีหนึ่ง ว่าไม่เห็นด้วยกับการกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย
ปู่ย่าตายายเราสอนกันมา ถึงเวลาข้าวยากหมากแพง ต้องประหยัด อดออม ไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือย
นี่อะไร ตามก้นทุนนิยมตะวันตก ไล่แจกเงิน ชักชวนให้ออกมาใช้จ่าย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแบบเร่งด่วน
แล้วไอ้เศรฐกิจที่กระตุ้นขึ้นมาด้วยวิธีฉาบฉวยนี้ มันจะยั่งยืนได้ซักกี่น้ำกัน

ทั้งการแทรกแซงค่าเงิน และการกระตุ้นให้ใช้จ่ายแทนที่จะออมเงิน
เป็นการจ่ายยาผิดขนาน เหมือนปวดหัวแล้วตะบี้ตะบันกินแต่ยาแก้ปวด
รักษาตามอาการไปวันๆ ไม่มองหาสาเหตุเพื่อรักษาที่ต้นเหตุ

เงินมันบังตาจริงๆค่ะ พี่ยังชิน เขาเห็นแต่เงิน ลืมที่มาและความหมายของมันซะแล้ว...
      บันทึกการเข้า

   อยู่อย่างต่ำ กระทำอย่างสูง
super
Full Member
**


วิดยา'20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 368

« ตอบ #241 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2552, 09:34:13 »

ยังชิน ครูตุ๋ย น้องแจง๒๔    หวัดดีครับ
เมื่อวานมีปัญหาัเน็ตล่มแถวบ้าน
ได้น้องแจงมาร่วมวงสนทนา ต่ออีก...ยังชิน ได้ความรู้ดีครับ
      บันทึกการเข้า
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #242 เมื่อ: 08 มิถุนายน 2552, 12:48:44 »

 
อ้างถึง   
ทั้งการแทรกแซงค่าเงิน และการกระตุ้นให้ใช้จ่ายแทนที่จะออมเงิน
เป็นการจ่ายยาผิดขนาน เหมือนปวดหัวแล้วตะบี้ตะบันกินแต่ยาแก้ปวด
รักษาตามอาการไปวันๆ ไม่มองหาสาเหตุเพื่อรักษาที่ต้นเหตุ

ขอบใจศุภ ตุ๋ย น้องแจง และพี่น้องทุกท่าน

ดีใจมากครับ ที่น้องแจงสะท้อนความคิดแลกเปลี่ยนกัน

โลกเราวันนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก ระยะทางและเส้นแบ่งเขตแดนไม่ใช่ปัญหาของ
มนุษยชาติอีกต่อไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "เงิน" ได้กลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญยิ่งสำหรับโลกไปนี้ไปแล้ว

วันนี้ สิ่งที่ผู้บริหารแต่ละประเทศต้องคิดให้ออก แยกให้รู้ ซึ่่งเป็นทั้งฐานและยอด ก็คือ
การจัดการเรื่อง "เงิน" ของประเทศ

ก่อนอื่น ต้องคิดลงไปถึงเหตุ เช่น
ทำไมเราต้องการเงินตราต่างประเทศ ทำไมต้องการเงินดอลลาร์
ตอบ...เ้พราะเราต้องการสินค้า-ทรัพยากร-บริการ จากต่างประเทศ(น้ำมัน,เทคโนโลยี่,การท่องเที่ยวฯลฯ)

หากต้องการให้ผลเงาะจากสวนเมืองจันท์ มาอร่อยอยู่ในครัวคนกรุงเทพ ใช้อะไรแลกเปลี่ยน
ตอบ..เงินบาท ซึ่งรัฐบาลไทยรับรองค่า

ต่อไปนี้ คือ คุณสมบัติของเงิน นำมาอ่านแลกเปลียนกันครับ

ก่อนอื่นเลย  ต้องเปิดความคิดก่อนนะครับว่า  เงิน เป็นเพียงเครื่องมือที่คนเราสร้างขึ้นเพื่อใช้แลกเปลี่ยนทรัพยากร
(ทรัพยกร หมายรวมถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่แต่ละคนต้องการ)

เงินภายในประเทศ(ที่ ใช้ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม) 
ก็คือเครื่องมือทางเศรษฐกิจของรัฐที่สร้่างขึ้น
เพื่อเชื่อมโยงระหว่างรัฐกับประชาชน ประชาชนกับประชาชน และประชาชนกับรัฐ

โดย ที่ในปัจจุบัน ประเทศเราต้องสัมพันธ์กับต่างประเทศ เพราะต้องการทรัพยากรจากต่างประเทศ
และโชคดีที่เรามีทรัพยากรที่ต่างประเทศต้องการ

ซึ่งเราก็แลกเปลี่ยนทรัพยากรระหว่างประเทศด้วยเงินบาทกับเงินดอลลาร์สหรัฐ

จบเรื่องเงินเป็นเครื่องมือนะครับ...ต่อไปเรามาดูคุณสมบัติของเงิน

คุณสมบัติ พื้นฐานของเ้งินคือ เงินจะแสดงค่าเมื่อมีการเปลี่ยนมือ  นั่นคือ
ถ้าเงินหยุดนิ่งเมื่อไรเงินก็เหมือนไร้ค่า  ข้อนี้ถือเป็นหัวใจนะครับ
ฝรั่งเรียกเงินว่า CURRENCY เพราะฉะนั้น รัฐบาลที่เก่งต้องพยายามทำให้เงินเคลื่อนที่


มื่อเราจุดตะเกียงน้ำมัน แสงสว่างก็ตามมา
การเกิดแสงและความร้อนทำให้น้ำมันสูญหายไป 
แต่เงิน กลับไม่เป็นเช่นนั้น  เงินนั้นเมื่อได้แสดงบทบาทแล้ว กลับไม่สูญหายไป
เพียงแต่ย้ายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง..คุณสมบัติข้อนี้ก็สำคัญครับ ..2ข้อแล้ว


คุณสมบัติข้อที่3 เงินเป็นเครื่องมือที่ใช้ที่ใช้แลกเปลี่ยนทรัพยากร 
ทำให้ตัวมันเองกลายเป็นทรัพย์สิน
(ทรัพย์สินนะครับไม่ใช่ทรัพยากร)ที่ มีค่า 
และจัดเป็นสุดยอดของทรัพย์สิน  เพราะว่ามีค่าใช้จ่ายในการดูแลน้อยหรือไม่มีเลย 
 มีมากเท่าไรก็ไม่เป็นภาระ  มีได้อย่างไม่รู้เบื่อ (ต่างกับทรัพย์สินอื่น ยังไงก็มีจุดอิ่ม)

ทั้ง3ข้อคือคุณสมบัติของเงิน ที่ไม่เปลี่ยนแปร  ใครมีข้ออื่น แนะนำเพิ่มด้วยนะครับ

ด้วย หน้าที่และคุณสมบัติของเงินดังกล่าว  ปัจจุบันได้มีการพัฒนาส่วนควบทางการเงินซับซ้อนขึ้น 
จนวันนี้ วันที่ดอลลาร์มีการปรับฐานขนานใหญ่




      บันทึกการเข้า
แจง-24
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2524
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 10,028

« ตอบ #243 เมื่อ: 08 มิถุนายน 2552, 19:49:55 »

อ้างถึง
ข้อความของ super เมื่อ 07 มิถุนายน 2552, 09:34:13
ยังชิน ครูตุ๋ย น้องแจง๒๔    หวัดดีครับ
เมื่อวานมีปัญหาัเน็ตล่มแถวบ้าน
ได้น้องแจงมาร่วมวงสนทนา ต่ออีก...ยังชิน ได้ความรู้ดีครับ

สวัสดีพี่ศุภชัยและพี่ตุ๋ยเช่นกันค่ะ
และมารออ่านข้อเขียนของพี่ยังชินต่อนะคะ
      บันทึกการเข้า

   อยู่อย่างต่ำ กระทำอย่างสูง
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842

เว็บไซต์
« ตอบ #244 เมื่อ: 08 มิถุนายน 2552, 22:48:51 »

พี่ยังชิน รูปนี้เท่ห์มาก
      บันทึกการเข้า

เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
super
Full Member
**


วิดยา'20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 368

« ตอบ #245 เมื่อ: 09 มิถุนายน 2552, 08:38:20 »

หวัดดีครับทุกคน...
ขอร่วมวงสนทนาบ้าง เอาแบบไม่ค่อยถนัดน่ะครับ
สินค้าและบริการคือความต้องการที่แท้จริงของทุกคน โดยมีเงินเป็นตัวกลางซึ่งได้มาทั้งสินค้าและบริการ
จริงๆแล้วประเทศต้องเน้นสินค้าและบริการแล้วเงินก็จะตามมาเอง
ไม่รู้ผมเข้าใจถูกป่ะ  ยังชิน น้องแจง ช่วยหน่อย
      บันทึกการเข้า
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #246 เมื่อ: 09 มิถุนายน 2552, 15:03:41 »

ขอบคุณทุกๆคนครับ
น้องแจงนำกำลังใจมาให้
ซุปเปอร์ มีความคิดเห็นพร้อมคำถาม..ติดไว้ก่อนนะ

ที่ผมเสียวมากก็คือ การมาของนายทู

อ้างถึง
ข้อความของ patooman24 เมื่อ 08 มิถุนายน 2552, 22:48:51
พี่ยังชิน รูปนี้เท่ห์มาก
โชคดีที่ไม่บอกว่า

"นี่รูปอะไรเอ่ย"
      บันทึกการเข้า
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #247 เมื่อ: 09 มิถุนายน 2552, 19:56:20 »

หลังจากพักโฆษณาแล้ว เรามาว่ากันต่อครับ
อ้างถึง
ข้อความของ super เมื่อ 09 มิถุนายน 2552, 08:38:20
หวัดดีครับทุกคน...
ขอร่วมวงสนทนาบ้าง เอาแบบไม่ค่อยถนัดน่ะครับ
สินค้าและบริการคือความต้องการที่แท้จริงของทุกคน โดยมีเงินเป็นตัวกลางซึ่งได้มาทั้งสินค้าและบริการ
จริงๆแล้วประเทศต้องเน้นสินค้าและบริการแล้วเงินก็จะตามมาเอง

ไม่รู้ผมเข้าใจถูกป่ะ  ยังชิน น้องแจง ช่วยหน่อย

สินค้าและบริการตามที่ศุภชัยว่ามานั้น ผมจะเรียกว่า "ผลิตภัณฑ์"
การสร้างผลิตภัณฑ์ ต้องใช้แรงงาน อาจเป็นแรงสมอง หรือแรงกาย
แรงงานนั้น ในโลกทุนนิยม มักถูกกำหนดด้วย "เงิน"

ที่ศุภชัยบอกว่า "จริงๆแล้วประเทศต้องเน้นสินค้าและบริการแล้วเงินก็จะตามมาเอง"
ก็นับว่าถูกต้องอย่างยิ่ง  เพราะนี่คือพื้นฐานอันนำมาซึ่ง"ค่าของเงิน"

และเนื่่องจาก "เงิน" ในปัจจุบัน ไม่ใช่เงินที่มีกฎเกณฑ์เช่นเดิมอีกแล้ว(ดังที่อ้างไว้แล้วข้าง
ต้น)
ผลิตภัณฑ์จึงไม่ใช่ตัวสร้างเงินแต่ด้านเดียว
เงินก็เป็นต้นทางของการเพิ่มผลิตภัณฑ์ด้วย

รัฐบาลจึงควรเข้าใจบทบาททั้งสองด้านของเงิน
โดยหลักพื้นฐานต้อง เข้าใจว่า เมื่อมีผลิตภัณฑ์แล้วก็จะมีเงิน (คือเงินจะมีค่า)
แต่ขณะเดียวกัน  ก็ต้องพยายามใช้เงินเพื่่อสร้างผลิตภัณฑ์ เพียงแต่...

เพียงแต่...ต้องเข้าใจว่า เงินของโลก เป็นเช่นไร เป็นอย่างไร
ในหนังสือ "นิทานการเงิน" เสนอความคิดเกี่ยวกับการใช้กลไกของเงินไว้ในมุมที่แตกต่าง
จากที่เป็นอยู่
      บันทึกการเข้า
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #248 เมื่อ: 09 มิถุนายน 2552, 20:03:17 »

สวัสดีครับ  พี่ยังชิน พี่ศุภชัย  สบายดีไหมครับ
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842

เว็บไซต์
« ตอบ #249 เมื่อ: 09 มิถุนายน 2552, 22:14:36 »

อ้างถึง
ข้อความของ yc เมื่อ 09 มิถุนายน 2552, 15:03:41
ขอบคุณทุกๆคนครับ
น้องแจงนำกำลังใจมาให้
ซุปเปอร์ มีความคิดเห็นพร้อมคำถาม..ติดไว้ก่อนนะ

ที่ผมเสียวมากก็คือ การมาของนายทู

อ้างถึง
ข้อความของ patooman24 เมื่อ 08 มิถุนายน 2552, 22:48:51
พี่ยังชิน รูปนี้เท่ห์มาก
โชคดีที่ไม่บอกว่า

"นี่รูปอะไรเอ่ย"
ตายแล้วพี่ ผมทำประโยชน์แบบนี้ได้ด้วย
      บันทึกการเข้า

เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
  หน้า: 1 ... 8 9 [10] 11 12 ... 20  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><