22 พฤศจิกายน 2567, 23:46:44
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: หากคุณอากร ฮุนตระกูล(ผู้ล่วงลับ) ได้เ้ป็นผู้ว่ากทม.ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ2539  (อ่าน 9019 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
chaojom
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 104

« เมื่อ: 25 ตุลาคม 2551, 16:49:14 »

ก่อนอื่น....ขอกราบคารวะ ดวงวิญญาณคุณอากร ฮุนตระกูล

ความคิดของคุณอากรในการลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ครั้งนั้น  อยู่ในหัวผมมาไม่เคยจางหาย กับ นโยบาย
"ทำกรุงเทพให้เล็กลง"

แม้จะไม่ได้รับการเลือกตั้ง แต่แนวคิด "ทำกรุงเทพให้เล็กลง"  กลับเป็นแนวคิดที่ยิ่งใหญ่  ซึ่งไม่เคยมีนักการเมืองและผู้สมัครผู้ว่ากทม.คนใดมองเห็น

ขอเ้ปิดประเด็น กระทู้นี้ เพื่อ ชาวซีมะโด่ง ช้างเผือกจากป่า รวมถกกันหน่อยครับ
บันทึกการเข้า
chaojom
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 104

« ตอบ #1 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2551, 07:31:10 »

ทำกรุงเทพให้เล็กลง

คงไม่ใช่ขนาดพื้นที่  ไม่ใช่ขนาดเศรษฐกิจ  แต่น่าจะหมายถึง ขนาดของผู้คน

วันนี้กรุงเทพ มีขนาดของผู้คนใหญ่โต เกินกว่าขนาดพื้นที่จะรับได้ ส่งผลให้ เกิดปัญหาไปทั่ว

คุณอากร เสนอความคิดนี้ ในปี 2539 และเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540  คนหนีออกจากกรุงเทพไม่น้อย

แล้วจะมาขยายความต่อครับ
บันทึกการเข้า
chaojom
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 104

« ตอบ #2 เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2551, 18:26:38 »

วันนั้นในปี 2540  หากคุณอากร ฮุนตระกูลเป็นผู้ว่า กทม. ท่านคงหัวเราะ ดีใจ  ที่ ถนนหนทางในกรุงเทพเริ่มว่าง

ท่านอาจขาย(ให้)ความคิดกับรัฐบาลว่า  นี่เป็นโอกาสที่ดี ที่จะร่วมมือกันระหว่าง กทม.กับรัฐบาล ที่จะวางรากฐานใหม่ให้กรุงเทพ

หร้อมกับพัฒนาต่างจังหวัดไปพร้อมกัน

วิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ ของคำว่า "ทำกรุงเทพให้เล็กลง" นั้น หนีไม่พ้น หลักการ 3 M

MAN คน  กรุงเทพเป็นแหล่งรวมคนทุกชนิด คนเก่งมีสมองย่อมได้เปรียบ แต่เผอิญเก่งเจอเก่งก็ต้องแข็งขันกัน เก่งน้อยกว่าหรือมีโอกาสน้อยกว่าก็พ่ายแพ้ และกรุงเทพยังรวมคนไม่เก่งและด้อยโอกาสไว้อีกมาก  จึงสร้างภาระ   ในขณะที่ต่างจังหวัดขาดแคลนคนเก่ง การพัฒนาย่อมด้อยกว่า

MONEY  เงิน  ข้อนี้สำคัญมากครับ ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงเทพ  กรุงเทพดูดเงินไว้มาก ในทุกจังหวะที่มีโอกาส  มีบ้าน1หลังในกรุงเทพสามารถกู้เงินได้ง่ายกว่ามีบ้านที่ต่างจังหวัด เมื่อใดเศรษฐกิจดี กรุงเทพยิ่งเอาเปรียบ  เนื่องจากประเทศเรามีเงินจำกัด  เมื่อกรุงเทพไม่เผื่อแผ่  กรุงเทพก็ต้องรับภาระที่ไม่มีความสุขไปเรื่อยๆ แต่ถ้่าเงินกระจายตัวออกไป ต่างจังหวัดก็อยู่ได้สบาย คนก็ไม่ต้องแออัดในกรุงเทพ  ต่างฝ่ายต่างมีความสุข


MANAGEMENT  การจัดการ  คนเก่งพอสมควรไปอยู่ต่างจังหวัดที่มีการหมุนเวียนของเงินดี ก็มีโอกาสสำเร็จกว่า และสร้่างฐานที่เข้มแข็งขึ้นได้ง่ายกว่า
กรุงเทพไม่แออัด ก็ไม่ต้องมาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระ (รถติด ควันพิษ ขยะมากเกินกำจัด....) หากมีการกระจายตัวอย่างสมดุล ธรรมชาติก็จัดการเองไปได้ระดับหนึ่ง  จะลงทุนเรื่องใดก็คุ้มค่าทั้่งในกรุงเทพและต่างจังหวัด (ปัจจุบัน กรุงเทพยิ่งแก้ปัญหาใด ก็เหมือนสร้างปัญหาใหม่ และก็ถมทับกลับมาที่ปัญหาเดิม)

ทั้งสามหลักใหญ่ มีรายละเอียดแฝงในแต่ละหลักอีกมากมายครับ.....

บันทึกการเข้า
chaojom
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 104

« ตอบ #3 เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2551, 07:29:23 »

ขอโพสเพื่อแสดงความขอบคุณต่อคุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่แสดงจิตวิญญาณของนักการเมืองที่ดี

และอยากฝาก ความคิดเรื่อง "ทำกรุงเทพให้เล็กลง"  ต่อผู้ว่า กทม. คนใหม่ด้วยครับ

แล้วค่อยมาขยายความรูปธรรม  ของ  "ทำกรุงเทพให้เล็กลง"  กันต่อนะครับ

ขอบคุณทุกท่าน ที่แวะเข้ามาอ่านครับ
บันทึกการเข้า
chaojom
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 104

« ตอบ #4 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2551, 07:39:31 »

มีข่าวว่า จะมีการใช้พื้นที่ใต้ทางด่วนเพื่อทำเป็นแหล่งค้าขายสินค้า

ต้องยอมรับว่า  นี่คือความคิดที่ดีในการใช้ศักยภาพของทรัพย์สิน

แต่หากใช้ มุมคิด "ทำกรุงเทพให้เล็กลง" เข้าไปจับ  จะพบว่า

นี่คือ  การสร้างภาระให้กรุงเทพยิ่งขึ้น เพราะถึงที่สุดแล้ว ผลได้จากเศรษฐกิจที่หมุนเวียนเพิ่มขึ้น ก็ไม่เหลือพอหรืออาจติดลบเมื่อประมวลผลเข้ากับปัญหาที่จะก่อเกิดกับกรุงเทพ

หากนำหลักคิด "ทำกรุงเทพให้เล็กลง" เข้าไปปรับกับแนวคิดใช้พื้นที่ทางด่วนดังกล่าว

จะพบว่า มีพื้นที่ใต้ทางแยกยกระดับที่ตัดเข้าตัวจังหวัดต่างๆ ก็น่าสนใจไม่น้อย

บันทึกการเข้า
chaojom
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 104

« ตอบ #5 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2551, 08:00:53 »

หากเปรียบความเป็นอยู่ในประเทศไทยกับธุรกิจร้านค้า

กรุงเทพก็เ็็ป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ที่ผู้บริหารห้างเห็นผู้คนในห้างใช้ชีวิตไม่สะดวก จึงพยายามสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้น แต่กลับเ้ป็นว่า ผู้คนกลับหลั่งไหลเข้ามาในห้าง จึงสร้างความไม่สะดวกยิ่งขึ้น
ในกรณีของห้างสรรพสินค้า คนมาก ธุรกิจอาจมีกำไรเพิ่มขึ้น  แต่ในความเ็ป็นจริง กรุงเทพไม่ใช่ห้างสรรพสินค้า คนยิ่งมากเกินพอดี แก้ััปัญหาอย่างไรก็ไม่สำเร็จ

ถนนตัดใหม่หลายสายที่ต้องการให้เป็นทางระบายรถ เวลาไม่นานก็จะเต็มไปด้วยธุรกิจ เมื่อเกิดธุรกิจ ชุมชนก็เติบโต แล้วปัญหาซ้ำซากก็หนักขึ้นอีก

อยากฝากสำนวนให้ ผู้ว่ากทม.และรัฐบาลไทย ไปคิดอย่างจริงจัง

"กรุงเทพก็คือประเทศไทย  แต่ประเทศไทยไม่ใช่กรุงเทพ"

บันทึกการเข้า
อ้อย17
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,908

« ตอบ #6 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2551, 08:37:05 »

=16pt][/sizเห็นด้วย..
   ควรรื้อระบบคิดของคนได้แล้ว   เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งว่ายิ่งพัฒนากทม.ก็ยิ่งแย่..อยากถามนักกิน..เอ๊ยย..การเมืองทั้งหลายว่า
 1. ทำไมต้องสร้างรัฐสภาใหม่ในเขตกทม. ทำไมไม่ไปสร้างสระบุรี, นครนายก, ปากช่อง หรือเพชรบูรณ์..Huh? เพื่อเขตเมืองจะได้ขยายออกไปข้างนอก
 2. ทำไมจึงทำแค่ขยายถนนที่ยังไงก็ไม่มีวันพอ  ถนนใหม่ๆมักจะโล่งอยู่ไม่นานแล้วรถก็ติดอีก..  ทำไมไม่จัดการรถที่จอดเกะกะบนถนนที่กีดขวางการจราจรเอาเปรียบชาวบ้านให้หลวงทำถนนแต่ตนเองทำเป็นที่จอดรถส่วนตัวโดยไม่ออกเงินสักบาท  ทำไมถนนจึงไม่มีทางจักรยาน ทั้งๆที่พณฯท่านบินไปดูงานเมืองนอกกันโครมๆ 
 3. ทำไมไม่ไปสร้างเมืองราชการใหม่ที่ไกลกทม.สักประมาณ100กม. แล้วทำให้มันดีไปเลย  ใครก็ไม่รู้บอกว่าสร้างรถไฟฟ้า  สร้างงานจริงประหยัดน้ำมันจริงแต่เราต้องจ่ายจริงตลอดไปเพราะ ทั้งหมดทั้งสิ้นของระบบรถไฟฟ้าเราต้องซื้อจากต่างประเทศ หากเราใช้งบฯเท่าๆกัน เราไปสร้างเมืองราชการใหม่จะคุ้มกว่า เงินทองก็ไหลสะพัดอยู่ในบ้านเรา
บันทึกการเข้า
chaojom
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 104

« ตอบ #7 เมื่อ: 25 ธันวาคม 2551, 07:52:20 »

ขอบคุณพี่nantayaครับ  คิดว่ากระทู้นี้จะมีแต่ผมคนเดียว ชื่นใจครับ

ในฝันของผมนะครับ ย้ำ ในฝันของผม

กรุงเทพคือเมืองหลวง มีขนาดพื้นที่เท่าที่มีนี้  หน่วยงานกลางของรัฐทุกองค์กรตั้งอยู่ในกรุงเทพนี่แหละ แหล่งข้อมูลความรู้ทั้งโลกหาได้จากกรุงเทพ
ใครก็ตามไม่ว่าจะอาศัยอยู่ในกรุงเทพหรือต่างจังหวัด สามารถไปมาหาสู่ยังสถานที่ข้่างต้นได้อย่างสะดวกรวดเร็ว คนต่างจังหวัดหากต้องการติดต่อราชการในกรุงเทพ2-3แห่ง หรือหาข้อมูลที่กรุงเทพ สามารถใช้เวลาเพียงวันเดียว

ฝันของผมเป็นจริงได้ ถ้ามีผู้อาศัยในกรุงเทพเท่าที่เป็นคนกรุงเทพตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ไม่ใช่สะสมคนรุ่นใหม่รุ่นแล้วรุ่นเล่าให้ต้องใช้กรุงเทพสร้างรายได้เลี้ยงชีพ

ฝันของผมเป็นจริงได้ ถ้ามีการเปลี่ยนมุมคิดในการบริหารกรุงเทพใหม่

ฝันของผมเป็นจริงได้ ถ้าผู้มีอำนาจเข้าใจสำนวน  "กรุงเทพก็คือประเทศไทย  แต่ประเทศไทยไม่ใช่กรุงเทพ"

ฝันของผมเป็นจริงได้  ถ้าเอา "ระบบเงินคู่" มาปรับใช้
บันทึกการเข้า
chaojom
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 104

« ตอบ #8 เมื่อ: 12 มกราคม 2552, 07:24:43 »

วันนี้คือโอกาสที่ยังไม่เคยมีในประเทศไทยของเรา

พรรคการเมืองเดียว แต่ได้อำนาจทั้งการบริหารประเทศ และ บริหารกรุงเทพ

หวังเป็นที่ยิ่งว่า พรรคประชาธิปัตย์  จะเข้าใจสำนวนแฝงปรัชญา ที่ว่า


"กรุงเทพก็คือประเทศไทย  แต่ประเทศไทยไม่ใช่กรุงเทพ"
บันทึกการเข้า
chaojom
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 104

« ตอบ #9 เมื่อ: 19 เมษายน 2552, 16:29:49 »

ขณะนี้..เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่าเศรษฐกิจมีปัญหาทั่วโลก
แต่ผมก็เชื่อว่า ประเทศไทยเราโชคดี ที่ไม่เห็นสถาบันการเงินล้ม

วันนี้ เป็นโอกาสที่เหมาะสม สำหรับการใช้นโยบาย "ทำกรุงเทพให้เล็กลง"

เงิน 100 บาท สำหรับคนกรุงเทพ แทบไม่มีความหมาย
แต่ 100 บาท สำหรับคนต่างจังหวัดมีค่าไม่น้อย อาจช่วยให้คนในครอบครัว 3 คน
พ่อแม่ลูกอิ่ม และยังหาความสุขนอกเหนืิอจากอาหารได้ด้วยในหนึ่ีงวัน

วันนี้เงินของประเทศเรามี(แต่ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลมี) มี...แต่ไม่หมุน
ใช้จังหวะนี้  ลดกรุงเทพ และเพิ่มการเบ่งที่ต่างจังหวัด..จะเหมาะสมยิ่ง

พรรคประชาธิปัตย์..เป็นทั้งรัฐบาล และ ผู้ว่า กทม.
โอกาสเช่นนี้หาไม่ง่าย...เมื่่อไหร่จะคิดได้นะ

ผมน่าจะหวังกับความคิดนี้ต่อไปไหม..เพราะแม้แต่ อดีตนายกทักษิณ ก็ยังไม่เข้าใจ
แต่ประชาธิปัตย์ไม่ใช่ทักษิณ...ผมขอหวังต่อแล้วกันครับ

"ทำกรุงเทพให้เล็กลง"

(และยังคงเรียกร้อง "ระบบเงินคู่" ต่อไป)

      บันทึกการเข้า
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 19 เมษายน 2552, 16:57:01 »

ผมเห็นมีเว็บ idea Bangkok แต่ไม่รุ้ว่าจะมีคนเข้ามาอ่านหรือป่าว
ชอบแนวคิดเรื่องจักรยานคับ เห็นมีโครงการให้ใช้จักรยาน
แ่ต่ไม่มีที่ให้ปันเลย ให้ปั่นตามท้องถนนผมก็ไม่กล้า
เอาชีวิตไปเสี่ยง  ชอบกระทู้นี้มากคับ ขอดันๆ
      บันทึกการเข้า
อ้อย17
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,908

« ตอบ #11 เมื่อ: 19 เมษายน 2552, 17:01:10 »

อ้างถึง
ข้อความของ phraisohn เมื่อ 19 เมษายน 2552, 16:57:01
ผมเห็นมีเว็บ idea Bangkok แต่ไม่รุ้ว่าจะมีคนเข้ามาอ่านหรือป่าว
ชอบแนวคิดเรื่องจักรยานคับ เห็นมีโครงการให้ใช้จักรยาน
แ่ต่ไม่มีที่ให้ปันเลย ให้ปั่นตามท้องถนนผมก็ไม่กล้า
เอาชีวิตไปเสี่ยง  ชอบกระทู้นี้มากคับ ขอดันๆ
รึเราเป็นคนต่างจังหวัด น้องสน เราเลยคิดถึงจักรยาน ไปไหนไม่ไกลมากก็อยากปั่นไป ได้ออกกำลังด้วย
      บันทึกการเข้า
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 19 เมษายน 2552, 17:09:57 »

อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย17 เมื่อ 19 เมษายน 2552, 17:01:10
อ้างถึง
ข้อความของ phraisohn เมื่อ 19 เมษายน 2552, 16:57:01
ผมเห็นมีเว็บ idea Bangkok แต่ไม่รุ้ว่าจะมีคนเข้ามาอ่านหรือป่าว
ชอบแนวคิดเรื่องจักรยานคับ เห็นมีโครงการให้ใช้จักรยาน
แ่ต่ไม่มีที่ให้ปันเลย ให้ปั่นตามท้องถนนผมก็ไม่กล้า
เอาชีวิตไปเสี่ยง  ชอบกระทู้นี้มากคับ ขอดันๆ
รึเราเป็นคนต่างจังหวัด น้องสน เราเลยคิดถึงจักรยาน ไปไหนไม่ไกลมากก็อยากปั่นไป ได้ออกกำลังด้วย
ผมว่าจักรยานถ้ามีเลนจักรยานใน กทม มันจะดีมากเลยนะคับ
ที่จริง กทม ไม่ได้ใหญ่โตอะไรเลย ทำไมเราต้องเสียตังค์
ตั้งหลายบาท เช่น จะไปจากจุฬาฯ ไป แถวสีลม
ต้องเีสียค่ารถเมลล์ รถไฟฟ้า ถ้ามีจักรยานปั่นแป็บเดียวเอง
หรือต่อไปมีจักรยาน รถจักรยานก็จะติดอีก???


สงสัยเรามาจากต่างจังหวัดแน่ๆเลยคับพี่ออ้ยอ เลยคิดถึงจักรยาน
แหะๆ แต่ผมก็ชอบปั่นจักรยานนะครับ มันได้ออกกำลังกายดี
      บันทึกการเข้า
chaojom
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 104

« ตอบ #13 เมื่อ: 20 เมษายน 2552, 06:47:58 »

บทบาทจักรยานของพี่อ้อยและน้องสน เป็นฝันหนึ่งของผมเลยครับ

ในขณะที่กรุงเทพยังไม่ถูกแก้...หากจะจัดการเมืองในต่างจังหวัดที่มีศักยภาพเติบใหญ่
เช่น เชียงใหม่..ภูเก็ต...ชลบุรี...ฯลฯ
ก็ควรออกแบบการคมนาคมโดยคิดถึงจักรยานก็จะดีทีเดียวครับ

      บันทึกการเข้า
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><