เก๊า(24)
|
|
« ตอบ #2725 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2552, 18:22:18 » |
|
วันนี้นำพืชสมุนไพรมาฝาก แม่เลี้ยง และเพื่อนๆด้วยครับ ชื่อ"กระชายดำ"
กระชายดำ ชื่อวิทยาศาสตร์ Kaempferia parviflora Wall. Ex Baker ชื่อวงศ์ ZINGIBERACEAE สารสำคัญ สารที่พบในเหง้ากระชาย ได้แก่ borneol, sylvestrene ซึ่งแสดงฤทธิ์ต้านจุลชีพ และสาร 5,7 –ไดเมธอกซีฟลาโวน (5,7- dimethoxyflavone = 5,7 DMF) ซึ่งแสดงฤทธิ์ต้านอักเสบ นอกจากนี้ รายงานการวิจัยของมหาวิทยาลัยขอนแก่นปี 2547 พบสารพวกฟลาโวนอยด์ 9 ชนิด เช่น สาร 5,7,4’-trimethoxyflavone, 5,7,3’,4’-tetramethoxyflavone , 3,5,7,4’ –tetramethoxyflavone เป็นต้น ผลการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา 1. ฤทธิ์ต้านอักเสบ สาร 5,7 –ไดเมธอกซีฟลาโวน (5,7-DMF) ที่แยกได้จากเหง้ากระชายดำ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบเทียบได้กับยามาตรฐานหลายชนิด คือ แอสไพริน ,อินโดเมธาซิน, ไฮโดรคอร์ติโซน และเพรดนิโซโลน จากการศึกษาฤทธิ์ต้านอักเสบของสารนี้ในสัตว์ทดลองด้วยวิธีการต่าง ๆ พบว่าสาร 5,7-DMF สามารถต้านการอักเสบแบบเฉียบพลันได้ดีกว่าแบบเรื้อรัง โดยแสดงฤทธิ์ยับยั้งการบวมของอุ้งเท้าหนูขาวจากสารคาราจีนแนนและเคโอลินได้ดีกว่าฤทธิ์ยับยั้งการสร้าง granuloma จากการฝังสำลีใต้ผิวหนัง นอกจากนี้ พบว่า สาร 5,7-DMF มีฤทธิ์ยับยั้งการเกิด exudation และการสร้างสาร prostaglandin อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อศึกษาฤทธิ์ต้านการอักเสบในช่องปอดของหนูขาว (rat pleurisy) 2. ฤทธิ์ต้านเชื้อจุลินทรีย์ สาร 5,7,4’-trimethoxyflavone และ 5,7,3’,4’ –tetramethoxyflavone แสดงฤทธิ์ต้านเชื้อ Plasmodium falciparum ที่เป็นสาเหตุของโรคมาลาเรีย ส่วนสาร 3,5,7,4’-tetramethoxyflavone และ 5,7,4’-trimethoxyflavone แสดงฤทธิ์ต้านเชื้อ Candida albicans และแสดงฤทธิ์ต้านเชื้อ Mycobacterium อย่างอ่อน 3. พิษต่อเซลล์มะเร็ง (cytotoxic activity) จากการทดสอบผลของฟลาโวนอยด์ 9 ชนิดของกระชายดำต่อเซลล์มะเร็ง เช่น KB , BC หรือ NCI-H187 ไม่พบว่ามีสารใดทำให้เกิดพิษต่อเซลล์มะเร็งที่ทดสอบ 4. ฤทธิ์ขยายหลอดเลือดแดง มีรายงานการวิจัยว่า สารสกัดด้วยเอธานอลของกระชายดำมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดแดงใหญ่ (aorta)ละลดการหดเกร็งของลำไส้เล็กส่วนปลาย (ileum) ของหนูขาว และยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือดของคน ตามตำรายาแผนโบราณ กระชายดำมีสรรพคุณแก้โรคบิด ปวดท้อง ลมป่วงทุกชนิด และเป็นยาอายุวัฒนะ ซึ่งมีวิธีใช้ดังนี้ กระชายดำแบบหัวสด ใช้เหง้า (หัวสด) ประมาณ 4-5 ขีด ต่อสุราขาว 1 ขวด ดองสุราขาวดื่มก่อนรับประทานอาหารอาหารเย็นปริมาณ 30 ซีซี. หรือฝานเป็นแว่นบาง ๆ แช่น้ำดื่ม หรือจะดองกับน้ำผึ้ง ในอัตราส่วน 1: 1 กระชายดำแบบหัวแห้ง หัวแห้งดองกับน้ำผึ้งแท้ในอัตราส่วน 1:1 นาน 7 วัน แล้วนำมาดื่มก่อนนอน กระชายดำแบบชาชง ผงแห้งกระชายดำ 1 ซอง ชงน้ำร้อน 1 แก้ว (ประมาณ 120 ซีซี.) แต่งรสด้วยน้ำตาล หรือน้ำผึ้งตามต้องการ หมายเหตุ ข้อมูลจากสถาบันการแพทย์แผนไทย ขอขอบคุณด้วยครับ
|
|
|
|
Kaimook
|
|
« ตอบ #2726 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2552, 19:15:29 » |
|
|
|
|
|
พัช 24
|
|
« ตอบ #2727 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2552, 20:32:49 » |
|
หวัดดีค่ะ อ้อยหวาาาาน
ลูกปิดเทอม กลับบ้านหรือยังคะ
|
|
|
|
พัช 24
|
|
« ตอบ #2728 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2552, 20:37:30 » |
|
สวัสดีค่ะ คุณดิ๊ก ขอเชิญนำธรรม มาฝากด้วยค่ะ ขออนุโมทนาบุญที่คุณดิ๊กและครอบครัวทำไว้เช่นกันค่ะ
|
|
|
|
พัช 24
|
|
« ตอบ #2729 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2552, 20:42:10 » |
|
ถ้าอาจารย์เก๊าหมายถึงลูกศิษย์ที่เล่าเรื่องจิตใจไม่หนักแน่นนั้น นึกไม่ออกจริง ๆ ค่ะ จะลองไปค้นในหนังสือดูค่ะ แต่ถ้าลูกศิษย์ฝรั่ง ท่านมีอยู่หลายรูปเลยค่ะ รูปหนึ่งชื่อ ท่านสุเมโธ
พูดถึงศิษย์ฝรั่ง เคยมีคนกราบเรียนถามหลวงปู่ว่าหลวงปู่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้แล้วสอนฝรั่งได้อย่างไร ท่านตอบว่า คนพูดภาษาควายก็ไม่ได้ แล้วสอนควายไถนาได้อย่างไร
|
|
|
|
Kaimook
|
|
« ตอบ #2730 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2552, 22:01:56 » |
|
หวัดดีค่ะแม่เลี้ยงพัช พี่อั้มปิดเทอมกลับมาแล้วค่ะและกลับไปชม. เมื่อวันอ.ที่ 13 ค่ะเพราะวันที่ 14 ไปเข้าค่ายพุทธค่ะ คิดถึงพี่อั้มจังค่ะแล้วลูกพัชล่ะคะเป็นอย่างไรบ้างคะ อยู่ปี 3 แล้วใช่ไหมคะเรียนอยากจังนะคะลูกพัชเก่งจังค่ะส่วนพี่อั้มอ้อยก็ยังกังวลอยู่ค่ะ เห็นเขาบอกอยากจังเฮ้ออออออ.......
|
|
|
|
Uncle Na
Cmadong พันธุ์แท้
ออฟไลน์
รุ่น: 2524-2201
คณะ: นิเทศ
กระทู้: 4,957
|
|
« ตอบ #2731 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2552, 09:23:15 » |
|
- สาธุ ขอบคุณแม่เลี้ยง..คับ
|
จิตใจที่จุดประกายแล้ว คือทรัพยากรที่ทรงพลังที่สุดบนพิภพ เหนือพิภพ และใต้พิภพ/จิตวิญญาณมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้/ โดย เอพีเจ อับดุล กาลัม/สุวิทย์ วิบูลเศรษฐ์ แปล
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #2732 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2552, 15:03:38 » |
|
สวัสดีค่ะเก๊าและพัช
|
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #2734 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2552, 12:30:59 » |
|
สวัสดีค่ะเก๊าและพัช
|
|
|
|
jum2524
|
|
« ตอบ #2735 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2552, 13:42:10 » |
|
สวัสดีจ้ะแม่เลี้ยงพัชกะลุงเก๊าเจ้าของบ้าน สบายดีนะจ๊ะ??...
|
|
|
|
เก๊า(24)
|
|
« ตอบ #2736 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2552, 13:52:29 » |
|
หวัดดี ดร.เอ๋ และป้าจุ๋มด้วย มีเวลาเข้า web แล้วหรือครับป้าจุ๋ม ดีจังเลยพวกเราผลัดกันหยุดผลัดกันมาคุย โดยมีดร.เอ๋เป็นเคนฝ้าบ้านประจำ (แฮะๆ แซวเล่นอ่ะครับ)
|
|
|
|
jum2524
|
|
« ตอบ #2737 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2552, 13:58:46 » |
|
ดร.เอ๋ไม่ได้เฝ้าอย่างเดียวนาลุงเก๊า...ยังเอาใจใส่ไปแวะเวียนส่งเสียงทักทายแต่ละบ้านอีกด้วย
|
|
|
|
เก๊า(24)
|
|
« ตอบ #2738 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2552, 14:23:09 » |
|
อย่างนี้ต้องเรียกว่าเป็น หัวใจของทีม 24 เลยนะเนี่ย
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #2739 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2552, 15:32:25 » |
|
ชีวิตจริงก็ยินดีเฝ้าบ้านเฝ้าที่ทำงานตลอดชีพ เฝ้าอีกซักบ้านจะเป็นไรคะ ยินดีเช่นกันค่ะ
|
|
|
|
เก๊า(24)
|
|
« ตอบ #2740 เมื่อ: 20 ตุลาคม 2552, 20:35:51 » |
|
สวัสดีครับ แม่เลี้ยงเพื่อนๆ วันนี้ขอส่งต้น รสสุคนธ์ มาลงครับรสสุคนธ์ขาว "รสสุคนธ์ : แปลว่า รสกลิ่นอันดีเป็นที่ชื่นใจ คือรสกลิ่นอันหอมนั้น" เป็นดอกไม้จำพวกเถาเลื้อยที่ชอบออกดอกมากและส่งกลิ่นหอมในฤดูหนาว รสสุคนธ์ขาว ช่อดอกสีขาวบริสุทธิ์คนไทยภาคกลางเรียกรสสุคนธ์ขาวว่ารสสุคนธ์บ้าง และบางทีก็เรียกว่าเสาวคนธ์ อันเป็นชื่อตัวละครในเรื่องพระอภัยมณีนั่นเอง รสสุคนธ์มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Tetracera loureiri Pierre อยู่ในวงศ์ Dilleniaceae เป็นไม้เถายืนต้น เนื้อแข็ง เลื้อยพาดพันต้นไม้หรือนั่งร้านต่างๆ ได้ดี กิ่งเหนียว เปลือกหุ้มเถา (ลำต้น) มีสีเขียวเมื่อยังอ่อน เมื่อแก่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเทา เปลือกบางเรียบ กิ่งอ่อนมีขุยสีน้ำตาลแก่ปกคลุม ใบเดี่ยว ออกสลับกัน ตัวใบรูปรี ใบหนาสาก ขอบมีจัก ใบค่อนข้างแน่นทึบสีเขียวเข้ม เส้นใบชัด รูปทรงคล้ายลิ้นวัว ขนาดกว้างราว ๔-๗ เซนติเมตร ยาว ๗-๑๖ เซนติเมตร ปลายใบโต โคนใบเรียว ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบ และปลายกิ่ง ประกอบด้วยดอกย่อยสีขาว มีกลีบเลี้ยง ๕ กลีบ เป็นรูปโค้ง กลีบดอกบาง ๕ กลีบ ร่วงง่าย เกสรตัวผู้สีขาวคล้ายเส้นด้ายกระจายออกเป็นพุ่มกลม คล้ายดอกกระถิน เส้นผ่าศูนย์กลางของดอกบานราว ๐.๘ เซนติเมตร กลิ่นหอมแรงในเวลาเช้าถึงเย็น ผลสุกสีแดง รูปร่างกลมมีขนาดเล็ก มีเมล็ดอยู่ภายใน ๑-๒ เมล็ด รสสุคนธ์เป็นพืชพื้นบ้านดั้งเดิมของไทย พบขึ้นอยู่ในป่าตามธรรมชาติ ขึ้นได้ดีทั้งในที่ร่ม แสงรำไร และที่โล่งแจ้ง สามารถออกดอกได้ปีละหลายครั้ง หากสภาพแวดล้อมเหมาะสม ทนความแห้งแล้งได้ ออกดอกมากเป็นพิเศษในฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) รสสุคนธ์มีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น รสสุคนธ์ขาว มะตาดเครือ เสาวรส เสาวคนธ์ (กรุงเทพฯ) ลิ้นแรด (อุบลราชธานี)) ย่านป๊อด ป๊ด กะป๊ด (ภาคใต้) ปดคาย ปดเลื่อม (สุราษฎร์ธานี) เถากะปดใบเลื่อม (ประจวบคีรีขันธ์) บอระคน อรคน เถาอรคน (ตรัง) ปดน้ำมัน (ปัตตานี) เป็นต้น ประโยชน์ของรสสุคนธ์ ตำรายาไทยที่ถ่ายทอดกันมาจากอดีต ระบุสรรพคุณทางยาของรสสุคนธ์ไว้ด้วย คือ • รากและใบ ตำเป็นยารักษาโรคหืด • ดอก ผสมเป็นยาหอม แก้ลม บำรุงหัวใจ ประโยชน์ด้านหลักของรสสุคนธ์ที่คนไทยรู้จักดี คือ เป็นไม้ดอกไม้ประดับที่ให้ทั้งความสวยงามและกลิ่นหอม เนื่องจากรสสุคนธ์เป็นไม้เถาที่ปลูกง่าย แข็งแรง ทนทาน ต้องการความชื้นน้อย ขึ้นได้ดีทั้งในที่ร่มและกลางแดด จึงนิยมปลูกประดับเป็นไม้เลื้อยคลุมซุ้ม เป็นร่มเงาหรือพันรั้วให้งดงาม เนื่องจากมีคุณสมบัติใบเขียวเข้มหนาทึบ เถาเหนียวแข็งแรง และออกดอกกลิ่นหอมได้ตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่หาดอกไม้กลิ่นหอม ได้ยาก รวมทั้งให้กลิ่นหอมแรงในเวลากลางวัน
|
|
|
|
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์
รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842
|
|
« ตอบ #2741 เมื่อ: 20 ตุลาคม 2552, 22:56:42 » |
|
|
เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
|
|
|
dtoy
|
|
« ตอบ #2742 เมื่อ: 21 ตุลาคม 2552, 07:05:41 » |
|
หวัดดีค่ะพัช สบายดีนะคะ ไม่เจอกันนาน
หวัดท่านเก๊าด้วย ดอกไม้ ใบไม้สวยไปหมด แถมได้ความรู้ประกอบด้วย ขอบคุณค่า
|
Live Your Dream
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #2743 เมื่อ: 21 ตุลาคม 2552, 09:42:35 » |
|
สวัสดีค่ะเก๊าและพัช
|
|
|
|
Kaimook
|
|
« ตอบ #2744 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2552, 09:45:50 » |
|
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #2745 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2552, 14:05:58 » |
|
สวัสดีค่ะเก๊าและพัช
|
|
|
|
เก๊า(24)
|
|
« ตอบ #2746 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2552, 15:52:24 » |
|
สวัสดีครับ แม่เลี้ยง มาดาม ต๋อย ดร. เอ๋ แล้วก็ ป้าอ้อย กะเพื่อนๆทุกคน วันนี้ปลูกต้นละมุดไว้กินผลดีไหมครับเลือกพันธุ์ที่ผลสุกหวานๆกรอบๆน่าจะอร่อยกว่าพันธุ์ที่สุกแล้วเละๆนะครับละมุด ชื่อวิทยาศาสตร์ : Manilkara achras Fosberg วงศ์ : Sapotaceae ชื่อสามัญ : Spodilla ชื่ออื่น : สวา ลักษณะ: เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง เป็นพุ่มทึบ กิ่งก้าน แตกออกรอบลำต้นเป็นชั้น ๆ ใบ เป็นใบเดี่ยว ท้องใบมีสีน้ำตาลอมเขียว มักออกเป็นกระจุก ตามปลายกิ่ง ดอก ออกดอกเดี่ยว ตามง่ามกิ่ง กลีบรองดอกเรียงกัน เป็น 2 ชั้น กลีบดอกเชื่อมกันและยกตั้งขึ้น มี 6 กลีบ มีสีเหลืองนวล ผล เป็นรูปไข่ หรือรูปปลายข้างหนึ่งแหลมเล็กน้อย ผิวผลมีสีน้ำตาล ผลยังไม่สุกมียางสีขาว รสฝาด แข็ง เมื่อสุกจะนิ่ม หวาน ไม่มียาง มีเมล็ดรูปยาว รี ผิวสีดำฝังอยู่ในเนื้อ ผลละ 2-6 เมล็ด ประโยชน์ : ใช้เป็นอาหาร ผลสุก รับประทานเป็นผลไม้ ทำไวน์ และทำน้ำละมุด คุณค่าทาง โภชนาการ ผลละมุดสุก มีน้ำตาลสูง มีวิตามินเอและซี มีธาตุแคลเซียม ฟอสฟอรัส และอื่น ๆ ละมุดดิบ มียางสีขาวเหมือนน้ำนม มีสารที่ชื่อว่า "gutto" มีชัน สารฝาดสมานและอื่น ๆ ใช้เป็นยา ในฟิลิปปินส์ใช้ เปลือกของต้น ต้มดื่มแก้บิด ยาง ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิอย่า แรง เมล็ด
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #2747 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2552, 15:55:01 » |
|
สวัสดีค่ะเก๊าและพัช
|
|
|
|
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์
รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369
|
|
« ตอบ #2748 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2552, 23:25:11 » |
|
เมื่อตอนหัวค่ำ ดูข่าว TV ช่อง 9 อสมท. เห็นข่าว ผอ.วรวุฒิ กรมศุลกากร นำทีมจับเรือขนน้ำมันเถื่อนกลางทะเล
เท่ห๋เชียว ..
หะยีตะโกนลั่นบ้านเรียกให้ลูกชายมาดูข่าว .. he วิ่งมาช้าไป ภาพข่าวจบไปแว้ววววว .. คริคริ
|
.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #2749 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2552, 10:27:14 » |
|
สวัสดีค่ะเก๊าและพัช
|
|
|
|
|