21 มิถุนายน 2567, 12:50:38
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 92 93 [94] 95 96 ... 204   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ♣♣♣♣ ► เ ก๊า สาระ พัช ไ ม้◄♣♣♣♣...  (อ่าน 1591981 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
พัช 24
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,574

« ตอบ #2325 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2552, 20:26:31 »

อ้างถึง
ข้อความของ เก๊า(24) เมื่อ 18 สิงหาคม 2552, 19:40:52
หลวงพ่อฯ ท่านก็ว่า   สะอาดก็อยู่ตรงที่สกปรก  อนัตตาก็อยู่ที่อัตตา นั่นแหละ  ลุงจักร

หมายถึงอย่างไรครับแม่เลี้ยง  หมายถึงการเปรัยบเทียบหรือเปล่าครับ  ต้องมีสกปรกเป็นตัวเทียบถึงจะรู้ว่าสะอาดเป็นอย่างไร    หรือหมายความว่าทุกอย่างเป็นของคู่กันมีอยู่ในธรรมชาติ  เช่น ดี-ชั่ว ขาว-ดำ  หรือเหรียญมี 2 ด้านแบบท่าน Jacky ว่า  ขอคำชี้แนะเพิ่มเติมครับแม่เลี้ยง

ไม่ใช่เปรียบเทียบค่ะ อาจารย์เก๊า และความหมายอย่างที่มี 2 สิ่งคู่กันก็เป็นบางส่วนค่ะ   แต่ ตรง ๆ ที่ว่าไปก็คือ ไม่ต้องแสวงหาที่ไหนมันอยู่ที่เดิมที่เดียวกัน  ตรงที่สกปรกให้สะอาดก็ใช่ว่าจะไปเอาความสะอาดจากที่อื่นมาแทนที่   เมื่อละอัตตา ก็เป็นอนัตตา

ขอเพิ่มเติม   สำหรับคนเรา   ก็อยู่ที่จิตอยู่แล้วค่ะ  พุทธะ ก็อยู่ที่จิต   นิพพานก็อยู่ที่จิต  ไม่ได้แสวงหาเอามาจากข้างนอก ค่ะ

พูดเรื่องนี้แล้วขอพูดต่ออีกนิด   สมัยเรียน ได้เีรียนการแสดงที่คณะ  สิ่งที่อาจารย์บอกให้ใช้ในการแสดงก็คือ
ต้องเชื่อใน  มนต์สมมติ  พอเชื่อว่าเราเป็นใครในบทที่จะเล่น  เราก็ว่าไปตามอารมณ์ในบท
ทุกวันนี้  เราเหมือนเชื่อในมนต์สมมติ แล้วก็เล่นไปตามบทมั้ยคะ  ซึ่งในปฎิจจสมุปบาทก็คือ  คำว่า   อุปาทาน  ค่ะ
นี่เป็นมุมมองของพัชเท่านั้นนะคะ   แหะ ๆ  พอพูด  อุปาทาน  ก็อยากอธิบาย อุปาทานอีกแล้ว....ตอนหนึ่งในบทสวดมนต์
ท่านว่า     ว่าโดยย่อ  อุปทานขันธ์ทั้งห้า เป็นตัวทุกข์
      บันทึกการเข้า
พัช 24
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,574

« ตอบ #2326 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2552, 20:33:58 »

อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 18 สิงหาคม 2552, 20:25:41
ชื่อเล่น ขุน ครับ
    ในพรรษานี้ ก็ไม่มีอะไรพิเศษกว่าวันอื่นๆครับ   เพียงแต่ตั้งใจตั้งแต่วันเข้าพรรษาว่า จะพยายามสวดมนต์ทำวัตรเย็นให้ได้ทุกวันครับ
ที่ผ่านมาก็ทำได้มั่ง ไม่ได้มั่ง  
        ก็พยายามอยู่ครับ



น้องขุน    อนุโมทนากับความตั้งใจด้วยค่ะ   หลวงปู่ชาท่านว่าจิตมันมีทั้งขยันและขี้เกียจ  ทำความเพียรขี้เกียจก็ต้องทำ(นำมาเล่าแบบสรุปไม่ใช่คำต่อคำ)   
สวดมนต์แบบแปลใช่มั้ยคะ  สวดมนต์นอกจากจิตเป็นสมาธิแล้วหากพิจารณาตามเนื้อหาก็ไ้ด้เรียนธรรมะไปพร้อมกันค่ะ

อนุโมทนาบุญด้วยอีกครั้งค่ะ

      บันทึกการเข้า
พัช 24
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,574

« ตอบ #2327 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2552, 20:37:20 »

ท่านว่า     ว่าโดยย่อ  อุปทานขันธ์ทั้งห้า เป็นตัวทุกข์
พูดถึง  ทุกข์   ครูบาอาจารย์ท่านว่า ทุกวันนี้ การที่ต้องดูแลร่างกายสังขาร
เช้ามาต้องพาไปอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน  หาข้าวหาน้ำให้กิน  แค่นี้ก็เป็นทุกข์(ท่านเพียงเห็นแต่ไม่ได้เป็นทุกข์นะคะ)

แต่สำหรับปุถุชน (ชนอย่างหนา) เหอๆๆ   ก็สบายมากค่ะ  ไม่รู้ว่าแค่นี้ก็คือทุกข์  ก็เรามันกรรมกรแบกขันธ์นี่คะ  เหอๆๆ
      บันทึกการเข้า
Khun28
Full Member
**


ดูกายเห็นจิต ดูคิดเห็นธรรม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2528
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 784

« ตอบ #2328 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2552, 20:37:38 »

สวดมนต์แปลครับ
   ผมชอบสวดมนต์แบบแปล เพราะเราได้ซาบซึ้งไปด้วยครับ
      บันทึกการเข้า
พัช 24
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,574

« ตอบ #2329 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2552, 20:41:58 »

อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 18 สิงหาคม 2552, 20:37:38
สวดมนต์แปลครับ
   ผมชอบสวดมนต์แบบแปล เพราะเราได้ทราบซึ้งไปด้วยครับ

น้องขุน อยู่จังหวัดอะไรคะ   ปกติไปวัดไหน
สวดมนต์แปลดีอย่างน้องขุนว่าค่ะ  และช่วยให้เข้าใจภาษาบาลี(บางคำ)เพิ่มไปได้ด้วยเลย

      บันทึกการเข้า
Lamai
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,712

« ตอบ #2330 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2552, 20:43:40 »

สวัสดีจ้ะพัช เข้ามาอ่านการสนทนาธรรมเพลินเลยเรา ชอบค่ะ ต้นเดือนกันยาน่าจะได้เจอกันอีกนะจ้ะ ปิ๊งๆ
      บันทึกการเข้า
พัช 24
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,574

« ตอบ #2331 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2552, 20:43:58 »

วันนี้ ต้องขอตัวก่อนนะคะ  น้องขุนดีใจที่ได้คุยด้วยค่ะ
      บันทึกการเข้า
Khun28
Full Member
**


ดูกายเห็นจิต ดูคิดเห็นธรรม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2528
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 784

« ตอบ #2332 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2552, 20:45:29 »

ผมอยู่ปทุมธานี ใกล้ๆ วัดธรรมกาย    

แต่ไปวัดปลายนา  ในสายงานของหลวงพ่อเทียน จิตตฺสุโภ ครับ




      บันทึกการเข้า
พัช 24
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,574

« ตอบ #2333 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2552, 20:48:51 »

อ้างถึง
ข้อความของ Lamai เมื่อ 18 สิงหาคม 2552, 20:43:40
สวัสดีจ้ะพัช เข้ามาอ่านการสนทนาธรรมเพลินเลยเรา ชอบค่ะ ต้นเดือนกันยาน่าจะได้เจอกันอีกนะจ้ะ ปิ๊งๆ
หวัดดีจ้า  ไม  ต้นกันยานี่หมายความว่า ไมจะไปเชียงรายเหรอคะ  มาพักกับพัชนะ  บ้านเสร็จทันแล้ว  ตอนนี้ก็พยายามติดต่อปูม  ยังไม่ได้  อยากให้ยืนยันว่ามาวันไหน  กี่คน  จะได้เตรียมที่ทางให้จ้า  ถ้าติดต่อได้รบกวน
ส่งข่าวด้วย

ธรรมะเป็นของเย็นค่ะไม  เป็นปัจจัตตัง  ใครทำใครก็รู้ได้ด้วยตนเอง  เป็นอกาลิโก  ไม่เคยล้าสมัยไม่มีกาลเวลายุคสมัยเป็นเงื่อนไข
ปฎิบัติตามเมื่อไหร่ได้รับอานิสงส์เมื่อนั้นค่ะ

      บันทึกการเข้า
พัช 24
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,574

« ตอบ #2334 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2552, 20:50:47 »

อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 18 สิงหาคม 2552, 20:45:29
ผมอยู่ปทุมธานี ใกล้ๆ วัดธรรมกาย    

แต่ไปวัดปลายนา  ในสายงานของหลวงพ่อเทียน จิตตฺสุโภ ครับ

หลวงพ่อเทียน  ถ้าจำไม่ผิด ที่ฝึกด้วยการตามดูมือที่เคลื่อนไหว  ใช่มั้ยคะ




      บันทึกการเข้า
jacky
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,852

« ตอบ #2335 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2552, 21:17:25 »

อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 18 สิงหาคม 2552, 20:50:47
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 18 สิงหาคม 2552, 20:45:29
ผมอยู่ปทุมธานี ใกล้ๆ วัดธรรมกาย    

แต่ไปวัดปลายนา  ในสายงานของหลวงพ่อเทียน จิตตฺสุโภ ครับ

หลวงพ่อเทียน  ถ้าจำไม่ผิด ที่ฝึกด้วยการตามดูมือที่เคลื่อนไหว  ใช่มั้ยคะ




ที่นั่นเขาร่ำลือว่าสภาวะจิตแกร่งนัก
      บันทึกการเข้า

จงทำงาน         อย่างมี         ความสุข
แต่อย่าหลงไปมีความสุขที่ได้อยู่กับงาน
Uncle Na
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2524-2201
คณะ: นิเทศ
กระทู้: 4,957

« ตอบ #2336 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2552, 07:37:25 »

อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 18 สิงหาคม 2552, 11:52:10
อ้างถึง
ข้อความของ Uncle Na เมื่อ 17 สิงหาคม 2552, 17:59:48
- แม่เลี้ยงครับ ไปวัดหลงซันที่ไต้หวันมา ไหว้พระโพธิสัตย์กวนอิมมาดด้วย  ฟังคล้ายๆ ว่าที่โน่นมีพระภิกษุณีได้ ..แม่เลี้ยงอย่าให้ถึงขั้นนั้นนา ให้แค่เทศน์แบบนอกเครื่องแบบให้พวกเราอ่านก็ปิติพอแล้วนะครับ..  _/|\_
สวัสดีค่ะ  ลุงณะ  ได้ยินว่าเมืองไทยเราที่ไปบวชเป็นภิกษุีณีก็มีน่ะคะ   แต่ที่แน่ ๆ  แม่ชีที่เคยสอนธรรมะให้พัช  ปัจจุบันท่านบวชเป็นสามเณร  (ตอนเป็นสามเณรแล้วยังไม่เคยพบท่าน)
ส่วนพัชเอง  ณ ปัจจุบันเลือกเพศฆราวาสอยู่ค่ะ ทั้งเพราะคิดว่าเหมาะสมกับสถานภาพของตนและ บุญบวชยังไม่พอค่ะ   
และทราบว่า ในเพศฆราวาสพัฒนาจิตได้ไม่น้อยค่ะ    ดังนั้น  ลุงณะไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ
 
 
ชอบที่เขียนมานะฝึกจิตนอกเครื่องแบบจะได้ทันในวันที่ 4000 กว่าๆ  พอดี๊ พอดี

-แม่เลี้ยง...เฮ้อ..อ...อ..  (ได้ยินเสียงพ่อเลี้ยงส่งเสียงพร้อมๆ กัน..)

- น้าจักร 4000 วัน น่ะอะไร...บ๋ใจ๋ ??

- ลุงเก๊า เพิ่งอ่านมาเจอว่าญาติน้องจิ๋ว ไปสบาย..ขอแสดงความเสียใจ ณ ที่นี้

 sorry

ธัมมนันทา..ภิกษุณีหญิงของไทย...หรือ รศ.ดร.ฉัตรสุมาลย์ ลุงณะเคยขายหนังสือให้ท่าน..

ภิกษุณีธัมมนันทา ชื่อเดิม รศ.ดร.ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์ (เกิด พ.ศ. 2486) ภิกษุณีชาวไทย สังกัดสยามนิกาย ประเทศศรีลังกา อดีตอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ดร.ฉัตรสุมาลย์ เป็นบุตรของนายก่อเกียรติ ษัฏเสน และนางวรมัย กบิลสิงห์ (ต่อมาบรรพชาเป็นภิกษุณีวรมัย กบิลสิงห์) จบการศึกษาจากโรงเรียนราชินีบน และปริญญาตรีสาขาปรัชญาจากมหาวิทยาลัยศานตินิเกตัน ประเทศอินเดีย ได้รับทุนรัฐบาลแคนาดาไปศึกษาปริญญาโทและเอกจากมหาวิทยาลัยแมคมาสเตอร์ ประเทศแคนาดา และมหาวิทยาลัยมคธ ประเทศอินเดีย

ดร.ฉัตรสุมาลย์ เป็นอาจารย์สอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยแมคมาสเตอร์ ประเทศแคนาดา เมื่อ พ.ศ. 2512 และเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาปรัชญาและศาสนา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระหว่าง พ.ศ. 2516 - 2543 มีผลงานวิชาการ เขียนบทความธรรมมะ และเป็นพิธีกรรายการธรรมะ ถ่ายทอดทางช่อง 3 เป็นผู้แปลหนังสือ ลามะจากลาซา ของทะไลลามะ

ดร.ฉัตรสุมาลย์ บรรพชาเป็นภิกษุณี โดยคณะภิกษุสงฆ์ และภิกษุณีสงฆ์ สยามนิกาย ประเทศศรีลังกา ที่ประเทศศรีลังกา เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2544 มีฉายาว่า ธัมมนันทา ปัจจุบันจำพรรษาอยู่ที่ วัตรทรงธรรมกัลยาณี ตำบลพระประโทน จังหวัดนครปฐม (สามเณรี และ ภิกษุณี ไม่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากคณะสงฆ์ไทย)


      บันทึกการเข้า

จิตใจที่จุดประกายแล้ว คือทรัพยากรที่ทรงพลังที่สุดบนพิภพ เหนือพิภพ และใต้พิภพ/จิตวิญญาณมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้/ โดย เอพีเจ อับดุล กาลัม/สุวิทย์ วิบูลเศรษฐ์  แปล
Khun28
Full Member
**


ดูกายเห็นจิต ดูคิดเห็นธรรม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2528
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 784

« ตอบ #2337 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2552, 08:10:03 »

อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 18 สิงหาคม 2552, 20:50:47
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 18 สิงหาคม 2552, 20:45:29
ผมอยู่ปทุมธานี ใกล้ๆ วัดธรรมกาย    

แต่ไปวัดปลายนา  ในสายงานของหลวงพ่อเทียน จิตตฺสุโภ ครับ

หลวงพ่อเทียน  ถ้าจำไม่ผิด ที่ฝึกด้วยการตามดูมือที่เคลื่อนไหว  ใช่มั้ยคะ





ใช่ครับ เป็นการเจริญสติแนวเคลื่อนไหว (Dynamic Meditation)  ยกมือ 14 จังหวะครับ
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #2338 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2552, 08:12:09 »

สวัสดีค่ะ บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า
อ้อย17
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,908

« ตอบ #2339 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2552, 08:26:45 »

อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 19 สิงหาคม 2552, 08:10:03
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 18 สิงหาคม 2552, 20:50:47
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 18 สิงหาคม 2552, 20:45:29
ผมอยู่ปทุมธานี ใกล้ๆ วัดธรรมกาย    

แต่ไปวัดปลายนา  ในสายงานของหลวงพ่อเทียน จิตตฺสุโภ ครับ

หลวงพ่อเทียน  ถ้าจำไม่ผิด ที่ฝึกด้วยการตามดูมือที่เคลื่อนไหว  ใช่มั้ยคะ





ใช่ครับ เป็นการเจริญสติแนวเคลื่อนไหว (Dynamic Meditation)  ยกมือ 14 จังหวะครับ
แบบไหนจ๊ะ..น้องขุน  น้องพัช..
      พี่ตามอ่านมานานเหมือนกัน ดูราวกับน้องพัชใกล้จะบวชเป็นภิกษุณีแล้วกระนั้นแหละ..ทำไมรู้ซึ้งถึงธรรมะปานนั้น
      ตอนเด็กๆบ้านพี่อยู่หน้าวัด ไปวัดบ่อยๆตามคำสั่งของยาย แต่ไม่ซาบซึ้งอะไรนัก..โตๆมาเรียนกรุงเทพฯแล้วไม่ได้กลับไปอยู่บ้านนอกอีก คิดถึงวัด แต่อยู่ในกรุงไปวัดไม่ค่อยสะดวก ก็เลยสวดมนต์อยู่บ้านซะมากกว่า แต่ไม่ได้สวดแปลอย่างน้องขุน น้องพัช วันหน้าจะลองสวดแบบแปลดู...
      พี่นะพยายามจะทำสมาธิ แต่ไม่ค่อยสำเร็จ ยังบังคับจิตไม่ได้ จิตยังชอบแส่ส่ายอยู่เลย...เฮ้อ...
      บันทึกการเข้า
Khun28
Full Member
**


ดูกายเห็นจิต ดูคิดเห็นธรรม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2528
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 784

« ตอบ #2340 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2552, 08:44:01 »

อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 15 สิงหาคม 2552, 19:21:02
ข้างท้ายนี้อ้างอิงจากพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลธรรม โดย พระธรรมปิฏก(สมณศักดิ์ขณะนั้น)


ภพ 3  ภูมิ 4

ภพ (ภว ) ภาวะชีวิตของสัตว์(เรียกรวม ๆ  รวมถึงมนุษย์ด้วย)  โลกที่เป็นที่อยู่ของสัตว์ แบ่งเป็น 3

1 กามภพ   ภพที่เป็นกามาวจร  ภพของสัตว์ผู้ยังเสวยกามคุณ ยังพอใจในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส
2 รูปภพ     ภพของสัตว์ผู้เข้าถึงรูปฌาน
3 อรูปภพ    ภพของสัตว์ผู้เข้าถึงอรูปฌาน


ภูมิ หมายถึงชั้นแห่งจิต  ระดับจิตใจ 

1  กามาวจรภูมิ  เป็นชั้นที่ยังเกี่ยวข้องกับกามคุณ  ซึ่งแบ่งย่อยออกเป็น  อบายภูมิ  และ กามสุคติภูมิ
    อบายภูมิ ก็มี  นริยะ(นรก)    ติรัจฉานโยนิ(ดิรัจฉาน)  ปิตติวิสัย (เปรต)  และ อสุรกาย
    กามสุคติภูมิ  มี  มนุษย์  และเทวดาในชั้นต่าง ๆ
2  รูปาวจรภูมิ เป็นเหล่าพรหม  (รูปพรหม)16 ชั้น 
3  อรูปาวจรภูมิ เป็นเหล่าพรหม(อรูปพรหม) อีก 4 ชั้น





เพิ่มเติมด้วยภาพครับ


      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #2341 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2552, 08:58:31 »

สวัสดีค่ะ บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #2342 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2552, 10:58:27 »

ชื่นชมน้อง ๆ ผู้ใฝ่ธรรม
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
หนุ่ม2524
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2524
กระทู้: 1,042

« ตอบ #2343 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2552, 11:58:12 »

ท่านเก๊า ผมเพิ่งทราบว่า ญาติน้องจิ๋ว ไปสบายแล้ว ขอแสดงความเสียใจด้วยนะ
      บันทึกการเข้า
พัช 24
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,574

« ตอบ #2344 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2552, 12:27:37 »

อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย17 เมื่อ 19 สิงหาคม 2552, 08:26:45
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 19 สิงหาคม 2552, 08:10:03
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 18 สิงหาคม 2552, 20:50:47
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 18 สิงหาคม 2552, 20:45:29
ผมอยู่ปทุมธานี ใกล้ๆ วัดธรรมกาย    

แต่ไปวัดปลายนา  ในสายงานของหลวงพ่อเทียน จิตตฺสุโภ ครับ

หลวงพ่อเทียน  ถ้าจำไม่ผิด ที่ฝึกด้วยการตามดูมือที่เคลื่อนไหว  ใช่มั้ยคะ





ใช่ครับ เป็นการเจริญสติแนวเคลื่อนไหว (Dynamic Meditation)  ยกมือ 14 จังหวะครับ
แบบไหนจ๊ะ..น้องขุน  น้องพัช..
      พี่ตามอ่านมานานเหมือนกัน ดูราวกับน้องพัชใกล้จะบวชเป็นภิกษุณีแล้วกระนั้นแหละ..ทำไมรู้ซึ้งถึงธรรมะปานนั้น
      ตอนเด็กๆบ้านพี่อยู่หน้าวัด ไปวัดบ่อยๆตามคำสั่งของยาย แต่ไม่ซาบซึ้งอะไรนัก..โตๆมาเรียนกรุงเทพฯแล้วไม่ได้กลับไปอยู่บ้านนอกอีก คิดถึงวัด แต่อยู่ในกรุงไปวัดไม่ค่อยสะดวก ก็เลยสวดมนต์อยู่บ้านซะมากกว่า แต่ไม่ได้สวดแปลอย่างน้องขุน น้องพัช วันหน้าจะลองสวดแบบแปลดู...
      พี่นะพยายามจะทำสมาธิ แต่ไม่ค่อยสำเร็จ ยังบังคับจิตไม่ได้ จิตยังชอบแส่ส่ายอยู่เลย...เฮ้อ...
สวัสดีค่ะพี่อ้อย

1.  รูปแบบการฝึกแบบตามรู้้มือที่เคลื่อนไหวขอให้น้องขุนเป็นผู้ขยายความนะคะ
     แต่ขอกล่าวถึง มหาสติปัฏฐานสูตร  ซึ่งเป็นแนวทางในการเจริญสติ  โดยอาศัยที่ตั้งสี่ชนิดค่ะ  ซึ่งไม่เน้นที่จิตรวมเป็นหนึ่ง
     แต่ให้มีสติสัมปชัญญะ  รู้เห็นสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริง   ให้เห็นธรรมดาว่า   ไม่มีความเที่ยงหรือถาวร แต่เปลี่ยนแปลง
     อยู่ตลอดเวลา ที่ตั้งทั้งสีที่จะใช้เป็นเครื่องมือฝึกสติ  ก็คือ  1) กาย(อย่างที่น้องขุนฝึกคือดูกายในกาย)  2) เวทนา (ความรู้สึกเจ็บ ร้อน เย็น ฯลฯ)
     3)จิต (จิตคือตัวรู้ )   ยกตัวอย่าง   สมมติว่า มีใครมาหยิกแขนพี่อ้อยอย่างแรง  พี่อ้อยรู้สึกเจ็บ (เห็นเวทนา  แต่ในที่นี้ไม่ใช่การฝึกดูเวทนาใน
     เวทนา)     พี่อ้อยก็จะรู้แค่ว่าเจ็บและ(น่าจะ) รู้สึกโกรธ (แล้วแต่ว่าจะมากน้อย)  แต่ขณะที่โกรธ  นั่นคือ อกุศลจิตเกิด  คือ จิตมีโทสะ
     เวลาที่ฝึกตามแนว  มหาสติฯ  ก็จะเห็นและเรียนรู้ว่า จิตไม่เที่ยง  เมื่อกี่ยังไม่โกรธ  ตอนนี้โกรธ  ประมาณนี้  ส่วน ที่ตั้งที่สี่คือ 4) ธรรมค่ะ   
    ท่านว่า เห็นธรรมในธรรม      ตรงนี้พัชยังไม่กระจ่างค่ะ   
     
2.   ยังไม่บวชง่าย ๆ หรอกค่ะ  พี่อ้อย   sing
3.   หลายคนได้รับอานิสงส์จากการที่ครอบครัวไปวัดหรือพาไปวัดสมัยเด็กนะคะ  พัชก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ
      พี่อ้อยส่งที่อยู่ให้พัชสิคะ  เดี๋ยวจัดส่งหนังสือสวดมนต์แบบแปลไปให้ค่ะ  ดูคำแปลก็รู้ตามความหมายในบทสวดไปด้วย  ดีค่ะ
4.   พี่อ้อยคะ  ธรรมชาติของจิตมันเร็วค่ะ  พี่อ้อยลองคิดถึงบ้านที่ต่างจังหวัดสิคะ  จิตไปถึงแล้ว  ที่คนเราทำอะไรหลาย ๆ อย่างได้พร้อม ๆ กัน
      ก็เพราะความเร็วของจิตนี่แหละค่ะ  แต่ถ้าให้รู้สึกตัวจริง ๆ  ต้องทีละหนึ่งขณะจิตเท่านั้นค่ะ
      ในการทำสมาธิ  ไม่ต้องบังคับจิตค่ะ  สมาธิเกิดก็เกิด  ไม่เกิดก็ไม่เกิดค่ะ  ตอนที่พี่อ้อยรู้ว่าจิตมันแส่ส่าย ไปโน่นนี่นั่นแหละค่ะ  เพราะมีสติ
     
สรุป  จิตมันอยู่ไม่นิ่ง  มันจึงต้องหางานให้มันทำ  ด้วยการให้มันเฝ้าดูกายที่เคลื่อนไหว  ดูลมหายใจ  นับเลข ..ทั้งหมดทั้งปวง  เป็นการฝึกปฎิบัติ
แต่การปฎิบัติ(ธรรม) จริง ๆ ต้องอยู่ในชีวิตประจำวันค่ะ  พระท่านมีชีวิตอยู่ที่วัด  ก็เลยทั้งฝึก ทั้งปฎิบัติอยู่ที่วัด  เราอยู่บ้าน  ไปฝึกมาจากวัด
เอามาฝึกต่อที่บ้าน  แล้วปฎิบัติเสมอ ๆ ในชีวิตประจำวันค่ะ   

ขออนุโมทนากับบุญและความตั้งใจอันเป็นกุศลของพี่อ้อยด้วยค่ะ
 sorry sorry sorry




     

      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #2345 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2552, 12:31:27 »

อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 19 สิงหาคม 2552, 12:27:37
อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย17 เมื่อ 19 สิงหาคม 2552, 08:26:45
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 19 สิงหาคม 2552, 08:10:03
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 18 สิงหาคม 2552, 20:50:47
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 18 สิงหาคม 2552, 20:45:29
ผมอยู่ปทุมธานี ใกล้ๆ วัดธรรมกาย    

แต่ไปวัดปลายนา  ในสายงานของหลวงพ่อเทียน จิตตฺสุโภ ครับ

หลวงพ่อเทียน  ถ้าจำไม่ผิด ที่ฝึกด้วยการตามดูมือที่เคลื่อนไหว  ใช่มั้ยคะ





ใช่ครับ เป็นการเจริญสติแนวเคลื่อนไหว (Dynamic Meditation)  ยกมือ 14 จังหวะครับ
แบบไหนจ๊ะ..น้องขุน  น้องพัช..
      พี่ตามอ่านมานานเหมือนกัน ดูราวกับน้องพัชใกล้จะบวชเป็นภิกษุณีแล้วกระนั้นแหละ..ทำไมรู้ซึ้งถึงธรรมะปานนั้น
      ตอนเด็กๆบ้านพี่อยู่หน้าวัด ไปวัดบ่อยๆตามคำสั่งของยาย แต่ไม่ซาบซึ้งอะไรนัก..โตๆมาเรียนกรุงเทพฯแล้วไม่ได้กลับไปอยู่บ้านนอกอีก คิดถึงวัด แต่อยู่ในกรุงไปวัดไม่ค่อยสะดวก ก็เลยสวดมนต์อยู่บ้านซะมากกว่า แต่ไม่ได้สวดแปลอย่างน้องขุน น้องพัช วันหน้าจะลองสวดแบบแปลดู...
      พี่นะพยายามจะทำสมาธิ แต่ไม่ค่อยสำเร็จ ยังบังคับจิตไม่ได้ จิตยังชอบแส่ส่ายอยู่เลย...เฮ้อ...
สวัสดีค่ะพี่อ้อย

1.  รูปแบบการฝึกแบบตามรู้้มือที่เคลื่อนไหวขอให้น้องขุนเป็นผู้ขยายความนะคะ
     แต่ขอกล่าวถึง มหาสติปัฏฐานสูตร  ซึ่งเป็นแนวทางในการเจริญสติ  โดยอาศัยที่ตั้งสี่ชนิดค่ะ  ซึ่งไม่เน้นที่จิตรวมเป็นหนึ่ง
     แต่ให้มีสติสัมปชัญญะ  รู้เห็นสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริง   ให้เห็นธรรมดาว่า   ไม่มีความเที่ยงหรือถาวร แต่เปลี่ยนแปลง
     อยู่ตลอดเวลา ที่ตั้งทั้งสีที่จะใช้เป็นเครื่องมือฝึกสติ  ก็คือ   กาย   เวทนา (ความรู้สึกเจ็บ ร้อน เย็น ฯลฯ) จิต (จิตคือตัวรุ้
      ยกตัวอย่าง   สมมติว่า มีใครมาหยิกแขนพี่อ้อยอย่างแรง  พี่อ้อยรู้สึกเจ็บ (เห็นเวทนา  แต่ในที่นี้ไม่ใช่การฝึกดูเวทนาใน
เวทน
    



อ่านแล้วได้ความรู้ไปด้วยค่ะ จะพยายามปฏิบัติตามนะคะ
      บันทึกการเข้า
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842

เว็บไซต์
« ตอบ #2346 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2552, 12:41:30 »


ว่านมหาเสน่ห์หรือ “รากราคะ”
                             ถ้าจะปลูกว่านมหาเสน่ห์ ควรปลูกในวันจันทร์ข้างขึ้น และเวลารดน้ำให้เสกเป่าน้ำด้วยคาถา “นะโมพุทธายะ” 3 จบเสมอ ว่านมหาเสน่ห์ให้คุณทางด้านการให้อำนาจทางเพศหรืออารมณ์ปรารถนา ถ้าเอาหัว ใบ หรือต้นใส่แช่ไว้ในโอ่งน้ำ ตุ่มน้ำ หม้อน้ำ บ่อน้ำ หากใครกินเข้าไปจะมีความรู้สึกทางเพศรุนแรง (ผลค่อนข้างแรงอย่างนี้ผู้เขียนไม่รู้ว่าจะมีอะไรเข้าตัวหรือเปล่าเพราะดูๆ แล้วไม่ต่ออะไรกับน้ำมันพรายเลย) นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าเมื่อใดที่ว่านออกดอกและส่งกลิ่นขจรขจายไปไกล คนที่ได้กลิ่นจะพากันมัวเมาในโลกีย์ไม่รู้รา เรียกว่าให้ผลสมกับชื่อจริงๆ ด้วยเหตุนี้คนปลูกที่ไม่ต้องการให้เกิดเรื่องวุ่นวาย จึงต้องเด็ดดอกทิ้งเป็นการตัดไปเสียแต่ต้นลม บางคนจึงเชื่อว่าห้ามน้ำไปปลูกในบ้าน เพราะฤทธิ์ของว่านอาจทำให้เกิดผิดลูกผิดเมียผู้อื่น หากใครมีความเชื่อแบบนี้ ควรปลูกอยู่ห่างจากบ้านไปไกลๆ น่าจะปลอดภัย

                           “ด้วย เป็นว่านที่ทำให้หญิงสาวเกิดเสน่หา ทำให้คนหนุ่มสมัยโบราณเสาะแสวงหาดอกของว่านราคะ เพื่อไปเก็บสะสมไว้หุงกับน้ำมันจันทร์ หรือบดรวมกับสีผึ้งทาปาก ให้น้ำมันทาตัว ใช้สีผึ้งทาปาก เมื่อถึงคราวต้องไปพบหญิงสาวที่ตนรัก มีความเชื่อว่าหากหญิงใดได้พูดคุยด้วย และได้กลิ่นว่านในน้ำมันใช้ทาตัวหรือได้ฟังคำพูดหวานๆ แล้ว จะทำให้สาวเจ้าใจอ่อนคล้อยตามโดยง่าย เท็จจริงแค่ไหนคงต้องให้ทุกท่านช่วยกันพิสูจน์”
      บันทึกการเข้า

เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
พัช 24
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,574

« ตอบ #2347 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2552, 13:06:30 »

อ้างถึง
ข้อความของ churaipatara เมื่อ 19 สิงหาคม 2552, 12:31:27
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 19 สิงหาคม 2552, 12:27:37
อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย17 เมื่อ 19 สิงหาคม 2552, 08:26:45
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 19 สิงหาคม 2552, 08:10:03
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 18 สิงหาคม 2552, 20:50:47
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 18 สิงหาคม 2552, 20:45:29
ผมอยู่ปทุมธานี ใกล้ๆ วัดธรรมกาย    

แต่ไปวัดปลายนา  ในสายงานของหลวงพ่อเทียน จิตตฺสุโภ ครับ

หลวงพ่อเทียน  ถ้าจำไม่ผิด ที่ฝึกด้วยการตามดูมือที่เคลื่อนไหว  ใช่มั้ยคะ





ใช่ครับ เป็นการเจริญสติแนวเคลื่อนไหว (Dynamic Meditation)  ยกมือ 14 จังหวะครับ
แบบไหนจ๊ะ..น้องขุน  น้องพัช..
      พี่ตามอ่านมานานเหมือนกัน ดูราวกับน้องพัชใกล้จะบวชเป็นภิกษุณีแล้วกระนั้นแหละ..ทำไมรู้ซึ้งถึงธรรมะปานนั้น
      ตอนเด็กๆบ้านพี่อยู่หน้าวัด ไปวัดบ่อยๆตามคำสั่งของยาย แต่ไม่ซาบซึ้งอะไรนัก..โตๆมาเรียนกรุงเทพฯแล้วไม่ได้กลับไปอยู่บ้านนอกอีก คิดถึงวัด แต่อยู่ในกรุงไปวัดไม่ค่อยสะดวก ก็เลยสวดมนต์อยู่บ้านซะมากกว่า แต่ไม่ได้สวดแปลอย่างน้องขุน น้องพัช วันหน้าจะลองสวดแบบแปลดู...
      พี่นะพยายามจะทำสมาธิ แต่ไม่ค่อยสำเร็จ ยังบังคับจิตไม่ได้ จิตยังชอบแส่ส่ายอยู่เลย...เฮ้อ...
สวัสดีค่ะพี่อ้อย

1.  รูปแบบการฝึกแบบตามรู้้มือที่เคลื่อนไหวขอให้น้องขุนเป็นผู้ขยายความนะคะ
     แต่ขอกล่าวถึง มหาสติปัฏฐานสูตร  ซึ่งเป็นแนวทางในการเจริญสติ  โดยอาศัยที่ตั้งสี่ชนิดค่ะ  ซึ่งไม่เน้นที่จิตรวมเป็นหนึ่ง
     แต่ให้มีสติสัมปชัญญะ  รู้เห็นสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริง   ให้เห็นธรรมดาว่า   ไม่มีความเที่ยงหรือถาวร แต่เปลี่ยนแปลง
     อยู่ตลอดเวลา ที่ตั้งทั้งสีที่จะใช้เป็นเครื่องมือฝึกสติ  ก็คือ   กาย   เวทนา (ความรู้สึกเจ็บ ร้อน เย็น ฯลฯ) จิต (จิตคือตัวรุ้
      ยกตัวอย่าง   สมมติว่า มีใครมาหยิกแขนพี่อ้อยอย่างแรง  พี่อ้อยรู้สึกเจ็บ (เห็นเวทนา  แต่ในที่นี้ไม่ใช่การฝึกดูเวทนาใน
เวทน
    



อ่านแล้วได้ความรู้ไปด้วยค่ะ จะพยายามปฏิบัติตามนะคะ
สาธุ! ค่ะ เอ๋ 
มาสนทนาธรรมกันค่ะเอ๋
      บันทึกการเข้า
พัช 24
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,574

« ตอบ #2348 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2552, 13:17:12 »

อ้างถึง
ข้อความของ patooman24 เมื่อ 19 สิงหาคม 2552, 12:41:30

ว่านมหาเสน่ห์หรือ “รากราคะ”
                             ถ้าจะปลูกว่านมหาเสน่ห์ ควรปลูกในวันจันทร์ข้างขึ้น และเวลารดน้ำให้เสกเป่าน้ำด้วยคาถา “นะโมพุทธายะ” 3 จบเสมอ ว่านมหาเสน่ห์ให้คุณทางด้านการให้อำนาจทางเพศหรืออารมณ์ปรารถนา ถ้าเอาหัว ใบ หรือต้นใส่แช่ไว้ในโอ่งน้ำ ตุ่มน้ำ หม้อน้ำ บ่อน้ำ หากใครกินเข้าไปจะมีความรู้สึกทางเพศรุนแรง (ผลค่อนข้างแรงอย่างนี้ผู้เขียนไม่รู้ว่าจะมีอะไรเข้าตัวหรือเปล่าเพราะดูๆ แล้วไม่ต่ออะไรกับน้ำมันพรายเลย) นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าเมื่อใดที่ว่านออกดอกและส่งกลิ่นขจรขจายไปไกล คนที่ได้กลิ่นจะพากันมัวเมาในโลกีย์ไม่รู้รา เรียกว่าให้ผลสมกับชื่อจริงๆ ด้วยเหตุนี้คนปลูกที่ไม่ต้องการให้เกิดเรื่องวุ่นวาย จึงต้องเด็ดดอกทิ้งเป็นการตัดไปเสียแต่ต้นลมบางคนจึงเชื่อว่าห้ามน้ำไปปลูกในบ้าน เพราะฤทธิ์ของว่านอาจทำให้เกิดผิดลูกผิดเมียผู้อื่น หากใครมีความเชื่อแบบนี้ ควรปลูกอยู่ห่างจากบ้านไปไกลๆ น่าจะปลอดภัย

                           “ด้วย เป็นว่านที่ทำให้หญิงสาวเกิดเสน่หา ทำให้คนหนุ่มสมัยโบราณเสาะแสวงหาดอกของว่านราคะ เพื่อไปเก็บสะสมไว้หุงกับน้ำมันจันทร์ หรือบดรวมกับสีผึ้งทาปาก ให้น้ำมันทาตัว ใช้สีผึ้งทาปาก เมื่อถึงคราวต้องไปพบหญิงสาวที่ตนรัก มีความเชื่อว่าหากหญิงใดได้พูดคุยด้วย และได้กลิ่นว่านในน้ำมันใช้ทาตัวหรือได้ฟังคำพูดหวานๆ แล้ว จะทำให้สาวเจ้าใจอ่อนคล้อยตามโดยง่าย เท็จจริงแค่ไหนคงต้องให้ทุกท่านช่วยกันพิสูจน์”

สงสารต้นไม้จัง ท่านทู  ไม่รู้ว่ามันรู้ตัวหรือเปล่านะนั่น ว่ามันเป็นต้นรากราคะ  และเป็นเหตุแห่งราคะ เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ
      บันทึกการเข้า
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842

เว็บไซต์
« ตอบ #2349 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2552, 13:22:29 »

เอามาให้อ่านเป็น อนุสติ เป็นเรื่องของต้นไม้และธรรมชาติ
      บันทึกการเข้า

เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
  หน้า: 1 ... 92 93 [94] 95 96 ... 204   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><