Greeting From Germany part III-Anytime,Anywhere!

[Soponเท่านั้น]

เห็นด้วยทุกข้อเลยครับ

[seree_60]

อ้าว..ข้อ 3 นี่ ผมไม่เห็นด้วย ขอค้าน
จะมาโทษ คนเชียร์ไม่ได้ มันเป็นปัจจัย เล็ก ที่จะมาก็ต่อเมื่อบอล มันน่าดูเท่านั้น
ที่สำคัญ ก็ไ อ้ สมาคมฟุตบอลที่มันไม่ได้เรื่อง เล่นเส้น เล่นสาย เด็กเก่งๆเยอะแยะ ไม่ติด
แต่เด็กเส้นคิดกันตรึม แล้วจะไปสู้เขาได้อย่างไร
วิทยาศาสตร์การกิฬา ก็ไม่เคยเอามาใช้ ฮ่วย..ห่วย...ห่วย
พี่ขอเก็บดวงตา ไปใช้งาน อย่างอื่น ละกัน
ไทย ไม่ได้ไป บอลโลก ไม่เป็นไร  ขอให้ไอ้เหลี่ยม ติดคุกเป็นใช้ได้
เอ๊ะ มันเกี่ยวกัน อย่างไรเนี่ย

[khesorn mueller]

		อ้างถึง			ข้อความของ Soponเท่านั้น เมื่อ 02 กรกฎาคม 2552, 21:30:13
	บอลไทยไปโอลิมปิคมาแล้วนะอย่าลืม แพ้ 7:0 8:0 แล้วก็ 4:1 มั้ง รวมเสีย19 ได้ 1 สุทธิ 18 แบกกลับคนละประตูพอดี (ตัวจริง 11 สำรอง 7) แต่ยังไงข้าก็ยังเอาใจช่วยบอลไทยว่ะ คนไทยบางคนไปอยู่เมืองนอกนานก็เผลอดูถูกเมืองไทย ทั้งที่อยู่เมืองนอกก็เป็นพลเมืองชั้นสองเหมือนกัน ขออภัย ไม่ได้หมายถึงเจ้าของกระทู้นี้นะ

psst,พี่โสภณ,
อย่าเพิ่งไป,
กลับมาก่อน!
 
มาถกให้เข้าใจก่อน...ชั้นสองไม่ต้อง ขอหนิงขบเอง
แต่อยากรู้...ชั้นหนึ่ง กะ ชั้นสามค่ะ...ผู้ได๋

[khesorn mueller]

 

		อ้างถึง
	เจ้าของบ้านยังไม่มา ขอต่อเรื่องบอลอีกสักนิดนะครับ..... ผมก็อยากดูฮอลแลนด์ฉะกับบราซิลครับ เรื่องเกมแข่งขันไม่เท่าไหร่ แต่กองเชียร์นีสิ คงจะส้ม และเหลืองเต็มไปหมด.....น่าหนุกครับน่าหนุก..... หลายคนถามว่าทำไม บอลไทยยังไม่ไปไหนสักที ส่วนตัวผมคิดว่ามีอยู่ 3 ส่วนที่ต้องรับผิดชอบกันไปแบบเต็มๆ 1). ตัวนักกีฬา.... เท่าที่คลุกคลีกับนักบอลหลายๆคน พบว่านักบอลของเราส่วนมากขาดวินัย (จะว่านักบอลอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะคนไทยยังขาดวินัยกันเยอะ) หลายคนฝีเท้าดี สมองเยี่ยม แต่เมื่อดัง หรือเมื่อมีเงินเข้ากระเป๋า ก็จะเหลิง เที่ยว ขี้เกียจซ้อม ฯลฯ

น้องเจตน์,
พี่ขอขอบคุณ.

ขอพี่ออกความเห็นจากที่พบมาจากฝั่งขะโน้น:
1.นักกีฬา...พี่ไม่รู้ว่าบอลไทย ที่เล่นอย่างเป็นกิจจะลักษณะ
เริ่มกันเมื่อไหร่ ที่ไหน และบ่อยขนาดไหน ใครเป็น coach,ใครเป็น trainer

ที่โน่น,พ่อ-แม่ พาลูกวัย5-6ขวบไปลงชื่อใน Sportverein...sport clubของหมู่บ้านที่อยู่อาศัย
 ทุก2ครั้งในอาทิตย์ ไปรับ-ไปส่ง ลูกชายข้างสนาม...อาทิตย์แล้ว อาทิตย์เล่า อดทน ตั้งใจ...
trainerของ football Vereinทำหน้าที่ฝึกซ้อม ลองเล่น สอนกฏโดย lerning by doing/practicingเด็ก
พวกนี้เติบโตขึ้นมาแบบมีฟุตบอลในสายเลือด...เข้า Jugendmannschaft A,B,C,D,E
 ให้ไต่ขึ้นโดยไม่สนใจต่อลาภยศรวมทั้งความอยากดัง!เด็กพวกนี้ เก่งหาตัวจับยากภายในเวลาสั้นๆ
การเข้าทีมหมู่บ้าน ก็ไต่เต้าต่อไปในหมวดBundesligaซึ่งลุ้นกันไปว่าจะเข้าสู่ Ligaเล็กใหญ่ใน range list!
18 Ligaถามว่า ถอดใจ เลิกเล่น ไปไหนกันหมด??เค้าต้องไป
เรียนทหาร,เข้าวิทยาลัย,มหาวิทยาลัย,มีอาชีพ..und so weiter.
การมีฟุตบอลเป็นหนึ่งในกิจกรรมของชีวิต
เป็นเรื่องของสังคม(เข้ากลุ่ม เข้าสโมสร)
ที่ทำเพื่อตนเอง(สนุก มีเพื่อน ได้ออกกำลังกาย)
เพื่อส่วนรวม(หากลงชื่อก็ต้องร่วมมือไม่มีเกี่ยงงอน)
วินัย จึงผสมผสานจนแยกไม่ออก....
แมวมองของ Ligaใหญ่ๆ ถามว่าไปคว้าหนุ่มน้อยหลายนาย
มาจากไหน??ก็มันมีRanglistแน่นอนให้เดินตาม เดินค้น...
แค่ไปเฝ้าแอบมองตอนซ้อม ข้างสนามก็ได้ตัวแล้ว...มือดี
ฝีเท้าจัดน่ะ ไม่ได้ลูกท่านหลานเธอที่ไหนคะ...อยู่ตามหมู่บ้านเล็กๆนี่แหละคะ

[khesorn mueller]

 

		อ้างถึง
	เจ้าของบ้านยังไม่มา ขอต่อเรื่องบอลอีกสักนิดนะครับ..... ผมก็อยากดูฮอลแลนด์ฉะกับบราซิลครับ เรื่องเกมแข่งขันไม่เท่าไหร่ แต่กองเชียร์นีสิ คงจะส้ม และเหลืองเต็มไปหมด.....น่าหนุกครับน่าหนุก..... 2). ภาครัฐ ถ้าผมจะพูดว่าไม่มีรัฐบาลไหน จริงใจและจริงจัง ที่จะพัฒนาวงการกีฬา ก็คงไม่ผิด....คอยแต่จะเอาความสำเร็จของนักกีฬา มาสร้างชื่อให้ตัวเองเท่านั้น....พอดีกว่า ยิ่งพูด ยิ่งเซ็ง

2)ภาครัฐ เพราะฟุตบอล มีที่มา มีที่ไปเค้าตั้งต้นกันที่
Verein (club)ที่มีกฏหมายบังคับในรายละเอียดอันต่อเนื่อง
กะเรื่องรายได้ และภาษี!เพราะในแต่ละสโมสร ล้วนมีกอง
ทุน กองกลาง ที่ได้รับ หรือไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากเมือง
เค้าก็หาเงินบริจาค จากภาคเอกชน ถามว่า director/ manager
ของบริษัทใหญ่ๆน่ะ ตก ลงมาจากฟากฟ้าเหรอ?ปล่าว!คนสำคัญเหล่านี้
มาจากครอบครัว กลุ่มที่อาจintensiveกะฟุตบอลสมัยวัยเยาว์ พอมีอำนาจ
ยศฐา พวกเค้ายังไม่ไปไหน แต่อาจนั่งเป็นกรรมการสโมสร ที่อาจขอเงินsponsor
ในด้านกีฬาให้แก่บริษัทโดยแลกกะการมีชื่อ Audi,Mercedez,
Bosch, Mann,BMW and so on...ไปแปะข้างสนามในหมู่บ้าน.
ภาครัฐในความหมายของพี่จึงเป็นคณะกรรมการสโมสรน้อยใหญ่...
ที่อยู่ได้ มีกำลัง และเผลอๆ รํ่ารวยมากๆ ตามสภาพและการบริหารของคนในหมู่บ้านนั้นๆ...
ก็เอ๋า,ที่โน่นไม่ไช่อะไรๆจะไปจุก คลุกรวมกันอยู่ที่เดียว...
เมื่อเล็ก ก็แข่งขันกันง่ายกว่า..intensive & concentrate..มากกว่า

[เจตน์]

มาต่อ เรื่องฟุตบอลอีกสักนิด.....ออกตัวไว้ก่อนนะครับว่าผมไม่มองมองชาวต่างชาติว่าดีหรือเก่งกว่าเรานะครับ แต่เรามีพื้นฐานทุกๆด้านในอดีตที่ต่างกัน เลยทำให้ผลในปัจจุบันต่างกันด้วย

ผมแกล้งเรียงลำดับความสำคัญจากน้อยไปหามากนะครับ .......... จริงๆแล้ว ข้อ 3 สำคัญที่สุดครับ.... ผมอยากให้ลองมองย้อนกลับไปก่อนที่ กีฬา (ทุกชนิด) ยังเป็นเกม เล่นเพื่อความสนุกสนาน ก่อนที่จะกลายมาเป็น เกมเชิงธุรกิจแบบทุกวันนี้
ชาวยุโรป หรือแม้แต่อเมริกัน เขาจะเข้าชมกีฬา โดยยกโขยงไปทั้งครอบครัว พกข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง สาโท ปูเสื่อ นั่งกินกันที่สนาม เพราะเขามองการไปดู ไปเชียร์กีฬา เป็นการพักผ่อน เมื่อไปบ่อยขึ้นก็มีความเคยชิน ยิ่งมีคนในครอบครัว หรือในหมู่บ้านเป็นนักกีฬาด้วย การเชียร์ก็จะสนุก นี่คือจุดเริ่มต้นของความผูกพันระหว่างกองเชียร์กับทีมกีฬาในเขตนั้น นานวันก็จะเปลี่ยนเป็น "แฟนพันธ์แท้" ครับ......... แต่การเตรียมทีมต้องใช้ เงิน ครับ การที่จะรอเงินสนับสนุนจากรัฐ หรือบริษัทใหญ่ นั้นจะยากและไม่เพียงพอ ก็ต้องลงขันกันเองในชุมชนนั้น (ความผูกพันกับทีมก็เพิ่ม) โดยอาจจะมาจากการขายเสื้อทีม และที่ได้มากที่สุดคือเก็บค่าเข้าชม เมื่อมีเงิน ทุกอย่างก็ตามมา อุปกรณ์การซ้อมที่ดีขึ้น เครื่องออกกำลังกาย สามารถจ้างนักวิทยาศาสตร์การกีฬามาช่วยดูแลได้ นักกีฬาก็มีเงินเดือนใช้ เลยสามารถทุ่มเท และทำเป็นอาชีพได้ เมื่อทีมพร้อมสุดๆ ก็จะประสบความสำเร็จในการแข่งขัน กองเชียร์ก็จะภูมิใจในทีมและรักทีมมากขึ้น.........

มามองบ้านเรามั้ง.... บ้านเรานั้นจะมีโอกาสเชียร์กีฬากันตอนไหนบ้าง .... ลูกติดทีมโรงเรียนตอนชั้นประถมแข่งกันในกลุ่มโรงเรียน หลังจากนั้นก็ไม่มีอีกแล้วครับ ไม่มีจริงๆ ........ คนไทยเราจะมองเรื่องกีฬาเป็นเรื่องสุดท้ายเสมอ .....เด็กหลายคนมีพรสวรรค์ แต่ต้องหยุด เพราะพ่อแม่ไม่สนับสนุน "มึงเล่นแต่กีฬา แล้วมึงจะเอาอะไรกิน หือ ไอ้บ่าว"  "มึงต้องเรียนหนังสือให้เก่ง จะได้เป็นครู เป็นหมอ" ว่ากันไปนั่น....แต่แปลกนะครับ ไม่มีใครว่า "มึงต้องเรียนหนังสือให้เก่ง จะได้เป็นนักการเมือง เพื่อรับใช้ประชาชน".......     เมื่อมองกีฬาว่าไมประโยชน์ ก็จะไม่มีการไปเชียร์ เมื่อไม่มีการเชียร์ก็ไม่มีงบประมาณที่จะทำให้ทีมดีขึ้น นักกีฬาก็เล่นแบบ ว่างก็มาเล่น ไม่มีเงินเดือน การพัฒนาการก็เลยไม่มี........เขียนไม่ออกแล้วครับ ผมเป็นคนที่ค่อนข้างจะอินกับเรื่องนี้มาก อาจเป็นเพราะเคยประสบมากับตัวเองก็ได้......... เคยได้ยินคำนี้ในจุฬามั้ยครับ " เอ้ย ดูดิ๊เด็ก PE (พลศึกษา) เเม่งกระจอก จบไปมันจะทำอะไร แดกว่ะ 555555555  ขอโทษที่ใช้คำหยายนะครับ แต่เขาพูดกันอย่างนี้จริงๆ อ้าว โหงมาจบยั่งงี้ละเนี่ย ไปดีกว่า  

[seree_60]

ใจเย็นๆนะโยม ปัญหา อยู่ที่ว่า ไก่เกิด ก่อนไข่ หรือไข่ เกิด ก่อนไก่ นั่นแหละ ปุจฉ..วิสัชนา..สาธุ..อาเมน

[naiamphureak]

เกมส์กิฬาเหมือนเกมส์ชิวิตแหละพี่พี่ ใครอึดมากกว่าย่อมประสบผลสำเร็จ ความอดทน การรู้จักรอคอย ใช้เวลา ค่อยเป็นค่อยไป และมีเป้าหมายที่ชัดเจน ไม่สเปะสะปะ นั่นแหลคือเยอรมัน อยากเอ็นเตอเทนคนดู ก็เล่นสไตอังกฤษ ได้ใจแฟนแฟน แต่ไม่ได้แชมป์ อยากให้ดูสวยงาม สร้างความประทับใจคนอื่น อย่างฮอลแลน ก็มักจะไปไม่ถึงฝั่ง หากนำมาเปรียบกับการใช้ชีวิตคู่ หรือจะใช้ชีวิตทำอะไรในโลกก็เช่นกัน อาจดูแข็งแข็งเนือยเนือยไม่มีอะไรน่าตื้นเต้นแต่พ่อเฒ่าแม่เฒ่าของพวกเราก็อยู่กันพาตาย พวกดาราหวานแหวว ดูแล้วต้องอยู่กันไปสองชาติ ไปไม่ถึงไหนก็เลิกทุกราย ขอพูดแบบฟันธงนิดหนึ่งพวกพี่พี่นะชอบสุดสุด กับทีมอังกฤษและฮอลแลน แต่ถามประชาชนของพวกเขาซิเจ็บปวดทุกครั้งที่ฟูตบอลโลกมาถึงแล้วเห็นเยอรมัน อีตาลี รับแชมป์ ต้องเฝ้าคอยรอแล้วรออีก ขณะทีคนอื่นเขามีความสุขกับการเฉลิมฉลองจนอิ่มแปล้  แต่อย่างว่าแหละพี่ของในโลกนี้ได้อย่างเสียอย่างเสมอ ก็เมื่อได้ใจพี่พี่และแฟนส่วนใหญ่ในโลกไปแล้วนี่ ถ้วยแชมป์ให้ทีมอื่นบ้างก็ไม่แลก จริงไหมครับ

[naiamphureak]

เห็นด้วยกับความคิดเห็นของพี่เจตน์ แต่พี่ครับมาตรฐานเรามันก็ได้แค่นี้จริงจริงแหละพี่ มีหลายอย่างที่ต้องปรับปรุงพัฒนา ซึ่งต้องใช้เวลา และความอดทน ทำอย่างมีเป้าหมายร่วมกัน ซึ่งคูณสมบัติพื้นฐานเหล่านี้เรายังขาดแคลนอยู่ครับ 

[khesorn mueller]

ข้อ 3 กองเชียร์...Arena / stadionมีตามเมืองใหญ่ๆ matchเล็กๆ
ก็เล่นตามสนามฟุตบอลของหมู่บ้านไป อาทิตย์ไหนมี"Turnier"(tournament)
ที่หมู่บ้านต่อหมู่บ้านแข่งกัน ผู้คนผู้จำความรู้สึกนี้ได้จะไปดู!!รถจอดกันแน่นครืด
 พ่อพาลูกชายไปเกาะขอบสนามเชียร์ หากเป็นเกมใหญ่ระดับ Ligaอาจมีพวก Hooligan
รุ่นฝึกหัดไปเรียนรู้การเชียร์อย่างคลั่งไคล้ในกลุ่มก้อน ทีม
ของตน คงเป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก เหมือนชาวเราขึ้น
standเชียร์บอลประเพณี...แค่สังเกตุสิ่งรอบๆก็ตื่นตาตื่นใจ บอลจะแพ้ชนะ...who cares?
ขอให้ได้มีส่วนร่วม ให้ความร่วมมือ ที่โน่น เกมใหญ่ๆน่ะเชิงธุรกิจอย่างน้องเจตน์ว่า
ตั๋วไม่ถูกนะคะ...เด็กวัยรุ่นนี่เก็บสตังค์กันเลยล่ะ พี่ถามพ่อบ้านที่เคยเข้าเชียร์
ทั้งที่สนาม Stuttgartและสนาม Olympicที่ Munich,he
บอกเป็นความรู้สึกที่ฮึกเหิม บอกไม่ถูก การได้ไปนั่งท่ามกลางเสียงเชียร์ของคนหลายหมื่น!
การมีความรู้สึกทั้งอลังการ และเล็กๆระดับ"local"จึงเป็นประสบการณ์ที่สมบูรณ์..จำภาพ
public viewingใน tournamentระดับ Europeanมั้ยคะ เป็นเทศกาล เป็นงานปาร์ตี้ใหญ่
 เป็นความรื่นเริงสนุกสนานที่แปลกในสายตาคนบ้านเรา ยิ่งกองเชียร์ระดับประเทศ
 ยิ่งเกินบรรยายค่ะ...เอาจริงยิ่งนัก

น้องเจตน์พูดได้ตรงเป้า พอชีวิตสบายขึ้น คนก็หาความรื่นเริงค่ะ หรือมองอีกอย่างก็ได้คะว่าความสนุก
ของการเชียร์เป็นการหลุดพ้นจากสภาพความกดดันในการทำงาน!พวกเค้าจึง...ลงทุน!
หากชีวิตยังลำบากก็ควรที่จะจัดการกับปัญหาเฉพาะหน้าก่อน อยู่ดีกินดีมีเหลือก็ไปหาความสุข...patternนี้
ที่ไหนก็เหมือนกันคะ

[khesorn mueller]

เมื่อวานไปในเมืองมาคะ,พาลูกไปฉีดวัคซีนป้องกันหมัด
แวะไปรับพ่อบ้านที่บริษัท ไปร้านค้าพนักงาน ..ช่วงรอhe
กะลูกสาวเข้าไป,sheต้องเฝ้าลูกชายที่หลับสัปหงก
ร้อนก็ร้อนจริงๆ 32°c...ดูอะไรรอบๆกันดีกว่าคะ

ป้ายหน้าตึก บอกว่าความเสียหายหน้า-ข้างของการจอด
ทางเราไม่รับผิดชอบ


sheเหรอ?เฮอะ...perfectจ้ะ...เล่นเอาพ่อบ้านเสียวใส้ทุกที
เหอๆ

[khesorn mueller]

น้องเจตน์ทำ logisticไช่มั้ยคะ?
นี่คือแผนกนึงของเค้า ที่warehouse


มาเรื่อยๆ

[เจตน์]

นั่นแหละ งานผมเลยล่ะครับ

[khesorn mueller]

เสร็จแล้วไปpostให้พ่อบ้านไปคนเดียว
เราจะไปเข้าคิว กินไอติม...เด็กๆ... เย้


หลายรสเลือกไม่ถูก...ก้อนเบ่อเฮิ่ม 70 cent €




ไม่มีเวลาอ่านชื่อ ชี้สีเหลืองๆนั่นแหละ

[khesorn mueller]

ไปนั่งกินที่หน้าไปรษณีย์


เชื้อหมัดเข้าสิง นั่งกินไอติมไม่ได้ เดินไปเดินมา

[khesorn mueller]

ตึก Postเก่า...แบบใหม่น่ะสู้ไม่ได้หรอก


รถ Straßenbahnผ่านด้วยยยย


สวยๆ ขอใกล้ๆหน่อยเถอะ

[khesorn mueller]

หน้าร้อน...เป็นฤดูของรถเปิดหลังคา..cabriolet


ครอบครัวรอท่า...กุญแจอยู่ที่she...ก็เป็นchauffeur
กลับบ้าน กลับบ้าน ร้อนจะตายอยู่แล้ว


nn.

[khesorn mueller]

น้องหมอเจษอยู่แถวนี้ป่ะ?
พรุ่งนี้เค้าจะstart Tour de France 2009
(ทัวร์-เดอ-ฟร็อง)..พี่ตามข่าว hotนี้
ตั้งแต่เช้า! เอาเส้นทางไปก่อน
The route

<a href="http://www.youtube.com/v/IwTUFNMTP-M&amp;hl=de&amp;fs=1&amp;.swf" target="_blank">http://www.youtube.com/v/IwTUFNMTP-M&amp;hl=de&amp;fs=1&amp;.swf</a>

[khesorn mueller]

The Tour 2009

[khesorn mueller]

คุ้ยมาแล้ว ต้องคุ้ยให้หมด

[jumID]

หวัดดีค่ะหนุงหนิง
เที่ยวตามหาจนทั่ว ต้องแกะรอยตามห้องต่างๆจนมาถึงบ้านเลยนะ
ประมาณกลางเดือนจ้ะ จะไปเยอรมัน ตามคนที่บ้านไปดูงาน 1อาทิตย์แล้วไปต่อที่สวิต
มีอะไรแนะนำบ้างคะ ขอปรึกษาหน่อยจ้ะ

[khesorn mueller]

สวัสดีคะพี่จุ๋ม,
พี่จะปรึกษาหน้าจอ รึหลังไมค์คะ?
เอา addressบ้านหนิงไปก่อน
ถึงโน่นแล้วพี่จุ๋มโทรไปได้เลยคะ
พี่จุ๋มจะไปย่านไหนคะ: North,South,Southwest,East
หนิงจะได้ประมาณถูก

[jumID]

ไปกับพี่ตุ๊ค่ะ เมืองDORTMUND  1 สัปดาห์ และเมืองWINTERTHUR SWISS 1 WEEK
และเมือง HANNOVER 1 WEEK พอได้ไหม๊คะ เส้นทางนี้ ใกล้บ้านน้องหนิงบ้างเปล่า

[khesorn mueller]

พี่จุ๋มขา,
หนิงส่งแผนที่คร่าวๆมาให้คะ
ไกลมากค่ะ...นั่งรถไฟไปหาไม่คุ้ม
งั้นไว้คุยกันได้ป่าวคะพี่?

<a href="http://video.nationchannel.com/player.swf?file=http://video.nationchannel.com/data/1/2009/06/09/9ib6e6daaeg565cacci68.flv" target="_blank">http://video.nationchannel.com/player.swf?file=http://video.nationchannel.com/data/1/2009/06/09/9ib6e6daaeg565cacci68.flv</a>

[khesorn mueller]

พี่จุ๋ม,
Winterturในสวิตก็อยู่ติดชายแดนเยอรมันคะ
แต่ขับขึ้นบ้านหนิง..300-400กม.เหมือนกันพี่