churaipatara
|
|
« ตอบ #2525 เมื่อ: 14 มกราคม 2552, 19:46:52 » |
|
ได้ความรู้มากเลยค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #2527 เมื่อ: 14 มกราคม 2552, 22:11:12 » |
|
พี่พัช, พี่แจงยังอยู่ในงานพี่ต๋อยคะ อยู่กันอุ่นหนาฝาคั่ง...ยังคุยไม่จบคะ
nn.24+3
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
CHOOM~POOH
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 307
|
|
« ตอบ #2528 เมื่อ: 14 มกราคม 2552, 22:33:57 » |
|
ดีครับพี่แจง ขับรถกลับชลอย่างปลอดภัยนะครับ ตัวจริงพี่แจงสวยกว่าในรูปมากมายครับ และก็ขอบคุณสำหรับวันนี้นะครับ และก็เอาดอกไม้ไฮยาซินมาส่งก่อนนอนครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์
รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557
|
|
« ตอบ #2529 เมื่อ: 14 มกราคม 2552, 22:55:15 » |
|
ถึงบ้านปลอดภัยนะครับป้าแจง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #2530 เมื่อ: 15 มกราคม 2552, 09:03:19 » |
|
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์
รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842
|
|
« ตอบ #2531 เมื่อ: 15 มกราคม 2552, 18:23:39 » |
|
ราชพฤกษ์ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ดอกราชพฤกษ์ การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร Plantae ส่วน Magnoliophyta ชั้น Rosopsida
อันดับ Fabales วงศ์ Fabaceae วงศ์ย่อย Caesalpinioideae
เผ่า Cassieae สกุล Cassia สปีชีส์ C. fistula ข้อมูลทั่วไ ชื่อ ชื่อของราชพฤกษ์นั้นมีการเรียกแตกต่างกันออกไปในแต่ละท้องถิ่น ซึ่งส่วนใหญ่จะเรียกราชพฤกษ์ว่า คูน เนื่องจากจำง่ายกว่า (แต่มักจะเขียนผิดเป็น คูณ) ทางภาคเหนือเรียกว่า ลมแล้ง ทางภาคใต้เรียกว่า อ้อดิบ ในปัตตานีเรียกว่า ลักเกลือ หรือ ลักเคย ชาวกะเหรี่ยงและในกาญจนบุรีเรียกว่า กุเพยะ
การดูแลรักษา แสง ต้องการแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง น้ำ ต้องการปริมาณน้ำน้อย ควรให้น้ำ 7-10 วัน/ครั้ง อายุประมาณ 4 ปี สามารถทนต่อสภาพธรรมชาติได้ ดิน ชอบดินร่วนซุย ดินร่วนปนทราย ดินร่วนเหนียว ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 2-3 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 3-4 ครั้ง การขยายพันธุ์การตอนกิ่ง การเพาะเมล็ด วิธีที่นิยมและได้ผลดี คือ การเพาะเมล็ด โรคไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรค เพราะเป็นไม้ที่ทนทานต่อสภาพธรรมชาติพอสมควร ศัตรูหนอนเจาะลำต้น (Stem boring caterpillars) จะมีอาการ ลำต้นหรือยอดเป็นรู เป็นรอยเจาะทำให้กิ่งหักงอ การป้องกันรักษาความสะอาดบริเวณแปลงปลูก หรือกำจัดแมลงพาหะ ใช้ยาเช่นเดียวกับการกำจัด การกำจัดใช้ยาไดเมทโธเอท หรือ เมโธมิล อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก
สรรพคุณ ส่วนต่างๆ ของต้นราชพฤกษ์มีประโยชน์ดังนี้
ฝักแก่ เนื้อสีน้ำตาลดำและชื้นตลอดเวลา มีรสหวาน สามารถใช้เป็นยาระบายได้ โดยนำฝักมาต้มกับน้ำ และเติมเกลือเล็กน้อย ดื่มก่อนนอนหรือก่อนรับประทานอาหาร นอกจากนั้น ฝักแก่ยังมีสารที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทของแมลง เมื่อนำฝักมาบดผสมน้ำแช่ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน สารละลายที่กรองได้สามารถฉีดพ่นกำจัดแมลงและหนอนในแปลงผักได้ ฝักอ่อน สามารถใช้ขับเสมหะได้ ใบ สามารถนำมาใช้ในการฆ่าเชื้อโรคได้ ดอก แก้แผลเรื้อรัง
ความเชื่อ คนไทยในสมัยโบราณเชื่อว่า ควรปลูกต้นราชพฤกษ์ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของที่อยู่อาศัย เพื่อให้ผู้ที่อยู่อาศัยในบ้านเรือนมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นทวีคูณ ซึ่งความเป็นจริงคือทิศดังกล่าวจะได้รับแดดจัดตลอดช่วงบ่าย จึงควรปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ลดความร้อนและทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น
คนไทยในสมัยโบราณยังมีความเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นราชพฤกษ์ไว้ประจำบ้านจะช่วยให้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ด้วยคนไทยส่วนใหญ่ยอมรับว่าต้นราชพฤกษ์เป็นต้นไม้ที่มีคุณค่าสูงและยังเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติไทยอีกด้วย นอกจากนี้มีความเชื่อว่า ใบของต้นราชพฤกษ์เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพราะในพิธีทางไสยศาสตร์ให้ใบทำน้ำพุทธมนต์สะเดาะเคราะห์ได้ผลดีดังนั้นจึงถือว่าต้นราชพฤกษ์เป็นไม้มงคลนาม
เกร็ด ราชพฤกษ์เป็นดอกไม้ประจำจังหวัดขอนแก่น ราชพฤกษ์เป็นต้นไม้ประจำสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ [[มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒมหาวิทยาลัยมหาสารคาม, มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร และ มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น ราชพฤกษ์เป็นต้นไม้ประจำ โรงเรียนสาธิต "พิบูลบำเพ็ญ" มหาวิทยาลัยบูรพา ราชพฤกษ์เป็นต้นไม้ประจำโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ราชพฤกษ์เป็นต้นไม้ประจำโรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม จังหวัด นนทบุรี (ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๕๐) ราชพฤกษ์เป็นต้นไม้ประจำ กลุ่มโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ นวมินทราชูทิศ โรงเรียนนวมินทราชูทิศ กรุงเทพมหานคร โรงเรียนนวมินทราชูทิศ มัชฌิม โรงเรียนนวมินทราชูทิศ พายัพ โรงเรียนนวมินทราชูทิศ อีสาน โรงเรียนนวมินทราชูทิศ ทักษิณ โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ หอวัง นนทบุรี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #2532 เมื่อ: 16 มกราคม 2552, 08:15:10 » |
|
สวัสดีค่ะแจง ขอบคุณที่แจ้งข่าวและชวนเอ๋ตลอด ขอผลัดว่าเรียนจบก่อนนะคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
พัช 24
|
|
« ตอบ #2534 เมื่อ: 16 มกราคม 2552, 11:45:04 » |
|
ราชพฤกษ์ บางส่วนจาก http://www.culture.go.th/knowledge/nation/01.htmชื่อวิทยาศาสตร์ Cassia fistula Linn ชื่อวงศ์ CAESALPINIACEAE ชื่อสามัญ Golden Shower, Indian Laburnum,Pudding-Pine Tree, Purging Cassia ชื่อท้องถิ่น ภาคเหนือ เรียก ลมแล้ง ภาคใต้ เรียก ราชพฤกษ์ ปัตตานี เรียก ลักเกลือ ลักเคย ภาคกลาง เรียก ชัยพฤกษ์ ราชพฤกษ์ กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี เรียก กุเพยะ กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน เรียก ปีอยู, ปูโย, เปอโซ, แมะหล่า อยู่ อีสาน เรียก คูน ลักษณะทั่วไป ราชพฤกษ์เป็นไม้ยืนต้นสูงได้ถึง 15 เมตร เปลือกต้นสีเทา ผิวเรียบ ใบเป็นใบประกอบที่ปลายก้านใบเป็นคู่ ใบย่อยเป็นรูปไข่ ปลายใบแหลม เนื้อใบเกลี้ยงค่อนข้างบาง หูใบมีขนาดเล็กและร่วงง่าย ดอกออกเป็นช่อห้อยระย้าจากซอกใบ ช่อดอกมีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ มีแผ่นบาง ๆ ยาว 1.15 ซม. กลีบดอกมี 6 กลีบ สีเหลืองสดปลายมนเห็นเส้นลายชัดเจน ผลเป็นฝัก ทรงกระบอกเปลือกนอกบางและแข็งเหมือนไม้เรียบไม่มีขน ยาว20-60 ซม. มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5 -2 ซม. ภายในเป็นช่อง ๆ มีเมล็ดรูปรีแบบสีน้ำตาลจำนวนมาก การปลูก เพาะเมล็ดให้ได้ต้นกล้าสูง 30-50 ซม. ขุดหลุมกว้างและลึก 50-70 ซม. ตากดินไว้10-15 วัน ใช้ปุ๋ยคอกรองก้นหลุม นำต้นกล้าลงปลูก กลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม ปลูกง่าย ไม่ช้าก็ตั้งตัวได้ สรรพคุณทางยาฝัก รสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย มีกลิ่นเหม็นเอียน เย็นจัด ไม่มีพิษ สรรพคุณใช้ขับเสมะ ขับพยาธิ แก้เด็กเป็นตานขโมย เป็นยาถ่ายและแก้ไข้มาลาเรีย เนื้อในฝัก รสหวานเอียน ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ แก้ไข้มาลาเรีย แก้ปวดข้อ เมล็ด เป็นยาระบายและทำให้อาเจียนเรื่อ ดอก รสขมเปรี้ยว เป็นยาถ่ายแก้โรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหารและแผลเรื้อรัง ใบอ่อน รสเมา แก้กลาก ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เนื้อในฝักคูนมีสารประเภท Anthraqinones หลายตัว เช่น Aloin, Rhein, Sennoside A,B และยังมีOrganic acid สารAnthraquinone ทำให้เนื้อฝักคูนมีฤทธิ์เป็นยาระบายได้ โดยมีฤทธิ์ไปกระตุ้นการบีบตัว ของลำไส้เหมาะสำหรับผู้ที่ท้องผูกเป็นประจำ เรื่องรสของเนื้อในฝักขอยืนยันว่ารสหวาน เพราะสมัยที่ยังปีนป่ายตามต้นไม้ ก็เคยชิมรสเนื้อในของฝักคูนหรือราชพฤกษ์ มาแล้ว ส่วน คูนหรืออ้อดิบ วันนี้คงต้องไปเก็บภาพมาฝาก ค้นพบมาอีกว่า ภาคกลางก็เรียกบอนชนิดนี้ว่า คูนหรือบอนหวานค่ะ ว่าแล้วก็หิวแกงส้มอ้อดิบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พัช 24
|
|
« ตอบ #2535 เมื่อ: 16 มกราคม 2552, 11:50:56 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jacky
|
|
« ตอบ #2536 เมื่อ: 16 มกราคม 2552, 11:54:25 » |
|
ต้นไม้ก็น่าสนใจ กำลังสนใจคนเขียน คุณ ส พลายน้อย ที่เป็นผู้อาวุโสทางวรรณกรรมไทย ด้วยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
จงทำงาน อย่างมี ความสุข แต่อย่าหลงไปมีความสุขที่ได้อยู่กับงาน
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #2537 เมื่อ: 16 มกราคม 2552, 12:52:08 » |
|
สวัสดีค่ะ อ่านได้ความรู้ดีจังเลยค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
พัช 24
|
|
« ตอบ #2539 เมื่อ: 16 มกราคม 2552, 14:25:55 » |
|
อ่านแล้วค่ะแจง ยังไม่ได้วัดความยาว
ตื่นเต้นดีใจจังค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
CHOOM~POOH
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 307
|
|
« ตอบ #2540 เมื่อ: 16 มกราคม 2552, 15:59:16 » |
|
ความรู้เพิ่มเติมจากวิชา useful plant ของเภสัช จุฬานะครับ พวกพืชตระกูลบอนนะครับ เช่น กระดาษขาว กระดาษแดง บอน คูน เผือก พลูกฉีก บอนสี บุกและเพ็ชรสังฆาต จะมีผลึกรูปเข็มที่ไม่ละลายน้ำชื่อว่า calcium oxalate นซึ่งเมื่อถูกกัดหรือบีบจะทำให้ผลึกรูปเข็มออกมาครับ และจะไปทิ่มแทงเนื้อเยื่อในปากแคลำคอ ก่อให้เกิดการระคายเคือง บวมที่ปาก คอ ลิ้น กลืนน้ำลายลำบากและมีลักษณะเหมือนคนเป็นใบ้เพราะเสียงหาย ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุดในการนำไปประกอบอาหารคือต้องนำไปต้มให้สุกหรือนำไปแช่ด้วยกรด จะทำให้ผลึกรูปเข็มเกิดการสลายตัวครับผม สำหรับคนที่ชอบกินลูกเนียงนะครับ ลูกเนียงจะมีผลึกของ calcium oxalate แล้วยังมีผลึกรูปหนึ่งคือ Djenkolic acid เป็นผลึกรูปเข็มที่สามารถละลายน้ำได้ ดังนั้นเมื่อรัีบประทานเข้าไปจะเกิดการละลายในกระแสเลือดและไปตกตะกอนในระบบทางเดินปัสสาวะครับ ก่อให้เิกิดรูปนิ่วได้ ดังนั้นวิธีที่จะทำให้ผลึกรูปเข็มชนิดนี้หมดไปมีด้วยกัน 3 วิธี คือ 1. นำลูกเนียงไปเพาะในกระบะทรายแล้วเอามีัดตัดส่วนต้นอ่อนออก(สารพิษมีมากในส่วนที่เป็นต้นอ่อน ยอดอ่อน) 2. นำลูกเนียงไปฝานเป็นแผ่นแล้วนำไปตากแดด 3. นำลูกเนียงไปต้มในสารละลายผงฟู (NaHCO3) ขอบคุณครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
|
jacky
|
|
« ตอบ #2546 เมื่อ: 16 มกราคม 2552, 21:03:12 » |
|
ได้ความรุ้ดีแท้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
จงทำงาน อย่างมี ความสุข แต่อย่าหลงไปมีความสุขที่ได้อยู่กับงาน
|
|
|
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์
รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557
|
|
« ตอบ #2547 เมื่อ: 16 มกราคม 2552, 21:20:44 » |
|
ภู่นะครับ เท่าที่ผมจำได้นะครับว่าต้นอ้อดิบรู้สุกว่าไม่ใช่ต้นราชพฤกษ์นะครับ มันน่าจะเป็นพวกพืชตระกูลบอลอะครับ เพราะ้เวลาแม่ทำอาหารก็จะบอกว่าให้บอกให้ไปบอกอ้อดิบก็จะไปผอมพวกที่คล้ายพวกบอลอะึคับ
ปล.พี่พัชครับ ผมไม่ชอบอาหารใต้เลยครับเพราะมันมีกลิ่นเหม็นก็เลยไม่กินอะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์
รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557
|
|
« ตอบ #2549 เมื่อ: 16 มกราคม 2552, 23:44:49 » |
|
ปล. คำพูดด้านบนเป็นของพี่ผู้เด้อคับ พี่ผู้ใช้ user ผมพิมพ์เมื่อตอนเย็น เพราะว่า แวะมาห้องผมครับผม สำหรับผม ไม่รู้ว่าชอบอาหารใต้หรือเปล่า แต่สะตอ เป็นสิ่งที่อร่อยมากๆคับ แถวบ้านผมขายแพงเวอร์ ฝักละหลายบาท.... ชอบกินกับน้ำพริก พูดแล้วก็หิว แหะๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|