23 พฤศจิกายน 2567, 23:24:40
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 205 206 [207] 208 209 ... 301   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: Greeting From Germany part V ต่อกับ part I....what's up?  (อ่าน 1542593 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 27 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5150 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2554, 23:47:43 »

พี่น้อง,
วันนี้บึ่งออกไปหาอะไรให้คนที่เมืองไทย
ซื้อหา แพ็คเสร็จ เขียนกำกับ ตรงไปไปรษณีย์
ที่รู้จักหน้าตาเรียกกันด้วยชื่อสกุล...คิดดู!
เค้ารู้ว่าถ้ามิสซิสมึลเล่อร์มาส่งของล่ะก็
ต้องเตรียมอะไรให้sheมั่ง! เลือกกล่อง แพ็คห่อ
พอจะจ่าหน้า....ต่ายห้าาาา.....ลืมaddressที่จะส่ง!
เอ๋า ใครว่าสถานที่ที่เมืองไทยสั้นๆ??ยาววววเฟื้อย
เดาก็ไม่ได้ ต้องexactลงถึงตัวเลขรหัสไปรษณีย์
ม่ายงั้น ศูนย์scan & checking ที่Postzentral
ที่อ่านด้วยเครื่องได้เหวอกันมั่ง...ไม่มีทางเลือกจริงๆคะ
นอกจากบึ่งกลับบ้าน ...แล้วลนลานกลับไปอีกรอบ
เพราะเค้ากำชับว่า 17.00น. post-packageรอบสุดท้าย
ของวันนี้จะออก...

ตื่นเต้น เหงื่อแตกที่อุณหภูมิ4°c!
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5151 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2554, 11:41:11 »

เพิ่งเปิด mailboxเช้านี้
ได้รับเรื่องดีๆให้อ่านมาจากพี่เหน่ง-รัฐศาสตร์26
ที่ส่งจากChicagoไป Germany...

พี่เหน่ง,ขอบคุณมากคะ
หนิงนำมาแปะแบ่งกันอ่านที่นี่นะคะพี่เหน่ง-พี่โต.












 หนังสือ ซึ่งเล่าถึงการเลี้ยงลูกแบบแม่เสือกำลังเป็นที่ฮือฮาในสหรัฐฯ
หนังสือเรื่องนี้มีชื่อว่า “Battle Hymn of the Tiger Mother” และกำลังถูกวิจารณ์โจมตีอย่างหนัก
จากสื่อมวลชนและชาวอเมริกัน หลังจากนิตยสาร เดอะ วอลล์สตรีต เจอร์นัล
ตัดทอนข้อความบางส่วนในหนังสือ พิมพ์เผยแพร่
       
       หนังสือเล่มนี้เล่าถึงวิธีการเลี้ยงลูกอย่างเคี่ยวเข็ญ เข้มงวดกวดขันสุดขีด ตามแบบวิธีการเลี้ยงลูกของคนจีน
โดยสรรเสริญประโยชน์ของการเลี้ยงดูแบบไม่เหลวไหล ไร้สาระนี้ว่าดีกว่าการเลี้ยงลูกอย่างสบาย ๆ
ผ่อนคลายในโลกตะวันตก
       
       ผู้แต่งคือ Amy Chua อาจารย์สอนวิชากฎหมายของมหาวิทยาลัยเยล เธอเป็นแม่ของลูกสาววัยรุ่น 2 คน
สำหรับเธอเองนั้นเป็นลูกสาวของชาวฟิลิปปินส์ เชื้อสายจีน ซึ่งมาตั้งรกรากบนแดนลุงแซม


Amy Chua ผู้เขียน Battle Hymn of the Tiger Mother


Battle Hymn Of The Tiger Mother เป็นเล่มที่สามที่เธอเขียน มีทั้งคนชื่นชมและคนด่า
หลายคนก็ศึกษาเปรียบเทียบกับการเลี้ยงลูกแบบอเมริกัน
หนังสือเริ่มเป็นที่โจษจันเมื่อ Wall Street Journal ดันเอาเรื่องย่อไปเขียน
แต่ให้หัวข้อว่า "Why Chinese Mother Are Superior" (ทำไมแม่ชาวจีนถึงเหนือกว่า)
โดยที่ตัวเธอเองไม่รู้หรือเห็นด้วยกับการใช้ชื่อดังกล่าว
เรียกความหมั่นใส้ได้มากมาย มีคนเข้าไปอ่านเป็นล้าน มีคนเขียนความเห็นเกือบหมื่น
บางคนก็ว่าเธอเป็นปีศาจ การเลี้ยงลูกแบบของเธอเป็นการฝ่าฝืน
หรือถามว่าการยอมรับและความรักมันหายไปไหนหมด ในบทความกล่าวว่า
จากการสำรวจแม่ชาวอเมริกัน กับแม่ชาวเอเซียอพยพ พบว่า 70% ของแม่ชาวอเมริกัน
บอกว่าการศึกษาหนักเกินไปและไม่ดีสำหรับเด็ก พ่อแม่ต้องพยายามเสริมสร้างความรู้สึกว่า
การเรียนเป็นเรื่องสนุกให้ลูกๆ  ขณะที่แม่ชาวเอเซียอพยพ 0% มีความเห็นเช่นนั้น
ชาวเอเซียคิดว่า การศึกษาเป็นตัวบ่งชี้ความสำเร็จของการเลี้ยงดู และ Chua บอกว่า
ความสนุกกับสิ่งใดๆจะเกิดขึ้นได้ก็เมื่อสามารถกระทำสิ่งนั้นได้อย่างเชี่ยวชาญแล้วเท่านั้น
ที่จริงชาวเอเซียนก็ช๊อคกับการเลี้ยงลูกของฝรั่งเหมือนกัน เช่นการยอมให้เด็กๆ เล่น Facebook
เป็นชั่วโมงๆ หรือเอาเวลาไปทิ้งกับการดูทีวี หรือเกมคอมพิวเตอร์
ไม่เตรียมการสำหรับอนาคตที่โหดร้ายขึ้นทุกวัน ขณะที่เด็กมัธยมโรงเรียนดังๆ
ในซั่งไห่นั้นอ่านหนังสือถึงเที่ยงคืนทุกวัน
.

สำหรับ Chua นั้นมีข้อห้ามและบังคับต่างๆมากมายเช่น
- ห้ามไปนอนค้างที่อื่น
- ห้ามดูทีวี เล่นคอมพิวเตอร์เกม
- เล่นกับเพื่อน
- ร่วมการละเล่นโรงเรียน
- บ่น หรือขาดสัมมาคารวะ
- ได้เกรดต่ำกว่า A
- เลือกกิจกรรมนอกหลักสูตรด้วยตัวเอง
- ไม่ได้เป็นที่หนึ่งในชั้น นอกจากวิชาพละและการแสดง
- ไม่ซ้อมไวโอลินหรือเปียโน
- ใช้ของแพง หรือของมียี่ห้อ แบรนด์เนมต่างๆ ฯลฯ
บางครั้ง Chua ถึงกับบังคับให้ซ้อมเครื่องดนตรีหลายชั่วโมงจนกว่าจะเล่นบทเพลงที่ต้องการได้
เมื่อลูกคนเล็ก Lulu เริ่มประท้วงเตะโน่นนี่ ฉีกโน๊ตทิ้ง เธอก็เอามาแปะติดกันใหม่แล้วห่อไว้ไม่ใช้ฉีกได้
บอกว่าจะเอาบ้านตุ๊กตาไปบริจาคให้ทหารหน่วยบรรเทาทุกข์ถ้ายังไม่เล่นให้ได้ ขู่ว่าจะไม่ให้ทาน
อาหารกลางวัน อาหารเย็น ไม่จัดคริสต์มาสปาร์ตี้ ไม่ซื้อของขวัญให้ ไม่จัดงานวันเกิดให้สามสี่ปี
ถ้าหากยังเล่นไวโอลินผิดอีก แล้วก็บังคับให้ฝึกโดยไม่มีหยุดพัก หรือแม้กระทั่งดื่มน้ำเข้าห้องน้ำ
และไม่ได้ทานอาหารเย็น บรรยากาศเป็นแบบสงคราม  จนในที่สุดลูกของเธอก็เล่นสิ่งที่ตัวเอง
ไม่มีความคิดว่าจะสามารถเล่นได้มาก่อนได้  Lulu ดีใจมากและเข้าไปนอนกับแม่ในคืนนั้น


ถึงเธอยอมจะรับตรงๆถึงความไม่ปราณีในการเลี้ยงลูกทำให้มีคนด่าทั้งออกอากาศทั้งในเน็ท
แต่หนังสือของ Chua ก็ยังกลายเป็นหนังสือขายดี มีคนพูดถึงกันทั้งเมือง เป็นการสะท้อนว่า
สังคมอเมริกันที่ปรกติไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวนอกบ้านตัวเองกำลังคิดหนัก
หนังสือนี้ถ้ามาขายในเอเซียอาจจะไม่มีคนสนใจเพราะมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับชาวเอเซีย
แต่สำหรับประเทศที่เน้นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลอย่างอเมริกา วันนี้สิ่งที่คนทั้งชาติจับตามอง
กลับไม่ใช่รายงานปึกใหญ่ของรัฐบาลว่าทำไมหลายๆอย่างของอเมริกาถึงล้าหลัง
แต่กลับเป็นหนังสือเล่มเล็กๆเรื่องความวิตกกังวลของแม่คนหนึ่งในการเลี้ยงลูกหัวดื้อ
.


หลังจากโดนอเมริกันหัวแข็งด่าไปพอสมควร แท้จริงแล้ว Chua ไม่ได้ต้องการจะบอกว่า
เลี้ยงลูกแบบไหนดีกว่ากัน มันไม่ใช่หนังสือแนะนำการเลี้ยงลูก
หนังสือที่เธอเขียนเป็นเพียงแค่บันทึกส่วนตัวของเธอ มันมีทั้งส่วนที่เธอปฏิบัติแล้วก็คิดว่า
เป็นส่วนที่ผิดพลาด เธอไม่ใช่ปีศาจและการกระทำของเธอมีพื้นฐานอยู่บนความรัก


พ่อแม่ของ Chua หนีสงครามมาจากฟิลิปินส์เมื่อตอนที่ถูกญี่ปุ่นบุก  และย้ายมายังอเมริกา
มีชีวิตที่ต้องต่อสู้ และเลี้ยงดูเธออย่างเข้มงวด ที่บ้านห้ามพูดภาษาอังกฤษ เพราะต้องการ
ให้หัดภาษาจีน หากพูดอังกฤษก็จะโดนเอาตะเกียบเคาะหัว  แต่บ้านก็เต็มไปด้วยความรัก
Chua ต้องการบอกว่าวิธีของเธอใช่ว่าจำสำเร็จไปเสียทั้งหมด
ลูกคนแรกของเธอ Sophia เชื่อฟังดี แต่ลูกคนที่สอง Lulu นั้นดื้อและบางทีก็ไม่ยอม
ทำตามจนในที่สุดเธอก็ต้องยอมแพ้เรื่องดนตรีและยอมให้ Lulu ทำตามที่ตัวเองชอบคือ
ด้านกีฬาแทน ต่อมา Chua ก็อะลุ้มอล่วยมากขึ้นกับลูกๆทั้งสอง แต่ก็ยังเข้มงวดอยู่ดี
.
จากการศึกษาของนักจิตวิทยา ผลก็คือการปกป้องเด็กมากเกินไปจากความไม่สะดวกสบาย
หรือความเครียดนั้นสนับสนุนความคิดของ Chua เด็กที่สบายเกินไปมักจะ อ่อนแอกว่า
เอาชนะอุปสรรค์ต่างได้น้อยกว่า และมีอารมณ์ปลอบบางกว่า
จุดก็คือพ่อแม่ต้องตั้งสันนิษฐานบนพื้นฐานของความสามารถและพลังของเด็ก
ไม่ใช่ความอ่อนแอไร้ความสามารถของเด็กๆ ต้องคิดว่าเด็กๆสามารถเอาชนะอุปสรรค์ได้
.


จากการศึกษาที่ Stanford U. การที่วัฒนธรรมอเมริกันคือชอบชม'ความสามารถ' ของเด็ก
ว่า "เก่งมาก ฉลาดมาก มีพรสวรรค์" จะทำให้เด็กเหล่านี้ปฏิเสธที่จะแก้ปัญหาที่ยากหรือท้าทาย
มากกว่าเดิม เพราะเขาไม่อยากแสดงจุดออนออกมาถ้าหากล้มเหลว พวกเขาต้องการรักษาตำแหน่ง
ยอดเยี่ยมตามคำชมที่ได้รับเอาไว้
ขณะที่การชม 'ความพยายาม' ของเด็ก เช่นบอกว่า "คงทำงานมาหนักนะ" ทำให้เด็กยินดีที่จะ
ทำอะไรที่ยากและท้าทายกว่าเดิม
.


จากการศึกษาที่ U. Of Virginia บอกว่าหากไม่ฝึ่กทำอะไรซ้ำๆจนคล่องแล้ว สมองก็ไม่สามารถ
ที่จะปฏิบัติการขั้นสูงๆขึ้นไปได้ เช่นนักดนตรีต้องซ้อมให้คล่องก่อน ถึงจะสามารถตีความหมาย
เข้าถึงความรู้สึกและอารมณ์ของบทเพลงได้ หรือการฝึกทำข้อสอบของเด็กๆก็เช่นกัน
Chua อุปมาว่าแม่ชาวเอเซียให้ลูกฝึกทำแบบฝึกหัดหรือกิจกรรมทางการศึกษามากกว่าชาวอเมริกัน
เป็น 10 เท่า Chua คิดว่า เด็กๆไม่ควรจะหาทางออกง่ายๆแบบหลีกหนี
การทำให้เด็กรู้ว่าตัวเองสามารถทำสิ่งที่ไม่คิดว่าจะทำได้มาก่อนนั้นจะเป็นประสบการณ์ติดตัว
ไปชั่วชีวิต ลูกคนเล็กของเธอ Lulu บอกกับเธอตอนที่จะส่งกระดาษเปล่าในการสอบคณิตศาสตร์
ว่า เธอได้ยินเสียงของแม่บอกว่า "พยายามคิดเข้าไว้ เธอทำได้" ก้องอยู่ในความคิด หลังจากนั้น
คำตอบมันก็ออกมาเอง
.
หนังสือของ Chua ทำให้หลายๆคนเข้าใจพ่อแม่ตัวเองมากขึ้น
หลายคนหวังว่าพ่อแม่น่าจะเข้มงวดกับตัวเองเมื่อตอนเด็กๆมากกว่านี้


Chua นั้นรู้สึกขอบคุณพ่อแม่ที่ทำให้เธอได้ ประสบความสำเร็จ มีโอกาศและทางเลือกมากขนาดนี้
เธอจำได้ที่พ่อของเธอต้องทำงาน ถึงตี 3 ทุกวัน ใส่รองเท้าคู่เก่าถึง 8 ปี รุ่นพ่อแม่ของเธอนั้นต้อง
ทำงานหนักและต่อสู้ดิ้นรน ขณะที่รุ่นเธอเองนั้นมีทุกอย่างมากกว่าและสบายกว่า ส่วนรุ่นลูกของเธอ
นั้นเกิดมา พร้อมกับความสะดวกสบาย มีทุกสิ่งทุกอย่างเพียบพร้อม เช่นหนังสือปกแข็ง ของใช้
หรือของเล่นราคาแพง เสื้อผ้าแบรนด์เนม การถูกปกป้องตามรัฐธรรมนูญ ทำให้พวกเขารู้สึกว่า
ตัวเองมีสิทธิที่จะไม่เชื่อฟังหรือทำตามเมื่อถูกบอกให้ทำอะไรที่ยากๆ
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่อเมริกันกำลังคิดทบทวนถึงการเลี้ยงลูกแบบอิสระ
การศึกษาที่สบายๆ ไม่หนักหน่วงสไตล์อเมริกัน หรือการดูถูกการเรียนแบบท่องจำของตัวเอง
ทำให้ประสิทธิภาพของประเทศต่ำลงหรือเปล่า
ขณะที่เอเซียบางแห่งก็พยายามเปลี่ยนการศึกษาของตัวเองให้เป็นแบบตะวันตกมากชึ้น
คงยากที่จะตัดสินว่าอะไรดีกว่ากัน



      บันทึกการเข้า


เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #5152 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2554, 12:04:03 »

แล้วน้องหนิง
เห็นอย่างไรจ้ะ
หรือเลี้ยงแบบฝรั่งบ้างไทยบ้าง
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5153 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2554, 12:59:56 »

หนิงเลี้ยงแบบผสมจริงๆด้วยคะพี่
ทั้งๆที่ความจริงมองลึกๆ และเข้าใจให้ถ่องแท้
หนิงว่าหลายอย่างของวิธีเลี้ยงลูกที่โน่น
มีอะไรดีๆแอบแฝงอยู่มากมาย...ต้องตกตะกอนก่อน
และมองให้ได้ทั้ง 3 มิติ ซึ่งหมายถึงต้องใช้เวลานาน
ในการเข้าใจให้ได้จะเห็นว่าก็ไม่เลวคะ!
คนที่โน่นมีวินัย โปร่งใส และ ขยันอยู่แล้ว
เราเพียงเดินตามทางที่เห็นๆว่าเค้าทำอะไร ยังไง

แฟนหนิงเข้มงวดกวดขันลูกๆมากกว่าหนิงที่มอง
ว่าเด็กๆควรได้เรียนรู้ที่จะต่อสู้เอาตัวรอดด้วยlimit
ที่เค้าทำได้ในเรื่องเรียน...แต่พี่เอมอรนึกออกมั้ยคะ
ว่าเค้าเรียนจนจบด๊อกเตอร์ของที่โน่น...มันต้องมี
อะไรมากกว่านั้นแน่ๆ...หนิงเลยต้องเฝ้าดูห่างๆเมื่อ
เค้าเข้มงวดกับลูกสาวซึ่งเรียนรู้ช้ากว่าลูกชาย...
ยิ่งพ่อมาสอนเกินครูแกก็จะต่อต้าน...มันจะเป็นไปได้
ยังไงกัน?ที่พ่อจบมาด้วยเกรดsehr gutในฟิสิกข์-คณิตศาสตร์
จะยอมรับคะแนนโหล่ของลูก?? heเคี่ยวเข็ญนั่งสอน
ว้ากกันลั่นบ้าน...จนคะแนนคณิตศาสตร์ล่าสุดของลูกสาว
หนิงดีที่สุดในชั้น...
มันน่าทึ่งในความกระตือรือร้นสนใจและเจาะถาม
ต่อๆไป...เค้าช่างมีพลังงานมากมายในการดันหลังเด็กๆ
ให้สนใจในเรื่องอื่นๆ...

พี่เอมอร,เรื่องบางเรื่องต้องผ่อนต้องปรนด้วยคะ
วิถีเอเชีย มีอยู่ในสายเลือดเราอยู่แล้ว แต่ก็ต้องปรับ
ให้กลมกลืนกะวิถีที่โน่น...ไม่ง่ายเลยพี่!
ทำยังไงให้ลูกเคารพเชื่อฟังแต่ขณะเดียวกัน
ไม่หงอและขลาดกลัว ไม่กล้าพูดไม่กล้าแสดง
ในสิ่งที่เค้าคิดเค้าเชื่อ หรือ การตั้งใจจริงในสิ่ง
ที่เค้าคิดเค้าเชื่อ หลายเรื่องพี่!

นี่ลูกชายหนิงเพิ่งทำกระเป๋ากีฬาหาย
ลืมไว้บนรถ S-Bahn รองเท้ากีฬาใหม่เอี่ยม
เบอร์ผู้ใหญ่ กระเป๋าขนาดกระทัดรัดสวยงาม
สำหรับถือไปเล่นกีฬา....หนิงเลือกซื้อให้เอง
ใช้ของดี...โทรไปถามว่ามีใครจะเอามาส่งคืน
ไว้ก็ไม่มี....
ถ้าเป็นหนิง สงสารลูกจะพาไปซื้อใหม่!
แฟนหนิงบอกมันเป็น consequenceที่ว่า
ในเมื่อไม่สนใจในสิ่งของก็ต้องใช้เงินpocket money
ซื้อเอง!!อดค่าขนมอีกนานล่ะพี่.

ตัวอย่างมีมากมายคะที่มองแล้วเล็กน้อย
แต่มองให้ลึก มันดีต่อการอบรมเด็กที่เรา
มองแล้วอดสงสารไม่ได้.
      บันทึกการเข้า


เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #5154 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2554, 15:27:23 »

และที่สำคัญ พ่อกับแม่ต้องไม่ต่อต้านแนวทางที่อีกคนทำ
ไม่เช่นนั้นเด็กจะสับสน ว่าใครถือหางใครในเรื่องอะไร
เด็กเก่งจะตายในเรื่องนี้ที่จะหาตัวช่วย
หากรับแนวทางกันไม่ได้ พ่อ แม่ ต้องคุยกันก่อนลงมือทำ
เรื่องมีพ่อ แม่เก่ง นี่ มองอีกแง่ก็เป็นเรื่องแย่ของลูกนะ
เด็กจะกดดันตรงนี้มาก หากเด็กสู้ก็ดี แต่หากเด็กไม่ชอบสู้เด็กก็จะเสียศูนย์ยอมแพ้ไปเลย
เพราะเด็กจะลำบากมากในการต้องสู้กับชื่อเสียงและความเก่งของพ่อแมด้วย
คือทำดีแล้วเสมอตัว  หากเก่งคนก็ว่าเพราะพ่อแม่เก่ง กลายเป็นเด็กไม่ภูมิใจตัวเอง
คือคนจะคาดไว้แล้วว่าพ่อแม่เก่งลูกจะต้องเก่ง
หากเด็กทำไม่ได้ตายเลย  ตำกว่าความคาดหวัง
เรื่องนี้ลูกพี่พร่ำประจำ ว่าพ่อ แม่ไม่จบจุฬาไม่ได้หรือ
พี่ถามว่าทำไม  เขาก็บอกว่าในการทำให้เสมอ หรือดีกว่ายาก
เขาไม่อยากขยันเท่าไหร่แต่จำเป็น ต้องรักษาระดับที่ในโรงเรียนไว้
เวลาเขาtop หรือทำอะไรที่เก่ง เพื่อนๆ ก็จะบอกว่า"ไอ้.....มันเก่ง พ่อ แม่ มันจบ จุฬาทั้งคู่"
 ซึ่งไม่เกียวกันเลย ลูกพี่เซ็งมากในเรื่องนี้
มันก็มีแง่คิด ๒ด้านนะคะ น้องหนิง
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5155 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2554, 15:41:20 »

พี่เอมอรฉุกให้หนิงคิดอีกแล้วคะ
เพราะอ่านบทความข้างต้นแล้ว
แตกความคิดไปได้หลายอย่าง

ผู้เขียนเธอมีครอบครัว(พ่อแม่ฟิลิปปินส์-เชื้อสายจีน)
รากเหง้าที่แท้ๆบนพื้นฐานที่เธอยัง
ยึดถือเป็นแบบอย่างได้ในแผ่นดินใหม่
ที่คนที่ดีกว่าเหนือกว่าเท่านั้นจึงจะประสบผลสำเร็จ.

ตัวอย่างแบบนี้เราไม่ได้เห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันที่เมืองไทย
หรอกหรือคะ?ที่ชาวจีนโพ้นทะเลที่เข้ามาตั้งรกราก
รุ่นที่1ต้องต่อสู้ รุ่นที่สองที่สามจึงสบายกว่า มีชีวิตที่ดีกว่า
สิ่งที่เค้าได้รับการปลูกฝังจึงแตกต่างจากคนท้องถิ่นที่
อยู่กินไม่ขาดตก พอเพียงด้วยสิ่งที่เค้าเชื่อว่าแค่นั้นก็ได้แล้ว?

ถึงเข้าใจว่าแน่นอนบทความของเธอย่อมถูกมอง
ได้หลายแง่ แต่มองลึกๆก็ยากที่จะตอบได้คะว่า
เป็นแบบอย่างที่น่าดูเป็นตัวอย่าง หรือเป็นแง่คิดได้,
สังคมที่เค้าอยู่ ผสมปนเปหลายชาติศาสนาสีผิว
การจะรวมชาติให้เป็นชาติ จึงต้องใช้เวลาอีกยาวนาน

อะไรคือความคิดความเชื่อที่ปลูกฝังต่อไป
เพราะเป็นแนวทางปฏิบัติที่สืบทอดส่งต่อ
มาหลายชั่วอายุคน  เมื่อถามว่าความเป็น
วัฒนธรรมที่แท้ กับวิถีที่ปฏิบัติจริง ในการผสม
ปนเปนั้น มองภาพให้ออกว่าสิ่งที่เธอได้รับ
ความสำเร็จทั้งปวงนั้นเด่นเหนือคนอื่นเพราะ
เธอแตกต่างจากส่วนอื่นๆที่เธอว่าไม่ดีไม่น่าเอาอย่าง?
มีความขอบคุณต่อการได้อยู่ได้อาศัยได้ทำมาหากิน
ได้ประสบความสำเร็จได้ดีเหนือคนอื่นๆแค่ไหน?
รึถ้าไม่ดีก็ละทิ้งถิ่นฐานไปแสวงหาโอกาสที่อื่นต่อไปอีก?
เหมือนรุ่นพ่อแม่เธอที่คุณลักษณ์นี้น่าจะประสบความสำเร็จ
ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนสิพี่?รึนั่นคือฝันของอเมริกัน ความสำเร็จ ความเป็นเลิศ?

มองยากคะ หนิงเห็นตัวอย่างของชาวฟิลิปปินส์ที่โน่น
ยังคิดในใจ เอ,ประเทศนี้ยังมีอยู่แน่นะ? existแน่นะ?
เหมือนคนเค้าไม่อยากจะเป็นเค้าน่ะพี่?คือยังไงดี??
หนิงเห็นกลุ่มหญิงไทยเค้าอยู่เค้าใช้ชีวิตยาวนาน
เค้าไม่ค่อยมีความคิดจะเปลี่ยนสัณชาติเปลี่ยนไปเป็น
เยอรมันน่ะพี่ ขณะที่หญิงฟิลิปปินส์ไปถึงปุ๊บอย่างแรก
ที่เค้าทำเลยก่อนพูดได้ด้วยซ้ำคือรีบขอเปลียนสัณชาติ
รีบขอถือพาสปอร์ต รีบ รีบ รีบทุกอย่าง....ไม่รู้ว่าทำไปแล้ว
จะทำให้อยู่ดีมีความสุขกว่ามั้ย?

ตอนปีแรกที่หนิงไปอยู่ คนข้างบ้าน เพื่อนสนิทที่โรงเรียน
หนิงเป็นชาวฟิลิปปินส์เค้าพาไปเข้ากลุ่มกะสาวๆฟิลิปปินส์
มันขัดแย้งในใจหนิงมากเลยคะ!บอกไม่ถูก...เหมือนเค้า
ไม่อยากให้ใครมองว่าเค้ามาจากฟิลิปปินส์น่ะพี่.

กรณีของลูกๆหนิงจึงเป็นกรณีที่แตกต่างจากข้างต้น
ตรงที่เด็กๆพวกนี้เป็นลูกผสม เป็นลูกครึ่งที่หนิงไม่สามารถ
จะให้เค้าเป็นไทยทั้งหมดหรือเยอรมันทั้งหมดได้
ในเมื่อเด็กเยอรมันผมทองเองก็มองลูกๆหนิงว่าไม่ไช่เยอรมันแท้ๆ
ที่โน่นไม่ไช่อเมริกาที่มีความหลากหลายกว่า
จึงไม่ไช่เรื่องง่ายคะสำหรับลูกหนิงที่จะidentifyตัวเอง.
แต่การศึกษาคะพี่ที่จะทำให้ลูกๆหนิง smartเป็นคนรุ่นใหม่
สายเลือดใหม่ มีความผสมผสานกลมกลืน และ
มีความสุขในอนาคต....นั่นคือเป้าหมายที่หนิงกะแฟนมีเหมือนกัน.
      บันทึกการเข้า


เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #5156 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2554, 16:49:22 »

น้องหนิง
แม้ว่าอยุ่ต่างประเทศมานาน
พี่ว่า ความคิดอย่างไทย และ ภาษไทย สำนวน ของน้องหนิง ยังเฉียบค่ะ
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5157 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2554, 21:33:05 »

พี่เอมอรขา,
หนิงก็ได้รับการฝึกจากที่นี่ล่ะค่ะ
ในเมื่อทุกวันก็อ่าน-ฟัง-พูดภาษาเยอรมันอยู่แล้ว
ทุกวี่ทุกวัน...จนอ่านแปลเข้าถึงความหมายข้างใน
ถ้าไม่ได้คิดและเขียนลง ด้วยภาษาไทยอีก..ก็ไม่รู้
จะได้ทบทวนได้ที่ไหน จำได้ว่าน้องรุ่น32คนนึงเคย
เปรยว่าภาษาไทยหนิงแปลก..เหมือนภาษาแปล!

แต่ภาษาเด็ก ภาษาคิ้กคุ ที่ในเวบเค้าใช้กัน...
หนิงขอล้าสมัยค่ะ ไม่ถนัดเอาเลยจริงๆ
ชิมิ นุ้งหนิง?
ฟังแล้วเกิดอาการลิ้นสั้น ออกเสียงไม่ถูกทันที!
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5158 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2554, 22:04:31 »

พี่เหน่ง-พี่โต ส่งส่วยกันเรื่อยๆ
(รูปพี่จู ที่พี่ยาสขอด้วยคะ อย่าลืม!
ฮี้,ได้คืบจะเอาศอก...)

ดูแล้ว..ผ่านคะ!
น่าจะได้เปิดทันช่วงตรุษจีน
แต่ไม่เป็นไรคะ หนังทำดี
ดูแล้วอยากร้องไห้คะพี่


ขอแปะที่นี่นะคะพี่ๆ









ผลงานโฆษณาชิ้นนี้ เป็นของ Ogilvy & Mather ไต้หวัน
สร้างจากเรื่องจริงของกลุ่มนักบิดไต้หวัน วัยเฉลี่ยกว่า 81 ปี โดยมีครีเอทีฟและผู้เขียนบท
คือ เจนนิเฟอร์ หู ออกแบบศิลป์ โดย ลีอา เฉิน และกำกับฯ โดย ธนญชัย ศรศรีวิชัย
ผู้กำกับมือหนึ่งของ Phenomena ประเทศไทย ที่ทำให้
"Dream Rangers" กำลังเป็นภาพยนตร์โฆษณาที่คนไต้หวันและชาวเน็ตฯ จีนแผ่นดินใหญ่
ชื่นชอบกันในขณะนี้ มีผู้คลิ๊กชมมากเกือบ 500,000 ครั้งแล้ว ในเวลาเพียง 2 สัปดาห์
โฆษณาความยาว 3.11 นาที





"Dream Rangers" จัดเป็นเรื่องราวที่ให้กำลังใจ และพิสูจน์ว่า ศักยภาพของมนุษย์นั้นไร้ขอบเขต
ไม่ได้ขึ้นกับวัยและสังขาร เหมือนคำกล่าวในภาษิตจีนที่ว่า "ภัยของวัยชรา หาใช่ความเสื่อมถอย
ของร่างกาย แต่คือการถดถอยทางจิตวิญญาณ และความฝันต่างหาก"

ความประทับใจในเรื่องราวของโฆษณาชิ้นนี้ อยู่ที่สร้างมาจากชีวิตจริงของชายชราไต้หวัน
วัยราว 80 ปี กลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนเก่าที่มีประสบการณ์ชีวิตอันงดงามร่วมกัน เขากลับมา
พบกันอีกครั้ง จากการไปร่วมงานศพของเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่ม และได้รู้ว่าคำถามที่พวกเขา
ต่างเผชิญในวัยดึกนี้ คงมีเพียงว่า เวลาที่เหลือของแต่ละคนนี้ จะอยู่เพื่ออะไร เพื่อคิดถึงใคร
เพื่อรักษาลมหายใจไว้ หรือเพื่อจะรอวันตาย ขณะที่ชีวิตเริ่มลอยตามน้ำเหมือนไม้ใกล้ฝั่ง
ชายแก่ทั้ง 5 คน กลับสร้างแรงบันดาลใจคืนมาให้ตนเอง จากความฝันครั้งสุดท้ายที่พวกเขา
ตั้งใจจะทำให้สำเร็จ เพื่อพิสูจน์ตนเองอีกครั้งกับชะตาชีวิต นั่นคือขี่มอเตอร์ไซค์
คึกรอนแรมไปทั่วหล้าเหมือนตอนหนุ่มๆ


ทว่า ในวัยปูนนี้ แต่ละคนพกโรคประจำตัวมาคนละโรคสองโรค คนนึงหูตึง คนนึงเป็นมะเร็ง
ที่เหลือเป็นโรคหัวใจ และทั้งหมดข้อกระดูกเสื่อม ดังนั้น เพื่อให้การเดินทางไม่กลายเป็นการฆ่าตัวตาย
พวกเขาต้องฟื้นฟูเตรียมสภาพร่างกายเป็นเวลา 6 เดือน จนพร้อมที่จะขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจไปทั่วเกาะไต้หวัน
จากเหนือจรดใต้ นาน 13 วัน 13 คืน ระยะทางกว่า 1,139 กิโลเมตร จนได้ไปถึงสถานที่ซึ่งพวกตน
เคยมีวันดีๆ ร่วมกัน รื้อฟื้นภาพความทรงจำในอดีตให้กลับมาชัดเจนตรงหน้าอีกครั้ง


<a href="http://www.youtube.com/v/vksdBSVAM6g?fs=1&amp;amp;hl=de_DE" target="_blank">http://www.youtube.com/v/vksdBSVAM6g?fs=1&amp;amp;hl=de_DE</a>

http://www.youtube.com/watch?v=vksdBSVAM6g&feature=player_embedded
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5159 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2554, 23:42:50 »

พี่เอมอร,
เมื่อครู่เข้าไปตามเก็บกระทู้พี่
เพิ่งออกมา,อิ๊บภาพนักร้องโปรดKylie Minogue
ออกมาด้วย หนิงฟังเธอประจำตั้งแต่รู้ว่าเธอหวนคืน
วงการหลังหลบไปรักษาตัวมะเร็งที่หน้าอก
นานหลายปี...เธอเพิ่งpromoteอัลบั้มไป
ปลายปีที่แล้วนี่คะ!
หาเพลงล่าสุดอยู่ ที่ร้องกะนักร้องเชื้อสาย
ฟิลิปปินส์-ฮาวายหนุ่มวัย22มั้งคะ...ยังไม่เจอ!


เปิดdiscoกันไปก่อนแระกัลลลล



<a href="http://www.sk-hospital.com/skmessage/files/kylie_minogue_-_07_-_your_disco_needs_you.mp3" target="_blank">http://www.sk-hospital.com/skmessage/files/kylie_minogue_-_07_-_your_disco_needs_you.mp3</a>
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5160 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2554, 05:00:22 »

เจอแล้วคะ...
ฟังอยู่ทุกวัน

บอกผิดคะ,เธอร้องกะนักร้องลูกครึ่งไนจีเรีย-บราซิล
ที่เกิด-โตในอังกฤษต่างหาก!

เปิดเธคกันแต่เช้ามืดคะพี่น้อง



<a href="http://www.sk-hospital.com/skmessage/files/912613f6b40d1a84149de325edfed324.mp3" target="_blank">http://www.sk-hospital.com/skmessage/files/912613f6b40d1a84149de325edfed324.mp3</a>
      บันทึกการเข้า


เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #5161 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2554, 16:39:55 »

เธค ของน้องหนิงโดนเคอร์ฟิว ไม่ยอมทำงานค่ะ
พี่ไม่ได้เป็นแฟนเธอหรอกค่ะ
แม้ว่าเธอเป็นนักร้องดังมาก น่ารัก สดใส  และได้รับหลายรางวัล
เพลงดังๆก็หลายเพลงน้องหนิงชอบเพลงอะไรของเธอคะ
 อย่าบอกว่าชอบเพลง All the lovers นะคะ
พี่เห็นเธอเป็นออสเตรเลียน ก็เลยนำมาลงค่ะ
เป็นโฆษณาconcert ที่จะเล่นที่เมลเบิร์นค่ะ
พูดถึงนักร้องฟิลิปปินส์ 
พี่เป็นแฟนLea Salonga คะ ชอบเธอมากค่ะ

พี่ชอบเรื่องของไต้หวันมาก เป็นแรงให้ไม่ท้อค่ะ
 เขาแปดสิบกว่ากันแล้วและป่วยทั้งนั้นยังสู้
เราก็น่าสู้นะคะ
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5162 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2554, 19:07:17 »

เอ๋า,เปิดฟังไม่ได้ หมดกันคะ!
เพลงนี่ล่าสุดๆแล้วคะพี่ในวิทยุที่โน่น
all the loversเปิดอยู่เที่ยวสองเที่ยว
ไม่ติดหูคะ!หายไปเลย.
แต่เพลงของเธอเปิดอยู่เรื่อยๆพี่ที่โน่น
3-4เพลงที่หนิงแปะนี่แหละคะ.
ไอ้หนุ่มลูกครึ่งฟิลิปปินส์-ฮาวายเค้ากำลัง
promoteคะ ออกอัลบั้มมาก่อนคริสต์มาส
ปรากฏฟังแล้วงั้นๆ...พอเข้าปีใหม่..โห,อะไรจะ
รวดเร็ว ติดchartด้วย...ยังไม่แปะละกัลลลล
พี่load programmeฟังmediaให้ได้ก่อนคะ...


สู้อยู่คะเนี่ย!
บ้านหนิงไม่สบายกัน เป็นหวัด
เด็กๆเริ่มก่อน แล้วแฟนหนิง
หายใจรดกันตอนนอนหลายวัน
หนิงก็ไม่มีอาการ...จนเมื่อวาน!
ร้อนกระบอกตา คัดจมูก ไอ
ไข้ไม่มีแต่ปวดหัวคะ รับยาแล้วนอนพัก
วันนี้พ่อบ้านพาเด็กไปเล่นสกี,
หนิงว่าจะพักคะพี่..เสียงเป็นเป็ดอยู่เนี่ย.
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5163 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2554, 19:23:12 »

สงสัยเพราะมื้อวันพฤหัสให้เด็กๆทำแหงๆ
เลยติดหวัดกันอุตลุต!
เค้าอยากทำHamburgerกันคะ
เลยไปซื้อเครื่องมาให้

ขนมปังขาว


ผักทีมีอยู่แล้ว
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5164 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2554, 19:28:30 »

ซื้อหมูสับสำหรับทำ Hamburgerมาตัดทอดในกะทะ
(คุณภาพไม่ดีเลยคะ,ซื้อหมูสับมาทำเองดีกว่าวันหลัง)
ใส่cheese


เด็กๆมีความสุข!
ไม่รุมือล้างรึยัง...แต่กินอันเดียว
ถอดใจ...ยินว่าอิ่มแปร้...
สงสัยอิ่มข้าวเหนียวไก่มากกว่า


เอาล่ะ วันนี้ได้ฤกษ์จาตัดแหนมมาทอดแล้วค่ะพี่เอมอร.
nn.
      บันทึกการเข้า


ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #5165 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2554, 22:21:05 »

      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5166 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2554, 05:33:14 »

ขอบคุณคะพี่ตุ๋ย.
รีบให้...
เดี๋ยวเหี่ยวไม่รู้ด้วย!


หนิงให้มั่ง...ดอกเท่ากระหล่ำปลีได้!

<a href="http://www.sk-hospital.com/skmessage/files/marilyn_rucker_-_i_love_your_smell.mp3" target="_blank">http://www.sk-hospital.com/skmessage/files/marilyn_rucker_-_i_love_your_smell.mp3</a>
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5167 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2554, 05:47:08 »

ขออภัยคะ!
ไม่ไช่....กระหล่ำปลี
ไม่ไช่....กระหล่ำปรี
ไม่ไช่....กละหร่ำปลี
ไม่ไช่....กละหร่ำปรี
..
..
ที่ถูก--->กะหล่ำปลี ต่างหาก!

      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5168 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2554, 18:27:29 »

นำออกมาจากตู้เย็นเมื่อวาน..
ไร้กลิ่น แข็ง สีสวย


ตัดมาทอดเลยคะ
อยากกินมาหลายวัน
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5169 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2554, 18:29:58 »

แค่นี้พอก่อน!
กินได้อีกหลายวันคะ


น้ำมันเหลือ ทอดปลาเค็มด้วยเลย
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5170 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2554, 18:33:00 »

เผ็ดจนหูอื้อ...ขอบอก!
ก็เล่นเคี้ยวพริกด้วย
กินไปซี้ดซ้าดไป
จมูกคอคล่องโปร่ง!
แต่กลิ่นกระเทียมน่ะ...หวัดปิดซะมิด!



Gute!
nn.
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5171 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2554, 19:17:13 »

พี่ mentor,
บอกทีคะ จะแปะ pdf ที่นี่ทำไง?
หนิงขี้เกียจถ่ายภาพทีละรูป ทีละรูป
ฝากแล้วแปะ ดูท่าจะไม่ทันคะ!

ด่วนพี่,
เป็นของขวัญวาเลนไทน์เชียวหนา
อย่าทำเล่นไป!

ซี้ดดดดดด
      บันทึกการเข้า


pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #5172 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2554, 22:02:57 »

พระธรรมโครินธ์ 13:4-8 กล่าวไว้ว่า  ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ชอบจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง
Happy Valentine Day
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5173 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2554, 22:07:25 »

พี่mentorบอกว่าไม่ได้ค่ะพี่น้อง!
อดซี้ดดดดหมู่!
ผิดหวังอย่างแรง
ขอกุหลาบแทนละกัน


      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5174 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2554, 22:15:47 »

อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sittipong เมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2554, 22:02:57
พระธรรมโครินธ์ 13:4-8 กล่าวไว้ว่า  ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ชอบจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง
Happy Valentine Day

พี่ป้อมขา,
ขอบคุณคะ.
ขอหนิงอ่านใหม่!



ความรักนั้นก็อด ทนนานและกระทำคุณ ให้ความรักไม่ อิจฉาไม่ อวดตัวไม่ หยิ่งผยองไม่หยาบคายไม่ คิด.. เห็น.. แก่ตนเองฝ่ายเดียวไม่ ฉุนเฉียวไม่ ชอบจดจำ ความผิดไม่ ชื่นชมยิน ดีเมื่อมี การประพฤติผิดแต่ ชื่นชมยิน ดี เมื่อประพฤติ ชอบความรัก ทนได้ ทุกอย่างแม้ ความผิดของ คนอื่นและเชื่อ ในส่วนดีของ เขาอยู่ เสมอและมีวามหวังอยู่เสมอ และทน.. ต่อ.. ทุกอย่าง
      บันทึกการเข้า


  หน้า: 1 ... 205 206 [207] 208 209 ... 301   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><