มีศิลป์ มีสุข

[ทราย 16]

		อ้างถึง			ข้อความของ Pete15 เมื่อ 29 พฤศจิกายน 2553, 21:21:50
	ทำหน้าที่ให้เต็มที่เลยน้อง ทราย พี่ปิ๊ด ขอเป็นกำลังใจ

ครูปี๊ดคะ
ขอบคุณมากค่ะ
จะกลับเหย้า เมื่อพร้อมจ๊ะ
ทราย

[เหยง 16]

อจ.ทราย

ก่อนเจรจา ให้แผ่เมตตาให้กับผู้ที่เราจะเจรจาด้วย จงเป็นสุข เป็นสุขเถอะ.....

ขอให้โชคดีในการเจรจา เพื่อให้คนอีกจำนวนมากๆ ได้รับส่วนแบ่งอาหารที่เพียงพอ โดยเฉพาะในรายที่เป็นเด็ก
แต่นโยบายของเรานั้น ไม่อยากให้มีการอพยพเข้ามา การจะให้ผู้อพยพอิ่มท้องนั้น คงไม่ใช่วิธีการที่พวก จนท.เขาจะทำแน่
แต่ถ้าบอกว่า ต้องให้อาหารจำนวน...เพื่อให้สามารถมีชีวิตอยู่ไปได้วันหนึ่งๆเท่านั้น.......เพื่อมนุษยธรรม...ก็อาจได้ผลบ้าง
ทหารเขารู้ว่าวันหนึ่งๆ ต้องบริโภคข้าวจำนวนกี่กรัม..เพื่อให้อยู่รอดได้

[เหยง 16]

ภาพเขียนของจิตรกรไทยผู้มีฝีมือยอดเยี่ยมเป็นศิลปินแห่งชาติ
    
เป็นภาพวาดสีน้ำมันบนผืนผ้าใบชื่อ “อีแมว” โดยฝีมือศิลปินแห่งชาติ “อาจารย์จักรพันธ์ โปษยกฤต”

ภาพเขียนขนาด 90X100 ซม. มีลายเซ็นเป็น ภาษาไทย
    
เมื่อ พ.ศ. 2510 เป็นภาพที่นิยมของนักสะสมเป็นอย่างมาก
    
ภาพนี้จะนำออกประมูลในวันจันทร์ที่ 6 ธันวาคมนี้ ที่โรงแรมนารายณ์ ห้องสุโขทัย-รัตนโกสินทร์ ถนนสีลม ตั้งแต่เวลา 09.30 น. เป็นต้นไป

โดย บริษัทเอื้อเสรีคอลเลคติ้ง จำกัด ตั้งราคาขั้นต้นไว้ 4 ล้าน 5 แสนบาท

[Pete15]

เห็นน้องเหยงเปิดภาพ สมบัติ สะสม ของผู้มีอันจะกิน 4.5 ล้านบาท แล้ว จะอย่างไร? ต่อดี พี่ปิ๊ดอยากมีส่วนร่วมแต่ยัง
  หาทางไปไม่เจอ " พี่ป๋อง " ช่วยที่

[suriya2513]

กำลังหาทางช่วยอยู่ครับ

[phraisohn]

พี่ปิ๊ด และพี่ๆท่านอื่นๆไปไหนแล้วคับ?

[Pete15]

เดินวนอยู่แถวนี้แหละ น้องสน พี่เหยง Post รูปเขียน ของ อ. จักรพันธุ์ เข้ามา พี่ปิ๊ด เลยหาทางกลับบ้านไม่ถูก ได้แต่
                               อย่างว่า เดินวนอยู่แถวนี้แหละ 

[phraisohn]

ฮ่าๆ ครับพี่ปิ๊ด งั้นทำอย่างไรดีครับ กำลังรออ่านเล็กเชอร์ต่อเลยครับ

[เหยง 16]

 
ภาพเขียนของจิตรกรไทยผู้มีฝีมือยอดเยี่ยมเป็นศิลปินแห่งชาติ
   
เป็นภาพวาดสีน้ำมันบนผืนผ้าใบชื่อ “อีแมว” โดยฝีมือศิลปินแห่งชาติ “อาจารย์จักรพันธ์ โปษยกฤต”

ภาพเขียนขนาด 90X100 ซม. มีลายเซ็นเป็น ภาษาไทย
   
เมื่อ พ.ศ. 2510 เป็นภาพที่นิยมของนักสะสมเป็นอย่างมาก
   
ภาพนี้จะนำออกประมูลในวันจันทร์ที่ 6 ธันวาคมนี้ ที่โรงแรมนารายณ์ ห้องสุโขทัย-รัตนโกสินทร์ ถนนสีลม ตั้งแต่เวลา 09.30 น. เป็นต้นไป

โดย บริษัทเอื้อเสรีคอลเลคติ้ง จำกัด ตั้งราคาขั้นต้นไว้ 4 ล้าน 5 แสนบาท


สรุปผลการประมูล"ภาพอีแมว" เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมา มีผู้ประมูลไปในราคา 4,500,000 บาทถ้วนครับ


LOT NO: 931     Starting: THB 4500000   Approx: € 107142   
Painting: Oil on Canvas "E - Maew" Topless Native Lady by Chakrabhand Posayakrit, size 90x100cm, signed in Thai dated B.E.2510(1967), Chakrabhand Posayakrit was awarded National Artist Award Year 2000, very popular amongst collectors. (1)
ภาพวาดสีน้ำมันบนผ้าใบ "อีแมว" โดย อ.จักรพันธ์ โปษยกฤต ขนาด 90x100ซม. ลายเซ็นเป็นภาษาไทย วันที่ พ.ศ.2510 อ.จักรพันธ์ โปษยกฤต ได้เป็นศิลปินแห่งชาติ พ.ศ.2543 นักสะสมนิยมเป็นอย่างมาก (1)

Auction Result for LOT NO:931:   Sold at THB 4500000

[เหยง 16]

		อ้างถึง			ข้อความของ Pete15 เมื่อ 07 ธันวาคม 2553, 21:33:27
	เห็นน้องเหยงเปิดภาพ สมบัติ สะสม ของผู้มีอันจะกิน 4.5 ล้านบาท แล้ว จะอย่างไร? ต่อดี พี่ปิ๊ดอยากมีส่วนร่วมแต่ยัง   หาทางไปไม่เจอ " พี่ป๋อง " ช่วยที่

		อ้างถึง			ข้อความของ Pete15 เมื่อ 10 ธันวาคม 2553, 15:47:01
	เดินวนอยู่แถวนี้แหละ น้องสน พี่เหยง Post รูปเขียน ของ อ. จักรพันธุ์ เข้ามา พี่ปิ๊ด เลยหาทางกลับบ้านไม่ถูก ได้แต่                                อย่างว่า เดินวนอยู่แถวนี้แหละ

พี่ปี๊ด

ต้องดีใจกับการประมูลในครั้งนี้ครับ แสดงว่าศิลปินไทยมีฝีมือและมีคุณค่า ภาพจึงสามารถขายได้ จะทำให้มีการสะสมภาพกัน

[เหยง 16]

แถมอีกหนึ่งรายการ ซึ่งอาจารย์จักรพันธ์ โปษยกฤต มีส่วนเป็นอย่างยิ่งครับ
ราคาตั้ง 20,000 บาท มีผู้ประมูลได้ไปในราคา 40,000 บาทครับ


LOT NO: 930     Starting: THB 20000   Approx: € 476   
"Pra Buddha Maha Paraminubhab Bisudh Anuttra Sangram Vijay" casting bronze Buddha, lap size 5", designed by Chakrabhand Posayakrit (National Artist Award Year 2000) with certificate number 1689, reverse of the Buddha countersigned by the artist. (1)
"พระพุทธมหาบารมีนุภาพพิสุทธิ์อนุตตรสังคามวิชัย" รูปหล่อโลหะสำริด หน้าตัก 5" เป็นพระพุทธปฎิมาอันวิจิตรและศักดิ์สิทธิ์ ออกแบบโดย อ.จักรพันธ์ โปษยกฤต(ศิลปินแห่งชาติ พ.ศ.2543) พร้อมใบรับรอง หมายเลข 1689 ด้านหลังองค์พระมีลายเซ็น อาจารย์จักรพันธ์ สมบูรณ์ (1)

Auction Result for LOT NO:930:   Sold at THB 40000

 

[เหยง 16]

ฝาก"พี่ปี๊ด"ดูไว้ เผื่อที่บ้านจะหาเจอสักใบหรือสองใบครับ จะได้มีตังค์ใช้
เพราะเดี๋ยวนี้ ศิลปในทุกรูปแบบ นอกจากให้คุณค่าทางจิตใจแล้ว ยังมีราคาด้วยครับ
เบญจรงค์ใบนี้ เริ่มที่ 70,000 บาท จบที่ 500,000 บาทครับ


LOT NO: 938     Starting: THB 70000   Approx: € 1666  
Thai Art: Late Ayudhaya period, 1700-1782; "Benjarong Lainamthong" deep bowl and cover-lid painted and gilt with floral vine scrolls, D=17cm., H=23cm., very attractive pattern, still in excellent condition thus very rare.((set of 2 pcs.)
ศิลปะไทย ปลายอยุธยา พ.ศ.2243-2325 โถฝายอดฉัตรเบญจรงค์ลายน้ำทองลายก้านต่อดอก จำนวน 2 ชิ้น ครบชุด สผ.17ซ.ม. สูง 23ซ.ม. ลวดลายสวยงามมาก สภาพสมบูรณ์ หายากในสภาพนี้ (2ชิ้นชุด)

Auction Result for LOT NO:938:   Sold at THB 500000

 

[เหยง 16]

มีเรื่องเล่าให้ฟังเรื่องหนึ่งครับ

หลายๆปีก่อน ผมได้รู้จักกับผู้สะสมเครื่องกระเบื้องท่านหนึ่ง เป็นอดีตนายตำรวจนอกราชการ นิสัยดีมากท่านหนึ่ง
ท่านผู้นี้มีใจรักและสะสมเครื่องกระเบื้องมาก่อนรับราชการ เพราะบ้านมีสมบัติเก่า บอกชื่อไปอาจจะรู้จักกันดี(ขอสงวนชื่อ)
ตอนเริ่มรับราชการก็ต้องออกตรวจท้องที่ ก็เลยชอบไปตรวจตามวัดบ้านนอก เผื่อจะเจอของดีเข้า
วันหนึ่งเข้าไปตรวจโกดังเก็บศพของชาวจีน ซึ่งมีโลงจำปาตั้งอยู่มากมาย เนื่องจากมีหลายศพไม่สามารถลงฝังในฮวงซุ้ยได้
เพราะเจ้าภาพเยิ่นเย้อ ทำพิธีไม่เสร็จ จนเลยฤกษ์ยามที่จะฝัง โบราณเขาถือ จึงต้องตั้งศพฝากไว้ที่วัดโดยเช่าห้องไว้
ญาติๅ ก็ต้องแวะเวียนนำข้าว นำน้ำ มาเซ่นไหว้กันไปเรื่อยๆ รอจนกว่าจะมีฤกษ์งามยามดี จึงจะนำโลงลงฝังในฮวงซุ้ยได้
(คำว่า ฤกษ์งามยามดีนั้นคือ วันที่คู่สมรสตายตามและนำไปฝัง ก็จะนำโลงตามก่อนและยังไม่ฝัง ทำการฝังตามไปด้วยนั่นเอง)
ผู้หมวดท่านนี้ก็พบว่า หน้าโลงศพใบหนึ่ง มีชามข้าววางไว้ ลักษณะชามมีลายสวย บางเนื้อขาว ดูท่าจะเป็นกังใส
มีเศษข้าวเศษอาหารติดหลงเหลืออยู่ หลังจากญาติตั้งไหว้แล้วกลับไป หมาวัดจึงเข้าไปกินของไหว้ในชามจนหมด ทิ้งชามไว้หน้าโลง
ผู้หมวดจึงขอซื้อต่อจากสัปเหร่อในราคาย่อมเยา หลังจากได้ไปก็ไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้ว่า มีแหล่งกำเนิดหรือผลิตจากไหน
แต่ที่แน่ๆ คือมีตราประทับเป็นของประเทศจีนในยุดโบราณ หรือขณะนั้นเป็นจีนคอมมูนิตต์ยุดเหมาฯนั่นเอง
เมื่อทำอะไรไม่ได้ จึงใช้วิธีติดต่อกับพิพิธภัณฑ์เพื่อหาเบาะแสคือ British Museum, สมิทโซเนียน และวูฟในฝรั่งเศส
ด้วยการถ่ายภาพ วัดขนาด ส่งไปให้ดู พร้อมตราประทับที่ก้นชาม (ซึ่งตอนนั้ยังเรียกว่า "ชามข้าวหมา" อยู่)

วันหนึ่งก็มีฝรั่ง 2 คนไปหาถึงบ้าน และเอ่ยปากขอชม"ชามข้าวหมา"ใบนั้น หลังจากนั้นจึงบอกว่า ชามข้าวหมาที่สงสัยนี้
เป็น"ชามหงส์" ซึ่งซูสีไทเฮาใช้เสวยน้ำแกง และเป็นชามทำขึ้นเฉพาะ เพราะนางไม่ใช่ฮ่องเต้
พร้อมกับเสนอขอซื้อ เนื่องจากมี "ชามมังกร" อยู่แล้ว แต่ "ชามหงส์" ไม่มี
ที่สุดชามใบนั้นขายให้ British Museum ไปเป็นเงินหนึ่งล้านปอนด์ (ขายขณะเป็นนายร้อย เกษียณยศพลตำรวจเอก)
ถ้ามาขายเอาช่วงนี้ ต้องระดับเกิน 20 ล้านปอนด์ขึ้นไปเป็นแน่...ทำไงได้ สมัยนั้นหนึ่งล้านปอนดืหรือ 36 ล้านบาทไม่น้อยเลย

ดังนั้นมี"ของเก่า-ของแก่"อยู่ในบ้าน(อาจนับรวมเมียหลวง-เมียเก่า-เมียแก่ ก็ได้ครับ) เก็บๆไว้อย่าทิ้ง อย่าขว้าง ให้แตกหักเสียของ
ถือว่าเป็นสมบัติของพ่อแม่ทิ้งไว้ให้เป็นพอ ไม่ต้องเอาไปขาย เผื่อไว้ให้ลูก-ให้หลานได้ดูได้แลบ้างครับ

[Pete15]

สวัสดี ครับน้องเหยง ที่ช่วยกลับมาเติมเต็ม เพราะความจริงเห็นภาพของ อ. จักรพันธุ์ แล้วพอทราบ ว่า เป็นภาพสมัยไหน
แต่ก็ไม่กล้าเอ่ย เพราะท่าน อ.จักรพันธุ์ ได้พัฒนาฝีมือไปอีกมากในรอบ 40 ปี จนมีเอกลักษณ์ เด่นชัดในปัจจุบัน แทบจะเป็น
Idol ที่ผู้ที่เรียน ศิลปะ อยากจะวาดให้ได้อย่างท่าน ผลงานของท่านจะเห็นพิมพ์เป็น ส.ค.ส. มากมาย และผู้ที่ซื้อมีบางท่าน
ที่ไม่ได้ซื้อไปแจก แต่ซื้อไปเก็บก็มีมาก ความอ่อนหวานของลายเส้น(ของหญิงงาม) + แฝงของความเป็นไทยๆอย่างมีพลัง
ทำให้ ภาพเขียนของท่าน เป็นที่ต้องตาต้องใจของผู้พบเห็น ขณะเดียวกัน ท่านได้พัฒนาบุคคลิกภาพของตัวท่านเองได้
สอดคล้องกับผลงานของท่านด้วยอย่างไงอย่างนั้นเลยทีเดียว 

[phraisohn]

พี่ปิ๊ดจัดงานสัมนาเวิร์คชอปดีไหมคับ ถ้ามีผมจะสมัครเีรียนคนแรกเลยคับ ฮ่าๆๆ

[เหยง 16]

		อ้างถึง			ข้อความของ Pete15 เมื่อ 10 ธันวาคม 2553, 23:24:10
	สวัสดี ครับน้องเหยง ที่ช่วยกลับมาเติมเต็ม เพราะความจริงเห็นภาพของ อ. จักรพันธุ์ แล้วพอทราบ ว่า เป็นภาพสมัยไหน แต่ก็ไม่กล้าเอ่ย เพราะท่าน อ.จักรพันธุ์ ได้พัฒนาฝีมือไปอีกมากในรอบ 40 ปี จนมีเอกลักษณ์ เด่นชัดในปัจจุบัน แทบจะเป็น Idol ที่ผู้ที่เรียน ศิลปะ อยากจะวาดให้ได้อย่างท่าน ผลงานของท่านจะเห็นพิมพ์เป็น ส.ค.ส. มากมาย และผู้ที่ซื้อมีบางท่าน ที่ไม่ได้ซื้อไปแจก แต่ซื้อไปเก็บก็มีมาก ความอ่อนหวานของลายเส้น(ของหญิงงาม) + แฝงของความเป็นไทยๆอย่างมีพลัง ทำให้ ภาพเขียนของท่าน เป็นที่ต้องตาต้องใจของผู้พบเห็น ขณะเดียวกัน ท่านได้พัฒนาบุคคลิกภาพของตัวท่านเองได้ สอดคล้องกับผลงานของท่านด้วยอย่างไงอย่างนั้นเลยทีเดียว

ผมก็เก็บสะสมโปสการ์ดของท่านอาจารย์จักรพันธ์ ครับ

[Pete15]

		อ้างถึง			ข้อความของ phraisohn เมื่อ 11 ธันวาคม 2553, 01:14:33
	พี่ปิ๊ดจัดงานสัมนาเวิร์คชอปดีไหมคับ ถ้ามีผมจะสมัครเีรียนคนแรกเลยคับ ฮ่าๆๆ

ดีครับ น้องสน ถ้ามีผู้สนใจพอจำนวนก็น่าจัด แต่ต้องหาใครสักคนเป็นหลักแลัวพี่ปิ๊ดเป็นเสริม เพราะลำพังตัวพี่ปิ๊ดเองก็
 เอาตัวรอด ไปวันหนึ่ง วันหนึ่ง เท่านั้นแหละ (ยังไม่อยู่ในสภาวะที่เป็นผู้นำได้เวลานี้)

[เหยง 16]

 

ภาพและบทความเพิ่มเติมที่...............

กว่าจะเป็นภาพวาดของพ่อ

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1292220512&grpid=01&catid=&subcatid=

[Pete15]

โอ้....โฮ.....น้องเหยง เอาแต่ละภาพมา post พวก มีวุฒิ อย่างพี่ ( ป.ม. ) มิบังอาจ เอ่ยปาก วิจารณ์ได้ ทั้งภาพ และผู้วาด

                     

[เหยง 16]

พี่ปี๊ดครับ

ถึงต้องให้ไปชมจากแหล่งข้อมูลตรงๆเลย นั่นไง

ภาพชุดนี้ได้ชม ถือว่าเป็นบุญตาครับ

[เหยง 16]

อจ.ทราย

ไปดูแลอาหารการกินของผู้อพยพถึงไหนล่ะ หายไปหลายวันแล้ว
ใช่ไปทางแม่สอดหรือด่านเจดีย์สามองค์หรือไม่
ทราบมาว่า ทางอำเภอพบพระยังไม่สงบ ฝั่งโน้นยิงกันได้ทุกวัน เพราะฐาน DKBA อยู่ฝั่งนั้น มีคนหนีข้ามมาตลอด
ฝั่งเราก็ไม่อยากให้ข้ามมา เพราะ จนท.ขี้เกียจเลี้ยงดู
พ่อค้าบอกว่า จนท.มักเน้นให้ไปรวมคนอยู่ชายน้ำเมย แทนการเข้ามาที่ปล่อยภัย เพราะตรงนั้นไม่ต้องดูแลเรื่องข้าวปลา
ไม่ทราบว่า ข้อมูลนี้จะถูกต้องไหมน่ะ
แต่พ่อค้าข้าวโพดที่นั่นมักไม่ปิดบัง

[Pete15]

ใช่....ครับน้องเหยง พี่ปิ๊ด ชักคิดถึง น้องทราย ซะแล้ว ไปปรุงอาหารให้ผู้อพยพนานจัง ท่าทางจะปรุงสุดฝีมือเลยละ  

[เหยง 16]

พี่ปี๊ด

ทราบจากพ่อค้าที่นำข้าวโพดจากอำเภอพบพระ ไปขายให้ผมว่า DKBA ยังไม่เลิกรบกับรัฐบาลพม่าเลย รบกันได้ทุกวัน
ยังมีชาวบ้านซึ่งเป็นคนพม่า(กระเหรียง)ส่วนหนึ่ง ยังไม่ได้เดินทางกลับ คงรออยู่ตามชายแดนริมแม่น้ำเมย

แต่ไม่ทราบว่า อจ.ทราย ไปดูแลเรื่องอาหารการกินของผู้อพยพในจุดไหน ??




8200 

[เหยง 16]

วันนี้นำแสตมป์ใน นสพ.เดลี่นิวส์ ของคุณสมเจตน์ วัฒนาธร มาให้ชมระหว่างรอ อจ.ทราย

 

แสตมป์หายากสมัย พ.ศ. 2451 แสตมป์ชุดนี้เป็นชุดพระบรมรูปทรงม้า 1 บาท ถึง 40 บาท ครบชุด 7 ดวง ประทับตราที่เพิ่งค้นพบใหม่ว่า “สุไหงโอปี” ล.ว. 11/02/1909 3 เดือนหลังจากแสตมป์ชุดนี้ออกใช้
    .
แสตมป์ชุดนี้เป็นของขวัญจากเจ้าฟ้าวชิราวุธ (รัชกาลที่ 6) ถึงพระสหายในประเทศอังกฤษ ทั้ง 7 ดวงติดบนกระดาษของ “พระราชวังสราญรมย์”
   
ด้านล่างมีลายพระหัตถ์ ดินสอเทียนสีแดง เป็นคำอธิบาย 5 แถวเกี่ยวกับแสตมป์เป็นภาษาอังกฤษพร้อมกระดาษใช้ส่วนพระองค์ 3 แผ่น พับเป็นกระดาษทรงพระอักษร 9 หน้า บอกเล่าเกี่ยวกับการหายากของแสตมป์ชุดนี้ และเชิญพระสหายมาเที่ยวเมืองไทย
   
เอกสารประกอบแสตมป์มีคราบเหลืองบางแห่ง แต่ตัวแสตมป์ยังสมบูรณ์มาก นับว่าเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ของวงการสะสมแสตมป์และวงการประวัติศาสตร์ไทย
   
แสตมป์และเอกสารชุดนี้เพิ่งค้นพบเมื่อปลายปี พ.ศ. 2552 แอบอยู่ในตู้เสื้อผ้าเก่า หลังจากที่แสตมป์ออกมากว่า 100 ปี
   
ปรากฏว่าแสตมป์และเอกสารชุดนี้ได้รับความสนใจจากวงการสะสมแสตมป์และวงการประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก
   
ในปี พ.ศ. 2451-2453 ไปรษณีย์ “สุไหงโอปี” นี้พร้อมจะเปิดทำการ แต่เกิดขัดแย้งกับอังกฤษ จึงไม่ได้เปิดทำงาน
   
ที่ทำการไปรษณีย์ “สุไหงโอปี” ปัจจุบันคืออำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล
   
แสตมป์ชุดนี้ได้นำออกประมูลโดยบริษัทเอื้อเสรีคอลเลค ติ้งจำกัด มีผู้แย่งกันประมูลจากราคาเริ่มต้น 250,000 บาท แต่มีผู้ประมูลไปในราคา 490,000 บาท นับว่าสูงมาก

[suriya2513]

คนที่พอจะทราบได้ ก็เห็นจะมีแต่คุณพิเชษฐ์เพียงคนเดียวนี่แหละครับ