22 พฤศจิกายน 2567, 03:13:14
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 2 [3] 4 5 6  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: สิบกว่าปีที่เปลี่ยนไป มีอะไรที่เปลี่ยนแปลง  (อ่าน 75813 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
BeKamon
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 235

« ตอบ #50 เมื่อ: 06 มิถุนายน 2551, 13:43:17 »

ลูกพิ้ง >> เรื่องที่ถามมาว่า..จะบอกอะไรให้เด็กปีหนึ่งหอพักรับรู้

อืม...มีเยอะแยะมากไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนเลย

ถ้ามีโอกาสเล่า ก็คงเล่าถึงโอกาสที่ดีที่ได้มาอยู่หอพัก แล้วทำให้มีเพื่อนเยอะๆ ดีๆ แบบนี้

ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน สนุกสนานเฮฮาด้วยกันตลอด 4 ปี  สถานที่ที่พวกเราเคยไปทำกิจกรรมร่วมกัน

พอผ่านไปอีกครั้งก็นึกถึง คำพูดที่ถ่ายทอดความรู้สึกความห่วงใยต่อกัน ความเอื้อเฟื้อช่วยเหลือกัน

ยังประทับใจจนทุกวันนี้ ทำให้รู้จักความหมายของคำว่า "เพื่อนแท้"

บางทีกับเพื่อนที่หอพักเราก็รู้สึกว่า "มองตาก็รู้ใจ" อะ (เวอร์ไปปะเนี่ย)
บันทึกการเข้า

Something might change, but something never changes. (The Matrix Revolution)
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #51 เมื่อ: 06 มิถุนายน 2551, 14:07:56 »

ไม่เว่อร์หรอกค่ะ...ยิ่งเวลาผ่านไป...เพื่อนฝูงแทบนับนิ้วได้ ...การเลือกกลุ่ม เลือกสังคมก็เข้มงวดมากขึ้น

พี่อ่านกระทู้นีไม่หมด แต่พอจะร่วมเนียนได้ว่า"เตรียมรับความเปลี่ยนแปลงในชีวิตทุกวัน"นะคะ  กระแสมีทั้งดีมาก ดีน้อย ต้องปรับจิตปรับใจกันทุกวัน ปรับได้ดีก็สุขได้ค่ะ.
p.nn
บันทึกการเข้า


ลูกพิ้ง
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,287

« ตอบ #52 เมื่อ: 06 มิถุนายน 2551, 14:14:03 »

Cheesy ผึ้ง จ๋า

ขอบจายมากมายที่มาตอบคำถามของช้านนน๊า...

สำหรับเพื่อนซีมะโด่งแล้วนี่...มองตาก็รู้ใจ...ช้านขอขานรับด้วยคนน.. :oops:  
บันทึกการเข้า
BeKamon
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 235

« ตอบ #53 เมื่อ: 06 มิถุนายน 2551, 19:08:36 »

P'nn. -- ขอบคุณนะคะพี่ที่มาร่วมแชร์ความเปลี่ยนแปลงไปด้วย

ลูกพิ้ง -- หวังว่า แกคงถ่ายทอดความรู้สึกตลอด 4 ปี จนกระทั่งวันนี้ได้ดีนะ เป็นกำลังใจให้  :wink:
บันทึกการเข้า

Something might change, but something never changes. (The Matrix Revolution)
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #54 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2551, 00:36:20 »

พี่คงต้องใช้เวลาที่นี่ซักวันเพื่ออ่านอย่างเอาจริง เพราะพี่กะลังหากระทู้น่าสนใจเพื่อแนะนำค่ะ...น้องชี้โพรงให้พี่หน่อย!
p.nn
บันทึกการเข้า


A79
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #55 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2551, 09:18:46 »

หวัดดี...มาตอบมั่ง

ไม่เปลี่ยนแปลง....ชื่อ แซ่ อาชีพนักเรียน เหมือนเดิม
เปลี่ยนแปลง......อ้วนขึ้นนนนน.......เย้ยยยย
                    ความคิดเปลี่ยนแปลง....ชอบทำไรคนเดียวมากขึ้น ความอดทนในการรอคอยน้อยลง ขี้เกียจมากขึ้น อยากอยู่เฉยๆ และนอนมากขึ้น อิอิอิ ไม่รู้ดิ คงเปลี่ยนหลายอย่างแต่นึกไม่ออก บางทีตัวเองก็ไม่รู้หรอกว่าอะไรเปลี่ยนบ้าง เพราะมันเริ่มเปลี่ยนทีละน้อย จนเป็นความเคยชิน ต้องให้คนอื่นที่ไม่เจอกันนานๆ บอกว่าเราเปลี่ยนอะไรในตัวเองไปบ้างน่ะ
บันทึกการเข้า
ลูกพิ้ง
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,287

« ตอบ #56 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2551, 22:37:35 »

Cheesy ผึ้ง ++ ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจจ้า..
วันนี้ไปขึ้นเวทีพูดในงานปฐมนิเทศน้องใหม่หอพักมาแล้วล่ะ..เห็นภาพน้องใหม่ปี 1 แล้ว
ยิ่งคิดถึงวันวานที่หอพักของพวกเราจัง..
  ปล.วันนี้ อ.เอส กับ อ.เซฟ ก็โชว์ความสามารถเป็นคู่หู-ดูโอ
เรียกเสียงฮาจากน้องๆ  มิเสียชื่อรุ่น 39 จริ๊งจริง..

 Cool พี่หนุงหนิง ++ ตอนนี้แนะนำกระทู้นี่เลยค่ะพี่..ฝากไปปชส. ที่ห้องพี่เก่าด้วย..
เผื่อพี่ๆ จะได้มีเรื่องเล่าที่เป็นของขวัญจากวันวาน...
มามอบให้กับน้องๆ ฟังกันสนุกๆ ในห้องนี้บ้างนะค่ะ...:wink:

  Tongue  เอ  ++ หวัดดีจ้า เมื่อไหร่จะกลับมาเมืองไทยอีกล่ะนี่
บันทึกการเข้า
aenhuhininter
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #57 เมื่อ: 08 มิถุนายน 2551, 16:02:20 »

เข้ามาอ่านแล้วพวกเราก็เติบโตขึ้นตามกาลเวลากันทุกคนเนาะ แต่ก่อนก็เคยคิดไว้ในใจถ้าโตขึ้นจะทำอย่างนั้น จะไม่ทำอย่างนี้ แต่ก็มีบ้างที่พลาดพลั้งไป ได้มาอยู่ห่างไกลจากเมืองไทยยิ่งได้เข้าไกล้พุทธศาสนายิ่งขึ้น ช่วยให้เราเข้าใจอะไรๆในชีวิตมากขึ้น
ไม่เคยคิดหรอกว่าตัวเอ๋เองจะมาได้ไกลขนาดนี้ ยิ่งตอนนี้มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าเขาค้ำ้คอแถมยังเป็นคนเอเซียคนเดียวที่ทำงานที่นี่ แรกๆยิ่งเครียดใหญ่
แต่ตอนนี้สบายแล้วล่ะเพราะทุกคนที่นี่เขาเชื่อในความสามารถของหญิงไทยตัวน้อยๆหน้าเหลี่ยมๆคนนี้
ในช่วงเวลาสิบปีที่ผ่านมา สิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ชัดก็พูดได้ตอนนี้อย่างคล่องแคล่วห้าภาษา ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะทำได้
และสิงที่วางแผนไว้สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตปีหน้าอยากจะเป็นแม่คนกับเขาสักที พวกเธอคงได้อุ้มหลานกันแน่นอนเตรียมเป็นแม่กับพ่อทูนหัวกันได้เลยนะ Cheesy
บันทึกการเข้า
jviruch-78
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,601

« ตอบ #58 เมื่อ: 09 มิถุนายน 2551, 20:06:37 »

พี่เปลี่ยนไปทุกอย่าง
บันทึกการเข้า
ppornson
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,724

« ตอบ #59 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2551, 20:40:42 »

ถึงนู๋อิ๋ม..เอาโฉนดไปส่งให้พี่น้องตั้ม..รอประมาณ 3 เดือน เดี๋ยวพี่น้องตั้มจัดให้..เพราะพวกกฎต่างๆเนื่ยะ สถาปนิกเค้าจะแม่นกว่า..

ส่วนของพี่โจ้..เล่นเอาไปต่อไม่ถูกเลย

ส่วนสิ่งที่เปลี่ยนไป..แบบว่ายกเอาเรื่องนึงให้แตกประเด็นต่อ..

ช่วงสิบปีนี้..ใครเคยอกหักบ้าง..รู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปมั๊ย..หลังจากทำใจได้แล้ว..
บันทึกการเข้า
Mr.EggMan
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,826

« ตอบ #60 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2551, 14:14:54 »

อกหักเรื่องเล็ก  อกเล็กเรื่องใหญ่

 :lol:
บันทึกการเข้า

jakkreepan@hotmail.com
Love is in the A...I...R......H
Imm
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 237

« ตอบ #61 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2551, 18:16:34 »

ขอบคุณเพื่อนเต้มั่กๆจ้ะ  ในรูป display มันเล็ก  เลยดูเป็นสาว Wonder Girls ไปอย่างนั้นแหล่ะ  เอิ๊กๆๆ
... อยากเจอแกว่ะ, ต้องไปดักรอตามคอนเสิร์ตใช่มะเนี่ย

ตอบเพื่อนโต้ง ....

ปรึกษาพี่ตั้มเนี่ย  ต้องกดบัตรคิวป่าวหว่า  ได้ข่าวว่าคิวทองมากกกกก ^^

ส่วนเรื่องอกหัก,
สองครั้งใหญ่ๆที่เกิดอาการนี้  ทุกครั้งตัวเองรู้สึกว่าอยู่นิ่งๆจะดีกว่ามั๊ย  
ชีวิตหลังอกหักเลยชิวมากกก... นิ่งสงบ  มีความสุขตามประสาเรื่อยมาอีกหลายปี ^^

ก็เปลี่ยนไปนะโต้ง เราจะนิ่งขึ้น ประสบการณ์จะทำให้เราเข้มแข็งขึ้น
มุมมองการใช้ชีวิตไม่เปลี่ยนเท่าไหร่  ที่เปลี่ยนคือมุมมองความรัก
ปล่อยวาง ไม่ค่อยค้นหาละ  จะมีก็แต่แอบกรี๊ดกร๊าดนักร้องตามประสาวัยสะรุ่นพึงกระทำ อิอิ

ว่าแต่...แกคิดยังไงถึงเอาเรื่องนี้มาถามเนี่ยยยย
บันทึกการเข้า
ppornson
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,724

« ตอบ #62 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2551, 12:02:45 »

ไม่มีอะไรหรอก..ที่เปิดประเด็นนี้..

ก็เห็นว่า..สิบกว่าปีนี้..มีอะไรที่เปลี่ยนไป..

ก็เลยรู้สึกว่า..เหตุการณ์อกหัก..มันเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตแต่ละคน หลายๆคน..นิสัยเปลี่ยนไปเลย..

สำหรับเรา..คิดอะไรได้หลายอย่างเลย..เช่น ไม่มีอะไรเป็นของเรา..

ดังคำพระบอก..ถ้าสิ่งนั้นเป็นของเรา..ก็ลองปล่อยไป..ถ้าเป็นของเราจริงๆ..มันก็จะกลับมา..

ปรากฎว่ามันไม่กลับเว้ยยย..ตอนนี้..ก็เลยคิดจริงๆนะ..ว่าไม่มีอะไรที่เป็นของเราตลอดไป

ชีวิตสร้างภูมิคุ้มกัน เกิดการปรับตัวไม่ให้คิดแบบที่จะทำให้เจ็บช้ำอย่างเดิมอีก..

ชีวิตไม่ได้ดำเนินด้วยความประมาท..

ทำแบบทางสายกลาง..ไม่สุดโต่ง..ไม่ต้องเอาใจสุดๆ..แบบ puppy love ไม่ต้องงอน เวลาไม่รับโทรศัพท์..Do u belive me? ถ้าใช่..คำอธิบายเรื่องต่างๆก็คงต้องเชื่อใจกัน..

รับโทรศัพท์ช้าหน่อยเพราะติดสายอีกเครื่อง ไม่โทรมาแสดงว่าทำงานยุ่ง ไม่รับสายเพราะติดประชุม

กลางๆ..สบายๆ..สำหรับเรา..มันเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญจากการดำเนินชีวิตความรักแบบสุดโต่ง..แบบว่าทำได้ทุกอย่าง..นั่งรถข้ามวันข้ามคืนจาก กทม.ไปหาดใหญ่ แล้วก็กลับมาเรียนได้วันจันทร์

เป็นทุกวันนี้คงไม่ทำ..ถ้ามึนมากๆ..ก็คงไปด้วยกันไม่ได้..โตๆกันแล้ว..อนุญาตให้มึนได้พอสมควร

มันดีตรงที่ทำให้ชีวิตมันสบายขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ในเมื่อคุณสองคนตกลงใจจะคบกัน มันก็ต้องเชื่อใจกัน sweet กันพอให้ไม่จืดชืด..มีที่ว่างให้เดินตามกันไปได้..ไม่อึดอัด

อีกอย่าง..มันทำให้เราคงไม่เสียใจกับอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว..เพราะมันผ่านจุดที่เสียใจที่สุดไปแล้ว..มองทุกอย่างเป็นสัจธรรมมากขึ้น..อย่าไปยึดติด..ชีวิตมาเร็ว..แล้วก็ไปเร็ว..

นี่ล่ะ..ในสิบกว่าปีมานี้..ที่เปลี่ยนแปลงไป
บันทึกการเข้า
Max
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,435

« ตอบ #63 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2551, 12:46:16 »

ของเรา

สิ่งที่ไม่เปลี่ยน

 ถ้าคนนั้นคิดว่าใช่ + ชอบมาก ก็จะเข้าไปเต็มตัว  ไม่มีกั๊ก พออกหัก ก็เศร้าเป็นหมาหงอย

ถ้าแค่คิดว่าชอบ ก็อยากทำความรู้จัก แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมาก  อยากจะอยู่ก็อยู่อยากจะไปก็ไป

ทำนิสัยเสียกับผู้หญิงเหมือนเดิม



แต่สิ่งที่เปลี่ยน ก็เรื่องการจมปลักอยู่กับความเสียใจ จะหายเสียใจได้เร็วขึ้น

คือคิดว่า  ถ้าเค้าไม่เห็นคุณค่าในตัวของเรา   เค้าก็ไม่ได้มีคุณค่าอะไรในชีวิตสำหรับเรา

อย่าเสียน้ำตาให้กับคนที่ไม่เห็นคุณค่าของเรา  แค่นั้นก็หลุดน่ะ
บันทึกการเข้า
Sleepy
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 46

« ตอบ #64 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2551, 14:03:07 »

เด๋วกรูสรุปของคุณMAxให้นะ......อกหักเหมือนเดิม....แต่เจ็บน้อยลง.....สรุป "โสด" (เหมือนกรู)  :cry:  :cry:  :cry:
บันทึกการเข้า
Max
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,435

« ตอบ #65 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2551, 16:33:34 »

5555

อกหักทีกินเหล้าสนุกดีอ่ะ  เด๋วนี้แก่ล่ะ กินได้น้อยลงล่ะ  Cheesy
บันทึกการเข้า
ppornson
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,724

« ตอบ #66 เมื่อ: 15 มิถุนายน 2551, 21:45:27 »

เป็นการสรุปที่เยี่ยมยอดมาก..จบได้ในกระบี่แค่เพลงเดียว..

นับถือ..นับถือ
บันทึกการเข้า
ลูกพิ้ง
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,287

« ตอบ #67 เมื่อ: 15 มิถุนายน 2551, 23:14:59 »

Cool หูยยยย..เข้ามาอ่านแล้วอิน....ขอแสดงทัศนะแบบสาวช่างฝันมั่งนะ....

เมื่อก่อนรักใครชอบใครก็เหมือนเด็กๆ ที่อยากได้ของเล่น
แต่พอไม่ได้มา..ก็เศร้าใจฟูมฟาย..แต่ก็ไม่มากมาย..เพราะเมื่อก่อนอยู่หอ..
เพื่อนสาวคอยปลอบใจเยอะแยะ..มีพี่ๆ น้องๆ กิจกรรมให้ทำ..เด๋วก็ลืม..
แต่ก็ยังจำความรู้สึกนั้นได้อยู่นะ..เหมือนไปรื้อลิ้นชักแล้วเจออะไรบางอย่าง
ที่ซุกไว้พอหยิบออกมาดูแล้วพบว่ามีทั้งรอยยิ้ม..เสียงหัวเราะและหยาดน้ำตา.. :cry:

เราว่าพอเราโตขึ้นมุมมองความรัก....มันก็เติบโตขึ้นเช่นเดียวกัน.....
เมื่อก่อนเราพบว่าเรามักจะรักคนที่เราไม่รู้จักอย่างบ้าคลั่งเสมอ..
พอเราได้รู้จักเขามากขึ้นเราอาจรักเขาน้อยลงหรือรักอย่างมีสติมากขึ้น..

ทุกวันนี้..เราเลือกที่จะ..รู้จัก..เข้าใจ..เห็นคุณค่า..กันก่อน
แล้วความรู้สึกรัก..ก็จะตามมา..เหมือนความรักในต้นไม้มั้ง..
เราจะชอบจะรักต้นไม้ชนิดไหนถึงกับไปแสวงหามาปลูกดูแลมันให้เติบโต
ออกดอกออกผล..ก็ต้อง..รู้จัก..เข้าใจ..เห็นคุณค่าของพืชชนิดนั้นก่อน..
ความรักก็เหมือนต้นไม้นะ..ปลูกต้นไม้แห่งความรักกันแล้วก็องช่วยกัน
รดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ยให้เติบโต..ตัดแต่งกิ่งเล็มใบกันบ้าง..
แต่อย่างไรก็ตามเราต่างก็ต้องเติบโต..อยู่ห่างๆ กันบ้าง..พอให้กิ่งมาเชื่อมถึงกัน
ไม่รู้สึกว่า..เราเติบโตอย่างโดดเดี่ยวเกินไปนัก..
แต่ไม่ใช่ชิดจนอึดอัด..จนพบว่ากิ่งก้านของเราไม่สามารถเติบโตได้
แล้วพลอยจะกลายเป็นไม้แกร็นไป..

อ๋อ..สิบปีที่เปลี่ยนไปกับความเปลี่ยนแปลงของเพื่อนสาวที่อยู่รอบตัว..
เห็นมาอีกข้อ..คนที่เห็นว่าตอนอยู่หอเป็นสาวห้าวๆ ทอมๆ ตอนนี้มีลูกปาไป  3  คนแล้ว..
อีกคนที่ไม่เห็นวี่แววตอนเรียน..ก็ได้แต่งงานได้ลูกมาหนึ่ง..
หรือไม่ก็ได้แต่งงานสละโสดตัดหน้าก่อนพวกที่ควงๆ กันโฉบเฉี่ยวไปมาตอนอยู่หอซะอีก..
ส่วนที่เห็นรักกันมานานแต่ยังไม่ได้แต่งบางคู่ก็มีฉากจบให้ต้องเสียน้ำตา
ไปกับความเปลี่ยนแปลง..
แต่คู่ไหนก็ตามที่เป็นรักทรหด..รักข้ามหอ..แล้วตัดสินใจจะใช้ชีวิตร่วมกันอันนี้ก็ปลาบปลื้มใจ

เรื่องความรัก...นี่ไม่เข้าใครออกใคร...เลยนะ...เอาแน่เอานอนไม่ได้เล้ยยย...เฮ้ออ...
พูดแล้วเหมือนกับปลง...แหม..ไม่ได้ขนาดน้านนน...ทุกวันนี้ก็มีความสุขกับสิ่งที่มีและที่เป็น..
เท่านั้นเอง..คิดว่าตัวเองเป็นคนโชคดีนะที่มีโอกาสได้พบได้รู้จักกับคนดีดีในชีวิตที่ไม่ได้คิดว่า
ได้เจอ..เหมือนกับเธอไง...นี่ไม่ได้ฝันไปนะ...เรื่องจริง555


  Cool อืมม..มีคำถามอยากถามหนุ่มๆ ในเว็บนี้มั่งจัง...ที่ถามเพราะเห็นมีแต่หนุ่มวนเวียนเข้ามา555

ถามว่า..ผู้ชายคิดว่า..การแต่งงาน..คือ..จุดสิ้นสุดของอิสระ(ภาพ)
และการได้ทำในสิ่งที่อยากทำมั้ย..


ปล.ถ้ายังไม่แจ้งใจในคำถามบอกกันมาได้นะจ้ะ :wink:
บันทึกการเข้า
BeKamon
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 235

« ตอบ #68 เมื่อ: 16 มิถุนายน 2551, 12:59:40 »

เรื่องอกหัก หรือ การเสียใจจากความรัก ทำให้คนเปลี่ยนไปมั้ย...

คิดว่าเปลี่ยนแน่นอน เห็นด้วยกะท่านโต้งว่า มันทำให้เราคิดได้ว่า ไม่มีอะไรเป็นของเรา

ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงได้เสมอ เขาเปลี่ยน เราก็เปลี่ยนได้เช่นกัน

บางทีเกิดคำถามว่า คนเราพบกันเพื่อจากจริงๆ หรือ ความเป็นจริงมันเศร้าจัง

พบกันสุดท้ายก็จากกัน ช้าหรือเร็วอีกเรื่องหนึ่ง  ต้องทำใจและเดินสายกลาง

จริงๆ การพบและได้รู้จักกันมันก็เป็นการดี คือ ทำให้เราได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ได้เห็นแง่มุมในชีวิตต่างๆ มากขึ้น

หากวันไหนที่ต้องจากกัน สิ่งที่ผ่านมาก็คือ ความทรงจำดีๆ ที่จะอยู่กับเราตลอดไป
บันทึกการเข้า

Something might change, but something never changes. (The Matrix Revolution)
Mr.EggMan
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,826

« ตอบ #69 เมื่อ: 16 มิถุนายน 2551, 17:58:27 »

อกหัก ครั้งแรก
สิ่งแรกที่คิดคือ เราจะอยู่ยังไง กับชีวิตที่ไม่มีเค้า จากที่เคยมีคนๆนึงอยู่ข้างๆ ไปไหนด้วยกัน ทำอะไรด้วยกัน อยู่ดีดีก็หายไป เหลือเราต้องอยู่ราวกับเผชิญโลกตามลำพัง เสียใจเหมือนเด็กเสียของเล่น เจ็บแป๊บเดียวหาย พอไปทำอะไรเพลินๆก็ลืม
อกหักครั้งต่อมา
เริ่มโตขึ้น ก็เริ่มจริงจังกับชีวิตมากขึ้น เกิดอาการเจ็บแปลบ แบบว่าปวดๆ ปนหวิวๆ แถมอาการออกฤทธิ์นาน อาการกำเริบทุกครั้งที่ฟังเพลงที่มีเนื้อหาปะโลมโลก หันหน้าเข้าหาสุราเป็นที่พึ่งทางใจ แถมมีอาการฝังใจแถมมาด้วย
.
.
.
.
อกหักอีกซักที
ก็ยังมีอาการเจ็บปวดบ้างตามเหมาะสม ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย แต่ไม่มีอะไรมากมาย และพร้อมที่จะอกหักอีก ในครั้งต่อๆไป

-----------------------------------------------------------  

ถามว่า..ผู้ชายคิดว่า..การแต่งงาน..คือ..จุดสิ้นสุดของอิสระ(ภาพ)
และการได้ทำในสิ่งที่อยากทำมั้ย..

ตอบว่า...ตอบไปจะอายไหมนี่ เพราะว่ายังไม่ได้แต่งงานเยย แถมยังห่างไกล แต่จะขอหาญกล้าตอบในมุมมองของตนที่ยังไม่แต่งละกัน คำว่า จุดสิ้นสุดของอิสระ(ภาพ) นั้นดูน่ากลัวไปนิดนึง แต่ถ้าเรียกให้เพราะๆคงเรียกว่าการเสียสละความเป็นตัวเองออกไปบ้าง เราว่าถ้าคนเรายังคงรักความเป็นตัวของตัวเองมากๆเกินไป คงจะยังไม่พร้อมที่จะแต่งงานกะใครมั้ง เรียกว่าเกิดการจำกัดทางอิสรภาพที่เหมาะสมจะดีกว่า ไม่ใช่ว่าชั้นยังอยากทำอะไรก็ทำ ไม่สนใจคนที่เราแต่งด้วย แบบนี้ก็ไม่ไหว แต่มันก็แค่บางส่วนไม่ใช่ทั้งหมดหรอก เพราะว่าไอ้อิสระภาพหรือ ไอ้สิ่งที่อยากทำบางอย่าง มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี ที่ถูกต้องนี่นา เช่น ก่อนแต่งงานน้าแครม(นามสมมุติ)ชอบไปอาบน้ำแถวรัชดา เพื่อผ่อนคลาย แต่หลังแต่งงานแล้วก็ไม่ควรจะทำ(ให้จับได้) แต่ในทางกลับกัน เซียนโต้ง(นามสมมุติ)ชอบลิเวอร์พูลมาก แต่ภรรยาชอบการท่าเรือ แล้วจะมาให้เซียนโต้งไปชอบการท่าเรือแทนลิเวอร์พูล แบบนี้ก็คงจะไม่ดีแน่

ตอบไปเรื่อย ให้ดีต้องให้คนแต่งงานแล้ว มาช่วยตอบ

 :roll:
บันทึกการเข้า

jakkreepan@hotmail.com
Love is in the A...I...R......H
Net 80
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 187

« ตอบ #70 เมื่อ: 17 มิถุนายน 2551, 08:52:19 »

อกหัก:
มันก็มีหลายสาเหตุ..... อืมผมเคยแบบ รักสี่เศร้าอ่ะ เพื่อนที่สนิทกันมาก ชอบเรา และเราก็ไปชอบคนที่เค้ามีแฟนแล้ว แต่คนที่เราชอบก็ ตัดสินใจมะได้ว่าจะเลือกเรา หรือแฟนเค้า โอ้ความรู้สึกมันก็ไม่ดีเลย เจ็บปวดกันหมดทุกคน ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร เป็นทุกข์ใจอยู่นานนับเดือน แล้ววันหนึ่งก็มานั่งคิด และก็เลือกจะเป็นฝ่ายรอ และถอยห่างออกมา แต่ก็คอยดูแลเค้าอย่างเดิมไม่คิดหวังใดๆ (พระเอกจริงๆ) รอให้วันเวลาเป็นตัดสินใจ....บทสรุปสำหรับผม ทำดีได้ดีคับ



ถามว่า..ผู้ชายคิดว่า..การแต่งงาน..คือ..จุดสิ้นสุดของอิสระ(ภาพ)
และการได้ทำในสิ่งที่อยากทำมั้ย...
สำหรับผม คิดว่ามันเป็นคำพูด ที่ล้อกันประสาผู้ชายมากกว่า (แต่ขึ้นอยู่กับภรรยา และเหตุของการแต่งงานด้วยนะ) จริงแล้วมันก็มะได้ขาดอิสระดภาพ แต่ว่าเราก็ต้องมีหน้าที่รับผิดชอบเพิ่มขึ้นมา แต่เวลามีเท่าเดิม และการจัดสรร เวลาก็จะมีผลกับการดำเนินไปของครอบครัว "แฟมมิลี่แมน" คือ คนที่ขาดอิสระภาพอ่ะป่าวอ่ะ  และภ้าวันหนึ่งคุณได้เป็น พ่อคน คุณจะลืม คำว่า อิสระภาพไปเลย...เพราะความสุขคือ ครอบครัว

ขอบคุณที่อ่านครับ
บันทึกการเข้า
ppornson
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,724

« ตอบ #71 เมื่อ: 18 มิถุนายน 2551, 19:48:21 »

เน็ต...กรูขอโทษ...ฮือๆๆๆๆๆ  (แบบในหนังไง)

เห็นเหมือนท่าน egg..ตอนนั้นเพลงที่ฟังไม่ได้เลยคือ คิดถึงเธอทุกทีที่อยู่คนเดียว..กับ รักเธอทั้งหมดของหัวใจ..

แต่ที่สุดๆเลยนะ..จำชื่อเพลงไม่ได้ของมาช่าน่ะ..ฉันหวังว่าวันนึง..แม้ใจจะร้าวราน..เวลาจะรักษาใจเราเอง.. โอ้โห..สุดยอด..ไหลพรากๆ..

แต่พอซัก 1 ปี..เพลงที่ให้กำลังใจมากๆเลยนะ..ฉันไม่ใช่ดอกไม้..ของมาช่า..เสือ ธนพลแต่ง..สุดๆเลย ฟังแล้วรู้สึกดีมาก
บันทึกการเข้า
Apirat T.
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,357

« ตอบ #72 เมื่อ: 19 มิถุนายน 2551, 12:04:15 »

ตรูได้เสื้อบอลมาจากไอ้ไข่ตัวนึง
มันบอกไม่อยากเห็น เพราะคนที่หักอกมันซื้อให้
หุหุ เสร็จโจร  :lol:

ชอบคำพูดไอ้เน็ตยักษ์ว่ะ
ไม่เชื่อการเป็นพ่อคน มันจะส่งผลดีเช่นนี้เอง

ตาแคม
บันทึกการเข้า
ppornson
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,724

« ตอบ #73 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2551, 15:42:50 »

มันได้เสื้อจากใครวะ..วานบอก
บันทึกการเข้า
BeKamon
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 235

« ตอบ #74 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2551, 18:01:08 »

นำเพลงที่ท่านโต้งกล่าวถึงมาโพสต์แบบเต็มๆ

เพลง: เวลากับคนสองคน - มาช่า
วันเวลาได้นำพาทุกอย่าง
ได้นำทางเราสู่ความรัก
ได้สร้างความสัมพันธ์ สองเราให้ต้องการ
จะเดินร่วมทางตลอดไป

เวลาเดินไปจิตใจเรานั้นเปลี่ยน
ต่างคนมีทางที่ต่างกัน
ถึงแม้จะตั้งใจ ควบคุมมันเท่าไร
แต่มันไม่ดีขึ้นมาเลย

ได้มองเธอทุกครั้ง ในหัวใจฉันยังเจ็บ
ยังคงคิดถึงวันเรารักกัน
แต่มันถึงวันนี้ ถึงเวลาต้องจากกัน
ไม่มีวันเวลานั้นแล้ว

เวลาเดินไปไม่เคยจะหวนกลับ
ฝากเพียงรอยทางกับความหลัง
ฉันหวังว่าวันหนึ่ง แม้ใจเราร้าวราน
เวลาจะรักษาใจเราเอง
บันทึกการเข้า

Something might change, but something never changes. (The Matrix Revolution)
  หน้า: 1 2 [3] 4 5 6  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><