25 พฤศจิกายน 2567, 20:47:59
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ทำบุญกันนะ  (อ่าน 17829 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
dd_2530
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2530
คณะ: ศิลปกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,076

« เมื่อ: 28 มีนาคม 2551, 17:36:28 »

วันหยุดเสาร์-อาทิตย์  ไปทำบุญกันนะ

ที่วัดใกล้ๆบ้าน...

หรือวัดที่อยากจะไป...

อย่ารอให้ถึงวาระพิเศษ  ครบรอบวันเกิด  หรือ  ครบรอบวันแต่งงาน  ...ฯลฯ ...  เลยนะ
สร้างโอกาส  หรือ  จัดสรรเวลา  เพื่อการทำบุญ  บ้าง
บันทึกการเข้า
dd_2530
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2530
คณะ: ศิลปกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,076

« ตอบ #1 เมื่อ: 28 มีนาคม 2551, 17:39:37 »

บุญ  มาจากศัพท์ภาษาบาลีว่า “ปุญญะ”  แปลว่า  เครื่องชำระจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์

บุญเป็นเครื่องจำกัดสิ่งที่เศร้าหมองที่เรียกว่า  กิเลส

การทำบุญจึงเป็นการช่วยลด ละ เลิก ความโลภ  ความเห็นแก่ตัว  ความมีใจแคบ  ความตระหนี่ถี่เหนียว  ความหวงแหนยึดติดลุ่มหลงในวัตถุสิ่งของ  อันเป็นสาเหตุหนึ่งของความทุกข์ให้ออกไปจากใจ
บันทึกการเข้า
dd_2530
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2530
คณะ: ศิลปกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,076

« ตอบ #2 เมื่อ: 28 มีนาคม 2551, 17:43:34 »

หลวงพ่อพุทธทาส  พูดถึงวิธีการทำบุญ 3 แบบ  ว่า  เปรียบเหมือนกับบุคคล 3 ประเภท  เอาน้ำ 3 ชนิดมาอาบชำระล้างตัว  คือ

1.   บุคคลทำบุญเหมือนเอาน้ำโคลนมาอาบ  คือ  คนที่ทำบุญด้วยการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต  เบียดเบียนสัตว์  ฆ่าวัว  ควาย  ไก่ เป็ด เพื่อเอาเนื้อสัตว์เหล่านั้นมาจัดงานเลี้ยงกัน  รวมทั้งมีสุรายาเมาด้วย  จนบางครั้งเกิดการทะเลาะวิวาททำร้ายกัน  

เหล่านี้เป็นการทำบุญด้วยการทำบาป  เหมือนกับเอาน้ำโคลนมาชำระตัว  จะสะอาดได้อย่างไร

2.   บุคคลทำบุญเหมือนเอาน้ำเจือด้วยแป้งหอมมาอาบ  คือ  คนที่ทำบุญด้วยอุปทาน  ยึดมั่นถือมั่นในบุญอย่างมาก  เมาสวรรค์  เมาวิมาน  เป็นการทำบุญด้วยกิเลสหรือความยึดติดอย่างรุนแรง  ทำแล้วหวังผลเช่นนี้

 เหมือนเอาน้ำที่เป็นเครื่องหอมมาอาบชำระกาย  จะสะอาดได้อย่างไร

3.   บุคคลทำบุญเหมือนเอาน้ำสะอาดมาอาบ  คือ  คนที่ทำบุญด้วยใจสงบร่มเย็น  ไม่ได้ยึดมั่นถือมั่นสิ่งนั้นว่าเป็นตัวเราของเรา(อาจจะมีบ้างเหมือนกัน  แต่ไม่ได้เป็นเหตุจริงจังให้จิตฟุ้งซ่าน  หวั่นไหว  หรือยึดติดเป็นอุปาทาน)  
เหมือนคนเอาน้ำสะอาดมาอาบย่อมสะอาดกว่าบุคคล 2 ประเภทแรก
บันทึกการเข้า
dd_2530
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2530
คณะ: ศิลปกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,076

« ตอบ #3 เมื่อ: 28 มีนาคม 2551, 17:45:47 »

บุญ 10 วิธี

หรือที่เรียกว่า  บุญกิริยา วัตถุ 10 (สิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งการทำบุญ 10 ประการ)  คือ

1.   ให้ทาน  (ทานมัย)

2.   รักษาศีล (ศีลมัย)

3.   เจริญภาวนา (ภาวนามัย)

4.   อ่อนน้อมถ่อมตน (อปจายนมัย)

5.   ช่วยเหลือสังคมรอบข้าง (ไวยาวัจจมัย)

6.   เปิดโอกาสให้คนอื่นมาร่วมทำบุญกับเรา (ปัตติทานมัย)

7.   ยอมรับและยินดีในการทำความดี  หรือทำบุญของผู้อื่น (ปัตตานุโมทนามัย)

8.   ฟังธรรม (ธรรมสวนมัย)

9.   แสดงธรรม (ธรรมเทศนามัย)
10.   ทำความเห็นให้ถูกต้องและเหมาะสม (ทิฏฐุชุกรรม)
บันทึกการเข้า
dd_2530
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2530
คณะ: ศิลปกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,076

« ตอบ #4 เมื่อ: 28 มีนาคม 2551, 17:54:14 »

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการทำบุญอีกมากมาย   จากหนังสือเล่มนี้ค่ะ



ขอบพระคุณพี่อ้อย (กรองอร)  จากบ้าน 2513  ที่ให้หนังสือเล่มนี้ค่ะ
บันทึกการเข้า
dd_2530
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2530
คณะ: ศิลปกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,076

« ตอบ #5 เมื่อ: 28 มีนาคม 2551, 18:04:26 »

ทำบุญกับพระวัดป่า

ที่วัดป่าอาจารย์มั่น  ภูริทัตโต  อ.พร้าว  จ.เชียงใหม่


บันทึกการเข้า
dd_2530
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2530
คณะ: ศิลปกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,076

« ตอบ #6 เมื่อ: 28 มีนาคม 2551, 18:07:51 »





บันทึกการเข้า
dd_2530
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2530
คณะ: ศิลปกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,076

« ตอบ #7 เมื่อ: 28 มีนาคม 2551, 18:40:27 »

การถวายภัตตาหารสำหรับพระว้ดป่า  จะนำอาหารที่ญาติโยมใส่บาตรจากที่พระเดินบิณฑบาตรมาแยกเป็นอย่างๆ  เช่น  ถาดข้าว  ถาดอาหาร  ถาดผลไม้  ถาดขนม  ถาดนม และคัดเลือกอาหารที่ไม่สมควรถวาย เช่น  แหนมดิบ  ลาบดิบ(ลาบเลือด) หรืออาหารที่ปรุงไม่สุกทุกชนิดออก

สำหรับอาหารแห้ง  เครื่องกระป๋องทั้งหลาย  หากในวันนั้นๆมีอาหารที่ญาติโยมมาถวายด้วยตนเองที่วัด  รวมกับที่พระออกบิณฑบาตร  มีจำนวนมากพอแล้ว  ก็จะแยกออกไว้ส่วนหนึ่งบ้างเพื่อถวายครั้งต่อไปเพราะหากถวายในวันเดียวทั้งหมด   พระฉันไม่หมด  และจะนำมาถวายในครั้งต่อไปอีกไม่ได้  (พระวัดป่าจะฉันอาหารมื้อเดียว)

แต่หาใช่ว่า  อาหารที่ญาติโยมใส่บาตร  แต่พระไม่ได้ฉันในวันนั้นๆ  จะไม่ได้บุญ  เพราะบุญเกิดขึ้นตั้งแต่ความตั้งใจแรกที่คิดไปใส่บาตรแล้ว  และมากขึ้นตามลำดับเมื่อได้ปฏิบัติ
 
เวลาถวายอาหารแด่พระสงฆ์   ก็จะนำถาดอาหารวางบนรถเข็น  โดยเริ่มจากข้าว  อาหารคาว  อาหารหวาน  ผลไม้  เครื่องดื่ม เช่น  นม  น้ำเต้าหู้   ตามลำดับ








อาหารที่เหลือจากการถวายทั้งหมด  พระท่านก็จะอนุญาตให้ญาติโยมนำไปรับประทานกัน



ข้าวก้นบาตร  พ่ออุ้ย-แม่อุ้ย  เชื่อว่า  เป็นยาทิพย์   เมื่อได้รับประทานแล้วจะได้บุญมาก   มิให้โรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน

บันทึกการเข้า
dd_2530
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2530
คณะ: ศิลปกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,076

« ตอบ #8 เมื่อ: 28 มีนาคม 2551, 21:30:38 »

ธรรมชาติที่วัดป่า










บันทึกการเข้า
krongon2513
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,490

« ตอบ #9 เมื่อ: 29 มีนาคม 2551, 07:23:48 »

Cheesy
ดีใจที่น้องแอชอบหนังสือทั้งสองเล่มนั้น
และยินดีอย่างยิ่งที่ได้นำมาให้พี่ๆน้องๆได้รับประโยชน์ไปด้วย
ขอบคุณนะคะ
บันทึกการเข้า
iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 30 มีนาคม 2551, 15:47:50 »

ดีจังเลยค่ะพี่แอ...ได้ความรู้การทำบุญรวมภาพประกอบ
สงกรานต์นี้น้องจะกลับอุบลไปทำบุญด้วยค่ะ...แล้วจะเอาภาพมาฝากนะคะ
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

dd_2530
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2530
คณะ: ศิลปกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,076

« ตอบ #11 เมื่อ: 31 มีนาคม 2551, 22:05:13 »

อนุโมทนาค่ะ  น้องปุ๊ก

จะรอชมภาพสวยๆ  จากคนสวยค่ะ

สงกรานต์  กลับบ้านอุบลฯทุกปีเลยเหรอคะ

แล้วเคยมาเที่ยวสงกรานต์  ที่เชียงใหม่  บ้างรึยังเอ่ย :?:
บันทึกการเข้า
dd_2530
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2530
คณะ: ศิลปกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,076

« ตอบ #12 เมื่อ: 31 มีนาคม 2551, 22:19:55 »

บุญและความหมายแห่งบุญ 3 ระดับ

1.   เราทำบุญก็เพื่อประโยชน์สุขปัจจุบัน (ทิฏฐุธัมมิกัตถะ)  คือ  เพื่อให้เกิดลาภบริวาร  สถานภาพความเป็นอยู่  ความสุข  คำชมเชย  สนองตอบกลับมา  นั่นคือ  คุณภาพชีวิตที่ดี  เศรษฐกิจที่ดี  และการยอมรับที่ดีจากสังคมรอบข้างที่เราอยู่

2.   เราทำบุญเพื่อประโยชน์สุขที่สูงขึ้น (สัมปรายิกัตถะ)  คือ  ในระดับจิตที่สูงขึ้นไป  เพื่อเราจะได้เรียนรู้ที่จะพัฒนาตัวเองให้เจริญเติบโตขึ้นมาเป็นบุคคลที่มีศีลธรรม  คุณธรรม  มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่  มีความอบอุ่นซาบซึ้งสุขใจด้วยศรัทธา  แกล้วกล้ามั่นใจในชีวิตที่ได้ทำบุญ  โดยกินความหมายรวมถึงจุดหมายต่อมาเมื่อละโลกนี้ไปแล้วด้วย

3.   เราทำบุญเพื่อประโยชน์อย่างยิ่ง (ปรมัตถะ) คือ  ประโยชน์ที่เป็นสาระแท้จริงของชีวิต  ได้แก่  การรู้แจ้งสภาวะของสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง  รู้เท่าทันคติธรรมดาของโลก  ของสังขารธรรม  ไม่ตกเป็นทาสของโลกและชีวิต มีจิตเป็นอิสระปลอดโปร่งผ่องใส  ไม่หวั่นไหวไปกับความผันผวนปรวนแปรของชีวิต  หรือการพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักในชีวิต  ไม่ถูกบีบคั้นโดยความยึดมั่นของตนเอง  เย็นสว่างไสวโดยสมบูรณ์

โดยสรุปแล้ว  ปุถุชนคนเราทำบุญก็เพื่อ “ตัวเอง”
แต่คงดีกว่าถ้าเราทำบุญเพื่อ “พัฒนาจิต”
บันทึกการเข้า
iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 01 เมษายน 2551, 08:46:05 »

อ้างจาก: "dd_2530"
อนุโมทนาค่ะ  น้องปุ๊ก

จะรอชมภาพสวยๆ  จากคนสวยค่ะ

สงกรานต์  กลับบ้านอุบลฯทุกปีเลยเหรอคะ

แล้วเคยมาเที่ยวสงกรานต์  ที่เชียงใหม่  บ้างรึยังเอ่ย :?:


ใช่แล้วค่ะ เพราะจะเป็นวันรวมญาติ เราจะไปทำบุญถึงตากับยาย และญาติที่ล่วงลับไปแล้วค่ะ...
ส่วนสงกรานต์เชียงใหม่ น้องยังไม่เคยไปเลยค่ะพี่แอ  อยากไปสัมผัสบ้างเหมือนกัน กะจะไปเนียนเป็นเด็กๆ สักหน่อย ฮ่าๆๆ...
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

Meaw
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #14 เมื่อ: 01 เมษายน 2551, 16:24:49 »

พี่แอขา..
สวย น่ารัก เรียบร้อยแถมใจบุญอีกต่างหาก..
 Cheesy
บันทึกการเข้า
dd_2530
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2530
คณะ: ศิลปกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,076

« ตอบ #15 เมื่อ: 03 เมษายน 2551, 09:50:46 »

อ้างจาก: "iamfrommoon"
ส่วนสงกรานต์เชียงใหม่ น้องยังไม่เคยไปเลยค่ะพี่แอ  อยากไปสัมผัสบ้างเหมือนกัน กะจะไปเนียนเป็นเด็กๆ สักหน่อย ฮ่าๆๆ...


หาโอกาสมาเที่ยวสักครั้งนะคะน้องปุ๊ก  รับรองจะติดใจ Cheesy

แล้วเราไปเนียนด้วยกัน   :lol:  :lol:  :lol:  
บันทึกการเข้า
dd_2530
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2530
คณะ: ศิลปกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,076

« ตอบ #16 เมื่อ: 03 เมษายน 2551, 09:56:39 »

อ้างจาก: "Meaw"
พี่แอขา..
สวย น่ารัก เรียบร้อยแถมใจบุญอีกต่างหาก..
 Cheesy


ขอบใจจ้า...เหมียว  เหมียว Cheesy

มาเที่ยวสงกรานต์เจียงใหม่ เร้ว!

ชวนพี่ปุ๊กกี้  บูหมี  แป๋ม...

มาแอ่วโตยกั๋นหลายๆคน

จะได้ม่วนๆ เจ้า
:)
บันทึกการเข้า
dd_2530
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2530
คณะ: ศิลปกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,076

« ตอบ #17 เมื่อ: 24 เมษายน 2551, 09:14:07 »

บันทึกการเข้า
dd_2530
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2530
คณะ: ศิลปกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,076

« ตอบ #18 เมื่อ: 25 เมษายน 2551, 21:27:47 »

องค์ประกอบในการทำบุญเพื่อจะได้บุญมาก

1.  บุพพเจตนา  
เริ่มจากการแสวงหาสิ่งของต่างๆมาทำบุญ  ด้วยใจที่สบายและเป็นสุข  เป็นเจนตนาที่ดีบริสุทธิ์  กอรปกับการได้วัตถุไทยทานมาด้วยความบริสุทธิ์

2.  มุญจนเจตนา
เมื่อเรามาทำบุญที่วัดแล้วต้องการบุญที่มีความบริสุทธิ์จริงนั้นก็คือ  เราต้องไหว้พระ  รับศีลเพื่อให้ตนเองมีศีลก่อน  เช่น  การทำสังฆทาน  เป็นต้น  บัดนี้เราผู้เป็นทายกคือ  ผู้ถวายทาน  ก็เป็นผู้มีศีล  และภิกษุผู้เป็นปฏิคาหก  คือ  ผู้รับสังฆทาน  ก็เป็นผู้มีศึลแล้ว  เราจึงน้อมของทานไปถวายด้วยความเคารพในกองบุญของตน  การน้อมถวายวัตถุไทยทานด้วยความเคารพนี้  เรียกว่า  มุญจนเจตนา

3.  อปราปรเจตนา
เมื่อพระภิกษุให้พร  มีความเต็มใจ  และเราผู้รับพรก็ทำจิตใจของเราให้แช่มชื่นเบิกบาน  มีความสุขอยู่ที่เราได้ทำความดี  เราก็จะได้บุญมาก  เรียกว่า  อปราปรเจตนา
บันทึกการเข้า
dd_2530
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2530
คณะ: ศิลปกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,076

« ตอบ #19 เมื่อ: 25 เมษายน 2551, 21:36:20 »

การประเคนสิ่งของแก่พระภิกษุ

ในการประเคนของนั้น  ขนาดและน้ำหนักของสิ่งของที่จะประเคนนั้น  ควรจะเป็นสิ่งของพอบุรุษผู้มีกำลังยกคนเดียวได้  หรือไม่หนักเกินไป  เพื่อจะยกประเคนได้สะดวกและพระก็รับประเคนได้สะดวกเช่นกัน

1. เมื่อจัดเตรียมสิ่งของที่จะประเคนเสร็จแล้ว  พระก็นั่งเรียบร้อยดีแล้ว  เราก็ถือสิ่งของเหล่านั้นเข้าไปใกล้พระให้ได้ห้ตถบาท  คือ  ให้ห่างกันประมาณ 1 ศอกคืบ  หรือ 2 ศอก  พอเหมาะกับสถานที่นั้นๆด้วย

2. ยกของนั้นประเคนพระภิกษุให้สูงพอแมวลอดได้  พระภิกษุก็น้อมรับสิ่งของที่โยมถวายแก่ตนด้วยความเคารพเช่นกัน

3. การรับประเคนสิ่งของนั้น  ถ้าโยมยยกของถวาย 2 มือ  พระก็ต้องรับของ 2 มือ  หรือ  หากโยมยกของถวายมือเดียว  พระก็รับของมือเดียวเช่นกัน  ถือว่าถูกต้องในการประเคนสิ่งของสำหรับโยมผู้ชาย

4. ถ้าหากเป็นโยมผู้หญิงประเคนสิ่งของแก่พระภิกษุนั้น  ก็ควรจะนั่งห่างจากพระภิกษุประมาณ  2  ศอก  หรือให้เหมาะกับสถานที่นั้นๆ

5. พระภิกษุเมื่อจะรับประเคนสิ่งของจากโยมผู้หญิง  ก็ควรมีผ้าสำหรับรับประเคน  หรือ  ผ้าที่ควรหาได้ว่าเหมาะสมก็ได้  วางผ้านั้นลงที่ตรงหน้าของตนให้เรียบร้อย  แล้วโยมผู้หญิงก็น้อมสิ่งของที่จะถวายลงบนผ้าที่พระท่านจัดปูไว้นั้นด้วยความเคารพ

6. ถ้าโยมผู้หญิงยกของถวาย 2 มือ  พระก็ต้องจับผ้า 2 มือ  หรือ  หากโยมยกของถวายมือเดียว  พระก็จับผ้ามือเดียวเช่นกัน
บันทึกการเข้า
dd_2530
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2530
คณะ: ศิลปกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,076

« ตอบ #20 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2551, 13:44:44 »

วันวิสาขบูชาปีนี้ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 (วันจ.ที่ 16 พ.ค.)  

ที่เชียงใหม่จะมีงานประเพณีเตียวขึ้นดอยประจำทุกปี  เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ผู้รวบรวมกำลังคนก่อสร้างทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารมาตราบจนทุกวันนี้   ในวันก่อนวันวิสาขบูชา 1 วัน ศรัทธาสาธุชนจะนำข้าวของเครื่องสักการะ เดินเท้าขึ้นไปยังวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ เพื่อทำบุญและเวียนเทียนในวันวิสาขบูชา โดยชาวล้านนาเชื่อว่าจะได้อานิสงค์อันแรงกล้า มีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตตลอดปี

ขอเชิญเพื่อนพ้องน้องพี่ที่สนใจ  มาร่วมทำบุญงานประเพณีเตียวขึ้นดอย  ที่เชียงใหม่  กันนะคะ :)
บันทึกการเข้า
Meaw
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #21 เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2551, 17:01:16 »

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]
บันทึกการเข้า
iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #22 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2551, 10:08:21 »

เมื่อวานแม่ปลุกแต่เช้าไปทำบุญตักบาตรที่วัดศรีเอี่ยมมาค่ะ อิ่มบุญเลย
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

Supasit
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 161

« ตอบ #23 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2551, 14:43:05 »

น้องแอร์ หายไปเลย...สงสัยเป็นบวชเป็น " ชี " ไปแล้ววว...
บันทึกการเข้า
dd_2530
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2530
คณะ: ศิลปกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,076

« ตอบ #24 เมื่อ: 27 กรกฎาคม 2551, 17:45:03 »

อ้างจาก: "Supasit"
น้องแอร์ หายไปเลย...สงสัยเป็นบวชเป็น " ชี " ไปแล้ววว...


เกือบไปแล้วเหมือนกัลล์.. :lol:  :lol:  :lol: .

ขอบคุณพี่สิทธิ์ที่เข้ามาถามไถ่ค่ะ
บันทึกการเข้า
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><