หน้าแรกเว็บบอร์ด
แนะนำตัว
เพิ่ม/แก้.ข้อมูลส่วนตัว
ห้องโถงรวมรุ่น
Webสมาคมฯ
ปฏิทินนัดหมาย
สมัครสมาชิก
30 พฤศจิกายน 2567, 08:25:57
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน
[สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A
A
A
A
ระเบียบปฎิบัติ
Entire Forum
This board
This topic
Members
Entire Site
Languages
Cmadong Chula
|
เรือนรับแขก เมาท์แหลกไม่เลือกรุ่น
|
ห้องสนทนาประสาพี่น้อง
| หัวข้อ:
รู้ไว้ใช่ว่า แล้วก็ได้แต่ภาวนา อย่าได้เกิดกับใครอีกเลย
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
ผู้เขียน
หัวข้อ: รู้ไว้ใช่ว่า แล้วก็ได้แต่ภาวนา อย่าได้เกิดกับใครอีกเลย (อ่าน 3854 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ปุจฉา
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 69
รู้ไว้ใช่ว่า แล้วก็ได้แต่ภาวนา อย่าได้เกิดกับใครอีกเลย
«
เมื่อ:
27 มีนาคม 2551, 15:50:12 »
แม้จะรู้และเชื่อในเรื่องกัมมุนาวัตตีโลโก แต่ก็อดสะเทือนใจ เจ็บแค้นด้วยไม่ได้
ข้อมูลนี้ได้มาจากการส่งต่อทางอินเตอร์เนต
โปรดพิจารณา นี่คือผลพวงที่การบริหารประเทศพัฒนาไปสู่ระบอบธนาธิปไตย
หรือยุคเงินเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ศาสนาธรรมหดหายเหลืออยู่เพียงทรากของพิธีการและอามิสบูชา
ตอนที่ 1
> Date: Fri, 21 Mar 2008 10:20:37 +0700
> Subject: Fwd: มี ลูก หลาน ภรรยา ญาติพี่น้องช่วยบอกต่อกันไปด้วย
> ผมมีตัวตนแต่ไม่ต้องการเปิดเผยชื่อ เรื่องต่อไปนี้จะเป็นตัวบอกว่าทำไมผมจึงบอกไม่ได้
> ประมาณสองสัปดาห์หลังปีใหม่ ภรรยาผมลางานเพื่อไปติดต่องานราชการ เสร็จแล้วแวะ Central ลาดพร้าว เพื่อหาซื้อหนังสือแนวที่เธอชอบอ่านที่ B2S ระหว่างที่กำลังเลือกหาซื้อหนังสืออยู่นั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณ สามสิบเข้ามาทักทาย บอกว่าชอบหนังสือแนวสืบสวนสอบสวนเช่นกันและ มีหนังสือที่น่าสนใจหลายเล่มที่น่าอ่านมาก การสนทนาก็เป็นไปอย่างมี มิตรไมตรีต่อกัน เพราะจากลักษณะท่าทางและการแต่งตัวดูเหมือนเป็น คนทำงานทั่วไป แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ให้นามบัตรภรรยาผมมา ส่วนภรรยาผมก็ให้เบอร์มือถือเธอไปเพราะเห็นว่าเป็นผู้หญิงด้วยกัน
บันทึกการเข้า
คนที่เข้มแข็งที่สุดก็ยังมีนาทีที่น้ำตาไหลริน
ปุจฉา
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 69
รู้ไว้ใช่ว่า แล้วก็ได้แต่ภาวนา อย่าได้เกิดกับใครอีกเลย
«
ตอบ #1 เมื่อ:
27 มีนาคม 2551, 15:51:39 »
ตอนที่ 2
การติดต่อพูดคุยก็ มีขึ้นเป็นระยะๆ และมีนัดเจอกันเพื่อให้หนังสือภรรยาผมมาอ่านแล้วก็บอกว่า จะรีบไปทำงาน แต่หนังสือที่ให้มาเป็นหนังสือแนวสืบสวนธรรมดาที่ภรรยาผม เคยอ่านมาแล้ว จึงอยากจะคืนกลับไปการนัดเจอกันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้ผู้หญิงคนนั้นชวนทานข้าวเพราะเป็นช่วงเกือบเที่ยงวันแล้ว และได้แนะนำให้รู้จักผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งรออยู่ที่ Food Center เธอบอกว่าเป็นเพื่อนที่ทำงานชอบอ่านหนังสือแนวนี้เช่นกัน ผู้ชายคนนั้น ถามภรรยาผมและผู้หญิงคนนั้นว่า จะทานอะไรจะไปซื้อมาให้ ด้วยความ เกรงใจ จึงทานเหมือนกันเป็นก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู แต่ภรรยาผมก็พยายามจะขอตัวไปซื้อ น้ำมาให้แต่ทางผู้หญิงคนนั้น ชิงเดินไปซื้อมาให้ก่อน พอนั่งทานไปได้ประมาณ ครึ่งชามและดื่มน้ำไปหน่อย ภรรยาผมก็เกิดอาการมึนๆ และเริ่มง่วงนอน เพียงอีกไม่กี่นาทีต่อมา เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ผู้หญิงคนนั้นก็เข้ามาประคองตัวภรรยาผมแล้วพูดบอกผู้ชายว่า คงเป็นลมช่วยพาออกไปสูดอากาศข้างนอกหน่อย ตอนนั้น ภรรยาผมบอกว่าไม่สามารถ พูดอะไรได้ ร่างกายยืนแทบไม่ไหว ระหว่างเดินผ่านตัวห้างมาลานจอดรถเห็นผู้ชายโทรศัพท์เพียงไม่ถึงหนึ่งนาที รถตู้สีขาวก็มาจอด แล้วทั้งคู่ก็พาภรรยาผมขึ้นรถ วินาทีนั้นภรรยาผมบอกว่าเธอพยายามขัดขืนแต่ ทั้งคู่ก็ใช้กำลังพาเธอขึ้นรถแล้วปิดประตูรถ บนรถมีผู้ชายสองคนนั่งมาในรถด้วย เมื่อรถวิ่งออกจากห้างภรรยาผมพยายาม ร้องขอความช่วยเหลือแต่ก็ไม่มีเสียงและผู้ชายที่นั่งอยู่บนรถเอามือมาปิดปากเธอไว้ พอรถวิ่งออกมาระยะหนึ่งผู้ชายที่เจอกันที่ Food Center เริ่มปลดเสื้อผ้าภรรยาผม เธอพยายามร้องขอความช่วยเหลือและต่อสู้แต่ก็ไม่มีเรี่ยวแรง ผู้ชายอีกสองคนที่นั่งรออยู่บนรถก็ช่วยกันถอด สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปคงไม่ต้องบรรยายกันอีก โดยมีผู้หญิงเป็นคนเก็บภาพเป็นระยะๆ เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่ทราบ รู้สึกตัวอีกที่ภรรยาผมถูกนำ มาทิ้งที่ห้องน้ำหญิงของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งแถวสุขาภิบาลสองย่านบางกะปิ
บันทึกการเข้า
คนที่เข้มแข็งที่สุดก็ยังมีนาทีที่น้ำตาไหลริน
ปุจฉา
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 69
รู้ไว้ใช่ว่า แล้วก็ได้แต่ภาวนา อย่าได้เกิดกับใครอีกเลย
«
ตอบ #2 เมื่อ:
27 มีนาคม 2551, 15:52:52 »
ตอนที่ 3
กะปิ
> ผมไปรับเธอแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น เธอไม่พูดอะไรได้แต่ร้องไห้และไม่ไปทำงานอีกเลย นั่งซึมอยู่กับบ้าน สามวันต่อมาคุณแม่ของภรรยาโทรมาบอกว่ามีจดหมายลงทะเบียนส่งมาที่ บ้านให้ไปรับผมก็ไปรับ แล้วเปิดออกดู มีภาพถ่ายพร้อมขอเงินสดสี่แสนบาทเป็นค่าฟิล์มและ ภาพถ่ายทั้งหมด > ผมพูดไม่ออก ทุกความรู้สึกวิ่งพุ่งเข้ามาในใจ สับสน เสียใจ แค้นใจ เจ็บใจ ผมปรึกษาเรื่องนี้กับคุณพ่อและเพื่อนท่านที่เป็นนายตำรวจ มีความเห็นเหมือนกันว่าต้องแจ้ง ความกับตำรวจ เพราะเงินสี่แสนครอบครัวเราคงหามาให้ได้ยาก ผมกับภรรยาเป็นเพียงลูกจ้าง กินเงินเดือนเท่านั้น ในวันส่งเงินตามนัดหมายตำรวจกองปราบวางแผนอย่างดีและสามารถจับพวกเดนสังคมได้สองคนได้ฟิล์มและภาพจำนวนหนึ่ง และตำรวจกำลังตามจับพวกที่เหลืออีกสามคน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าภาพถ่ายยังคงมีเหลืออยู่อีกหรือเปล่า ซึ่งหลังจากพวกมันถูกจับผมก็ได้รับโทรศัพท์ขู่ว่าจะเอาภาพลง internet สองครั้ง ทุกวันนี้ภรรยาผมไม่ได้ทำงานอีกแล้ว อยู่บ้านด้วยอาการซึมเศร้าและไม่ต้องการ พบปะกับใครเลย ส่วนผมก็ไม่กล้าออกไปไหนเช่นกันทำงานเสร็จก็กลับบ้าน ชีวิตความเป็นอยู่ มีแต่ความกลัว ระแวง คิดมาก เหมือนเป็นโรคประสาท ผมจึงอยากฝากบอกเรื่องราวของ ผมให้เป็นข้อมูลกับทุกคน
> ทุกวันนี้การหากินบนความทุกข์ร้อนของคนอื่นเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วครับ ขอบุญกุศลในการให้ข้อมูลนี้ ทำให้ชีวิตครอบครัวผมดีขึ้นด้วยเถอะ อย่าลืมบอกต่อๆกันไปด้วยครับ
> พ. ศรีฯ
บันทึกการเข้า
คนที่เข้มแข็งที่สุดก็ยังมีนาทีที่น้ำตาไหลริน
nuchon
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 419
รู้ไว้ใช่ว่า แล้วก็ได้แต่ภาวนา อย่าได้เกิดกับใครอีกเลย
«
ตอบ #3 เมื่อ:
28 มีนาคม 2551, 15:26:56 »
ถ้าเป็นเรื่องจริง งั้นทุกวันนี้สังคมไทยก้อเสื่อมลงอย่างมาก นู๋ก้อมีเรื่องหนึ่ง เ็ป็นเรื่องทำนองเดียวกัน ลองอ่านดูนะคะ
เพื่อนๆ คะเรามีเรื่องอยากเล่าไว้เพื่อเตือนใจลูกผู้หญิงทุกคน
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเราไปรู้จักผู้ชายคนนี้ที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง
โดยบังเอิญเราไปกับเพื่อนผู้หญิงหลายคน ทั้งๆที่ปกติเราก็ไม่ได้เป็นคนเที่ยวกลางคืนนะ
แต่วันนั้นเรามีนัดพบเพื่อนเก่าสมัยมัธยมที่ไม่ ได้เจอกันนาน
และเสียงโหวตของคนอยากไปที่นี่ก็มากกว่า
เราก็เลยต้องไปเจอเพื่อนที่นั่นทั้งๆที่ไม่ได้อยากไปเลย
เพื่อนเราหลายคนก็พาแฟนมาเปิดตัว ซึ่งเราเองไม่เคยมีแฟน
เราไปคนเดียวก็ไม่ได้คิดอะไรมากก็นั่งพูดคุยกันตามประสาคนไม่เจอกันนาน
แต่เราก็นั่งได้ไม่นานเริ่มรู้สึกอยากกลับบ้านเพราะว่าเหม็นกลิ่นบุหรี่มาก (เราเป็นภูมิแพ้ )
และเราก็ไม่ชอบเสียงหนวกหู! พูดกันก็ต้องตะโกนอ่ะ เลยบอกเพื่อนๆ ว่า
ขอตัวกลับก่อน เอาไว้วันหลังค่อยเจอกันใหม
แฟนเพื่อนเราคนหนึ่งก็อาสาเดินออกไปส่งขึ้นแท็กซี่ เพราะว่าไม่อยากให้เราเดินคนเดียวออกจากร้านไป และร้านนี้ก็ไกลจากบ้านมากๆ แต่พอเราเดินออกมาจากร้านไม่นาน รู้สึกตัวอีกที
เราก็ตื่นขึ้นมาอีกทีอยู่บนเตี ยงในโรงแรมแล้ว....
เรามองตัวเอง...ในสภาพเปลือยล่อนจ้อน ..เนื้อตัวเป็นจ้ำๆ
เรารู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเรา ยังกะหนังไทยเลยเนอะ
แต่มันคือเรื่องจริง นี่คือตัวเรา นี่เราหรือเนี่ย...
เราไม่คิดว่าครั้งแรกของเราที่ทนุถนอมมากว่ายี่สิบปีจะต้องมอบให้แก่สัตว์
นรก เรารวบรวมสติได้ในเวลาอันรวดเร็ว
บอกกับตัวเองว่าเราไม่สามารถย้อนเวลาคืนมาได้แล้วเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไร
ถ้าไอ้สัตว์นรกตัวนี้ตื่นขึ้นมา...เราอาจจะถูกมันข่มขืนอีกก็รอบได้
เราเลยรีบแต่งตัวแล้วหวังจะออกจากโรงแรมให้เร็วที่สุดก่อนที่มันจะตื่น
เราจะวิ่ง ๆ ๆ เอาร่างอันโสมมของเราไปให้พ้นจะสถานที่แห่งนี้ให้ได้
ป่านนี้พ่อแม่เราจะห่วงขนาดไหนที่ลูกไม่กลับบ้านทั้งคืนโดยไม่ติดต่ออะไรเลย เราจะแจ้งความดีไหม เพื่อนเรารู้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้น
สารพัดคำถามที่เกิดขึ้นในใจของเรา
เราได้แต่ก้มหน้ารับสภาพไป.....
แล้วเราก็ต้องตกใจที่พบว่าตัวเองเป็นกำลังเป็นนางเอกคลิปวิดิโออยู่
มันถ่ายคลิปเก็บไว้เพื่ออะไร เพื่ออวดคน เพื่อแบลคเมล์เรา หรือ อะไร..
และไม่ใช่แค่เราคนเดียว ยังมีเพื่อนเราในนั้น
มีคนอีกเกือบสิบคนที่ตกในสภาพเดียวกับเรา
นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เพื่อนเราคนนี้พยายามคะยั้นคะยอนัดพบเพื่อนเก่า
เพื่อให้แฟนตัวเองได้ลิ้มรสชาติใหม่ๆหรือปล่าวเนี่ย เราเลยโทรไปถามเพื่อนเรา เหมือนเพื่อนเราจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มันไม่ยอมรับโทรศัพท์
และเลิกติดต่อกับเราอีกเลย
เล่ามาถึงจุดนี้ อยากให้เพื่อนๆ ทุกคนระวังตัวให้ดี อย่าไว้ใจเพื่อนตัวเอง
อย่าให้ใครไปส่งเราตามลำพัง และหากเกิดอะไรขึ้นต้องมีสติ
บันทึกการเข้า
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
Cmadong Chula
|
เรือนรับแขก เมาท์แหลกไม่เลือกรุ่น
|
ห้องสนทนาประสาพี่น้อง
| หัวข้อ:
รู้ไว้ใช่ว่า แล้วก็ได้แต่ภาวนา อย่าได้เกิดกับใครอีกเลย
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
"กิจกรรมสมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย"
-----------------------------
=> ข่าวประชาสัมพันธ์ของสมาคม
=> ข่าวประกาศทั่วไป
=> งานคืนสู่เหย้า ๒๕๕๗
=> โครงการรินน้ำใจเพื่อหอพักนิสิตจุฬาฯ
=> กิจกรรมเพื่อสังคม
=> กิจกรรมวิชาการ
=> กิจกรรมสมาชิกสัมพันธ์
=> กิจกรรมชาวหอ
=> กิจกรรมแกนนำและกิจกรรมรุ่น
=> ข้อบังคับสมาคม และกฎ ระเบียบ
=> การประชุมของสมาคม
-----------------------------
เรือนรับแขก เมาท์แหลกไม่เลือกรุ่น
-----------------------------
=> เรื่องนี้มีพี่บอก
=> โบราณคดี Cmadong
=> ปฏิทินนัดหมายชาวหอ
=> ห้องซีมะโด่งสัมพันธ์
=> ซีมะโด่งเพื่อสังคม
=> ห้องสนทนาประสาพี่น้อง
=> ห้องชาวค่ายหอ
=> ห้องชมรมแสงเสียง
=> ห้องธรรมะ...สาธุ....
=> ห้องวิชาการ ช่วยกันสร้างสรรค์สังคม
=> ห้องแสงทองของชีวิต
=> ห้องสุขภาพและความงาม
=> ห้องท่องเที่ยวไร้พรมแดน
=> ห้องซื้อ - ขาย แลกเปลี่ยน
-----------------------------
เรือนประจำรุ่น อบอุ่นทุกสมัย
-----------------------------
=> รุ่น 2507
=> รุ่น 2510
=> รุ่น 2511
=> รุ่น 2513
=> รุ่น 2514 รุ่นนี้มหาอำนาจ
=> รุ่น 2515
=> รุ่น 2516
=> รุ่น 2517
=> รุ่น 2518
=> รุ่น 2519
=> รุ่น 2520
=> รุ่น 2521
=> รุ่น 2522
=> รุ่น 2523
=> รุ่น 2524
=> รุ่น 2525
=> รุ่น 2526
=> รุ่น 2527
=> รุ่น 2528
=> รุ่น 2529
=> รุ่น 2530
=> รุ่น 2531
=> รุ่น 2532
=> รุ่น 2533
=> รุ่น 2534
=> รุ่น 2535 ซี้ปึ๊ก
=> รุ่น 2536
=> รุ่น 2537
=> รุ่น 2538
=> รุ่น 2539
=> รุ่น 2540
=> รุ่น 2541
=> รุ่น 2542
=> รุ่น 2543
=> รุ่น 2544
=> รุ่น 2545
=> รุ่น 2546
=> รุ่น 2547
=> รุ่น 2548
=> รุ่น 2549
=> รวมรุ่น 90-96 รหัส 2550-2556
-----------------------------
ข่าวประกาศ
-----------------------------
===> Countdown งานคืนสู่เหย้า 94 ปีซีมะโด่ง : เสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2555
===> "รวมภาพงาน" ผูกพัน วันเก่า ๙๔ ปี ซีมะโด่ง
สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><
กำลังโหลด...