ppornson
|
|
« ตอบ #325 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2551, 22:24:54 » |
|
ถูกต้องอย่างยิ่งครับพี่..
เราเองต้องยอมรับในชุดความรู้ของบุคคลอื่นด้วย ถ้าเป็นแต่ลักษณะยื่นคำขาดตลอดเวลา มันจะไปบรรจบกับอีกฝ่ายได้ยังไงครับ ในเมื่อเราดูถูกชุดความรู้ของคนอื่นที่คิดไม่เหมือนเรา.
ผมอ่านในมติชนแล้วสะดุดในบทความนึงครับ สรุปได้ว่า ในแต่ละม๊อบ ผู้นำม๊อบพูดอะไร คนในม๊อบก็จะเห็นด้วยไปหมด คนในม๊อบคุยกันเองก็เห็นพ้องต้องกันไปหมดทุกเรื่องตลอดเวลา..
อยู่มาวันนึง บุคคลเหล่านั้น ต้องมาแสดงความเห็นกับฝ่ายอื่นๆ ที่เค้ามีความเห็นไม่ตรงกับเค้า เค้าจะเกิด bias ทันทีครับ เพราะบรรยากาศมันไม่ใช่แบบที่เค้าเคยชิน มันก็ไม่พอใจ และไม่ฟังความเห็นของอีกฝ่ายทันที ไม่ทันได้เปิดใจฟังด้วยซ้ำ
มันจะไปรอดกันยังไงครับ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #326 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2551, 14:51:18 » |
|
bigass ครับ มันส์กว่า...นอกเรื่องอีกแ้ล้วตู สล้าง เป็นใครครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์
รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557
|
|
« ตอบ #327 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2551, 14:58:27 » |
|
ชอบมากครับพี่ "ถ้าคนไทยไม่รักกัน แล้วใครจะรักเรา" อ่านแล้วโดนใจ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #328 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2551, 20:39:53 » |
|
โดนไปแล้วเรียบร้อยครับ ดร.สุเมธ ยังไม่รอดเลยครับ โดนซะเละเลย..
นี่ล่ะที่ผมไม่ชอบ พธม. คือการเมืองใหม่ผมเห็นด้วย ไอ้รัฐบาลมันก็ห่วย..แต่ผมไม่เห็นด้วยกับวิธีการของ พธม. เลย มันเป็นการชี้นิ้วสั่ง มรึงต้องทำตามนี้ มรึงต้องคิดแบบนี้ ถ้าคิดต่าง คิดไม่ถูกใจ โดนเลยครับ..
สังเกตุได้จากสื่อด้วยกัน ไม่ค่อยมีใครกล้าแตะ พธม. ครับ แตะเป็นโดนซะเละเทะ..
ยิ่งดูยิ่งเซ็งครับ..มันไม่รู้จะทำกันยังไงให้เป็นรูปธรรม แต่ละฝ่ายมีทิฐิแบบไม่มีทางยอมกัน มีแต่พวกมัน กับพวกเรา มันก็มีแต่รบกันอย่างเดียงสิครับแบบนี้..
รักประเทศชาติ ราชบัลลังค์ ทำกันแบบนี้กันเหรอครับ ว่าแต่จะทำยังไงให้มีพื้นที่ให้พวกแบบผมแสดงออกบ้าง แบบว่าไปรวมตัวกันจุดเทียนทุกคืนทั้งประเทศ อะไรทำนองนี้น่ะครับ คือ พธม. หยุด แก้รัฐธรรมนูญให้มีรัฐบาลแห่งชาติ ใช้เวลาซัก 2 ปีทำการเมืองใหม่..
ปีหน้าคนจะว่างงานเกือบ 2 ล้านคนนะครับ เด็กจบใหม่จะไม่มีงานทำ ศึกนอกก็แย่แล้ว ศึกในยิ่งทำให้ยุ่งครับ..
ว่าแต่การเมืองใหม่ผม อยากให้เป็นเหมือนที่พี่ซูโม่ตู้แสดงไว้ส่วนนึงน่ะครับ 1 คน 1 เสียงเท่ากันไม่แฟร์ครับ คนบางพื้นที่ไม่มีการศึกษา ไม่คิดช่วยเหลือตัวเอง รอแต่ให้ไปช่วย แจกผ้าห่ม ไม่คิดสร้างโอกาส รอและขออย่างเดียว ให้มี 1 เสียงเท่าบัณฑิตไม่ได้ครับ ยกมือทีไร พวกเอาตังค์ไปแจกได้เลือกตั้งทุกที
ดูเหมือนไม่แฟร์ แต่ถ้าจะแฟร์ เค้าเหล่านั้นต้องไปเข้าอบรม หรือผ่านกระบวนการศึกษา มีการทดสอบก่อน ถึงจะมีสิทธิ์เลือกตั้ง..
ผมเห็นด้วยกับประโยคที่ว่า สิทธิในการดำรงชีวิตเท่าเทียมกัน แต่สิทธิทางการเมืองเท่ากันไม่ได้ครับ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #329 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2551, 20:48:38 » |
|
มีคนในพันธมิตรด่า ดร.สุเมธเหรอครับ? เค้าด่าว่าไง? แบบเดียวกะที่แป๊ะลิ้มด่าพระพยอมหรือเปล่า เมื่อก่อนช่วงนึง ผมเคยส่งเงินไปช่วย เอเอสทีวี ตอนนี้เลิกส่งแล้ว... เพราะตอนนี้หมักมันก็กระเด็นออกไปแล้ว ส่วนข่าวพันธมิตรช่วงนี้แทบไม่ได้ตามเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #331 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2551, 20:57:39 » |
|
แล้วที่แป๊ะลิ้มด่าพระพยอมว่าไงมั่งคะp.nn
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #332 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2551, 21:55:58 » |
|
ที่น่ากังวลคือเรื่องนี้ครับ ... เอาข่าวมาฝาก ... มีแต่คนบอกว่า ปีหน้าเผาจริง ... สู้ ๆ และขยันทำงาน ประหยัีด และ อดออม ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #333 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2551, 07:31:10 » |
|
เมื่อวานมีข่าว ม็อบชาวไร่ข้าวโพดแถวๆ เหนือ ปิดล้อมที่ว่าการจังหวัด ไม่ให้ข้าราชการและคนข้างใน ออกมาได้ เพื่อกดดันให้มีการออกเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการรับจำนำข้าวโพดอะไรซักอย่าง
คุ้นๆ ไหม๊ กับการกระทำข้างบน พอมีคนสร้างมาตรฐานเลวๆ อะไรไว้ซักอย่าง แล้วได้ผล แล้วไอ้พวกที่ใช้วิธีการพวกนี้ ก็บอกว่าทำเพื่อนู่น ทำเพื่อนี่
แล้วทุกคนก็นำมาใช้ อ้างเหตุผลต่างๆ นานา ทั้งๆ ที่มันผิดกฏหมาย แต่มันใช้ได้ผลหนิ
คอยดูอีกหน่อย ม็อบปิดถนนจะหายไป แต่ม็อบทุกม็อบจะหันไปปิดล้อมสถานที่ และจับคนที่ไมรู้อิโหน่อิเหน่เป็นตัวประกัน shit!!
ตาแคม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #334 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2551, 23:21:22 » |
|
ลองเข้าไปอ่านในเวบไซด์ ฟ้าเดียวกัน ก็ขอแนะนำว่า อย่าเข้าไปอ่านเลย ... ไม่จรรโลงจิตใจอย่างยิ่ง และยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกแย่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #335 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2551, 15:50:58 » |
|
รู้มานานแล้ว ว่าเป็นที่สุมกบาลของพวกเหรี้ย โดยมีไอ้ใจหมา กับไอ้หัวโตไม่เจียมกบาล ตั้งตัวเป็นศาสดาอยู่ ถ่อยสุดๆ แต่สังเกตว่าพวกหัวโจกมันไม่จาบจ้วงตรงๆหรอก จะใช้วิธีพาดพิงมากกว่า เพราะมันรอบคอบพอ แต่พวกที่ถ่อยๆเกรียนๆ ส่วนมากเป็นพวกลิ่วล้อที่ตามเข้ามาโพส ด้วยความคึกคะนองมากกว่า น่าแปลกใจที่ ไอซีที ไม่มีปัญญาทำอะไรพวกนี้ ดังนั้นไอ้ พรบ.คอมพิวเตอร์ ก็อย่าสะเออะเอามาขู่คนอื่นเลย เพราะผมไม่เคยเชื่อน้ำยาทั้งตำรวจและกระทรวงไอซีทีเลยสักนิดเดียว แต่ตอนนี้ ผมไม่อยากไปให้ความสนใจกับมันเท่าไหร่ เพราะมันไม่มีประโยชน์ที่จะไปใส่ใจกับพวกมัน ในเมื่อไอ้คนที่มันมีหน้าที่ทางนี้โดยตรง มันยังไม่มีปัญญาจัดการเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #336 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2551, 17:58:35 » |
|
ผมขอมองต่างมุมกะ ต.โต้งนิสนึง ถ้าจะเอาวุฒิทางการศึกษามาแบ่งแยกคนจะลำบากนะครับ คิดแบบพี่ตู้ บิล เกตต์ ก็ไม่มีสิทธิเลือกตั้งสิ เพราะไม่จบ ปริญญาตรี แล้วคนที่คนที่เรียนมาสูงๆเลือก จะดีกว่าเหรอครับ โลจิคมันแปลกๆนะ หรือจะแบ่งตามสิทธิในการเสียภาษี ก็แปลว่า คนรวยกว่ามีสิทธิ์ ก็จะเลือกคนที่รักษาสิทธิ์ให้แก่ความรวยของตัวเองเหรอ บางครั้งการซื้อเสียงมันก็ไม่ได้มาแค่ในรูปแบบของการแจกเงินแจกของอย่างเดียว บางครั้งขอมาในรูปนโยบาย เช่นประชานิยม อย่างที่เราๆท่านรู้ซึ้งกันดี แล้วถามตัวเราบางไหมล่ะ คนที่ไม่ได้รับเงินอย่างเราๆท่านๆ เราเลือกคนๆนึงเพราะอะไร เพราะคิดว่าคนๆนั้น หรือพรรคนั้น จะสามารถทำให้ชีวิตเราสุขสบายมากขึ้นใช่ไหมล่ะ แล้วแบบนี้ถือว่า เหมือนกับประชานิยมไหม คนเราย่อมมีสิทธิที่จะเลือก ได้เท่าๆกันว่าไหมล่ะ อย่างที่รู้ๆมาว่า "ประชาธิปไตย คือการออกเสียงของคนส่วนใหญ่" น่าจะหมายถึง คนในประเทศนั้นๆทุกคน น่าจะมีสิทธิ์ในการออกเสียงเลือกผู้แทนเท่าๆกัน ทุกๆคนที่เลือก ผู้นำ ก็หวังว่าผู้นำคนนั้นจะนำความสุข ความร่มเย็นมาให้ตนเอง กันทั้งนั้นแหละ กล่าวคือ ใครที่เค้าคิดว่าทำให้เค้ามีความสุขได้ เค้าก็เลือก ซึ่งก็คงเป็นโลจิคเดียวกัน ไม่ว่ารากหญ้า รากแก้ว รากฝอย ถ้าเราบอกว่า โอ๊ย ไม่ไหวๆ แบบนี้ไม่แฟร์ บางคนการศึกษาก็ไม่มี บางคนงานการก็ไม่ทำ แล้วจะให้มันมาเลือกตั้งได้ไงว่ะ ผมถามว่าโดยพื้นฐานแล้ว มีใครอยากจะเป็นแบบนั้นไหม ถ้ามีโอกาสเค้าคงไม่อยากเป็นคนไม่มีการศึกษา เป็นคนไร้ค่าแบบนั้นหรอก แล้วเผอิญถ้าคนส่วนใหญ่ในประเทศเป็นคนแบบนี้ ก็หมายความว่าประเทศชาตินี้ เป็นของคนไม่มีการศึกษา คนไม่มีคุณค่า ดังนั้นชนชั้นกลางกับชนชั้นสูงย่อมจะเป็นที่เดือดเนื้อร้อนใจ ว่าเอ๊ะ กรูทำงานแทบตาย เสียภาษีมากต้องเอาไปแบ่งไอ้คนพวกนี้ทำไม ทำไมเราไม่เอาผู้นำที่มองเห็นและมุ่งเน้นจะรักษาผลประโยชนให้กับเรา ก็แสดงว่าต่างคนต่างก็มองว่าอยากได้ผู้นำที่เลือกเค้ามาแล้ว ต้องมารักษาผลประโยชน์ให้กับตัวเองกันทั้งนั้น จนบางทีเราก็ลืมคิดไปว่าไอ้กลุ่มนู้น กลุ่มนี้ กลุ่มไหนๆ มันก็คนไทยทั้งนั้น มีความเกี่ยวข้องกันไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ความคิดที่จะทำให้เกิดการแบ่งแยกของคนในชาตินั้นๆ ปกติประเทศอื่นๆ มักจะถูกแบ่งแยกด้วย ศาสนา เชื้อชาติ เป็นหลัก ซึ่งมันเป็นสิ่งที่มันติดตัวเรามา แทบจะเรียกได้ว่าตั้งแต่เกิดทีเดียว แต่ของบ้านเราตอนนี้กำลังจะถูกแบ่งแยกด้วยทัศนคติแตกต่างกัน และล่อแหลมเหลือเกินในประเด็นของความเป็นชนชั้นกลาง ชนชั้นมีการศึกษา กับ ชนชั้นรากหญ้า พอเถอะพยายามอย่าให้ความคิดแห่งความแตกแยกเหล่านี้แพร่ขยายออกไปเลย คุณจะไม่รู้สึกว่าความคิดนี้เป็นเรื่องที่ผิดหรอก จนกว่าคุณจะต้องเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน จนไม่มีปัญญาเรียนหนังสือ อย่าคิดว่าคนทุกคนจะโชคดีเหมือนเรา ไม่มีใครอยากเกิดมาแย่ๆหรอก ถ้าเรากำลังมองว่ารากหญ้าเห็นแก่ตัว เห็นแก่ความสุขสบาย แล้วเลือกผู้แทนแย่ๆที่เอาเงินภาษีเราไปแจกรากหญ้า เราก็คงจะเห็นแก่ตัวไม่ต่างกันที่เราต่างก็ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ในขณะประเทศที่คนส่วนใหญ่กำลังลำบาก ยากจน คนไทยทุกคน มีสิทธิในความเป็นคนไทยเท่ากัน ผมว่านี่แหละ ความสวยงามแห่งประชาธิปไตย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #337 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2551, 20:38:02 » |
|
ทุกคนไม่อยากยากจน ไม่อยากยากไร้ ตรรกะอันนี้จริงครับ แต่... บนความ ไม่อยากจน นั้น? บางคน อยากมีการศึกษา อยากมีงานทำ เพื่อจะได้ไม่จน แต่ไร้โอกาส... กับ พวกที่ ไม่อยากทำงาน ไม่สนใจศึกษา แต่อยากมีเหมือนคนอื่นๆ ผมเคยเจอมาหลายประเภทแล้ว ทั้งพวกที่จนจริงๆเพราะสภาพแวดล้อม กับพวกงอมืองอตีน อยากมีเงินแต่ไม่อยากทำงาน คำถามอีกอย่าง? แล้วคนเหล่านั้น(ที่เป็นฐานเสียงพรรคการเมือง) เลือกเพราะผลประโยชน์ของ"ชนชั้น"หรือ สาขาอาชีพ จริงหรือ! ผมคนนึงที่ไม่เชื่อเลย! จะยกตัวอย่าง ทำไมไอ้ยุทธตู้เย็น มันพาพวกไปถล่มบ้านตาแก่จนๆคนนึง(ในภาคกลาง)เพราะคิดว่ามียาเสพติด(แต่สุดท้ายไม่มียาเสพติดจริง) แต่มันก็ยังได้รับเลือกจากคนรากหญ้า(ในจังหวัดมันที่ภาคเหนือ) มาทุกสมัย(ถ้ามันไม่โดนคดีทุจริตเล่นงานไปซะก่อน) คนเหล่านั้น? ทำไมเลือกบุคคลที่เคยกดขี่"ชนชั้นเดียวกะตัวเอง"มาเป็นผู้แทนล่ะ? ถ้าเราจะใช้มุมมองเชิงแนวราบมาตัดสินน่ะ ที่แน่ๆ ไม่เห็นด้วยกับระบบเลือกตั้งแบบ"อิงพื้นที่&จำนวนคน"แบบเพียวๆ แต่น่าจะมีระบบโควต้าแบบอื่นมาร่วมบ้าง เช่น โควต้าสาขาอาชีพฯลฯ หรือไม่ก็ แยกเขตการปกครอง(แบบอ่อนๆ)ไปเลย แต่ไม่ต้องถึงกับแยกประเทศหรอก ลองเอาภาคเหนือให้ทักกี้มันบริหารไป(ฐานเสียงของมันนี่หว่า) เอาภาคอิสานให้ไอ้ชัยมันบริหารไป เอาทางใต้ให้พวก ปชป.บริหารไป แต่เก็บภาษีที่ใครที่มันนะเฟ้ย(ทำแบบระบบของมาเลเซียหรืออเมริกา) อยากรู้ว่าพวกมันจะเอามีปัญญาเอางบประมาณมาเลี้ยงฐานเสียงของตัวเองสักกี่มะน้อย?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #338 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2551, 08:03:19 » |
|
คำคมอับราฮัม ลินคอล์น 'คุณอาจจะหลอกคนทุกคนได้ในบางเวลา คุณอาจจะหลอกคนบางคนได้ตลอดเวลา แต่คุณไม่สามารถหลอกคนทุกคนได้ตลอดเวลา'
ตาแคม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #339 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2551, 22:42:35 » |
|
นั่นล่ะครับ..เรื่องนี้ถึงค่อนข้างละเอียดอ่อน..
พิมพ์กันเร็วๆ..พื้นที่จำกัด การสื่อสารอาจไม่ตรงสักเท่าไหร่..จริงๆคงไม่ได้แบ่งแยกที่การศึกษา แต่เราจะแบ่งแยกการมี "จิตสำนึก" ของแต่ละคนได้อย่างไร คนจนไม่ใช่ไม่มีวุฒิปัญญา แต่ปราชญ์เดินดิน มีอยู่ทั่วไป
ประเด็นคือ เราต้องยอมรับความจริงอย่างนึง ว่า ประเทศที่จะปกครองด้วยระบบประชาธิปไตย คนในประเทศต้องมีวุฒิภาวะ มีความรู้ที่ช่องว่างต้องไม่ห่างกันมากนัก
ทีนี้..สมัย ร7 พอเราได้รัฐธรรมนูญมาเร็วเกินไป(ตรงนี้ต้องไปศึกษาต่อถึงที่มา..) คนในประเทศยังมี่ช่องว่างห่างกันมากมาย ไอ้ช่องว่างนี้ล่ะ..ที่สร้างปัญหา จากคนที่เป็นผู้แทนราษฏร
เราตั้งชื่อผิด เพราะผู้แทนฯ จริงๆแล้วทำหน้าที่นิติบัญญัติ แต่ด้วยการตั้งชื่อดังกล่าว พอประชาชนเดือดร้อน ก็ไปหาผุ้แทนฯ (จริงๆต้องเป็นหน้าที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ) ไอ้ผู้แทน ก็วิ่งเต้นเอางบไปลง เอาถนนไปสร้าง แล้วสร้างป้ายรูปตัวเองใหญ่ๆ บอกคนทั่วไปว่า ไอ้ถนนเส้นนี้ล่ะ..กรูเป็นคนสร้าง กำนันผู้ใหญ่บ้าน เปลี่ยนสถานะเป็นเครื่องมือ เป็นหัวคะแนน..
ด้วยวิวัฒนาการดังกล่าว ทำให้ในปัจจุบัน เรามีคนอย่างท่านเก่ง การุณ และไอ้งั่งทั้งหลาย ที่ฟังเรื่องนโยบายแล้วอยากจะถีบหน้าซักที สักแต่พูด..
ตรงนี้ละครับสำคัญ การเมืองใหม่ของ พธม. ถูกต้อง..แต่ พธม. เดินไม่ถูกทาง..
โจทย์คือ ทำยังไงให้คนดี คนเก่ง ไปบริหาร เราต้องการมืออาชีพ แล้วเอาไอ้ผู้แทนฯ กลับไปทำหน้าที่นิติบัญญัติจริงๆดังความประสงค์
ถ้าเจอคนเยอะๆ แบบผม แบบ จารย์โอ..จะรู้ว่า คนอีกระดับนึงนั้นเป็นยังไง..และเป็นคนจำนวนมากในประเทศ
รอคอยความช่วยเหลือ ทำงานหนักแต่ไม่มีเงินเหลือ ตกเย็นกินเหล้า รอแจกผ้าห่มทุกๆหน้าหนาว แล้วเอาผ้าห่มมาขายแลกไข่ ทำงานได้เงินนิดหน่อยผ่อนมอเตอร์ไซด์ ซื้อรถปิคอัพเอาไว้ขับโชว์กลับบ้านตอนสงกรานต์ เงินเดือน 15000 เป็นหนี้บัตรเครดิต 300000..ก่ออิฐ ฉาบปูนได้น้อยกว่าคนพม่า 2 เท่าทั้งๆที่ทำงานเท่ากัน..คนไทยเป็นหนี้..พม่ามีเงินเหลือซื้อทองเก็บ..
ดูมันเป็นความเป็นจริงที่โหดร้าย แต่เราต้องยอมรับมัน..วิธีที่ผมว่า มันอาจดูโหดร้าย..มันก็จริง ถ้ามีวิธีที่ดีกว่านี้ และประเทศชาติรอได้..ไม่บรรลัยไปเสียก่อน..
สิทธิในการดำรงชีวิตเท่ากัน สิทธิในการศึกษา สิทธิในการรักษาพยาบาล ฯลฯ เท่ากัน..แต่ไม่ควรมีสิทธิ 1 เสียงเท่ากัน ในประเทศที่ช่องว่างทางการรับรู้ห่างกันขนาดนี้..
ทางแก้ปัญหาคืออะไร..ปัญหาปัจจุบันอยู่ที่อะไร..เรามีโจทย์ที่ถูกต้องหรือยัง..
เพราะถ้าเรายังตั้งโจทย์กับปัญหานี้ไม่ถูก..อย่าหวังเลย ว่าจะแก้ปัญหาได้..
ช่วยๆกันคิดครับ บัณฑิตทั้งหลาย..ผมชอบ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #340 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2551, 22:50:39 » |
|
ส่วนเรื่อง ดร.สุเมธ..เรื่องพระพยอม..เรื่องนายขวัญแก้ว วัชโรทัย..นายโคทม อารียา..อ.นิธิ เอี่ยวศรีวงศ์..
โดนหมดละครับ..ยิ่งของ ดร.สุเมธ โดนด่าว่าอย่าทะลึ่งแสดงความเห็น..
แล้วประเทศนี้จะเหลือใครที่เค้าฟังล่ะครับ
ยิ่งเจอเรื่องพระบรมรูปทรงม้า ร5 เข้าไปอีก..ผมว่า น้าสนธิ แกหลุดไปอยู่โลกไหนแล้วไม่รู้ล่ะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #341 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2551, 23:23:51 » |
|
นอกเรื่องหน่อยครับ ทำไม การเลือกตั้ง usa นั้น electrical vote ของ แต่ละรัฐ ไม่เท่ากันครับ เขากำหนดจากอะไร...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #342 เมื่อ: 17 พฤศจิกายน 2551, 21:11:34 » |
|
เอ่อ..สงสัยมานานแล้วล่ะ..แต่ขี้เกียจอ่าน.ใครมีความรู้วานบอก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
wat
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 47
|
|
« ตอบ #343 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2551, 10:55:09 » |
|
พูดถึงเรื่องชาติเรื่องการเมือง มีเรื่องหนึ่งน่าสนใจทำให้รักชาติมากขึ้น ครั้งหนึ่งไปเห็นข่าว ของคนที่ไร้สัญชาติ ไร้สังกัดประเทศ ไม่มีบัตรประชน ทำให้ได้ฉุกคิดเหมือนกันนะว่า...แค่การเมีบัตรประชาชนนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก คิดดู ถ้าไม่มับัตรประชน(นั้นคือไม่ได้รับการรับรองว่าเป็นพลเมืองของชาติใดชาติหนึ่ง) ธุรกิจธุรกรรมต่างๆในชาติหรือต่างชาติแทบทำอะไรไม่ได้เลย เรียนหนังสือ ทำงาน ซื้อบ้าน ซื้อรถ ฯลฯ แล้วจะดำรงชีวิตอยู่ยังไง คงต้องเป็นคนเร่ร่อนอย่างที่เห็นในข่าวหรือไม่ก็ไปเป็นคนป่า? !! ลำบากนะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
suriya2513
|
|
« ตอบ #344 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2551, 15:13:57 » |
|
พี่ป๋องเข้ามาอ่านครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี คลิ๊ก->
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #345 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2551, 17:18:59 » |
|
หนึ่งคนหนึ่งเสียง ผมว่านี่แหละ คือ หนทางที่ถูกต้องแล้วสำหรับประชาธิปไตย มันจะไม่ถูกซะทีเดียว ที่จะเอาเกณฑ์อะไรซักอย่าง มาตัดสินว่า คนนี้น่าจะมีสามารถที่มากกว่าคนอื่น สามารถออกเสียงได้มากกว่าคนอื่น ใครจะเป็นคนแต่งกฏเกณฑ์ที่เป็นธรรมเหล่านั้นขึ้นมาได้ล่ะ เพราะ ไอ้ในสถานการณ์ปัจจุบันตอนนี้ ไอ้พวกที่มีอำนาจในการตั้งกฏเกณฑ์ต่างๆ ก็พยายามทำให้สิ่งเหล่านี้ โอนเอียง มีช่องโหว่ ให้พวกตนเองสามารถใช้อำนาจได้มากยิ่งขึ้น
จริงๆ แล้ว หากปรับกระบวณการคิดขั้นพื้นฐานของคนแต่ละคน ให้สามารถคิดได้ว่า สิ่งใดควรจะทำไปเพื่อตนเอง สิ่งใดควรจะทำไปเพื่อส่วนรวมได้เนี่ย คงจะดีไม่น้อย ระบบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ช่วยส่งเสริมให้คนคิดเป็น ทำเป็น บางเรื่องควรคิดถึงส่วนรวมมากกว่าส่วนตน
มันก็จะย้อนกลับไปตรงที่ว่า ใครเป็นคนคิดระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานขึ้นมาอีกแหละ สอนให้ท่อง ก ไก่ ข ไข่ บวก ลบ คูณ หาร เลขได้ ทำไมถึงไม่สอนให้รู้จัดคิดแยกแยะ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ยอมเสียผลประโยชน์อะไรเล็กๆ น้อยๆ เพื่อผลประโยชน์ก้อนโตในอนาคต เราต้องยอมเฉือนเลือดเฉือนเนื้อตัวเองเพื่อคนอื่นๆ ไม่ใช่ยอมเสียเลือดเสียเนื้อเพื่อตัวเรา
ไอ้คำว่า เราต้องชนะ ขอทีเหอะ เลิกซะที ไอ้ชนะอะไรชนะ ผมยังไม่รู้เลย ไล่ไอ้พวกนักการเมืองเลวๆ ไปให้พ้นเมืองไทยจนหมด เดี๋ยวมันก็เกิดใหม่ได้ หากระบบความคิดพื้นฐาน เรายังส่งเสริมให้คนเหล่านี้มีหนทางเกิดและกลับขึ้นมาใหม่
ความหวังเล็กๆ ของผมตอนนี้ อยากเห็นคนที่อยู่ในสถานะที่เป็นอาจารย์ ที่มีลูกศิษย์ ที่สามารถสอนหรือปลูกฝังให้เด็กเล็กๆ คิดได้ ทำได้ ช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านกระบวณความคิดพื้นฐานแบบนี้ขึ้นมาหน่อย ไม่ใช่ว่า อาจารย์มาตะโกนด่า นักการเมือง นักประท้วง ในห้องเสียเอง มาใช้อารมณ์ส่วนตัว มาบอกลูกศิษย์ มาตัดสินมาใครดีไม่ดี
ลองให้ลูกศิษย์ของท่านๆ ได้ใช้ความคิดเสียบ้าง ผมอยากจะให้เปลี่ยนหลักกระบวณการสอนเสียใหม่ เพราะตั้งแต่เด็ก ผมจำได้ว่า ผมเคยเห็นเค้าสอนเรื่อง อย่าตัดต้นไม้ อย่าทำลายป่า เดี๋ยวโลกเราจะอยู่ไม่ได้ สอนแล้ว สอนเหล่า แล้วทำไม ไอ้เด็กเหล่านั้น โตขึ้นมาก็ยังกลับไปตัดต้นไม้
เรื่องนี้คงยังไม่มี solution อะไรที่ดีที่สุดเร็วๆ นี้หรอก ลองดูกันต่อปายยยยย
ตาแคม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #346 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2551, 18:59:46 » |
|
ผมไม่ได้บอกว่า จะต้องห้ามใครมาเลือกตั้ง นะ...ใช้หนึ่งคนหนึ่งเสียง ในแต่ละเขต ก็ไม่ผิดอะไร แต่ ปัญหามันหลายประเด็น 1) การพยายามรวมอำนาจทั้งหมดไว้ที่รัฐบาลกลาง โดยงมงายกับไอ้คำว่า หนึ่งเดียวแบ่งแยกไม่ได้ เนี่ย? มันเป็นระบบที่เวิร์คจริงหรือ? ถามว่าคนกรุงฯกับคนใต้ มีสิทธิ์เกลียดไอ่ทักกี้มั้ย แล้วสมควรเอาภาษีไปให้มันถลุงหรือ ในเมื่อพวกเขาไม่ยอมรับมัน เช่นเดียวกะที่คนเหนือหรือคนอิสาน มีสิทธิ์เกลียด ปชป.แต่ก็ต้องมาถูกพวกนี้ปกครอง(ถ้าสมมติ ปชป.ชนะเลือกตั้ง) แต่ถ้าแยกเขตไปเลย บริหารส่วนใครส่วนมัน มันจะเวิร์คกว่ามั้ย คนเหนือ(ส่วนใหญ่)ชอบทักกี้ ก็ให้มันไปลงเลือกตั้งหรือบริหารอยู่แค่ภาคเหนือ คนกรุงฯหรือคนใต้จะได้ไม่เดือดร้อน...ใครจะว่าทำให้ไทยแตกแยก ผมว่าไอ้ระบบเดิมนั่นแหละจะแตกแยกยิ่งกว่า เพราะทำให้เกิดความรู้สึกแบบ"พวกข้า"ต้องมาถูกกดขี่โดยคนที่"พวกเอ็ง"เลือกมา 2) การไม่มีระบบกติกามากำหนดตัวแทนในสภา หรือความชำนาญเฉพาะด้านจริงๆ ถามว่าบุคคลบางจำพวก เช่น นักวิทยาศาสตร์มีตัวแทนของตัวเองในสภามั้ย? คนพิการ ด้อยโอกาส มีตัวแทนจริงๆในสภามั้ย? หรือแม้แต่ ทำไมอนุญาตให้เอาตำรวยมาคุมกระทรวงสาธารณสุขได้?เอาหมอไปคุมกระทรวงการคลัง(แม่งบ้ารึเปล่า?) ระบบรัฐมนตรีทุกวันนี้ มีหรือไม่มี ผมว่าไม่ต่างกันเลย!(แต่ไม่แน่ใจว่าใช้ระบบแบบคุณโต้งจะเวิร์คไหม?ที่ว่าให้รวบตำแหน่งอธิบดีกรมกับรัฐมนตรีไว้ด้วยกันเลย) 3) แนวทางที่มีคนเสนอว่า แต่ละเสียงไม่เท่ากัน ไม่ได้หมายถึง ห้ามใครบางคนไปเลือกตั้ง หรือให้คนจบ ดร.สามคะแนน คนจบ ป.ตรี 2 คะแนน > ไม่ใช่อย่างนั้น แต่หมายถึงระบบแบบ เขตไหนเก็บภาษีได้มาก ให้มีโควต้า สส.ได้มาก เขตไหนเก็บภาษีได้น้อย ให้มีโควต้าลดลงมาตามลำดับ (หลายประเทศในยุโรปเคยใช้ระบบนี้มาก่อนนะครับ แล้วก็ได้ผลด้วย) สมมติฐานมาจากแนวคิดที่ว่า คนไม่เสียภาษี อาจจะมีส่วนหนึ่งเข้าใจการเมือง(อาจจะเป็นปราชญ์ชาวบ้าน) อีกส่วนไม่เข้าใจ(ก้พวกที่เฮไหนเฮนั่น นั่นแหละ) แต่คนเสียภาษี เกือบ 100% น่าจะเข้าใจการเมือง เพราะคงไม่มีไอ้บ้าคนไหนยอมเสียผลประโยชน์(รายได้บางส่วน)ของตัวเองไป โดยไม่คิดหรอกว่าเสียไปเพื่ออะไร(ธรรมชาติคนเราหวงแหนสมบัติของตัวเอง) แต่ผมไม่สรุปว่าจะใช้กับเมืองไทยได้แค่ไหน เพราะไม่มีใครเคยทดสอบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #347 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2551, 17:31:37 » |
|
เห็นเค้าล้งเล้งจะโฟนอินกันอีกแล้ว..แล้วเมื่อไหร่จะจบ ถ้ารักประเทศชาติจริงต้องหาคนเสียสละก่อน ผมไม่เห็นใครพร้อมเสียสละก่อนเลย กลัวแต่ผลประโยชน์ตัวเองอำนาจหรืออื่น ๆ จะสลายไป
ไหนบอกว่าแมน ๆ สุดท้ายก็ ไม่แมนซักตัว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #348 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2551, 22:50:45 » |
|
อ่านข่าวนี้แล้ว ... เรามีเรื่องสำคัญมากกว่า การทะเละกันแบบเด็ก ๆ นี้ ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #349 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2551, 20:40:45 » |
|
คนที่สนใจจริงๆ..แนะนำให้หาอ่าน.."ประชาธิปไตย ไม่ใช่ของเรา" ของ ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ สำนักพิมพ์ openbook ครับ..เค้าวิเคราะห์ได้ดีมากๆ..แต่อ่านยากหน่อยนะ..ต้องค่อยๆเข้าใจทีละบรรทัด..
การต่อสู้ในระบบประชาธิปไตย จะใช้วิธีการต่อสู้ด้วยยุทธวิธีแบบทหารไม่ได้ครับ ตอนนี้ พธม. กำลังทำแบบนั้นอยู่ ทำให้แนวร่วมหายไปมากมาย..
จริงๆคงไม่ใช่คนโน้นมีเสียง คนนี้ไม่มีเสียงหรอกครับ..ถ้าเพิ่มความเห็นว่า เราจะให้ความสำคัญกับเสียงที่ "มีคุณภาพ" ได้อย่างไร เป็นเสียงที่มีส่วนร่วมกับกิจกรรมทางการเมือง ให้มีน้ำหนักถ่วงกับเสียงที่ "มีปริมาณมากกว่า" ครับ เพราะหถ้าตีความแค่ว่า ประชาธิปไตยคือการไปลงคะแนนเสียง (ในหนังสือเล่มที่ผมแนะจะมีการกล่าวถึงทฤษฎีนี้ของ คาร์ล มากซ์ ด้วย) ประมาณว่า..
คนชั้นนำ จะทำให้คนที่ไม่มีความรู้ คนชั้นล่าง รู้สึกว่า คนเหล่านั้นมีส่วนร่วมในประชาธิปไตย ได้ด้วยการกำหนดให้ทุกคนมี 1 เสียงเท่ากัน เพียงเท่านี้ คนระดับล่าง ก็รู้สึกว่า พวกเค้าสำคัญ และเค้าก็จะไม่ได้ติดตามกระบวนการหลังจากการเลือกตั้งอีกเลย ทีนี้ก็จะเสร็จสำหรับพวกนักการเมือง และคนระดับสูงครับ..
เราจะเพิ่มน้ำหนักกับเสียงที่ออกมาทำกิจกรรมทางการเมืองได้อย่างไร..เรื่องภาษีผมก็เห็นด้วยนะ..ชอบพูดกันจังเลย..ว่าสภาเป็นของเรา ทำเนียบเป็นของเรา เพราะเป็นภาษีของเรา..อยากถามเหลือเกินว่าน้าๆเสียภาษีกันปีละเท่าไหร่ครับ..แล้วพยายามเลี่ยงภาษีกันรึเปล่าครับ แจ้งรายได้ครบทุกบาททุกสตางค์มั๊ยครับ..อ้างกันจังเลย..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|