ชาร์ป
|
|
« ตอบ #50 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2550, 22:43:38 » |
|
ผมอ่านของ พี่ Max แล้ว เศร้าครับ ...
เพราะ คนทำก็ได้สัญญชาติ ไทย และ เป็นคนไทย คนหนึ่ง
แต่แนวคิด ที่ปลูกฝังในหัวใจ นี้สิครับ เห็น คนไทย เป็นศัตรู
... ผมเคยได้ยิน คนพูดถึงประโยคหนึ่ง ที่ในหลวงท่าน เคยทรงตรัสไว้ ... (อ่านจจะ จำเพี้ยนไปบ้าง) ..
ท่านตรัสว่า "เราไม่ได้สู้กับคนเลว แต่เราสู้กับความเลวที่อยู่ในตัวคน" ....
:cry:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #51 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2550, 23:07:40 » |
|
วันอาทิตย์ก่อนมีเฉลียงมาออกรายการ
พี่ดี้พูดถึงเรื่องนี้ว่า มันเหนือนกับการแข่งบอลครับ
คือเตะกันเสร็จแล้ว ก็จับมือกัน ก็เหมือนนักการเมืองที่ไม่มีมิตรหรือศัตรูที่ถาวร
ส่วนคนที่ไปร่วมประท้วง ไม่ว่าเหตุใดก็แล้วแต่
ก็เหมือนกองเชียร์ครับ สังเกตุไหมครับเวลาเชียร์มากๆ มีอารมร์ร่วมมากๆ
นักบอลจับมือกันแล้ว แต่กองเชียร์รับไม่ได ก็แทงกัน ตีกัน
อันนี้ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับชาวบ้าน ที่เป็นเหมือนเบี้ยน่ะ
ส่วนพวกที่เหลือคือคนดูครับ
** เห็นด้วยกับโตนะ
** ส่วนชาร์ปเคยดูรายการของช่องเก้าเปล่า มีช่วงนึงที่นำเสนอ คนไทย
ที่ยังดำรงชีวิตแบบแนวคนไทยพุทธที่มาเลเซีย แต่ด้วยต้องมีการแบ่งแยกตินแดนสมัยก่อน
ทำให้ไปติดอยู่ที่นั่น อยากให้แลกกับไอ้พวกที่มันไม่สำนึกบุญคุณประเทศจัง
คือที่เห็นด้วยกับโตเนี่ย มันหลายครั้งแล้วน่ะครับ ใครมีปืน ก็มีอำนาจครับ ใครคุมทหารได้
ก็ยึดอำนาจได้ครับ ใครคุมทหารม้าได้ (ปัจจุบันมันคือรถถัง) ยึดได้แล้วครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายป้อ
|
|
« ตอบ #52 เมื่อ: 22 มิถุนายน 2550, 11:08:51 » |
|
จิตใต้สำนึก
มีข่าวต่างประเทศข่าวหนึ่ง ซึ่งเมื่ออ่านแล้วอาจจะทำให้คนขวัญอ่อนเกิดหัวใจวายขึ้นมาได้ โดย "วอร์เรน บัฟเฟตต์"มหาเศรษฐีอเมริกัน วัย 75 ปี ซึ่งร่ำรวยเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจาก "บิล เกตส์"เจ้าของบริษัทไมโครซอฟท์ ประกาศว่าจะบริจาคเงิน 37,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.407 ล้านล้านบาท) หรือคิดเป็น 85% ของสินทรัพย์ที่มีอยู่ทั้งหมด 44,000 ล้านดอลลาร์ ให้แก่มูลนิธิเพื่อการกุศล 5 แห่ง เมื่อศึกษาชีวิตของ "วอร์เรน บัฟเฟตต์" ก็ยิ่งน่าทึ่งเข้าไปอีก เพราะแม้จะร่ำรวยระดับมหาเศรษฐีของโลก แต่เขากลับยังใช้ชีวิตแบบสมถะและอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิมในเมืองโอมาฮา เนบราสกา ซึ่งเป็นบ้านที่เขาซื้อเมื่อปี 2500 หรือตั้งแต่ 49 ปีที่แล้ว คนอย่าง "วอร์เรน บัฟเฟตต์" ถือเป็นแบบอย่างของคนที่รู้จักความพอดีในการใช้ชีวิต รู้และสำนึกได้ด้วยตัวเองว่า จุดความพอดีของตัวเองนั้นอยู่ที่ไหน และเมื่อไหร่ที่จะปล่อยวางจากทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะมีอายุถึง 75 ปี เมื่อตายไปแล้วก็เอาอะไรติดตัวไปไม่ได้ กลับมาดูเหตุการณ์ที่เมืองไทยกันบ้าง วันดีๆ วันชื่นคืนสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ จากนั้นคนไทยก็ต้องกลับมาซีเรียสกับปัญหาการเมืองที่ยังวุ่นวายเป็นวัวพันหลัก หาทางออกไม่เจอ ยิ่งแก้ก็ยิ่งยุ่งไม่ผิดอะไรกับลิงแก้แห ต้องยอมรับกันอย่างหนึ่งก่อนว่า ไม่ว่าการเมืองประเทศไหนในโลกนี้ต่างก็ไม่มีวันนิ่งด้วยกันทั้งนั้น เพราะเมื่อมีผู้ครองอำนาจ ก็ต้องต้องมีผู้โค่นเพื่อหวังจะครองตำแหน่งแทน มีผลประโยชน์ก็ต้องมีการช่วงชิง การเมืองของประเทศเพื่อนบ้านเรือนเคียงกับเราก็มีการเปลี่ยนแปลง อย่างลาวก็มีการปรับครม.ชุดใหม่ พร้อมๆกับเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ขณะที่เวียดนามก็เพิ่งจะเปลี่ยนตัวผู้นำประเทศไปหมาดๆ หรือแม้แต่ที่ฟิลิปปินส์ ประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย ก็กำลังถูกฝ่ายค้านยื่นเรื่องขอถอดถอนออกจากตำแหน่ง แต่ปัญหาของเพื่อนบ้านก็ยังไม่หนักเท่ากับเรา เพราะระบบกลไกของเขาเดินไปได้ ไม่ได้ติดล็อก พิกลพิการเหมือนบ้านเรา ทั้งๆ ที่เรามีปัญหาอยู่กับคนเพียงคนเดียวเท่านั้น และคนคนนี้ก็ดันเป็นคนที่ไล่แล้วไม่ไปเสียด้วย ผมเกิดความรู้สึกที่เซ็งในอารมณ์แบบสุดๆ เมื่อได้ยินคุณทักษิณ ชินวัตร พูดออกมาเต็มปาก แบบไม่เคอะเขิน หรืออายผีสางเทวดานางไม้ว่า"วันนี้ต้องทำอย่างไรให้บ้านเมืองไปได้ โดยนำกระแสพระราชดำรัสวันที่ 9 มิถุนายน มาปฏิบัติ ให้ทุกฝ่ายทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ตามที่กฎหมายหรือที่ตัวเองมีความรับผิดชอบอย่างมีคุณธรรมและจริยธรรม" ลองถ้า คุณทักษิณ พูดเรื่องคุณธรรมและจริยธรรม อย่างหน้าตาเฉยแบบไม่กระดากปากเช่นนี้ ก็หมดแล้วประเทศไทย หมดแล้วจริงๆ ผมจะไม่ฟื้นฝอยหาตะเข็บว่า 4-5 ปีที่ผ่านมา คุณทักษิณและรัฐบาลไทยรักไทยทำอะไรลงไปบ้าง แต่เอาเหตุที่เป็นชนวนสำคัญจนทำให้ประชาชนต้องลุกฮือกันขึ้นมาขับไล่คุณทักษิณก็คือ การขายหุ้นชินคอร์ป ได้เงินมาถึง 7หมื่น 3 พันล้านบาท ซึ่งทำให้คุณทักษิณ ถูกกล่าวหาว่า ไม่มีจริยธรรม เพราะได้เงินมาแบบเพียวๆ ไม่ต้องเสียภาษี แม้จะอ้างว่าทำถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่างก็ตามทีเถอะ คำตอบมันชัดเจนอยู่ในตัวเองแล้วว่า คนไทยรับไม่ได้กับผู้นำที่ไร้จริยธรรม วันนี้ ผมว่า คนที่ต้องกลายเป็นคนที่ไม่มีความสุขมากที่สุดในประเทศไทยก็คือ คุณทักษิณ แม้จะมีทั้งอำนาจและเงิน แต่การที่ยังไม่รู้จักละวาง หาความพอดีไม่ได้นั่นเองที่ทำให้เกิดทุกข์ ทำไมไม่เอาอย่าง "วอร์เรน บัฟเฟตต์"ล่ะ เงิน 7 หมื่น 3 พันล้าน จะไร้ค่าไปทันที เหลือแต่จิตสำนึกของตัวเองเท่านั้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!!
....ถ้าได้มาอย่างสุจริตจะกลัวทำไม...."บิล เกตส์"กับ "วอร์เรน บัฟเฟตต์"...ไม่เห็นกลัวอะไร....แค่นี้ก็น่าจะเห็นแล้ว....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ป.ปลา
|
|
« ตอบ #53 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2550, 01:53:23 » |
|
เรื่องข้อมูลตัวเลข นี่ป.ปลา บอกไม่ได้หรอกค่ะว่าถูกต้องแค่ไหน แต่ทหารคนนั้น เป็นคนที่ป.ปลา เชื่อถือได้ระดับหนึ่ง อันนี้ก็แค่เอามาเล่า เท่านั้น ไม่ได้รู้สึกหรือมีความคิดเห็นอะไร
ส่วนตัว เห็นด้วยกับเรื่องจิตใต้สำนึกที่พี่ป้อพิมพ์
ไม่เคยเห็นนายกคนไหน โกงไทยได้มากเท่านี้ โกงถึงขนาดเปลี่ยนแปลงกฎหมายเพื่อให้ตัวเองถูก การซุกหุ้น เล่นแร่แปรธาตุ ขายหุ้นโน้น ให้บริษัทที่ตัวเองก็ถืออยู่ ทุกอย่างแอบแฝงผลประโยชน์ทั้งทางการเมือง และการเงิน ให้ตัวเองและพวกพ้องได้ขนาดนี้
และไม่เคยเห็น นายก และ พรรคการเมือง พรรคไหน ทำให้คนไทยต้องแยกกันเป็น 2 ฝ่ายอย่างชัดเจนอย่างนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #54 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2550, 20:09:35 » |
|
อย่างที่ อ.วีระว่า..
กรรม..มีกรรมดำ..กับกรรมขาว..
ไม่มีกรรมสีเทา..
ดังนั้น..
การแยกแยะ..มิใช่เหมารวม..ไม่มีคนดีหมด..ไม่มีคนเลวหมด..
อย่าทำให้สังคมเกิดสีเทา..
สิ่งไหนดี..สนับสนุน..สิ่งไหนเลว..ก็กำจัด..
เข้าใจกันมี๊ยเนี่ยะ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายป้อ
|
|
« ตอบ #55 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2550, 21:11:25 » |
|
:lol: ....กรรมมุนาวะตะตีโลโก....."สัตว์โลกยอมเป็นไปตามกรรม"....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
dto80
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 471
|
|
« ตอบ #56 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2550, 21:43:53 » |
|
เรื่องข้อมูลตัวเลข นี่ป.ปลา บอกไม่ได้หรอกค่ะว่าถูกต้องแค่ไหน แต่ทหารคนนั้น เป็นคนที่ป.ปลา เชื่อถือได้ระดับหนึ่ง อันนี้ก็แค่เอามาเล่า เท่านั้น ไม่ได้รู้สึกหรือมีความคิดเห็นอะไร
ส่วนตัว เห็นด้วยกับเรื่องจิตใต้สำนึกที่พี่ป้อพิมพ์
ไม่เคยเห็นนายกคนไหน โกงไทยได้มากเท่านี้ โกงถึงขนาดเปลี่ยนแปลงกฎหมายเพื่อให้ตัวเองถูก การซุกหุ้น เล่นแร่แปรธาตุ ขายหุ้นโน้น ให้บริษัทที่ตัวเองก็ถืออยู่ ทุกอย่างแอบแฝงผลประโยชน์ทั้งทางการเมือง และการเงิน ให้ตัวเองและพวกพ้องได้ขนาดนี้
และไม่เคยเห็น นายก และ พรรคการเมือง พรรคไหน ทำให้คนไทยต้องแยกกันเป็น 2 ฝ่ายอย่างชัดเจนอย่างนี้
ไม่เคยเห็น กะไม่รู้นี่เหมือนกันไหมครับ ?? ส่วนบันทัดข้างล่าง สาเหตุมีสาเหตุเดียวเหรอครับ ?? ลองใช้ความรู้สึก กันหน่อยนะครับ ส่วนเรื่องเหตุผล ถ้าจะคุยกันก็ได้แต่ไม่รู้ว่าจะน่าคุยรึเปล่านะครับ :) (ถ้าจะเอาข้อมูลคงต้องถกกันหนัก ซึ่งก็คงเกินขอบเขตกระทู้นี้ไปหน่อย เด๋วเขาจะหาว่าทำให้กระทู้กลายพันธ์ คุยกันหลังไมค์ได้ครับ ยินดีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น (ในที่ ที่เหมาะสม ) ป.ล. (มาแก้ไขข้อความ) น้องปลาครับ ไม่เอาไม่ถกกันดีกว่า เปลี่ยนความรู้สึกคนมันยากแหะๆ ลองมาหลายคนล่ะ อิ อิ :twisted: ป.ล. 2 (มาเพิ่มอีกแล้ว) เห็นข้อความชาร์ป เรื่องของภาคใต้ ลองอ่านข้อมูลที่นี่นะครบ (ถ้าว่างนะครับ เพราะยาว) http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K5537452/K5537452.htmlอย่างน้อยก็เป็นข้อมูลที่น่ารับฟัง เพราะว่าคนเขียนเปิดเผยตัว ไม่ใช่จดหมายสนเท่ห์ (มันเท่ตรงไหนบักสนเนี้ยะ) แต่จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่านนะครับ แต่ก็เป็นข้อมูลที่สนุกดี :)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #57 เมื่อ: 24 มิถุนายน 2550, 14:03:47 » |
|
ปัญหาภาคใต้ตอนนี้ ผมเบื่อจะวิจารณ์ เพราะเมื่อก่อนเคยเขียนด่าไอ่พวกนั้นไปหลายรอบแล้ว(ตามเวบผู้จัดการ) จนรู้สึกว่าไม่มีประโยชน์อะไร นอกจากแค่พ่นไปวันๆ มันจะบึ้มตรงไหน ผมขี้เกียจอ่าน เพราะอ่านไปก็เซ็ง ทำไรไม่ได้ :x แต่มีข้อสังเกตแค่ว่า มันไม่เหมือนพวกติมอร์ หรือปาเลสไตน์เลย...เพราะพวกนั้นเค้าประกาศตัวต่อหน้าสาธารณะชนว่า ต้องการแยกดินแดนปกครองตัวเอง แต่ไอ้พวกนี้ไม่พูดอะไร ไม่แสดงตัว คอยจ้องป่วนลูกเดียว :!: บทความของวสิษฐ์ เดชกุญชร จากหนังสือพิมพ์มติชน :shock: ไอ้วสิษฐ์??? ไม่ทราบว่า เมิง ต้องการให้ กู(คนนอกพื้นที่) ทำอะไรเหรอครับ? จะให้พวกกูนั่งไว้ทุกข์ทั้งวันทั้งคืนเลยเหรอ? จะให้กูเดินขบวนด่าโจรให้มากขึ้นเหรอ? หรืออยากให้คนต่างจังหวัดไปร่วมรบกับโจร? ก็ก่อนหน้านี้ เค้ามีมีคนหลายกลุ่มทั้งพับนก เดินขบวน ด่าโจร สารพัดแล้ว ก็ไม่เห็นจะช่วยอะไรได้ แต่ละคนก็มีชีวิตส่วนตัวโว้ย! ถ้างั้นเวลาอิรัก หรือยูโกสลาเวีย หรือดินแดนอื่นๆมีสงคราม เมิง จะนั่งไว้ทุกข์หรือประท้วง ตลอดเวลา ไม่ต้องกินข้าวกินน้ำ ไม่ต้องมีกิจกรรมคลายเครียด อะไรสักอย่าง เลยใช่มั้ย? แต่เอาเหตุที่เป็นชนวนสำคัญจนทำให้ประชาชนต้องลุกฮือกันขึ้นมาขับไล่คุณทักษิณก็คือ การขายหุ้นชินคอร์ป ได้เงินมาถึง 7หมื่น 3 พันล้านบาท ซึ่งทำให้คุณทักษิณ ถูกกล่าวหาว่า ไม่มีจริยธรรม เพราะได้เงินมาแบบเพียวๆ ไม่ต้องเสียภาษี แม้จะอ้างว่าทำถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่างก็ตามทีเถอะ กฏหมายมันผิดเองครับ ที่ยกเว้นภาษีจากกำไรหุ้น...แล้วทักษิณใช้ประโยชน์จากกฎหมายที่ไม่แฟร์อันนั้น อย่างอุกอาจต่อสาธารณชน ก็เท่านั้นเอง สส.ฝ่ายค้าน หรือ สว.บางคน(ที่ด่าทักษิณอยู่ปาวๆ) ก็มีกำไรจากหุ้นที่ไม่เสียภาษี เพียงแต่ทำกันแบบแอบๆก็เท่านั้น :twisted:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #58 เมื่อ: 24 มิถุนายน 2550, 15:32:43 » |
|
ต้องใช้ความพยายามอย่าสูงมากครับพี่โต ... คือ มันจะเศร้าซะจนไม่อยากจะอ่านน่ะ ผมอ่านได้ไม่ก็ช่องที่เขา post เอง ... เรื่องภาคใต้ ผมให้ความสำคัญกับมันมากว่า การเมืองซะอีก ... การแก้ปัญหาภาคใต้ ต้องการการเมืองที่นิ่ง เพื่อให้ทุกคนไม่ต้องพะวง กับการทำงาน ให้มุ่งไปที่ภาคใต้ เป็นหลัก ... ... ผมมองการช่วยเหลือถาคใต้เป็นการช่วยเหลือ เพื่อนคนไทยด้วยกัน ช่วยชีวิตคน เลยนะครับ ถ้าหยุดการ ฆ่ารายวันได้ ได้ นี้นคือ หยุดการ ฆ่า และ เอาชีวิตกันได้ ... เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ๆ ๆ จนไอ้เรื่องการเมือง มันเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่าขี้ผง เลยล่ะ ... ... ผมจึงแนะนำว่า การเมือง เอาใจช่วยให้มีการเลือกตั้งได้โดยเร็ว และ สงบ ... ผมเชื่อมั่นใน พลเอกสุรยุทธ ว่าจะช่วยให้ผ่านไปได้ด้วยดี .... เพื่อให้ทุกคน มองภาคใต้ เป็นปัญหา อันดับต้น ๆ ของประเทศ และ ของเราเอง ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
dto80
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 471
|
|
« ตอบ #59 เมื่อ: 24 มิถุนายน 2550, 20:00:04 » |
|
ต้องใช้ความพยายามอย่าสูงมากครับพี่โต ... คือ มันจะเศร้าซะจนไม่อยากจะอ่านน่ะ ผมอ่านได้ไม่ก็ช่องที่เขา post เอง ... เรื่องภาคใต้ ผมให้ความสำคัญกับมันมากว่า การเมืองซะอีก ... การแก้ปัญหาภาคใต้ ต้องการการเมืองที่นิ่ง เพื่อให้ทุกคนไม่ต้องพะวง กับการทำงาน ให้มุ่งไปที่ภาคใต้ เป็นหลัก ... ... ผมมองการช่วยเหลือถาคใต้เป็นการช่วยเหลือ เพื่อนคนไทยด้วยกัน ช่วยชีวิตคน เลยนะครับ ถ้าหยุดการ ฆ่ารายวันได้ ได้ นี้นคือ หยุดการ ฆ่า และ เอาชีวิตกันได้ ... เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ๆ ๆ จนไอ้เรื่องการเมือง มันเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่าขี้ผง เลยล่ะ ... ... ผมจึงแนะนำว่า การเมือง เอาใจช่วยให้มีการเลือกตั้งได้โดยเร็ว และ สงบ ... ผมเชื่อมั่นใน พลเอกสุรยุทธ ว่าจะช่วยให้ผ่านไปได้ด้วยดี .... เพื่อให้ทุกคน มองภาคใต้ เป็นปัญหา อันดับต้น ๆ ของประเทศ และ ของเราเอง ... ถ้าเปรียบกะคนเรา ไม่ได้จะอยากเปรียบเทียบ แต่ตอนนี้สมองประเทศมันตื้อ ไม่โปร่งใส (ความคิดสองฝ่ายมันตีกันเอง) หัวใจก็ไม่ค่อยดี (ตุ้มๆ ต่อม ๆ จะรุ่นแรงแถวหัวใจขนาด หัวใจวายรึเปล่า) มือเราก็ต้องกุมหัว กุมหัวใจก่อนใช่ป่ะ มือมันไม่ไปปัดกวาดแมลงที่อยู่ทำให้รำคาญได้อ่ะคับ ตอนนี้ เรารบโดยไร้ Strategy อ่ะคับ เล่น war craft เดินไปตีดุ่มๆ ทีละคน ยังแพ้เลยครับ เราเลือกยุทธวิธีที่ผิดรึเปล่า ?? เลือกผิดก็แก้ให้เลือกถูกได้ครับ อยู๋ที่ว่าจะกล้าพูดหรือเปล่าว่าเราทำผิด ตรงนี้ยากมากที่เราจะยอมรับว่าเราตัดสินใจผิดมาก่อนครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #60 เมื่อ: 25 มิถุนายน 2550, 09:34:37 » |
|
กฏหมายมันผิดเองครับ ที่ยกเว้นภาษีจากกำไรหุ้น...แล้วทักษิณใช้ประโยชน์จากกฎหมายที่ไม่แฟร์อันนั้น อย่างอุกอาจต่อสาธารณชน ก็เท่านั้นเอง สส.ฝ่ายค้าน หรือ สว.บางคน(ที่ด่าทักษิณอยู่ปาวๆ) ก็มีกำไรจากหุ้นที่ไม่เสียภาษี เพียงแต่ทำกันแบบแอบๆก็เท่านั้น :twisted:
อืมมีคนเห็นด้วยกับผมประเด็นนี้นะครับ คือทุกๆ คนได้รับสิทธิ์ตรงนี้เท่าเทียมกันทุกคนในการได้รับยกเว้นภาษีจากำไรหุ้น ถ้าทักษิณต้องเสียผมว่าทุกคนก็ต้องเสียด้วยนะครับ ไม่งั้น ก็ไประบุในกฎหมายซิครับว่า rate เท่าไหร่ถึงต้องเสียตังค์ แล้วที่ขายๆ กับแบบ lot ใหญ่ ๆ กันทุกๆ วัน ไม่หลายพันล้านแล้วเหรอครับ สมมุติเป็นผมแค่แบบมีหุ้นรายใหญ่ในบริษัทแล้ว แค่ไม่มีชื่อเสียง แล้วต้องให้ผมมาเสียภาษีจากการขายหุ้น ผมก็ไม่ยอมนะ ถ้าเก็บผม ก็ต้องเก็บทุกคนด้วยซิ ไม่งั้นมันจะเสมอภาคเหรอครับ อยู่ๆ จะมาบอกว่า เฮ้ย ....คุณต้องเสียนะ มันใช้กฎหมู่มากกว่า กฎหมายแล้วครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #61 เมื่อ: 25 มิถุนายน 2550, 10:06:16 » |
|
ไม่ผิดกฏหมายแน่นอน เรื่องภาษีหุ้น ถึงแม้จะผิดจริยธรรมอันดีงาม ก็ตาม
แต่ก็ไม่สามารถใช้กฏหมายลงโทษได้ ตอนนี้ต่างชาติกำลังมองว่าเราใช้กฏหมู่ปกครองประเทศอยู่
คือถ้าคิดว่าใครเลวก็เล่นงาน โดยอาศัยบรรทัดฐานที่มิใช่กฏหมาย
อันนี้แหละที่จะทำให้มีผลกับการความไม่มั่นใจในการลงทุน
เหมือนกับว่าถ้าผมทำถูกกฏหมายทุกอย่าง แต่คิดว่าผมไม่ดี ก็จะหาทางเอาผิด
อันนี้ต้องระวังนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #62 เมื่อ: 27 มิถุนายน 2550, 01:50:36 » |
|
กำไรจากการขายหุ้นในตลาดนั้น ไม่เสียภาษีครับ แต่ คตส. ไปตรวจสอบเส้นทางของ หุ้นนั้นได้มาโดย ถูกกฏหมายไทย หรือเปล่า ... สมมติได้มาโดยผิดกฎหมายไทย ... ธุรกรรมการขายหุ้นนั้น ก็เป็นธุรกรรมที่ผิดกฎหมายไทย ... แต่ไม่รู้ว่าเข้าข่าย ซื้อขายของผิดกฎหมายหรือเปล่า (จะบอกว่า คตส. หาเรื่องก็ได้นะ ... มีหลายคนให้ตรวจสอบ เยอะเลย เรื่องเส้นทางการได้มาของหุ้น แต่เขาดันมาเน้น เฉพาะ หุ้น shin นี้ล่ะ .. ) แต่ถ้ามองอีกแง่ เราได้ หุ้นมาขายโดย ถูกกฎหมาย ไม่น่ากลัวเรื่องการชี้แจง นะ ... ... เรื่องต่างประเทศ นี้ คตส. จึงน่าจะชี้แจงรายละเอียดเหตุผล ให้ชัดเจน (อย่างน้อย ต่างชาติจะได้ เข้าใจมากขึ้น แต่คงจะให้มองในแง่บวกคงยาก ) ------ ส่วนเรื่องภาคใต้ นั้นผมเองก็ไม่รู้ว่า เราดำเนินกลยุทธ์ ผิด หรือถูก ... รู้แต่ว่า ไม่น่าเป็นเรื่องที่มาหาคนทำผิดทำถูก เพราะ เป็นการหาคนรับผิดชอบ ที่อาจไม่เหมาะ กับสถานการณ์ ที่ต้องแก้ปัญหาร่วมกัน... แต่เป็นเรื่องที่ทำอย่างไร เรา ๆ จะช่วยเขาได้ ช่วยประชาชนในภาคใต้ นั่นล่ะครับ ... คนบางคน เป็นอาสาสมัคร คนบางคนบริจาคเงิน คนบางคนเอาใจช่วย ... ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งดี ... ทำได้ในสิ่งที่เราเองว่าทำได้ ไปก่อน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
(n_n)Cellkrub
Full Member
ออฟไลน์
รุ่น: 2540
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 579
|
|
« ตอบ #63 เมื่อ: 27 มิถุนายน 2550, 08:37:28 » |
|
เอ ในการขายทรัพย์สิน ที่ได้จากการสัมปทานมาจากรัฐให้บริษัทต่างประเทศ ในขณะที่ตัวเองดำรงตำแหน่งบริหารสูงสุดของประเทศ นี่ก็ไม่เหมาะไม่ควรแล้วนะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
dto80
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 471
|
|
« ตอบ #64 เมื่อ: 27 มิถุนายน 2550, 20:52:48 » |
|
เรื่องหุ้น ตัดปัญหาเรื่องเหมาะ ไม่เหมาะ ไปก่อน เส้นทางอธิบายได้ครับ เพียงแต่คนตีความผิด (ในที่นี้คือศาล) จะต้องวิเคราะห์อีก ว่าผิดไม่ผิด เพราะทางเดินของหุ้นถูกต้องตามกฎหมายหลัก (คือกฎหมายเรื่องการโอนย้ายหุ้น) แต่กฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องพวกให้นักการเมืองถือหุ้นได้ยังไงแบบไหน หรือว่าการนับนอมินี (ผู้มีสิทธิ ถือหุ้น) ซึ่งกฎหมายเขียนไว้ค่อนข้างหลวม ซึ่งต้องตีความ ก็อยุ่ที่คนตีความ
เรื่องเหมาะ ไม่เหมาะอยู่ที่บุคคลแต่ละคนเข้าใจ คงคิดแทนกันไม่ได้
ส่วนเรื่องภาคใต้ ที่บอกว่าผิด คือวิธีการที่เราใช้ผิด หรือไม่ ถ้า"วิธีการ" ผิดก้เปลี่ยนวิธีการครับ ไม่ใช่บอกว่า เราต้องมาดูว่า "ใคร" ทำ "คน" รับผิดชอบในข้อมูลการตัดสินใจนั้น ๆ และ ตัดสินใจทำงานในสถานการณ์ัน้น ๆ ซึ่งนาทีนั้นอาจจะเหมาะสมที่สุด แต่ถ้าเวลาเปลี่ยน "วิธีการ" ก็ต้องเปลี่ยนคามครับ
ทุกวัน "คน" ที่เลือกใช้ "วิธีการ" ไม่กล้ายอมรับว่า "วิธีการ" ที่ตัวเองทำผิด เพราะว่ากลัวว่า "คน" จะเสียหน้า ทำให้ไม่กล้าเปลี่ยน "วิธีการ"
ไม่เกี่ยวว่าเมิงทำผิด เพราะเชื่อว่าทุกคนคิดโดยบริสุทธิ์ใจว่า "วิธีการ" ที่ตัวเองเลือกต้องดีที่สุด แต่ใช้งานได้ "จริง" รึเปล่าเป็นเรื่องรองลงมา
ดังนั้น กล้า "ยอมรับ" กันไหมครับ ว่าวิธีการนี้ "เหมาะสม" กับสถานการณ์ตอนนี้ ? คนไทย ที่ "กล้า" ยอมรับว่าตัวเองผิดมันน้อยนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #65 เมื่อ: 27 มิถุนายน 2550, 22:18:35 » |
|
เตะหมาเข้าปากหมู เตะจู๋เข้าปากเกย์ ...คำเปรียบเทียบที่ยังใช้ได้ดีกับการเมืองไทยหลายๆสมัย :shock:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #66 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2550, 18:20:08 » |
|
บางทีปล่อยวางบ้างก็ดีครับ หลังๆ มาไม่ค่อยอยากเปิดโทรทัศน์อ่ะ เพราะผมไม่ค่อยชอบดูละครเท่าไหร่อ่ะ ก็มักจะเผลอไปเปิดพวกวิเคราะห์ข่าวอ่ะ ก็ยิ่งเพิ่มความเครียดอ่ะ หลังๆ มาก็เลยเปิดเพลงฟังแทนครับ เย็น ๆ สบายใจ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #67 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2550, 12:20:00 » |
|
ก็ว่ากันไป..
สุดท้ายก็ต้องฟังศาลครับ..เพราะศาลตัดสินยังไงก็ต้องแบบนั้น..คตส. ทำหน้าที่แค่เหมือนอัยการแค่นั้นเอง..
เป็นสถาบันเดียวที่เราจะต้อง.."เชื่อ" ถึงแม้มันจะถูกใจหรือไม่ถูกใจก็ตาม..
เพราะเท่าที่ทำงาน..พูดคุยกับคนรู้จัก..ศาล..ยังเป็นสถาบันที่ไว้ใจได้ครับ..
ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้างศาล..หรืออะไรก็ตามที่มีการวิ่งเต้น..ไม่สำเร็จครับ..
เพราะถ้าศาลพัง..ความศรัทธาหมด..ไม่อยากจะคิดครับ..ว่าบ้านเมืองที่ไม่มีหลักอะไรเลยจะเป็นยังไง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายป้อ
|
|
« ตอบ #68 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2550, 18:59:20 » |
|
:lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #69 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2550, 19:30:49 » |
|
เห็นด้วยที่คุณ ppornson ว่ามา เพราะถ้าศาลพัง..ความศรัทธาหมด..ไม่อยากจะคิดครับ..ว่าบ้านเมืองที่ไม่มีหลักอะไรเลยจะเป็นยังไง
ถึงผมจะเคยบอกว่าไม่เชียร์รัฐประหาร แต่ยังๆก็ยังยอมรับกลไกตุลาการ เพราะมันเป็นการตัดสินต่อหน้าสาธารณชน และตรวจสอบได้...ใครไม่เห็นด้วยก็เอากฏหมายมาแย้งได้ ไม่เห็นว่าจะเป็นอำนาจเผด็จการตรงไหน(หมายถึงตุลาการน่ะ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #70 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2550, 20:57:20 » |
|
คตส. ไปตรวจสอบเส้นทางของ หุ้นนั้นได้มาโดย ถูกกฏหมายไทย หรือเปล่า ... สมมติได้มาโดยผิดกฎหมายไทย ... ธุรกรรมการขายหุ้นนั้น ก็เป็นธุรกรรมที่ผิดกฎหมายไทย ... แต่ไม่รู้ว่าเข้าข่าย ซื้อขายของผิดกฎหมายหรือเปล่า ครับ ประเด็นนี้นี่แหละที่เอามาเล่นได้ เพราะเป็นประเด็นเรื่องกฏหมายโดยตรง... ส่วนประเด็นเรื่องจริยธรรมนั้น เอามาตัดสินอะไรไม่ได้ นอกจากแค่ประนามเท่านั้น(แค่ โลกะวัชชะ) ไปถามทหาร คนนึงมา เค้าอยู่หน่วยที่คอยคุมเหตุการณ์ความวุ่นวาย เค้าบอกว่า ม๊อบสนธิ ไล่ทักษิณ 60 เปอร์เซ็น มาด้วยใจ ที่เหลืออยากรู้ อยากเห็น ผ่านมา เลยอยากดู กับอีกนิดหน่อยที่มาสอดแนม ม๊อบ(อดีต) พีทีวี 60 เปอร์เซ็น มีการจัดจ้าง 20 อยากรู้อยากเห็น 20 มาด้วยใจ ตอนแรกผมเคยเชื่อว่า เอ๊ะ? ทหารออกมาพูด ก็อาจจะเชียร์แต่พวกเดียวกัน แต่...ตอนนี้ เจอข้อมูลอีกอัน ที่น่าจะสนับสนุนความเห็นของคุณ ป.ปลา :twisted: จากลิงค์นี่ http://www.oknation.net/blog/kittinunn/2007/06/24/entry-1ขนาด ไอ้สมศักดิ์ เจียมธีรสถุล ที่มันเชียร์ม็อบพีทีวี กับม็อบ นปก.มันยังยอมรับว่า อืมม์...ตอนนี้ผมต้องมาทบทวนใหม่ ว่าจริงๆแล้ว พวกที่มาไล่ คมช.นั่น มั่นคงในอุดมการณ์จริงหรือ? หรือแค่รับเงินจ้างมาอย่างที่ ป.ปลา กล่าวไว้? เพราะเปรียบเทียบกับม็อบอ้ายทิกับจำลองแล้ว ดูเหมือนพวกนั้นจะอึดกว่าเยอะ?(แม้ผมจะไม่ได้ชอบพวกอ้ายทิ แต่ก็ยอมรับว่าพวกนั้นถึงกับยอมอดหลับอดนอนมานั่งประท้วง) แต่ม็อบพวกพีทีวีกับ นปก.พอมีฝนมาก็วิ่งแจ้นกลับบ้านเสียแล้ว? ดูเหมือนไม่ค่อยมีอุดมการณ์สักเท่าไหร่?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
ป.ปลา
|
|
« ตอบ #71 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2550, 21:48:16 » |
|
สำหรับป.ปลา ตอนนี้นอกจากจะคอยดูเรื่องลงมติร่างรัฐธรรมนูญ ก็ต้องมาคอยจับตามอง พล.อ สนธิ ว่าจะแกจบแบบไหนต่อ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #72 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2550, 13:23:31 » |
|
สำหรับป.ปลา ตอนนี้นอกจากจะคอยดูเรื่องลงมติร่างรัฐธรรมนูญ ก็ต้องมาคอยจับตามอง พล.อ สนธิ ว่าจะแกจบแบบไหนต่อ ว่าแต่ว่า เค้าให้ออกไปลงมติวันไหนเหรอ? ผมจะไปร่วมลงแน่นอน... แต่ยังไม่บอกหรอก ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่? แต่ดูสถานการณ์ตอนนี้แล้ว ใกล้จะเป็นหกตุลาฯเข้าไปทุกที :? หกตุลานะ ไม่ใช่สิบสี่ตุลา...เพราะสิบสี่ตุลา เป็นการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชน แต่หกตุลาฯเป้นการปะทะระหว่าง ประชาชนเอียงซ้าย กับประชาชนเอียงขวา มีตำรวจหรือทหารนำแค่ไม่กี่คน คือตอนนี้ ความขัดแย้งมันไม่ได้อยู่แค่รัฐกับมวลชน แต่มวลชนมันขัดแย้งเป็นสองขั้วชัดเจน สังเกตได้จาก เริ่มมีม็อบออกมาปกป้อง คมช.และด่า นปก. ส่วนฝ่าย นปก.ก็เริ่มเคลื่อนไหวรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ... :?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #73 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2550, 13:35:15 » |
|
ว่าแต่ว่า เค้าให้ออกไปลงมติวันไหนเหรอ? ผมจะไปร่วมลงแน่นอน... แต่ยังไม่บอกหรอก ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่? 19 ส.ค. 2550 ครับ Aj.O
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #74 เมื่อ: 25 กรกฎาคม 2550, 18:58:28 » |
|
พูดถึงเวทีการลงมติ รับ-ไม่รับ ร่างรัฐธรรมนูญ... ผมว่านี่เป็นเวทีที่น่าจะดีที่สุดแล้วในการโต้แย้งกัน ระหว่างพวกที่เชียร์ คมช. กับพวกที่ชอบทักษิณ หรือแม้แต่พวกที่ไม่ชอบทักษิณแต่ไม่เห็นด้วยกับรัฐประหาร... มันคล้ายๆการเลือกตั้งกลายๆ แต่ละคนมีสิทธิ์ที่จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ได้ แต่ทำไมม็อบ นปก.ยังคงดันทุรังเลือกจะไปเล่นเวทีเถื่อน? ทั้งที่..ถ้าพวกเค้าเกลียด คมช. หรือคนรักแม้ว...ก็มีสิทธิ์รวมหัวกันไม่รับรัฐธรรมนูญได้
ผมเคยไม่ชอบการกระทำของม็อบพันธมิตรสนธิ&จำลอง ส่วนหนึ่งเพราะไม่ยอมรับเวทีการเลือกตั้ง ที่กำลังจะจัดขึ้นในปลายเดือนตุลาคม แต่กลับใช้วิธีดันทุรังที่จะไล่...นี่แหละ ผมเคยเชียร์ม็อบ นปก.(รวมทั้งพวกคนวันเสาร์)เพราะเห็นว่าตอนนั้น(ช่วงก่อนที่จะมีเวทีประชามติออกมา)พวกเค้ายังไม่มีเวทีที่จะแสดงออกอย่างเป็นทางการ
แต่ตอนนี้ ผมกำลังเห็นว่า นปก.ก็ไม่ต่างกับม็อบสนธิ&จำลอง เท่าไหร่...พวกนี้ยึดแนวทาง สัมฤทธิ์ผลนิยม(Pragmatism)อย่างที่ ธงชัย วินิจจะกุล เคยกล่าวไว้ ไม่ว่าจะใช้วิธีที่อันตรายแค่ไหนก็ตาม เพื่อให้แนวทางพวกตัวเองบรรลุผล
เค้าเปิดเวทีให้เล่นแล้วแท้ๆ ยังเลือกที่จะยึดถือเวทีเถื่อน?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
|