คุณยาย ร้อนๆ จ้า !

[khesorn mueller]

แถมนะคะ เค้าไม่ให้กระเป๋าใดกระเป๋าหนึ่ง
นน.มากกว่ากระเป๋าอื่น พวกเราคิดว่าเหมารวมเลย!!
ปรากฏต้องเปิดluggageย้ายนํ้าหนักกันต่อหน้าธารกำนัล
โกลาหล อายก็อายเหงื่อตกค่ะ เพราะกว่าจะปิดแต่ละกระเป๋าได้
ต้องขึ้นไปนั่งสองคนขย่ม...สุดบู๊ค่ะ!
หนิงน่ะไม่อยากให้ใครเห็นกุ้งแห้ง ปลาหมึก ปลาเค็มที่"ลักลอบ"นำเข้า
ต่างหาก!! :lol:  :lol:
nn.27

[Pikul]

หนิงเอาไตปลา และกะปิ ไปด้วยดิ....ให้รู้ฤทธิ์คนไทย...เอาให้เข็ด  :twisted:
พอเปิดออกก็ระเบิดเถิดเถิง ... กลิ่นตลบ...  :twisted:
อย่าหยิบน่ะ กลิ่นติดมือไปฝากคนที่บ้านเลยแหระ... :twisted:
ฝรั่งซาหลบ .... คนไทยน้ำลายสอ...555   :lol:

ตอนพี่เข้า USA ที่ San Francisco พี่ Claim อย่างตรงไปตรงมาว่ามีอาหารแห้ง   :twisted:
เอาไปให้หลานตั้งกระเป๋าใหญ่ทั้งกระเป๋าอ๊ะ ชี้ให้มันตรวจเลยว่าใบนั้นแหละ
มันถามว่า... ยูมาจากไหน   :twisted:
ไทยแลนด์จ๊ะ  (ยิ้มหวานนน..)  

มันไม่เปิดอ่ะ..ผ่านได้!  :evil: ...
ไม่รู้ว่า  เพราะเคยเจอกะปิ หรือเพราะยิ้มหวาน  อิ  อิ.. :lol:

[khesorn mueller]

ไตปลายังไม่เคยลองค่ะพี่พิกุล ไม่กล้า กลัวแตกแล้วต้องทิ้งเสื้อผ้าทั้งกระเป๋า ก็ระบบโหลดกระเป๋าสุดจาซาดิสท์!!ทำได้แค่ของแห้งค่ะ กะปิก็ขน ทุเรียนกวนก็ขน ลองกองยังหิ้วทั้งมดๆหน้าตาเฉย!!
ที่อเมริกา เค้าโยนอาหารและเครื่องดื่มทิ้งหมด ตอนนั้นแค่ไปเที่ยวค่ะ ไม่ได้ขนอะไรมาก แค่ผลไม้ในครัว
nn.

[Pikul]

ไตปลาสมัยนี้เขาทำแห้งน่ะจ๊ะ น้องหนิงๆ

มีเจ้าประจำ สั่งแล้วส่งผ่านรถทัวร์จากฝั่งอันดามันครั้งละ 5 กิโลค่ะ ...
เก็บได้นาน ...แถมส่งทำบุญได้หลายวัดด้วย .....

พี่จึงเป็นผู้ที่มีลาภทางโภคทรัพย์ น่ะจ๊ะ... ผอม...ยากจ้า. 555... :-o

[khesorn mueller]

แต่กลับคราวนี้ หนิงจะขนแกงไตปลาแห้งกลับไปด้วย
ของอร่อยมาจากโคกกรอย พังงา...
ตัก2-3ช้อนโต๊ะใส่ในนํ้าต้ม..ใส่เห็ดchampignon ผักสดตาม
หนิงพลิกแพลงโดยการตำปลาทะเลแท่งจาก Alaskaใส่ลงไป
ได้ระลึกกำพืดกันจนจบมื้อค่ะพี่
nn.27