25 พฤศจิกายน 2567, 00:46:44
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 2 [3]  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ธ สถิตย์ในดวงใจ หทัยราษฎร์  (อ่าน 65003 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #50 เมื่อ: 13 เมษายน 2554, 12:36:41 »


สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ สมาชิกชาวเวป cmadong.com ทุกท่าน

      บันทึกการเข้า
ti2521
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #51 เมื่อ: 09 มิถุนายน 2554, 12:08:25 »

อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 09 มิถุนายน 2552, 18:43:01
      .....ณ  วันนี้   9  มิถุนายน  2552   เป็นอีกวันหนึ่งที่ถือว่าเป็นวันมหามงคลยิ่งสำหรับปวงชนชาวไทยทั้งมวล  

           นับย้อนหลังไปถึงวันที่  9  มิถุนายน  2489  วันนี้จืงครบ   63  ปี  

           ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของพวกเราขึ้นครองราชย์  

           พระราชดำรัสในวันนั้นทุกถ้อยคำ ยังคงกึกก้องกังวาลอยู่ในหัวใจคนไทยทั้งชาติครับ  

           ขอพระองค์  ทรงพระเจริญ  ยิ่งยืนนาน  

          ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ.....


.....วันมหามงคล ครบรอบ  ๖๕ ปี ครองสิริราชสมบัติของในหลวง.....

     ๙ มิย ๒๔๘๙  ถึง  ๙ มิย ๒๕๕๔

ขอพระองค์ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ





      บันทึกการเข้า

เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ
สำหรับผม
อย่างไรก็ได้
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #52 เมื่อ: 14 พฤศจิกายน 2554, 11:20:26 »


King of the Kings

( บทความ โดย ดร.วิษณุ เครืองาม )

เสรษฐวิทย์-นิเทศ 16 ... ส่งมา
 
          ในฐานะที่ทำงานอยู่ในทำเนียบรัฐบาลโดยหน้าที่ต่างๆ กันถึง 15   ปี ผมขอยืนยันว่า พระองค์ทรงมีมาตรฐานเดียวโดยตลอด  จะต่างกันก็ที่โอกาส เช่น คณะรัฐมนตรีบางคณะเข้ามาในช่วงที่ทรงพระประชวร บางคณะมีราชการงานเมืองต้องเข้าเฝ้าฯ ขอ พระราชทานมหากรุณาบ่อยหรือห่างตามเหตุการณ์
 
         ในการมีพระราชดำริ พระราชดำรัส และการทรงงานใดๆ ไม่มีเลยสักเรื่องที่จะแสดงว่าทรงรับเอาประโยชน์ส่วนพระองค์  แม้พสกนิกรจะเต็มใจถวาย
 
          สมัย จอมพลถนอมเป็นนายกฯ คราวหนึ่งประจวบโอกาสครองราชย์ครอบ 25 ปี ( พ.ศ. 2514 ) รัฐบาลจะสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์และถาวรวัตถุใหญ่โต “ ที่สุดในประเทศ ” ถวาย รับสั่งว่า “ สิ้นเปลืองและไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน สร้างถนนกันรถติดดีกว่า ”  นี่คือที่มาของ “ ถนนรัชดาภิเษก ”
 
          สมัยคุณ บรรหารเป็นนายกฯ เคยกราบบังคมทูลว่า จะสร้างทาวเวอร์ หรือหอคอยสูงใหญ่ข้างสะพานพระราม 9 ใช้เป็นหอดูวิว หอโทรคมนาคม และเฉลิมพระเกียรติ รับสั่งว่า “ เทคโนโลยีสมัยนี้ไม่ต้องสร้างหอโทรคมนาคม และเปลืองเงินเปล่าๆ ”   
 
          นายกฯ คนหนึ่งเคยกราบบังคมทูลถามว่า  ที่พระอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรฯ หน้าทำเนียบรัฐบาลนั้น ตอนพลบค่ำคนมักมาจุดประทัดแก้บน    บางทีก็ยิง ปืนสนั่นหวั่นไหว ดังรบกวนมาถึงสวนจิตรฯ หรือไม่ รับสั่งว่า “ อยู่ที่หลักการว่าทำอย่างนั้นผิดกฎหมายไหม ถ้าผิดก็ต้องห้าม  แต่ถ้าเป็นเสรีภาพก็ต้องปล่อยไป รำคาญหนวกหูก็ต้องทน อย่าใช้มาตรฐานสวนจิตรฯ หรือทำเนียบรัฐบาลมาตัดสิน ”
 
          สมัยนายกฯ ทักษิณ เคยกราบบังคมทูลว่า " เมื่อประทับรักษาพระองค์ที่วังไกลกังวลอย่างนี้  รัฐบาลจะขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สำนักพระราชวังปรับปรุงวังไกลกังวล ให้สะดวกสบายสมกับที่จะใช้เป็นที่ประทับยาวนาน  รวมทั้งจะปรับปรุงโรงพยาบาลหัวหินให้ทันสมัยพร้อมทุกประการ "   รับสั่งว่า " การปรับปรุงโรงพยาบาลเป็นประโยชน์แก่ทุกคนถ้ามีงบก็ควรทำ  แต่การปรับปรุงวังไกลกังวลเป็นเรื่องพระสำราญ “ แค่นี้ก็พออยู่พอเพียงแล้ว ”   
 
          รัฐบาลหลายคณะ เคยออกกฎหมายที่มุ่งจะเฉลิมพระเกียรติเช่นมีคำว่า “ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ”
          มีพระราชกระแสให้รัฐบาลนำกลับไปปรับปรุงเพราะ “ ไม่อาจทรงสถาปนาพระองค์เองได้ ”  เช่นเดียวกับที่ใน พ.ศ. 2512  ไม่ทรงลงพระปรมาภิไธย ในร่างพระราชบัญญัติยศทหารซึ่งถวายพระยศ ทางทหารเป็น จอมพล จนร่างพระราชบัญญัตินั้นตกไปเองในที่สุด

 
          รัชกาล นี้ทรงลงพระปรมาภิไธยตรากฎหมายมาแล้ว ทั้งที่เป็นพระราชบัญญัติ พระราชกำหนด พระราชกฤษฎีกานับหมื่นฉบับ ทรงวินิจฉัยฎีกานักโทษ ฎีการ้องทุกข์ขอพระราชทานความเป็นธรรมอีกหลายพันราย  บางรายขอพระราชทานยืมเงิน  บางรายขอความเป็นธรรมเรื่องแต่งตั้งโยกย้าย
 
          ราย หนึ่งพ่อตาย ลูกชายบวชหน้าไฟให้พ่อ อยู่มาก็ไม่ยอมสึก แม่มีลูกชายคนเดียวทำหนังสือถวายฎีกาว่าเดือดร้อนหนัก ขอพระมหากรุณาให้ลูกสึกมาช่วยเลี้ยงแม่เถิด โปรดให้ตรวจสอบแล้วมีพระราชกระแสว่า แท้จริงแม่ไม่ได้อยากให้ลูกสึก แต่ปัญหาคือแม่ลำบากยากจน จึงโปรดให้กรมประชาสงเคราะห์เข้าไปช่วยดูแล สอนอาชีพให้และหาเครื่องมือทำมาหากินไปให้แม่ ลงท้ายแม่ก็ทำมาหากินได้ ส่วนลูกก็อยู่ไปจนเป็นสมภาร
 
          พระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวฯ ทรงสงเคราะห์ทั้งส่วนรวมและพระองค์เองเพื่อจะได้มีพระอนามัยดี ทรงงานเพื่อส่วนรวมต่อไป จึงทรงดนตรี ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือ ทรงเล่นคอมพิวเตอร์ ทรงฉายภาพ ทรงกีฬา ทรงวาดรูป ปั้นรูป ทรงงานไม้งานช่าง จะทรงจับงานด้านใดก็ทรงทำได้ดี 
 
          ที่คนไม่ใคร่ทราบคือ ทรงสนพระราชหฤทัยเป็นพิเศษในเรื่องภาษาไทย การศึกษา ระบบสิ่งแวดล้อม การสาธารณสุข และพุทธศาสนา ส่วนที่ทรงพระปรีชาทางดิน น้ำ ระบบระบายน้ำ และการแก้ปัญหาจราจรนั้นเป็นที่ทราบทั่วไปอยู่แล้ว   

 
          เมื่อครั้งยังเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ผมเคยได้รับพระมหากรุณาพระราชทานคำแนะนำเรื่องการใช้ถ้อยคำภาษาไทยหลายหน   
          ครั้งหนึ่งได้ถวาย “ รายชื่อ ” บุคคลให้ทรงแต่งตั้ง รับสั่งถามว่า ตั้งกี่คน ผมกราบบังคมทูลว่าคนเดียว ตรัสว่าคนเดียวเรียกว่า “ ชื่อ ” ถ้า “ ราย ชื่อ ” ต้องหลายคน 
 
          อีกคราวหนึ่ง มีหนังสือกราบบังคมทูลว่า  “ ทูลเกล้าทูลกระหม่อมมาเพื่อทรงพิจารณา ” ทรงพระสรวลตรัสว่า “ ถ้าทูลเกล้าทูลกระหม่อมก็อยู่บน กระหม่อมยังไม่ถึงฉัน ถ้าจะให้ถึงฉัน ต้องทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายมาเพื่อทรงพิจารณา ”
 
          ในทางพระพุทธศาสนาก็ปรากฎว่าทรงรอบรู้ทั้งในทางปฎิบัติและปริยัติ ทรงรู้จักพระเป็นอันมาก เมื่อตรัสถึงเหตุการณ์ครั้งใดจะทรงย้อนไปถึงเรื่องราวครั้งเก่าก่อน เช่น  “ ครั้งสมเด็จพระสังฆราชยังเป็นพระญาณวราภรณ์ ” “ ครั้นเจ้าคุณประยุทธยังเป็นพระราชวรมุนี ”   
            และเคยตรัสเล่าเรื่องราวความเป็นอัคร ศาสนูปถัมภก ว่า ต้องทรงอุปถัมภ์ และคุ้มครองทุกศาสนา โดยไม่เลือกปฎิบัติ ทรงเล่าพระราชทานว่า ครั้งหนึ่งควีนจากประเทศหนึ่งทูลถามว่า พุทธศาสนาไม่มีพระเจ้าแล้วชาวพุทธนับถืออะไรกัน เหตุใดไม่ยกพระพุทธเจ้าเป็น god เสียเลย
           ได้ทรงตอบว่า พุทธศาสนานับถือ “ ธรรม ” เรานับถือธรรมยิ่งกว่าพระพุทธเจ้าเสียอีก เพราะธรรมเป็นเครื่องคุ้มครองโลก และได้ตรัสเล่าต่อไปว่า แม้ศาสนาอื่นก็ยังต้องทรงอุปถัมภ์ ฉะนั้นในฝ่ายพุทธศาสนาขอให้ทุกคนวางใจเถิดว่า จะเป็น เถรวาท มหายาน รามัญนิกาย มหานิกาย ธรรมยุต ก็ต้องทรงคุ้มครองและพระราชทานความเป็นธรรมเสมอกัน   

 
          รัชกาลที่ 5 นั้น อะไรที่ไม่เคยมีและไม่มีคนไทยคนใดนึกว่าชีวิตนี้จะมี แต่ก็ทรงบันดาลหรือวางรากฐานให้มีขึ้นเป็นขึ้นทั่วถ้วน เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล รถไฟ ไปรษณีย์ เลิกทาส จนคนรุ่นก่อนหน้านั้นต้องคิดว่าเหลือเชื่อ
          แต่ รัชกาลที่ 9 นั้น อะไรที่ควรจะมี ควรจะคิดออก ควรจะทำเป็นนานแล้ว แต่ผู้มีอำนาจหน้าที่ไม่ใคร่คิดไม่ใคร่ทำ ก็ทรงบันดาลหรือวางรากฐานให้มีให้เป็นขึ้น เช่น เขื่อน ฝาย ประตูระบายน้ำ   ถนน   สะพาน   การสงเคราะห์คนเป็นโรคเรื้อน คนประสบภัยธรรมชาติ การแก้ปัญหาจราจร การเพิ่มผลผลิตการเกษตร   การแก้ปัญหาความยากจน   ปัญหาพลังงาน   
 
          สมัยผมเป็นเลขาธิการ ครม.    ต้องทูลเกล้าฯถวายเอกสารใส่ซองขนาดใหญ่สีขาว เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย รับสั่งต่อไป หน้าซองไม่ต้องเขียนเลขที่หนังสือ จะได้หมุนเวียนกลับลงมาใช้หลายหน ไม่ต้องทิ้ง แม้แต่เรืองเล็กๆ ก็ควรประหยัด   เวลาร่างกฎหมายโปรดให้ถวายปะหน้า 2 แผ่น เผื่อว่าทรงลงพระปรมาภิไธยแล้วหมึกซึมเลอะ จะได้ประหยัดเวลาไม่ต้องรอถวายใหม่ เวลาตั้งรัฐมนตรีใหม่จะต้องเข้า เฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฎิญาณ จะตรัสว่าให้รีบมาจะได้รีบไปทำงานไม่ต้องห่วงว่าติดเสาร์อาทิตย์ ประเทศไทยพระเจ้าแผ่นดินไม่มีวันหยุดราชการ
 
          พระมหากรุณาธิคุณปานนี้  จะหาได้จากที่ไหนอีก เจ้าประคุณเอ๋ย !
 
          ปี 2538    สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีสวรรคต ลองคิดดูว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะทรงวิปโยคขนาดไหน เสด็จไปทรงสดับพระพิธีธรรมที่พระที่นั่งดุสิตฯ ทุกราตรี แต่ทราบกันบ้างหรือไม่ว่าพอพระสวดจบ เสด็จลงมาประทับที่พระที่นั่งราชกรัณยสภาใกล้ๆกัน พระราชทานคำแนะนำการแก้ปัญหาจราจรแทบทุกคืน
           
          ปี 2553 อยู่ระหว่างประชวรประทับในโรงพยาบาล พระราชกรณียกิจอื่นภายนอกโรงพยาบาลทรงงดเสียเกือบสิ้น แต่การเสด็จไปเปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ ทอดพระเนตรโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมและเปิดสะพานระบายการจราจรเพื่อพสกนิกรของ พระองค์ เป็นเรื่องที่ทรงถือเป็นกิจสำคัญ
 
          พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเป็นยอดแห่งผู้อดทน    อดกลั้น ในการประกอบพระราชกรณียกิจนั้นย่อมมีทั้งร้อนทั้งหนาวยาวนานและน่าเหนื่อย หนัก ดูเอาจากการพระราชทานปริญญาบัตรเถิด  แม้แต่ที่ต้องทรงอดกลั้นด้วยขันติบารมี  ในคำจ้วงจาบ หรือระคายเคืองเบื้องพระ ยุคลบาทอีกไม่รู้เท่าไร  อย่าลืมว่า พระชนมพรรษา 83 แล้ว ทรงงานมา 64 ปีแล้ว
 
          ดะไลลามะเคยพูดว่า “ ใครอย่ามาชมตัวท่านเลยว่าเป็นยอดคน ไปดูที่พระเจ้าแผ่นดินเมืองไทยเถิด ”
           
          ผมเคยไปเฝ้าฯ เจ้าชายจิกมี กษัตริย์หนุ่มแห่งภูฎาน ตรัสว่า “ กษัตริย์ของท่านเป็นแบบอย่างของข้าพเจ้าในการจะครองราชย์ให้คนรัก ”
 
          สุลต่านบรูไนที่ เป็นผู้แทนกษัตริย์    25    ประเทศ ถวายพระพรในคราวฉลองการครองราชย์สมบัติครบ 60 ปี เมื่อ พ.ศ. 2549   เคยทูลว่า การครองราชย์นานถึง 60 ปีเป็นเพียงตัวเลข สำคัญอยู่ที่ว่า 60 ปีนั้นได้ทำอะไร
          “ เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ฝ่าพระบาททรงทำทุกอย่างตลอด 60 ปี ให้เป็นประโยชน์ต่อชาวไทย ชาวเอเซีย และชาวโลก วาระนี้จึงทรงเป็นความภาคภูมิใจของบรรดาพระราชามหากษัตริย์ทั้งปวงโดยทั่วกัน ”

 
         เมื่อวันเฉลิมพระชนมพรรษาปี 2552 มีพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า “ ความสุขความสวัสดีของ พระองค์จะมีได้ก็ด้วยการที่บ้านเมืองมีความเรียบร้อย ”
 
         พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระองค์นี้มีแต่ทรงให้พวกเรามาตลอด แต่พระราชดำรัสนี้มีนัย เป็นทั้งสิ่งที่ “ ทรงหวัง ”   “ ทรงบอกให้รู้ ” และ ” ทรงขอ ”   ซึ่งน่าจะทรงประสงค์ยิ่งกว่าคำถวายพระพร  “ ทรงพระเจริญ ”
 
         ไหนว่า "ธ ประสงค์ใด จงสฤษดิ์ดังหวังวรหฤทัย " แล้วเรื่องอย่างนี้เราคนไทยจะพร้อมใจกันจัดถวายได้ไหมครับ
   

      บันทึกการเข้า
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
*****


ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927

« ตอบ #53 เมื่อ: 15 พฤศจิกายน 2554, 15:02:45 »










ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
      บันทึกการเข้า

“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้
อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #54 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2554, 21:51:33 »


ตามรอยพระราชา
 

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=uEboKM8_1yY" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=uEboKM8_1yY</a>


ทำไมพระราชาเดินไปในป่าเขา ?

ทำไมพระราชาถึงมีเหงื่อไหล ?

ทำไมพระราชาถือแผนที่เอาไว้ ?

เพราะอะไรพระราชาถึงต้องทำแบบนี้­้ ?

เพราะอะไรพระราชาถึงต้องเดินลุย­น้ำ ?

ทำไม ทุกๆ บ้านจึงมีรูปท่านติดไว้ ?

ทำไมพระราชาถึงไม่หยุดพัก ?

หนูอยากจะเป็นเด็กดีของพระราชา



บทเพลงเฉลิมพระเกียรติ " ตามรอยพระราชา "
 
ขับร้องโดย  เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ และคณะประสานเสียงเด็กๆ
คำร้องโดย  ชนะ เสวิกุล, นิติพงษ์ ห่อนาค ทำนองโดย ชนะ เสวิกุล, อภิไชย เย็นพูนสุข
เรียบเรียงโดย  นันทพงศ์ ทศพร
กำกับมิวสิควิดีโอโดย  ประพัฒน์ คูศิริวาณิชกร



      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #55 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2554, 22:48:03 »

พี่เจี๊ยบคะ,
พี่คนไทยส่งเรื่องนี้ไปให้หนิงอ่าน
เธออ่านมาจากface book
ขอนำมาลงที่นี่คะ



เรื่องของ “ยายซุบ” กับ “ในหลวง”



ยายซุบ สามร้อยยอด เป็นหญิงชาวบ้านวัย 70 แห่งบ้านคุ้งโตนด อำเภอกุยบุรี จังหวัด
ประจวบคีรีขันธ์ ยากจนมาตังแต่ยังสาวจวบจนวันนี้ หากแต่เธอกลับยืนยันว่า
เธอมีอดีตที่มีความหมายต่อชีวิตของแก อดีตที่หมายถึงชีวิตใหม่ ไม่ว่าแกจะยังจน
ต้องขอเงินลูก ๆ 9 คนใช้ดังเช่นทุกวันนี้หรือจะมั่งมีศรีสุข ถูกหวยรวยเบอร์อย่างไรก็ตาม
แกไม่เคยลืมเหตุการณ์ครั้งนั้น



เหตุการณ์ที่ล่วงเลยมานานกว่า 40 ปี การเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฏรบ้านคุ้งโตนด
อำเภอกุยบุรี ไม่เพียงทำให้หมู่บ้านที่ยากจน ล้าหลัง ไม่มีแม้ถนนที่จะติดต่อกับโลกภายนอก
ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น หากแต่การเสด็จพระราชดำเนินในครานั้นได้
ทำให้หญิงคนหนึ่งมีชีวิตยืนยาวต่อมาจนถึงวันนี้



สมัยยังสาวยายเคยไปรับเสด็จในหลวงใช่ไหม ?

ยาย - ใช่ ตอนนั้นไปรับเสด็จที่ตีนถ้ำไทรในหมู่บ้านเรานี่แหละ ท่านเสด็จฯ มาทางเหนือ
ไอ้เราป่วยเป็นไส้ติ่ง ปวดท้องมาครึ่งเดือนแล้ว แต่ไม่รู้หรอกนะตอนนั้นว่าเป็นไส้ติ่ง
ปวดท้องนอนซม คนในบ้านบอกในหลวงจะมา เราก็อยากเห็น อยากไปรับเสด็จ แต่ปวดท้องจนเดินไม่ไหว



เดินไม่ไหว แล้วไปยังไง ?

ยาย-ก็ให้คนหามไป ใส่เกวียนไปเลย



ทำไมถึงเลือกไปเฝ้าในหลวง ไม่ไปหาหมอ ?

ยาย-ไม่รู้สิ คืออยากเห็นตัวจริง ๆ ใกล้ ๆ นะ คิดในใจว่ายอมตายได้
แต่ขอไปรับเสด็จก่อน แลกตัวแลกชีวิตกันเลย พูดง่าย ๆ ว่าวัดดวงเอาเลย
อีกอย่างตอนนั้นถ้าเราไปหาหมอก็ลำบาก เพราะน้ำแห้ง เรือเครื่องก็ไม่มี
ถ้าไปก็คงไปไม่ถึง มันคงจะตายก่อน



แล้วตอนนั้นได้ถวายอะไรท่านบ้างไหม ?

ยาย-ยกมือพนมยังจะไม่ไหวเลย จะให้ถวายอะไรอีก (หัวเราะเสียงดัง)



แล้วได้เห็นท่านไหม ?

ยาย-ก็ได้เห็นท่านอยู่ แต่ก็เห็นห่าง ๆ แล้วก็เห็นไม่นานเพราะว่าพระองค์ท่านต้องเสด็จฯ
ไปที่ตีนเขาอีกลูกคนละฟาก ทรงไปดูเรื่องที่จะระเบิดเขาทำทางเข้าออกหมู่บ้าน



ไส้ติ่งเรากำลังจะแตก แล้วรอดมาได้อย่างไร เกิดอะไรขึ้น ?

ยาย-ตอนนั้นไส้ติ่งกำลังจะแตก เงินสักบาทก็ไม่มีติดตัว พอดีว่าพระราชินีท่านทรงเยี่ยมเยียนราษฏร
 แล้วทอดพระเนตรเห็นเรานั่งหน้าซีด พิงเพื่อน คือได้ตอนนั้นมันไม่ไหวจริง ๆ
ท่านทอดพระเนตรเห็นก็คงสังเกตได้ว่าอาการเราไม่ดี พระองค์ก็ถามว่า
 เป็นอะไร? ท่านบอกให้พูดธรรมดาก็ได้ เราบอกว่าเจ็บท้อง พระองค์ท่านตรัสถามต่อว่า
เจ็บมากี่วันแล้ว? เราก็บอกว่า เจ็บมาครึ่งเดือนเห็นจะได้ ท่านก็เลยบอกให้หมอที่มาด้วยตรวจดู



แล้วหมอว่ายังไง ?

ยาย-หมอบอกว่าไส้ติ่งกำลังจะแตก พอหมอบอกอยางนั้น พระองค์ท่านก็ทรงติดต่อไป
ที่ในหลวงซึ่งทรงอยู่ที่ตีนเขาอีกลูก



รู้ได้ยังไงว่าสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงติดต่อไปที่ในหลวง ?

ยาย-รู้สิ เพราะเห็นในหลวง พระองค์ท่านทรงวิ่งจากตีนเขาลูกโน้นมาเลย ห่างกันถึง 1 กิโล



รู้สึกอย่างไรบ้างในตอนนั้น ?

ยาย-ดีใจแล้วก็ปลื้มใจแบบมาก ๆ ไอ้ตอนแรกคิดว่ากำลังจะตายนี่ คิดว่าตัวเองรอดแน่
 มันมีกำลังใจ คิดว่าขนาดพระเจ้าแผ่นดินยังเอาใจใส่เราขนาดนี้ เราจะตายไม่ได้



พอในหลวงเสด็จมาถึง ทรงตรัสว่าอย่างไรหรือไม่ ?

ยาย-ท่านให้เอา ฮ. มารับ ท่านตรัสว่า เดี๋ยวเราจะกลับทางเรือเอง ให้เอาคนไข้ไปส่งก่อน
พอพระองค์ท่านตรัส หมอสองคนก็หิ้วปีกเราไป ในหลวงท่านทรงเมตตาเราไปจนถึงเครื่อง
พอเราขึ้นไป ก่อนที่ประตู ฮ. จะปิด เราก็มองลงมาเห็นในหลวง ท่านทรงโบกพระหัตถ์
เราซาบซึ้งมาก ยิ่งบอกตัวของเราเลยว่าเราจะตายไม่ได้



ถ้าไม่มีในหลวงในวันนั้น ก็ต้องตายแน่ ?

ยาย-แน่นอน ไม่ต้องอะไรหรอก หมอบอกว่า มาช้ากว่านี้แค่ 2-3 นาที ก็ไม่รอดแล้ว
แล้ววันนั้นอย่างที่บอกว่าเรือเครื่องก็ไม่มี น้ำก็แห้ง ไม่รู้ใช้เวลาครึ่งวันจะเดินทาง
ไปถึงโรงพยาบาลหรือเปล่า ถ้าในหลวงไม่เสด็จมาที่นี่ วันนั้นก็ตายแน่ ตายทั้ง ๆ
ที่ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นอะไรตาย



เหมือนกับได้ชีวิตใหม่ ?

ยาย-ใช่ ชีวิตทุกวันนี้ถึงฉันแก่แล้ว แต่เมื่อนึกถึงวันนั้นทีไรรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ทุกที
ตอนนั่งดูโทรทัศน์ เวลาเห็นท่าน เราก็จะพนมมือไหว้ตลอด รู้สึกว่าท่านได้มอบชีวิตใหม่ให้กับเรา



ตอนนั้นอยู่บน ฮ. เป็นอย่างไรบ้าง ?

ยาย-จำไม่ค่อยได้ รู้แต่ว่าพอบินขึ้นไปพักใหญ่หมอก็ถามว่าเป็นยังไงบ้าง เราพูดไม่ค่อยไหว
 แต่ก็บอกไปว่าปวดท้อง บน ฮ. นอกจากเรา ก็มีหมออีก 2 คน แล้วก็คนขับอีก 2 คน จำได้แค่นี้ล่ะ



ฮ. พาไปที่โรงพยาบาลไหน ?

ยาย-โรงพยาบาลพระมงกุฏฯ เพชรบุรี



แล้วพักอยู่กี่วัน ?

ยาย-ปกติคนเป็นไส้ติ่งทั่วไปเขาพักกัน 3-4 วันก็ออกได้แล้ว แต่เราเป็นหนักต้องพักถึง 24 วัน
ถ้าในหลวงไม่ช่วยก็ตายแน่ แล้วถ้าเราตาย ลูกเต้าก็ไม่รู้จะอยู่ยังไง ในหลวงท่านทรงเมตตา
ทรงดูแลเราอย่างดี ห้องที่เราพักอยู่นี่ดีมาก เป็นห้องพิเศษเลย พูดตรง ๆ ว่าดีกว่าบ้านที่ฉันอยู่อีก
หมอก็นิสัยดี พูดจากับเราเพราะแล้วก็ใจดี



”ในหลวงท่านทรงห่วงใยเรามากมีคนมาเยี่ยม ถามอาการ ถามสารทุกข์สุขดิบทุกวัน
คนใกล้ชิดพระองค์ท่านก็ถามเรานะว่า จะฝากอะไรถึงท่านไหม เราบอกให้ พระองค์ทรงพระเจริญ
ทรงพระเจริญ พูดได้แค่นั้น มันตื้นตันจนนึกไม่ออก”



หลังจากวันนั้นแล้วเป็นอย่างไร ?

ยาย-ไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ พระองค์ท่านอีกเลย ถ้าเรามีโอกาส จะขอเข้าไปกราบแทบพระบาทเลย
สิ่งที่พระองค์ท่านทรงช่วยเหลือเราไว้ เป็นความซาบซึ้งที่สุดในชีวิตแล้ว

”คิดดูสิโลกนี้จะหากษัตริย์อย่างท่านได้ที่ไหน เราเป็นแค่ชาวบ้านจน ๆ แต่ท่านห่วงเราเหมือนเรา
เป็นลูกพระองค์ท่าน ทรงห่วงเราเหมือนที่เราห่วงลูก ท่านทรงเสียสละแม้กระทั่งของส่วนพระองค์
ทรงยอมลำบากกลับทางเรือเพื่อคนอย่างเรา พูดตรง ๆ ว่าสิ่งที่พระองค์ทรงทำให้ฉันตายแล้ว
เกิดใหม่อีกสิบชาติก็ทดแทนไม่หมด”





กลับมาบ้านแล้ว เป็นอย่างไร ?

ยาย-ตอนที่ออกจากโรงพยาบาลใหม่ ๆ พระองค์ท่านก็ส่งเงินมาให้อยู่ถึง 1 ปี ครั้งละ 3-5 พันบาท
ส่งมาหลายครั้งอยู่ เรารู้เพระว่าใส่ซองสีขาวประทับตราสำนักพระราชวัง
จากเหตุการณ์นั้นทำให้เรารักในหลวงของเรามาก

แล้วทุกวันนี้ก็ยังน้อยใจตัวเองอยู่ว่า เวลาที่ท่านป่วย เราก็ไม่มีเงินไปเฝ้า
ไปแสดงความจงรักภักดีกับท่าน ได้แต่ร้องไห้อยู่กับบ้าน นั่งร้องไห้ทุกวัน
ดูข่าวทุกวันไม่เคยเว้นเลย ……ฉันอายตัวเองว่า ในขณะที่ท่านให้ชีวิตใหม่กับเรา
แต่เราช่วยอะไรท่านไม่ได้เลย”





การเสียสละของในหลวงคราวนั้น ได้เอามาปฏิบัติตามหรือไม่ ?

ยาย-มีส่วนมากเลย เวลาคนในหมู่บ้านเขาป่วยเป็นอะไร ฉันก็ไปเยี่ยมเขาทั่ว
ไปไหนไปกัน มีใครเจ็บในหมู่บ้านนี่ฉันจะไปเยี่ยมหมด บางทีถึงไม่ใช่หมอ
ไม่ใช่ญาติเขา แต่เราก็ไป ไปนั่งพูดคุยให้กำลังใจ บางทีก็ไปบีบให้นวดให้
นี่คือสิ่งที่ในหลวงให้เรา และเราให้คนอื่นต่อ



เรื่องจาก อ ยอดเยี่ยม เทพธารานนย์


Quelle: http://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=187495984674959&id=181318038626087
      บันทึกการเข้า


Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #56 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2554, 22:57:46 »


ขอบคุณจ้า NN ... เรื่องนี้น่าจะเผยแพร่กันนานมาแล้ว  เมื่อ 2 ปีก่อน พี่เจี๊ยบก็ได้จากที่เพื่อนส่งมาให้ เลยนำมาลงไว้เป็นความเห็นแรก ของกระทู้นี้ ... ตรงนี้ค่ะ

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,1906.0.html

      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #57 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2554, 23:05:37 »

พี่เจี๊ยบคะ,
พี่เธอยังช่างหาอะไรมาให้หนิง!

เธอบรรยายว่าในหลวงทรงวิทยุ
ในชื่อVR 009กับศูนย์วิทยุ..
สายลม 73249เมื่อพ.ศ 2528

"คลิปเสียงที่ในหลวงทรงติดต่อสนทนากับศูนย์ควบคุมค่ายวิทยุสายลม
โดยทรงใช้สัญญาณเรียกขาน VR009 ในสมัยนั้น ซึ้งในช่วงนั้นเป็นช่วงปี พ.ศ.2528
ซึ่งในกรุงเทพฯ ได้เกิดน้ำท่วม และทรงได้แนะนำในเรื่องการใช้วิทยุสื่อสาร
ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการแก้ปั­ญหาน้ำท่วมในครั้งนั้น และทรงใช้คำพูด
ในการสนทนาแบบเรียบง่ายเป็นกันเองในการติดต่อกับศูนย์วิทยุสายลม
ซึ่งผมฟังดูแล้วรู้สึกประทับใจมากครับ และปลาบปลื้มอย่างยิ่งครับผม"



ฟังภาษาที่ใช้คะ
ธรรมดามาก.



<a href="http://www.youtube.com/v/0QdpcoS19rI?version=3&amp;amp;hl=en_GB" target="_blank">http://www.youtube.com/v/0QdpcoS19rI?version=3&amp;amp;hl=en_GB</a>
http://youtu.be/0QdpcoS19rI
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #58 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2554, 23:06:52 »

อ้างถึง
ข้อความของ Jiab16 เมื่อ 26 ธันวาคม 2554, 22:57:46

ขอบคุณจ้า NN ... เรื่องนี้น่าจะเผยแพร่กันนานมาแล้ว  เมื่อ 2 ปีก่อน พี่เจี๊ยบก็ได้จากที่เพื่อนส่งมาให้ เลยนำมาลงไว้เป็นความเห็นแรก ของกระทู้นี้ ... ตรงนี้ค่ะ

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,1906.0.html




ถึงว่าคะ!
ว่าคุ้นๆ
คงอ่านมาจากที่นี่แหละคะ
      บันทึกการเข้า


Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #59 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2554, 23:32:20 »


หนิงว่า ในชั่วโมงที่ชายหนุ่มคนนี้สนทนาทางวิทยุ กับพระเจ้าอยู่หัว  เค้าจะรู้มั้ยว่า VR009 คือพระองค์ท่าน ?

ถ้ารู้  ก็คงจะประหม่า  เสียงสั่น  จนถึงขั้น ' ลมจับ '

จะว่า ไม่รู้  ก็ใช่ที่นะ  ดูเค้าพูดจาสุภาพมาก ก ก ก ...  อาจจะพยายามทำให้เนียนๆ เพื่อไม่ให้ผู้อื่นที่ฟังอยู่ด้วยพลอย ' ลมจับ ' กันไปหมด

ด้วยเกล้าฯ ขอเดชะ ...

ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน ...
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #60 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2554, 17:34:30 »

พี่เจี๊ยบคะ,
ก็พยายามจับอยู่ค่ะ คิดว่าคุณสายลม73249ไม่รู้นะพี่!
เพราะม่ายงั้นอาจหลุดคำราชาศัพย์ผิดๆถูกๆ
ลิ้นรัว เสียงสั่นออกมาแน่ๆ ฟังยังไงก็เรียบๆภาษาพวก
รับ-ส่งวิทยุคะ...หนิงเดาว่าtoneเสียงนี้พูดไว้บันทึกไว้
ตั้งแต่ปีพศ. 2528 แต่นำมาโหลดเข้ายูทูบเร็วๆนี่เอง(2010-2553)
คุณที่ดาวน์โหลดก็คนละคนกะเจ้าตัวไช่มั้ยพี่?
msworapat?
      บันทึกการเข้า


Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #61 เมื่อ: 05 มีนาคม 2555, 13:08:22 »


ภาพที่คนไทยควรช่วยกันแชร์

เสรษฐวิทย์ - นิเทศ 16 ... ส่งมา




คนส่งเมลนี้มาให้จากอเมริกาค่ะ ... " คนชาติอื่นเค้ายังรู้เลย "

Cynthia Aiemsaard's Photos

By Cynthia Aiemsaard
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #62 เมื่อ: 14 พฤษภาคม 2555, 15:00:26 »

พี่เจี๊ยบคะ,
เมื่อวานได้รับฟิล์มนี้มากว่าจะได้ชมก็ดึกโข
คิดว่าแบ่งๆกันชมที่นี่ คงเข้ากันดีคะ.

เป็นฟิล์มที่บางตอนหนิงเคยชมในทีวีที่โน่น
พี่คนไทยที่ส่งไปให้บอกว่าเพิ่งแปะสดๆในytube
เมื่อไม่กี่วันคะ ยาวพอสมควร น่าดูอย่างยิ่งค่ะ
จาก BBC


Part I
http://youtu.be/x-69TxgO6hc

<a href="http://www.youtube.com/v/x-69TxgO6hc?version=3&amp;amp;hl=de_DE" target="_blank">http://www.youtube.com/v/x-69TxgO6hc?version=3&amp;amp;hl=de_DE</a>
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #63 เมื่อ: 14 พฤษภาคม 2555, 15:01:48 »

Part II
http://youtu.be/yuEbc_8cXjY


<a href="http://www.youtube.com/v/yuEbc_8cXjY?version=3&amp;amp;hl=de_DE" target="_blank">http://www.youtube.com/v/yuEbc_8cXjY?version=3&amp;amp;hl=de_DE</a>
      บันทึกการเข้า


vision
Newbie
*

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3

« ตอบ #64 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2555, 09:45:03 »

ครับ อ่านแล้วสนุก  ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ
      บันทึกการเข้า

sbosbobet|sbobetsbo|sbobetsbobet| 7m7m|ibcibcbet
  หน้า: 1 2 [3]  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><