Jiab16
|
|
« ตอบ #50 เมื่อ: 13 เมษายน 2554, 12:36:41 » |
|
สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ สมาชิกชาวเวป cmadong.com ทุกท่าน
|
|
|
|
ti2521
|
|
« ตอบ #51 เมื่อ: 09 มิถุนายน 2554, 12:08:25 » |
|
.....วันมหามงคล ครบรอบ ๖๕ ปี ครองสิริราชสมบัติของในหลวง.....
๙ มิย ๒๔๘๙ ถึง ๙ มิย ๒๕๕๔
ขอพระองค์ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
|
เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ สำหรับผม อย่างไรก็ได้
|
|
|
Jiab16
|
|
« ตอบ #52 เมื่อ: 14 พฤศจิกายน 2554, 11:20:26 » |
|
King of the Kings
( บทความ โดย ดร.วิษณุ เครืองาม )
เสรษฐวิทย์-นิเทศ 16 ... ส่งมา ในฐานะที่ทำงานอยู่ในทำเนียบรัฐบาลโดยหน้าที่ต่างๆ กันถึง 15 ปี ผมขอยืนยันว่า พระองค์ทรงมีมาตรฐานเดียวโดยตลอด จะต่างกันก็ที่โอกาส เช่น คณะรัฐมนตรีบางคณะเข้ามาในช่วงที่ทรงพระประชวร บางคณะมีราชการงานเมืองต้องเข้าเฝ้าฯ ขอ พระราชทานมหากรุณาบ่อยหรือห่างตามเหตุการณ์ ในการมีพระราชดำริ พระราชดำรัส และการทรงงานใดๆ ไม่มีเลยสักเรื่องที่จะแสดงว่าทรงรับเอาประโยชน์ส่วนพระองค์ แม้พสกนิกรจะเต็มใจถวาย สมัย จอมพลถนอมเป็นนายกฯ คราวหนึ่งประจวบโอกาสครองราชย์ครอบ 25 ปี ( พ.ศ. 2514 ) รัฐบาลจะสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์และถาวรวัตถุใหญ่โต “ ที่สุดในประเทศ ” ถวาย รับสั่งว่า “ สิ้นเปลืองและไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน สร้างถนนกันรถติดดีกว่า ” นี่คือที่มาของ “ ถนนรัชดาภิเษก ” สมัยคุณ บรรหารเป็นนายกฯ เคยกราบบังคมทูลว่า จะสร้างทาวเวอร์ หรือหอคอยสูงใหญ่ข้างสะพานพระราม 9 ใช้เป็นหอดูวิว หอโทรคมนาคม และเฉลิมพระเกียรติ รับสั่งว่า “ เทคโนโลยีสมัยนี้ไม่ต้องสร้างหอโทรคมนาคม และเปลืองเงินเปล่าๆ ” นายกฯ คนหนึ่งเคยกราบบังคมทูลถามว่า ที่พระอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรฯ หน้าทำเนียบรัฐบาลนั้น ตอนพลบค่ำคนมักมาจุดประทัดแก้บน บางทีก็ยิง ปืนสนั่นหวั่นไหว ดังรบกวนมาถึงสวนจิตรฯ หรือไม่ รับสั่งว่า “ อยู่ที่หลักการว่าทำอย่างนั้นผิดกฎหมายไหม ถ้าผิดก็ต้องห้าม แต่ถ้าเป็นเสรีภาพก็ต้องปล่อยไป รำคาญหนวกหูก็ต้องทน อย่าใช้มาตรฐานสวนจิตรฯ หรือทำเนียบรัฐบาลมาตัดสิน ” สมัยนายกฯ ทักษิณ เคยกราบบังคมทูลว่า " เมื่อประทับรักษาพระองค์ที่วังไกลกังวลอย่างนี้ รัฐบาลจะขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สำนักพระราชวังปรับปรุงวังไกลกังวล ให้สะดวกสบายสมกับที่จะใช้เป็นที่ประทับยาวนาน รวมทั้งจะปรับปรุงโรงพยาบาลหัวหินให้ทันสมัยพร้อมทุกประการ " รับสั่งว่า " การปรับปรุงโรงพยาบาลเป็นประโยชน์แก่ทุกคนถ้ามีงบก็ควรทำ แต่การปรับปรุงวังไกลกังวลเป็นเรื่องพระสำราญ “ แค่นี้ก็พออยู่พอเพียงแล้ว ” รัฐบาลหลายคณะ เคยออกกฎหมายที่มุ่งจะเฉลิมพระเกียรติเช่นมีคำว่า “ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ” มีพระราชกระแสให้รัฐบาลนำกลับไปปรับปรุงเพราะ “ ไม่อาจทรงสถาปนาพระองค์เองได้ ” เช่นเดียวกับที่ใน พ.ศ. 2512 ไม่ทรงลงพระปรมาภิไธย ในร่างพระราชบัญญัติยศทหารซึ่งถวายพระยศ ทางทหารเป็น จอมพล จนร่างพระราชบัญญัตินั้นตกไปเองในที่สุด รัชกาล นี้ทรงลงพระปรมาภิไธยตรากฎหมายมาแล้ว ทั้งที่เป็นพระราชบัญญัติ พระราชกำหนด พระราชกฤษฎีกานับหมื่นฉบับ ทรงวินิจฉัยฎีกานักโทษ ฎีการ้องทุกข์ขอพระราชทานความเป็นธรรมอีกหลายพันราย บางรายขอพระราชทานยืมเงิน บางรายขอความเป็นธรรมเรื่องแต่งตั้งโยกย้าย ราย หนึ่งพ่อตาย ลูกชายบวชหน้าไฟให้พ่อ อยู่มาก็ไม่ยอมสึก แม่มีลูกชายคนเดียวทำหนังสือถวายฎีกาว่าเดือดร้อนหนัก ขอพระมหากรุณาให้ลูกสึกมาช่วยเลี้ยงแม่เถิด โปรดให้ตรวจสอบแล้วมีพระราชกระแสว่า แท้จริงแม่ไม่ได้อยากให้ลูกสึก แต่ปัญหาคือแม่ลำบากยากจน จึงโปรดให้กรมประชาสงเคราะห์เข้าไปช่วยดูแล สอนอาชีพให้และหาเครื่องมือทำมาหากินไปให้แม่ ลงท้ายแม่ก็ทำมาหากินได้ ส่วนลูกก็อยู่ไปจนเป็นสมภาร พระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวฯ ทรงสงเคราะห์ทั้งส่วนรวมและพระองค์เองเพื่อจะได้มีพระอนามัยดี ทรงงานเพื่อส่วนรวมต่อไป จึงทรงดนตรี ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือ ทรงเล่นคอมพิวเตอร์ ทรงฉายภาพ ทรงกีฬา ทรงวาดรูป ปั้นรูป ทรงงานไม้งานช่าง จะทรงจับงานด้านใดก็ทรงทำได้ดี ที่คนไม่ใคร่ทราบคือ ทรงสนพระราชหฤทัยเป็นพิเศษในเรื่องภาษาไทย การศึกษา ระบบสิ่งแวดล้อม การสาธารณสุข และพุทธศาสนา ส่วนที่ทรงพระปรีชาทางดิน น้ำ ระบบระบายน้ำ และการแก้ปัญหาจราจรนั้นเป็นที่ทราบทั่วไปอยู่แล้ว เมื่อครั้งยังเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ผมเคยได้รับพระมหากรุณาพระราชทานคำแนะนำเรื่องการใช้ถ้อยคำภาษาไทยหลายหน ครั้งหนึ่งได้ถวาย “ รายชื่อ ” บุคคลให้ทรงแต่งตั้ง รับสั่งถามว่า ตั้งกี่คน ผมกราบบังคมทูลว่าคนเดียว ตรัสว่าคนเดียวเรียกว่า “ ชื่อ ” ถ้า “ ราย ชื่อ ” ต้องหลายคน อีกคราวหนึ่ง มีหนังสือกราบบังคมทูลว่า “ ทูลเกล้าทูลกระหม่อมมาเพื่อทรงพิจารณา ” ทรงพระสรวลตรัสว่า “ ถ้าทูลเกล้าทูลกระหม่อมก็อยู่บน กระหม่อมยังไม่ถึงฉัน ถ้าจะให้ถึงฉัน ต้องทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายมาเพื่อทรงพิจารณา ” ในทางพระพุทธศาสนาก็ปรากฎว่าทรงรอบรู้ทั้งในทางปฎิบัติและปริยัติ ทรงรู้จักพระเป็นอันมาก เมื่อตรัสถึงเหตุการณ์ครั้งใดจะทรงย้อนไปถึงเรื่องราวครั้งเก่าก่อน เช่น “ ครั้งสมเด็จพระสังฆราชยังเป็นพระญาณวราภรณ์ ” “ ครั้นเจ้าคุณประยุทธยังเป็นพระราชวรมุนี ” และเคยตรัสเล่าเรื่องราวความเป็นอัคร ศาสนูปถัมภก ว่า ต้องทรงอุปถัมภ์ และคุ้มครองทุกศาสนา โดยไม่เลือกปฎิบัติ ทรงเล่าพระราชทานว่า ครั้งหนึ่งควีนจากประเทศหนึ่งทูลถามว่า พุทธศาสนาไม่มีพระเจ้าแล้วชาวพุทธนับถืออะไรกัน เหตุใดไม่ยกพระพุทธเจ้าเป็น god เสียเลย ได้ทรงตอบว่า พุทธศาสนานับถือ “ ธรรม ” เรานับถือธรรมยิ่งกว่าพระพุทธเจ้าเสียอีก เพราะธรรมเป็นเครื่องคุ้มครองโลก และได้ตรัสเล่าต่อไปว่า แม้ศาสนาอื่นก็ยังต้องทรงอุปถัมภ์ ฉะนั้นในฝ่ายพุทธศาสนาขอให้ทุกคนวางใจเถิดว่า จะเป็น เถรวาท มหายาน รามัญนิกาย มหานิกาย ธรรมยุต ก็ต้องทรงคุ้มครองและพระราชทานความเป็นธรรมเสมอกัน รัชกาลที่ 5 นั้น อะไรที่ไม่เคยมีและไม่มีคนไทยคนใดนึกว่าชีวิตนี้จะมี แต่ก็ทรงบันดาลหรือวางรากฐานให้มีขึ้นเป็นขึ้นทั่วถ้วน เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล รถไฟ ไปรษณีย์ เลิกทาส จนคนรุ่นก่อนหน้านั้นต้องคิดว่าเหลือเชื่อ แต่ รัชกาลที่ 9 นั้น อะไรที่ควรจะมี ควรจะคิดออก ควรจะทำเป็นนานแล้ว แต่ผู้มีอำนาจหน้าที่ไม่ใคร่คิดไม่ใคร่ทำ ก็ทรงบันดาลหรือวางรากฐานให้มีให้เป็นขึ้น เช่น เขื่อน ฝาย ประตูระบายน้ำ ถนน สะพาน การสงเคราะห์คนเป็นโรคเรื้อน คนประสบภัยธรรมชาติ การแก้ปัญหาจราจร การเพิ่มผลผลิตการเกษตร การแก้ปัญหาความยากจน ปัญหาพลังงาน สมัยผมเป็นเลขาธิการ ครม. ต้องทูลเกล้าฯถวายเอกสารใส่ซองขนาดใหญ่สีขาว เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย รับสั่งต่อไป หน้าซองไม่ต้องเขียนเลขที่หนังสือ จะได้หมุนเวียนกลับลงมาใช้หลายหน ไม่ต้องทิ้ง แม้แต่เรืองเล็กๆ ก็ควรประหยัด เวลาร่างกฎหมายโปรดให้ถวายปะหน้า 2 แผ่น เผื่อว่าทรงลงพระปรมาภิไธยแล้วหมึกซึมเลอะ จะได้ประหยัดเวลาไม่ต้องรอถวายใหม่ เวลาตั้งรัฐมนตรีใหม่จะต้องเข้า เฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฎิญาณ จะตรัสว่าให้รีบมาจะได้รีบไปทำงานไม่ต้องห่วงว่าติดเสาร์อาทิตย์ ประเทศไทยพระเจ้าแผ่นดินไม่มีวันหยุดราชการ พระมหากรุณาธิคุณปานนี้ จะหาได้จากที่ไหนอีก เจ้าประคุณเอ๋ย ! ปี 2538 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีสวรรคต ลองคิดดูว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะทรงวิปโยคขนาดไหน เสด็จไปทรงสดับพระพิธีธรรมที่พระที่นั่งดุสิตฯ ทุกราตรี แต่ทราบกันบ้างหรือไม่ว่าพอพระสวดจบ เสด็จลงมาประทับที่พระที่นั่งราชกรัณยสภาใกล้ๆกัน พระราชทานคำแนะนำการแก้ปัญหาจราจรแทบทุกคืน ปี 2553 อยู่ระหว่างประชวรประทับในโรงพยาบาล พระราชกรณียกิจอื่นภายนอกโรงพยาบาลทรงงดเสียเกือบสิ้น แต่การเสด็จไปเปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ ทอดพระเนตรโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมและเปิดสะพานระบายการจราจรเพื่อพสกนิกรของ พระองค์ เป็นเรื่องที่ทรงถือเป็นกิจสำคัญ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเป็นยอดแห่งผู้อดทน อดกลั้น ในการประกอบพระราชกรณียกิจนั้นย่อมมีทั้งร้อนทั้งหนาวยาวนานและน่าเหนื่อย หนัก ดูเอาจากการพระราชทานปริญญาบัตรเถิด แม้แต่ที่ต้องทรงอดกลั้นด้วยขันติบารมี ในคำจ้วงจาบ หรือระคายเคืองเบื้องพระ ยุคลบาทอีกไม่รู้เท่าไร อย่าลืมว่า พระชนมพรรษา 83 แล้ว ทรงงานมา 64 ปีแล้ว ดะไลลามะเคยพูดว่า “ ใครอย่ามาชมตัวท่านเลยว่าเป็นยอดคน ไปดูที่พระเจ้าแผ่นดินเมืองไทยเถิด ” ผมเคยไปเฝ้าฯ เจ้าชายจิกมี กษัตริย์หนุ่มแห่งภูฎาน ตรัสว่า “ กษัตริย์ของท่านเป็นแบบอย่างของข้าพเจ้าในการจะครองราชย์ให้คนรัก ” สุลต่านบรูไนที่ เป็นผู้แทนกษัตริย์ 25 ประเทศ ถวายพระพรในคราวฉลองการครองราชย์สมบัติครบ 60 ปี เมื่อ พ.ศ. 2549 เคยทูลว่า การครองราชย์นานถึง 60 ปีเป็นเพียงตัวเลข สำคัญอยู่ที่ว่า 60 ปีนั้นได้ทำอะไร “ เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ฝ่าพระบาททรงทำทุกอย่างตลอด 60 ปี ให้เป็นประโยชน์ต่อชาวไทย ชาวเอเซีย และชาวโลก วาระนี้จึงทรงเป็นความภาคภูมิใจของบรรดาพระราชามหากษัตริย์ทั้งปวงโดยทั่วกัน ” เมื่อวันเฉลิมพระชนมพรรษาปี 2552 มีพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า “ ความสุขความสวัสดีของ พระองค์จะมีได้ก็ด้วยการที่บ้านเมืองมีความเรียบร้อย ” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระองค์นี้มีแต่ทรงให้พวกเรามาตลอด แต่พระราชดำรัสนี้มีนัย เป็นทั้งสิ่งที่ “ ทรงหวัง ” “ ทรงบอกให้รู้ ” และ ” ทรงขอ ” ซึ่งน่าจะทรงประสงค์ยิ่งกว่าคำถวายพระพร “ ทรงพระเจริญ ” ไหนว่า "ธ ประสงค์ใด จงสฤษดิ์ดังหวังวรหฤทัย " แล้วเรื่องอย่างนี้เราคนไทยจะพร้อมใจกันจัดถวายได้ไหมครับ
|
|
|
|
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์
คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927
|
|
« ตอบ #53 เมื่อ: 15 พฤศจิกายน 2554, 15:02:45 » |
|
|
“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้ อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
|
|
|
Jiab16
|
|
« ตอบ #54 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2554, 21:51:33 » |
|
ตามรอยพระราชา ทำไมพระราชาเดินไปในป่าเขา ?
ทำไมพระราชาถึงมีเหงื่อไหล ?
ทำไมพระราชาถือแผนที่เอาไว้ ?
เพราะอะไรพระราชาถึงต้องทำแบบนี้้ ?
เพราะอะไรพระราชาถึงต้องเดินลุยน้ำ ?
ทำไม ทุกๆ บ้านจึงมีรูปท่านติดไว้ ?
ทำไมพระราชาถึงไม่หยุดพัก ?
หนูอยากจะเป็นเด็กดีของพระราชา
บทเพลงเฉลิมพระเกียรติ " ตามรอยพระราชา " ขับร้องโดย เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ และคณะประสานเสียงเด็กๆ คำร้องโดย ชนะ เสวิกุล, นิติพงษ์ ห่อนาค ทำนองโดย ชนะ เสวิกุล, อภิไชย เย็นพูนสุข เรียบเรียงโดย นันทพงศ์ ทศพร กำกับมิวสิควิดีโอโดย ประพัฒน์ คูศิริวาณิชกร
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #55 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2554, 22:48:03 » |
|
พี่เจี๊ยบคะ, พี่คนไทยส่งเรื่องนี้ไปให้หนิงอ่าน เธออ่านมาจากface book ขอนำมาลงที่นี่คะ
เรื่องของ “ยายซุบ” กับ “ในหลวง”
ยายซุบ สามร้อยยอด เป็นหญิงชาวบ้านวัย 70 แห่งบ้านคุ้งโตนด อำเภอกุยบุรี จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ ยากจนมาตังแต่ยังสาวจวบจนวันนี้ หากแต่เธอกลับยืนยันว่า เธอมีอดีตที่มีความหมายต่อชีวิตของแก อดีตที่หมายถึงชีวิตใหม่ ไม่ว่าแกจะยังจน ต้องขอเงินลูก ๆ 9 คนใช้ดังเช่นทุกวันนี้หรือจะมั่งมีศรีสุข ถูกหวยรวยเบอร์อย่างไรก็ตาม แกไม่เคยลืมเหตุการณ์ครั้งนั้น
เหตุการณ์ที่ล่วงเลยมานานกว่า 40 ปี การเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฏรบ้านคุ้งโตนด อำเภอกุยบุรี ไม่เพียงทำให้หมู่บ้านที่ยากจน ล้าหลัง ไม่มีแม้ถนนที่จะติดต่อกับโลกภายนอก ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น หากแต่การเสด็จพระราชดำเนินในครานั้นได้ ทำให้หญิงคนหนึ่งมีชีวิตยืนยาวต่อมาจนถึงวันนี้
สมัยยังสาวยายเคยไปรับเสด็จในหลวงใช่ไหม ?
ยาย - ใช่ ตอนนั้นไปรับเสด็จที่ตีนถ้ำไทรในหมู่บ้านเรานี่แหละ ท่านเสด็จฯ มาทางเหนือ ไอ้เราป่วยเป็นไส้ติ่ง ปวดท้องมาครึ่งเดือนแล้ว แต่ไม่รู้หรอกนะตอนนั้นว่าเป็นไส้ติ่ง ปวดท้องนอนซม คนในบ้านบอกในหลวงจะมา เราก็อยากเห็น อยากไปรับเสด็จ แต่ปวดท้องจนเดินไม่ไหว
เดินไม่ไหว แล้วไปยังไง ?
ยาย-ก็ให้คนหามไป ใส่เกวียนไปเลย
ทำไมถึงเลือกไปเฝ้าในหลวง ไม่ไปหาหมอ ?
ยาย-ไม่รู้สิ คืออยากเห็นตัวจริง ๆ ใกล้ ๆ นะ คิดในใจว่ายอมตายได้ แต่ขอไปรับเสด็จก่อน แลกตัวแลกชีวิตกันเลย พูดง่าย ๆ ว่าวัดดวงเอาเลย อีกอย่างตอนนั้นถ้าเราไปหาหมอก็ลำบาก เพราะน้ำแห้ง เรือเครื่องก็ไม่มี ถ้าไปก็คงไปไม่ถึง มันคงจะตายก่อน
แล้วตอนนั้นได้ถวายอะไรท่านบ้างไหม ?
ยาย-ยกมือพนมยังจะไม่ไหวเลย จะให้ถวายอะไรอีก (หัวเราะเสียงดัง)
แล้วได้เห็นท่านไหม ?
ยาย-ก็ได้เห็นท่านอยู่ แต่ก็เห็นห่าง ๆ แล้วก็เห็นไม่นานเพราะว่าพระองค์ท่านต้องเสด็จฯ ไปที่ตีนเขาอีกลูกคนละฟาก ทรงไปดูเรื่องที่จะระเบิดเขาทำทางเข้าออกหมู่บ้าน
ไส้ติ่งเรากำลังจะแตก แล้วรอดมาได้อย่างไร เกิดอะไรขึ้น ?
ยาย-ตอนนั้นไส้ติ่งกำลังจะแตก เงินสักบาทก็ไม่มีติดตัว พอดีว่าพระราชินีท่านทรงเยี่ยมเยียนราษฏร แล้วทอดพระเนตรเห็นเรานั่งหน้าซีด พิงเพื่อน คือได้ตอนนั้นมันไม่ไหวจริง ๆ ท่านทอดพระเนตรเห็นก็คงสังเกตได้ว่าอาการเราไม่ดี พระองค์ก็ถามว่า เป็นอะไร? ท่านบอกให้พูดธรรมดาก็ได้ เราบอกว่าเจ็บท้อง พระองค์ท่านตรัสถามต่อว่า เจ็บมากี่วันแล้ว? เราก็บอกว่า เจ็บมาครึ่งเดือนเห็นจะได้ ท่านก็เลยบอกให้หมอที่มาด้วยตรวจดู
แล้วหมอว่ายังไง ?
ยาย-หมอบอกว่าไส้ติ่งกำลังจะแตก พอหมอบอกอยางนั้น พระองค์ท่านก็ทรงติดต่อไป ที่ในหลวงซึ่งทรงอยู่ที่ตีนเขาอีกลูก
รู้ได้ยังไงว่าสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงติดต่อไปที่ในหลวง ?
ยาย-รู้สิ เพราะเห็นในหลวง พระองค์ท่านทรงวิ่งจากตีนเขาลูกโน้นมาเลย ห่างกันถึง 1 กิโล
รู้สึกอย่างไรบ้างในตอนนั้น ?
ยาย-ดีใจแล้วก็ปลื้มใจแบบมาก ๆ ไอ้ตอนแรกคิดว่ากำลังจะตายนี่ คิดว่าตัวเองรอดแน่ มันมีกำลังใจ คิดว่าขนาดพระเจ้าแผ่นดินยังเอาใจใส่เราขนาดนี้ เราจะตายไม่ได้
พอในหลวงเสด็จมาถึง ทรงตรัสว่าอย่างไรหรือไม่ ?
ยาย-ท่านให้เอา ฮ. มารับ ท่านตรัสว่า เดี๋ยวเราจะกลับทางเรือเอง ให้เอาคนไข้ไปส่งก่อน พอพระองค์ท่านตรัส หมอสองคนก็หิ้วปีกเราไป ในหลวงท่านทรงเมตตาเราไปจนถึงเครื่อง พอเราขึ้นไป ก่อนที่ประตู ฮ. จะปิด เราก็มองลงมาเห็นในหลวง ท่านทรงโบกพระหัตถ์ เราซาบซึ้งมาก ยิ่งบอกตัวของเราเลยว่าเราจะตายไม่ได้
ถ้าไม่มีในหลวงในวันนั้น ก็ต้องตายแน่ ?
ยาย-แน่นอน ไม่ต้องอะไรหรอก หมอบอกว่า มาช้ากว่านี้แค่ 2-3 นาที ก็ไม่รอดแล้ว แล้ววันนั้นอย่างที่บอกว่าเรือเครื่องก็ไม่มี น้ำก็แห้ง ไม่รู้ใช้เวลาครึ่งวันจะเดินทาง ไปถึงโรงพยาบาลหรือเปล่า ถ้าในหลวงไม่เสด็จมาที่นี่ วันนั้นก็ตายแน่ ตายทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นอะไรตาย
เหมือนกับได้ชีวิตใหม่ ?
ยาย-ใช่ ชีวิตทุกวันนี้ถึงฉันแก่แล้ว แต่เมื่อนึกถึงวันนั้นทีไรรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ทุกที ตอนนั่งดูโทรทัศน์ เวลาเห็นท่าน เราก็จะพนมมือไหว้ตลอด รู้สึกว่าท่านได้มอบชีวิตใหม่ให้กับเรา
ตอนนั้นอยู่บน ฮ. เป็นอย่างไรบ้าง ?
ยาย-จำไม่ค่อยได้ รู้แต่ว่าพอบินขึ้นไปพักใหญ่หมอก็ถามว่าเป็นยังไงบ้าง เราพูดไม่ค่อยไหว แต่ก็บอกไปว่าปวดท้อง บน ฮ. นอกจากเรา ก็มีหมออีก 2 คน แล้วก็คนขับอีก 2 คน จำได้แค่นี้ล่ะ
ฮ. พาไปที่โรงพยาบาลไหน ?
ยาย-โรงพยาบาลพระมงกุฏฯ เพชรบุรี
แล้วพักอยู่กี่วัน ?
ยาย-ปกติคนเป็นไส้ติ่งทั่วไปเขาพักกัน 3-4 วันก็ออกได้แล้ว แต่เราเป็นหนักต้องพักถึง 24 วัน ถ้าในหลวงไม่ช่วยก็ตายแน่ แล้วถ้าเราตาย ลูกเต้าก็ไม่รู้จะอยู่ยังไง ในหลวงท่านทรงเมตตา ทรงดูแลเราอย่างดี ห้องที่เราพักอยู่นี่ดีมาก เป็นห้องพิเศษเลย พูดตรง ๆ ว่าดีกว่าบ้านที่ฉันอยู่อีก หมอก็นิสัยดี พูดจากับเราเพราะแล้วก็ใจดี
”ในหลวงท่านทรงห่วงใยเรามากมีคนมาเยี่ยม ถามอาการ ถามสารทุกข์สุขดิบทุกวัน คนใกล้ชิดพระองค์ท่านก็ถามเรานะว่า จะฝากอะไรถึงท่านไหม เราบอกให้ พระองค์ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ พูดได้แค่นั้น มันตื้นตันจนนึกไม่ออก”
หลังจากวันนั้นแล้วเป็นอย่างไร ?
ยาย-ไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ พระองค์ท่านอีกเลย ถ้าเรามีโอกาส จะขอเข้าไปกราบแทบพระบาทเลย สิ่งที่พระองค์ท่านทรงช่วยเหลือเราไว้ เป็นความซาบซึ้งที่สุดในชีวิตแล้ว
”คิดดูสิโลกนี้จะหากษัตริย์อย่างท่านได้ที่ไหน เราเป็นแค่ชาวบ้านจน ๆ แต่ท่านห่วงเราเหมือนเรา เป็นลูกพระองค์ท่าน ทรงห่วงเราเหมือนที่เราห่วงลูก ท่านทรงเสียสละแม้กระทั่งของส่วนพระองค์ ทรงยอมลำบากกลับทางเรือเพื่อคนอย่างเรา พูดตรง ๆ ว่าสิ่งที่พระองค์ทรงทำให้ฉันตายแล้ว เกิดใหม่อีกสิบชาติก็ทดแทนไม่หมด”
กลับมาบ้านแล้ว เป็นอย่างไร ?
ยาย-ตอนที่ออกจากโรงพยาบาลใหม่ ๆ พระองค์ท่านก็ส่งเงินมาให้อยู่ถึง 1 ปี ครั้งละ 3-5 พันบาท ส่งมาหลายครั้งอยู่ เรารู้เพระว่าใส่ซองสีขาวประทับตราสำนักพระราชวัง จากเหตุการณ์นั้นทำให้เรารักในหลวงของเรามาก
แล้วทุกวันนี้ก็ยังน้อยใจตัวเองอยู่ว่า เวลาที่ท่านป่วย เราก็ไม่มีเงินไปเฝ้า ไปแสดงความจงรักภักดีกับท่าน ได้แต่ร้องไห้อยู่กับบ้าน นั่งร้องไห้ทุกวัน ดูข่าวทุกวันไม่เคยเว้นเลย ……ฉันอายตัวเองว่า ในขณะที่ท่านให้ชีวิตใหม่กับเรา แต่เราช่วยอะไรท่านไม่ได้เลย”
การเสียสละของในหลวงคราวนั้น ได้เอามาปฏิบัติตามหรือไม่ ?
ยาย-มีส่วนมากเลย เวลาคนในหมู่บ้านเขาป่วยเป็นอะไร ฉันก็ไปเยี่ยมเขาทั่ว ไปไหนไปกัน มีใครเจ็บในหมู่บ้านนี่ฉันจะไปเยี่ยมหมด บางทีถึงไม่ใช่หมอ ไม่ใช่ญาติเขา แต่เราก็ไป ไปนั่งพูดคุยให้กำลังใจ บางทีก็ไปบีบให้นวดให้ นี่คือสิ่งที่ในหลวงให้เรา และเราให้คนอื่นต่อ เรื่องจาก อ ยอดเยี่ยม เทพธารานนย์ Quelle: http://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=187495984674959&id=181318038626087
|
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #57 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2554, 23:05:37 » |
|
พี่เจี๊ยบคะ, พี่เธอยังช่างหาอะไรมาให้หนิง!
เธอบรรยายว่าในหลวงทรงวิทยุ ในชื่อVR 009กับศูนย์วิทยุ.. สายลม 73249เมื่อพ.ศ 2528
"คลิปเสียงที่ในหลวงทรงติดต่อสนทนากับศูนย์ควบคุมค่ายวิทยุสายลม โดยทรงใช้สัญญาณเรียกขาน VR009 ในสมัยนั้น ซึ้งในช่วงนั้นเป็นช่วงปี พ.ศ.2528 ซึ่งในกรุงเทพฯ ได้เกิดน้ำท่วม และทรงได้แนะนำในเรื่องการใช้วิทยุสื่อสาร ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการแก้ปัญหาน้ำท่วมในครั้งนั้น และทรงใช้คำพูด ในการสนทนาแบบเรียบง่ายเป็นกันเองในการติดต่อกับศูนย์วิทยุสายลม ซึ่งผมฟังดูแล้วรู้สึกประทับใจมากครับ และปลาบปลื้มอย่างยิ่งครับผม"
ฟังภาษาที่ใช้คะ ธรรมดามาก.http://youtu.be/0QdpcoS19rI
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #58 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2554, 23:06:52 » |
|
ถึงว่าคะ! ว่าคุ้นๆ คงอ่านมาจากที่นี่แหละคะ
|
|
|
|
Jiab16
|
|
« ตอบ #59 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2554, 23:32:20 » |
|
หนิงว่า ในชั่วโมงที่ชายหนุ่มคนนี้สนทนาทางวิทยุ กับพระเจ้าอยู่หัว เค้าจะรู้มั้ยว่า VR009 คือพระองค์ท่าน ?
ถ้ารู้ ก็คงจะประหม่า เสียงสั่น จนถึงขั้น ' ลมจับ '
จะว่า ไม่รู้ ก็ใช่ที่นะ ดูเค้าพูดจาสุภาพมาก ก ก ก ... อาจจะพยายามทำให้เนียนๆ เพื่อไม่ให้ผู้อื่นที่ฟังอยู่ด้วยพลอย ' ลมจับ ' กันไปหมด
ด้วยเกล้าฯ ขอเดชะ ...
ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน ...
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #60 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2554, 17:34:30 » |
|
พี่เจี๊ยบคะ, ก็พยายามจับอยู่ค่ะ คิดว่าคุณสายลม73249ไม่รู้นะพี่! เพราะม่ายงั้นอาจหลุดคำราชาศัพย์ผิดๆถูกๆ ลิ้นรัว เสียงสั่นออกมาแน่ๆ ฟังยังไงก็เรียบๆภาษาพวก รับ-ส่งวิทยุคะ...หนิงเดาว่าtoneเสียงนี้พูดไว้บันทึกไว้ ตั้งแต่ปีพศ. 2528 แต่นำมาโหลดเข้ายูทูบเร็วๆนี่เอง(2010-2553) คุณที่ดาวน์โหลดก็คนละคนกะเจ้าตัวไช่มั้ยพี่? msworapat?
|
|
|
|
Jiab16
|
|
« ตอบ #61 เมื่อ: 05 มีนาคม 2555, 13:08:22 » |
|
ภาพที่คนไทยควรช่วยกันแชร์ เสรษฐวิทย์ - นิเทศ 16 ... ส่งมาคนส่งเมลนี้มาให้จากอเมริกาค่ะ ... " คนชาติอื่นเค้ายังรู้เลย "
Cynthia Aiemsaard's Photos
By Cynthia Aiemsaard
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #62 เมื่อ: 14 พฤษภาคม 2555, 15:00:26 » |
|
พี่เจี๊ยบคะ, เมื่อวานได้รับฟิล์มนี้มากว่าจะได้ชมก็ดึกโข คิดว่าแบ่งๆกันชมที่นี่ คงเข้ากันดีคะ.
เป็นฟิล์มที่บางตอนหนิงเคยชมในทีวีที่โน่น พี่คนไทยที่ส่งไปให้บอกว่าเพิ่งแปะสดๆในytube เมื่อไม่กี่วันคะ ยาวพอสมควร น่าดูอย่างยิ่งค่ะ จาก BBCPart Ihttp://youtu.be/x-69TxgO6hc
|
|
|
|
|
vision
Newbie
ออฟไลน์
กระทู้: 3
|
|
« ตอบ #64 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2555, 09:45:03 » |
|
|
|
|
|
|