เหยง 16
|
|
« ตอบ #75 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2559, 09:49:15 » |
|
ไม่ได้เข้าซะนานเลย ช่วงนี้มีทั้งเหรียญกษาปณ์ใน-นอกประเทศ ที่เป็นเหรียญที่ระลึกออกมาจำนวนมาก อาทิ เหรียญควีนอลิซซาเบ็ท 90 พรรษา ซึ่งมีหลายประเทศการผลิตขึ้น เหรียญในหลวงครองราชย์ 70 ปี นานสุดในประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. นี่เอง รวมทั้งธนบัตร ชนิดราคา 70 บาท จำนวน 20 ล้านฉบับ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #76 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2559, 09:50:01 » |
|
อีกสักครู่จะนำรายละเอียดของพระมาเสนอแนะครับ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #77 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2559, 13:32:05 » |
|
ธนบัตร ฉลองครองราชย์ครบ 70 ปี- วันที่ 9 มิถุนายน 2559
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #78 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2559, 21:34:39 » |
|
กลับมาเรื่องพระครับ
พระโคนสมอ หรือ พระวังหน้า เป็นพระเพื่อออกศึก สงคราม ในยุดไทยรบกับพม่า เทียบกับพระในแคตตาล็อกเทียบกับพระขุนแผน บ้านกร่าง กรุวัดใหญ่ชัยมงคล พระนครศรีอยุธยา
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #79 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2559, 21:40:37 » |
|
รูปแบบ พระโคนสมอหรือพระวังหน้า จะเหมือนกับ พระขุนแผนอย่างมาก
ซึ่งพระขุนแผนองค์นี้เคลือบเชลแลค พิมพ์แขนอ่อน กรุวัดใหญ่ชัยมงคล อยุธยา ที่พบในองค์พระเจดีย์ วัดใหญ่ชัยมงคล (วัดป่าแก้ว)--อนุสรณ์สถาน ในการรบชนะสงครามยุทธหัตถี ของ สมเด็จพระนเรศวรฯ กับ พระมหาอุปราชา ของพม่า โดย สมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว ได้สร้างพระพิมพ์นั่ง ปางมารวิชัย (สะดุ้งมาร) รูปทรงห้าเหลี่ยม เนื้อผงผสมดินดินเคลือบน้ำยา บรรจุกรุ เป็นการสืบอายุพระพุทธศาสนาตามประเพณี ระหว่างปี พ.ศ.2135
มาพบแตกกรุครั้งแรก ราวปี พ.ศ.2445 แยกพิมพ์ตามขนาด เป็น พิมพ์ใหญ่ (ซึ่งยังแยกย่อย เป็น พิมพ์ฐานสูง ฐานเตี้ย) และ พิมพ์เล็ก (แขนอ่อน) ทุกองค์เคลือบน้ำยา (สีเหลืองแกมน้ำตาลแก่) เฉพาะด้านหน้า ตามซอกพระส่วนลึกจะมีเคลือบน้ำยาจับหนา ดูเป็นสีดำ ด้านหลังไม่เคลือบ เปิดเห็นเนื้อใน มักมีลายนิ้วมือปรากฏ บางองค์มีการลงรักปิดทองทับไว้ จึงงดงามอลังการ สมลักษณะ “พระแห่งชัยชนะ” อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/636640
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #80 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2559, 21:40:53 » |
|
แล้วจะมาต่อครับ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #81 เมื่อ: 16 มิถุนายน 2559, 13:17:18 » |
|
องค์นี้ ที่วิหารหลวงพ่อพระพุทธชินสีห์ มีผู้ถวายเป็นพระปิดทองสวยงามมาก เข้าไปในวิหารอยู่ซ้ายมือ ตรงประตูที่ใช้เข้าออกนั่นเองครับ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #82 เมื่อ: 03 สิงหาคม 2559, 20:19:44 » |
|
วันที่ 11 สิงหาคม 2559 ซึ่งเป็นวันพฤหัสบดี และธนาคารเปิดทำการ มีการเปิดให้แลกธนาบัตรที่ระลึก พระราชินี ครบ 7 รอบ ธนบัตรอยู่ในหมวด 9 Q [Q = Queen ครับ] ธนบัตรราคา 500 บาท ถือว่าแพงเอาการโปรดอย่า คัดลอกไปพิมพ์เป็นธนบัตร นะครับ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #83 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2559, 15:18:45 » |
|
องค์นี้ได้แต่ผ่านตา ยังไม่มีวาสนาจะครอบครองครับ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #84 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2559, 15:23:57 » |
|
วัตถุมงคลชิ้นเอก เจ้าคุณนรฯ พระสมเด็จ หลังอุ ปี 2512 วันที่ 09 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 01:11 น. พันธุ์แท้พระเครื่อง ท่านธัมมวิตักโกภิกขุ หรือ พระยานรรัตนราชมานิต ที่รู้จักและรำลึกนึกถึงกันในนาม "เจ้าคุณนรฯ" นั้น ไม่ว่าท่านจะสร้างหรือปลุกเสกวัตถุมงคลจากที่มีผู้จัดสร้างมา ทั้งพระเครื่อง พระผง พระกริ่ง และเหรียญต่างๆ มีคำกล่าวทิ้งท้ายไว้เสมอว่า
"แม้ท่านจะตั้งใจอธิษฐานจิตและ แผ่เมตตาลงใน "พระเครื่อง" ด้วยความ เชื่อมั่นว่ามีความศักดิ์สิทธิ์สามารถปกป้องคุ้มครองผู้สักการบูชาได้ก็จริง แต่ผู้มี พระเครื่องไว้คุ้มครองนั้นก็จะต้องประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระบรมศาสดา เจ้าของที่มาแห่งองค์ พระปฏิมานั้นด้วย"
ในบรรดาวัตถุมงคลของท่าน "พระพิมพ์สมเด็จ หลังอุ" นับเป็นพระอันดับหนึ่งที่มีค่านิยมสูง เรียกว่า "เปลี่ยนมือกันทีถึงห้า-หกหลักเลยทีเดียว" ตามสภาพความสวยงามและสมบูรณ์ขององค์พระ
พระสมเด็จ หลังอุ เป็นพระพิมพ์ เนื้อผง สร้างในปีพ.ศ.2512 โดยท่าน เจ้าคุณพระอุดมสารโสภณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์สมัยนั้น โดยรวบรวมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ มากมาย ประกอบด้วย ผงแป้งเจิม "พระพุทธมงคลนายก" ซึ่งเหลือจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจิมเมื่อครั้งถวายผ้าพระกฐิน ในปีพ.ศ.2508, ผงธูปจากพิธีอธิษฐานจิตพระพุทธมงคลนายก พระกริ่งเชียงแสน และแผ่นยันต์ดวงทอง-เงิน-ทองแดง เมื่อปีพ.ศ.2508, ผงพระเครื่องเก่า อาทิ เศษแตกหักจาก พระสรงน้ำสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ปีพ.ศ.2484 และสรงน้ำเกาหลี ปีพ.ศ.2493 เป็นต้น
รวมทั้งพระเครื่องศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ที่ท่านเจ้าคุณอุดมฯ ได้เก็บสะสมไว้ จากนั้นนำมาให้ท่านเจ้าคุณนรฯ อธิษฐานจิตเป็นเบื้องต้นครั้งหนึ่ง ก่อนนำไปสร้างเป็นองค์พระ โดยนำ "พระสมเด็จวัดระฆังฯ พิมพ์ใหญ่" ของ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) มาเป็นต้นแบบ และได้ ช่างเล้ง (ธีระศักดิ์ ธรรมชาตรี) ช่างฝีมือผู้มีชื่อเสียง ในยุคนั้นเป็นผู้แกะพิมพ์ จัดสร้างจำนวน 3,000 องค์ หลังจากสำเร็จ เป็นองค์ พระแล้วได้แบ่งให้ท่านเจ้าคุณนรฯ อธิษฐานจิตถึง 3 ครั้ง 3 วาระ ดังนี้
ครั้งแรก ท่านเจ้าคุณอุดมฯ และ คุณอำไพ แก้วพงศ์ หรือมหาอำไพ อดีตพระวัดเทพศิรินทร์ ได้ขอเมตตาจาก ท่านเจ้าคุณนรฯ ให้อธิษฐานจิต ณ พระอุโบสถ วัดเทพศิรินทร์ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2513 จำนวน 800 องค์ เพื่อนำไปแจกเป็นของขวัญแก่ผู้ ที่เข้าร่วมพิธีมงคลสมรสของคุณอำไพ
ครั้งที่ 2 ท่านเจ้าคุณอุดมฯ ให้ท่านช่วยอธิษฐานจิตอีก 800 องค์ ในวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ.2513 เพื่อถวายแด่สมเด็จพระสังฆราช วัดมกุฏกษัตริยาราม สำหรับประทานแก่พุทธบริษัทชาวฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลี และชาวไทยในฮ่องกงที่คอยเฝ้ารับเสด็จ และสดับฟังธรรมของพระองค์ ซึ่งท่านก็เมตตาอธิษฐานจิต ให้อีก ซึ่งจะได้เห็นว่า พระสมเด็จ หลังอุ มีแพร่หลายในฮ่องกง ญี่ปุ่น และเกาหลีด้วยในปัจจุบัน
ครั้งที่ 3 ท่านเจ้าคุณอุดมฯ ได้นำพระ ที่เหลืออีก 1,400 องค์ เข้าพิธีใหญ่ "เสาร์ห้า" ในวันเสาร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ.2513 ณ พระอุโบสถ วัดเทพ ศิรินทร์ โดยท่านเจ้าคุณนรฯ อธิษฐานจิตให้พร้อมกับพระพิมพ์อื่นๆ จากนั้นท่านเจ้าคุณอุดมฯ ได้ แจกจ่ายแก่ลูกศิษย์ลูกหา และ ผู้มาทำบุญกับท่านเรื่อยมา จนปีพ.ศ.2516 พระได้หมดลง โดยไม่มีเหลือติดตัวท่านแม้เพียงองค์เดียว
พระสมเด็จ หลังอุ มีความยาว 3.4 ซ.ม. ด้านบนกว้าง 2 ซ.ม. ด้านล่างกว้าง 2.2 ซ.ม. พุทธลักษณะพิมพ์ทรงคล้าย "สมเด็จวัดระฆังฯ พิมพ์ใหญ่" แต่วรรณะจะออกสีขาวปนเหลือง บางองค์ออกเหลืองปนเทาก็มี และมีเพียงพิมพ์เดียวเท่านั้น ด้านหน้าองค์พระประธานประทับนั่ง แสดงปางสมาธิเหนืออาสนะฐาน 3 ชั้น ภายในซุ้มเรือนแก้ว ด้านหลังเป็นหลังเรียบ ตรงกลางสลักอักษรขอม อ่านว่า "อุ" ในเนื้อองค์พระอย่างชัดเจน
"อุ" นั้นย่อมาจากคำว่าอุดม หรืออุตมะ หมายความว่า สูงสุด หรือประเสริฐสุด และยังเป็นอักษรคำแรกของสมณศักดิ์ผู้สร้าง คือ ท่านเจ้าคุณพระอุดมสารโสภณ อันเป็นมงคลนามที่ได้รับพระราชทาน
จุดตำหนิการพิจารณา จะสังเกตว่าพิมพ์แรกๆ จะมีเส้นพระศอ (คอ) ยาวมาถึงพระอังสา (ไหล่) และมีเส้นน้ำตกจากฐานชั้นที่ 1 ลงมาชั้นที่ 2 ระหว่างช่วงพระพาหา (แขน) ที่หักศอก แต่ต่อมาตำหนิเหล่านี้ถูกแป้งโรยพิมพ์อุดทับทำให้เลือนหายไป นอกจากนี้ องค์พระด้านหน้าบางแห่งจะเกิดรอยร้าว บางแห่งแม่พิมพ์ตรงพื้นผิวหลุดไป ทำให้เกิดเป็นตุ่มหรือเม็ดขึ้นมา ส่วนพิมพ์ด้านหลัง พื้นผิวจะหยาบคล้ายหนังช้าง ประการสำคัญในการพิจารณาคือ "ขอบขององค์พระ" ด้านบนทั้ง 4 ด้านค่อนข้างเรียบ
แต่ด้านล่างทั้ง 4 ด้านจะหยาบครับผมhttp://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1470658192
|
|
|
|
Dtoy16
Hero Cmadong Member
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424
|
|
« ตอบ #85 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2559, 09:24:27 » |
|
สวัสดีเหยง ระยะนี้มีผู้คนแลกเหรียญกัน เธอคงมีครบแล้ว ล้ำสมัยเลยน่ะ ส่วนเราลอคเกตรํปพระองค์ท่านในหลวงปกติทำเปนสร้อยได้ หามาใส่ ยังเปิดตู้ไม่ได้ หลานเล่นของอะไรกลมๆหมุนตู้เชฟเปิดไม่ได้ เฮ้อ.....
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #86 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2559, 18:57:40 » |
|
สวัสดีคุณต้อย และทุกท่าน
ผมหายไปจากเว็ปหลายๆวันมากครับ โดยไม่ได้ไปไหน เพียงแต่ไม่ได้เข้า โดยเกือบทุกวันออกจากบ้านไปหาซื้อเหรียญกษาปณ์และเหรียญที่รฤกของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งขณะนี้ค่อนข้างฮ๊อทมาก เนื่องจากมีประชาชนผู้รักและเทิดทูนพระองค์ท่าน ไปติดตามหาซื้อกันตามแผงจำหน่ายพระ - เหรียญ -ธนบัตร กันจนอาชีพนี้ กลับมาเป็นที่นิยมและมีรายได้ดีมากๆ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #87 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2559, 18:58:19 » |
|
เดี่ยวจะเอาภาพและเรื่องราวต่างๆ มาลงให้ทราบกัน
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #88 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2559, 19:04:06 » |
|
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #89 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2559, 19:55:40 » |
|
และ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #90 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2559, 21:00:32 » |
|
มาต่อวันพรุ่งนี้ครับ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #91 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2559, 19:56:29 » |
|
มีภาระกิจ สะแกนภาพเหรียญในรัชกาลที่ 9 อยู่ครับ ทำได้ยสกเนื่องจากเหรียญวางบนเครื่องสะแกนไม่สนิมเพราะมีความนูน ภาพยังสวยไม่ได้ดั่งใจ ที่สุดอาจจะต้องใช้ภาพจากอินเตอร์เน็ตแทน เพื่อให้เดินเรื่องได้
ขอเวลาอีกสัก 2 - 3 วัน ว่าจะทำอย่างไรดีครับ
|
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #93 เมื่อ: 26 มีนาคม 2560, 21:19:15 » |
|
ล่าสุดมีคำตอบแล้วครับว่าภาษาจีน 4 ตัว 银正两半 อิ๋งเจิ้นเลี่ยงปั้น แปลว่า "เงินแท้สองบาทครึ่งครับ"
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #94 เมื่อ: 26 มีนาคม 2560, 21:19:22 » |
|
เหรียญที่ระลึก "จุฬาฯ ครบ 50 " ปีครับจัดสร้างโดยสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ หรือ ส.น.จ.
Credit ภาพ: สมาคมเหรียญที่ระลึกไทย
|
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #96 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2560, 14:52:51 » |
|
วันนี้ได้เข็มวุฒิมา 1 เข็มครับ เป็นของคณะนิติศาสตร์ รุ่นเก่ามาก
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #97 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2560, 14:53:18 » |
|
เข็มชุดที่ 2 คือ เข็มตราที่ระลึกงานพระบรมราชาภิเษก ของรัชกาลที่ 6 เป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2454 ทั่วไปเรียก "เข็มไอยราพรต" ซึ่งอีก 3 ปีต่อไปจะเป็นช่วงที่ประเทศไทยเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 และ อีก 5 ปีเช่นกันที่เสด็จวางศิลาพระฤกษ์ตั้ง จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2459
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #98 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2560, 14:53:40 » |
|
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #99 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2560, 14:54:53 » |
|
กำลังลุ้นเหรียญแรกของการกำเนิดจุฬาฯ 26 มีนาคม 2459 อยู่ครับ
|
|
|
|
|