22 พฤศจิกายน 2567, 05:47:54
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 [2] 3 4 5  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: เหยง 16 คุยเรื่องของเก่า ภาพ เหรียญ สาระอื่นๆ  (อ่าน 112863 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #25 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2556, 21:55:20 »

ถานที่ที่ยังหลงเหลือให้ระลึกถึง คือ "แพร่งนรา"

แพร่งนรา
วังวรวรรณ เป็นวังที่ประทับของกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ตั้งอยู่ระหว่างวัดสุทัศน์เทพวราราม กับวัดมหรรณพาราม ต่อมาวังนี้ถูกเวนคืนเพื่อนำพื้นที่มาสร้างเป็นถนน ตามโครงการขยายความเจริญของพระนครในสมัยนั้น คงเหลือเพียงพระตำหนักไม้เก่าหลังเล็ก ที่เดิมเป็นที่ตั้งของโรงละครปรีดาลัย ถูกปรับให้เป็นโรงเรียนตะละภัฏศึกษา และมีการแบ่งพื้นที่ริมถนนสร้างเป็นอาคารพาณิชย์ขายให้แก่เอกชน ชาวบ้านแถบนั้นจึงเรียกย่านนั้นว่า แพร่งนรา ตามพระนามของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์


http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%AD_%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A3_%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B9%8C%E0%B8%9E%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C
      บันทึกการเข้า
ทราย 16
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,838

« ตอบ #26 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2556, 13:53:16 »

สวัสดีปีใหม่จ๊ะเพื่อนเหยง


      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #27 เมื่อ: 04 มกราคม 2557, 21:03:40 »

อจ.ทราย


สวัสดีปีใหม่เช่นกัน
      บันทึกการเข้า
lek_adisorn
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,595

« ตอบ #28 เมื่อ: 05 มกราคม 2557, 21:05:43 »

สวัสดีครับพี่เหยง ปีใหม่กะว่าจะไปนครสวรรค์ ก็ไม่ได้ไป ตั้งใจอีกทีหลังตรุษจีนครับ
วันนี้เอารูปเกือบ 10 ปีแล้วมาลงให้คิดถึงกัน.... งานหอฯก็เลื่อนไปก่อน เดี๋ยวคงจะมีประกาศอย่างเป็นทางการอีกทีหนึ่งครับ





      บันทึกการเข้า
lek_adisorn
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,595

« ตอบ #29 เมื่อ: 05 มกราคม 2557, 21:06:13 »





      บันทึกการเข้า
lek_adisorn
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,595

« ตอบ #30 เมื่อ: 05 มกราคม 2557, 21:06:39 »





      บันทึกการเข้า
lek_adisorn
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,595

« ตอบ #31 เมื่อ: 05 มกราคม 2557, 21:07:07 »





      บันทึกการเข้า
lek_adisorn
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,595

« ตอบ #32 เมื่อ: 05 มกราคม 2557, 21:07:35 »





      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #33 เมื่อ: 08 มกราคม 2557, 20:49:15 »

น้องเล็ก


นี่แหละภาพเก่าๆ ที่มีชีวิตและมีความหลัง
ขอบใจมากๆ มีอีก ลงอีกน่ะ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #34 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2557, 10:34:14 »

นำเหรียญมาโพสต์ต่อครับ (ชุดนี้โพสต์ในห้อง "ตามครูไปเที่ยว" ของน้องเริง 2520 ด้วยครับ

เหรียญครองราชย์เสมอ ร. 2

ปี 2426 ร.5 ครองราชย์ได้ 15 ปีเท่ากับ ร.2 ซึ่งเป็นสมเด็จพระอัยกา (ปู่) มีเหรียญที่ระลึกออกมาคือ





      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #35 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2557, 10:41:58 »

ต่อมาปี 2541 (ร.ศ. 117) หรืออีก 15 ปีต่อมาหลังการออกเหรียญครั้งแรก

ร.5 ทรงครองราชได้ครบ 30 ปี ซึ่งเป็น 2 เท่าของสมเด็จพระอัยกา จึงมีเหรียญออกอีก 1 ชุด
มีชื่อว่า เหรียญ ร.5 เสมอ ร.2 ทวีคูณ และมีรัฐพิธี ทวีธาภิเษกสมโภช

เหรียญทวีธาภิเษก



ภาพจาก พิพิธภัณธ์เหรียญกษาปณ์ไทย
www.thaimedal.com

      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #36 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2557, 17:24:54 »

ตามมาชมด้วยครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #37 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2557, 22:11:42 »

กำลังสแกน เก็บภาพทางเว็ป เพราะไม่มีกล้องที่ดีพอจะถ่ายภาพเหรียญที่เก็บไว้ เพื่อเดินเรื่องต่อครับ
      บันทึกการเข้า
Pete15
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,460

« ตอบ #38 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2557, 07:38:27 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 20 กรกฎาคม 2557, 22:11:42
กำลังสแกน เก็บภาพทางเว็ป เพราะไม่มีกล้องที่ดีพอจะถ่ายภาพเหรียญที่เก็บไว้ เพื่อเดินเรื่องต่อครับ
              ฮึฮึ เหมือนกัน เลย ยังไม่มีกล้อง ที่ดี  เดี๋ยวนี้ เห็นเขาถ่ายภาพ ปั๊บ ก็ ส่งปุ๊บ เขียนข้อความตามไปอีก
   ฮึ.......ยังทำไม่ได้ เหมือน น้องๆ สมัยใหม่......ทำให้ตัวเองรู้สึก อยาก อยู่ นิ่งๆ....(เพราะตาม เทคโนโลยี่ไไม่ทัน)
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #39 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2557, 10:08:33 »

พี่ปี๊ด


เลือกไม่ถูกครับ ว่าจะเลือกแบบไหน อย่างไร ??
จีงล่าช้ามาอย่างที่เห็นครับ
      บันทึกการเข้า
supichaya
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2524
คณะ: เศรษฐศาสตร์
กระทู้: 213

« ตอบ #40 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2557, 15:30:15 »

เป็นบุญตาจริงๆ ค่ะ  ขอบคุณพี่เหยงนะคะ ที่นำมาให้เราได้ดู ได้ภูมิใจกัน
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #41 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2557, 21:10:26 »

น้องก้อย


พี่เป็นลูกค้าเหรียญและอุปกรณ์ของ "ร้านหนังสือแว่น" ซึ่งเดิมอยู่ที่ซอย 2 (ที่ตั้งเก่าของ รร.วรรณวิทย์)
ปัจจุบันสาขาใหญ่ของร้านหนังสือแว่น ย้ายไปอยู่สี่แยกวัดกลาง ทางไปบ้านพี่เหยงนั่นล่ะครับ
ร้านเดิมจึงขายแต่หนังสือพิมพ์และของจุกจิก
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #42 เมื่อ: 27 กรกฎาคม 2557, 18:23:21 »

อีกหนึ่งเหรียญที่หายากที่สุด..ครับ

 


พระปฐมปาฎิหาริย์

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรรสาธิราชสยามมงกุฎราชกุมาร ได้เสด็จพระราชดำเนินไปประทับ ณ พระราชวังสนามจันท์ จังหวัดนครสวรรค์ ได้เกิดปรากฎการณ์พระปฐมปาฎิหาริย์ ในคืนวันอาทิตย์ที่ ๒๔ ตุลาคม ร.ศ. ๑๒๘ พ.ศ.๒๔๕๒ เมื่อเวลา ๒ ยาม ๕๕ นาที (๐๐ : ๕๕ น.) พระยาคทาธรธิบดี - เทียบ อัศวรักษ์ ขณะดำรงตำแหน่ง นายวรการ (หนึ่งใรนายใน ที่ทรงโปรดฯ) กราบทูลให้ทรงทอดพระเนตรพระปฐมเจดีย์ พบว่ามีแสงสว่างโพลงไปทั้งองค์ มีสีคล้ายหิ่งห้อยอยู่จนถึงเวลา ๗ ทุ่ม ๑๒ นาที ( ๐๐ : ๑๒ น.) เป็นเวลานานถึง ๑๗ นาที รัศมีตั้งแต่ยอดมงกุฎจรดปล้องไฉนจึงหายวูบไป ต่อมาอีกราวครึ่งนาที แสงคอระฆังจึงหายไปเป็นอัศจรรย์ จึงทรงกราบพระปฐมเจดีย์และสวดบทอิติปิโส ครั้งนั้นมีพระองค์และข้าราชบริพารอยู่ในเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก โปรดฯให้จดรานามผู้เห็นเหตุมหัศจรรย์ครั้งนี้พร้อมกันกับพระองค์ได้ ๖๘ ราย นอกจากนี้แล้วยังมีราษฎรที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นเห็นเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยอีกหลายราย วันรุ่งขึ้น โปรดฯให้ฉลองพระปฐมเจดีย์ และเดินเวียนเทียน (จดหมายเหตุรายวัน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว, หน้า ๒๐ - ๒๕)

ทรงกราบบังคมทูลเล่าเหตุการณ์ครั้งนี้ให้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงทราบ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเล่าว่าพระองค์ทรงเคยเห็นพระปฐมปาฎิหาริย์ด้วยพระองค์เองถึง ๒ ครั้ง ในเวลายามหนึ่ง คือประมาณ ๓ ทุ่ม (๒๑ : ๐๐ น.) มักเกิดในระหว่างเดือน ๑๑ เดือน ๑๒ และเดือนยี่ และเวลาที่ทรงทอดพระเนตรเห็นนั้น ข้าราชบีิพารเห็นเหตุการณ์เป็นจำนวนมากกว่านี้ (เรื่องพระปฐมเจดีย์, หน้า ๒๒๙)

นอกจากนี้ ย้อนไปถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ทรงบูรณปฎิสังขรพระปฐมเจดีย์อยู่นั้น ได้เสด็จพระราชดำเนินไปสักการะ และสมโภชพระปฐมเจดีย์ เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๐๐ ทรงทอดพระเนตรเห็นดวงรัศมีสีขาวย้อยออกมาตามซุ้มคูหาด้านตะวันออก ตกลงมาหายไปที่หลังวิหารพระไสยาสน์เก่า ซึ่งปัจจุบันคือวิหารหลวง มีผู้เห็นเหตุการณ์นี้เป็นจำนวนมาก (เรื่องพระปฐมเจดีย์, หน้า ๒๒๙)

นอกจากเหตุการณ์พระปฐมปาฎิหาริย์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าพระเนตรพระพักตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสามพระองค์แล้ว ยังมีบันทึกไว้ว่าในวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๓๙๙ มีผู้เห็นดวงไฟสว่างออกมาทางซุ้มคูหาทิศเหนือ และวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๓๙๙ มีผู้เห็นรัศมีส่องไปทางองค์พระปรางค์เหมือนแสงดอกไม้เทียบจับอยู่ที่องค์พระ

กล่าวกันว่า พระปฐมปาฎิหาริย์เกิดขึ้นทุกปีๆละสองครั้งบ้าง สามครั้งบ้าง เมื่อสมโภชเวียนเทียนคราวใดเป็นได้เห็นทุกคราว

นอกจากพระปฐมปาฎิหาริย์แล้ว ยังมีบันทึกครั้งโบราณที่กล่าวถึงพระธาตุปาฎิหาริย์อีกหลายครั้ง เช่น พระเกศาธาตุที่มหิยังคนเจดีย์ กรุงลังกา, พระธาตุปาฎิหาริย์ที่เมืองบางจา เป็นต้น ( ชินการลมาลีปกรณ์, หน้า ๑๐๖ - ๑๑๑ : ตำนานมูลศาสนา, หน้า ๑๙๕ - ๑๙๖ : พงศาวดารโยนก, หน้า ๒๙๒ - ๒๙๗)

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ดปรดฯให้สร้างเหรียญที่ระลึก พระปฐมปาฎิหาริย์ เป็นเหรียญกลม ขนาดผ่าศูนย์กลาง ๒.๖๕ เซนติเมตรมีหูเชื่อม เนื้อเงิน
ด้านหน้าเป็น พระธรรมจักร
ด้านหลัง เป็นตัวอักษร
แบบแรก : วันอาทิตย์    ที่ ๒๔ ตุลาคม    ร,ศ, ๑๒๘ เดือน ๑๑ ขึ้น    ๑๐ ค่ำ เวลา ๒ ยาม ๕๕ นาที  พระปฐมปาฎิหาร
แบบที่สอง : พุทธสาสนายุกาล  ล่วงแล้วได้ ๒๔๕๒ พรรษา  วันที่ ๒๔ ตุลาคม  ร,ศ, ๑๒๘  เวลา ๒ ยาม ๑๕ นาที  พระปฐมปาฎิหาริย์

หมายเหตุ : มีการตรวจสอบในภายหลังพบว่า เวลา ๒ ยาม ๑๕ นาที ในแบบที่สองผิดพลาด จึงโปรดฯให้จะดทำเหรียญแบบแรกออกมาแจกจ่ายให้ผู้ที่ได้เห็นเหตุการณ์นั้นเป็นที่ระลึก


ปัจจุบันเป็นเหรียญที่หายากมากที่สุด เพราะจัดสร้างตามจำนวนผู้ร่วมเห็นในเหตุการณ์ในคืนนั้น และเวลาผ่านมา ๑๐๕ ปีแล้ว ส่วนหนึ่งสูญหายไปเพราะทายาท และไม่พบเห็นมาหลายปีแล้วครับ


ข้อมูล : พิพิธภัณฑ์เหรียญที่ระลึกไทย http://www.thaimedals.com/web/2452_5.php
      บันทึกการเข้า
ti2521
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #43 เมื่อ: 03 สิงหาคม 2557, 00:36:14 »



รัชกาลที่9 เหรียญ ร.9 ครบ 4 รอบ ปี 2518 เนื้อเงิน 銀質

หรียญรุ่นเดียวที่คณะสงฆ์จัดสร้างถวายเป็นที่ระลึกในวาระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙
ทรงพระราชสมภพครบ 4 รอบ ปี 2518 
ซึ่งมีพิธีการที่จัดได้ว่ายิ่งใหญ่มากๆ โดยเป็นเหรียญที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก แต่ก็ออกแบบได้สวยงามมากๆ
นักนิยมพระมักเรียกกันว่า "เหรียญเต่า" เพราะรูปร่างของเหรียญมองแล้วคล้ายกับเต่า

จำนวนการสร้างเหรียญมีดังนี้คือ
1.เนื้อทองคำ จำนวน 100 เหรียญ บริจาค 10,000 บาท
2.เนื้อนาค     จำนวน  55 เหรียญ บริจาค   5,000 บาท
3.เนื้อเงิน     จำนวน 750 เหรียญ บริจาค   1,000 บาท
4.เนื้อทองแดงจำนวน  1,000,000 เหรียญ บริจาค  100 บาท
เนื่องจากจำนวนการผลิตมีเป็นจำนวนมาก เชื่อว่าต้องมีการถอดพิมพ์ออกมาด้วยกันเป็นหลายแม่พิมพ์ทำให้เหรียญนี้มีหลายบล๊อกซึ่งจะแตกต่างกันในรายละเอียดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเนื้อทองแดง
มติของที่ประชุมใหญ่ในการสร้างครั้งนี้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช
ได้ขอพระบรมราชานุญาต สร้างเหรียญพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อทูลเกล้าฯถวาย เพื่อที่จะพระราชทานแก่ทหารตำรวจและอาสาสมัครรักษาดินแดนและประชาชนทั่วไปที่จะได้บริจาคบูชา
ทางคณะสงฆ์ได้อาราธนาพระเถราจารย์ มาร่วมประกอบพิธีชัยมังคลาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยกำหนดพิธีมหาฤกษ์มหามงคลในวันที่ 1 เมษายน 2520 ซึ่งตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน๕
โดยสมเด็จพระสังฆราชทรงเป็นประธานจุดเทียนชัย
พระเถราจารย์ชั้นผู้ใหญ่ 9 รูป จากวัดหลวงประจำรัชกาลทั้ง 9 วัด เจริญพระพุทธมนต์
พระเกจิอาจารย์49รูป ร่วมเจริญคาถานั่งปรกบริกรรมปลุกเสก ซึ่งประกอบด้วย
1. สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรฯ                                 2. สมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดจักรวรรดิราชาวาส
3. พระวิสุทธิวงศาจารย์ (เสงี่ยม) วัดสุทัศน์                     4. พระธรรมศิริชัย วัดพระปฐมเจดีย์
5. พระเทพสาครมุนี (ลพ.แก้ว) วัดช่องลม                       6. พระเทพคุณาธาร (เจียม) วัดโสธรฯ
7. พระเทพวราลังการ (ลป.ศรีจันทร์) วัดเลยหลง              8. พระเทพวุฒาจารย์ (ลพ.เปลื้อง) วัดสุวรรณภูมิ
9. พระราชอุทัยกวี อุทัยธานี                                        10. พระราชญาณดิลก (ลพ.ชิต) วัดเขาเต่า หัวหิน
11. พระราชภัทราจาร วัดราชบพิธฯ                             12. พระญาณสิทธาจารย์
13. พระชินวงศาจารย์ (ลพ.พุธ) วัดป่าสาลวัน                14. พระวิมลกิจจารักษ์ วัดชนะสงคราม
15. ลป.โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี                                         16. ลพ.ชา วัดหนองปาพง
17. ลป.พรหมา วัดพระบาทตากผ้า                               18. ลพ.สนิท วัดศีลขันธ์
19. ลป.ดุลย์ วัดบูรพาราม                                           20. ลพ.ใหญ่ วัดสะแก อยุธยา
21. ลพ.บาง วัดหนองพลับ สระบุรี                                 22. ลพ.เชื่อม วัดเกศไชโย อ่างทอง
23. ลพ.เส็ง วัดน้อยนางหงษ์                                        24. ลพ.เที่ยง วัดม่วงชุม
25. ลพ.ผิว วัดสง่างาม                                                26. ครูบาอินทจักร วัดบ่อหลวง เชียงใหม่
27. ลป.บุญ วัดวังมะนาว                                             28. ลพ.เชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ
29. ลพ.แพ วัดพิกุลทอง                                              30. ลพ.เริ่ม วัดจุกกระเฌอ ชลบุรี
31. ลพ.ทอง วัดบ่อนอก ประจวบคีรีขันธ์                        32. ลพ.อ่อน วัดเพียมาตร ศรีสะเกษ
33. ลพ.จ้วน วัดพระบาทเขาลูกช้าง                               34. ลพ.อุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม
35. ลพ.เนื่อง วัดจุฬามนี                                             36. ลพ.จ้อย วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์
37. ลพ.กี๋ วัดหูช้าง                                                     38. ลพ.สิน วัดกิ่งแก้ว
39. ลพ.ท่อน วัดศรีอภัยวัน จ.เลย                                40. ลพ.เฟื่อง วัดธรรมสถิต ระยอง
41. พระอาจารย์บุญมา วัดสิริสาลวัน หนองบัวลำภู         42. ลป.สาม วัดป่าไตรวิเวก
43. พระอจ.แว่น ธนปาโล วัดสุทธาวาส                         44. พระอจ.บุญ วัดศรีสว่างแดนดิน
45. อจ.ผั่น วัดถ้ำเอราวัณ จ.เลย                                  46. พระอจ.วัน อุตตโม วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม
47. พระอจ.หนู วัดดอยแม่ปั๋ง                                      48. พระอาจารย์ศรี มหาวีโร ร้อยเอ็ด
49. พระอจ.สมชาย วัดเขาสุกิม

คณาจารย์ที่เข้าร่วมพิธีนี้มีทั้งสายพระบ้านและพระป่า
ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น มากันอย่างครบครัน

ในการแยกพิมพ์พระ แยกกันออกเป็นสามพิมพ์ในเหรียญเนื้อทองแดงคือ
1. พิมพ์ปกติ ซึ่งจะหาได้ง่ายที่สุด
2. พิมพ์ด้านหลังบล็อกวงเดือนบน ซึ่งหาได้ยากค่านิยมจะแพงกว่าพิมพ์ปกติกว่าสองเท่าตัว
3. พิมพ์ด้านหลังบล็อกวงเดือนล่าง ซึ่งหาได้ยากที่สุดค่านิยมได้สูงกว่าบล็อกวงเดือนบน

      บันทึกการเข้า

เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ
สำหรับผม
อย่างไรก็ได้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #44 เมื่อ: 10 สิงหาคม 2557, 17:25:51 »

ตี๋

เดี๋ยวนี้เริ่มหายากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเหรียญทองคำ ซึ่งเล่นหากันแสนแพง


      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #45 เมื่อ: 10 สิงหาคม 2557, 17:28:55 »

กำลังฮือฮาในหน้าเว็ปและหนังสือพิมพ์เครือมติชนออนไลน์

โพสต์เฟซตามล่า "เหรียญ10" ผลิตปี 33 ทุ่มจ่ายเหรียญละแสน ชี้ปั๊มออกมาแค่หลักร้อย
วันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 00:17:18 น.

 

ฮือฮา ร้านปาหนันจิวเวลรี่ อ.ปลวกแดง ระยอง ประกาศผ่านเฟซบุ๊กจ่าย 1 แสนบาทรับซื้อเหรียญ 10 บาทรุ่นผลิตปีพ.ศ.2533 หลังลงข้อความเพียงไม่กี่ชั่วโมงต้องปิดมือถือหนี หลังมีคนโทร.เข้านับพันสาย หนุ่มเจ้าของเฟซบุ๊กเผยเป็นเหรียญหายาก สร้างเพียง 100 เหรียญเพื่อไปงานโชว์เหรียญกษาปณ์ที่แคนาดา คาดเหลือกลับไทยไม่ถึง 50 เหรียญ และที่ผ่านมาเคยมีพบไม่เกิน 5 เหรียญ ที่ประกาศรับซื้อเพราะมีใบสั่งจากนักธุรกิจนักสะสมเหรียญกษาปณ์ให้หา แต่ยังไม่พบแม้แต่เหรียญเดียว ยันให้ราคาจริงตามประกาศ


วันที่ 9 ส.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานกระแสฮือฮาในโลกโซเชียลมีเดีย เมื่อเฟซบุ๊กร้านปาหนันจิวเวลรี่ ลงประกาศว่าต้องการรับซื้อเหรียญ 10 บาท รุ่นผลิตปีพ.ศ.2533 ในราคา 1 แสนบาท พร้อมกับบอกเบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้ โดยระบุว่าจะให้ค่านายหน้าแก่ผู้แจ้งเป็นจำนวนเงิน 4 หมื่นบาท ส่วนเจ้าของเหรียญจะได้ 1 แสนบาท ซึ่งเจ้าของร้านยืนยันว่าประกาศรับซื้อจริง อย่างไรก็ตาม ต่อมาได้ลบเบอร์โทร.ออกเพราะไม่สามารถรับโทรศัพท์ที่เข้ามาเป็นจำนวนมากได้ โดยให้ผู้ที่มีเหรียญแจ้งเบอร์ติดต่อกลับไว้ในเมล์บ๊อก แต่ก็ยังมีผู้สนใจติดตามสอบถามในเฟซบุ๊กดังกล่าวอีกจำนวนมาก


วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" เดินทางไปยังร้านปาหนันจิวเวลรี่  ตั้งอยู่ที่ริมถนนสายสุขาภิบาล 1 เลขที่ 391 หมู่ 1 ต.ปลวกแดง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ได้พบกับนายปุญณพัฒน์ สิรเรืองวานิช อายุ 27 ปี เจ้าของร้าน และเจ้าของเฟซบุ๊กปาหนันจิวเวลรี่ เปิดเผยว่า ตนเป็นคนลงข้อความรับซื้อเหรียญดังกล่าวในเฟซบุ๊ก และเป็นเรื่องจริงที่จะรับซื้อเหรียญ 10 บาท ที่สร้างในปีพ.ศ.2533 ในราคา 1 แสนบาท เพราะเหรียญ 10 บาทดังกล่าวสร้างเพียง 100 เหรียญเท่านั้น ที่สร้างน้อยเพราะสร้างเพื่อนำไปแสดงในงานเหรียญกษาปณ์ที่ประเทศแคนาดา และก็ได้แจกให้กับผู้เข้าร่วมงานและเจ้าหน้าที่ไปถึง 50 เหรียญ เหลือกลับมาที่ประเทศไทยเพียง 50 เหรียญ นับเป็นเหรียญที่หายาก และเป็นที่ต้องการของนักสะสมเป็นอย่างมาก โดยที่ผ่านมาเคยมีนักสะสมเหรียญพบไปเพียงไม่เกิน 5 เหรียญ จึงยิ่งทำให้เป็นที่ต้องการมากยิ่งขึ้น ทำให้ราคาสูงกว่าราคาเหรียญหลายเท่าตัว


นายปุญณพัฒน์กล่าวด้วยว่า สำหรับตนเองมีอาชีพรับซื้อทองเก่าและเหรียญเก่า แต่ไม่เคยพบเหรียญ 10 บาท พ.ศ.2533 เลยแม้แต่เหรียญเดียว สำหรับการลงประกาศรับซื้อเนื่องมาจากมีนักสะสมเหรียญซึ่งเป็นนักธุรกิจในระยองได้มาเสนอราคาให้ติดตามหาซื้อเหรียญดังกล่าว เพราะเป็นเหรียญที่หายาก เป็นที่ต้องการของนักสะสมเหรียญทั่วไป การลงประกาศในเฟซบุ๊กก็เพียงต้องการกระจายข่าวไปในวงกว้าง ไม่คิดว่าจะกระแสแรง จนโทรศัพท์สายแทบไหม้ ต้องปิดมือถือ แต่ยืนยันว่าหากผู้ใดมีรับซื้อแน่นอน ขอให้เป็นเหรียญแท้รับเงินสดไปเลย ทั้งนี้ พบว่ามีการนำเหรียญ 10 บาท พ.ศ.2537 มาเจียรเอาหางเลขเจ็ดออกเพื่อให้มองเป็นเลข 3 แต่ก็มีร่องรอยสามารถมองออก จึงฝากเตือนผู้ที่จะรับซื้อต้องสังเกตให้ดี ไม่เช่นนั้นอาจเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ ร้านปาหนันจิวเวลรี่ยังประกาศรับซื้อเหรียญลักษณะพิเศษต่างๆ อาทิ เหรียญบาทปี 2529 รับซื้อราคาเหรียญละ 80 บาท เหรียญ 2 บาท UNC ปี 2550 รับซื้อเหรียญละ 20 บาท เป็นต้น ซึ่งจากการตรวจสอบข่าวดังกล่าวพบว่ามีอีกหลายร้านที่ประกาศรับซื้อเหรียญ 10 บาท ปี 2533 เพื่อนำไปขายต่อให้นักสะสมเหรียญ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเฟซบุ๊กของร้านปาหนันจิวเวลรี่โพสต์ข้อความวันที่ 9 ส.ค. ประกาศว่า "รับแต่เหรียญ 10 ปี 2533 (แบบในรูปเลย) แต่ 32 34 35 +++ไม่รับ เหรียญอะไรก็งดรับก่อนครับ มีเมื่อไหร่ก็โทร.มา ไม่ต้องโทร.มาถามว่าจริงมั้ย ผมยืนยันว่าจริงครับ ระวังอย่าทำปลอมมาเด๋วติดคุก (ปลอมเงินผิดกฎหมาย) ข้อมูลทุกอย่างอยู่ใน Faceหาดูครับ ถ้ามี Inbox เข้ามาดู ผมไปรับถึงที่ครับ ช่วงนี้ขออนุญาตไม่รับโทรศัพท์ครับ...(ขอปิดเครื่องก่อนเครื่องร้อนมาก ส่งรูปส่งเบอร์มาทาง Inbox เด๋วผมโทร.กลับ)"


คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1407604573



      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #46 เมื่อ: 10 สิงหาคม 2557, 17:32:28 »

เป็นเรื่องจริงมานานแล้ว

ที่เหรียญ 10 บาท ปี พ.ศง ๒๕๓๓ หายากมาก เนื่องจากผลิตเพียง 100 อันเพื่อไปร่วมงานนิทรรศการในต่างประเทศ
เนื่องจากปี พ.ศ. ๒๕๓๒ ผลิตมากกว่า 100 ล้านอัน ปีถัดไปจึงไม่จำเป็นต้องผลิตขึ้นมา
แต่ด้วยจะไปโชว์ในงานนิทรรศการเหรียญ จึงปั๊มขึ้นมา 100 อัน
ก่อนหน้าเมื่อ 2 ปีก่อนเคยเสนอขายกันที่ 7,000 บาทเท่านั้น
มาปีนี้ขึ้นราคา เพระาเป็นตัวติด หาไม่ได้ เข้าชุดไม่เต็ม จึงอัพราคาเพื่อหาให้เจอ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #47 เมื่อ: 10 สิงหาคม 2557, 17:35:08 »

เจอปลอมกันมาก จากการเอาเหรียญปี พ.ศ. ๒๕๓๗ ไปลบหางเลข ๗ ให้เหลือเป็นเลข ๓

โดยใช้เครื่องกรอฟันเป็นเครื่องมือลบ แต่ส่องด้วยกล้องส่องพระจะเห็นร่องรอยการลบหางเลข ๗

หากจะซื้อเหรียญทำเทียมนั้นด้วยราคาสัก 100 บาทเพื่อไว้เป็นตัวเปรียบเทียบก็พอทนครับ




เครดิตภาพจากมติชนออนไลน์ครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #48 เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2557, 13:11:59 »

ปีนี้ครับ 100 ปี สงครามโลกครั้งที่ 1
สาเหตุ......
สงครามแห่งความขัดแย้งระดับโลกที่เกิดขึ้นระหว่าง ค.ศ.1914 ถึงค.ศ.1918 ระหว่างฝ่ายพันธมิตรกับฝ่ายมหาอำนาจกลาง

สาเหตุของสงครามโลกครั้งที่1

1.ผลจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม

2.การเกิดลัทธิจักรวรรดินิยม  ชาติมหาอำนาจในยุโรปได้ขยายอำนาจและอิทธิพลออกไปสู่ดินแดนนอกทวีป

3. การเกิดลัทธิชาตินิยม   เป็นความรู้สึกรักและภูมิใจในชาติของตนอย่างรุ่นแรง

4.ปรารถนาจะเห็นชาติของตนมีอำนาจยิ่งใหญ่เหนือชนชาติอื่น  โดยการสร้างกองทัพให้เข้มแข็งรุกรานชนชาติอื่น




อ่านได้ที่..
http://suphannigablog.wordpress.com/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-4/%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-1/
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #49 เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2557, 13:13:45 »

ปีนี้
อังกฤษจัดงานเฉลิมฉลองการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่ 1 ครบ 100 ปี
พร้อมจัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกขึ้น

เหรียญราคา 20 ปอนด์ เป็นเหรียญเงิน
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 [2] 3 4 5  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><