29 พฤศจิกายน 2567, 11:15:18
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1] 2 3  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: สุขภาพต้องดูแล  (อ่าน 33774 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 8 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
wirat
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,415

« เมื่อ: 11 ธันวาคม 2550, 12:33:08 »

พอดีผมไม่ทราบว่ามีใครPost หรือยัง ก็ให้เพื่อนๆอ่าน

Good rest and sound sleep is very
Important... if u don't sleep well,
The toxic in your body will accumulate..
Affecting your health and your mood...
การพักผ่อนที่เพียงพอและการนอนหลับที่ดีเป็นสิ่งที่สำคัญ
ถ้าหากคุณยังมีปัญหาในการนอนหลับ
พิษและของเสียที่อยู่ในร่างกายย่อมจะสะสมและเป็นปัญหาต่อสุขภาพและอารมณ์ของคุณเอง

The main causes of liver damage are:
สาเหตุหลักที่ทำลายตับของคุณคือ

1. Sleeping too late and waking up too late are the primary causes.
นอนดึกและตื่นสายเป็นต้นเหตุลำดับต้น ๆ

2. Not urinating in the morning.
การไม่ปัสสาวะในตอนเช้า

3. Too much eating.
ทานจุเป็นประจำ

4. Skipping breakfast.
ไม่รับประทานอาหารเช้า

5. Consuming too much medication.
บริโภคยามากเกินไป

6. Consuming too much preservatives, additives, food coloring, and artificial sweetener.
บริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของวัตถุกันเสีย สีผสมอาหาร วัตถุปรุงแต่ง และน้ำตาลเทียม

7. Consuming unhealthy cooking oil. As much as possible reduce cooking oil use when frying, which includes even the best cooking oils like olive oil. Do not consume fried foods when you are tired, except if the body is very fit.
บริโภคน้ำมันที่ใช้ทำอาหารซึ่งด้อยคุณภาพและไม่เป็นประโยชน์  ถ้าหากคุณสามารถลดปริมาณการใช้น้ำมันในการทอดอาหารซึ่งรวมถึงการใช้น้ำมันที่ดีที่สุดที่ใช้ทำอาหารเช่นน้ำมันมะกอก จงหลีกเลี่ยงการบริโภคของทอดเมื่อคุณมีอาการเหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลีย ยกเว้นถ้าหากร่างกายคุณฟิต

8. Consuming overly done foods also add to the burden of liver. Veggies should be eaten raw or cooked 3-5 parts. Fried veggies should be finished in one sitting, do not store.
บริโภคอาหารที่ผ่านการปรุงมากเกินไปย่อมสร้างภาระแก่ตับ ผักควรทานสด ๆ หรือผ่านการทำให้สุกเพียง 3-5 ส่วน ผักที่ผ่านการผัดควรจะบริโภคให้หมดในมื้อเดียว อย่าเก็บไว้ทานในมื้ออื่น ๆ

We just have to adopt a good daily lifestyle and eating habits. Maintaining good eating habits and time condition are very important for our body to absorb and get rid of unnecessary chemicals according to "schedule."

เราจะต้องพยายามปรับวิถีการดำเนินชีวิตโดยเฉพาะนิสัยการกิน การปลูกฝังนิสัยการกินที่ดีและดูแลปัจจัยเรื่องเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ร่างกายของเราได้รับประโยชน์และสามารถกำจัดสารที่ไม่เป็นประโยชน์ในร่างกายตามตารางเวลาที่ควรจะเป็น

Because:
เพราะ

Evening at 9 - 11pm :  is the time for eliminating unnecessary/ toxic chemicals (de-toxification) from the antibody system (lymph nodes). This time duration should be spent by relaxing or listening to music. If during this time a housewife is still in an unrelaxed state such as washing the dishes or monitoring children doing their homework, this will have a negative impact on her health.
ช่วงเวลากลางคืน 3 ทุ่ม - 5 ทุ่ม : เป็นระยะเวลาที่ร่างกายจะกำจัดสารพิษต่าง ๆ โดยระบบต่อต้านเชื้อโรคในร่างกาย (ระบบหมุนเวียนของน้ำเหลืองในร่างกาย) ช่วงเวลานี้ควรจะต้องถูกใช้ไปในการพักผ่อนหรือผ่อนคลายด้วยการฟังดนตรี  ถ้าหากช่วงเวลานี้แม่บ้านยังคงวุ่นอยู่กับงานบ้านเช่นล้างจานหรือดูและเด็กให้ทำการบ้าน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะเป็นผลลบต่อร่างกาย

Evening at 11pm - 1am :  The de-toxification process in the liver, and ideally should be done in a deep sleep state. Early morning 1 - 3am : de-toxification process in the gall, also ideally done in a deep sleep state.
ช่วงเวลากลางคืน 5 ทุ่ม - ตี 1 : กระบวนการกำจัดสารพิษในตับ และแน่นอนควรจะต้องอยู่ในช่วงการนอนหลับสนิท ในช่วงเช้าระหว่างเวลาตี 1 ถึง ตี 3 นั้น กระบวนการกำจัดสารพิษในน้ำดีก็ควรจะเป็นช่วงแห่งการนอนหลับสนิทเช่นกัน

Early morning 3 - 5am :  de-toxification in the lungs. Therefore there will sometimes be a severe cough for cough sufferers during this time. Since the de-toxification process had reached the respiratory tract, there is no need to take cough medicine so as not to interfere with toxin removal process.
ช่วงเวลาตี 1 - ตี 3 : การกำจัดสารพิษในปอด เพราะฉนั้นอาจจะมีอาการไออย่างรุนแรงสำหรับผู้ที่มีปัญหาการไอในช่วงเวลาดังกล่าว ตอนนี้กระบวนการกำจัดสารพิษจะเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจแล้ว และก็ไม่จำเป็นที่คุณจะใช้ยาแก้ไอเพื่อที่จะได้ไม่ไปขัดขวางขั้นตอนการกำจัดสารพิษในร่างกาย

Morning 5 - 7am :  de-toxification in the colon, you should empty your bowel.
ช่วงเช้า ตี 5 - 7 โมงเช้า : การกำจัดสารพิษในปลายลำไส้ใหญ่ ก็ถึงเวลาที่จะต้องทำให้พุงและลำไส้ของคุณว่างลง

Morning 7 - 9am :  Absorption of nutrients in the small intestine, you should be having breakfast at this time. Breakfast should be earlier, before 6:30am, for those who are sick. Breakfast before 7:30am is very beneficial to those wanting to stay fit. Those who always skip breakfast, they should change their habits, and it is still better to eat breakfast late until 9 -10am rather than no meal at all. Sleeping so late and waking up too late will disrupt the process of removing unnecessary chemicals. Aside from that, midnight to 4am is the time when the bone marrow produces blood.
ช่วงเช้า 7 - 9 โมงเช้า : การดูดซึมสารอาหารสู่ลำไส้เล็ก คุณควรจะต้องทานอาหารเช้าในช่วงเวลานี้ อาหารเช้าควรจะก่อน 6.30 น. สำหรับผู้ป่วย อาหารเช้าที่ทานก่อน 7.30 น. นั้นดีต่อผู้ที่ต้องการมีร่างกายสุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ ผู้ใดที่ไม่ทานอาหารเช้าตลอดเวลาควรจะต้องรีบเปลี่ยนพฤติกรรมนี้เสีย และการทานอาหารเช้าในช่วงสายตั้งแต่ 9 - 10 น. ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรลงไปในท้องเลย  การนอนดึกตื่นสายนั้นเป็นปัญหาต่อกระบวนการทำลายของเสียในร่างหาย นอกจากนั้นช่วงเที่ยงคืนถึงตี 4 ก็ยังเป็นเวลาที่ร่างกายผลิตเลือด


Therefore, have a good sleep and don't sleep late.
เพราะฉนั้น อย่านอนดึกและอย่านอนตื่นสาย


Sharing Is Caring!
การแบ่งปันเป็นการแสดงความห่วงใย


Live Well & Worry Less.
ขอให้มีสุขภาพดีและไม่มีความกังวล
บันทึกการเข้า
wirat
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,415

« ตอบ #1 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2550, 12:34:30 »

แย่จัง  นอนคนเดียวไม่ค่อยหลับ ทำไงดี สารพิษตกค้างเยอะ มิน่าดูตัวเองชั่วจัง

ป้อม
บันทึกการเข้า
Pae
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,047

« ตอบ #2 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2550, 16:54:17 »

อ้างจาก: "wirat"
แย่จัง  นอนคนเดียวไม่ค่อยหลับ ทำไงดี สารพิษตกค้างเยอะ มิน่าดูตัวเองชั่วจัง

ป้อม


เข้าห้องน้ำไปปล่อยสารพิษออกซิ จะได้หลับสบาย
บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #3 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2550, 17:08:19 »

MAke you pant wet in your bed...that is young!!
p.nn
บันทึกการเข้า


wirat
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,415

« ตอบ #4 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2550, 17:33:42 »

Sorry P'NN ,I keeping dry due to nothing to wear

ป้อม

ต้อนรับครับเป้
บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2550, 22:05:21 »

where is Nong Pae??
back to Thailand ?
or back to Indonesia??
p.nn
บันทึกการเข้า


Pae
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,047

« ตอบ #6 เมื่อ: 12 ธันวาคม 2550, 08:10:37 »

อ้างจาก: "khesorn mueller"
where is Nong Pae??
back to Thailand ?
or back to Indonesia??
p.nn


ตอนนี้ ตกงาน นั่งเฝ้า ออฟฟิศ อยู่ที่ กทม ครับผม
บันทึกการเข้า
yai
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,489

« ตอบ #7 เมื่อ: 12 ธันวาคม 2550, 08:42:28 »

เป้ ไม่ไปอินโดแล้วหรือ อย่าบอกนะว่าถ่านหมดหรือเปลี่ยนหน้าที่ใหม่
บันทึกการเข้า
เจษฎา
Cmadong พันธุ์แท้
****


the more you get ,the less you feel
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,682

« ตอบ #8 เมื่อ: 12 ธันวาคม 2550, 08:43:39 »

สังเกตดูพระผู้ใหญ่ที่ฉันน้อยๆ เพื่อประทังชีวิตจะแข็งแรงอายุยืนยาวไม่ค่อยมีโรคภัยอะไร
บันทึกการเข้า

ไม่หล่อ แต่ไม่ค่อยว่าง
Pae
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,047

« ตอบ #9 เมื่อ: 12 ธันวาคม 2550, 10:54:45 »

อ้างจาก: "yai"
เป้ ไม่ไปอินโดแล้วหรือ อย่าบอกนะว่าถ่านหมดหรือเปลี่ยนหน้าที่ใหม่


น้อยใจที่ไม่ได้หุ้นที่อินโด เลยขอพักถึงปีใหม่ ฮ่าๆ
บันทึกการเข้า
akenui
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 3,092

« ตอบ #10 เมื่อ: 12 ธันวาคม 2550, 20:54:54 »

" หากช่วงเวลานี้แม่บ้านยังคงวุ่นอยู่กับงานบ้านเช่นล้างจานหรือดูและเด็กให้ทำการบ้าน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะเป็นผลลบต่อร่างกาย  " สงสัยต้องงดการบ้านตอนกลางคืน ไปลอกตอนเช้าแทน (เหมือนตอนเรียนหนังสือ ม.ต้น)


ฮามั้ยว่ะ
//เสือนุ้ยนุ้ย//
บันทึกการเข้า

สุดจะทน ก็ต้องทน
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #11 เมื่อ: 12 ธันวาคม 2550, 21:25:54 »

อ้างจาก: "เจษฎา หรร"
สังเกตดูพระผู้ใหญ่ที่ฉันน้อยๆ เพื่อประทังชีวิตจะแข็งแรงอายุยืนยาวไม่ค่อยมีโรคภัยอะไร

Nong Jess,
I read about the secret of long living of the eldest people in Japan...their secret is not really a secret...movement,less meal,no meat(or at least less)and in the fresh air...simple but not easy to do,right??
p.nn
บันทึกการเข้า


เจษฎา
Cmadong พันธุ์แท้
****


the more you get ,the less you feel
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,682

« ตอบ #12 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2550, 06:58:09 »

ไม่ยากครับพี่ แต่เราจะอยู่นานๆไปเพื่ออะไร
บันทึกการเข้า

ไม่หล่อ แต่ไม่ค่อยว่าง
yai
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,489

« ตอบ #13 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2550, 16:36:03 »

อยู่นาน ๆ เพื่อเป็นที่ยึดมั่นทางใจของลูกหลาน (สาธุ)
บันทึกการเข้า
wirat
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,415

« ตอบ #14 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2550, 13:05:10 »

เจษ,ถ้าคนที่ไม่อยากให้อยู่นานคือคนข้างๆและก็   เห็นด้วย99 %
ป้อม
บันทึกการเข้า
Pae
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,047

« ตอบ #15 เมื่อ: 20 มกราคม 2551, 20:33:31 »

อารมณ์กับการออกกำลังกาย...  

อย่าปล่อยให้อารมณ์ของคุณ-ไม่ว่าดีหรือร้าย มาบ่อนทำลายการออกกำลังกายของคุณ
ไม่ว่าคุณจะชอบออกกำลังกายแค่ไหน มันอาจจะยากที่จะลุกไปเข้าคลาสแอโรบิก ขณะที่มีเรื่องวุ่นๆ ในที่ทำงานหรือแม่ของคุณกำลังป่วย แต่การศึกษาวิจัย แสดงให้เห็นว่าแม้กระ
ทั่งการออกกำลังกายแบบเบาๆ ก็สามารถทำให้อารมณ์ของคุณดีขึ้นได้

"คนจำนวนมากงดการออกกำลังกายในเวลาอารมณ์ไม่ค่อยดี เพราะไม่มีกำลังใจพอ" ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกายและสุขภาพจิต ดร.แจ็ค แรคลิน แห่งมหาวิทยาลัยอินเดียน่าบอก "เคล็ดลับอยู่ที่การหาการออกกำลังกายที่เหมาะกับอารมณ์ของคุณในช่วงนั้นๆ" ต่อไปนี้ คือ
คำแนะนำในการรักษาการออกกำลังกายเอาไว้ให้ได้ ไม่ว่าภาวะจิตใจของคุณจะเป็นอย่างไรก็ตาม
 
 
@ เวลาที่คุณโกรธ @

ถึงแม้คุณอาจจะอยากระบายออก แต่งดการออกกำลังอย่าง เช่น คิกบ๊อกซิ่งเอาไว้จะดีกว่า เพราะคุณไม่อาจปลดปล่อยความโกรธออกจากตัวได้ด้วยการชกต่อย ลองทำอะไรบางอย่างที่ต้องใช้สมาธิ และทำให้คุณเลิกใส่ใจในสิ่งที่ทำให้คุณโกรธแทน เช่น เข้าคลาสแอโรบิกที่คุณไม่เคยลองมาก่อน การเรียนรู้ท่าเต้นใหม่ๆ จะเบี่ยงเบนจิตใจคุณไปจากสิ่งที่ทำให้คุณโกรธได้

 
 
@ เวลาที่คุณซึมเศร้า @การศึกษาแสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายแบบเบาๆ ราว 40% ของอัตราการเต้นของหัวใจ จะทำให้อารมณ์คุณสดชื่นแจ่มใสขึ้นได้ ฉะนั้น ถ้าคุณไม่อยากทำอะไรที่ต้องใช้พลังงานเยอะๆ ลองทำกิจกรรมเพลินๆ ที่คุณชอบ เช่น ปลูกต้นไม้ หรือไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ เพื่อผ่อนคลายจิตใจ และยังได้ออกกำลังกายด้วย
 
 
@ เวลาที่คุณรู้สึกเบื่อ @

การอยู่กับคนอื่นเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วในการเอาชนะความเบื่อ การเล่นกีฬากับคนอื่นยิ่งดีกว่า
เช่น เล่นเทนนิสหรือกอล์ฟ หรือเข้าร่วมกลุ่มคนที่เดินหรือขี่จักรยานเป็นประจำ การได้อยู่กลางแจ้งกับคนอื่นทำให้กระตือรือร้นและทำให้คุณไม่เบื่อ

 
 
@ เวลาที่คุณเครียด @

เมื่อสมองเต็มตื้อและวิตกกังวล คุณจำต้องเปลี่ยนไปสู่กิจกรรมที่ไม่ต้องใช้ความคิด เพื่อทำให้มันสงบลง การทำอะไรซ้ำๆ อย่างเช่น ว่ายน้ำ หรือเดินบนลู่ไฟฟ้าแทบไม่ต้องใช้ความคิด มันจึงมีประสิทธิภาพอย่างมากในการลดความรู้สึกเครียด และเพิ่มความสงบ
 
 
@ เวลาที่คุณมีความสุข @

อารมณ์อิ่มสุขอาจทำให้การออกกำลังกายเป๋ได้ง่ายพอๆ กับความเศร้า ลองใช้ประโยชน์จากอารมณ์แจ่มใสของคุณ ในการออกไปข้างนอกและท้าทายตัวเองให้มากขึ้น ดูสิคุณสามารถวิ่งได้ไกลกว่าเดิมมั้ย หรือยกน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกเซ็ตได้หรือเปล่า ใช้พลังงานที่มีเพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกดีกว่าเดิม

ขอบคุณที่มา:นิตยสารลิซ่า
บันทึกการเข้า
iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 20 มกราคม 2551, 20:41:35 »

อ้างจาก: "wirat"
แย่จัง  นอนคนเดียวไม่ค่อยหลับ ทำไงดี สารพิษตกค้างเยอะ มิน่าดูตัวเองชั่วจัง

ป้อม


หุหุ...ไหงรีบฆ่าตัวเองตายซะงั้นล่ะคะ...ฮ่าๆๆ ขอบคุณนะคะที่เอาสิ่งดีๆ มาฝากนอกจากมุขต่างๆ ที่เอามาร้อยจนตั้งบูทขายได้ละ อิอิ  :lol:
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

BU_MEE
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #17 เมื่อ: 20 มกราคม 2551, 22:38:01 »

wirat พิมพ์ว่าพอดีผมไม่ทราบว่ามีใครPost หรือยัง ก็ให้เพื่อนๆอ่าน

Good rest and sound sleep is very
Important... if u don't sleep well,
The toxic in your body will accumulate..
Affecting your health and your mood...
การพักผ่อนที่เพียงพอและการนอนหลับที่ดีเป็นสิ่งที่สำคัญ
ถ้าหากคุณยังมีปัญหาในการนอนหลับ
พิษและของเสียที่อยู่ในร่างกายย่อมจะสะสมและเป็นปัญหาต่อสุขภาพและอารมณ์ของคุณเอง

The main causes of liver damage are:
สาเหตุหลักที่ทำลายตับของคุณคือ

1. Sleeping too late and waking up too late are the primary causes.
นอนดึกและตื่นสายเป็นต้นเหตุลำดับต้น ๆ

....หมีไม่เป็นไร หมีนอนดึกตื่นเช้าค่ะ อิ อิ

2. Not urinating in the morning.
การไม่ปัสสาวะในตอนเช้า

...หมี  ตื่นปึ๊ป อาบน้ำ แต่งตัว ไม่ถึง 10 นาที ไปทำงานเลยฮิ

3. Too much eating.
ทานจุเป็นประจำ

...........ก้อหมีอยากทานนี่นา...

4. Skipping breakfast.
ไม่รับประทานอาหารเช้า

.....หมีรับประทานอาหารเช้าเป็นประจำค่ะ  กาแฟดำไม่ใส่ครีม ไม่ใส่น้ำตาล กับผลไม้ 1 อย่าง อิ อิ ปลอดโรคแล้วเรา.......

5. Consuming too much medication.
บริโภคยามากเกินไป

.........หมีกินยาไม่มากหรอก  แค่ทานยาแก้ปวดไมเกรน กับพาราเซตามอลเกือบทุกสัปดาห์เท่านั้นเอง


6. Consuming too much preservatives, additives, food coloring, and artificial sweetener.
บริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของวัตถุกันเสีย สีผสมอาหาร วัตถุปรุงแต่ง และน้ำตาลเทียม

....หมีทาน PEPSI MAX  กับนมเป็นประจำ   คงลดอาการความเสี่ยงของโรคได้เน๊อะ


7. Consuming unhealthy cooking oil. As much as possible reduce cooking oil use when frying, which includes even the best cooking oils like olive oil. Do not consume fried foods when you are tired, except if the body is very fit.
บริโภคน้ำมันที่ใช้ทำอาหารซึ่งด้อยคุณภาพและไม่เป็นประโยชน์  ถ้าหากคุณสามารถลดปริมาณการใช้น้ำมันในการทอดอาหารซึ่งรวมถึงการใช้น้ำมันที่ดีที่สุดที่ใช้ทำอาหารเช่นน้ำมันมะกอก จงหลีกเลี่ยงการบริโภคของทอดเมื่อคุณมีอาการเหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลีย ยกเว้นถ้าหากร่างกายคุณฟิต

..........น้ำมันมะกอกมาน น น น แพงแสนแพงน่ะ

8. Consuming overly done foods also add to the burden of liver. Veggies should be eaten raw or cooked 3-5 parts. Fried veggies should be finished in one sitting, do not store.
บริโภคอาหารที่ผ่านการปรุงมากเกินไปย่อมสร้างภาระแก่ตับ ผักควรทานสด ๆ หรือผ่านการทำให้สุกเพียง 3-5 ส่วน ผักที่ผ่านการผัดควรจะบริโภคให้หมดในมื้อเดียว อย่าเก็บไว้ทานในมื้ออื่น ๆ

...........ก้อเวลาเร่งรีบ อาหารต้องซื้อมาแช่ตู้เย็นไว้แล้วค่อยเอามารับประทานวันหลัง...


We just have to adopt a good daily lifestyle and eating habits. Maintaining good eating habits and time condition are very important for our body to absorb and get rid of unnecessary chemicals according to "schedule."

เราจะต้องพยายามปรับวิถีการดำเนินชีวิตโดยเฉพาะนิสัยการกิน การปลูกฝังนิสัยการกินที่ดีและดูแลปัจจัยเรื่องเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ร่างกายของเราได้รับประโยชน์และสามารถกำจัดสารที่ไม่เป็นประโยชน์ในร่างกายตามตารางเวลาที่ควรจะเป็น

Because:
เพราะ

Evening at 9 - 11pm :  is the time for eliminating unnecessary/ toxic chemicals (de-toxification) from the antibody system (lymph nodes). This time duration should be spent by relaxing or listening to music. If during this time a housewife is still in an unrelaxed state such as washing the dishes or monitoring children doing their homework, this will have a negative impact on her health.
ช่วงเวลากลางคืน 3 ทุ่ม - 5 ทุ่ม : เป็นระยะเวลาที่ร่างกายจะกำจัดสารพิษต่าง ๆ โดยระบบต่อต้านเชื้อโรคในร่างกาย (ระบบหมุนเวียนของน้ำเหลืองในร่างกาย) ช่วงเวลานี้ควรจะต้องถูกใช้ไปในการพักผ่อนหรือผ่อนคลายด้วยการฟังดนตรี  ถ้าหากช่วงเวลานี้แม่บ้านยังคงวุ่นอยู่กับงานบ้านเช่นล้างจานหรือดูและเด็กให้ทำการบ้าน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะเป็นผลลบต่อร่างกาย

.........หมีไม่ต้องทำงานบ้านและดูแลเด็ก  แต่งานหมีไม่เสร็จก็ต้องทำสิ ไม่งั้นไม่มีตังค์ซื้อข้าวกินฮิ

Evening at 11pm - 1am :  The de-toxification process in the liver, and ideally should be done in a deep sleep state. Early morning 1 - 3am : de-toxification process in the gall, also ideally done in a deep sleep state.
ช่วงเวลากลางคืน 5 ทุ่ม - ตี 1 : กระบวนการกำจัดสารพิษในตับ และแน่นอนควรจะต้องอยู่ในช่วงการนอนหลับสนิท ในช่วงเช้าระหว่างเวลาตี 1 ถึง ตี 3 นั้น กระบวนการกำจัดสารพิษในน้ำดีก็ควรจะเป็นช่วงแห่งการนอนหลับสนิทเช่นกัน

............มันกังวล ต้องส่งงานให้ทัน แล้วจะให้ทำอย่างไรคะ

Early morning 3 - 5am :  de-toxification in the lungs. Therefore there will sometimes be a severe cough for cough sufferers during this time. Since the de-toxification process had reached the respiratory tract, there is no need to take cough medicine so as not to interfere with toxin removal process.
ช่วงเวลาตี 1 - ตี 3 : การกำจัดสารพิษในปอด เพราะฉนั้นอาจจะมีอาการไออย่างรุนแรงสำหรับผู้ที่มีปัญหาการไอในช่วงเวลาดังกล่าว ตอนนี้กระบวนการกำจัดสารพิษจะเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจแล้ว และก็ไม่จำเป็นที่คุณจะใช้ยาแก้ไอเพื่อที่จะได้ไม่ไปขัดขวางขั้นตอนการกำจัดสารพิษในร่างกาย

Morning 5 - 7am :  de-toxification in the colon, you should empty your bowel.
ช่วงเช้า ตี 5 - 7 โมงเช้า : การกำจัดสารพิษในปลายลำไส้ใหญ่ ก็ถึงเวลาที่จะต้องทำให้พุงและลำไส้ของคุณว่างลง

Morning 7 - 9am :  Absorption of nutrients in the small intestine, you should be having breakfast at this time. Breakfast should be earlier, before 6:30am, for those who are sick. Breakfast before 7:30am is very beneficial to those wanting to stay fit. Those who always skip breakfast, they should change their habits, and it is still better to eat breakfast late until 9 -10am rather than no meal at all. Sleeping so late and waking up too late will disrupt the process of removing unnecessary chemicals. Aside from that, midnight to 4am is the time when the bone marrow produces blood.
ช่วงเช้า 7 - 9 โมงเช้า : การดูดซึมสารอาหารสู่ลำไส้เล็ก คุณควรจะต้องทานอาหารเช้าในช่วงเวลานี้ อาหารเช้าควรจะก่อน 6.30 น. สำหรับผู้ป่วย อาหารเช้าที่ทานก่อน 7.30 น. นั้นดีต่อผู้ที่ต้องการมีร่างกายสุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ ผู้ใดที่ไม่ทานอาหารเช้าตลอดเวลาควรจะต้องรีบเปลี่ยนพฤติกรรมนี้เสีย และการทานอาหารเช้าในช่วงสายตั้งแต่ 9 - 10 น. ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรลงไปในท้องเลย  การนอนดึกตื่นสายนั้นเป็นปัญหาต่อกระบวนการทำลายของเสียในร่างหาย นอกจากนั้นช่วงเที่ยงคืนถึงตี 4 ก็ยังเป็นเวลาที่ร่างกายผลิตเลือด


Therefore, have a good sleep and don't sleep late.
เพราะฉนั้น อย่านอนดึกและอย่านอนตื่นสาย


..........หมีนอนดึกตื่นเช้าค่ะท่าน

Sharing Is Caring!
การแบ่งปันเป็นการแสดงความห่วงใย


Live Well & Worry Less.
ขอให้มีสุขภาพดีและไม่มีความกังวล
บันทึกการเข้า
BU_MEE
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #18 เมื่อ: 20 มกราคม 2551, 22:41:29 »

อ้างจาก: "เจษฎา หรร"
ไม่ยากครับพี่ แต่เราจะอยู่นานๆไปเพื่ออะไร


หมีขออยู่ถึงแค่อายุ 60 ปีก้อพอค่ะ...เกินกว่านั้นไม่มีตังค์จองบ้านพักคนชรา

ป้าหมี แอ๊บเด็ก
บันทึกการเข้า
akenui
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 3,092

« ตอบ #19 เมื่อ: 21 มกราคม 2551, 08:20:24 »

อ้างจาก: "BU_MEE"
อ้างจาก: "เจษฎา หรร"
ไม่ยากครับพี่ แต่เราจะอยู่นานๆไปเพื่ออะไร


หมีขออยู่ถึงแค่อายุ 60 ปีก้อพอค่ะ...เกินกว่านั้นไม่มีตังค์จองบ้านพักคนชรา

ป้าหมี แอ๊บเด็ก

อย่าไปตั้งเป้าเลยหมี ทำวันนี้ให้ดีทีสุดพอครับ
ส่วนตัว ผมไม่เคยตั้งเป้า เช่น ต้องทำรายได้ให้ได้ เท่าไหร่ต่อ ปี นะ
บันทึกการเข้า

สุดจะทน ก็ต้องทน
yai
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,489

« ตอบ #20 เมื่อ: 21 มกราคม 2551, 09:46:44 »

อ้างจาก: "akenui"
อ้างจาก: "BU_MEE"
อ้างจาก: "เจษฎา หรร"
ไม่ยากครับพี่ แต่เราจะอยู่นานๆไปเพื่ออะไร


หมีขออยู่ถึงแค่อายุ 60 ปีก้อพอค่ะ...เกินกว่านั้นไม่มีตังค์จองบ้านพักคนชรา

ป้าหมี แอ๊บเด็ก

อย่าไปตั้งเป้าเลยหมี ทำวันนี้ให้ดีทีสุดพอครับ
ส่วนตัว ผมไม่เคยตั้งเป้า เช่น ต้องทำรายได้ให้ได้ เท่าไหร่ต่อ ปี นะ


เป้าอย่างอื่นต้องมีบ้างแหละ
เช่น อยากมีกิ๊ก , อยากถ่ายรุปสวย ๆ (เป้าระยะสั้น)

ซีเรียสนะเนี่ยะ
บันทึกการเข้า
BU_MEE
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #21 เมื่อ: 21 มกราคม 2551, 10:02:19 »

อ้างจาก: "yai"
อ้างจาก: "akenui"
อ้างจาก: "BU_MEE"
อ้างจาก: "เจษฎา หรร"
ไม่ยากครับพี่ แต่เราจะอยู่นานๆไปเพื่ออะไร


หมีขออยู่ถึงแค่อายุ 60 ปีก้อพอค่ะ...เกินกว่านั้นไม่มีตังค์จองบ้านพักคนชรา

ป้าหมี แอ๊บเด็ก

อย่าไปตั้งเป้าเลยหมี ทำวันนี้ให้ดีทีสุดพอครับ
ส่วนตัว ผมไม่เคยตั้งเป้า เช่น ต้องทำรายได้ให้ได้ เท่าไหร่ต่อ ปี นะ


เป้าอย่างอื่นต้องมีบ้างแหละ
เช่น อยากมีกิ๊ก , อยากถ่ายรุปสวย ๆ (เป้าระยะสั้น)

ซีเรียสนะเนี่ยะ


คุณป้าของน้องต้นหอม  คิดถึงน้องต้นหอมและคุณแม่จัง
บันทึกการเข้า
wirat
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,415

« ตอบ #22 เมื่อ: 21 มกราคม 2551, 10:20:11 »

อ้างจาก: "Pae"
อารมณ์กับการออกกำลังกาย...  

อย่าปล่อยให้อารมณ์ของคุณ-ไม่ว่าดีหรือร้าย มาบ่อนทำลายการออกกำลังกายของคุณ
ไม่ว่าคุณจะชอบออกกำลังกายแค่ไหน มันอาจจะยากที่จะลุกไปเข้าคลาสแอโรบิก ขณะที่มีเรื่องวุ่นๆ ในที่ทำงานหรือแม่ของคุณกำลังป่วย แต่การศึกษาวิจัย แสดงให้เห็นว่าแม้กระ
ทั่งการออกกำลังกายแบบเบาๆ ก็สามารถทำให้อารมณ์ของคุณดีขึ้นได้

"คนจำนวนมากงดการออกกำลังกายในเวลาอารมณ์ไม่ค่อยดี เพราะไม่มีกำลังใจพอ" ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกายและสุขภาพจิต ดร.แจ็ค แรคลิน แห่งมหาวิทยาลัยอินเดียน่าบอก "เคล็ดลับอยู่ที่การหาการออกกำลังกายที่เหมาะกับอารมณ์ของคุณในช่วงนั้นๆ" ต่อไปนี้ คือ
คำแนะนำในการรักษาการออกกำลังกายเอาไว้ให้ได้ ไม่ว่าภาวะจิตใจของคุณจะเป็นอย่างไรก็ตาม
 
 
@ เวลาที่คุณโกรธ @

ถึงแม้คุณอาจจะอยากระบายออก แต่งดการออกกำลังอย่าง เช่น คิกบ๊อกซิ่งเอาไว้จะดีกว่า เพราะคุณไม่อาจปลดปล่อยความโกรธออกจากตัวได้ด้วยการชกต่อย ลองทำอะไรบางอย่างที่ต้องใช้สมาธิ และทำให้คุณเลิกใส่ใจในสิ่งที่ทำให้คุณโกรธแทน เช่น เข้าคลาสแอโรบิกที่คุณไม่เคยลองมาก่อน การเรียนรู้ท่าเต้นใหม่ๆ จะเบี่ยงเบนจิตใจคุณไปจากสิ่งที่ทำให้คุณโกรธได้

 
 
@ เวลาที่คุณซึมเศร้า @การศึกษาแสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายแบบเบาๆ ราว 40% ของอัตราการเต้นของหัวใจ จะทำให้อารมณ์คุณสดชื่นแจ่มใสขึ้นได้ ฉะนั้น ถ้าคุณไม่อยากทำอะไรที่ต้องใช้พลังงานเยอะๆ ลองทำกิจกรรมเพลินๆ ที่คุณชอบ เช่น ปลูกต้นไม้ หรือไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ เพื่อผ่อนคลายจิตใจ และยังได้ออกกำลังกายด้วย
 
 
@ เวลาที่คุณรู้สึกเบื่อ @

การอยู่กับคนอื่นเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วในการเอาชนะความเบื่อ การเล่นกีฬากับคนอื่นยิ่งดีกว่า
เช่น เล่นเทนนิสหรือกอล์ฟ หรือเข้าร่วมกลุ่มคนที่เดินหรือขี่จักรยานเป็นประจำ การได้อยู่กลางแจ้งกับคนอื่นทำให้กระตือรือร้นและทำให้คุณไม่เบื่อ

 
 
@ เวลาที่คุณเครียด @

เมื่อสมองเต็มตื้อและวิตกกังวล คุณจำต้องเปลี่ยนไปสู่กิจกรรมที่ไม่ต้องใช้ความคิด เพื่อทำให้มันสงบลง การทำอะไรซ้ำๆ อย่างเช่น ว่ายน้ำ หรือเดินบนลู่ไฟฟ้าแทบไม่ต้องใช้ความคิด มันจึงมีประสิทธิภาพอย่างมากในการลดความรู้สึกเครียด และเพิ่มความสงบ
 
 
@ เวลาที่คุณมีความสุข @

อารมณ์อิ่มสุขอาจทำให้การออกกำลังกายเป๋ได้ง่ายพอๆ กับความเศร้า ลองใช้ประโยชน์จากอารมณ์แจ่มใสของคุณ ในการออกไปข้างนอกและท้าทายตัวเองให้มากขึ้น ดูสิคุณสามารถวิ่งได้ไกลกว่าเดิมมั้ย หรือยกน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกเซ็ตได้หรือเปล่า ใช้พลังงานที่มีเพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกดีกว่าเดิม

ขอบคุณที่มา:นิตยสารลิซ่า


เป้ เวลาผม แอ๊บแบ๊ว ทำไง ว่ะ
บันทึกการเข้า
yai
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,489

« ตอบ #23 เมื่อ: 21 มกราคม 2551, 10:45:25 »

อ้างจาก: "wirat"
อ้างจาก: "Pae"
อารมณ์กับการออกกำลังกาย...  

อย่าปล่อยให้อารมณ์ของคุณ-ไม่ว่าดีหรือร้าย มาบ่อนทำลายการออกกำลังกายของคุณ
ไม่ว่าคุณจะชอบออกกำลังกายแค่ไหน มันอาจจะยากที่จะลุกไปเข้าคลาสแอโรบิก ขณะที่มีเรื่องวุ่นๆ ในที่ทำงานหรือแม่ของคุณกำลังป่วย แต่การศึกษาวิจัย แสดงให้เห็นว่าแม้กระ
ทั่งการออกกำลังกายแบบเบาๆ ก็สามารถทำให้อารมณ์ของคุณดีขึ้นได้

"คนจำนวนมากงดการออกกำลังกายในเวลาอารมณ์ไม่ค่อยดี เพราะไม่มีกำลังใจพอ" ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกายและสุขภาพจิต ดร.แจ็ค แรคลิน แห่งมหาวิทยาลัยอินเดียน่าบอก "เคล็ดลับอยู่ที่การหาการออกกำลังกายที่เหมาะกับอารมณ์ของคุณในช่วงนั้นๆ" ต่อไปนี้ คือ
คำแนะนำในการรักษาการออกกำลังกายเอาไว้ให้ได้ ไม่ว่าภาวะจิตใจของคุณจะเป็นอย่างไรก็ตาม
 
 
@ เวลาที่คุณโกรธ @

ถึงแม้คุณอาจจะอยากระบายออก แต่งดการออกกำลังอย่าง เช่น คิกบ๊อกซิ่งเอาไว้จะดีกว่า เพราะคุณไม่อาจปลดปล่อยความโกรธออกจากตัวได้ด้วยการชกต่อย ลองทำอะไรบางอย่างที่ต้องใช้สมาธิ และทำให้คุณเลิกใส่ใจในสิ่งที่ทำให้คุณโกรธแทน เช่น เข้าคลาสแอโรบิกที่คุณไม่เคยลองมาก่อน การเรียนรู้ท่าเต้นใหม่ๆ จะเบี่ยงเบนจิตใจคุณไปจากสิ่งที่ทำให้คุณโกรธได้

 
 
@ เวลาที่คุณซึมเศร้า @การศึกษาแสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายแบบเบาๆ ราว 40% ของอัตราการเต้นของหัวใจ จะทำให้อารมณ์คุณสดชื่นแจ่มใสขึ้นได้ ฉะนั้น ถ้าคุณไม่อยากทำอะไรที่ต้องใช้พลังงานเยอะๆ ลองทำกิจกรรมเพลินๆ ที่คุณชอบ เช่น ปลูกต้นไม้ หรือไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ เพื่อผ่อนคลายจิตใจ และยังได้ออกกำลังกายด้วย
 
 
@ เวลาที่คุณรู้สึกเบื่อ @

การอยู่กับคนอื่นเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วในการเอาชนะความเบื่อ การเล่นกีฬากับคนอื่นยิ่งดีกว่า
เช่น เล่นเทนนิสหรือกอล์ฟ หรือเข้าร่วมกลุ่มคนที่เดินหรือขี่จักรยานเป็นประจำ การได้อยู่กลางแจ้งกับคนอื่นทำให้กระตือรือร้นและทำให้คุณไม่เบื่อ

 
 
@ เวลาที่คุณเครียด @

เมื่อสมองเต็มตื้อและวิตกกังวล คุณจำต้องเปลี่ยนไปสู่กิจกรรมที่ไม่ต้องใช้ความคิด เพื่อทำให้มันสงบลง การทำอะไรซ้ำๆ อย่างเช่น ว่ายน้ำ หรือเดินบนลู่ไฟฟ้าแทบไม่ต้องใช้ความคิด มันจึงมีประสิทธิภาพอย่างมากในการลดความรู้สึกเครียด และเพิ่มความสงบ
 
 
@ เวลาที่คุณมีความสุข @

อารมณ์อิ่มสุขอาจทำให้การออกกำลังกายเป๋ได้ง่ายพอๆ กับความเศร้า ลองใช้ประโยชน์จากอารมณ์แจ่มใสของคุณ ในการออกไปข้างนอกและท้าทายตัวเองให้มากขึ้น ดูสิคุณสามารถวิ่งได้ไกลกว่าเดิมมั้ย หรือยกน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกเซ็ตได้หรือเปล่า ใช้พลังงานที่มีเพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกดีกว่าเดิม

ขอบคุณที่มา:นิตยสารลิซ่า


เป้ เวลาผม แอ๊บแบ๊ว ทำไง ว่ะ


ผมนึกถึงรูปคุณหัวฟู ๆ ตอนถ่ายที่ปากี (หรือที่ไหน)
แอ๊บ พอไหม  :lol:
บันทึกการเข้า
Pae
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,047

« ตอบ #24 เมื่อ: 21 มกราคม 2551, 10:59:19 »

อ้างจาก: "yai"
อ้างจาก: "akenui"
อ้างจาก: "BU_MEE"
อ้างจาก: "เจษฎา หรร"
ไม่ยากครับพี่ แต่เราจะอยู่นานๆไปเพื่ออะไร


หมีขออยู่ถึงแค่อายุ 60 ปีก้อพอค่ะ...เกินกว่านั้นไม่มีตังค์จองบ้านพักคนชรา

ป้าหมี แอ๊บเด็ก

อย่าไปตั้งเป้าเลยหมี ทำวันนี้ให้ดีทีสุดพอครับ
ส่วนตัว ผมไม่เคยตั้งเป้า เช่น ต้องทำรายได้ให้ได้ เท่าไหร่ต่อ ปี นะ


เป้าอย่างอื่นต้องมีบ้างแหละ
เช่น อยากมีกิ๊ก , อยากถ่ายรุปสวย ๆ (เป้าระยะสั้น)

ซีเรียสนะเนี่ยะ



อันนี้ ยังไม่ทราบครับ
ถ้าเจอ ก็เอามาเผื่อแผ่กันบ้างนะ
บันทึกการเข้า
  หน้า: [1] 2 3  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><