25 พฤศจิกายน 2567, 07:45:14
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 14  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ธรรมชาติ ธรรมดา แบบไทยๆ  (อ่าน 493424 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ติ๋ม จันทร์ฉาย
Hero Cmadong Member
***


เป็นญาติพี่น้องกับซีมะโด่ง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2516
กระทู้: 1,692

« ตอบ #50 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2556, 00:44:04 »


วันนี้ได้ฟังอาจารย์พราหมณ์จากวัดใน Australia เลยเอามาฝากเพื่อนพี่น้องค่ะ

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=H_BMnJ1BdFk" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=H_BMnJ1BdFk</a>




      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
ติ๋ม จันทร์ฉาย
Hero Cmadong Member
***


เป็นญาติพี่น้องกับซีมะโด่ง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2516
กระทู้: 1,692

« ตอบ #51 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2556, 05:23:25 »


เมื่อ 2-3 ปีก่อน เคยคิดเหมือนกันว่าทำอย่างไรจึงจะได้หยุดคิดสักพัก เพราะเหนื่อยเหลือเกิน

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=qzR62JJCMBQ" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=qzR62JJCMBQ</a>
      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #52 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2556, 14:37:10 »


แบบไทยๆ สักสองภาพ


ภาพการตักบาตรพระ 108  ที่อำเภอบางกรวย นนทบุรี เมือ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมา เป็นการตักบาตรพระทางน้ำ







มีหลายภาพในตามครูไปเที่ยว หน้า 15 ครับ
      บันทึกการเข้า
ติ๋ม จันทร์ฉาย
Hero Cmadong Member
***


เป็นญาติพี่น้องกับซีมะโด่ง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2516
กระทู้: 1,692

« ตอบ #53 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2556, 21:53:02 »


ขอบคุณครับ
เด็กๆ ตอนปิดเทอม คุณแม่มักจะพาไปเยี่ยมญาติฝ่ายคุณแม่ที่คลองดำเนินสะดวก บรรยากาศคล้ายๆแบบนี้ครับ

อ้างถึง
ข้อความของ เริง2520 เมื่อ 07 พฤษภาคม 2556, 14:37:10

แบบไทยๆ สักสองภาพ


ภาพการตักบาตรพระ 108  ที่อำเภอบางกรวย นนทบุรี เมือ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมา เป็นการตักบาตรพระทางน้ำ







มีหลายภาพในตามครูไปเที่ยว หน้า 15 ครับ
      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
ติ๋ม จันทร์ฉาย
Hero Cmadong Member
***


เป็นญาติพี่น้องกับซีมะโด่ง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2516
กระทู้: 1,692

« ตอบ #54 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2556, 22:03:42 »

เรื่องของธรรมชาติ กับการปรุงแต่ง
เธอผู้นี้ช่างพูดออกมาจากใจที่เป็นธรรมชาติ เต็มไปด้วยความจริงอันเป็นธรรมชาติของมนุษย์สมัยนี้ เธออยู่ในอาชีพที่ต้องปรุงแต่งอยู่เป็นนิจ ชอบมากๆค่ะ เลยเอามาฝาก

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=KM4Xe6Dlp0Y" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=KM4Xe6Dlp0Y</a>
      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
Pete15
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,460

« ตอบ #55 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2556, 01:29:29 »

สวัสดี ครับ น้องติ๋ม.......แสดงว่าน้องติ๋ม ได้เข้าไปดู  TED  บ่อยๆ ไม่ทราบว่าใช่ หรือเปล่า? พี่ปี๊ดก็เคย ดู หนักไปทาง
      สิ่งประดิษฐ์ และ เทคโนโลยี่    ถ้าจำไม่ผิดพี่ปิ๊ดเริ่มถาม ตัวเองว่า " ทำไมเราจึงต้องคิดอยู่ ตลอดเวลา หยุดคิดบ้าง
 ได้ไหม? "...ตอนอายุ 40 ปลายๆ....พี่ปิ๊ด เป็นเจ้าของทฤษฏี "จงอย่าพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่" เวลา สอนให้เด็ก ให้เป็น
  product designer "เมื่อท่านหยุดคิด ท่าน ตก งาน" สมัยนั้น เริ่มมองเห็น ความขัดแย้ง ทางศาสนา (การปล่อยวาง)
 กับ การเป็น ยอดนักคิด นักค้นคว้า และ นักประดิษฐ์ (ปล่อยวางไม่ได้)  ใช้เวลา มากกว่า 10 ปี จึงค่อยๆได้ คำตอบ โดย
 ยังเป็นนักคิดอยู่ และได้เรียนรู้หลักธรรมทาง ศาสนา เพิ่มขึ้น มีความสุขทางจิตใจมากขึ้น และยังคิดได้เหมือนเดิม ดีกว่า
 เดิม เร็วกว่าเดิม  ณ ปัจจุบัน ....ครับ น้องติ๋ม
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #56 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2556, 08:44:31 »

แล้วเวลาคุยอย่าลืมเรียกป้อมมาฟังด้วยนะคะ
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #57 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2556, 18:46:44 »


สวัสดียามเย็นครับ... พี่ติ๋ม..พี่ปี๊ด..พี่ป้อม..พี่เสียด..พี่เหยง..พี่ทราย..พี่เริง..พี่ตี๋..น้องป๋าทู และพี่น้องทุกท่าน
      บันทึกการเข้า
Pete15
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,460

« ตอบ #58 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2556, 19:19:29 »

อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sitthiphong เมื่อ 08 พฤษภาคม 2556, 08:44:31
แล้วเวลาคุยอย่าลืมเรียกป้อมมาฟังด้วยนะคะ
 น้องเจอกัน ถึงจะคุย มัน ครับ น้องป้อม คุยทาง webแถวนี้ มีคนเก่งเยอะ เขิน ครับ
  สวัสดี ครับ น้องแหลม....ทาท่างน้องต๋มจะยังไม่ตืน......สวัสดี ตอนเช้า ครับ น้องติ๋ม
      บันทึกการเข้า
ติ๋ม จันทร์ฉาย
Hero Cmadong Member
***


เป็นญาติพี่น้องกับซีมะโด่ง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2516
กระทู้: 1,692

« ตอบ #59 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2556, 22:13:39 »


พี่ปี๊ด
ตื่นนานแล้วแต่ต้องทำหน้าที่ทางบ้านก่อนค่ะ ลูกทำงานทั้งคืน กลับบ้านเลยหิว และเหนื่อย คุณน้องเขยของพี่ปี๊ดต้องทานอาหารก่อนไปทำงาน
แล้วก็นั่งกับลูก คุยนิดหน่อยและส่วนใหญ่ดูหน้าให้ชื่นใจ มองเขาเผื่อคุณยายที่หมดสังขารจะมองหลานสุดที่รัก

 หลั่นล้า  เหอๆๆ หึหึ อายจัง
      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
ติ๋ม จันทร์ฉาย
Hero Cmadong Member
***


เป็นญาติพี่น้องกับซีมะโด่ง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2516
กระทู้: 1,692

« ตอบ #60 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2556, 22:25:35 »

สวัสดีอีกครั้งค่ะ... พี่ปี๊ด..พี่ป้อม..พี่เสียด..พี่เหยง..พี่ทราย..น้องแหลมฺ...น้องเริง..น้องตี๋..น้องป๋าทู และพี่น้องทุกท่าน (เลียนแบบ น้องแหลม)

เมื่อวานได้ฟังหลวงพ่อทอง วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร ท่านบรรยายธรรมช้าๆ เสียงเบาๆ ดูเหมือนจะน่าเบื่อ
แต่เนื้อหาเต็มเพรียบ เรียนรู้จากท่านได้อย่างเต็มอิ่ม ฟังแล้วชื่นใจ แต่อย่างที่ท่านว่าคือ ฟังก็ได้แต่รู้ธรรม แต่จะไม่ถึงธรรมเลย ถ้าไม่ปฏิบัติอย่างจริงจัง

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=tADZSssSBgU" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=tADZSssSBgU</a>
      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
ทราย 16
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,838

« ตอบ #61 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2556, 22:38:49 »

จริงค่ะติ๋ม ต้องปฏิบัติจึงจะเห็นธรรม
อ่าน ฟังจากแหล่งผู้รู้และปฏิบัติค่ะ ได้ผลจริงๆ
ห้องนี้ของติ๋มมีประโยชน์มากค่ะ
จะกลับมาเยี่ยมบ่อยๆน่ะคะ
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
 sleep sleep
      บันทึกการเข้า
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842

เว็บไซต์
« ตอบ #62 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2556, 01:11:14 »




วันวิสาขบูชา ขึ้น15 ค่ำ เดือน 6
วันวิสาขบูชา หนึ่งในวันสำคัญทางพุทธศาสนา และถือเป็นวันที่มหัศจรรย์ของชาวพุทธ เพราะได้เกิดเหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธเจ้า ขึ้นถึง 3 เหตุการณ์

โดยความมหัศจรรย์เนื่องในวันวิสาขบูชาทั้งสามคือ เป็นวันคล้ายวัน “ประสูติ” ของเจ้าชายสิทธัตถะ และต่อมาได้ “ตรัสรู้” เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงกอปรไปด้วย พระบริสุทธิคุณ , พระปัญญาคุณ ผู้ซึ่งได้ทรงสั่งสอนประกาศพระสัจธรรม คือความจริงของโลกแก่พหูชนทั้งปวง จวบจน “เสด็จดับขันธปรินิพพาน” ในวาระสุดท้าย ซึ่งทั้งสามเหตุการณ์ล้วนเกิดขึ้นในวันเพ็ญเดือน 6 ทั้งสิ้น

ชาวพุทธจึงเรียกการบูชาในวันนี้ว่า วิสาขบูชา ซึ่งย่อมาจากคำว่า วิสาขปูรณมีบูชา การบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ วิสาขบูชา มีการนับถือปฏิบัติกันในหลายประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาทั้งมหายานและเถรวาททุกนิกายมาช้านานแล้ว เป็นวันสำคัญของพุทธศาสนาโลก และด้วยเหตุนี้ที่ประชุมใหญ่สมัชชาสหประชาชาติจึงยกย่องให้วันวิสาขบูชาเป็น วันสำคัญสากลนานาชาติ (International Day) หรือ วันสำคัญของโลก ตามคำประกาศของที่ประชุมใหญ่สมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 54 ลงวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2542

พุทธชยันตี หมายถึง การครบรอบชัยชนะของพระพุทธเจ้าที่มีต่อกิเลสทั้งปวงอย่างสิ้นเชิง เพราะพระองค์ทรงตรัสรู้ในวันวิสาขบูชา เมื่อ 2,600 ปีก่อน ทำให้พระนามว่า สัมมาสัมพุทธ ปรากฏขึ้นในโลก เป็นจุดเริ่มต้นแห่งหลักธรรม อริยสัจ (ความจริงอันประเสริฐ) ประกอบด้วย 4 ประการ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรจ มรรค คือ อันเป็นคำสอนของพระพุทธศาสนา ทำให้พุทธศาสนิกชนได้มีพระธรรมเป็นหลักแห่งการดำเนินชีวิต



วันวิสาขบูชา ปี 2556 นี้ ตรงกับวันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม 2556 ซึ่งเป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 วันวิสาขบูชา

วันวิสาขบูชา หมายถึง การบูชาในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6
วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้า 3 ประการ คือ

วันประสูติ
ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
ปรินิพพาน

ความหมาย คำว่า “วิสาขบูชา” หมายถึงการบูชาในวันเพ็ญเดือน 6 วิสาขบูชา ย่อมาจาก “วิสา – ขบุรณมีบูชา” แปลว่า “การบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ” ถ้าปีใดมีอธิกมาส คือ มีเดือน 8 สองหน ก็เลื่อนไปเป็นกลางเดือน 7

ความสำคัญ วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ คือเกิด ได้ตรัสรู้ คือสำเร็จ ได้ปรินิพพาน คือ ดับ เกิดขึ้นตรงกันทั้ง 3 คราวคือ

1. ประสูติ

วันวิสาขบูชา เป็นวันประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ ณ ลุมพินีสถาน เมื่อ วันเพ็ญเดือน ๖ ตรงกับวันศุกร์ขึ้น ๑๕ ค่ำ ปีจอ ก่อนพุทธศักราช ๘๐ ปี เมื่อพระนางสิริมหามายา พระมเหสีของพระเจ้าสุทโธทนะ แห่งกรุงกบิลพัสดุ์ ทรงพระครรภ์แก่จวนจะประสูติ พระนางได้รับพระบรมราชานุญาต จากพระสวามี ให้แปรพระราชฐานไปประทับ ณ กรุงเทวทหะ ซึ่งเป็นพระนครเดิมของพระนาง เพื่อประสูติในตระกูลของพระนางตามประเพณีนิยมในสมัยนั้น ขณะเสด็จแวะพักผ่อนพระอิริยาบถใต้ต้นสาละ ณ สวนลุมพินีวัน พระนางก็ได้ประสูติพระโอรส ณ ใต้ต้นสาละนั้น ครั้นพระกุมารประสูติได้ ๕ วัน ก็ได้รับการถวายพระนามว่า “สิทธัตถะ” ซึ่งต่อมาพระองค์ได้ออกบวช จนบรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ (ญาณอันประเสริฐสูงสุด) สำเร็จเป็นพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า จึงถือว่าวันนี้เป็นวันประสูติของพระพุทธเจ้า

 

2. ตรัสรู้

วันวิสาขบูชา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ อนุตตรสัมโพธิญาณ ณ ร่มพระศรีมหาโพธิบัลลังก์ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม เมื่อวันเพ็ญเดือน ๖ ก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี

การตรัสอริยสัจสี่ คือของจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ ของพระพุทธเจ้า เป็นการตรัสรู้อันยอดเยี่ยม ไม่มีผู้เสมอเหมือน วันตรัสของพระพุทธเจ้า จึงจัดเป็นวันสำคัญ เพราะเป็นวันที่ให้เกิดมีพระพุทธเจ้าขึ้นในโลกชาวพุทธทั่วไป จึงเรียกวันวิสาขบูชาว่า วันพระพุทธ(เจ้า) อันมีประวัติว่า พระมหาบุรุษทรงบำเพ็ญเพียรต่อไป ที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์นั้น ทรงเริ่มบำเพ็ญสมาธิให้เกิดในพระทัย เรียกว่าการเข้า “ฌาน” เพื่อให้บรรลุ “ญาณ” จนเวลาผ่านไปจนถึง …

ยามต้น : ทรงบรรลุ “ปุพเพนิวาสานุติญาณ” คือทรงระลึกชาติในอดีตทั้งของตนเองและผู้อื่น
ยามสอง : ทรงบรรลุ “จุตูปปาตญาณ” คือการรู้แจ้งการเกิดและดับของสรรพสัตว์ทั้งหลาย
ยามสาม : ทรงบรรลุ “อาสวักขญาณ” คือรู้วิธีกำจัดกิเลสด้วย อริยสัจสี่ ( ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ) ได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในคืนวันเพ็ญเดือน ๖ ซึ่งขณะนั้น พระพุทธองค์มีพระชนมายุได้ ๓๕ พรรษา
ธรรมะที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ (อริยสัจ ๔) หรือ ความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ ได้แก่…

ทุกข์ คือ ความลำบาก ความไม่สบายกายไม่สบายใจ
สมุทัย คือ เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์
นิโรธ คือ ความดับทุกข์ และ
มรรค คือ ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับแห่งทุกข์
ทั้ง ๔ ข้อนี้ถือเป็นสัจธรรม เรียกว่า อริยสัจ เพราะเป็นสิ่งที่พระอริยเจ้าทรงค้นพบ เป็นสัจธรรมชั้นสูง ประเสริฐกว่าสัจธรรมสามัญทั่วไป

3. ปรินิพพาน

วันวิสาขบูชา เป็นวันปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ร่มไม้รัง (ต้นสาละ) คู่ ในสาลวโนทยานของมัลลกษัตริย์ ใกล้เมืองกุสินารา เมื่อวันเพ็ญเดือน ๖ ก่อนพุทธศักราช ๑ ปี วันที่พระพุทธเจ้าเสด็จเข้าสู่ปรินิพพาน (ดับสังขารไม่กลับมาเกิดสร้างชาติ สร้างภพอีกต่อไป)

การปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ก็ถือเป็นวันสำคัญของชาวพุทธทั่วโลกเพราะชาวพุทธทั่วโลกได้สูญเสียดวงประทีป ของโลก เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่และครั้งสำคัญชาวพุทธทั่วไปมีความเศร้าสลด เสียใจและอาลัยสุดจะพรรณนา อันมีประวัติว่าเมื่อพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้และแสดงธรรมมาเป็นเวลานานถึง ๔๕ ปี ซึ่งมีพระชนมายุได้ ๘๐ พรรษา ได้ประทับจำพรรษา ณ เวฬุคาม ใกล้เมืองเวสาลี แคว้นวัชชี ในระหว่างนั้นทรงประชวรอย่างหนัก

ครั้นเมื่อถึงวันเพ็ญเดือน ๖ พระพุทธองค์กับพระภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย ก็ไปรับภัตตาหารบิณฑบาตที่บ้านนายจุนทะ ตามคำกราบทูลนิมนต์ พระองค์เสวยสุกรมัททวะที่นายจุนทะตั้งใจทำถวาย ก็เกิดอาพาธลง แต่ทรงอดกลั้นมุ่งเสด็จไปยังเมืองกุสินารา ประทับ ณ ป่าสาละ เพื่อเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ในราตรีนั้น ได้มีปริพาชกผู้หนึ่ง ชื่อสุภัททะขอเข้าเฝ้า และได้อุปสมบทเป็นพระพุทธสาวกองค์สุดท้าย เมื่อถึงยามสุดท้ายของคืนนั้น พระพุทธองค์ก็ทรงประทานปัจฉิมโอวาทว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลายอันว่าสังขารทั้งหลายย่อมมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังกิจทั้งปวงอันเป็นประโยชน์ของตนและประโยชน์ของผู้อื่นให้ บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด” หลังจากนั้นก็เสด็จเข้าดับขันธ์ปรินิพพาน ในราตรีเพ็ญเดือน ๖ นั้น

ความสำคัญของ วันวิสาขบูชา

พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และเสด็จดับขันธปรินิพพานเวียนมาบรรจบในวันและเดือนเดียวกัน คือ วันเพ็ญเดือนวิสาขะ จึงถือว่าเป็นวันที่สำคัญของพระพุทธเจ้า หลักธรรมอันเกี่ยวเนื่องจากการประสูติ ตรัสรู้และเสด็จดับขันธปรินิพพาน คือ ความกตัญญู อริยสัจ ๔ และความไม่ประมาท

ส่วนที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญที่สุดของพระพุทธศาสนา เนื่องจากมีเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๓ อย่าง เกิดขึ้นในวันเดียวกันคือ ประสูติ ตรัสรู้ธรรม และปรินิพพาน วันวิสาขบูชาตรงกับวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖

ชาวพุทธศาสนิกชนทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับ วันวิสาขบูชา นี้ และเมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๒ สหประชาชาติได้ยอมรับญัตติที่ประชุม กำหนดให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญของโลก และเป็นวันหยุดวันหนึ่งของสหประชาชาติ เพื่อให้ชาวพุทธทั่วโลกได้มีโอกาสบำเพ็ญบุญเนื่องในวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระบรมศาสดา เจ้าชายสิทธัตถะ ประสูติเมื่อ ๒๖๐๐ กว่าปี ล่วงมาแล้ว
พระ บิดาพระนามว่าพระเจ้าสุทโธทนะ พระมารดาพระนามว่าพระนางสิริมหามายา ก่อนที่พระองค์จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์เป็นเจ้าชายในราชสกุลโคตมะ แห่งเมืองกบิลพัสดุ์ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย คำว่า ‘พุทธ’ หรือ ‘พุทธิ’ ในภาษาบาลีและสันสกฤตมีความหมายเหมือนกัน แปลว่า ปัญญา หรือ การตรัสรู้

จากคำสอนในพระไตรปิฎกกล่าวว่า วันวิสาขบูชา พระพุทธเจ้าคือผู้ที่ตรัสรู้เองโดยชอบ ทรงเป็นผู้รู้สัจจธรรม และทรงมีพระญาณทัศนะกว้างไกลที่พระองค์ทรงรู้เห็นกำเนิด และความเป็นไปของสัตว์โลกตลอดภพสาม มีพระพุทธเจ้านับไม่ถ้วนพระองค์ได้อุบัติขึ้นในโลกนี้ เมื่อแต่ละพระองค์ตรัสรู้ธรรมอันประเสริฐแล้ว ทรงสั่งสอนธรรมะเพื่อให้ชาวโลกพ้นจากวัฏสงสารด้วยมหากรุณา จากพระไตรปิฏก “อปทานสูตร และพุทธวงศ์” กล่าวถึงการสร้างบารมีของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ นานนับอสงไขยกว่าที่จะบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ

แม้ในขุททกนิกาย ชาดก ได้เล่าการสร้างบารมีถึง ๕๔๗ ชาติของพระโพธิสัตว์ที่บำเพ็ญบารมี ๑๐ ทัศ มาตลอดกว่าจะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในพระชาติสุดท้าย เจ้าชายสิทธัตถะ ทรงเป็นผู้มีบุญที่เพียบพร้อมด้วยสติปัญญา และความเมตตา หลังจากเจ้าชายสิทธัตถะประสูติได้เพียง ๗ วัน พระมารดาก็สวรรคต พระน้านางคือพระนางปชาบดีโคตมี เป็นผู้บำรุงเลี้ยงรักษา หลังจากประสูติได้ไม่นาน พระบิดาได้อัญเชิญอสิตดาบสมาทำนายอนาคตของเจ้าชายสิทธัตถะ อสิตดาบสแสดงอาการประหลาดต่อหน้าพระที่นั่งคือ หัวเราะและร้องไห้ หัวเราะเพราะดีใจที่ได้เห็นเจ้าชายสิทธัตถะ และได้ทำนายว่าเจ้าชายจะตรัสรู้ธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแน่นอน แต่ร้องไห้เพราะอสิตดาบสนั้นจะมีอายุไม่ยืนยาวทันรับฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า พระองค์นี้ คำทำนายนี้ได้รับการยืนยันจาก โกณฑัญญะ ซึ่งเป็นดาบสอีกท่านหนึ่งที่ทำนายว่า เจ้าชายสิทธัตถะจะสละราชสมบัติ เมื่อผนวชแล้วจะบรรลุธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ส่วนดาบสอื่นๆ ล้วนทำนายว่า ถ้าเจ้าชายสิทธัตถะไม่ทรงผนวช จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ คำทำนายดังกล่าวสร้างความตระหนกพระทัยแก่พระเจ้าสุทโธทนะเป็นอย่างยิ่ง พระองค์ทรงปรารถนาจะให้เจ้าชายสิทธัตถะปกครองแว่นแคว้นสืบทอดราชบัลลังก์ต่อ จากพระองค์ และเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ จึงทรงป้องกันเจ้าชายสิทธัตถะไม่ให้เห็นความทุกข์ทรมาน ความเจ็บปวดต่าง ๆ ที่จะทำให้เจ้าชายสิทธัตถะทรงรู้สึกเบื่อหน่าย และอยากออกบวช

ด้วยเหตุนี้พระเจ้าสุทโธทนะ จึงทรงมีพระบัญชาให้เหล่าอำมาตย์เสนาบดี ช่วยกันสร้างปราสาทสามฤดูแก่เจ้าชาย ปราสาทแต่ละแห่งแวดล้อมด้วยเหล่าสนมกำนัลที่สวยงาม ชีวิตของเจ้าชายสิทธัตถะก่อนทรงออกผนวช จึงเป็นชีวิตที่เพียบพร้อมด้วย รูปสมบัติ และทรัพย์สมบัติอย่างแท้จริง. เมื่อเจ้าชายทรงพระชนมายุได้ ๒๙ พรรษา พระมเหสีคือพระนางยโสธรา พิมพาประสูติพระโอรส พระนามว่า ราหุล วันหนึ่งเจ้าชายสิทธัตถะได้ทรงรถม้าประพาสสวนนอกเมือง ทรงเห็นคนแก่ คนป่วย คนตาย และนักบวช ภาพคนแก่ คนป่วย และคนตายทำให้พระองค์นึกถึงความทุกข์ และความไม่เที่ยงแท้ของสังขารมนุษย์ ต่อมา

เจ้าชายสิทธัตถะจึงทรงออกจากวัง ถือเพศเป็นนักบวชเที่ยวภิกขาจารไปเพื่อแสวงหาโมกขธรรม วันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ เมื่อมีพระชนมายุได้ ๓๕ พรรษา เจ้าชายสิทธัตถะได้ตรัสรู้ธรรม ณ ใต้ควงต้นพระศรีมหาโพธิ์ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก่อนที่จะบรรลุธรรม เจ้าชายสิทธัตถะได้แสวงหาผู้สอนวิธีหลุดพ้นแก่พระองค์ ๒ คนคือ อาฬารดาบส และอุทกดาบส ซึ่งทั้งสองนี้สอนพระองค์ให้ได้ญานชั้นสูง แต่ไม่บรรลุธรรม เมื่อพระองค์บรรลุธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ทรงประกาศธรรม เผยแผ่คำสอนที่สามารถทำให้ผู้ปฏิบัติตามพ้นทุกข์ตามพระองค์ไปได้ พระพุทธองค์ ทรงเผยแผ่พระพุทธศาสนาเป็นเวลา ๔๕ ปี ทรงวางรากฐานพระพุทธศาสนา และมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ที่ปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์ ซึ่งในสมัยนั้นมีตั้งแต่ กษัตริย์ เจ้าชาย พ่อค้า แม่ค้า พราหมณ์ เศรษฐี ยาจกเข็ญใจ และชนทุกชั้นในสังคม

ประวัติความเป็นมาของวันวิสาขบูชาในประเทศไทย

วันวิสาขบูชานี้ ปรากฏตามหลักฐานว่า ได้มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ซึ่งสันนิษฐานว่า คงจะได้แบบอย่าง มาจากลังกา กล่าวคือ เมื่อประมาณ พ.ศ. 420 พระเจ้าภาติกุราช กษัตริย์แห่งกรุงลังกา ได้ประกอบพิธีวิสาขบูชาอย่าง มโหฬาร เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา กษัตริย์ลังกาในรัชกาลต่อ ๆ มา ก็ทรงดำเนินรอยตาม แม้ปัจจุบันก็ยังถือปฏิบัติอยู่ สมัยสุโขทัยนั้น ประเทศไทยกับประเทศลังกามีความสัมพันธ์ด้านพระพุทธศาสนาใกล้ชิดกันมากเพราะ พระสงฆ์ชาวลังกา ได้เดินทางเข้ามาเผยแพร่พระพุทธศาสนา และเชื่อว่าได้นำการประกอบพิธีวิสาขบูชามาปฏิบัติในประเทศไทยด้วย

ในหนังสือนางนพมาศได้กล่าวบรรยากาศการประกอบพิธีวิสาขบูชาสมัยสุโขทัยไว้ พอสรุปใจความได้ว่า ” เมื่อถึงวันวิสาขบูชา พระเจ้าแผ่นดิน ข้าราชบริพาร ทั้งฝ่ายหน้า และฝ่ายใน ตลอดทั้งประชาชนชาวสุโขทัยทั่วทุก หมู่บ้านทุกตำบล ต่างช่วยกันทำความสะอาด ประดับตกแต่งพระนครสุโขทัยเป็นการพิเศษ ด้วยดอกไม้ของหอม จุดประทีปโคมไฟแลดูสว่างไสวไปทั่วพระนคร เป็นการอุทิศบูชาพระรัตนตรัย เป็นเวลา 3 วัน 3 คือ พระมหากษัตริย์ และบรมวงศานุวงศ์ ก็ทรงศีล และทรงบำเพ็ญพระราชกุศลต่างๆ ครั้นตกเวลาเย็น ก็เสด็จพระราช ดำเนิน พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และนางสนองพระโอษฐ์ตลอดจนข้าราชการทั้งฝ่ายหน้า และฝ่ายใน ไปยังพระ อารามหลวง เพื่อทรงเวียนเทียนรอบพระประธาน

ส่วนชาวสุโขทัยชวนกันรักษาศีล ฟังธรรมเทศนา ถวายสลากภัต ถวายสังฆทาน ถวายอาหารบิณฑบาต แด่พระภิกษุ สามเณรบริจาคทรัพย์แจกเป็นทานแก่คนยากจน คนกำพร้า คนอนาถา คนแก่ คนพิการ บางพวกก็ชวนกันสละทรัพย์ ปล่อยสัตว์ 4 เท้า 2 เท้า และเต่า ปลา เพื่อชีวิตสัตว์ให้เป็นอิสระ โดยเชื่อว่าจะทำให้คนอายุ ยืนยาวต่อไป”

ในสมัยอยุธยา สมัยธนบุรี และสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ด้วยอำนาจอิทธิพลของศาสนาพราหมณ์ เข้าครอบงำประชาชนคนไทย และมีอิทธิพลสูงกว่าอำนาจของพระพุทธศาสนา จึงไม่ปรากฎหลักฐานว่า ได้มีการประกอบพิธีบูชาในวันวิสาขบูชา จนมาถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยรัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ. 2360) ทรงดำริกับ สมเด็จพระสังฆราช (มี) สำนักวัดราชบูรณะ มีพระราชประสงค์จะให้ฟื้นฟู การประกอบพระราชพิธีวันวิสาขบูชาขึ้นใหม่ โดย สมเด็จพระสังฆราช ถวายพระพรให้ทรงทำขึ้น เป็นครั้งแรกในวันขึ้น 14 ค่ำ 15 ค่ำ และวันแรม 1 ค่ำ เดือน 6 พ.ศ. 2360 และให้จัดทำตามแบบอย่างประเพณีเดิมทุกประการ เพื่อมีพระประสงค์ให้ประชาชนประกอบการบุญการกุศล เป็นหนทางเจริญอายุ และอยู่เย็นเป็นสุขปราศจากทุกข์โศกโรคภัย และอุปัทวันตรายต่างๆ โดยทั่วหน้ากัน

ฉะนั้น การประกอบพิธีในวันวิสาขบูชาในประเทศไทย จึงได้รื้อฟื้นให้มีขึ้นอีกครั้งหนึ่งในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 และถือปฏิบัติมาจวบจนกระทั่งปัจจุบัน

การจัดงานเฉลิมฉลองในวันวิสาขบูชาที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกยุค ทุกสมัย คงได้แก่การจัดงานเฉลิมฉลอง วันวิสาขบูชา พ.ศ.2500 ซึ่งทางราชการเรียกว่างาน ” ฉลอง 25 พุทธศตวรรษ “ ตั้งแต่วันที่ 12 ถึง 18 พฤษภาคม รวม 7 วัน ได้จัดงานส่วนใหญ่ขึ้นที่ท้องสนามหลวง ส่วนสถานที่ราชการ และวัดอารามต่างๆ ประดับธงทิวและโคมไฟสว่างไสวไปทั่วพระ ราชอาณาจักร ประชาชนถือศีล 5 หรือศีล 8 ตามศรัทธาตลอดเวลา 7 วัน มีการอุปสมบทพระภิกษุสงฆ์รวม 2,500 รูป ประชาชน งดการฆ่าสัตว์ และงดการดื่มสุรา ตั้งแต่วันที่ 12 ถึง 14 พฤษภาคม รวม 3 วัน มีการก่อสร้าง พุทธมณฑล จัดภัตตาหาร เลี้ยงพระภิกษุสงฆ์วันละ 2,500 รูป ตั้งโรงทานเลี้ยงอาหารแก่ประชาชน วันละ 200,000 คน เป็นเวลา 3 วัน ออกกฎหมาย สงวนสัตว์ป่าในบริเวณนั้น รวมถึงการฆ่าสัตว์ และจับสัตว์ในบริเวณวัด และหน้าวัดด้วย และได้มีการปฏิบัติธรรมอันยิ่งใหญ่ อย่างพร้อมเพรียงกัน เป็นกรณีพิเศษ ในวันวิสาขบูชาปีนั้นด้วย

หลักธรรมที่ควรปฏิบัติ ในวันวิสาขบูชา

กตัญญู กตเวที
ความกตัญญู คือ ความรู้อุปการคุณที่มีผู้ทำไว้ก่อนเป็นคุณธรรมคู่กับ ความกตเวที คือ การตอบแทนอุปการะคุณที่ผู้อื่นทำไว้นั้นผู้ที่ทำอุปการรคุณก่อนเรียกว่า บุพการี ขอยกมากล่าวในที่นี้คือ บิดามารดา และครูอาจารย์ บิดามารดา มีอุปการะคุณแก่บุตร ธิดา ในฐานะเป็นผู้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ ให้การศึกษา อบรมสั่งสอน ให้ละเว้นจากความชั่ว มั่นคงในการทำความดี เมื่อถึงคราวมีคู่ครองได้จัดหาคู่ครอบที่เหมาะสมให้และมอบทรัพย์สมบัติให้ ไว้เป็นมรดก บุตร ธิดา
เมื่อรู้อุปการะคุณที่บิดามารดาทำไว้ย่อมตอบแทนด้วยการ ประพฤติตัวดี สร้างชื่อเสียงให้แก่วงศ์ตระกูล เลี้ยงดูท่าน และช่วยทำงานของท่าน และเมื่อล่วงลับไปแล้วก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่าน ครูอาจารย์ มีอุปการะคุณแก่ศิษย์ในฐานะเป็นผู้ประสาทความรู้ให้ ฝึกฝนแนะนำให้เป็นคนดีสอนศิลปวิทยาให้อย่างไม่ปิดบัง ยกย่องให้ปรากฎแก่คนอื่นและช่วยคุ้มครองศิษย์ทั้งหลาย ศิษย์เมื่อรู้อุปการคุณที่ครูอาจารย์ทำไว้ย่อมตอบแทนด้วยการตั้งใจเรียน ให้เกียรติ และให้ความเคารพไม่ล่วงละเมิดโอวาทของครู ความกตัญญูและความกตเวทีนี้ถือว่าเป็นเครื่องหมายของคนดีส่งผลให้ครอบครัว และสังคมมีความสุขได้ เพราะบิดามารดาจะรู้จักหน้าที่ของตนเองด้วยการทำอุปการคุณให้ก่อน และบุตร ธิดา ก็จะรู้จัก หน้าที่ของตนเองด้วยการทำดีตอบแทน
สำหรับ ครูอาจารย์ก็จะรู้จักหน้าที่ของตนเองด้วยการทำอุปการคุณ คือ สอนศิลปวิทยาอย่างเต็มที่และศิษย์ก็จะรู้จักหน้าที่ของตนเอง ด้วยการตั้งใจเรียน และให้ความเคารพเป็นการตอบแทน นอกจากจะใช้ในกรณีของบิดามารดากับบุตรธิดา และครูอาจารย์กับศิษย์แล้ว คุณธรรมข้อนี้ก็สามารถนำไปใช้ได้แม้ระหว่าง พระมหากษัตริย์กับพสกนิกร นายจ้างกับลูกจ้าง เพื่อนกับเพื่อนและบุคคลทั่วไป รวมทั้งมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
ในทางพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าทรงเป็นบุพการีในฐานะที่ทรงสถาปนาพระพุทธศาสนาและทรงสอนทางพ้น ทุกข์ให้แก่เวไนย-สัตว์ พุทธศาสนิกชน รู้พระคุณอันนี้ จึงตอบแทนด้วยอามิสบูชา และปฏิบัติบูชา กล่าวคือ การจัดกิจกรรมในวันวิสาขบูชา เป็นส่วนหนึ่งที่ชาวพุทธแสดงออก ซึ่งความกตัญญูกตเวทีต่อพระองค์ ด้วยการทำนุบำรุงส่งเสริม พระพุทธศาสนา และประพฤติปฏิบัติธรรม เพื่อดำรงอายุพระพุทธศาสนาสืบไป


อริยสัจ ๔
อริยสัจ คือ ความจริงอันประเสริฐ หมายถึง ความจริงที่ไม่ผันแปร เกิดมีได้แก่ทุกคนมี ๔ ประการ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ทุกข์ คือ ปัญหาของชีวิต พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ก็เพื่อให้ทราบว่า มนุษย์ทุกคนมีทุกข์เหมือนกันทั้งทุกข์ขั้นพื้นฐานและทุกข์เกี่ยวกับการ ดำเนินชีวิตประจำวัน? ทุกข์ขั้นพื้นฐาน คือ ทุกข์ที่เกิดจากการเกิด การแก่ และการตาย ส่วนทุกข์ที่เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตประจำวันคือ ทุกข์ที่เกิดจากการพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ทุกข์ที่เกิดจากการประสบกับสิ่งที่ไม่เป็นที่รัก ทุกข์ที่เกิดจากการไม่ได้ตามใจปรารถนา รวมทั้งทุกข์ที่เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตด้านต่างๆ สมุทัย คือ เหตุแห่งปัญหา พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ก็เพื่อให้ทราบว่า ทุกข์ทั้งหมด ซึ่งเป็นปัญหาของชีวิตล้วนมีเหตุให้เกิดเหตุนั้น คือ ตัณหา อันได้แก่ ความอยากได้ต่างๆ
ซึ่งประกอบไปด้วย ความยึดมั่น นิโรธ คือ การแก้ปัญหาได้ พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ก็เพื่อให้ทราบว่า ทุกข์ คือ ปัญหาของชีวิตทั้งหมดนั้นแก้ไขได้ โดยการดับตัณหา คือ ความอยากให้หมดสิ้น มรรค คือ ทางหรือวิธีแก้ปัญหา พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ก็ เพื่อให้ทราบว่า ทุกข์คือปัญหาของชีวิตทั้งหมดที่สามารถแก้ไขได้นั้นต้องแก้ไขตามมรรคมีองค์ ๘

ความไม่ประมาท
ความไม่ประมาท คือ การมีสติทั้งขณะทำ ขณะพูดและขณะคิด สติ คือ การระลึกรู้ทัน ที่คิด พูดและทำ ในภาคปฏิบัติเพื่อนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน หมายถึงการระลึกรู้ทันการเคลื่อนไหวอิริยาบถ ๔ คือ เดิน ยืน นั่ง นอน การฝึกให้เกิดสติ ทำได้โดยตั้งสติกำหนดการเคลื่อนไหวอิริยาบถกล่าวคือ ระลึกรู้ทันในขณะยืน เดิน นั่งและนอน รวมทั้งระลึกรู้ทันในขณะพูดขณะคิด และขณะทำงานต่างๆ
 

ในวันนี้พุทธศาสนิกชนต่างพากันน้อมระลึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ด้วยการไปชุมนุมตามพระอารามต่าง ๆ เพื่อกระทำการบูชาปูชนียวัตถุอันได้แก่ พระธาตุเจดีย์หรือพระพุทธปฏิมา ที่เป็นพระประธานในพระอุโบสถอย่างใดอย่างหนึ่ง ด้วยเครื่องบูชามีดอกไม้ ธูปเทียน เป็นต้น เริ่มด้วยการสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย ด้วยบทสวดมนต์ตามลำดับดังนี้คือ

บทสรรเสริญ พระพุทธคุณ

อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปนโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสสะธัมมะสาระถิ สัตถาเทวะมนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ บทสรรเสริญ พระธรรมคุณ

สวากขาโต ภะคะวา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ. บทสรรเสริญ พระสังฆคุณ

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสสะ ยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระนีโย อะนุตตะรัง ปุญญะเขตตัง โลกัสสาติ

จากนั้นก็จะกระทำ ประทักษิณ หรือที่เรียกว่า เวียนเทียน รอบพระธาตุเจดีย์ หรือพระพุทธปฎิมาในพระอุโบสถ ด้วยการเดินเวียนขวาสามรอบ รอบแรกจะสวดบทสรรเสริญพระพุทธคุณ รอบที่สองจะสวดบทสรรเสริญพระธรรมคุณ และรอบที่สามสวดบทสรรเสริญพระสังฆคุณ เมื่อครบ 3 รอบแล้วจึงนำดอกไม้ ธูป เทียน ไปบูชาพระธาตุเจดีย์ หรือพระพุทธรูปในพระอุโบสถ ณ ที่บูชาอันควรเป็นอันเสร็จพิธีเวียนเทียน

จากนั้นก็จะมีการแสดงพระธรรมเทศนาในพระอุโบสถ ซึ่งปกติจะมีเทศน์ ปฐมสมโพธิ ซึ่งเป็นเรื่องพระพุทธประวัติตั้งแต่ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน พิธีเริ่มตั้งแต่ประชุมฟังพระทำวัตรสวดมนต์ แล้วจึงฟังเทศน์ซึ่งจะมีไปตลอดรุ่ง

วันวิสาขบูชาจึงเป็นวันที่พุทธศาสนิกชน ได้บำเพ็ญประโยชน์ตน และสืบต่อพระพุทธศาสนา ให้ดำรงคงอยู่อย่างถูกต้องตรงทาง เพื่อประโยชน์สุขของตนและของผู้อื่นตลอดชั่วกาลนาน…..
      บันทึกการเข้า

เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
ติ๋ม จันทร์ฉาย
Hero Cmadong Member
***


เป็นญาติพี่น้องกับซีมะโด่ง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2516
กระทู้: 1,692

« ตอบ #63 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2556, 02:07:19 »


พี่ปี๊ดขา
ชอบฟัง TED ค่ะ เพราะเขามีหัวข้อหลากหลาย น่าสนใจ ไม่เฉพาะเจาะจงทางใดทางหนึ่ง ชอบเรียนรู้อะไรๆใหม่ๆบ้าง เก่าๆบ้าง ไม่เห็นเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติธรรม ถ้าคิดให้ถูก ย่อมเป็นประโยชน์ ไม่ว่าเรื่องใดทั้งสิ้น กระมังคะ

ท่าทางจะเห็นว่าพี่ปี๊ดได้ไปไกลมากแล้ว เริ่มมานานกว่าติ๋มมาก จนดูเหมือนพี่มีธรรมะเหมือนมีข้าวสุกหอมมะลิในจานวางใว้ตรงหน้า พร้อมที่พี่จะรับประทาน ส่วนติ๋มนั้นยังฝึกขั้นแรกๆให้จิตสงบก่อน คงยังอยู่ในขั้นหว่านเมล็ดข้าวเปลือก ลงในที่นาที่ติ๋มได้มีการจัดเตรียมดินมาระยะหนึ่ง (ฟัง อ่าน เริ่มปฏิบัติ)) และยังมีอีกหลายขั้นตอนนักกว่าที่ติ๋มจะถึงขั้นเดียวกับพี่ปี๊ดผู้มีข้าวสวยพร้อมให้รับประทานอยู่ในจานลายสวย

ตอบช้าไปหน่อยเพราะมั่วไปปลูกข้าวค่ะ

เอาคำสอนหลวงตาบัวมาฝากไว้เผื่อพี่ๆน้องๆมีเวลาฟังค่ะ

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=rqLhXoSdSZU" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=rqLhXoSdSZU</a>



อ้างถึง
ข้อความของ Pete15 เมื่อ 08 พฤษภาคม 2556, 01:29:29
สวัสดี ครับ น้องติ๋ม.......แสดงว่าน้องติ๋ม ได้เข้าไปดู  TED  บ่อยๆ ไม่ทราบว่าใช่ หรือเปล่า? พี่ปี๊ดก็เคย ดู หนักไปทาง
      สิ่งประดิษฐ์ และ เทคโนโลยี่    ถ้าจำไม่ผิดพี่ปิ๊ดเริ่มถาม ตัวเองว่า " ทำไมเราจึงต้องคิดอยู่ ตลอดเวลา หยุดคิดบ้าง
 ได้ไหม? "...ตอนอายุ 40 ปลายๆ....พี่ปิ๊ด เป็นเจ้าของทฤษฏี "จงอย่าพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่" เวลา สอนให้เด็ก ให้เป็น
  product designer "เมื่อท่านหยุดคิด ท่าน ตก งาน" สมัยนั้น เริ่มมองเห็น ความขัดแย้ง ทางศาสนา (การปล่อยวาง)
 กับ การเป็น ยอดนักคิด นักค้นคว้า และ นักประดิษฐ์ (ปล่อยวางไม่ได้)  ใช้เวลา มากกว่า 10 ปี จึงค่อยๆได้ คำตอบ โดย
 ยังเป็นนักคิดอยู่ และได้เรียนรู้หลักธรรมทาง ศาสนา เพิ่มขึ้น มีความสุขทางจิตใจมากขึ้น และยังคิดได้เหมือนเดิม ดีกว่า
 เดิม เร็วกว่าเดิม  ณ ปัจจุบัน ....ครับ น้องติ๋ม
      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
ติ๋ม จันทร์ฉาย
Hero Cmadong Member
***


เป็นญาติพี่น้องกับซีมะโด่ง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2516
กระทู้: 1,692

« ตอบ #64 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2556, 02:10:58 »

ขอบคุณครับน้องพธู มาช่วยทำให้กระทู้นี้มีคุณค่าชวนอ่านมากขึ้น
 ชอบนะ ชอบนะ
      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
*****


ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927

« ตอบ #65 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2556, 00:30:47 »


สวัสดีครับพี่ติ๋ม และสมาชิกญาติธรรมทุกท่าน
เพิ่งหาทางเข้าบ้านธรรมของพี่ติ๋มเจอครับ
ยังอ่านได้ไม่ครบ...อย่างละเอียด
ขอบคุณพี่ติ๋มที่เปิดกระทู้ที่มีประโยชน์กับพวกเราครับ...



 รักนะ รักนะ
      บันทึกการเข้า

“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้
อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
ติ๋ม จันทร์ฉาย
Hero Cmadong Member
***


เป็นญาติพี่น้องกับซีมะโด่ง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2516
กระทู้: 1,692

« ตอบ #66 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2556, 01:03:23 »

น้องหนุนครับ
วันนี้วันพระไปแล้ว เอาเรื่องของถือศีลแบบเพลงฉ่อยมาฝาก

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=uv4G0ku3Ado" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=uv4G0ku3Ado</a>


ขำๆสักหน่อย อย่าว่าพี่ติ๋มเลอะเทอะเลยนะคร้าบ

อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 10 พฤษภาคม 2556, 00:30:47

สวัสดีครับพี่ติ๋ม และสมาชิกญาติธรรมทุกท่าน
เพิ่งหาทางเข้าบ้านธรรมของพี่ติ๋มเจอครับ
ยังอ่านได้ไม่ครบ...อย่างละเอียด
ขอบคุณพี่ติ๋มที่เปิดกระทู้ที่มีประโยชน์กับพวกเราครับ...



 รักนะ รักนะ
      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
Dtoy16
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424

« ตอบ #67 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2556, 15:58:06 »

       สวัสดีจ๊ะติ๋ม      ต้อยเพิ่งเข้ามาเยี่ยมในกระทู้นี้ มีอะไรที่ธรรมชาติ และเป็นธรรมดาเติมธรรมะให้ชีวิต
                           ชอบข้อคิดเห็นของพี่ปิ๊ด ติ๋มและหลายๆคนส่วนต้อยยังต้องออกแรง(ขุด คุ้ย)ความรู้สึกและข้อคิดเห็น
                           ติดไว้ก่อนน่ะติ๋ม 
      บันทึกการเข้า

wannee
Global Moderator
Cmadong พันธุ์แท้
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: จุฬาฯรุ่นประวัติศาสตร์ 2516
คณะ: ทันตแพทยศาสตร์
กระทู้: 4,806

« ตอบ #68 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2556, 18:36:39 »



จะคอยติดตามอ่านนะคะต้อย  รักนะ
      บันทึกการเข้า

"เสียด" ภาษาจีนฮากกา แปลว่า หิมะ
ติ๋ม จันทร์ฉาย
Hero Cmadong Member
***


เป็นญาติพี่น้องกับซีมะโด่ง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2516
กระทู้: 1,692

« ตอบ #69 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2556, 19:40:21 »

ธรรมชาติหลังบ้านค่ะ
ยามฝนกตก อากาศหนาวเย็น แม่เป็ดกับลูก 9 ตัว เขาอยู่กันอย่างไร
เอาภาพธรรมชาติของความเป็นแม่และพ่อมาฝากค่ะ

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=RkntyxItEXI" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=RkntyxItEXI</a>

ส่วนพ่อก็ตามปกป้องอยู่ข้างหลังยามออกหากินกัน


      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
ติ๋ม จันทร์ฉาย
Hero Cmadong Member
***


เป็นญาติพี่น้องกับซีมะโด่ง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2516
กระทู้: 1,692

« ตอบ #70 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2556, 04:23:31 »

Sam Harris  เดินทางมา Asian Countries เขามาเจอสิ่งที่เป็นความสุขที่แท้จริง คืออยู่กับปัจจุบัน ซึ่งฟังดูเหมือนง่าย แต่ทำยาก

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=ckUw79xG0fg" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=ckUw79xG0fg</a>

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=T3JzcCviNDk" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=T3JzcCviNDk</a>

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=h1cnR9rfk6I" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=h1cnR9rfk6I</a>
      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
ทราย 16
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,838

« ตอบ #71 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2556, 08:17:45 »

อ้างถึง
ข้อความของ ติ๋ม จันทร์ฉาย เมื่อ 09 พฤษภาคม 2556, 02:10:58
ขอบคุณครับน้องพธู มาช่วยทำให้กระทู้นี้มีคุณค่าชวนอ่านมากขึ้น
 ชอบนะ ชอบนะ
น้องพธูให้ข้อมูลดีมากๆค่ะ
 ชอบนะ ชอบนะ ชอบนะ
      บันทึกการเข้า
Pete15
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,460

« ตอบ #72 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2556, 10:02:27 »

สวัสดี ครับ น้องติ๋ม
            พี่ปิ๊ด ทำแค่ ดู VDO ของ คุณ Sam Harris 3 ตอน เท่าที่ น้องติ่ม post มาให้ชมแค่ นี้ ไม่ได้ไป ค้นต่อ เพิ่มเติม
สงสัยกลุ่ม Atheist ว่าเป็น อย่างไร? แล้วก็คุณ sam เขาเข้าใจ พุทธ แค่ไหน? จาก 3 VDO เหมือนกับว่า เขายังไม่พัฒนาจิตไปถึงไหนเลย  แน่นอน เมื่อ ท่านใดนั้งสมาธิ หยุด ความคิดทั้งหมด ยอมเกิด สุข แต่เป็นสุขแบบ เหยียบหยุดไว้ (ชั่วคราว)
คุณ sam  แกอยู่ที่ สมถะ (สมาธิ) แค่ นั้นเอง (จาก 3เทปนี้) ยังไม่ขึ้น วิปัสสนากรรมฐาน เลย ผู้ปฏิบัติธรรม ในเมืองไทย
 เราก็มีแค่คุณ sam เยอะมาก.........ยังอีกไกล บันไดขั้นแรกของโสดาบัน ก็ยังไปไม่ถึง เลย ครับ (เน้น แค่ 3 เทปนี้เท่านั้น)
 น้อง ติ๋ม...ถ้าเอาแค่นี้... เสียดาย ที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ (เสียเวลาและเสียโอกาส) ไม่รู้จะได้เกิดอีก หรือเปล่า? อาจจะอีกเป็น พันๆ ปี
 การได้เกิดเป็นมนุษย์ นั้น ยากมาก เพราะยังมีอีก 30 ภพภูมิ ที่เราได้ สิทธิ์ จากกรรมที่ได้สะสมบน ภพมนุษย์เท่านั้น (หนึ่งใน
 สามสิบเอ็ด ภพภูมิ)ไปเวียนเกิด  =  อีก 30 เสวยกรรมสะสม อย่างเดียว......ครับน้องติ๋ม
      บันทึกการเข้า
ทราย 16
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,838

« ตอบ #73 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2556, 11:21:31 »

อ้างถึง
ข้อความของ ติ๋ม จันทร์ฉาย เมื่อ 10 พฤษภาคม 2556, 19:40:21
ธรรมชาติหลังบ้านค่ะ
ยามฝนกตก อากาศหนาวเย็น แม่เป็ดกับลูก 9 ตัว เขาอยู่กันอย่างไร
เอาภาพธรรมชาติของความเป็นแม่และพ่อมาฝากค่ะ

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=RkntyxItEXI" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=RkntyxItEXI</a>

ส่วนพ่อก็ตามปกป้องอยู่ข้างหลังยามออกหากินกัน



น่ารักอย่างซาบซึ้งค่ะ
      บันทึกการเข้า
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842

เว็บไซต์
« ตอบ #74 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2556, 13:11:28 »


เด๋วนี้มีมุมมองเกี่ยวกับสถานะทางเพศมากขึ้น
      บันทึกการเข้า

เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
  หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 14  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><