เที่ยวไปตามตะวัน: Switzerland ภาคพิเศษ(เน้นเมืองเล็กๆ)+Germany ROMANTIC ROAD

[seree_60]

		อ้างถึง			ข้อความของ Kaimook เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2556, 00:08:28
	อ้างถึง ข้อความของ seree_60 เมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2556, 13:27:35 ภาพทั้งหมด เป็นฝีมือของเพื่อนที่อยู่ที่ฮอลแลนด์ ยืมเขามาโชว์ ฝีมือจริงของผมต้องรอ เดือน พค. . รอชมนะคะพี่ตะวัน

หวัดดีน้องน้ำอ้อย รอก่อนนะครับ  ชมภาพไปเที่ยวกับน้อง 2520 ที่ห้อง 20 ไปก่อนนะครับ
เอาภาพนี้มาฝากครับ

ตะวันกำลังลาลับขอบฟ้า เหนือลำน้ำน่าน

[seree_60]

จันทร์อร่าม ที่ปากโมก



ดวงจันทร์..พี่ฝันถึงเจ้า...

[Leam]

สวัสดียามบ่ายครับ...

พี่ตะวัน..พี่อร..พี่นก..พี่ทราย..พี่ป้อม..พี่อ้อย..พี่หนุน..น้องน้ำอ้อย..น้องยา และพี่น้องทุกท่าน

ภาพตะวันลับขอบฟ้า เหนือลำน้ำน่าน... ถูกใจจริงๆครับ

[Leam]

		อ้างถึง			ข้อความของ Kaimook เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2556, 00:08:28
	อ้างถึง ข้อความของ seree_60 เมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2556, 13:27:35 ภาพทั้งหมด เป็นฝีมือของเพื่อนที่อยู่ที่ฮอลแลนด์ ยืมเขามาโชว์ ฝีมือจริงของผมต้องรอ เดือน พค. . รอชมนะคะพี่ตะวัน

อีก 3 เดือน...

จะรอชมด้วยครับพี่

[seree_60]

		อ้างถึง			ข้อความของ Leam เมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2556, 14:06:45
	อ้างถึง ข้อความของ Kaimook เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2556, 00:08:28 อ้างถึง ข้อความของ seree_60 เมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2556, 13:27:35 ภาพทั้งหมด เป็นฝีมือของเพื่อนที่อยู่ที่ฮอลแลนด์ ยืมเขามาโชว์ ฝีมือจริงของผมต้องรอ เดือน พค. . รอชมนะคะพี่ตะวัน อีก 3 เดือน... จะรอชมด้วยครับพี่

หมู่บ้านคินเดอร์ไดก์ (Kinderdijk) ประเทศเนเธอร์แลนด์

เป็นหมู่บ้านหนึ่งในประเทศเนเธอร์แลนด์ (ฮอลแลนด์) ประกอบด้วยกังหันเก่าแก่ 19 ตัว ตั้งเรียงรายเลียบคลอง

Kinderdijk ในภาษาดัตช์ แปลเป็นไทยได้ว่า เขื่อนกั้นน้ำของเด็ก (kinder = เด็ก / dijk = เขื่อนกั้นน้ำ) ซึ่งชื่อนั้นมีที่มาจากตำนาน ครั้งนึงนานมาแล้ว เกิดอุทกภัย มีเด็กน้อยนอนอยู่ในเปลเด็กลอยมากับคลื่นน้ำโดยมีเจ้าแมวช่วยประคองเปลนั้นให้มาเกยตื้นที่บริเวณทางลาดของเขื่อน




ชมภาพนี้ไปก่อนนะครับ

[seree_60]

สะพานแยกน้ำ Moses Bridge of Fort de Roovere เนเธอร์แลนด์

สะพานถูกสร้างจากแรงบันดาลใจจากทะเลแหวกในไบเบิ้ล ตั้งอยู่บริเวณเหนือ West Brabant Water Line มีคูและป้อมปราการที่ถูกสร้างขึ้นสมัยศตวรรธที่ 17 เพื่อป้องกันการบุกรุกของฝรั่งเศสและเสปน ได้เกิดอัศจรรย์คูน้ำแห่งนี้ได้ถูกแหวก! สะพานถูกสร้างด้วยจากการเจาะเสาเข็มลึกลงใต้ดินเรียบร้อย จากนั้นเรียงกำแพงไม้สองข้าง ตามด้วยพื้นและบันไดไม้ มีวิธีการประกอบโดยใช้ลิ้นเสียบกับการเซาะร่อง โดยวัสดุหลักเป็นไม้เนื้อแข็ง และไม้ Accoya ที่ปลอดสารพิษ และมีความแข็งแรงทนทาน ... เป็นการนำตำนานมาเป็นแรงบันดาลใจให้ใช้ได้จริง

•   สะพานที่เห็นนี้เป็นสะพานสำหรับข้ามคูน้ำรอบๆป้อมปราการFort de Roovere ในศตวรรษที่ 17 ที่ตั้งอยู่ที่เมืองHalsteren ประเทศเนเธอร์แลนด์
•   โดย สะพานดั่งเดิมนั้นไม่มีอยู่แล้ว ชำรุดทรุดทรามลง นักออกแบบจริงคิดว่าทำไมเราต้องมายึดติดสร้างสะพานแบบเดิมๆ ทีสร้างเหนือคูน้ำกันอยู่นั้น
•   แทนที่ด้วยสะพานที่มองไม่เห็น โดยท้องสะพานนั่งอยู่บนพื้นคูน้ำ โดยมีมีราวสะพานอยู่สูงกว่าผิวน้ำเล็กน้อย ที่สามารถให้คนสัญจรผ่านไปมาได้โดยไม่เปียกน้ำแน่นอน
•   สะพานดั่งกล่าวได้รับชื่อว่า สะพานโมเสส(Moses Bridge) ตามเรื่องราวในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ที่โมเสสเปิดทะเลแดง
•   ปัจจุบัน สะพานโมเสสเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่จะมา ป้อมปราการFort de Roovere
•   สะพานโมเสสสร้างด้วยไม้ และป้องกันน้ำรั่วซึ่มด้วยการหุ้มด้วย ฟอร์ย(Foil)
•   สะพาน แห่งนี้แสดงให้เห็นว่า สิ่งก่อสร้างสมัยใหม่สามารถอยู่ร่วมกับสิ่งก่อสร้างสำคัญทางประวัติศาสตร์ หากได้รับการออกแบบที่ดีและเล็งเห็นถึงความสำคัญของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
•   

[seree_60]

โคคเฮม (Cochem)

เป็นเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในมลรัฐไรน์แลนด์ ฟาลซ์ (Rheinland Pfalz) พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองจิ๋วแห่งนี้เป็นแม่น้ำและเทือกเขาน้อยใหญ่สลับสับเปลี่ยนกัน การปลูกบ้านเรือนและอาคารต่างๆ นั้นจำเป็นต้องอาศัยแนวเชิงเขาเป็นส่วนใหญ่ สถาปัตยกรรมเยอรมันตั้งแต่ยุคปี คศ. 1600 แม่น้ำโมเซล (Mosel) เป็นสายธารที่หล่อเลี้ยงชาวโคดเฮมมาตั้งแต่บรรพบุรุษที่มีต้นกำเนิดในประเทศฝรั่งเศส ไหลผ่านเมืองน้อยใหญ่ในประเทศลักเซมเบิร์ก และมาบรรจบกับแม่น้ำไรน์ ชาวโคคเฮมนำพื้นที่บนเนินเขาเหล่านี้ไปทำเป็นไร่องุ่น เพื่อนำเอาผลองุ่น มาแปลรูปเป็นไวน์ตามสูตรการผสมและบ่มไวน์ชนิดต่าง ๆ

[seree_60]

เมืองกอลมาร์ ประเทศฝรั่งเศส

กอลมาร์ (Colmar) เส้นทางสายไวน์ บรรยากาศแห่งท้องทุ่ง ไร่องุ่น เทือกเขาอันงดงาม สถานที่ท่องเที่ยวที่แสนโรแมนติก เป็นดินแดนที่ถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีความโรแมนติก จนเป็นที่ยอมรับกันว่า "ลิตเติ้ลเวนิซ" ปัจจุบันเมืองเก่าแก่แห่งนี้ได้กลายเป็นเมืองที่น่ามาเยือนเป็นอันดับต้นๆของประเทศฝรั่งเศส

ยังเป็นบ้านเกิดของจิตรกรและช่างแกะพิมพ์ผู้ออกแบบอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ ที่มหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นของขวัญที่ชาวฝรั่งเศสมอบให้แก่ชาวอเมริกัน ในวันที่อเมริกาเฉลิมฉลองวันชาติครบ 100 ปี และยังมีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้ยังคงเป็นเมืองที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมและบรรยกาศของเมืองโบราณ ในตัวเมืองเก่าก็มีพิพิธภัณฑ์ คริสต์ศาสนสถาน และร้านค้าและที่อยู่อาศัยที่คงสภาพเหมือนเมืองในยุคกลาง

[seree_60]

หมู่บ้านริค-เวีย (Riquewihr) ประเทศฝรั่งเศส

หมู่บ้านมรดกโลก เมืองแห่งไร่องุ่น หมู่บ้านเล็กๆ บนถนนสายไวน์ของแคว้น Alsace ติดชายแดนประเทศเยอรมัน ได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งใน Les Plus Beaux Villages de France (หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดของฝรั่งเศส)

[หนุน'21]

		อ้างถึง			ข้อความของ seree_60 เมื่อ 02 มีนาคม 2556, 11:05:31
	โคคเฮม (Cochem) เป็นเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในมลรัฐไรน์แลนด์ ฟาลซ์ (Rheinland Pfalz) พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองจิ๋วแห่งนี้เป็นแม่น้ำและเทือกเขาน้อยใหญ่สลับสับเปลี่ยนกัน การปลูกบ้านเรือนและอาคารต่างๆ นั้นจำเป็นต้องอาศัยแนวเชิงเขาเป็นส่วนใหญ่ สถาปัตยกรรมเยอรมันตั้งแต่ยุคปี คศ. 1600 แม่น้ำโมเซล (Mosel) เป็นสายธารที่หล่อเลี้ยงชาวโคดเฮมมาตั้งแต่บรรพบุรุษที่มีต้นกำเนิดในประเทศฝรั่งเศส ไหลผ่านเมืองน้อยใหญ่ในประเทศลักเซมเบิร์ก และมาบรรจบกับแม่น้ำไรน์ ชาวโคคเฮมนำพื้นที่บนเนินเขาเหล่านี้ไปทำเป็นไร่องุ่น เพื่อนำเอาผลองุ่น มาแปลรูปเป็นไวน์ตามสูตรการผสมและบ่มไวน์ชนิดต่าง ๆ

สวยจุงเบย ครับพี่ตะวัน
คิดถึง...อยากไปอีก เหอ เหอ เหอ

 

[Pete15]

มา ครับ  ....สวย ครับ อยากเห็นของจริง 

[seree_60]

		อ้างถึง			ข้อความของ Pete15 เมื่อ 03 มีนาคม 2556, 09:25:19
	มา ครับ  ....สวย ครับ อยากเห็นของจริง

ไปด้วยกัน ไปป๊ะ....

[seree_60]

พักผ่อนสายตา กับ JEWELS ASHORE

[Leam]

สวัสดียามสายใก้ลเที่ยงครับ...

พี่ตะวัน..พี่ปี๊ด..พี่อร..พี่นก..พี่ทราย..พี่ป้อม..พี่อ้อย..พี่หนุน..น้องน้ำอ้อย..น้องยา และพี่น้องทุกท่าน

รูปสวย... ดูแล้วสบายตา,สบายใจจัง

ขอบคุณครับ.. พี่ตะวัน

[Leam]

		อ้างถึง			ข้อความของ seree_60 เมื่อ 15 มีนาคม 2556, 10:29:49
	พักผ่อนสายตา กับ JEWELS ASHORE

หิน, เกลียวคลื่น, ขอบฟ้า, ดวงอาทิตย์... "อัญมณีชายฝั่ง"

สวย ๆ ๆ...

[seree_60]

แถม ให้น้องแหลมอีกรูป

[Pete15]

มาครับ     มาดึกๆ จะได้ไม่มี ใครเห็น

[seree_60]

		อ้างถึง			ข้อความของ Pete15 เมื่อ 16 มีนาคม 2556, 01:15:24
	มาครับ     มาดึกๆ จะได้ไม่มี ใครเห็น

นอนหลับแล้ว จึงมองไม่เห็น เพื่อน ขอบคุณนะที่แวะมาเยี่ยม

[เอมอร 2515]

มาเยี่ยมด้วยคนค่ะ

[seree_60]

ข้อมูลท่องเที่ยว CROATIA

เมือง Rovinj เป็นเมืองตากอากาศชายทะเลชื่อดัง เมืองสวย มีเสน่ห์ อีกแห่งหนึ่งในประเทศโครเอเชีย ตั้งอยู่ในคาบสมุทร Istria  เมืองเก่าแก่ ตั้งแต่ยุคโรมัน และต่อมาก็อยู่ภายใต้อาณาจักรไบเซนไทน์ Aquileia เวเนเซียน และจักรวรรดิ์ออสเตรีย ตามลำดับ จนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุด ก็เป็นส่วนหนึ่งของยูโกสลาเวีย และโครเอเชียในปัจจุบัน  เขตเมืองเก่า Rovinj ตั้งอยู่บนเนินเขายื่นลงไปในทะเล (Penninsula)  ท่านจะได้เห็น ตึกรามบ้านเรือน โบสถ์เก่า St Euphemia ในเมืองเก่า แบบโรมัน กอธิค เรอเนสซองค์ บารอค และ นีโอคลาสสิค ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน   ถนนหนทางปูด้วยหินคอปเปอร์  จากบนเนินเขาของเมืองเก่า Rovinj  มองลงมาจะเห็นวิวทะเลเอเดรียติก ท่าเรือที่เต็มไปด้วยเรือยอร์ชทั้งที่จอดและแล่นในทะเล หมู่เกาะใหญ่น้อย เมืองนี้ยังมีหาดหินสวยๆ(ที่โครเอเชียหาดส่วนใหญ่จะเป็นหิน ทรายจะไม่ค่อยมี แต่หินไม่แหลมคมมากลงเล่นน้ำได้ค่ะ)  น้ำใส ให้ลงเล่นน้ำได้ด้วย  หน้าร้อนอากาศจะร้อนมาก ราว 30 กว่าองศาเซลเซียส

[seree_60]

 นอกจากเมือง Rovinj แล้ว ยังมีเมือง Pula เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งนึงของโครเอเชีย ตั้งอยู่ที่ปลายสุดคาบสมุทร Istria  เมืองเก่ายุคโรมัน  ที่มีโรมันอารีน่า Roman Arena ตั้งอยู่ติดทะเล  ใหญ่โตมโหฬารและเก่าแก่พอๆ กับโคลอสเซียมที่กรุงโรมทีเดียว   เมือง Pula เป็นเมืองใหญ่ที่สุดใน Istria มีอาคารบ้านเรือน โบสถ์ สไตส์ Medieval และ Renaissance  เก่าแก่  สง่างาม หลงเหลืออยู่มาก  ยังมีการค้นพบร่องรอยไดโนเสาร์ ที่เมือง Pula พิพิธภัณฑ์อยู่ใกล้กับโรมันเธียเตอร์ สถานที่น่าสนใจ  อาทิ Cathedral of the Assumption of the Blessed Virgin Mary  , Temple of Roma and Augustus   สร้างสมัยคศวรรษ ที่  1-6  เมือง Pula นอกจากจะเป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลยอดนิยม มีโบราณสถานโรมันมากมาย  เมือง Pula ยังเป็นเมืองสำคัญด้านการค้า ท่าเรือ และมีอู่ต่อเรือสำคัญของโครเอเชียอยู่ที่นี่   มีสนามบินใกล้เคียงที่มีโลว์คอสแอร์ไลน์ ryanair บินจากอังกฤษมาลงที่ Pula ด้วย (เฉพาะหน้าร้อน)
 

[seree_60]

Motovun เป็นเมืองเล็กๆ อยู่ในแคว้น Istria ประเทศโครเอเชีย  มีประชากรทั้งหมด เพียงแค่ 900 กว่าคนเท่านั้น(500 คนอยู่ในตัวเมือง นอกนั้นอยู่โดยรอบ)  Motovun  เป็นเมืองโบราณเก่าแก่มีการขุดค้นพบร่องรอยย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยโรมัน ราวคศวรรษ. ที่ 1 ที่สมัยโบราณเรียกว่า  Kastelijer ตัวเมืองตั้งอยู่บนเนินเขาสูง 270 ม. จากระดับน้ำทะเล บ้านเรือนอาคารต่างๆ สร้างลดหลั่นระดับลงตามไหล่เขา และมีกำแพงด้านในที่เคยเป็นป้อมปราการตั้งแต่สมัยโรมัน ต่อจากสมัยโรมันในคศวรรษ 10 ถึง 11 Motovun ก็ปกครองโดยบิชอบ Poreč จนกระทั่งถูกยึดเป็นอาณานิคมภายใต้การปกครองของเวนิส ในปี 1278 เฉกเช่นเมืองอื่นๆใน เขต  Istria โบสถ์ บ้านเรือนใน Motovun ส่วนใหญ่สร้างประมาณคศวรรษ ที่ 14-17 ในแบบ โรมัน โกธิคและเรอเนสซองค์ได้รับอิทธิพลจากเมืองเวนิส คล้ายๆ กับเมืองอาณานิคมอื่นๆ ของเวนิส

สถานที่เด่นๆ ได้แก่ โบสถ์ St. Stephen (หรือ Sveti Stjepan) ซึ่งถูกสร้างแบบเรอเนสซองค์ตอนปลาย ออกแบบโดยสถาปนิคเวเนเซียนชือ Andrea Palladio ภายในโบสถ์มีชิ้นงานศิลปะสวยงามอาทิ รูปสลักหินอ่อนของ  เซนต์. Stephen และ  เซนต์ Laurenceโดยนักปั้น  Francesco Bonazzo และภาพวาด  the Last Supper วาดอันวิจิตร  โดยศิลปินชาวเวเนเซียนไม่ทราบชื่อบนผนังเหนือแท่นบูชาในโบสถ์ ทางเดินในเมือง Motovun ปูลาดด้วยหินคอปเปอร์ ตั้งแต่สมัยโบราณว่ากันว่ามีอายุกว่าพันปีทีเดียว

Motovun ยังมีชื่อเสียงว่าเป็นที่เก็บเห็ด Truffle คุณภาพดี พบได้ตามบริเวณแนวป่าเขียว เลียบแม่น้ำ Mirna ถ้าใครมีโอกาสขับรถผ่านเมือง Motovun บางทีก็จะเห็นมีชาวบ้านเอาเห็ด Truffle  ออกมาวางขายตามริมทางด้วย

ทุกปีที่เมือง Motovun เค้าจะมีจัดงาน International Motovun Film Festival ที่ค่อนข้างเป็นที่รู้จักพอสมควรในหมู่นักสร้างภาพยนตร์อิสระ จากยุโรป และอเมริกา งานจัดราวๆ 5–6 วัน ในช่วงปลายๆ เดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม  และเค้ายังมีการให้รางวัล Award ที่ชื่อว่า  Propeler Motovuna  ภาพยนตร์ที่พอเป็นที่รู้จักและได้รางวัลชนะเลิศที่ Motovun เมื่อ ปี 2000 ได้แก่ Billy Elliot หนังของอังกฤษ

ด้านหลังแบงค์ใบละ 10 คูน่าของประเทศโครเอเชีย มีรูปแปลนเมือง Motovun พิมพ์ปรากฎอยู่

[seree_60]

 ลงใต้ไปตามหาฝันที่ Split และ Dubrovnik โครเอเชีย
อาจจะมีใครบางคนที่มีฝันอยากไปเที่ยวประเทศโครเอเชีย เมือง Split และ เมือง Dubrovnik เมืองชายทะเลแสนสวยของโครเอเชีย อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของความฝันของท่านก็ได้


เมือง Split

เมือง Split เมืองท่าติดทะเลเอเดรียติกที่ใหญ่ที่สุดของโครเอเชีย เป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางน้ำสำคัญ  มีท่าเรือขนาดใหญ่ รองรับเรือสำราญท่องเที่ยวจากทุกมุมทวีป  ที่จอดเรือ Ferries ไปยังที่ต่างๆ อาทิ อิตาลี(จากเวนิส ทรีเอสเต้ และแองโคน่า Ancona และ Bari ) ประเทศกรีก และอื่นๆ

สถานที่น่าสนใจในเมือง Split ได้แก่ Diocletian’s Palace ซึ่งได้รับรองเป็นมรดกโลก  โบสถ์ประจำเมือง Diocletian’s Palace และ กำแพงเมืองโบราณ

Split เป็นเมืองใหญ่ ดังนั้นจีงมีโรงแรม ร้านค้า ร้านกาแฟ น่ารัก น่านั่ง มากมาย  เดินเล่นเลียบไปตามชายฝั่ง ดูเรือสำราญ Cruise Ship เรือยอร์ช เรือเฟอร์รี่ น้อยใหญ่ แล่นเข้าแล่นออกท่าเรือ ก็เพลิดเพลินสำราญใจดีไม่น้อย

[seree_60]

เมือง Dubrovnik

ตั้งอยู่ทางใต้เกือบสุดประเทศโครเอเชีย ในแคว้น Dalmatia เป็นเมืองที่ไม่ว่าจะเปิดหนังสือท่องเที่ยวเล่มไหนของโครเอเชียก็แนะนำให้มาเที่ยวที่เมืองนี้

ลอร์ด ไบรอัน กวีชาวอังกฤษ ให้นิยามเมืองนี้ว่า ‘the pearl of the Adriatic’ เมือง Dubrovnik เมืองที่รายล้อมไปด้วยกำแพงโบราณ ถนนปูด้วยหินมาร์เบิล  ตึกรามอาคารบ้านเรือนสไตส์บารอค โบสถ์ใหญ่น้อย อนุสาวรีย์(Monuments)และปราสาท(castle)ต่างๆ ล้วนเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ย้อนกลับไปหลายๆ ร้อย หลายพันปี ตั้งแต่สมัยโรมัน บาเซนไทน์ เวเนเซียน ยูโกสลาฟ และโครเอเชียดังปัจจุบัน Dubrovnik มีที่ตั้งติดชายฝั่งทะเลเอเดรียติกที่ลงตัวงดงาม หาดทรายปนหิน น้ำใสสะอาด คาบสมุทรที่ยื่นออกไปในทะเล และหมู่เกาะใหญ่น้อย ใกล้เคียง ทำให้ Dubrovnik ยากที่จะถูกปฎิเสธจากผู้มาเยือนโครเอเชีย
เมือง Split ห่างจากเมืองทรีเอสเต้ 486 กม. Dubrovik 713 กม.

เนื่องจากระยะทางไป Dubronik นั้นค่อนข้างไกลมาก ผู้เขียนแนะนำว่าควรจะไปหยุดพักเที่ยวที่ Split ก่อน แล้วอาจจะนั่งรถบัสต่อไป Dubronik  หรืออีกทางเลือกนึงคือไปทางเรีอ มองหาเรือ Ferry หรือ  Cruise Tour จาก Split-Dubrovnik การนั่งเรือท่องเที่ยวก็เป็นอีกทางเลือกนึงที่น่าสนใจ ล่องเรือไปตามชายฝั่งทะเลเอเดรียติก ที่เต็มไปด้วยเกาะใหญ่น้อย ท่านจะได้เห็นอีกมุมนึงสวยๆ ของประเทศโครเอเชีย
 

[seree_60]

เมือง Zagreb เมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย ที่น่าค้นหา

บ่อยครั้งที่นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนโครเอเชียมักจะมองข้ามเมืองหลวงของประเทศนี้ไป โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบแต่ทะเล ชายหาด แสงแดด  มักจะไม่ชอบเที่ยวในเมืองอย่างซาเกรบ แต่จริงๆ แล้ว เมืองซาเกรบ ก็มีอะไรน่าสนใจให้มาเยือนให้มาค้นหาเช่นกัน   เมืองซาเกรบเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโครเอเชีย ตัวเมืองตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Sava และไหล่เขา Medvednica ตึกรามอาคารบ้านเรือน โบสถ์ ตึกที่ทำการราชการ ปราสาท สแควร์ และพิพิทธภัณฑ์ ต่างๆ ส่วนใหญ่ ในเมือง ซาเกรบ สร้างเมื่อยุคครั้งถูกปกครองโดย Austro-Hungarian   

ที่เที่ยวที่น่าสนใจในเมืองซาเกรบ อาทิ จัตุรัส Ban Josip Jelacic Main Square, Cathedral of the Blessed Virgin Mary, St Mark's Church, Zagreb Maksimir Park, Ilica Shopping street, Mt Medvednica by Tram, medieval fortress of Medvedgrad

หมายเหตุ : สำหรับการเดินทางไปประเทศโครเอเชีย โครเอเชียกำลังพยายามเข้าเชงเก้นเร็วๆ นี้ และเพื่อเป็นการโปรโมตการท่องเที่ยวของประเทศ ล่าสุด โครเอเชียได้ทำการอนุโลมให้ผู้ถือวีซ่าเชงเก้นแบบ C สามารถเข้าประเทศโครเอเชียได้ด้วย ระหว่างวันที่ 1 มค. 2013 เป็นต้นไปค่ะ

โครเอเชีย ใช้สกุลเงินคูน่า Kuna อัตราแลกเปลี่ยนจะอยู่ที่ประมาณ 7.55 Kuna ต่อ 1 ยูโร