เริง2520
|
|
« ตอบ #2550 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2556, 20:16:39 » |
|
ในทุ่งหญ้ากว้างขวางสุดขอบโลก เป็นแดนเถื่อนมีแต่อินเดียนแดงอาศัยอยู่ สลับด้วยเมืองเล็กๆที่ฝรั่งผิวขาวไปตั้งถิ่นฐานอยู่เป็นหย่อมๆ พ่อพาแม่และลูกสาวเล็กๆสองคนไปสร้างกระท่อมไม้ซุงอยู่อีกหลังหนึ่ง ห่างจากเมืองอินดีเพนเดนซ์ราว 40 ไมล์ มีผู้อพยพอื่นๆไปสร้างกระท่อมอยู่ห่างๆกันมองกันไม่เห็น ที่แคนซัสนี้เอง ลูกสาวคนที่สามถือกำเนิดมา พ่อแม่ตั้งชื่อตามชื่อแม่ว่า แคโรไลน์ ซีเลสเชีย แต่เรียกย่อๆว่า "แครี่" ทุ่งกว้างแคนซัสมีความอุดมสมบูรณ์อย่างที่ชาร์ลส์หวังไว้ มีสัตว์ต่างๆให้ล่ามากมายตั้งแต่กระต่ายป่า ไก่งวงป่าไปจนกวาง ลำห้วยก็มีปลาเต็ม พื้นดินก็เรียบ ไม่มีต้นไม้หรือหินให้เกะกะ เหมาะจะทำไร่ปลูกข้าว แต่ภยันตรายอย่างที่ไม่มีในวิสคอนซินก็มีคุกคามมาตลอด คืออินเดียนแดงที่ไม่ชอบพวกผิวขาวว่ามารุกรานถิ่นที่อยู่ของเขา พวกนี้จะมาที่บ้านบ่อยๆเพื่อขู่เข็ญเอาอาหารและยาสูบไปตามใจชอบ นอกจากนี้ก็มีฝูงหมาป่าดุร้ายซึ่งกล้าเข้ามาล้อมกระท่อมไว้ทั้งหลัง ที่ร้ายที่สุดคือยุงซึ่งนำเชื้อไข้ป่า (มาเลเรีย)มาทำให้ครอบครัวเกือบจะถึงตาย ชาร์ลส์อยู่ที่แคนซัสได้ปีเศษ รัฐบาลกลางก็ออกประกาศให้พวกที่ไปตั้งถิ่นฐานออกไปให้พ้นจากเขตของอินเดียนแดง เท่ากับว่าเขาลงทุนลงแรงไปสูญเปล่า ประกอบกับเขาได้รับจดหมายจากคนที่ซื้อบ้านไม้ซุงและที่ดินของตัวบ้านว่าไม่มีเงินจะผ่อนอีกแล้ว ขอให้กลับมารับบ้านคืนไป ชาร์ลส์ก็เลยตัดสินใจพาภรรยาและลูกสาวเล็กๆ 3 คน คนเล็กยังแบเบาะอยู่ เดินทางด้วยเกวียนประทุนออกจากแคนซัส ทิ้งบ้านและไร่นาที่ลงทุนลงแรงไว้มากมายให้กลายเป็นที่รกร้างตามเดิม กลับไปสู่ป่าใหญ่รัฐวิสคอนซินที่เขาจากมา
|
|
|
|
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์
คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927
|
|
« ตอบ #2551 เมื่อ: 28 ธันวาคม 2556, 09:33:19 » |
|
สวัสดีครับพี่เริง ตามอ่านตามชมครับ ขอบคุณ ที่ค้นข้อมูลมาแบ่งบัน พี่น้องเรา...
|
“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้ อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #2552 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2556, 20:13:03 » |
|
ครับผม หลายท่านน่าจะได้เคยอ่านแล้ว ..สนุกมากๆ มีแปดเล่ม
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #2553 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2556, 20:14:45 » |
|
ชาร์ลส์กลับไปถึงป่าใหญ่ในวิสคอนซินอีกครั้ง สู่บ้านไม้ซุงที่จากมา ในตอนแรกเจ้าของใหม่ที่บอกคืนบ้านยังไม่ย้ายออก ครอบครัวอิงกัลส์จึงต้องไปอาศัยอยู่ชั่วคราวกับลุงเฮนรี่ เด็กๆก็ได้เล่นกันเป็นครอบครัวใหญ่อีกครั้ง จนกระทั่งเจ้าของใหม่ย้ายออกไป ชาร์ลส์ก็พาลูกเมียกลับสู่บ้านเดิมที่เขาสร้างและเป็นที่เกิดของลูกสาวทั้งสอง ชาร์ลส์กลับไปปลูกพืชผลในที่หักร้างถางพงกลางป่า เหมือนอย่างที่เคยทำอีกครั้ง ลอร่าเติบโตพอจะจำความได้แล้วในตอนนี้ เธอบันทึกรายละเอียดชีวิตในแต่ละช่วงของฤดูกาล ตั้งแต่การสะสมอาหารในปลายฤดูใบไม้ร่วงเตรียมไว้ก่อนหิมะตก ค่ำคืนที่อบอุ่นข้างไฟในเตาผิง มีเสียงซอของพ่อให้ความสุขสนุกสนานตลอดเวลาที่หิมะตกหนักภายนอก จนหิมะละลาย เด็กๆออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านได้อีกครั้ง และเมื่อฤดูร้อนมาเยือน ญาติๆก็มาเยี่ยมเยียนกัน ความทรงจำอันแสนสุขในรอบสองที่กลับบ้านในป่าใหญ่ ถูกบันทึกไว้ในหนังสือ "บ้านเล็กในป่าใหญ่" ที่เป็นตอนแรกของนิยายชุดนี้ เพียงแต่ลอร่าสร้างให้เป็นชีวิตแรกเริ่มตั้งแต่เกิดจนห้าขวบ ไม่ใช่ชีวิตรอบสองในป่าใหญ่อย่างในชีวิตจริงเบื้องหลัง
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #2554 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2556, 20:17:08 » |
|
แมรี่อายุหกขวบ เริ่มไปโรงเรียนที่อยู่ห่างจากบ้านไป 1 ไมล์ ลอร่าอยากไปมากแต่เธอยังเล็กเกินกว่าจะไปได้ เธอก็เลยหัดอ่านอยู่ในบ้านโดยมีแม่เป็นคนสอน สิ่งที่พ่อแม่ชอบตรงกันคือหนังสือ ในบ้านมีอยู่หลายเล่ม ตอนค่ำแม่จะอ่านหนังสือดังๆให้พ่อและลูกฟัง ดังนั้นเมื่อลอร่าหัดอ่านหนังสือเธอก็เลยอ่านได้เร็วเพราะมีพื้นฐานมาจากฟังแม่อ่านดังๆแล้วก่อนหน้านี้ เมื่อลอร่าโตพอจะไปเรียนหนังสือได้ เธอก็ตามพี่สาวไปเรียนด้วย ลอร่าสนุกกับชีวิตนักเรียนมาก เธอไม่เคยร้องไห้โยเยไม่ยอมไปร.ร. หรือขี้เกียจอ่านขี้เกียจเขียน ความรักหนังสือที่ถ่ายทอดจากพ่อแม่ ทำให้ลอร่ารักการอ่านและเขียน สิ่งนี้เป็นภูมิหลังที่มั่นคงรองรับความเป็นนักเขียนของเธอในห้าสิบกว่าปีต่อมา
แต่ความสุขในชีวิตช่วงนี้ก็จบลงใน 2 ปี ในเมื่อต้องเลี้ยงปากท้องเพิ่มขึ้น เป็น 5 คนในบ้าน งานหักร้างถางพงในป่าเพื่อปลูกไร่ข้าวโพดและข้าวสาลีเป็นงานหนักเกินไปสำหรับชาร์ลส์ ปัญหาใหญ่คือต้นไม้ต้นเล็กต้นน้อยในดินที่แตกแขนงใหม่ให้ต้องขุดทิ้งไปเรื่อยไม่รู้จักจบ ประกอบกับมีผู้อพยพมาตั้งบ้านเรือนกันจนคับคั่ง ล่าสัตว์ได้ยากขึ้นทุกที เขาก็อยากจะอพยพอีกครั้งตามนิสัยผู้ไม่ชอบอยู่กับที่ คราวนี้เขาตัดสินใจไปแสวงหาถิ่นฐานใหม่ในรัฐมินเนโซตา ซึ่งเป็นรัฐติดกันกับวิสคอนซิน อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ไม่ไกลอย่างแคนซัส
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #2555 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2556, 20:18:35 » |
|
คราวนี้ชาร์ลส์มีเพื่อนร่วมเดินทางด้วย คือปีเตอร์พี่ชายของเขากับอีไลซ่าภรรยาซึ่งเป็นน้องสาวของแคโรไลน์ ตัดสินใจจะโยกย้ายถิ่นฐานไปมินเนโซตาด้วยกัน ในตอนแรกแคโรไลน์ไม่เต็มใจที่จะอพยพออกจากป่าใหญ่ไประเหเร่ร่อนอยู่ตามทุ่งกว้างไกลจากความเจริญ แต่ในเมื่อมีครอบครัวพี่น้องไปด้วยกัน เธอก็รู้สึกว่ายังดีกว่าไปกันตามลำพังเหมือนครั้งไปอยู่แคนซัส
ชาร์ลส์ขายบ้านไม้ซุงและที่ดินไปในราคา 1,000 ดอลล่าร์ เอาไปตั้งตัวในดินแดนใหม่ ท่ามกลางความหนาวทารุณเต็มไปด้วยหิมะตกหนัก ครอบครัวทั้งสองก็ต้องออกเดินทางไปในเกวียนประทุน ท่ามกลางความห่วงใยและไม่เห็นด้วยของญาติพี่น้อง แต่ทุกคนก็รู้ว่าไม่มีทางเลือก ชาร์ลส์กับปีเตอร์จะต้องเดินทางข้ามทะเลสาบเปปินเพื่อข้ามเขตเข้าในรัฐมินเนโซตา และต้องเลือกกลางฤดูหนาวที่ทะเลสาบเป็นน้ำแข็งหนาทึบพอที่เกวียนจะเดินทางข้ามไปได้ ถ้ารอให้อากาศอุ่นกว่านี้ น้ำแข็งจะเริ่มบางลงและแตกง่าย ทำให้ม้าและเกวียนตกลงไปในน้ำเย็นเจี๊ยบไหลเชี่ยวใต้ทะเลสาบ จมน้ำตายกันหมดที่นั่น
ลอร่าเดินทางไปในความหนาวต่ำกว่าศูนย์องศาไม่รู้ว่าเท่าไหร่ ไปในเกวียนประทุน ต้องข้ามทะเลสาบไปจนขึ้นฝั่งจึงจะก่อไฟ ผิงไฟกันหนาวกันได้
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #2556 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2556, 20:21:35 » |
|
ข้ามทะเลสาบเปปินมาได้ก็เข้าเขตมินเนโซตา ถึงเมืองเลคซี้ตี้ ครอบครัวที่เผชิญความหนาวนี้ก็เข้าไปพักชั่วคราวในโรงแรม ตรงกับวันเกิดอายุครบ 7 ขวบของลอร่าพอดี พ่อออกจากโรงแรมฝ่าความหนาวไปซื้อของขวัญมาให้ลูก คือหนังสือรวมบทกวีนิพนธ์ ชื่อ The Floweret เขตที่ทั้งสองครอบครัวมาถึงคือมินเนโซตาตะวันออก ลุงปีเตอร์พบฟาร์มแห่งหนึ่งที่เขาอยากจะปักหลักลงที่นั่น อ ยู่ริมแม่น้ำซัมบโร ส่วนชาร์ลส์อยากจะเดินทางต่อไปทางตะวันตกของรัฐ ดังนั้นสองครอบครัวก็ตกลงจะแยกทางกัน ชาร์ลส์พาครอบครัวเดินทางต่อไปตามลำพัง ในที่สุดเขาก็มาถึงหมู่บ้านเล็กๆชื่อวอลนัท โกรฟ เป็นหมู่บ้านใหม่เพิ่งตั้งได้แค่ 3 ปี ชาวบ้านส่วนใหญ่มีเชื้อสายนอร์เวย์ เขาพบชาวนอร์เวย์คนหนึ่งต้องการจะขายที่ดินริมลำธารชื่อพลัมครี้กห่างหมู่บ้านออกไปอีกหน่อย เนื้อที่ 172 เอเคอร์ รวมบ้านโพรงดิน คือบ้านที่ขุดเข้าไปริมตลิ่ง เป็นห้องเล็กๆขนาดเท่าเกวียน มีพื้นหญ้าแทนหลังคา รายรอบด้วยที่ดินซึ่งหว่านข้าวสาลีเอาไว้เบาบาง ชาร์ลส์ตกลงซื้อที่ดินผืนนั้น เพื่อลงหลักปักฐานอยู่ในมินเนโซตา ชีวิตช่วงนี้อยู่ในนิยายบ้านเล็ก ตอนที่ชื่อว่า On the Banks of Plum Creek
|
|
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #2559 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2556, 21:19:32 » |
|
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #2560 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2556, 21:28:10 » |
|
|
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #2562 เมื่อ: 30 ธันวาคม 2556, 17:39:57 » |
|
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #2563 เมื่อ: 30 ธันวาคม 2556, 17:45:14 » |
|
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #2564 เมื่อ: 30 ธันวาคม 2556, 17:57:23 » |
|
ที่นี่มีแกะไว้โชว์
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #2565 เมื่อ: 30 ธันวาคม 2556, 18:01:11 » |
|
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #2566 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2556, 11:06:10 » |
|
|
|
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #2569 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2556, 12:02:08 » |
|
ฮวงซุ่้ยของพ่อ รศ.ดร. พิชนี โพธารามิก อดีตนายกสมาคมนักเรียนเก่า
โรงเรียนเซนฟรังค์ซีสซาเวียร์คอนแวนต์ ภรรยาของดร. อดิศัย โพธารามิก
แห่งบริษัทจัสมิน และอดีตนายกสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ
|
|
|
|
|
ทราย 16
|
|
« ตอบ #2571 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2556, 13:55:45 » |
|
ตามน้องเริงไปเที่ยว ... ได้หลากหลายรสน่ะคะ
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #2572 เมื่อ: 01 มกราคม 2557, 04:36:14 » |
|
ครับผม สวัสดีปีใหม่เช่นกัน..พี่ทราย
|
|
|
|
|
|
|