เริง2520
|
|
« ตอบ #2850 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2557, 11:04:38 » |
|
ด้วยเหตุที่ว่า จากราชกิจจานุเบกษา ตอนพิเศษของเล่มที่ 41 มีกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ ออกเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2467 เกี่ยวกับลำดับชั้นเชื้อพระบรมวงศ์ ซึ่งจะควรสืบราชสันตติวงศ์ได้นั้น แต่ในหมวดที่ 5 ว่าด้วยผู้ที่ต้องยกเว้นจากการสืบราชสันตติวงศ์ มาตรา 11
"มาตรา 11 เจ้านายผู้เป็นเชื้อพระบรมราชวงศ์ ถ้าแม้ว่า เป็นผู้มีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งกล่าวไว้ข้างล่างนี้ไซร้ ท่านว่า ให้ยกเว้นเสียจากลำดับสืบราชสันตติวงศ์ ลักษณะที่กล่าวนี้คือ... (๔) มีพระชายาเป็นนางต่างด้าว กล่าวคือ นางที่มีสัญชาติเดิมเป็นชาวประเทศอื่น นอกจากชาวไทยโดยแท้" ผนวกกับ "มาตรา 12 ท่านพระองค์ใด ตกอยู่ในเกณฑ์มีลักษณะบกพร่องดังกล่าวมาแล้วในมาตรา 11 แห่ง กฎมณเฑียรบาลนี้ไซร้ ท่านว่า "พระโอรสอีกทั้งบรรดาเชื้อสายโดยตรงของท่านพระองค์นั้น ก็ให้ยกเสียจากลำดับสืบราชสันตติวงศ์ด้วยทั้งสิ้น" ซึ่งได้แก่ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์เองและลูกหลาน แต่ทั้งนี้พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์อธิบายไว้ใน "เกิดวังปารุสก์" ว่า "ข้าพเจ้ามิได้เคยนึกว่า ตนถูกตัดจากสิทธิอะไรเลย ข้าพเจ้าไม่เคยนึกและบัดนี้ก็มิได้นึกว่า ข้าพเจ้ามีสิทธิอย่างใดเกินกว่าที่คนไทยทุก ๆ คนย่อมมีอยู่ตามกฎหมาย"
|
|
|
|
Dtoy16
Hero Cmadong Member
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424
|
|
« ตอบ #2851 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2557, 13:03:36 » |
|
น้องเริง พระนิพนธ์ของพระองค์เจ้าจุลฯ เคยอ่านมาแล้ว แต่นั่นแหละอ่านเพื่อสอบ ได้กลับมาอ่านใหม่ น่าจะดี คงหาได้จากห้องสมุด (ตอนนี้ไม่เพิ่มอะไรที่สะสมฝุ่น ไร ค่ะ)
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #2852 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2557, 19:39:06 » |
|
ครับผม พี่ต้อย
ผมได้อ่านเพียงเล่มหนึ่งของเกิดวังปารุสก์ อีกเล่มคงอ่านต่อจากห้องสมุด ..น่าจะมีให้ยืมได้
|
|
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #2855 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2557, 10:09:53 » |
|
ชวนมาเดินตากแอร์ที่นี่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี (อังกฤษ: Central Embassy) เป็นศูนย์การค้าระดับบนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร บริหารงานโดย กลุ่มธุรกิจบริหารศูนย์การค้า และอสังหาริมทรัพย์ ของบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ตั้งอยู่บนถนนเพลินจิต บนพื้นที่ส่วนหนึ่งของสถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทยที่กลุ่มเซ็นทรัลชนะการประมูล ติดกับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาชิดลม และยังเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเพลินจิตซิตี้ ที่นำโครงการโดย บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด เจ้าของอาคารปาร์คเวนเจอร์ และโรงแรมโอคุระเพรสทีจ กรุงเทพฯ
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #2856 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2557, 10:14:59 » |
|
โครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี มีจุดเริ่มต้นมาจากการชนะการประมูลที่ดินบริเวณด้านหน้าของสถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทยของกลุ่มเซ็นทรัล โดยเบื้องต้น กลุ่มเซ็นทรัลมอบหมายให้เซ็นทรัลพัฒนาเป็นผู้รับผิดชอบโครงการนี้ แต่เนื่องจากในขณะนั้นเซ็นทรัลพัฒนาเองมีโครงการที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการหลายโครงการ กลุ่มเซ็นทรัลจึงนำโครงการมาบริหารและพัฒนาด้วยตนเอง ส่วนเซ็นทรัลพัฒนาซึ่งมีประสบการณ์ในการบริหารศูนย์การค้าจะเป็นผู้ช่วยดูแลโครงการ
ที่ดินที่เป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ยังได้รับการจัดอันดับจากสื่อมวลชนหลายแขนงว่าเป็นที่ดินที่มีราคาสูงที่สุดในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2549 โดยเป็นการประมูลราคาที่ดินที่เป็นส่วนหนึ่งของสถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย ซึ่งแต่เดิมเป็นสวนของพระยาภักดีนรเศรษฐ (เลิศ เศรษฐบุตร) และก่อนหน้านี้ทางสถานทูตเองก็ขายที่ดินออกไปหลายส่วนในราคาสูงเช่นกัน อย่างเช่นที่ตั้งของโรงแรมสวิสโซเทล นายเลิศ ปาร์ค กรุงเทพ โดยสถานทูตชี้แจงว่าต้องการนำไปปรับปรุงอาคารสถานทูตเก่าที่อยู่ในสภาพทรุดโทรม
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #2857 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2557, 10:17:07 » |
|
กลุ่มเซ็นทรัลก็ได้ประกาศวันเปิดตัวศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซีอย่างเป็นทางการ ซึ่งก็คือวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 โดยในวันดังกล่าวจะมีร้านค้าบางส่วนเปิดทำการ บางส่วนยังคงปิดทำการเนื่องจากเข้ามาตกแต่งไม่ทัน และไม่อนุญาตให้ขึ้นไปยังชั้น 6 ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ ปัจจุบันในส่วนของโรงแรมปาร์คไฮแอท กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดให้บริการได้อย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2558
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #2858 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2557, 10:28:27 » |
|
15 สิ่งต้องรู้ 'เซ็นทรัล เอ็มบาสซี' สุดอลังการ!
กลายเป็นที่กล่าวขานกันว่าเจ๋ง! หลังโครงการ 'เซ็นทรัล เอ็มบาสซี' ธุรกิจในเครือตระกูลจิราธิวัฒน์ที่เนรมิตขึ้นมา ไทยรัฐออนไลน์รวมเรื่องเจ๋งๆ ที่คุณควรรู้เกี่ยวกับที่นี่มาให้อ่านกัน รับประกันว่าคุณจะอึ้งเพราะความเจ๋ง.
1. เป็นการก่อสร้างในที่ดินที่มีราคาซื้อขายแพงที่สุดในปี 2549 (9.5 แสนบาท/ตร.ว.) โดยตัวตึกมีความสูง 37 ชั้น หน้ากว้างยาวกว่า 200 เมตร อาคารแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือศูนย์การค้า 8 ชั้น และส่วนทาวเวอร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมปาร์คไฮแอท ส่วนที่ถูกออกแบบให้เชื่อมต่อกันเป็นเครื่องหมายสัญลักษณ์ อินฟินิตี้ หมายถึงความไม่มีที่สิ้นสุด
2. เป็นโครงการที่กลุ่มจิราธิวัฒน์เองรอคอยอย่างตื่นเต้นที่สุด เพราะใช้เงินลงทุนมากที่สุดของเครือเซ็นทรัล โดยมีมูลค่ากว่า 18,000 ล้านบาท แบ่งเป็นที่ดิน 6,000 ล้านบาท โครงสร้าง 7,000 ล้านบาท และตกแต่งภายในอีกกว่า 5,000 ล้านบาท
3. ใช้เงินลงทุนต่อตารางเมตรสูงที่สุดในประวัติศาสตร์รีเทลของไทย
4. เป็นภาระที่ใหญ่และท้าทายที่สุดของชาติ จิราธิวัฒน์ เจนเนอเรชั่นที่ 3 ของตระกูลผู้รับผิดชอบหลัก
5. มีโรงภาพยนตร์ระดับเฟิร์สคลาส “The Embassy The Diplomat Screens” ที่มีตั๋วชมภาพยนตร์แพงที่สุดในประเทศไทย คือ 1,000-1,500 บาทต่อที่นั่ง
6. เป็นโครงการแรกที่กล้าทุ่มเงินในวันเปิดตัวสูงสุดถึง 130 ล้านบาท ในขณะที่ยังอยู่ในช่วงวิกฤติของปัญหาการเมืองในประเทศ
7. น่าตื่นเต้นที่สุดกับ 7 Façade Brands คือ Bottega Veneta, Chanel, Gucci, Hermes, Miu Miu, Prada, และ Ralph Lauren ในรูปแบบ ไอคอนนิค สโตร์ (Iconic Store) ที่นำเสนอรูปแบบร้าน Duplex 2 ชั้น โดย Façade ของทั้ง 7 แบรนด์ถูกสร้างจากกระจกโค้งไร้รอยต่อแห่งแรกในโลก
8. รู้หรือไม่ว่าตัวตึกเป็น 3D Curve โค้ง 3 มิติ ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านบน ถือเป็นตึกแรกในประเทศไทย
9. เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ถือเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซของกลุ่มเซ็นทรัล ภายใต้การบริหารงานของ ชาติ จิราธิวัฒน์ นักบริหารหนุ่มไฟแรงทายาทรุ่น 3 แห่งตระกูลจิราธิวัฒน์ ซึ่งใช้เวลากว่า 7 ปี ในการพัฒนาและก่อสร้างเพื่อให้สมบูรณ์แบบ
10. การสร้าง 'เซ็นทรัล เอ็มบาสซี' แห่งนี้ พวกเขาไม่ใช่เป็นเพียงแฟลกชิพของกลุ่มเซ็นทรัล แต่เพื่อเป็นสัญลักษณ์ ไอคอนนิค บิลดิ้ง (iconic Building) แห่งใหม่ของฟากฟ้ากรุงเทพมหานคร และเป็นความภูมิใจของคนกรุงเทพฯ โดยจุดเริ่มการออกแบบคือ การออกแบบตึกที่เป็นสถาปัตยกรรมชั้นสุดยอด ไม่เคยมีมาก่อนในเมืองไทย ใช้เทคโนโลยีล้ำหน้าระดับโลก ผสมผสานศิลปะแห่งความเป็นไทยในรูปแบบที่ร่วมสมัยไร้กาลเวลา
11. จุดเด่นอีกหนึ่งที่ทำให้ตึกโครงการ 'เซ็นทรัล เอ็มบาสซี' แตกต่างจากตึกอื่นๆ คือ เกล็ดอลูมิเนียม จำนวนกว่า 300,000 เกล็ด ที่ติดรายล้อมตัวตึก แรงบันดาลใจแห่งการออกแบบตัวเกล็ดที่อ่อนช้อยนี้ได้มาจากเกล็ดหลังคากระเบื้องเคลือบของพระอุโบสถในวัดไทย เมื่อฉาบแสงอาทิตย์จะเกิดเป็นสีเลื่อมระยิบระยับสวยงามวิจิตร
12. และรู้หรือไม่ว่าเกล็ดอลูมิเนียมกว่า 300,000 เกล็ดบนตึกโครงการนั้น จะมีองศาที่แตกต่างกันทั้งสิ้น เมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องมายังตัวตึก ภาพที่เห็นจะเป็นเลื่อมเงาในเฉดสีเทาเงินที่แตกต่างกันไป เสมือนเป็นพื้นผิวของผ้าไหมไทยที่เลื่องชื่อ
13. ภายในตัวอาคารตกแต่งด้วยสีขาวคล้ายแคนวาส เล่นลวดลายผ่านการใช้เส้นสายโค้งเว้ามุมและพื้นผิวที่ไม่รู้จบ ระดับความสูงของเพดานได้รับการออกแบบให้รองรับแสงและเงาเพื่อให้เกิดความสวยงามตลอดอาคาร
14. เสาอาคารเลือกใช้ โคเรียน (Corian) ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความเรียบเนียนไร้รอยต่อ และพื้นอาคาร ประกอบด้วย เทอราซโซ หินขัดพิเศษที่นำเข้าจากประเทศอังกฤษ มีขนาดใหญ่ 80 ตารางเมตร ซึ่งทำให้เส้นรอยต่อระหว่างแผ่นมีขนาดที่เล็กมาก จึงให้ความรู้สึกกลืนเป็นแผ่นเดียวกัน
15. นอกจากนี้ กระจกก็เป็นแบบซุปเปอร์เคลียร์ที่ให้ความกระจ่างใส และไม่เปลี่ยนสี
|
|
|
|
|
|
Dtoy16
Hero Cmadong Member
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424
|
|
« ตอบ #2861 เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2557, 18:36:41 » |
|
ฮืม...น่าทานมากค่ะ น้องเริง เปิดหน้าจอพร้อมตั้งโต๊ะอาหารแล้วทานข้าวไปด้วย ของพี่มีผัดบวบ ต้มยำ เหมือนกันคือปลาทูทอด แต่ปลาทูน้ำพริกที่ร้านนี้หน้าตา มีน้ำคลุกคลิกอะไรด้วย
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #2862 เมื่อ: 16 พฤษภาคม 2557, 07:44:28 » |
|
ครับผม ต้มส้มปลาใส่ระกำ น้ำพริกกับปลาต้มหวาน และยำหัวปลีใส่กุ้งและหมึกคลุกมากับน้ำพริกเผา..อร่อย
|
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #2864 เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2557, 12:18:21 » |
|
เมืองนี้มีสองชื่อ
อำเภอแกลงหรือสามย่านในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีฐานะเป็นหัวเมืองชั้นจัตวาชื่อ เมืองแกลง ตั้งอยู่บริเวณแหลมยาง ปากน้ำกระแส (ประแสร์) อยู่ในความปกครองของมณฑลจันทบุรี เนื่องจากเป็นหัวเมืองสำคัญชายทะเลภาคตะวันออก มีกองทหารเรือตั้งประจำ ต่อมามีการย้ายทหารไปตั้งที่อื่น ทางราชการจึงได้ย้ายตัวเมืองมาตั้งที่บ้านโพธิ์ทอง ตำบลทางเกวียน ต่อมาประมาณ พ.ศ. 2451 เมืองแกลงถูกลดฐานะเป็นอำเภอเรียกว่า อำเภอแกลง ขึ้นกับจังหวัดระยอง จนกระทั่งปี พ.ศ. 2453 ได้ย้ายสถานที่ตั้งอำเภอจากบ้านโพธิ์ทองเดิมมาตั้งที่บ้านสามย่าน ตำบลทางเกวียน ปัจจุบันอำเภอแกลงตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของจังหวัดระยอง ห่างจากที่ตั้งจังหวัดประมาณ 47 กิโลเมตร
|
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #2866 เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2557, 08:53:40 » |
|
มา "ตามครูไปเที่ยว"
สถานทูตอังกฤษซื้อที่ดินเพิ่ม เนื่องจากคาดว่าจะใช้เป็นที่ตั้งของผู้สำเร็จราชการอังกฤษในเมืองไทย หลังแบ่งปันเขตแดนกับฝรั่งเศสเสร็จแล้วว่า ไทยจะเป็นของอังกฤษ ตามพม่า อินเดีย ศรีลังกา เพื่อไปรวมกับมาเลย์และสิงคโปร์ที่ยึดเอาไว้แล้ว ส่วนฝรั่งเศสถือเอาแนวแม่น้ำโขง แยกเอาลาว เขมร เวียตนามไป ส่วนจีนนั้นใหญ่โต กว้างขวาง สุดแต่ละประเทศจะไล่ยึด ไล่ล่าเอา ฝรั่งเศสถึงได้ล่องเรือขึ้นไปตามแม่น้ำโขง หวังไปโผล่บนแผ่นดินใหญ่จีน ไม่นึกว่าจะไปตายน้ำตื้นในแผ่นดินลาว ที่เจอหน้าผาสูงชันเข้าให้
ส่วนอังกฤษยึดพม่ากับอินเดียได้ เอาเจ้าอินเดียไปขังไว้ในพม่า, เอาเจ้าพม่าไปขังไว้ในอินเดีย ในไทยนั้น พยายามเชือดเฉีอนดินแดนทางใต้ของไทย ไปโป๊ะให้มาเลย์ถึง 4 รัฐ รวมทั้งตัดตะนาวศรี มะริด ทวย ไปไว้ในพม่า ต้องรฤกถึงพระคุณของ ร.๓ ที่ค้าสำเภาหาเงินเอาไว้ไถ่หนี้ของประเทศสยาม ร.๔ ที่ให้คนไทยได้มีโอกาสเรียนภาษาอังกฤษ แทนการใช้ล่ามซึ่งไม่ตรงและถูกเอาเปรียบ ร.๕ ที่ดำเนินกลยุทธทุกอย่างเพื่อรักษาชาติเอาไว้ พร้อมส่งลูกหลาย-คนไทยไปเรียน ตปท. และ ร.๖ ที่ไปเรียนในอังกฤษ ลดแรงกดดันจากอังกฤษในช่วงขยายดินแดนหลังสงครามโลกครั้งที่ ๑ ไปได้มาก
ที่มันอ้างว่า มีภาระในการซ่อมแซมอาคารเก่ามากนั้น ไม่น่าจะจริงทั้งหมด เงินจำนวนหนึ่งถูกแปรเป็นเงินปอนด์ส่งกลับไปอังกฤษ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของมันที่ย่ำแย่ จนอังกฤษไม่กล้าเข้าใช้เงินสกุลยูโร ร่วมกับชาติในยุโรป เพราะกลัวถูกสอบบัญชีเพื่อคำนวนค่าเงินปอนด์เมื่อจะแปรเป็นยูโรว่าจะใช้เรทอะไร หากให้คนอื่นรู้ไส้เข้า จะไม่เหลือความเป็นชาติมหาอำนาจ ยิ่งนำไปเทียบกับมาร์คของเยอรมันเข้า ขนาดอาคารบริษัทลอยด์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยชั้นหนึ่งและใหญ่ที่สุดในโลกของอักฤษยังขายให้จีนไปเลย
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #2867 เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2557, 20:19:22 » |
|
ครับผม พี่เหยง
ได้ทราบความรู้ใหม่อีกมากเลยครับ
เร็วๆนี้จะเจอศักดิ์ชัย ตามที่นัดกันไว้ จะลองถามเรื่องนี้
นอกจากนั้น เขาเคยบอกว่าบ้านที่ศาลาแดงซอย ๑ เคยเป็นพื้นที่ของสถานทูตออสเตรเลียมาก่อนและซื้อเพิ่มเติมจากหม่อมกอบแก้ว อาภากร จนเป็นผืนเดียวกัน
|
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #2869 เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2557, 21:16:24 » |
|
|
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #2870 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2557, 18:47:38 » |
|
สวัสดียามเย็นครับ... พี่เริง..พี่ต้อย..พี่เหยง และพี่น้องทุกท่าน
ไม่ได้เข้าเว็บหอนานเลยครับพี่..
ตามชมครับ..
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #2871 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2557, 08:24:06 » |
|
ครับผม..เชิญมาชมบ่อยๆนะครับ
|
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #2873 เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2557, 09:55:18 » |
|
|
|
|
|
|
|