เที่ยวละไมไปเยี่ยมต๋อย...เรื่องนี้ต้องชี้แจง

[ตี้ถาปัด]

		อ้างถึง			ข้อความของ แจง-24 เมื่อ 03 กุมภาพันธ์ 2555, 21:16:13
	ตาชักพร่าๆแล้ว... สงสัยต้องขอเบีี้ยวคิว ไปเล่าเรื่อง Bell Tower ต่อพรุ่งนี้นะคะ จะเร่งมือแล้ว เพราะอยากให้จบก่อนงานคืนสู่เหย้าค่ะ คืนนี้ ราตรีสวัสดิ์ก่อนนะคะ

ตาพร่า ก็ต้องไปล้างตาสิป้า

[ตี้ถาปัด]

		อ้างถึง			ข้อความของ Pete15 เมื่อ 04 กุมภาพันธ์ 2555, 06:04:49
	ไปหาความรู้มาแล้ว เกี่ยวกับต้น สีตรัง เป็นไม้ไ้ประดับ สูง 4-10 เมตร ออกดอก ประมาณ มกราคม-มีนาคม  ถิ่นกำเนิด อเมริกาใต้  ชือทางวิทยาศาสตร์ ว่า Jacaranda filicifolia (Anderson) D.Don  ชื่อไทย ศรีตรังหรือแคฝอย

โห......พี่ปี๊ดถามเองตอบเองเลยนะครับ ดีครับผมก็ได้ความรู้ไปด้วย ขอบคุณครับ

[ทราย 16]

		อ้างถึง			ข้อความของ ตี้ถาปัด เมื่อ 04 กุมภาพันธ์ 2555, 11:21:19
	อ้างถึง ข้อความของ Pete15 เมื่อ 04 กุมภาพันธ์ 2555, 06:04:49 ไปหาความรู้มาแล้ว เกี่ยวกับต้น สีตรัง เป็นไม้ไ้ประดับ สูง 4-10 เมตร ออกดอก ประมาณ มกราคม-มีนาคม  ถิ่นกำเนิด อเมริกาใต้  ชือทางวิทยาศาสตร์ ว่า Jacaranda filicifolia (Anderson) D.Don  ชื่อไทย ศรีตรังหรือแคฝอย โห......พี่ปี๊ดถามเองตอบเองเลยนะครับ ดีครับผมก็ได้ความรู้ไปด้วย ขอบคุณครับ

ศรีตรังเคยเป็นต้นไม้ประจำของ 'มหาวิทยาลัยมหิดล' ตอนหลังที่ประชุมผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัยมีมติ ให้เป็นของ ม.สงขลานครินทร์
แล้ว ม.มหิดลก็ใช้ต้น 'กันภัย' แทน
ชื่อวิทย์ของศรีตรังออกเสียงคล้ายๆ 'จักกะแร้ดำ'
 

[Uncle Na]

		อ้างถึง			ข้อความของ ทราย 16 เมื่อ 04 กุมภาพันธ์ 2555, 11:27:27
	อ้างถึง ข้อความของ ตี้ถาปัด เมื่อ 04 กุมภาพันธ์ 2555, 11:21:19 อ้างถึง ข้อความของ Pete15 เมื่อ 04 กุมภาพันธ์ 2555, 06:04:49 ไปหาความรู้มาแล้ว เกี่ยวกับต้น สีตรัง เป็นไม้ไ้ประดับ สูง 4-10 เมตร ออกดอก ประมาณ มกราคม-มีนาคม  ถิ่นกำเนิด อเมริกาใต้  ชือทางวิทยาศาสตร์ ว่า Jacaranda filicifolia (Anderson) D.Don  ชื่อไทย ศรีตรังหรือแคฝอย โห......พี่ปี๊ดถามเองตอบเองเลยนะครับ ดีครับผมก็ได้ความรู้ไปด้วย ขอบคุณครับ ศรีตรังเคยเป็นต้นไม้ประจำของ 'มหาวิทยาลัยมหิดล' ตอนหลังที่ประชุมผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัยมีมติ ให้เป็นของ ม.สงขลานครินทร์ แล้ว ม.มหิดลก็ใช้ต้น 'กันภัย' แทน ชื่อวิทย์ของศรีตรังออกเสียงคล้ายๆ 'จักกะแร้ดำ'

5 5 5 ลุงณะจำชื่อทางวิทย์ ของดอกศรีตรังได้แล้ว จั๊กกะแร้  ดะ อัม ขอบคุณพี่ปี๊ด  สวัสดีครับพี่ทราย
 

[แจง-24]

โห... พี่ทรายขา...

หมดกัน ดอกสีตรัง-จั๊กการันด้า สุดสวยของพวกเรา
กลายเป็นดอก "จั๊กกะแร้ดำ" ไปซะแล้ว...

     

แต่ชื่อนี้ช่วยให้จำง่ายขึ้น อย่างลุงณะว่าจริงๆด้วย
ช่างคิดจริงๆค่ะ พี่ทราย
5555
 

[แจง-24]

มาชมเมืองเพิร์ธกันต่อค่ะ...

@
หอระฆังงามสง่าริมท่าน้ำ
ลั่นระฆังเตือนย้ำกังวานขรม
"กัปตันคุ้ก" พบโลกใหม่ให้ชื่นชม
น่านิยม "ออสเตรเลีย" ทวีปงาม
----------

[แจง-24]

หอระฆังนี้ มีชื่อเต็มว่า Swan Bell Tower
เป็น Landmark ที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเพิร์ธ
สร้างขึ้นเพื่อฉลองวาระครบรอบ 200 ปีของออสเตรเลีย
โดดเด่นสะดุดตาด้วยยอดแหลมของหอที่ทำด้วยแก้วสูง 82.5 เมตร
และผนังตกแต่งภายนอกที่ทำด้วยทองแดง



รูปทรงของอาคารได้แรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของเสาเรือสำรวจ
เพื่อเป็นเกียรติแก่ กัปตัน James Cook ชาวอังกฤษ
ผู้บุกเบิกการสำรวจและทำแผนที่ทวีปออสเตรเลียเป็นคนแรก

(ผู้ค้นพบทวีปออสเตรเลียคนแรก เป็นกัปตันชาวดัชท์ค่ะ
แต่พบแล้วก็แล่นเรือผ่านเลยไป ไม่ได้หยุดสำรวจ เพราะเห็นว่าไม่น่าสนใจ)

[แจง-24]

ภายในหอนี้ มีระฆังสำคัญ 18 ใบ ใบที่เบาที่สุดมีน้ำหนัก 238 กก. ใบที่หนักที่สุดหนัก 1,480 กก.

ระฆังชุดแรก 12 ใบ เป็นระฆังหลวงเก่าแก่จากลอนดอน อายุราว 280 กว่าปี
ใช้ลั่นในพิธีสำคัญๆของลอนดอนในอดีต
รวมทั้งพิธีต้อนรับกัปตัน James Cook เมื่อครั้งที่แล่นเรือกลับจากสำรวจทวีปออสเตรเลียมาถึงลอนดอน

ส่วนอีก 6 ใบ นั้น หล่อขึ้นภายหลังในออสเตรเลียนี่เอง



ระฆังแต่ละใบ ให้เสียงตัวโน้ตต่างกันไป
ระฆังหลวงชุดดั้งเดิม จะมีเสียงกังวานเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก
หอระฆังจะลั่นระฆังทั้ง 18 ใบให้ฟังทุกวันในช่วง 12.00-13.00 น. ค่ะ



ข้างในหอระฆัง เขาเปิดให้เข้าชมด้วย
แต่พวกเราเลือกที่จะเดินเล่นซึมซับบรรยากศรอบหอระฆังดีกว่า
เพราะวันนี้อากาศเย็นสบายดีเหลือเกิน...

[แจง-24]

ดอกไม้ในสวนรอบๆหอระฆังก็สวย...





ป้าไมบอกว่า เดินเล่นชมเมืองชมดอกไม้กันดีกว่า
ไว้มาใหม่คราวหน้า ค่อยเข้าไปชมในหอระฆัง
(มีทัวร์ไหนเขาจะคิดอย่างพวกเราไหมคะเนี่ย...ฮิ...ฮิ...)

[แจง-24]

จากสวนหน้าหอระฆัง มองไปด้านข้าง จะเห็นท่าเรือเก่าที่เรามาลงเรือกันวันแรก
และขึ้นรถทัวร์ไป Pinnacles กันวันที่สอง

บริเวณนี้มีชื่อเรียกว่า Barrack Square ค่ะ
เป็นเหมือนชุมทางขนส่ง หรือจุดต่อรถต่อเรือของเพิร์ธ



มีรถทัวร์สำหรับ sight seeing ด้วย
แต่เมินเสียเถอะ เราไม่สนหรอก เพราะเรากำลังจะมีราชรถมาเกย...

[แจง-24]

ขอพักสายตาก่อนนะคะ

คืนนี้มาชมกันต่อค่ะ ว่าราชรถจะพาเราไปไหน

 

[dtoy]

นอกจากจะพักสายตาตามป้าแจงแล้ว ลองสะดับเสียงระฆังจากหอระฆังดูสิคะ
คลิก link นี่ค่ะ แล้วกดที่เครื่องหมาย Play นะคะ

http://www.thebelltower.com.au/data/client/files/1421_1004.wav

ชาวเพิร์ธจะกล่าวว่า 'They (London people) have Big Ben.  We have Big Bells.'

รูปของระฆัง จากเวปของ The Bell Tower ค่ะ

[dtoy]

		อ้างถึง			ข้อความของ ตี้ถาปัด เมื่อ 04 กุมภาพันธ์ 2555, 11:19:06
	อ้างถึง ข้อความของ แจง-24 เมื่อ 03 กุมภาพันธ์ 2555, 21:13:06 อ้างถึง ข้อความของ dtoy เมื่อ 03 กุมภาพันธ์ 2555, 19:51:20 อ้างถึง ข้อความของ Lamai เมื่อ 02 กุมภาพันธ์ 2555, 22:19:50 ตอนที่ยึนข้างๆกัปตันเจมส์ ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับท่านเลยนะแจง ถ้ารู้ยกมือไหว้แน่ๆ ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ มาไหว้คราวหน้าก็ได้ แต่ต้องไหว้หลายๆที่นะ อิอิ อ้อ มีคำที่ได้ยินมาสองครั้งแล้ว คำว่า "ล้างตา" แปลว่าอะไร? ไม่เคยรู้มาก่อนเลยอ่ะ   "นัดล้างตา" เป็นภาษากีฬาค่ะ มัมต๋อย แจงคิดว่าน่าจะมาจากวงพนันกีฬา ความหมายประมาณว่า แข่งนัดที่แล้วยังติดตาคาใจ ไม่ชนะใสหรือแพ้ขาด ต้องนัดแข่งใหม่ให้แพ้ชนะแบบเห็นกันจะจะไป เรียกว่า "นัดล้างตา" ค่ะ อันนี้แจงก็คาดเดาเอาจากที่ได้ยินมา วานหนุ่มๆนักเชียร์กีฬาช่วยกันมายืนยันด้วยนะคะ ล้างตา แปลง่ายๆก็อาจจะเรียกว่า "ขอแก้มือ" "ขอแก้ตัวอีกครั้ง" เป็นคำขอของผู้แพ้ที่เคยแพ้ หรือพลาดโอกาส มาแล้ว แต่ขอแก้มืออีกครั้งเป็นการล้างตา ....งงไหม ลุงยังงเหมือนกัน อาจจะใช้กับกรณ๊อื่นเช่น....ครั้งนี้ไม่ได้ไปเยี่ยมมัมต๋อยกับป้าแจงและป้าไม จึงอยากจะขอล้างตาอีกครั้งในครั้งหน้า

งั้นเรานัดล้างตาที่เพิร์ธอีกทีดีไหม?

[dtoy]

 

[dtoy]

		อ้างถึง			ข้อความของ แจง-24 เมื่อ 04 กุมภาพันธ์ 2555, 13:49:12
	ดอกไม้ในสวนรอบๆหอระฆังก็สวย... ป้าไมบอกว่า เดินเล่นชมเมืองชมดอกไม้กันดีกว่า ไว้มาใหม่คราวหน้า ค่อยเข้าไปชมในหอระฆัง (มีทัวร์ไหนเขาจะคิดอย่างพวกเราไหมคะเนี่ย...ฮิ...ฮิ...)

ไม่มีคร่ะ มีทัวร์นี้ทัวร์เดียว ขอบอก

[Pete15]

สวัสดี ครับ น้องๆ   มาชมติดจอ ตลอดเวลา........ครับ

[แจง-24]

		อ้างถึง			ข้อความของ khwan24 เมื่อ 03 กุมภาพันธ์ 2555, 23:06:01
	สามสาวเที่ยวกันสนุกเลย แอบชมอยู่ห่างๆค่ะ น่ามีความสุขมากๆ ยินดีกับต๋อยด้วยนะลูกสาวจบม.ปลายแล้ว สวยน่ารักมาก

เข้ามาชมใกล้ๆก็ได้ค่ะขวัญ เพื่อนๆกำลังคิดถึงเลย...

[แจง-24]

สวัสดียามเย็นค่ะ พี่ปิ๊ด พี่ทราย ขวัญ ลุงณะ ลุงตี้ ละไมโกะ มัมต๋อย และผู้ชมทุกท่าน...
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ

และขอบคุณมัมต๋อยเป็นพิเศษ สำหรับเสียงระฆังประกอบเรื่องเล่า

ระหว่างรอรูปเสริมจากต๋อย
ขอฉายต่อไปพลางๆก็แล้วกันนะคะ
จะได้ไม่เลิกดึกมาก...

[แจง-24]

@
จนใกล้เที่ยง ได้เวลาต๋อยมารับ
เธอพาขับชมเมืองเพิร์ธทั่วเขตขาม
เยือน "มองเกอร์" ทะเลสาบเลื่องลือนาม
ชวนกันตามดูหงส์ดำเล่นน้ำเพลิน
------------

[แจง-24]

โปรแกรมหลักของวันนี้ คือการไปเดินเที่ยวที่สวน Kings' Park ที่มีชื่อเสียงของเพิร์ธ
ซึ่งเหมาะกับการเดินเล่นยามเย็น แดดร่มลมตก

แต่ช่วงบ่ายก่อนไป Kings' Park นี่สิ
นอกจากขับรถเล่นชมเมืองแล้ว ต๋อยก็ถามว่าพวกเราอยากไปไหนกัน...

ป้าแจงตอบทันควัน... อยากไปดูหงส์ดำเจ้าค่ะ

มาเทีี่ยวลุ่มแม่น้ำ Swan ตั้ง 3 วันแล้ว
ยังไม่ได้เห็นหงส์ดำที่เป็นที่มาของชื่อแม่น้ำเลยซักตัว
อยากเห็นเจ้าค่ะ...

ได้เลยจ้า... มัมต๋อยจัดให้...



เธอพาเราไปที่นี่ค่ะ "Lake Monger"
เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ อยู่ทางตอนเหนือของเพิร์ธ
ถิ่นที่อยู่ของฝูงหงส์ดำ เป็ด และนกนานาชนิิิด
ผู้คนนิยมมาส่องนก และจ๊อกกิ้งออกกำลังกันในสวนสาธารณะรอบๆทะเลสาบค่ะ

ต๋อยเอง พอมาถึง ก็ยังเปรยว่า ไม่เคยเห็นวิวเพิร์ธจากมุมนี้...สวยเหมือนกันนะเนี่ย...

[แจง-24]

ระหว่างรอเจ้าหงส์ดำว่ายมาให้ถ่ายภาพใกล้ๆ
เราก็ทำการ "ส่องนก" ชนิดอื่นไปพลางๆก่อน...



นกเป็ดน้ำสีสวยว่ายกันมาเป็นคู่



บ้างก็มาเป็นครอบครัว หาอาหารกลางวันป้อนลูกน้อยกันใหญ่

[แจง-24]

ที่เล่นน้ำเสร็จแล้วก็ขึ้นมาเสริมสวย และอาบแดดยามเที่ยงให้อบอุ่น





บ้างก็เดินขึ้นมาสังสรรค์กับเพื่อนต่างสายพันธ์ุ

[แจง-24]

พวกที่รักสันโดษ ก็หลบไปปลีกวิเวก





ของีบหลังอาหารกลางวัน เพื่อเก็บแรงไว้หาอาหารเย็นต่อไป...

[แจง-24]

ส่วนนกน้อยสองตัวร้อยจากเมืองไทยนี้
ยังดูร่าเริงดี แม้ว่าจะไม่ได้ทานข้าวกลางวันซักที

เพราะยายเพื่อนที่บ้าถ่ายรูปไม่ยอมไปไหน จนกว่าจะได้ภาพหงส์ดำใกล้ๆ...

[แจง-24]

ชะรอยความหิวจะทำให้กระแสจิตพวกเรารุนแรง
คุณแม่หงส์ตัวนึงเลยพาลูกน้อยสองตัวว่ายปราดๆข้ามทะเลสาบมาหา



เลยได้ภาพใกล้ๆสมใจปราถนา...ดีใจจริงๆ



คุณนายหงส์ดำเธอใช้ลิปสติกยี่ห้ออะไรก็ไม่รู้นะคะ มันแดงแด๊งแดง สะท้อนแสงดีเหลือเกิน