เรียนเชิญร่วมงาน พระราชทานเพลิงศพคุณพ่อ ของ ดร.กุศล อิสดุลย์ วัดพระศรีฯ บางเขน

[Manop Klabdee]

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

              เรียนเชิญทุกท่านไปร่วมงานศพ คุณพ่อบัญญัติ  อิสดุลย์ คุณพ่อ ของ ดร.กุศล  อิสดุลย์
              ที่วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน ศาลาธนาคารทหารไทย(ศาลา ๑)

              วันพฤหัสบดีที่ ๘ ธันวาคม
                               มีพิธีรดน้ำศพ เวลา ๑๘:๓๐ น. ณ ศาลาธนาคารทหารไทย
                               สวดพระอภิธรรม เวลา ๑๙:๐๐ น.  ณ ศาลาธนาคารทหารไทย (เฉพาะ วันนี้)

              วันศุกร์ที่ ๙ ธันวาคม
                               สวดพระอภิธรรม เวลา ๑๘:๓๐ น.  ณ ศาลาธนาคารทหารไทย (ศาลา ๑)

              วันเสาร์ที่ ๑๐ ธันวาคม
                               งดการสวดพระอภิธรรม (ทางวัดปิด วันรัฐธรรมนูญ)

              วันอาทิตย์ที่ ๑๑ ธันวาคม
                               ชมรมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาฯ เป็นเจ้าภาพ
                               เรียนเชิญ ชาวซีมะโด่งทุกท่าน ไปร่วมไว้อาลัย ครับ
                               สวดพระอภิธรรม เวลา ๑๘:๓๐ น.

               วันจันทร์ที่ ๑๒ ธันวาคม
                              เวลา ๑๐:๐๐ น. เริ่มพิธี ทำบุญ เลี้ยงภัตตาหารเพล
                              ทำบุญอุทิศส่วนกุศล และ สวดบังสุกุล
                              พระราชทานเพลิงศพ เวลา ๑๓:๐๐ น.

                              จึงแจ้งมาให้ทราบ เรียนเชิญทุกท่าน ครับ

                              สวัสดี

[Leam]

  ...ขอร่วมไว้อาลัยและแสดงความเสียใจกับพี่กุศลด้วยครับ...

[เหยง 16]

พี่กุศล

ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของคุณพ่อด้วยครับ

[khesorn mueller]

เมื่อครู่ได้โทรศัพท์ทางไกลมายังพี่กุศล
เพื่อแสดงความเสียใจต่อพี่กุศลต่อการ
สูญเสียร่มโพธิ์อันยิ่งใหญ่.

พี่กุศลคะ สัญญาณก็ไม่ค่อยชัดคะ
หนิงเลยพูดแบบเร็วรี่รวบรัด
แม้ว่าversionยาวยังอยากบอกพี่อีกมาก
ในระยะที่แล้ว ได้ยินพี่กุศลเกริ่นถึงคุณพ่อพี่
บ่อยๆ พี่ต้องดูแลท่าน ต้องคอยปรนนิบัติ
ต้องคอยจัดยาดูแลตามกำหนด ยิ่งกว่านั้น
ช่วงน้ำท่วมที่พี่หายเงียบไป จึงได้ยินข่าว
ว่าพี่พยายามจะย้ายโรงพยาบาลให้ท่าน
ออกไปพักฟื้นในสถานที่อื่น พี่ได้รับความ
ช่วยเหลืออย่างแข็งขันจากพี่ๆชาวหอของเรา
ก็ให้โล่งใจไปกับพี่ด้วย

วันนี้ได้ทราบว่าคุณพ่อท่านเสีย ก็ให้รู้สึกตกใจ
ต่อข่าวอันน่าเสียใจนี้ ตกใจต่อความตั้งใจของพี่
ที่ผ่านมาในการที่จะฟูมฟัก พยุงยืดเวลาให้ท่าน
มีสุขภาพที่ดีเป็นมิ่งขวัญของพี่และพี่น้องของพี่
อย่างบุตรที่กตัญญูพึงกระทำ วันนี้ท่านได้จากพี่ไป
จากไปแบบไม่หวลกลับ ไม่มีท่านให้ได้ไปพูดคุย
เห็นหน้า ได้ยิน จับต้องได้ ท่านละไปอย่างสงบ
ตามกาล ตามสังขาร ตามเวลา ท่านได้สงบสุข

พี่กุศลคะ ขอยืนอยู่ข้างๆพี่ในความว่างปล่าวสูญเสีย
ใครที่ไม่เคยสูญเสียบิดา สูญเสียพ่ออันเป็นที่รัก
นึกความรู้สึกนี้ไม่ออกคะ.

nn.27

[Manop Klabdee]

การพลัดพรากจากสิ่งที่รักเป็นทุกข์   

 
         
               การพลัดพรากจากสิ่งที่เป็นที่รัก เป็นทุกข์ เป็นทุกข์ข้อที่เจ็ดที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอน ให้พุทธศาสนิกชนพึงกำหนดรู้เกี่ยวกับทุกข์ (ทุกข์คือ ความไม่สะบายกาย ความไม่สะบายใจ) และหมั่นพิจารณากำหนดไว้ในจิตเสมอ จะได้รู้เท่าทันจิต และอยู่ด้วยความไม่ประมาท

                ทุกข์ นั้น พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ มีสาเหตุมาจาก

                       ๑. การเกิด ก็เป็นทุกข์
                       ๒. การแก่ หรือเจริญวัยขึ้นไปจนแก่เฒ่า ก็เป็นทุกข์
                       ๓. การเจ็บไข้ได้ป่วย เป็นโรค ก็เป็นทุกข์
                       ๔. การตายก็เป็นทุกข์
                       ๕. ปราถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้น ก็เป็นทุกข์
                       ๖. ประสพกับสิ่งที่ไม่รัก ไม่ชอบ ก็เป็นทุกข์
                       ๗. พลัดพรากจากสิ่งที่รักที่ชอบ ก็เป็นทุกข์

                พระพุทธองค์ทรงสอนให้เรารู้เท่าทันทุกข์ทั้ง ๗ ประการนี้ เพื่อว่าตัวของเราจะได้ไม่ตกเป็นทุกข์เสียเอง โดยไม่รู้ตัว เมื่อเราพิจารณาอยู่เนื่องๆ เราจะอยู่ด้วยความไม่ประมาท และทุกข์ที่เราประสพนั้น จะไม่ทำให้เราเกิดทุกข์ ขอเพียงเรามีสติ-สัมปะชัญญะ เท่านั้น เราจะพ้นทุกข์นั้นด้วยปัญญาของเราเอง

                ร่างกายมนุษย์นั้น พระพุทธองค์ทรงสอนว่า ประกอบไปด้วย รูปและนาม

                รูป นั้น ประกอบไปด้วย ธาตุดิน ธาตุลม ธาตุน้ำ และธาตุไฟ มาประชุมพร้อมกันเป็นร่างกายที่มีรูปร่างหน้าตาอย่างนี้ ที่สมมติว่าเรียกมนุษย์

                นาม นั้น คือส่วนประกอบของมนุษย์ที่ไม่มีตัวไม่มีตน เป็นเรื่องของการรับรู้ รู้สึกได้ คิด นึก ตรึก ตรอง ประกอบไปด้วย เวทนา(รู้สึก) สัญญา (จำได้หมายรู้) สังขาร(คิด นึก) วิญญาณ (รับรู้หรือสัมผัสได้ทางอายตนะ ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ)

                รูปหรือร่างกายมนุษย์นั้น พระพุทธองค์ท่านให้คิดเสมือนว่าเต็มไปด้วย "โรค" คือ โรคทางกายที่เกิดขึ้น และจิตที่คิดแต่หาทุกข์มาใส่ตนอยู่เสมอ คือความไม่สะบายกาย ความไม่สะบายใจ เมื่อเราคิดว่ามันมีแต่โรค จะทำให้เราไม่ไปยึดมั่นว่านี่ตัวเรา นี่ของๆเรา เมื่อเราไม่ยึดมั่นจิตเราจะสามารถคลายความกำหนัด คือความอยากมี-อยากเป็น จะเบาบางลงๆ ไปเรือยๆ จดหมดไปเอง

                นอกจากนี้คนเราเมื่อเกิดเป็นมนุษย์แล้ว ต้องยึดหลัก มรรค ๘ หรือก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญา นั่นเอง ในการดำรงชีวิตเอาไว้ให้มั่น จะทำให้เราอยู่ในสังคมโลก อย่างผาสุขต่อตัวเราเอง ครอบครัว และเพื่อนในสังคม ในทางตรงกันข้ามถ้าเราไม่ยึดมรรค ๘ หรือศีล สมาธิ ปัญญา เราจะไม่มีมิตรสหาย ครอบครัว ตัวเราเอง สังคมรอบข้าง จะมีแต่ทุกข์เกิดขึ้น สังคมเดือดร้อน พอตายไปไม่มีใครมาเหลียวแล ปล่อยให้เป็นไปอย่างซากสัตว์เดรฉาร ที่เราพบเห็นตามข้างถนน

                ในทางตรงกันข้ามยามมีชีวิต ดำรงตนอยู่ด้วย ศีล  สมาธิ  ปัญญา หรือ มรรค มีองค์ ๘ จะมีแต่ความผาสุข เจริญในทุกสิ่ง บุตร-หลานก็สุขมีหน้าที่การงารดำรงชีวิตอยู่ใน มรรค ๘ ตายไปก็มีคนมาระลึกถึงเสมอ ถึงกุศล ความดี ความประพฤติของบุตร ที่ผู้ตายได้กระทำเอาไว้
             
                มรรคองค์ ๘ ประกอบด้วย

                  - สัมมาทิฏฐิ                 มีความเห็นชอบตามอริยสัจ ๔
                  - สัมมากังกัปปะ            มีความคิดชอบ
                  - สัมมาวาจามะ             มีวาจาชอบ
                  - สัมมากัมมันตะ            มีการกระทำชอบ
                  - สัมมาอาชีวะ              มีอาชีพและประกอบอาชีพชอบ
                  - สัมมาวายามะ             มีความเพียรชอบ
                  - สัมมาสติ                   มีความรู้สึกตัวอยู่เป็นนิจ
                  - สัมมาสมาธิ                มีความตั้งใจมั่นชอบ
         

                คุณพ่อ ของ ดร.กุศล  รับราชการอยู่กรมป่าไม้ จนเกษียรอายุราชการ ท่านทำงานด้วยความสุจริต สั่งสอน อบรม ลูกๆ ส่งให้เรียนหนังสิอ จนลูกๆได้ดีทุกคน ท่านจากไปด้วยดี ตอนน้ำท้วม กทม. ท่านรู้ว่าลูกๆ จะลำบาก ท่านก็มีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อลูกๆ แต่พอน้ำลดลงแล้ว ท่านก็จากไปด้วยอาการสงบ สมควรแก่อัตภาพที่สักวันจะต้องจากไป

            ท่านเป็นคนมีบุญ ที่ลูกๆไม่เคยทอดทิ้ง มีความอบอุ่น และ ท่านก็ภูมิใจในตัวลูกๆของท่านทุกคน (ท่านเล่าให้ผมฟัง ด้วยความภูมิใจ ผมเองเคยอุ้มท่านลงจากเตียงมาขึ้นรถเข็น เมื่อกลางปีที่ผ่านมา) ขอให้ดวงวิญญาณของท่านจากไปด้วยจิตที่สงบไปสู่สรวงสวรรค์ เทอญ

                ผมจึงขอเรียนเชิญทุกท่านไปร่วมไว้อาลัยคุณพ่อของ ดร.กุศล  ด้วยกันครับ และพิจารณาว่า สักวันหนึ่งข้างหน้า เราก็จะประสพอย่างนี้ ไม่ช้าก็เร็ว

                ทุกคนที่เกิดมาต้องตายไม่ช้าก็เร็ว ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาท ขอให้ประกอบแต่กรรมดี รักษามรรค ๘ ตลอดอายุไข ก็ได้ชื่อว่าอยู่อย่างไม่ประมาท เกิดมาไม่เสียชาติเกิด ครับ
               
                สวัสดี     

สังขารทั้งหลาย  เป็นอนิจจัง

สังขารทั้งหลาย     เป็นทุกข์

ธรรมทั้งหลาย    เป็นอนัตตา



ท่านทั้งหลายพึงพิจารณา เห็นตามนี้ จิตของท่านจะคลายกำหนัด และพ้นทุกข์ หรือทุกน้อยลง

[Manop Klabdee]

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

              ผมขอทำหน้าที่ผู้สื่อข่าวจำเป็น นะครับ

             - ต้องขอขอบคุณ คุณพรชัย   เกตุเล็ก ที่ขับรถและเป็นเพื่อนร่วมเดินทาง พา ดร.กุศล ไปรับศพคุณพ่อบัญญัติ  อิสดุลย์ ที่โรงพยาบาลพานทอง ชลบุรี ครับ

             - ศพคุณพ่อบัญญัติ มาถึงวัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน เวลา ๑๘:๒๐ น. โดยรถตู้ของมูลนิธิฯ ที่ชลบุรี มีพระที่วัดพระศรีมหาธาตุฯ ไปกับ ดร.กุศล ในครั้งนี้ นำศพคุณพ่อบัญญัติ มาด้วย

             - ๑๘:๓๐ น. มีพิธีรดน้ำศพ ตามธรรมเนียมประเพณี คณะซีมะโด่งมี ผม ดร.สุริยา และคุณรองรัตน์

             - ๑๙:๐๐ น. พระสวดพระอภิธรรม หน้าศพ ๔ รูป พวกซีมะโด่ง มีมาเพิ่มคือ พล.ต.ต. ศาสตราจารย์ ดร.เกียรติพงศ์  มีเพียร และทาง ดร.กุศล  ได้เรียนเชิญพี่ปิ้ง ถวายปัจจัย เครื่องบริวาร และทอดผ้าบังสุกุล ด้วยครับ

             - แขกที่มาในงาน เกือบเต็มศาลา ๑ อาคารธนาคารทหารไทย ครับ

             - วันศุกร์ วันอาทิตย์ พระสวดพระอภิธรรม เวลา ๑๘:๓๐ น.

             - มีพระราชทานเพลิงศพ วันจันทร์ที่ ๑๑ ธันวาคม ศกนี้ เวลา ๑๓:๐๐ น. ครับ

               ผมนั่งฟังพระสวดพระอภิธรรม ได้ดูพิธีต่างๆ ก็ได้พิจารณาสิ่งที่เห็น สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง สังขารทั้งหลายเป็นทุกข์ ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา เป็นการปฏิบัติธรรม ไปในตัว ว่าสักวันเราก็ต้องเป็นอย่างนี้ไม่ช้าก็เร็ว ดังนั้นเวลาเหลือน้อยแล้ว ต้องอยู่ด้วยความไม่ประมาท ต้องเร่งกระทำความเพียร ให้มากขึ้น

                สวัสดีครับ

[Preecha2510]

                  ดร.กุศล

                                     ผมขอร่วมแสดงความเสียใจกับการจากไปของคุณพ่อด้วยครับ

[Manop Klabdee]

                
                  วันนี้ วันศุกร์ที่ ๙ ธันวาคม

                  พระสวดพระอภิธรรม เวลา ๑๘:๓๐ น. ศาลา ๑ อาคารธนาคารทหารไทย
                  ( เป็นศาลาหลังแรก ตรงกลางหน้าเมรทางทิศตะวันออก ครับ)

                  เรียนเชิญทุกท่าน ที่มีเวลาว่าง ไปร่วมไว้อาลัย คุณพ่อบัญญัติ   อิสดุลย์ ที่จากไป ซึ่งเป็นคุณพ่อของ ดร.กุศล  อิสดุลย์

                  สวัสดีครับ

[Manop Klabdee]

วันอาทิตย์ที่ ๑๑ ธันวาคม

ชมรมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาฯ เป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพ

รศ.พินิจ  เพิ่มพงษ์พันธ์ เป็นประธานในพิธี

[Manop Klabdee]

[Manop Klabdee]

[prapasri AH]

ดร.กุศลคะ

พี่เเอ๊ะ เเละพี่หาญ เเสดงความเสียใจด้วยนะคะ

มาร่วมเเสดงความเสียใจด้วยตัวเองไม่ได้จริงๆค่ะ

ตอนพี่เเจ๋ว โทรมาเเจ้งข่าวพี่เเอ๊ะติดงานสำคัญอยู่เชียงใหม่ค่ะ

[KUSON]

ผมขอขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ และน้องชาวหอทุกๆท่านอีกครั้งครับที่ส่งข้อความมา
มีผู้ใหญ่ที่ผมนับถือ เช่นอาจารย์สุพัดดาได้กรุณาได้โทร์มาให้กำลังใจ
ขอบคุณพี่แอ๊ะ พี่หาญ และอีกหลายๆท่าน ที่กรูณาเป็นห่วง
และถือโอกาส สวัสดีปีใหม่ และเนื่องในโอกาสวันตรุษจีนที่จะถึงในเร็ววันนี้ด้วยครับ

[khesorn mueller]

พี่กุศล,
ขอสวัสดีปีใหม่ 2555มายังพี่
ปีนี้พี่เริ่มต้นชีวิตในแบบที่พี่อาจไม่คุ้น
การสูญเสียบุพพการี เป็นการตัดขาด
จากชีวิตวัยเด็กด้วย พ่อแม่เป็นสะพาน
เชื่อมชีวิตลูกระหว่างอดีต-อนาคต

ขอให้พี่กุศลมีชีวิตสำหรับอนาคตจากวันนี้นะคะ

nn.27