khesorn mueller
|
|
« ตอบ #500 เมื่อ: 17 เมษายน 2553, 23:29:25 » |
|
ด้านขวาไว้โดดฉุกเฉินไม่ไช่เหรอ? emergency door?
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #501 เมื่อ: 19 เมษายน 2553, 23:26:25 » |
|
อืมม์ ในเมื่อไม่มีคนมาตอบ ก็จะเล่าให้ฟังครับ... อาจารย์ท่านนั้น เค้าตั้งข้อสังเกตว่า สิ่งที่จัดเป็น"คำนามที่นับได้" เมื่อจับมันมาแบ่งครึ่ง หรือแบ่งเป็นส่วนๆ มันจะหมดสภาพของความเป็นสิ่งเดิมที่มันเคยเป็น ครับ เช่น ปากกา เอามาหักครึ่ง ก็กลายเป็นแค่เศษโลหะ, โต๊ะ เก้าอี้ เอามาทุบ ก็กลายเป็นเศษไม้, คนถูกเอามาหั่นก็กลายเป็นศพ ฯลฯ แต่สิ่งที่จัดเป็น"คำนามนับไม่ได้" เมื่อนำมันมาแบ่ง หรือหั่น หรือซอยให้สั้นลง มันก็ยังคงความเป็นสิ่งนั้นอยู่ เช่น เส้นผม จะตัดให้สั้นเกรียนอย่างไร มันก็ยังเป็นผม, ขนมเค้ก จะเอามาแบ่งเป็นกี่ส่วน มันก็ยังคงเป็น peice of cake เนื้อไก่ จะเอามาหั่นเป็นชิ้นๆ มันก็ยังเป็นเนื้อไก่ แค่ชิ้นเล็กกว่าเดิม ครับ
|
...
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #502 เมื่อ: 20 เมษายน 2553, 09:53:59 » |
|
เยี่ยม
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #503 เมื่อ: 20 เมษายน 2553, 11:45:57 » |
|
มีเหตุผล
ส่วนเรื่องประตูเครื่องบินพี่ตี๋ ผมว่า terminal สนามบินมักจะยาวๆออกไป เครื่องบินจอดเรียงๆกัน แล้วหันหัวออกไปตามความยาว terminal ซึ่งน่าจะเป็นการจอดที่สะดวกที่สุด เพื่อรับเจ้างวงช้างที่จะมาประกบที่ประตูได้ เพราะถ้าเข้าทางขวา หัวเครื่องบินต้องหันสวนกับทิศทางความยาว terminal นะ
อันนี้คิดเอาเองนะ ไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่หามา
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #504 เมื่อ: 20 เมษายน 2553, 15:56:08 » |
|
เรื่องของจารย์โอ ดีคับ เพิ่งจะรู้เหมือนกัน
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #505 เมื่อ: 21 เมษายน 2553, 17:06:15 » |
|
พี่ยังงงอยู่น้อง. ขอทำความเข้าใจนิด
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #506 เมื่อ: 06 มิถุนายน 2553, 01:01:19 » |
|
|
...
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #507 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2553, 07:53:00 » |
|
จารย์โอใช้สีอะไรระบายอ่ะ
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #508 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2553, 10:23:07 » |
|
สงสัยครับ ถามเหล่า ๆ พ่อบ้านทั้งหลาย เสื้อที่มันเปื้อนยางกล้วย จะซักยังไงให้มันหายน่ะ
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #509 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2553, 11:02:16 » |
|
ถามจากพี่ google ได้ตามนี้
เสื้อผ้าสีขาวที่เริ่มจะกลายเป็นสีเหลือง สามารถแก้ไขได้โดยใช้เปลือกไข่ป่นละเอียด ใส่ลงไปในอ่างแช่ผ้า ทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงซัก
เสื้อผ้าที่เลอะคราบครีม เนย น้ำมัน ขจัดคราบโดยนำแป้งที่ใช้สำหรับทาตัวมาโรย ใช้กระดาษทิชชู หรือกระดาษบางอื่นๆ วางทับ นำเตารีดที่มีความร้อนพอสมควร ทับบนกระดาษ จนแป้งดูดคราบออกจนหมด แล้วจึงนำไปซัก
เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบเลือด ขจัดคราบโดยนำนมข้นทาทันที ทิ้งไว้สักครู่แล้วนำไปขยี้น้ำออก
เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบเลือดจางๆ ขจัดคราบโดยใช้เบคกิ้งโซดาผสมน้ำสักเล็กน้อย จนแป้งข้นๆ ถูเบาๆ เมื่อแห้งจึงปัดฝุ่นออก
เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบเลือดฝังแน่น ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำเย็น ที่ผสมเกลือจนชุ่ม ถูเบาๆ จนรอยค่อยๆ จางลง แล้วใช้น้ำเปล่าถูอีกครั้ง สุดท้ายใช้ทิชชูซับน้ำให้แห้ง
เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบกาแฟ ขจัดคราบโดยใช้แป้งข้าวเจ้าถู แล้วซักได้ตามปกติ
เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบชอกโกแล็ต ขจัดคราบโดยรีบนำไปแช่น้ำอุ่นทันทีที่เปื้อน อาจใช้น้ำยาขจัดคราบฝังแน่น ช่วยด้วย จากนั้นนำไปซักแห้ง
เสื้อผ้าที่เลอะคราบน้ำตาเทียน ขจัดคราบโดยใช้ก้อนน้ำแข็งขูดเกล็ดเทียนออกให้มากที่สุด จากนั้นจึงใช้กระดาษประกบบริเวณที่เปื้อนทั้ง 2 ด้าน แล้วใช้เตารีดอุ่นๆ รีดทับจนน้ำตาเทียนซึมออกมาติดกับกระดาษ
เสื้อผ้าที่เลอะโคลน ขจัดคราบโดยปล่อยให้โคลนแห้ง ใช้แปรงปัดออก ซักด้วยน้ำเย็นหลายๆ ครั้ง จนไม่มีน้ำโคลนออกมา จึงซักด้วยผงซักฟอก
เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบน้ำชา ขจัดคราบโดยรีบเทน้ำเดือดลงบนรอยเปื้อนบนผ้าที่ยังเป็นรอยใหม่อยู่จนสีจางลงแล้ว รีบนำไปซักทันที ให้ซักในน้ำอุ่นกับสบู่ ถ้ายังไม่ออก ให้ใช้น้ำยาฟอกขาวเช็ด แล้วจึงซัก
เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบน้ำผลไม้ น้ำมันพืช ขจัดคราบโดยให้ขึงผ้าที่เปื้อนบนปากถัง เทน้ำเดือดลงตรงรอยเปื้อน แล้วจึงซัก
เสื้อผ้าที่เลอะน้ำมันขัดเงา ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ำชุบทินเนอร์ทาบริเวณที่เปื้อนในขณะที่ยังเปียกอยู่ ใช้น้ำยาซักผ้า ขยี้ตรงรอยเปื้อนทันที นำมาแช่ในน้ำอุ่น แล้วรีบซักทันที
เสื้อผ้าที่เลอะคราบน้ำมันดิบ ขจัดคราบโดยขูดน้ำมันดิบที่ติดอยู่ออกด้วยมีดที่ไม่คม แล้วถูด้วยน้ำมันสน หรือน้ำมันก๊าดหรือน้ำมันเบนซิน (ห้ามใช้น้ำเด็ดขาด)
เสื้อผ้าที่ขึ้นราเล็กน้อย ขจัดคราบโดยรีบนำผ้าที่ขึ้นราใหม่ๆ ซักในน้ำสบู่ร้อนๆ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ / ให้บีบมะนาวลงไป แล้วแช่ผ้าไว้ในผงซักฟอกสักครู่ จึงซักผ้าตามปกติ
เสื้อผ้าที่เปื้อนรอยสนิม ขจัดคราบโดยนำผ้ามาชุบน้ำให้เปียกก่อน บีบน้ำมะนาวลงไปบนรอยเปื้อน ทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงนำไปซักตามปกติ
เสื้อผ้าที่เลอะคราบเบียร์ ขจัดคราบโดยซักในน้ำเย็นทันที หรือใช้แปรงจุ่มน้ำเย็น แปรงตรงรอยเปื้อนทันที
เสื้อที่เลอะคราบน้ำมันรถ (น้ำมันเครื่อง) ขจัดคราบโดยใช้มะนาวถูบริเวณที่เปื้อน จนรอยเปื้อนจางลง แล้วจึงนำไปซัก
เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบน้ำส้มสายชู ขจัดคราบโดยผสมแอมโมเนีย 1 ช้อนชา ในน้ำ 2 ถ้วย (ครึ่งลิตร) แล้วแช่ 2-3 นาที ล้างออกแล้วซักตามปกติ
เสื้อผ้าที่เลอะคราบน้ำหมาก น้ำหมึก ขจัดคราบโดยก่อนซักให้นำเกลือป่นโรยตรงรอยเปื้อน แล้วบีบน้ำมะนาว ลงไปให้ชุ่ม ผึ่งแดดไว้ครึ่งวัน จึงค่อยนำไปซัก
เสื้อผ้าที่เลอะกาว ขจัดคราบได้โดย ใช้น้ำส้มสายชูเช็ดที่รอยเปื้อน นำมาแช่ในน้ำเย็น แล้วซักตามปกติ
เสื้อผ้าที่เลอะขี้ผึ้ง
ขจัดคราบโดยการวางกระดาษซับบนรอยเปื้อนแล้วกดด้วยเตารีดที่ร้อน เปลี่ยนกระดาษจนกระทั่งไขทั้งหมดถูกดูดซับไปหมด ถ้าเป็นผ้าที่บาง หรือผ้าไหมให้ใช้กระดาษทิชชู และเตารีดที่เย็นกว่า
เสื้อผ้าที่เลอะไข่ ขจัดคราบได้โดยให้ผสมน้ำยาซักผ้ากับน้ำอุ่นซัก
เสื้อผ้าที่เลอะยางกล้วย ขจัดคราบโดยใช้มะนาวที่ฝานเป็นชิ้นบางๆ ถูตรงรอยเปื้อน ที่เป็นคราบดำ แล้วรีบนำมาซักทันที
เสื้อผ้าที่เลอะยาทาเล็บ ขจัดคราบโดยซับที่รอยเปื้อนด้วยน้ำยาล้างเล็บ และเช็ดด้วยผ้าที่สะอาด จนกระทั่งรอยเปื้อนจางลง (ควรลอง หยดน้ำยาล้างเล็บลงผ้าก่อน)
เสื้อผ้าที่เลอะยาแดง ขจัดคราบโดยเช็ดรอยเปื้อนด้วยแอมโมเนีย หรือซักด้วยน้ำส้มสายชูผสมน้ำ เสื้อผ้าที่เลอะมัสตาร์ด ขจัดคราบโดยใช้น้ำส้มสายชูถู แล้วรีบนำไปซัก
เสื้อผ้าที่เลอะคราบปัสสาวะ ให้ซับที่รอยเปื้อน ด้วยแอมโมเนียเจือจาง หรือเบคกิ้งโซดา แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น แล้วซักได้ตามปกติ
เสื้อผ้าที่เลอะคราบเหงื่อ มี 3 วิธี 1.ขจัดได้โดยซักด้วยน้ำที่ผสมน้ำส้มสายชูเล็กน้อย หรือน้ำมะนาว 2.แช่ผ้าไว้ในน้ำยาซักผ้าที่ทำให้เจือจางในน้ำจากนั้นซักได้ตามปกติ 3.ละลายแอสไพริน 2 เม็ดลงในน้ำ แล้วแช่ผ้าไว้สักครู่ จึงซักตามปกติ
เสื้อผ้าที่เลอะหมึกแห้ง ขจัดคราบได้โดย ใช้สเปรย์ฉีดผมฉีดตรงรอยนั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำอย่างละเท่ากัน เช็ดให้แห้งแล้วนำไปซัก
เสื้อผ้าที่เลอะหมึกจีน ขจัดคราบได้โดย ให้ฝนหัวผักกาดขาวห่อด้วยผ้ากอซ ถูจนรอยเปื้อนจาง แล้วซักตามปกติ
เสื้อผ้าที่เลอะสีน้ำมัน ขจัดคราบโดยใช้น้ำมันเบนซินเช็ดรอยเปื้อนให้ชุ่ม แล้วใช้น้ำมันสนเช็ดอีกที จากนั้นซักตามปกติ
เสื้อผ้าที่เลอะสีเคลือบเงา ขจัดคราบโดยซับที่รอยเปื้อนด้วยน้ำมันสน หรือผสมแอมโมเนีย กับน้ำมันสนในอัตราส่วนที่เท่ากัน แช่ผ้าไว้จนกระทั่งรอยเปื้อน ละลายออก จากนั้นซักในน้ำสบู่
เสื้อผ้าที่เลอะสีปากกาเมจิก ให้ถูด้วยน้ำมันสน แล้วนำไปซัก
เสื้อผ้าที่เลอะคราบปากกาลูกลื่น ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ำชุบแอลกอฮอล์เช็ดจนรอยเลอะจางลง แล้วจึงนำไปซัก
เสื้อผ้าที่เลอะคราบดินสอ ใช้ยาสีฟันป้ายลงบนรอยดินสอแล้วขยี้
เสื้อผ้าที่เลอะลิปสติก เอามันเปลวหมูทาตรงรอยเปื้อน หรือใช้น้ำมันหมูทา แล้วจึงซักในน้ำสบู่ร้อนๆ หรือใช้ผงซักฟอกขาว โรยตรงรอยเปื้อนแล้วขยี้ แล้วจึงซักตามปกติ / ใช้วาสลินถูตรงรอยเปื้อนแล้วนำมาซักตามปกติ / นำมาแช้ไว้ในน้ำผสมเกลือทิ้งไว้ 1 คืน จะทำให้รอยลิปสติกหาย
เสื้อผ้าที่เลอะยางหญ้า ยางดอกไม้ ขจัดคราบโดยนำมาซักในน้ำสบู่ที่ข้นและร้อน ถ้ายังไม่ออกให้ใช้สารฟอกขาวช่วย
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #510 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2553, 13:09:50 » |
|
เพิ่มเิติมด้วย....ถ้ารู้ว่าผ้าสีตก..แช่เกลือก่อน...ช่วยได้ครับ ลดอัตราการสีตกครับ
จากผู้มีประสบการณ์
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #511 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2553, 15:49:40 » |
|
แ่ล้วเสื้อผ้าที่เลอะคราบ...ล่ะ
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #512 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2553, 17:54:22 » |
|
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #513 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2553, 19:21:55 » |
|
|
...
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #514 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2553, 19:33:47 » |
|
มีประโยชน์มากค่ะน้อง เดี๋ยวจะลอง!
เท่าที่ผ่านมา...ถ้าไม่เอาไปแอบ ก็ทิ้ง! เจง เจ้งงง
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #515 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2553, 00:28:08 » |
|
ใครเป็นเหมือนผมมั่งมั้ย อ่านเอกสารในคอมไม่ค่อยได้ ต้องพิมพ์ออกมาอ่าน น่าจะมีจอคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาการออกแบบ ให้หน้าจอมีผิวเหมือนกระดาษ จะได้อ่านได้เลย ไม่ต้องพิมพ์ออกมาอ่าน
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #516 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2553, 08:40:14 » |
|
ยกมือ สนับสนุนพี่ตี๋เล็กหนึ่งเสียง อาจเป็นเพราะว่า จอคอมมันมีแสงแหยงตาอ่ะ พออ่านได้ แต่ก็ไม่ดีเท่ากับอ่านบนกระดาษ
แถมการเสน่ห์การอ่านหนังสือ ก็คือ กลิ่นหมึกพิมพ์นี่แหละครับ
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #517 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2553, 09:53:44 » |
|
โห..นี่มรึงได้กลิ่นหมึกขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ยะ
มันน่าจะเ็ป็นเรื่องของความรู้สึกน่ะ ได้เขียน ได้ขีดเส้นกับมือจริงๆ ได้เปิด ได้จับ(อูยยย) รู้สึกว่าเวลาอ่านกระดาษ มันจะเห็นภาพรวมมากกว่าการอ่านในคอมพ์
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #518 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2553, 00:57:05 » |
|
รอ ไอแพด
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #519 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2553, 15:50:32 » |
|
เอา ไอเป็ด ไปใช้ก่อนพี่
|
|
|
|
telek78
|
|
« ตอบ #520 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2553, 17:19:37 » |
|
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #521 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2553, 16:10:24 » |
|
ขนมฝอยทองต้นตำรับ จากโปรตุเกส ชื่อในภาษาของเค้าคือ Fios de ovos (Fios=เส้นด้าย, Ovos=ไข่) ชื่อภาษาอังกฤษ คือ Angel hair ทราบมาว่า ต้นตำรับของเขาจะเน้นความมัน(ไม่ใช่ความสนุกนะ) แต่ไม่หวานมาก เหมือนฝอยทองของไทย
|
...
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #522 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2553, 16:26:39 » |
|
มีใครสงสัยมั้ยว่า ทำไมคนไทยจึงเรียก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล(ที่ฝรั่งเรียกว่า Dolphin) ว่า ปลาโลมา มันมีรูปร่างคล้ายปลาก็จริง แต่มันก็ไม่ได้มีขน เหมือนอย่างชื่อ (คำว่าโลมา แปลว่าขน) คำตอบคือ จริงๆแล้ว มันเป็นคำแผลง มาจากภาษาชวา แต่โบราณครับ คนชวาเรียกสัตว์ชนิดนี้ว่า Ikan lumba-lumba (อิคันลุมบาลุมบา) คนไทยรับเอาคำมาจากชวาอีกที เลยเอามาแผลงให้เข้ากับลิ้นตัวเอง เรียกว่าปลาโลมา (อิคานแปลว่าปลา) แบบที่เคยเรียก ดอร์ยา มารี กรีมา (ภรรยาขุนนางชาวโปรตุเกส ที่มาอยู่ในราชสำนักไทยสมัยอยุธยา) ว่า ท้าวทองกีบม้า
|
...
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #523 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2553, 17:57:30 » |
|
^ ^ คาราวะเลยครับ
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #524 เมื่อ: 28 มิถุนายน 2553, 08:07:00 » |
|
แล้วมีใครรู้บ้างว่า ทำไมฉายาของทีมบอลอุรุกกวัย ต้องเป็น "จอมโหด" ด้วยอ่ะ เมื่อก่อนมันไปเตะใครเค้าขาขาดเหรอ
|
|
|
|
|