yungying
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: 25 กันยายน 2550, 19:38:29 » |
|
ถามค่ะ อันนี้อยากรู้จริงๆ ว่าทำไมสัญญาณไปจราจร ต้องมี 3 สี คือ สีเขียว เหลือง แดง
คิดว่าจะมีมากกว่า 3 สีได้ไมค่ะ แล้วเป็นสีอื่นได้ป่าว เรื่องสัญญาณไฟจราจรเนี่ยะรู้จริงครับ ประวัติคืองี้...มีกรรมการที่จะขับรถไปตัดสินฟุตบอลทึ่ประเทศอังกฤษ..แต่ว่ารถติดมากเค้าก็เลยคิดสัญญาณไฟจราจรขึ้นมาเป็นไฟเขียว แดง ครับ สรุปต้นกำเนิดไฟจราจรอยู่ที่ประเทศอังกฤษ เป็นกรรมการตัดสินฟุตบอลครับ เอ๋..... ถ้าไฟเหลืองไฟแดงนะพอว่า เพราะกรรมการตัดสินฟุตบอลเขาใช้ใบเหลืองใบแดง แต่ใบเขียวไม่เคยเห็นนิพี่หลิม...มั่วป่าวเนี้ยต่อละกัน ไม่มีมั่วเด็ดขาดครับ... เพราะว่าเหลืองกับแดงใกล้เคียงกัน เขียวนี่แหละ ปลอดภัยสบายตัว แล้วสรุปว่ายังไงอะ งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง :?: :?: :shock:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ttp://dekhorcu.multiply.com/
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 25 กันยายน 2550, 19:53:36 » |
|
มันมีอะไรเกี่ยวกับเรื่องแม่สีมั๊ย..
เพราะว่ามันกลายเป็นสัญลักษณ์ไปว่า..แดงคือห้าม เหลืองคือเตือน..มีอันตราย
แล้วก็เขียวมันก็ให้ความรู้สึกว่าปลอดภัยน่ะ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 26 กันยายน 2550, 00:24:42 » |
|
ว่างๆเลยหามาฝาก เรื่อง ของ ไฟจราจร or traffic light มีครั้งแรกในปี 1868 ที่ลอนดอน,ประเทศอังกฤษ ตั้งแต่ก่อนสมัยที่จะมีรถยนต์ซะอีก เริ่มต้นมีแค่สองสีคือ แดง=หยุด , เขียว=ระวัง โดยใช้โคมไฟเป็นสัญลักษณ์ อ้างอิง www.ideafinder.com/history/inventions/trafficlightเท่าทีหาดู เรื่องสีของมัน คงเป็น เรื่องของการใช้สีเชิงสัญลักษณ์ ลองหาอ่านดูสนุกดี เลือกการเลือกใช้สัญลักษณ์น่ะ มันเป็นพื้นฐานของการทำสื่อโฆษณาด้วย ชอบๆ หามาเยอะเลย คำถาม จาก คนชอบตอบ (ถูกไม่ถูก ไม่รู้ แต่ขอตอบ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: 26 กันยายน 2550, 17:58:33 » |
|
โอ้..ผ่านไปได้ 1 ข้อ..แต่รถอัลติสกับไหปลาร้ากรูเนี่ยะ..ท่าทางจะยาก..
งั้นเอาไปอีกคำถาม..แบบว่าข้องใจมากๆๆ
คือเดินทางรถไฟฟ้าทุกวันครับ..ก็จะเห็นสาวๆแต่งตัวหลายๆแบบ..แต่ผมสงสัยมากๆ คือคนเดิมๆที่เดินสวนกันไปเนี่ยะ..อายุประมาณ 25 ปี..หน้าตาก็พอสมควร..แต่งตัวเป็นสาวออฟฟิตเนี่ยะ..
แต่ติดตรงเสื้อเนี่ยะ..เค้าจะใส่แบบให้ดันหน้าอกขึ้นมาเห็นเนินสูงๆทุกวันเลยอ่ะ..ทุกชุด concept เดียวกันหมด ดันอกสูงๆ..ให้เห็นเยอะๆเนี่ยะ..
อยากถามความเห็น..ว่าคิดยังไงที่เค้าถึงแต่งตัวแบบนี้ไปทำงานทุกวัน..ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าผู้ชายก็จะมอง..อยากเด่น..หรือว่า อยากโชว์ซะเฉยๆ..
ถามความเห็นทั้งผู้หญิงและผู้ชายนี่ล่ะ..
อ้อ..ในบอร์ดนี้มีใครไม่ใส่กางเกงในไปทำงานมั๊ยครับ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: 26 กันยายน 2550, 20:52:33 » |
|
พี่โต้ง แสดงว่าที่ผมตอบ ไม่ใช่คำตอบที่ต้องการล่ะสิเนี่ย ... :?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
yungying
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: 26 กันยายน 2550, 22:02:14 » |
|
คนเราแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ความชอบก็แตกต่างกัน การแต่งตัวก็เป็นการแสดงออกถึงความเป็นตัวเรา แต่ละคนชอบแบบไหนก็จะแสดงออกมาแบบนั้น ผู้หญิงคนนั้นเขาก็คงชอบแบบนั้น เปิดนิดๆหน่อยๆ ให้คนอื่นได้มอง....หรือผู้ชายไม่ชอบมองละค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ttp://dekhorcu.multiply.com/
|
|
|
audit
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 136
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: 27 กันยายน 2550, 11:13:43 » |
|
งั้นเอาไปอีกคำถาม..แบบว่าข้องใจมากๆๆ
คือเดินทางรถไฟฟ้าทุกวันครับ..ก็จะเห็นสาวๆแต่งตัวหลายๆแบบ..แต่ผมสงสัยมากๆ คือคนเดิมๆที่เดินสวนกันไปเนี่ยะ..อายุประมาณ 25 ปี..หน้าตาก็พอสมควร..แต่งตัวเป็นสาวออฟฟิตเนี่ยะ..
แต่ติดตรงเสื้อเนี่ยะ..เค้าจะใส่แบบให้ดันหน้าอกขึ้นมาเห็นเนินสูงๆทุกวันเลยอ่ะ..ทุกชุด concept เดียวกันหมด ดันอกสูงๆ..ให้เห็นเยอะๆเนี่ยะ..
มิน่าพักหลังๆนี้ พี่โต้งมองไม่ค่อยเห็นแอนน์ก่อน เพราะมัวไปมองแบบนี้นี่เอง หุหุ :wink:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #32 เมื่อ: 27 กันยายน 2550, 17:00:56 » |
|
งั้นเอาไปอีกคำถาม..แบบว่าข้องใจมากๆๆ
คือเดินทางรถไฟฟ้าทุกวันครับ..ก็จะเห็นสาวๆแต่งตัวหลายๆแบบ..แต่ผมสงสัยมากๆ คือคนเดิมๆที่เดินสวนกันไปเนี่ยะ..อายุประมาณ 25 ปี..หน้าตาก็พอสมควร..แต่งตัวเป็นสาวออฟฟิตเนี่ยะ..
แต่ติดตรงเสื้อเนี่ยะ..เค้าจะใส่แบบให้ดันหน้าอกขึ้นมาเห็นเนินสูงๆทุกวันเลยอ่ะ..ทุกชุด concept เดียวกันหมด ดันอกสูงๆ..ให้เห็นเยอะๆเนี่ยะ..
มิน่าพักหลังๆนี้ พี่โต้งมองไม่ค่อยเห็นแอนน์ก่อน เพราะมัวไปมองแบบนี้นี่เอง หุหุ :wink: งั้นก็สรุปว่าน้องแอน...ไม่อยู่ในขอบเขตที่เราพูดถึงกันอยู่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: 27 กันยายน 2550, 23:37:27 » |
|
^ ^ ^
ไม่ Get ว่ะหลิม ... ขอให้ช่วยขยายความหน่อยสิ :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายป้อ
|
|
« ตอบ #34 เมื่อ: 28 กันยายน 2550, 00:58:47 » |
|
yungying ตอบเมื่อ: Wed Sep 26, 2007 10:02 pm เรื่อง:
-------------------------------------------------------------------------------- คนเราแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ความชอบก็แตกต่างกัน การแต่งตัวก็เป็นการแสดงออกถึงความเป็นตัวเรา แต่ละคนชอบแบบไหนก็จะแสดงออกมาแบบนั้น ผู้หญิงคนนั้นเขาก็คงชอบแบบนั้น เปิดนิดๆหน่อยๆ ให้คนอื่นได้มอง....หรือผู้ชายไม่ชอบมองละค่ะ
:oops: ช๊อบชอบ.....เป็นที่สู๊ด......ซี๊ด...มองแล้วรู้สึกดีนะ....
....แต่ถ้าแฟนตัวเองนะ...ห้าม...หุๆๆ...ไม่ได้...เด็ดขาด....
...ส่วนคนอื่นไม่ว่าอะไรตามสบาย.....อิๆๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #35 เมื่อ: 28 กันยายน 2550, 11:09:23 » |
|
ถ้าแต่งตัวดูดี ก็ชอบมองนะครับ มองว่าแต่งตัวดีจัง พอดีชอบผู้หญิงแต่งตัวเนี๊ยบๆ ครับ แต่ถ้าแต่งแบบ x ขาดใจ แบบชวนให้มองอันนี้กลัวอ่ะครับ ไม่กล้ามองอ่ะ บางทีไม่แน่ใจว่าเค้าเป็นผู้หญิง หรือว่า ชายอ่ะ เหอๆๆ กล้าเกิน ** โต้งเจอคนนี้บ่อยเหรอ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #36 เมื่อ: 28 กันยายน 2550, 12:49:50 » |
|
ถึงน้องชาร์ป..แบบว่าคำตอบข้อไหนอ่ะ..เพราะรู้สึกคำตอบทั้งไฟรถกับไหปลาร้า..มันยังดูขัดๆ..
ส่วนเรื่องแต่งตัวน่ะ..คือผมชอบคิดเป็นประเด็นต่อนิดๆหน่อยๆแค่นั้นเอง..
แบบว่า..เออ..เค้าทำงานอะไร..มีแฟนรึยัง..อะไรทำนองเนี่ยะ..
เพราะว่า..เค้าก็รู้อยู่แล้วใช่ป่ะ..ว่าแต่งแบบนี้ผู้ชายจะมอง..แบบว่าถ้ามีชุดแบบนี้บ้าง..ก็คงจะไม่แปลกใจ..แต่มันเป็นทุกชุดนี่สิ..มันก็เลยอดคิดไม่ได้นิดหน่อย..ว่าเค้าก็ต้องรู้ไง..ถึงแต่งตัวแบบนี้..
ก็เลยคิดต่อ..ว่ารู้..แล้วยังไง..แต่งทุกชุด..ดันเยอะๆเพราะอะไร..แค่นั้นล่ะ..ถามความเห็นเฉยๆ..
ส่วนน้องออดิท..ไม่อยู่ในประเด็นนี้อยู่แล้ว..เพราะคุณสมบัติไม่ผ่าน...หุ หุ หุ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายป้อ
|
|
« ตอบ #37 เมื่อ: 28 กันยายน 2550, 13:24:42 » |
|
:oops: ข้าเจ้าแนะนำทุกท่าน.....ไปที่....รพ.ยันฮี..แล้วจะรู้ว่าสั้นๆ...สวยๆ..ขาวๆ....เอ็กซ์ๆ
...เป็นฉันใด......ไปมาแล้ว......หุๆๆๆ.....ดีมากๆๆๆ..........
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #38 เมื่อ: 28 กันยายน 2550, 13:52:21 » |
|
อารายสั้นๆ อ่ะ น้องป้อ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลูกพิ้ง
|
|
« ตอบ #39 เมื่อ: 28 กันยายน 2550, 14:13:57 » |
|
:oops: ข้าเจ้าแนะนำทุกท่าน.....ไปที่....รพ.ยันฮี..แล้วจะรู้ว่าสั้นๆ...สวยๆ..ขาวๆ....เอ็กซ์ๆ
...เป็นฉันใด......ไปมาแล้ว......หุๆๆๆ.....ดีมากๆๆๆ.......... :shock: แล้วน้องป้อ....ไปทำอาราย....ที่รพ.นั่นละค๊า...คุณพี่สงสัย...อิ๊อิ :lol: :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลูกพิ้ง
|
|
« ตอบ #40 เมื่อ: 28 กันยายน 2550, 14:25:26 » |
|
ที่ ppornson ตั้งประเด็นเกี่ยวกับการแต่งตัวของสาวคนนั้น....ดูเข้าที..ดีทีเทียว..เอ๊ะยังไง
ขนาดเราเป็นผู้หญิง...เวลาขึ้นรถไฟฟ้าหรือไปเดินสวนกับผู้หญิงคนอื่น...ที่แต่งตัวดูดี...มีสไตล์
นี่เราก็มองเหมือนกัน...บางทีก็คิดต่อเหมือนกันว่าแต่งตัวแบบนี้.ทำงานแบบไหนหว่า...ดูดีจัง
มีฟงมีแฟนนี่ยังไม่ค่อยจะคิดต่อนะ...555 เรื่องการแต่งตัวของผู้หญิงนี่...มันเป็นรสนิยมส่วนตัวล่ะ...
แล้วแต่อารมณ์ด้วยว่าจะแต่งแบบไหน...แฟชั่นหรือกระแส...สำหรับบางคนก็มีส่วน....แต่ที่สำคัญคือ...กาละเทศะและการให้เกียรติต่อสถานที่และบุคคล
ที่จะไปพบปะด้วย...นี่คือสิ่งที่น่าจะยึดถือและนำปฏิบัติ....ในการแต่งกายเรื่องสาวคนนั้น...จะบอกว่าไงดี...เธออาจจะต้องการแสดงออกถึงความเป็นตัวตน..ของเธอ.. ก็ได้...ใครจะไปรู้...นอกจากตัวเธอเอง :roll:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
yungying
|
|
« ตอบ #41 เมื่อ: 28 กันยายน 2550, 18:07:53 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ttp://dekhorcu.multiply.com/
|
|
|
dol (81)
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 540
|
|
« ตอบ #42 เมื่อ: 28 กันยายน 2550, 20:03:37 » |
|
พี่แนะนำให้ ไปตามค่ายมวย น่าจะเจอ :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ความรักไม่มีวันหมดอายุ ถ้ามันจะหมดอายุแสดงว่าคุณหมดรัก
|
|
|
นายป้อ
|
|
« ตอบ #43 เมื่อ: 29 กันยายน 2550, 13:23:27 » |
|
แล้วน้องป้อ....ไปทำอาราย....ที่รพ.นั่นละค๊า...คุณพี่สงสัย...อิ๊อิ
.. :oops: พี่แอน....เป็นความลับเค้าไม่บอกกัน...แต่แนะนำได้......หุๆๆ...
....ได้แต่ผู้ชายนะ...อิๆๆๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #44 เมื่อ: 29 กันยายน 2550, 18:29:33 » |
|
คิดยังไงกับน้องๆไม่ใส่กกน..
..ปัญหาหนักของสังคม..
..เรื่องของเค้า..ใส่หรือไม่ใส่เราก็ไม่รู้ เกี่ยวอะไรด้วย..
..เดี๋ยวมันก็หายไปเอง..เป็นแฟชั่น..
..กรูชอบว่ะ..หุ หุ :lol:
เอายังไงดี..สำหรับผม..ผมว่าเดี๋ยวมันก็คงหายไปเอง..ไม่ถึงกับปัญหาหนักสังคม..แต่ก็บอกถึงสติปัญญาของเด็กไทยที่น่าจะมีวุฒิภาวะแย่ลงทุกที..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #45 เมื่อ: 29 กันยายน 2550, 22:17:37 » |
|
พี่โต้งนี้ช่างขี้สงสัยจริง ๆ เลย ... หุ หุ
แถมสงสัย แต่เรื่องของผู้หญิง ซะด้วย (ดีแล้วล่ะครับ ที่ไม่สงสัยเรื่องผู้ชาย )
...
สองเรื่องที่พี่โต้งสงสัยจนกลายเป็นประเด็นทางสังคมนั้น อาจจะบอกได้ว่า ... จริง ๆ แล้ว บางครั้ง ผู้หญิง ก็กล้ามากกว่าผู้ชาย .. เพราะ โดยสัญชาตญาณ แล้ว เขาต้องเด่น ดูดี (กว่า คนอื่น ๆ ) ถึงจะรู้สึกดี
การกระทำบางอย่าง มันก็ดูรุนแรง เกิน กว่าระดับสังคมในขณะนั้นยอมรับได้ แต่ ผู้หญิงคนั้น ๆ เขาคงให้น้ำหนัก เรื่อง ความเด่นของตัวเอง ความน่าสนใจของตัวเอง มากกว่า สังคมเท่านั้นเอง ...
(ไม่แน่ อีก 20 ปี อาจจะ ฮิต จนเป็น แฟชั่น ที่ผู้หญิงทุกคนต้องทำก็ได้ ใครเล่าจะรู้ )
หุ หุ ไปเรื่องอื่นดีกว่าครับ เดี๋ยวตาแคมมาตอบ จะแตกประเด็นไปใหญ่ :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
yungying
|
|
« ตอบ #46 เมื่อ: 30 กันยายน 2550, 01:41:18 » |
|
พี่แนะนำให้ ไปตามค่ายมวย น่าจะเจอ :lol: อืม..น่าสนใจค่ะ แต่เปลี่ยนจากค่ายมวยเป็นค่ายทหารน่าจะดีกว่าไมพี่...หุหุหุ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ttp://dekhorcu.multiply.com/
|
|
|
|
นายป้อ
|
|
« ตอบ #48 เมื่อ: 30 กันยายน 2550, 11:58:48 » |
|
:oops: กับไอ้เรื่องใส่ไม่ใส่ กกน....นี้ไม่มีความคิดเห็นครับ....แต่...
....ลองอ่านนี่ดูนะครับ.....
self-esteem
คำนี้ยังไม่มีคำแปลสำหรับภาษาไทย หรืออาจจะมีแต่ผู้เขียนไม่ทราบ นักการศึกษา ผู้ปกครอง นักธุรกิจ ตลอดจนรัฐบาลกำลังมุ่งสร้างประชาชนให้มี self-esteemสูง ซึ่งหมายถึง บุคคลที่มีความรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง มีความซื่อสัตย์ มีความภูมิใจในผลสำเร็จของงาน บุคคลซึ่งมีความคิดริเริ่มและมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาและรับผิดชอบปัญหาที่จะเกิดตามมา เป็นคนที่คนอื่นรักและรักคนอื่น เป็นบุคคลที่สามารถควบคุมตัวเองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของงานโดยสรุปแล้วคนที่มี self-esteem สูงจะหมายถึงคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีความรับผิดชอบสูงและซื่อสัตย์
ตรงกันข้ามกับคนที่มี self-esteem ต่ำหรือพฤติกรรมป้องกัน (defensive)คนกลุ่มนี้มักจะต้องการพิสูจญ์ตัวเองหรือวิจารณ์คนอื่น ใช้คนอื่นเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง บางคนอาจจะหยิ่งหรือดูถูกผู้อื่น มักจะไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะมีคุณค่าหรือความสามารถหรือการยอมรับ ทำให้คนกลุ่มนี้ไม่กล้าที่จะทำอะไรเนื่องจากกลัวความล้มเหลว คนกลุ่มนี้มักจะวิจารณ์คนอื่นมมากกว่าที่จะกระทำด้วยตัวเอง และยังพบอีกว่าคนกลุ่มนี้มักจะชอบความรุนแรง ติดสุรา ยาเสพติด มีเพศสัมพันธุ์ก่อนวัย
คนที่มี self-esteem จะต้องมีความสมดุลของความต้องการผลสำเร็จหรืออำนาจ และความรู้จักคุณค่า ความมีเกียรติและความซื่อสัตย์ ซึ่งอาจจะหมายถึงจิตใต้สำนึกและพฤติกรรมนั่นเอง จิตใต้สำนึกของคนที่มี self-esteem จะต้องรู้จักบาป บุญคุณโทษ รู้สิ่งใดดี สิ่งใดไม่ดี ความสื่อสัตย์ ความมีเกียรติ ส่วนพฤติกรรมของ self-esteem มีความสามารถที่จะคิดแก้ปัญหา เชื่อมั่นในความคิดและความสามารถของตัวเอง สามารถเลือกวิธีการตัดสินใจที่ถูกต้อง หากสูญเสียความสมดุลก็จะทำให้เกิดปัญหา เช่นหากจิตใต้สำนึกไม่แข็งแรงหรือสมบูรณ์พอก็จะทำให้คนเกิดพฤติกรรมเชื่อมั่นตัวเองมากเกินไป หยิ่งยโส ดูถูกคนอื่น หากแต่มีแต่จิตใต้สำนึกที่ดีแต่ไม่มีความมุ่งมั่นที่จะประสบผลสำเร็จชีวิตก็อาจจะไม่ถึงเป้าหมาย ดังนั้นบุคคลที่ชอบพูดถึงแต่ตัวเอง อวดดี ดูถูกคนอื่น คนพาล ชอบเอาเปรียบคนอื่นคนที่กล่าวโทษคนอื่นไม่ถือว่ามี self-esteem
คนที่มี self-esteem มักจะประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้
มองโลกในแง่ดีเสมอ มองวิกฤตให้เป็นโอกาส เมื่อมีมืดต้องมีสว่าง มีร้ายต้องมีดี ขาวคู่กับดำ ประเมินตัวเราให้มีคุณค่าอยู่เสมอ เชื่อมั่นในความสามารถตัวเอง มองว่าตัวเราเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและเราสามารถเปลี่ยนแปลงตามที่เราต้องการ ผู้ที่ไม่รู้คุณค่าตัวเองไม่มีความมั่นใจจะไม่มีความหวัง ไม่มีพลังในการต่อสู้ในที่สุดจะเป็นคนที่ซึมเศร้า
การสร้างความมั่นใจในตัวเอง self-esteem
ความเชื่อมั่นตนเองและรู้คุณค่าตัวเองเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิต ลำพังความคิดอย่างเดียวไม่สามารถสร้างความมั่นใจในตัวเองได้ ความมั่นใจจะเริ่มสร้างตั้งแต่เด็กจนกระทั่งเราตาย ความมั่นใจจะกระทบต่อการตัดสินใจดังนั้นทุกคนความสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ตัวอย่างของความมั่นใจเช่นหากคนจะเปลี่ยนอาชีพเขาจะต้องมั่นใจในตัวเองหรือมีคนอื่นเห็นถึงความสามารถของเขาที่จะทำให้ให้สำเร็จ เมื่อมีความผิดหวังหรือความเครียดความมั่นใจหรือเชื่อมั่นในตัวเองจะช่วยให้แก้ไขสถานการณ์ให้ผ่านไปด้วยดี
ครอบครัวซึ่งมีความมั่นใจหรือเชื่อมั่นในตัวเองสูงความมั่นใจของลูกก็จะสูง การพัฒนาความมั่นใจของเด็กจะเกิดขึ้นได้เมื่อเด็กได้เล่นกับเพื่อน ผู้ที่มีความมั่นใจสูงมักจะไม่ทำร้ายตัวเอง ไม่ดื่มสุราหรือติดยาเสพติด เด็กหญิงวัยรุ่นที่มีความมั่นใจสูงมักจะไม่ประพฤติผิดประเพณี ความมั่นใจเป็นลักษณะของแต่ละคนไม่สามารถที่จะให้กันได้แต่สามารถฝึกฝนได้ ในสังคมปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงเร็ว ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ คนที่มีความมั่นใจและมีความสามารถในการตัดสินใจ ความคิดริเริ่มใหม่ๆการปฏิบัติงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการสื่อสารกับผู้อื่นเพื่อให้เข้าใจเหมือนกัน คนเช่นนี้จึงจะอยู่รอดในสังคม
เรามาเสริมสร้าง self-esteem เพื่อที่จะเป็นคนที่มีประสิทธิภาพสูง Peak Performance
หาเวลาสักหนึ่งชั่วโมงในตอนเช้าเพื่อพัฒนาตัวเอง อาจจะเป็นการนั่งสมาธิ หรือการพิจารณาตัวเอง หรือ่านหนังสือที่สร้างความเชื่อมั่น หรือฟังเทปคำสอนต่างๆ การเริ่มต้นที่ดีจะทำให้เกิดความมั่นในและประสบผลสำเร็จ
มองปัญหาและมองโลกในแง่ดี เลิกบ่นสิ่งที่ไม่ดีเกี่ยวกับตัวเอง ลองหากระดาษสักแผ่นจดความคิดที่ดีๆเกี่ยวกับตัวเองไว้ด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งจดสิ่งที่ไม่ดีแล้วมาวิเคราะห์ ว่ามีสิ่งไม่ดีหรือสิ่งที่ดีมากว่ากัน หานามบัตรจดสิ่งที่ดีหรือคำขวัญที่ดีไว้กระตุ้นเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลา
ทำบ้านให้ปราศจากความวุ่นวาย ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือคุยกับเพื่อนที่สนิท
หาวันละ 10 นาทีเพื่อพิจารณาจุดยืนของตัวเอง สิ่งที่สำคัญของชีวิตคืออะไร เราบรรลุหรือยัง เราเดินผิดแนวทางหรือไม่
คนกับคนที่มองโลกในแง่ดีหรือคนที่มี self-esteem เพราะเพื่อนจะกระตุ้นให้เรามีความมั่นใจและความมุ่งมั่นเพิ่มขึ้น ตรงกันข้ามหากคบคนที่มองโลกในแง่ร้ายจะทำให้เรามองโลกในแง่ร้าย ความมั่นใจก็จะสูญเสียไปด้วยดังนั้นเลิกคบกับคนที่มองโลกแง่ร้าย
ให้เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น เพราะเราต้องยอมรับว่าคนเราไม่สมบูรณ์ 100%ทุกคน หากเราเปรียบเทียบกับคนอื่นจะทำให้เกิดปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้อย่างมากมาย
ให้หาคนที่จะเป็นต้นแบบเพื่อเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต
ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้และมุ่งสู่ความสำเร็จนั้น
หาผู้ที่คอยช่วยเหลือด้านทักษะและทัศนะคติในการดำรงชีวิตหรือการงาน
หากมีคนชมหรือกล่าวโทษให้กล่าวคำว่าขอบคุณ
อย่าดูถูกตัวเองหรืออย่ามองว่าตัวเองไม่มีความสามารถ หากเราคอยตอกย้ำถึงจุดด้อยของเรา เราจะไม่มีทางประสบผลสำเร็จ
ให้เพิ่มทักษะหรือคุณภาพชีวิตจากการทำงาน การอ่านหนังสือ หรือจากสื่ออื่นๆ
ให้จดสิ่งที่ดีเกี่ยวกับตัวคุณ เช่นความซื่อสัตย์ ความคิดริเริ่ม ความมุ่งมั่น ความเอื้ออาธร เป็นต้น ให้อ่านสิ่งเหล่านี้บ่อยๆ
จดผลงานที่คุณชื่นชมหรือประสบผลสำเร็จสัก 10 อย่าง เช่นการศึกษา ผลการศึกษา การได้รับรางวัล การช่วยเหลือผู้อื่น
ในสังคมไทยจะมีซักเท่าไหร่ที่เข้าใจเรื่องนี้ได้ถูกต้อง.....เฮ้อๆๆๆๆ........
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
too
ตู้ rcu85
Hero Cmadong Member
ออฟไลน์
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,281
|
|
« ตอบ #49 เมื่อ: 30 กันยายน 2550, 22:10:10 » |
|
โอ้..ในที่สุด..กระทู้นี้ก็ให้ประโยชน์กับสังคมซะที..
ตกลงไฟเกียร์ถอยหลังกรูไม่มีใครรู้ใช่ป่ะ..ไปสังเกตุ LIMO น่ะ..ไฟข้างขวามันเป็นสีเหลืองน่ะ..ไม่รู้ว่าเวลาถอยมันจะติดรึเปล่า..
เอาไปซักคำถาม..อันนี้ข้องใจมานาน..
ทำไมเรียก ไหปลาร้า..ครับ..ใครรู้บ้าง..ทำไมต้องไหปลาร้า..เอาตรรกะอะไรมาจับก็ไม่เข้าใจอยู่ดี..(ไอ้ที่อยู่ข้างๆหัวไหล่น่ะ..)
ไหปลาร้า-เป็นคำเรียกส่วนที่บุ๋มลงไปตรงคอด้านหน้า เป็นกระดูกอยู่ระหว่างโคนของคอกับกระดูก ซึ่งสังเกตเห็นได้ในคนที่ผอม กระดูกไหปลาร้า คือ กระดูกส่วนที่เชื่อมต่อส่วนกระดูกอกส่วนบนไปยังหัวไหล่อยู่ระหว่าง คนโบราณคงเทียบส่วนบุ๋มของร่างกายดังกล่าวว่าคล้ายกับแอ่งที่อยู่ระหว่าง ปากไหปลาร้ากับฝาปิดปากไหปลาร้า แอ่งนี้จะหล่อน้ำไว้กันแมลงวัน
ที่มา : บทวิทยุรายการ "รู้ รัก ภาษาไทย" ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๙กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ เวลา ๗.๐๐-๗.๓๐ น.
http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=1404
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|