Jiab16
|
|
« ตอบ #175 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2551, 21:36:41 » |
|
ตอบได้เริด ม้าก ค่า
นายสัตวแพทย์ สากล 16 ... ส่งมา
สาวสวยคนหนึ่งได้ Post ข้อความที่กระทู้ชื่อดัง
หัวข้อ : จะทำยังไงดีคะ ดิฉันต้องการแต่งงานกับเศรษฐีค่ะ
ขอสาบานว่าสิ่งที่ดิฉันจะพูดเป็นความจริงค่ะ ดิฉันอายุ 25 ปีค่ะ แ่น่นอนว่าฉันสวย เซ็กซี่ มีรสนิยม ดิฉันอยากจะแต่งงานกับผู้ชายรายได้ซัก 500,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป คุณอย่าเพิ่งมองว่าดิฉันโลภนะคะ รายได้ประมาณ 1,000,000 เนี่ย แค่ชนชั้นกลางในสินธรเอง ฉันไม่ได้เรียกร้องมากไปใช่ไหมคะ
มีใครในกระทู้นี้ รายได้เกิน 500,000 บ้างคะ พวกคุณแต่งงานกันไปหมดแล้วรึยัง กรุณาช่วยตอบคำถามดิฉันทีค่ะ คือดิฉันอยากแต่งงานกับคนที่รวยๆ อย่างพวกคุณ พวกที่ดิฉันเคยคบด้วยเนี่ย มีแต่พวกกะหลั่ว ๆ รายได้อย่างมากไม่เกิน 250,000 เอง รายได้แค่นี้ จะคิดอุตริไปซื้อบ้านแถวสีลมเนี่ย ยังได้แค่มองเลยใช่ไหมคะ
กรุณาตอบคำถามดิฉันดังนี้ค่ะ
1. หลังตลาดหุ้นปิด พวกคุณมักจะไปต่อที่ไหนกันคะ ( ชื่อร้าน,ผับ,fitness )
2. ถ้าจะหลีสาว คุณจะมองสาววัยไหนคะ
3. ทำไมคนที่ได้แต่งงานกับคนรวย ๆ ถึงมีแต่พวกอาซิ่มเฉิ่ม ๆ รสนิยมห่วย ๆ ล่ะคะ
4. คุณใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการเลือกคนที่คุณจะแต่งงานด้วยคะ
และนี่คือคำตอบของ หนุ่ม Wall Street ท่านหนึ่ง
ถึงคุณสุดสวยครับ
หัวข้อกระทู้ของคุณน่าสนใจมากครับ และคงมีผู้หญิงหลายคนที่อยากจะถามคำถามเดียวกันกับคุณ ขออนุญาตตอบคำถามในมุมมองของนักวิเคราะห์นะครับ รายได้ของผมมากกว่า 500,000 ซึ่งผ่านเกณฑ์ของคุณ ดังนั้นผมเชื่อว่าคำตอบของผมน่าจะไม่ทำให้ผู้ที่อ่านกระทู้นี้เสียเวลาอ่านนะครับ
จากมุมมองของนักธุรกิจ การที่เลือกจะแต่งงานกับคุณนั้น ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด คำตอบนั้นง่ายมาก อธิบายตามตรงจากข้อมูลที่คุณให้มา คุณพยายามจะ Trade ระหว่าง " ความสวย " กับ " เงิน "
เมื่อ A มีความสวย และ B มีเงิน แน่นอนว่ามัน Fair และน่าจะ Square แต่ก็ติดปัญหาที่ว่าความสวยของคุณนั้นจืดจางลงทุกวัน ในขณะที่เงินของผมไม่ได้ไปไหน ถ้าไม่มีปัญหาอะไร หรือในอีกทางหนึ่ง รายได้ของผมมีแต่จะเพิ่มทุกปี ในขณะที่คุณไม่ได้สวยขึ้นเมื่อข้ามปี ในมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์ คุณคือสินทรัพย์ที่เสื่อมค่า ไม่ได้เสื่อมธรรมดานะ เสื่อมแบบอัตราก้าวหน้า ดังนั้นถ้าความสวยคือสิ่งเดียวที่คุณมี ก็จงคิดต่อว่า 10 ปีข้างหน้าจะทำอย่างไร
นิยามที่เราใช้กันใน Wall Street คือ ทุก ๆ การ Trade มี Position ... การคบกับคุณก็ถือเป็น Position แต่ถ้า Value ของมันลดลง เราจะขายมันทิ้ง ไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะดันทุรังเก็บมันไว้ ซึ่งหมายถึงการแต่งงานที่คุณต้องการ อาจจะใจดำถ้าผมต้องบอกคุณว่า เมื่อ Value ของ Asset ลดลงเรื่อย ๆ ถ้าเราไม่ขายทิ้ง เราจะ " ให้เช่าซื้อ " แน่นอนว่าคนที่มีรายได้เกิน 500,000 ฉลาดพอ พวกเขาแค่คบคุณ แต่จะไม่แต่งงานกับคุณ
ดังนั้นจึงขอแนะำว่า คุณควรที่จะหยุดที่จะหาวิธีที่จะได้แต่งงานกับคนรวย และคุณควรที่จะทำให้ตัวเองเป็นคนที่มีรายได้ 500,000 ซะเอง ซึ่งน่าจะมีโอกาสมากกว่าการหาคนรวย แต่โง่คนนึง
หวังว่าคำตอบนี้จะช่วยคุณได้บ้าง
ถ้าคุณสนใจในบริการ " เช่าซื้อ " กรุณาติดต่อผม
จาก : J.P. Morgan
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
|
Jiab16
|
|
« ตอบ #181 เมื่อ: 21 กุมภาพันธ์ 2551, 11:50:02 » |
|
What's the Weather This Winter ? มนูญ - วิศวะ 16 ... ส่งมา It was already late fall and the Indians on a remote reservation In South Dakota asked their new chief if the coming winter was going to be cold or mild.
Since he was a chief in a modern society he had never been taught the old secrets. When he looked at the sky he couldn't tell what the winter was going to be like.
Nevertheless, to be on the safe side, he told his tribe that the winter was indeed going to be cold and that members of the village should collect firewood to be prepared.
But being a practical leader, after several days he got an idea. He went to the phone booth, called the National Weather Service and asked, " Is the coming winter going to be cold ? " " It looks like this winter is going to be quite cold, " the meteorologist at the Weather Service responded.
So the chief went back to his people and told them to collect even more firewood in order to be prepared. A week later he called the National Weather Service again. " Does it still look like it is going to be a very cold winter ? " " Yes, " the man at National Weather Service again replied, " it's going to be a very cold winter. "
The chief again went back to his people and ordered them to collect every scrap of firewood they could find. Two weeks later the chief called the National Weather Service again. " Are you absolutely sure that the winter is going to be very cold ? " " Absolutely, " the man replied. " It's looking more and more like it is going to be one of the coldest winters we've ever seen. " " How can you be so sure ? " the chief asked. The weatherman replied, " Because the Indians are collecting firewood like crazy. "
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #184 เมื่อ: 27 กุมภาพันธ์ 2551, 00:48:43 » |
|
พี่เจี๊ยบ,ขอเวลาเก็บให้หมดก่อน....๒-๓กระทู้นี้ไม่ได้เข้าอ่าน ตั้งกะก่อนไปเที่ยว...ต้องตั้งใจค่ะ nn. :lol: :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Jiab16
|
|
« ตอบ #185 เมื่อ: 02 มีนาคม 2551, 04:00:11 » |
|
Potentially vs Realistically
พูลศรี Algaier - ครุ 16 ... ส่งมา
A young boy went up to his father and asked him, " Dad, what is the difference between ' potentially ' and ' realistically ' ? "
The father thought for a moment, then answered, " Go ask your mother if she would sleep with Brad Pitt for a million dollars. Then ask your sister if she would sleep with Brad Pitt for a million dollars, and then, ask your brother if he'd sleep with Brad Pitt for a million dollars. Come back and tell me what you learn from that. "
So the boy went to his mother and asked, " Would you sleep with Brad Pitt for a million dollars ? "
The mother replied, " Of course, I would ! We could really use that money to fix up the house and send you kids to a great university ! "
The boy then went to his sister and asked, " Would you sleep with Brad Pitt for a million dollars ? "
The girl replied, " Oh good heavens! I LOVE Brad Pitt and I would sleep with him in a heartbeat. Are you nuts ? "
The boy then went to his brother and asked, " Would you sleep with Brad Pitt for a million dollars ? "
" Of course, " the brother replied. " Do you know how much a million bucks would buy ? "
The boy pondered the answers for awhile and then went back to his dad.
His father asked him, " Did you find out the difference between ' potentially ' and ' realistically ' " ?
The boy replied : " Yes. ' Potentially ' you and I are sitting on three million dollars, but ' realistically', we're living with two hookers and a future congressman. "
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
chaiwit
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 157
|
|
« ตอบ #186 เมื่อ: 02 มีนาคม 2551, 09:28:19 » |
|
เจี๊ยบ ถาม นาตาลี อยู่ไหน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
chaiwit
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 157
|
|
« ตอบ #187 เมื่อ: 02 มีนาคม 2551, 09:29:20 » |
|
ตอบ อยู่ติดกับนายายอาม
(ตลกเมืองจันท์น่ะ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Jiab16
|
|
« ตอบ #188 เมื่อ: 02 มีนาคม 2551, 11:02:13 » |
|
:lol: โอย ! ขำกลิ้ง ... อ๋อยเล่าตลกเมืองจันท์ให้หมออี๊ดฟังจริงๆ ... หรือหมออี๊ดอ้างถึงเมืองจันท์ ไปยังงั้นเอง ? ... ha ha ha ! ... ข้อความถาม-ตอบ แค่ 2 ประโยคสั้นๆ เนี่ย ขำกว่าเรื่องที่เล่ามาตั้งยืดยาว ซะอีก ... แต่ฝรั่งคงไม่เข้าใจว่า " คนไทยมันขำอะไรกัน ( วะ ) "
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Jiab16
|
|
« ตอบ #189 เมื่อ: 02 มีนาคม 2551, 16:01:13 » |
|
นิยามคนสนิท
โดย webmaster Chula-alumni
" เพื่อน " ก็เหมือนน้ำ เฉย ๆ แต่ขาดไม่ได้
" แฟน " เหมือนข้าว บางทีไม่หิว แต่ต้องกิน
" ชู้ " เหมือนเหล้า รู้ว่าไม่ดี แต่ก็ชอบ
" กิ๊ก " เหมือนน้ำหวาน นาน ๆ ทีก็โอ.. มากไปก็เลี่ยน
" แฟนเพื่อน " เหมือนเหล้าเถื่อน ร้อนแรง แต่อันตราย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Jiab16
|
|
« ตอบ #190 เมื่อ: 02 มีนาคม 2551, 16:02:56 » |
|
6 เหตุผลที่บอกว่า computer เป็นเพศหญิง
โดย webmaster Chula-alumni
1. เมื่อไรที่คุณตกลงใจซื้อมาเครื่องหนึ่ง คุณจะพบว่าต้องซื้ออุปกรณ์ต่อพ่วงอีกเพียบ
2. คำว่า " Bad Command or File Name " หมายถึง " ถ้าคุณไม่รู้ว่าทำไมฉันโกรธคุณ ฉันก็จะไม่บอกคุณ "
3. ภาษาที่ใช้ติดต่อระหว่างเครื่องต่อเครื่อง ยากที่จะเข้าใจสำหรับคนอื่นๆ
4. แม้แต่ความผิดพลาดเล็กน้อยของคุณ มันก็จะ memory ไว้ reference ภายหลัง
5. ไม่มีใครเข้าใจตรรกะภายใน นอกจากผู้สร้างมันขึ้นมา
6. เมื่อไรที่คุณมี ไม่นานจะมีรุ่นใหม่ที่น่าสนใจกว่าออกมาให้เห็น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Jiab16
|
|
« ตอบ #191 เมื่อ: 02 มีนาคม 2551, 16:04:44 » |
|
คอมพิวเตอร์ของคุณ มีที่วางแก้วรึป่าว ... ?
โดย webmaster Chula-alumni
บริษัทคอมพิวเตอร์แห่งหนึ่งได้ขายคอมพิวเตอร์รุ่นล่าสุดให้กับลูกค้าคนหนึ่ง หนึ่งวันให้หลัง เขาก็โทร.มาที่ฝ่ายบริการ พร้อมกับโวยวายว่าคอมพิวเตอร์ที่เพิ่งซื้อไป พังเสียแล้ว พนักงานจึงถามว่า
" ขอโทษครับ ที่บอกว่าเสียน่ะ ไม่ทราบว่าเป็นอะไรครับ "
" ก็ที่วางแก้วไง ... มันหักหลุดออกมาเลยแหละคุณ นึกอยู่แล้วเชียว ดูมันก๊อกแก๊กยังไงพิกล " ชายคนนั้นตอบ พนักงานงง
" คอมพิวเตอร์ที่เราขาย ไม่เคยมีที่วางแก้วเลยนะครับ " เขาตอบอย่างสุภาพ
" มีซิ ก็เครื่องที่ผมซื้อ มันมีนี่ แล้วมันก็หักไปแล้วด้วย " ชายคนนั้นเถียง
" ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าคุณซื้อคอมพิวเตอร์รุ่นไหนครับ " พนักงานสอบถาม
" โธ่ ! ก็รุ่นล่าสุดนี่แหละ ก็ผมเพิ่งซื้อเมื่อวานนี้เอง " ชายคนนั้นตอบ
" AMD ATHLON 700 Mhz นี่หรือครับ " พนักงานย้ำเพื่อความแน่ใจ
" เออ ! รุ่นนั้นแหละ " ชายคนนั้นตอบอย่างเริ่มมีอารมณ์นิดๆ
" เอ้ ! ผมว่ารุ่นนี้มันไม่มีที่วางแก้วแน่ๆ ผมคุ้นเคยกับมันดี แต่คุณช่วยบรรยายลักษณะของอุปกรณ์ที่ว่านั่นหน่อยครับ " พนักงานคนนั้นสงสัย
" มันก็ฝังอยู่ในตัวเครื่องนะ พอจะใช้ก็กดปุ่ม แล้วมันก็จะเลื่อนออกมาวางแก้วได้ ... ด้านหน้ามีตัวหนังสือเขียนไว้ว่า 50X หรืออะไรนี่แหละ " ชายคนนั้นอธิบาย ... พนักงานต้องถอนหายใจดัง " เฮ้ ... อ ... อ ! ! "
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Jiab16
|
|
« ตอบ #192 เมื่อ: 02 มีนาคม 2551, 16:06:14 » |
|
หมอครับ แฟนผมปวดท้อง
โดย webmaster Chula-alumni
" หมอครับ แฟนผมปวดท้องอย่างหนัก มีไข้ด้วย ผมว่าไส้ติ่งอักเสบแน่เลยครับ " สมชายบอกหมอทางโทรศัพท์
" เป็นไปไม่ได้หรอก " หมอไม่เห็นด้วย " ผมผ่าไส้ติ่งให้ภรรยาคุณไปเมื่อสองปีที่แล้วไง คนเราจะมีไส้ติ่งสองอันได้ยังไง "
" ผมก็รู้อยู่ครับหมอ ว่าคนเรามีไส้ติ่งได้แค่อันเดียว " สมชายรับ " แต่คุณหมอครับ คนเราไม่จำเป็นต้องมีเมียคนเดียว เสมอไปหรอกนะครับ !!! "
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Jiab16
|
|
« ตอบ #193 เมื่อ: 02 มีนาคม 2551, 16:10:48 » |
|
ประกาศ จากฝ่ายทรัพยากรบุคคล
โดย webmaster Chula-alumni
1. การแต่งกาย
บริษัทขอแนะนำพนักงานทุกท่านว่า ท่านควรแต่งกายให้เหมาะสมกับฐานเงินเดือนของท่าน เพราะถ้าทางบริษัท เห็นว่าท่านใส่รองเท้า Prada ราคา 30,000 บาท และถือกระเป๋า Gucci ราคา 40,000 บาท มาทำงานแล้วล่ะก็ บริษัทขอสันนิษฐานว่า ฐานเงินเดือนของท่านเหมาะสมดีอยู่แล้ว ไม่เห็นควรต้อง ขึ้นเงินเดือนแต่อย่างใด
2. การลาป่วย
บริษัทจะไม่ยอมรับใบรับรองแพทย์ หรือคำวินิจฉัยใด ๆ ที่ระบุว่าท่านป่วย เพราะถ้าท่านสามารถไปพบแพทย์ได้ ท่านก็น่าจะมาทำงานได้
3. การผ่าตัด
ห้ามพนักงานทำการผ่าตัดใด ๆ ทั้งสิ้น ตราบเท่าที่ท่านยังเป็นพนักงานของที่นี่ ท่านจำเป็นต้องมีอวัยวะครบถ้วน ท่านไม่สามารถตัดสินใจยักย้าย ถ่ายเท หรือตัดอวัยวะใด ๆ ทิ้ง เพราะบริษัทว่าจ้างท่านครบทุกส่วน และไม่บุบสลาย การยักย้ายถ่ายเท อวัยวะใด ๆ ถือว่าเป็นการละเมิดต่อสัญญาจ้างงาน
4. การลากิจ
พนักงานมีสิทธิ์ลากิจได้ 104 วันต่อปี ได้แก่ วันเสาร์ และวันอาทิตย์
5. การลาพักร้อน
บริษัทยินดีอนุญาตให้พนักงานลาพักร้อนได้ ในช่วงเดียวกันของทุกปี โดยบริษัทขอประกาศให้วันที่ 31 ธันวาคม และวันที่ 1 มกราคม เป็นวันหยุดพักร้อนประจำปี
6. การลา เพื่อไปร่วมพิธีศพ
การลางานเพื่อไปร่วมพิธีศพ ไม่ถือว่าสมเหตุสมผล เนื่องจากท่านไม่สามารถทำให้เพื่อน ญาติ หรือเพื่อนร่วมงานฟื้นขึ้นมาได้ แต่หากพนักงานจำเป็นต้องไปร่วมพิธีศพ พิธีก็ควรจะจัดในช่วงเย็น หลังเวลาเลิกงาน บริษัทยินดีให้ท่านออกไปก่อนเวลาเลิกงาน 1 ชั่วโมง
7. การลา อันเนื่องมาจากเสียชีวิต
ถือเป็นการลาอย่างสมเหตุสมผล อย่างไรก็ตามพนักงานควรแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อที่บริษัทจะได้จัดหา และฝึกพนักงานใหม่ขึ้นมาแทนได้ทัน
8. เวลาพักกลางวัน
พนักงานที่มีน้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐาน สามารถพักกลางวันได้ 1 ชั่วโมง เพื่อรับประทานอาหารให้มากขึ้น จะได้ดูมีสุขภาพที่ดี สำหรับพนักงานที่มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน สามารถพักได้ 30 นาที เพื่อจะได้รักษาหุ่นให้ดูดีเหมือนเดิม ส่วนพนักงานที่มีน้ำหนักเกินกว่ามาตรฐาน เพียงพอแล้วสำหรับการดื่มเครื่องดื่มธัญพืช และรับประทานยาลดความอ้วน
ทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ท่านอ่านประกาศนี้จบทันที
ฝ่ายทรัพยากรบุคคล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Jiab16
|
|
« ตอบ #194 เมื่อ: 02 มีนาคม 2551, 16:51:57 » |
|
Dark In Here
โดย ธัชพงษ์ - webmaster Chula Alumni
A woman takes a lover home during the day while her husband is at work. Her 9-year old son comes home unexpectedly, sees them and hides in the bedroom closet to watch.
The woman's husband also comes home. She puts her lover in the closet, not realizing that the little boy is in there already.
The little boy says, " Dark in here. " The man says, " Yes, it is. " Boy - " I have a baseball. " Man - " That's nice. " Boy - " Want to buy it ? " Man - " No, thanks. " Boy - " My dad's outside. " Man - " OK, how much ? " Boy - " $250 "
In the next few weeks, it happens again that the boy and the lover are in the closet together.
Boy - " Dark in here. " Man - " Yes, it is. " Boy - " I have a baseball glove. " The lover, remembering the last time, asks the boy, " How much ? " Boy - " $750 " Man - " Sold "
A few days later, the father says to the boy, " Grab your glove, let's go outside and have a game of catch. " The boy says, " I can't, I sold my baseball and my glove. " The father asks, " How much did you sell them for ? " Boy -" $1,000. " The father says, " That's terrible to overcharge your friends like that. That way is more than those two things cost. I'm going to take you to church and make you confess. ! "
They go to the church and the father makes the little boy sit in the confession booth and he closes the door.
The boy says, " Dark in here. " The priest says, " Don't start that shit again you're in my closet now. "
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Jiab16
|
|
« ตอบ #195 เมื่อ: 02 มีนาคม 2551, 17:05:05 » |
|
ชายสามคน
โดย webmaster Chula-alumni
ชายสามคนยืนอยู่หน้าประตูสวรรค์ เทวทูตบอกพวกเขาว่า ที่ว่างในสวรรค์เหลือเพียงอีกหนึ่งที่ ดังนั้นจะพิจารณาให้คนที่ตายอย่างน่าอนาถที่สุดได้เข้ามาอยู่ในสวรรค์
ชายคนแรกเริ่มเล่า
" ผมได้ข่าวลือมาว่า เมียผมมีชู้ ผมก็เลยแอบกลับบ้านไปดูในตอนกลางวัน เมื่อไปถึงบ้าน ผมก็พบเมียผมแก้ผ้านอนอยู่บนเตียง ผมค้นห้องนอนดูจนทั่วจึงพบว่า มีไอ้หนุ่มคนหนึ่งเกาะอยู่ตรงหน้าต่าง ใส่แต่กางเกงขาสั้นตัวเดียว ผมโกรธมาก จึงทุบมือของเขาจนเขาร่วงหล่นลงไป แต่เขาโชคดี เพราะถึงแม้ว่าบ้านผมอยู่บนคอนโดชั้น 25 แต่เขาดันตกลงบนพุ่มไม้ และไม่เป็นอะไร ผมเห็นอย่างนั้นเลยไปยกตู้เย็นมาทุ่มใส่เขา ผมไม่ทันได้เห็นว่าเขาตายรึเปล่าด้วยซ้ำ เพราะโรคหัวใจของผมมันกำเริบขึ้นมาพอดี แล้วผมก็มาอยู่ที่นี่แหละ " " นั่นเป็นการตายที่น่าเศร้ามากนะ " เทวทูตแสดงความเห็นใจ " แต่ลองมาฟังคนอื่นดูบ้าง "
ชายคนที่สองจึงเริ่มเล่า
" ผมกำลังออกกำลังกายอยู่ที่ระเบียงบ้าน โชคร้ายจริงๆ ที่ผมลื่นตกลงมา บ้านผมอยู่บนคอนโดชั้นที่ ๒๖ ถ้าผมหล่นลงไปผมตายแน่ แต่โชคยังดีที่ผมคว้าหน้าต่างห้องข้างใต้ได้ แต่ในขณะที่ผมกำลังจะปีนกลับขึ้นมา ไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้โผล่มา ทุบมือผมจนผมร่วงตกลงไปอีก ผมร่วงตกลงมาบนพุ่มไม้ก็เลยไม่ตาย แต่จุกจนลุกไม่ขึ้น เงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็เห็นตู้เย็นหล่นลงมาใส่ผม ผมก็เลยได้มาอยู่ที่นี่ " "คุณนี่น่าเห็นใจจริงๆ นะ แต่ผมขอฟังพ่อหนุ่มคนสุดท้ายนี่ก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ "
ชายคนสุดท้ายเริ่มเล่าบ้าง
" ผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน วันหนึ่งขณะที่เรากำลังมีความสุขกัน สามีเธอดันกลับมาที่บ้าน ผมก็เลยเข้าไปซ่อนในตู้เย็น ... "
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Jiab16
|
|
« ตอบ #196 เมื่อ: 02 มีนาคม 2551, 17:37:25 » |
|
เปลี่ยนชื่อ
โดย webmaster Chula-alumni
ชายคนหนึ่งมาเปลี่ยนชื่อที่อำเภอ เขาบอกเจ้าหน้าที่ว่าเขาจะเปลี่ยนชื่อ
เจ้าหน้าที่ : คุณจะเปลี่ยนเป็นชื่อว่าอะไร
ชายคนนั้น : ทุเรศ
เจ้าหน้าที่ : คุณด่าผมทำไม
ชายคนนั้น : ผมไม่ได้ด่า ผมจะเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นชื่อ " ทุเรศ "
เจ้าหน้าที่ : ชื่อมีตั้งเยอะแยะ ทำไมไม่เลือก
ชายคนนั้น : แม่ผมชื่อ " ทุเรียน " พ่อผมชื่อ " เยาวเรศ " รวมกันเป็นชื่อผม " ทุเรศ "
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Jiab16
|
|
« ตอบ #198 เมื่อ: 05 มีนาคม 2551, 23:02:48 » |
|
เหตุผลที่ป๋มไม่อยากไปบ้านคนรวย
นายสัตวแพทย์ สากล 16 ... ส่งมา
เพื่อน : นายจะดื่มอะไร น้ำผลไม้ โซดา ชา โกโก้ ช็อคโกแลต หรือกาแฟ ?
ป๋ม : ขอชาแล้วกัน
เพื่อน : เอาชาซีลอน หรือชาสมุนไพร หรือเอาชาผสมน้ำผึ้งดีมั้ย หรือเอาชาเย็น หรือชาเขียว ?
ป๋ม : เอาชาซีลอน
เพื่อน : เอาแบบไหนเหรอ ใส่นม หรือไม่ใส่ ?
ป๋ม : ใส่นมด้วยแล้วกัน
เพื่อน : เอานมแพะ นมอูฐ หรือนมวัว ?
ป๋ม : นมวัวดีกว่า
เพื่อน : เอานมจากวัวฟรีซแลนด์ หรือวัวแอฟริกาเน่ ?
ป๋ม : เอ่อ ... ไม่ต้องใส่นมก็ได้
เพื่อน : อยากได้หวานแบบไหนล่ะ ใส่น้ำตาล หรือว่าน้ำผึ้ง ?
ป๋ม : น้ำตาลดีกว่า
เพื่อน : น้ำตาลบีท หรือน้ำตาลอ้อย ?
ป๋ม : น้ำตาลอ้อย
เพื่อน : เอาแบบขาว หรือแดง หรือว่าเหลือง ?
ป๋ม : ... นายลืมเรื่องชานี่ซะเถอะ ขอน้ำสักแก้วก็พอว่ะ
เพื่อน : จะเอาน้ำแร่ หรือน้ำกลั่น ?
ป๋ม : น้ำแร่
เพื่อน : เอาแต่งรสด้วยมั้ย ? หรือว่าไม่ ?
ป๋ม : หิวน้ำจะตายอยู่แล้วคร้าบบ !!!!!!
เพื่อน : ?……
เพื่อน : แล้วจะใส่แก้วทรงไหนดีล่ะ แก้วใส หรือขุ่น ทรงยุโรป ทรงไทย หรือทรงแขกดี ?
ป๋ม : เอ่อ ... ที่มันใส่น้ำแล้วไม่รั่วก็ได้นะ จะดีมาก ถ้ามีน้ำแข็งด้วย
เพื่อน : อ่า เอาน้ำแข็งแบบไหนดี ทุบละเอียด หรือก้อนกลม ( ยูนิค ) ?
ป๋ม : กลมๆ ละกัน
เพื่อน : เอาแบบใหญ่ๆ หรือเล็กๆ ดีล่ะ ?
ป๋ม : เอาที่ว่าใส่น้ำแล้ว มันเย็นอ่ะ
เพื่อน : จานรองแก้วล่ะ เอาเป็นไม้ หรือสแตนเลสดี ?
ป๋ม : สแตนเลส ละกัน
เพื่อน : ทรงกลมๆ หรือสี่เหลี่ยม
ป๋ม : เดี๋ยวกูไปแดกน้ำที่บ้านกู เดี๋ยวมา !! ....
เพื่อน : !!!!!!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Jiab16
|
|
« ตอบ #199 เมื่อ: 09 มีนาคม 2551, 14:14:52 » |
|
Future of English in Europe
พี่ชรินทร์ 07 ... ส่งมา
The European Commission has just announced an agreement whereby English will be the official language of the European Union rather than German, which was the other possibility. As part of the negotiations, the British Government conceded that English spelling had some room for improvement and has accepted a 5- year phase-in plan that would become known as " Euro-English " .
In the first year, " s " will replace the soft " c ". Sertainly, this will make the sivil servants jump with joy. The hard " c "will be dropped in favour of " k " . This should klear up konfusion, and keyboards kan have one less letter. There will be growing publik enthusiasm in the sekond year when the trouble some " ph " will be replaced with " f " . This will make words like fotograf 20% shorter.
In the 3rd year, publik akseptanse of the new spelling kan be expekted to reach the stage where ! more komplikated changes are possible. Governments will enkourage the removal of double letters which have always ben a deterent to akurate speling. Also, al wil agre that the horibl mes of the silent " e " in the languag is disgrasful and it should go away.
By the 4th yer people wil be reseptiv to steps such as replasing " th " with " z " and " w " with " v ".
During ze fifz yer, ze unesesary " o " kan be dropd from vords kontaining " ou " and after ziz fifz yer, ve v! il hav a reil sensi bl riten styl. Zer vil be no mor trubl or difikultis and evrivun vil find it ezi tu understand ech oza. Ze drem of a united urop vil finali kum tru.
Und efter ze fifz yer, ve vil al be speking German like zey vunted in ze forst plas. If zis mad you smil, pleas pas on to oza pepl
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|