|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #502 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553, 18:58:49 » |
|
พี่เจี๊ยบขา, เค้ากำลังถกกันเรื่องEuro crisis ที่ประเทศยุโรปใต้:กรีส-ปอร์ตุเกส-สเปน กำลังประสบขณะนี้...กู้มาก-เก็บน้อย กำลังจะพากันล้มละลาย...ใครๆก็ว่าประเทศ แข็งแรงไม่ช่วย...พี่ต้องได้ฟังการวิเคราะห์ค่ะ อร่อยเหาะ!!คนที่มาพูดเค้าว่าประชาชนคนเดินถนน ในเยอรมันเก็บกัน ประหยัดกันมาตั้งนมนานก่อน จะเปลี่ยนค่าเงินด้วยซํ้า...พอเป็นยูโร เฮฮาเพราะกู้ดอกตํ่า อยู่กินไม่ระวัง...เฮ้วๆกันจนลืมว่าพื้นฐานที่สำคัญคือการเก็บ ถึงจุดนึงขาดเงินมาหมุนเวียน...มีเหรอผ้าขี้ริ้วเค้าจะอือออ พอนายกเยอรมันออกมาติงก็ไปว่าว่าsheขี้เหนียว....ก็เอ๋า เงินไม่ไช่จะได้มาจากถูกlottoนี้จ้ะ...
Fußbodenheizungอ่าน ฟู้ส-โบเด็น-ไฮซุงค่ะ 3 คำคะพี่..มียาวกว่านี้แยะคะ...ฝึกสมาส-สนธิ กันตลอดคะ
|
|
|
|
|
|
Jiab16
|
|
« ตอบ #505 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2553, 00:34:11 » |
|
มหาเศรษฐีไทยใจบุญ เปิดโรงพยาบาลรักษาตาฟรีพี่ชรินทร์ - รัฐศาสตร์ 07 ... ส่งมา Source : http://www.thaicareer.com/3_403_0.htmlเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2551 รายการเจาะใจ ได้เชิญ บุคคลที่น่าทึ่งท่านหนึ่งมาสัมภาษณ์
เค้าผู้นี้คือ คุณ ธานินทร์ พันธ์ประภากิจ เรื่องย่อ .....
คุณธานินทร์ออกจากเรียนในมหาลัยขณะที่เรียนได้แค่ 9 หน่วยกิจ มาทำธุรกิจติดต่อกับญี่ปุ่นครั้งแรก ตอนนั้นไม่มีสตางค์ซักเท่าไหร่ เมื่อวันที่นักธุรกิจญี่ปุ่นคนแรกที่ดิวด้วยจะต้องกลับประเทศ ก็ดันพลาดเที่ยวบิน เค้าถูกขอตังค์ค่าเครื่องบินใบใหม่ แต่ไม่มีให้ จึงนำรถปิกอัพตนเองไปขาย วันรุ่งขึ้นเค้าจึงนั่งแท๊กซี่ไปรับนักธุรกิจคนเดิมที่โรงแรม เพื่อไปสนามบิน พร้อมตั๋วเครื่องบินใบใหม่ นักธุรกิจญี่ปุ่นถึงกับพูดไม่ออกเมื่อทราบวิธีได้เงินมาซื้อตั๋วให้ แถมเค้ายังให้ตังค์ไปอีก 1 หมื่นบาทติดตัว ตังค์ก็ไม่มี แต่ช่วยคนอื่นแบบโคตรจริงใจ สุดตัว หลังจากนั้นไม่กี่วัน ภรรยาของนักธุรกิจญี่ปุ่นคนเดิม โทร.มาถามบัญชีธนาคาร เค้าได้รับเงินโอนมา 1 ล้านบาท ย้ำว่า 1,000,000 บาท เข้าบัญชี เค้านำเงินไปซื้อรถบรรทุกคันใหม่ แล้วชีวิตการทำธุรกิจจากการช่วยเหลือเพื่อนของนักธุรกิจคนนี้ก็เริ่มขึ้น กำไรครั้งละ 30 ล้านบาท ต่อการขนลงเรือ 1 ครั้ง วันละหลายลำ ทำมาหลายปี จนน่าจะถูกเรียกว่า " รวย " ( ด้วยการซื้อขายรถมอไซค์เก่าจาก ญี่ปุ่น จากการเพื่อนนักธุรกิจญี่ปุ่นคนเดิม เพื่อนำไปขายให้คนจนที่ไม่มีโอกาสขับรถใหม่ ทั้งในไทย ลาว เขมร เวียตนาม ในราคาถูกสุดๆ เพียง คันละ 600 บาท ไปขายต่อในราคาคันละ 16,000 บาท กำไรหลังหักค่าใช้จ่ายเหลือ 11,000 บาท ทั้งหมด 3,000 คันต่อลงเรือ 1 ลำ ขายมาตั้งแต่เรียน ม. ราม ) ปัจจุบันอายุมากแล้ว เลิกทำทุกอย่าง รับค่าเช่าจากธุรกิจเพียงเท่านั้น เมื่อไม่นานมานี้ ต้องการหันหน้ามาทำบุญอย่างจริงจัง ตายไปก็เอาไปด้วยไม่ได้ จึงได้เริ่มจากการบริจาคที่ดินในซอยสุขุมวิท 24 จำนวน 3 ไร่ 130 ตรว. ( มูลค่าที่คนมาขอซื้อคือ 700,000 บาท ต่อ ตรว. ) ได้เงินมา 6,000 ล้านบาท มาก่อตั้ง บริษัททาสของแผ่นดิน จำกัด เพื่อดำเนินกิจการโรงพยาบาลสำหรับคนจน มารักษาผ่าตัดตา และฟอกไต ฟรี ! ! ! ! ! ! ! ! ! ! ใครจะขอซื้อที่แปลงนี้ก็ไม่ขาย จะให้เป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ... อึ้ง ! ! ! ! ! คุณธานินทร์รักในหลวงมาก อยากให้คนจนสุขภาพดี ทุกวันนี้ทำเพราะอยากได้บุญ ( ก็ไม่รู้ว่าถูกต้องรึเปล่านะ ? ) แต่ก็ช่วยคนจนคนป่วยให้หายจากการเจ็บป่วยมามากมายหลายปีแล้ว ลอง search ชื่อเค้าดู น่าทึ่งและน่าเลื่อมใสมาก พิธีกรถามว่า " ถ้ามีตังค์น้อย เราจะช่วยอะไรใครได้บ้าง ? " เค้าบอกว่า " คนจนช่วยเหลือกันได้มากกว่าคนรวย เพราะคนจนลงแรง แต่คนรวยเอาเงินซื้ออำนาจ การช่วยเหลือเลยไปไม่ถึงคนเดือดร้อนตัวจริง ควรจะลงแรงซะก่อน แล้วค่อยลงทุน "
ธานินทร์ พันธ์ประภากิจ ทาสของแผ่นดิน ... ผู้ถวายไม้จันทร์หอม สร้างพระโกศสมเด็จพระพี่นางฯ
เปิดใจครั้งแรกกับธานินทร์ พันธ์ประภากิจ - ผู้ถวายท่อนไม้จันทน์หอม สร้างพระโกศสมเด็จย่า และสมเด็จพระพี่นางฯ พร้อมเจริญรอยตามในหลวง ด้วยการเปิดบริษัท ทาสของแผ่นดิน รักษาต้อกระจกฟรีให้กับคนจน
ความจงรักภักดี แปลว่า " ความยอมสละตนเพื่อประโยชน์แห่งท่าน " คือถึงแม้ว่าตนจะต้องได้รับความเดือดร้อนรำคาญ ตกระกำลำบาก หรือจนถึงต้องสิ้นชีวิตเป็นที่สุด ก็ยอมได้ทั้งสิ้น เพื่อมุ่งประโยชน์อันแท้จริงให้มีแก่ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ .... ความจงรักภักดีแท้จริงนี้เอง คือความรักชาติ ซึ่งคนไทยสมัยใหม่พอใจพูดอยู่จนติดปาก แต่จะมีสักกี่คนที่จะทำได้อย่างแท้จริง …
วันนี้ WhO ? จะพาไปรู้จัก ธานินทร์ พันธ์ประภากิจ ประธานกรรมการบริษัท ทาสของแผ่นดิน จำกัด ผู้ประกาศความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และหวังที่จะเดินตามรอยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยการดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง
เข้าเฝ้าในหลวง คือที่สุดในชีวิต
จะมีสักกี่ครั้งในชีวิตของคนธรรมดาสามัญที่จะมีโอกาสเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างใกล้ชิด แต่สำหรับคุณธานินทร์นั้นไม่เพียงการได้เข้าเฝ้าที่สร้างความประทับใจ แต่พระราชดำรัส " ขอบใจ " ยิ่งทำให้เขามีความสุขจนไม่อาจลืม... สีหน้า และแววตาแห่งความปลื้มปีติปรากฏบนใบหน้าชายวัย 51 ปี ขณะเดียวกันเขาชี้ไปยังจดหมายที่ใส่กรอบอย่างดีซึ่งติดบนผนังห้องทำงานอันมีใจความว่า " ตามหมายแจ้ง ความประสงค์ถวายท่อนไม้จันทน์หอม เพื่อใช้ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สำนักพระราชวังได้นำถวายความกราบบังคมทูล พระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว ทรงขอบใจ หจก.เอ็ม.เอ.ที. อิมปอร์ต-เอ็กซปอร์ต …"
คุณธานินทร์ เล่าถึงที่มาของไม้จันทร์หอมดังกล่าวว่า เกิดจากเมื่อครั้งไปทำธุรกิจในประเทศพม่า จึงได้ซื้อท่อนไม้จันทน์นี้กลับมาเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายในหลวง จนเมื่อสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จสวรรคต เขาจึงน้อมเกล้าฯ ถวายท่อนไม้จันทน์หอมอีกครั้ง พร้อมเป็นผู้อัญเชิญท่อนไม้จันทน์หอมมาสร้างพระโกศถวายสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ดังใจความในจดหมายอีกฉบับที่สร้างความภาคภูมิใจให้เจ้าตัวไม่น้อย
ตามที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้มอบหมายให้ อ.กุยบุรีรับผิดชอบดำเนินการนำไม้จันทน์หอม จากอุทยานแห่งชาติกุยบุรี นำส่งสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร วันจันทร์ 11 ก.พ. 51 เพื่อนำไปสร้างพระโกศในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางฯ
ตามหนังสือที่อ้างถึง บ.ทาสของแผ่นดิน ได้เสนอเรื่องการนำช้าง 12 เชือก เป็นพระราชพาหนะในเคลื่อนพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางฯ ไปเพื่อสำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี พิจารณาคณะกรรมการฝ่ายจัดการ พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ เมื่อวันที่ 20 มี.ค. มีมติเห็นสมควรให้ดำเนินการจัดงานพระราชพิธี โดยอัญเชิญพระศพสมเด็จ พระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ตามแบบโบราณราชประเพณี
" แค่ผมได้หนังสือของพระองค์ท่านที่ทรงขอบใจมา กระดาษ 1 แผ่นนี้ ผมว่ายิ่งกว่าได้ยศฐาบรรดาศักดิ์ เป็นกระดาษที่มีคุณค่ามากกว่าเงินตราเสียอีก ถึงมีเงินเป็นแสน เป็นล้านก็ไม่สามารถมีหนังสือฉบับนี้ได้ แล้วก็เป็นหนังสือที่ประทับอยู่ในหัวใจ ในชีวิตของ ผมจะปิดทองใต้ฐานองค์พระปฏิมา แม้คนอื่นจะมองไม่เห็นก็ตาม เพียงแค่ให้พระองค์ท่าน หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์รู้ก็พอแล้ว " รางวัลชีวิตอันยิ่งใหญ่ของคุณธานินทร์ที่น้อยคนนักจะได้รู้
ธานินทร์ ทาสของแผ่นดิน
แม้เจ้าตัวจะไม่อยากเปิดเผยเรื่องราวแห่งความดีที่เคยทำ แต่นั่นกลับเป็นสิ่งที่หลายคนควรรู้ โดยเฉพาะช่วงชีวิตกว่าจะเป็นธานินทร์ ผู้เป็นเจ้าของบริษัท ทาสของแผ่นดิน และผู้ก่อตั้งศูนย์ผ่าตัดต้อกระจก-ต้อเนื้อ ฟรี แก่ประชาชนในเวลานี้
คุณธานินทร์ เรียนจบจาก ปวช. พาณิชย์วิทยาลัย สีลม จากนั้นได้เข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะรัฐศาสตร์ แต่เรียนได้เพียง 9 หน่วยกิตก็เลิกเรียน เพราะรู้สึกว่าการเรียนก็ได้แค่เรียนรู้เท่านั้น สู้ทำงานเองจะดีกว่า เขาจึงตัดสินใจออกมาทำธุรกิจกับเพื่อน จำหน่ายสินค้าประเภทรถยนต์ มอเตอร์ไซด์ หนังสัตว์ กระดูกสัตว์ เสื้อผ้า และเครื่องใช้ต่างๆ กับต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น อเมริกา ลาว เขมร เวียดนาม สิงคโปร์ และจีน ในนาม หจก.เอ็ม.เอ.ที อิมปอร์ต-เอ็กซปอร์ต
จวบจนกระทั่งได้มาทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา บริษัท เพรสซิเดนท์ ปาร์ค ( President Park ) พร้อมกับเป็นผู้ควบคุมดูแลอาคารทั้งหมด จากนั้นจึงก่อตั้งบริษัท ทาสของแผ่นดิน จำกัด เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว เพื่อจัดตั้งศูนย์ผ่าตัดต้อกระจก-ต้อเนื้อแก่ประชาชน โดยเขาเล่าถึงที่มาของชื่อบริษัทว่า ต้องการให้เห็นอุดมการณ์อันแน่วแน่ที่จะแก้ไขในสิ่งผิด
" ในอดีตชาติ หรือปัจจุบันเราทำผิดมาก็มาก ทำถูกมาก็มาก อยากให้มองว่าระหว่างที่เรามีชีวิตอยู่ไม่ควรมีการแบ่งชนชั้นวรรณะ หรือแบ่งเชื้อชาติศาสนา แต่ให้ยึดมั่นในองค์พระมหากษัตริย์ ประเทศไทยเป็นเมืองที่น่าอยู่ และเป็นแผ่นดินที่ร่มเย็นมาก "
" พ่อแม่ผมอยู่ในประเทศไทย แล้วผมก็เกิดในแผ่นดินนี้ ทุกคนอาจเห็นผมตัวดำ สีผิวผมที่ดำนี้คือ สีดิน แล้วถ้าตัวผมไม่ดำผมจะเป็นทาสของแผ่นดินได้ยังไง เคยมีอุธาหรณ์สอนใจผมว่า ผมน่าจะเกิดเป็นลูกของคุณทักษิณ เพราะผมจะได้เป็นคนรวย มีเงินเยอะๆ ผมจะเดินทางไปหาประชาชน เดินตามรอยพระยุคลบาทของในหลวง พ่อผมจะเป็นอะไรก็เป็นไปไม่เกี่ยวกับผม แต่ผมจะเดินออกไปหาคนจนในถิ่นทุรกันดาร คิดว่าน่าจะเป็นความสุขใจในชีวิต วันนี้ผมจึงกล่าวขนานนามต่างๆ ในชีวิตของผมว่า ขอถวายชีวิตเป็นราชพลีแด่พระองค์วงศ์จักรี ธานินทร์- ทาสของแผ่นดิน "
ศูนย์ผ่าตัดต้อเกิดจากลมหายใจสุดท้าย
ศูนย์ผ่าตัดต้อกระจก-ต้อเนื้อ ฟรี ดังกล่าว เกิดขึ้นจากพลังแห่งศรัทธาในบุญและบาป โดยครั้งหนึ่งคุณธานินทร์เคยถูกลอบยิงเกือบเอาชีวิตไม่รอด สาเหตุเกิดจากสองสามีภรรยาซึ่งเป็นที่รู้จัก และมีชื่อเสียงในแวดวงสังคม เอาภาพถ่ายของตัวเองขณะยืนอยู่หน้าทัชมาฮาลวางติดไว้ด้านบนผนังด้านบน และเอารูปเจ้าแม่อุมาเทวี วัดแขกไว้ด้านล่าง เมื่อคุณธานินทร์เห็นเข้า จึงรู้สึกเป็นสิ่งที่ไม่สมควร พร้อมกับเขียนเรื่องนี้ลงในหนังสือของตัวเองเพื่อบอกให้ประชาชนได้รับรู้
ประเด็นนี้เองอาจสร้างความโกรธแค้น และกลายเป็นชนวนลอบสังหาร โดยเขาถูกมือปืนยิงบริเวณหน้าบ้านย่านสีลม ลูกปืนเข้าที่ศรีษะ ทำให้ต้องรักษาตัวอยู่ที่ ร.พ.กรุงเทพคริสเตียน ในห้องไอซียู นานถึง 45 วัน และต้องทำการผ่าตัดถึง 6 ครั้ง " เป็นช่วงเวลาที่ได้เห็นคนเสียชีวิตมากมายมหาศาล สัจธรรมเกิดขึ้นมาทันทีว่า ภาพที่เห็นคนตาย คิดในทางบวก ก็ถือเป็นความสุข เพราะไม่ได้นอนกับคนที่รักเราอย่างเดียว แต่ได้นอนกับคนที่ต้องตายทุกวัน คิดว่าน้อยคนนักที่จะได้มานอนกับคนตายแบบนี้ ระหว่างที่อยู่ไอซียูยังได้ยินเสียงทุกคนพูดถึงผมตรงกันว่า " คงอยู่ไม่เกินครึ่งชั่วโมง " แต่ครึ่งชั่วโมงนั้น ทำให้รอดตายมาได้ นับว่าโชคดี และเป็นบุญอย่างหนึ่ง ถามว่าสะทกสะท้านกับความตายไหม บอกได้เลยว่าไม่มี เลยได้คารมเด็ดๆ ในชีวิตว่า " ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายเวลาถ้าสิ้นไป เพราะว่าไม่มีอะไรจะเสียแล้ว "
เหตุนี้ ชีวิตที่เหลืออยู่ เขาจึงขอแทนคุณแผ่นดินด้วยการตั้งศูนย์ผ่าตัดต้อกระจกขึ้น เพื่อรักษาผู้ยากไร้ " วันนั้นคิดว่าถ้าผมกลับมาได้ จะตอบแทนบุญคุณให้กับแผ่นดินที่เราอาศัยอยู่ได้ยังไง ถ้าไปกิน-นอนอยู่กับใครสักคนโดยไม่ทำอะไรให้ แต่อยู่อย่างสุขสบายไม่ช่วยเหลือ และเกื้อกูล ไม่ทำอะไรให้เลย เขาจะเรียกว่าเนรคุณไหม และถ้าผมอยู่ในแผ่นดินนี้ ไม่ช่วยเหลือแล้ว ยังกอบโกยโกงกินผืนแผ่นดิน เขาจะเรียกผมว่าทรราชของแผ่นดินหรือเปล่า " ชีวิตเฉียด ตายทำให้เข้าใจในความเป็นมนุษย์ และบุญคุณที่ต้องทดแทนแผ่นดิน
เมื่อแนวคิดในการเปิดศูนย์ผ่าตัดต้อกระจกทำท่าว่าจะเป็นจริง คุณธานินทร์จึงปรึกษากับ นพ.วิทิต อรรณเวชกุล ผอ.โรงพยาบาลบ้านแพ้วในขณะนั้นทันที แม้คุณหมอจะถามย้ำถึงความเชื่อมั่นว่าทำแน่หรือ เพราะต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล แต่เขากลับมั่นใจว่าต้องทำได้
" เมื่อปรึกษาหารือกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงสั่งซื้ออุปกรณ์การผ่าตัดดวงตาจากต่างประเทศ และสั่งซื้อรถห้องผ่าตัดเคลื่อนที่หลายสิบล้านบาท โดยเงินทั้งหมดในการซื้อ อุปกรณ์เป็นเงินส่วนตัวของผมที่ได้เก็บสะสมตลอดทั้งชีวิต ผมต้องการช่วยเหลือชาวบ้านผู้ยาก ไร้คนไทยในแผ่นดินด้วยกัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "
จากนั้นเขาได้จัดทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลบ้านแพ้วลงพื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยครั้งนั้นมีผู้ป่วยถึง 200 ราย หลังจากที่ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดต้อกระจก และสามารถมองเห็นอีกครั้ง ทุกคนต่างร้องไห้ดีใจ วิ่งเข้ามากอดเขาด้วยความซาบซึ้ง
ตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ศูนย์แห่งนี้สามารถทำให้ผู้ที่เป็นต้อกระจกมองเห็นได้ประมาณ 600,000 ราย และในปี 2549 พบผู้ป่วยตกค้างสะสมกว่า 100,000 ราย ณ วันนี้หากถามว่าเหนื่อยไหม คุณธานินทร์ตอบกลับทันทีว่า " ไม่เหนื่อยเลย " เพราะแม้กำลังกายจะสู้คนอื่นไม่ได้ หรือกำลังเงินอาจสู้ประชาชนคนรวยไม่พอ แต่เขาเชื่อว่ากำลังใจของเขาใหญ่กว่าคนรวยในแผ่นดินไทย มากมายมหาศาล
" ผมมาช่วยเหลือชาวบ้าน เพราะผมแบกความจนเอาไว้ การแบกความจนจะทำให้รู้ว่า เกิดเป็นคนอย่าลืมตัว เกิดเป็นวัวอย่าลืมตีน ดังนั้นถ้าเราแบกความจนเอาไว้จะไม่ลืมความจนเลย วันนี้เราแบกความจนเอาไว้ก็จะพาประชาชนพ้นทุกข์ได้ และหากเราแบกความรวยเอาไว้เมื่อไร เราจะกลายเป็นคนลืมตัว ถ้าตายไปแล้วขึ้นสวรรค์ ขณะเดียวกันก็ยังมีคนยากจนอยู่ในแผ่นนี้ ขอกลับลงมาเกิดในแผ่นนี้ดีกว่า ผมไม่ได้คิดที่จะเปิดศูนย์นี้เท่านั้น แต่มีความตั้งใจจะสร้าง ร.ร.อนุบาลเรารักในหลวง เพื่อต้องการปลูกรากแก้วให้กับเด็กๆ " เขาเล่าถึงสิ่งที่ได้ช่วยเหลือชาวบ้านให้หมดทุกข์ด้วยแววตาที่มุ่งมั่นเช่นเดิม
ชีวิตที่เหลืออยู่ของธานินทร์ พันธ์ประภากิต เขาขอเดินรอยตามพระยุคลบาทองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจนกว่าชีวิตจะหาไม่ เพราะสิ่งที่ผู้ชายคนนี้แบกไว้ ไม่ใช่ความรวย ไม่ใช่ความดี แต่คือ " ความจน " ที่เขาจะแบกไปตลอดชีวิต ... ผู้ที่ประสงค์ผ่าต้อกระจกฟรี ! ติดต่อไปยังโรงพยาบาลบ้านแพ้ว และนายชูศักดิ์ แก้วสุริยอร่าม บริษัท ทาสของแผ่นดิน จำกัด อาคารพระมหากรุณาธิคุณ เลขที่ 98 ซอยสุขุมวิท 24 ถ.สุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. 10110 สอบถามรายระเอียดได้ที่ โทร. 02-262-9454-5, 02-261-8213-7 เวลาทำการ วันจันทร์-วันศุกร์ 08.00-17.00 น. ( ติดตามเรื่องราวดี ๆ ใน WhO ? Magazine ฮู แมกกาซีน ได้ทุกวันอังคารของเดือนครับ )
++ รักษาตาฟรี ! ! ผ่าตัดต้อกระจก , ต้อเนื้อ นำมาบอกต่อ ++
รักษาตา ฟรี ! ถวายในหลวง
( บอกต่อ ๆ กันไป เผื่อจะได้ช่วยคนที่เค้าเดือดร้อนค่ะ )
โครงการคืนแสงสว่างให้ผู้ป่วยต้อกระจก และต้อเนื้อ
ขอเรียนเชิญผู้ป่วยทุกท่านมารับบริการผ่าตัดต้อกระจก และต้อเนื้อ ฟรี โดยมิต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
โดยมีแพทย์ของโรงพยาบาลบ้านแพ้ว ( องค์การมหาชน ) จะคอยดูแลให้อย่างดี
|
|
|
|
|
Jiab16
|
|
« ตอบ #507 เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2553, 20:57:40 » |
|
ไหนๆ หมอสำเริงก็เล่าเรื่อง " ปลา " ให้ฟังแล้ว พี่ขอเลาเรื่องปลาๆ ต่ออีก 2 เรื่อง ให้ครบ " สามใบเถา " เลยละกัน ! Pink DOLPHIN .... awesome !พี่ชรินทร์ - รัฐศาสตร์ 07 ... ส่งมาThink pink ... you're not seeing the world through rose-colored glasses : This albino dolphin is pink.
Unique ... the bottlenose - first spotted in Lake Calcasieu, an inland saltwater estuary in Louisiana, by boat captain Erik Rue, 42, in 2007 - has surfaced again.
Attraction ... tourists are flocking to the lake in hopes of seeing the rare mammal.
Rare sight ... " Pinky " is believed to be the only pink dolphin in the world, and has " reddish " eyes. It is usually spotted with its dark grey mother.
One of a kind ... there are only 14 other known albino dolphins in the world, all of them white.
Healthy glow ... " The dolphin appears to be healthy and normal other than its coloration, which is quite beautiful and stunningly pink," said Mr Rue, who estimates he has spotted Pinky more than 40 times.
|
|
|
|
|
Jiab16
|
|
« ตอบ #509 เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2553, 00:16:06 » |
|
คาเวียร์จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B9%8C คาเวียร์สีดำบรรจุในกระป๋องคาเวียร์ หรือบางทีเรียก ไข่ปลาคาเวียร์ ( caviar ) เป็นไข่ปลาที่ผ่านการปรุงรส โดยได้มาจากปลาหลากหลายประเภท โดยส่วนมากนิยมนำมาจากไข่ปลาสเตอร์เจียน คาเวียร์ได้มีการโฆษณา และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก คำว่า คาเวียร์ มาจากภาษาเปอร์เซีย ว่า خاگآور ( Khag-avar ) ซึ่งมีความหมายว่า " ไข่ปลาที่ปรุงรส " โดยในแถบเปอร์เซียจะใช้ปลาสเตอร์เจียน
ในปัจจุบัน คาเวียร์ที่มีชื่อเสียงจะมาจากฝั่งทะเลแคสเปียน ในแถบอาเซอร์ไบจัน อิหร่าน และ รัสเซีย คาเวียร์มีหลายประเภท และหลายสี โดยคาเวียร์สีทอง ที่มาจากปลาสเตอร์เลต ( sterlet, ชื่อวิทยาศาสตร์ : Acipenser ruthenus ) เป็นคาเวียร์ที่หายาก นิยมรับประทานกันในหมู่กษัตริย์ โดยในปัจจุบันคาเวียร์ชนิดนี้แทบจะหาไม่ได้ เนื่องจากมีการล่ามากจนเกินไป และทำให้เกิดการสูญพันธุ์
คาเวียร์ - ไข่ที่แพงที่สุดในโลก ( Most expensive caviar )
จาก : http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:qzu8v4EPBnIJ:wowboom.blogspot.com/2009/04/most-expensive-caviar-eggs.html+%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B9%8C&cd=1&hl=th&ct=clnk&gl=th
คงไม่มีไข่ของสัตว์อะไรที่นำมาทำอาหาร แพงไปกว่าคาเวียร์ ยี่ห้อ " Almas " แปลว่า เพชร ที่ผลิตจากปลา Beluga Sturgeon ที่จับได้จากทะเลแคสเปียน ( Caspian Sea ) จากประเทศอิหร่าน ( Iran )
Almas เป็นไข่ปลาคาเวียร์สีเหลืองสุกสว่าง จำนวนน้อยที่จะพบปนในไข่ปลาคาเวียร์สีดำ ที่ผลิตจากประเทศอิหร่าน มีวางจำหน่ายเพียงในร้าน Caviar House & Prunier ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดย Almas จะบรรจุในตลับทองคำ 24 กะรัต ขายตลับละ 768,000 บาท ( หรือ 24,000 USD ) โดยทั่วไปแล้วไข่ปลาคาเวียร์บีลูก้า ( Beluga caviar ) จะมีขนาดเล็กเท่าเม็ดถั่ว ( pea-sized ) และมีสีเทา สีอ่อนหายาก สียิ่งอ่อนจึงยิ่งมีราคาแพง ไข่ปลาคาเวียร์ของ Almas จะเป็นสีเหลืองสุกสว่าง ( lighter color ) จึงมีราคาแพงมาก
และ http://most-expensive.net/caviar-world
Most Expensive Caviar in the World
( Written by : tom Filed Under : Food, Luxury, World on January 2nd, 2007 by, Hunter Davis )
The word ‘Almas’ means diamond, a fitting name for the world’s most expensive caviar. This Beluga caviar is white in appearance. The most expensive caviar comes from the Beluga Sturgeon, native to the Caspian Sea. Generally, the lighter the color of Beluga caviar the older the fish is. The word caviar comes from the Persian word “Khag-avar,” meaning “the roe-generator.” In Medieval Russia, caviar was a peasant food, but by the time Shakespeare wrote the famous, “twas caviary to the general,” caviar had gained its association with connoisseurship and luxury. An important fact about caviar is that the older the fish, the more elegant and exquisite is the flavor.
Almas caviar comes from Iran making it extremely rare and extremely expensive. The only known outlet is the Caviar House & Prunier in London England’s Picadilly that sells a kilo of the expensive Almas caviar in a 24-karat gold tin for £16,000, or about $25,000. Coincidentally, it is also where you can find the most expensive meal in Britain. The Caviar House also sells a £800 tin for those on a smaller budget.
Beluga caviar is composed of pea-sized, gray eggs. In general, the lighter the color, the more expensive it is. The grades are: 0 (darkest color), 00 (medium toned), and 000 (lightest color). The 000 grade is the most expensive and is sometimes referred to as “royal caviar”. In terms of texture, royal caviar is often described as rich and silky.
All caviar has an extremely short shelf life, so if you’re able to afford it, make sure you eat it all ! เกร็ดความรู้เรื่องคาเวียร์
1. คาเวียร์หมดอายุเร็ว ถึงแม้คุณจะมีปัญญาซื้อ ก็ควรแน่ใจว่าจะต้องกินให้ทันก่อนหมดอายุ
2. คาเวียร์แบ่งได้เป็น 3 เกรด เกรด O ( สีเข้ม darkest color ) เกรด OO ( สีเข้มปานกลาง medium toned ) และเกรด OOO ( สีอ่อนที่สุด lightest color ) ซึ่งแพงที่สุด จัดเป็น royal caviar
3. คาเวียร์ ไม่ได้ผลิตจากปลาคาเวียร์ แต่คำว่าคาเวียร์เป็นชื่อเรีัยกรวม หมายถึงไข่ปลาแซลมอน และไข่ปลาสเตอร์เจียน ที่ผ่านการแช่ในน้ำเกลือ
ปลาแซลมอน ( Salmon ) ให้คาเวียร์สีแดง ... ปลาสเตอร์เจียน ( Sturgeon ) ให้คาเวียร์สีดำ
ปลาบีลูก้า สเตอร์เจียน ที่ให้คาเวียร์สีดำ และสีเหลืองเกรด OOO
ปลาแซลมอน ที่ให้คาเวียร์สีแดง
|
|
|
|
Jiab16
|
|
« ตอบ #510 เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2553, 00:52:18 » |
|
|
|
|
|
Jiab16
|
|
« ตอบ #511 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2553, 12:38:04 » |
|
ข่าวดี ! ลดหย่อนภาษีได้ หากซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานมนูญ - วิศวะ 16 ... ส่งมาหน้า ๗๕
เล่ม ๑๒๖ ตอนพิเศษ ๑๑๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๒
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
เกี่ยวกับภาษีเงินได้ ( ฉบับที่ ๑๘๐ )
เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับเงินได้ที่ได้ จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการได้มาซึ่งทรัพย์สินประเภทวัสดุ อุปกรณ์ หรือเครื่องจักร ที่มีผลต่อการประหยัดพลังงาน
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓ แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๔๘๗) พ.ศ. ๒๕๕๒ อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับเงินได้ที่ได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการได้มา ซึ่งทรัพย์สินประเภทวัสดุ อุปกรณ์ หรือเครื่องจักรที่มีผลต่อการประหยัดพลังงาน ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ต้องซื้อทรัพย์สินประเภทอุปกรณ์ที่มีผลต่อการประหยัดพลังงาน ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ที่กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานกำหนด ซึ่งกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานได้รับรองว่า เป็นวัสดุ อุปกรณ์ หรือเครื่องจักร ที่มีผลต่อการประหยัดพลังงาน โดยเป็นค่าใช้จ่ายที่ได้จ่ายไปจริงตั้งแต่วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และต้องมีใบเสร็จรับเงินเป็นหลักฐานในการซื้อ ทรัพย์สินดังกล่าว ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ตามวรรคหนึ่ง ต้องจัดทำรายงานแสดงรายละเอียดการซื้อวัสดุ อุปกรณ์ หรือเครื่องจักรที่มีผลต่อการประหยัดพลังงาน โดยต้องมีรายการและข้อความอย่างน้อย ตามแบบที่แนบท้ายประกาศนี้ และเก็บรักษารายงานดังกล่าวรวมทั้งเอกสารประกอบกับการลงรายการ ในรายงานไว้ ณ สถานประกอบการ พร้อมที่จะให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบได้
ข้อ ๒ ในกรณีผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา ที่จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ ต้องเป็นผู้มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๕) (๖) (๗) หรือ (๘) แห่งประมวลรัษฎากรซึ่งต้องเสีย ภาษีเงินได้ตามมาตรา ๔๘ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร โดยยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคล ธรรมดาคำนวณหักค่าใช้จ่ายตามความจำเป็นและสมควร
หน้า ๗๖
เล่ม ๑๒๖ ตอนพิเศษ ๑๑๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๒
การได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา นำเงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีไปคำนวณหักจากเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อได้หักตามมาตรา ๔๒ ทวิ ถึงมาตรา ๔๖ แห่งประมวลรัษฎากร แล้ว
ข้อ ๓ ในกรณีผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา บริษัทจำกัด บริษัทมหาชน จำกัด หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ไปแล้ว แต่ปฏิบัติไม่เป็นไปตาม หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วย การยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๔๘๗) พ.ศ. ๒๕๕๒ และตามข้อ ๑ และข้อ ๒ ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ ดังกล่าว ไม่มีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ และต้องนำเงินได้ที่ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ไปแล้ว ไปรวม เป็นเงินได้ในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือไปรวมเป็นรายได้ในการคำนวณกำไรสุทธิ เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล และกรณีที่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นั้น ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ เพิ่มเติมของปีภาษีหรือรอบระยะเวลาบัญชีที่ได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นั้น ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ ต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มตามมาตรา ๒๗ แห่งประมวลรัษฎากร
ประกาศ ณ วันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒
วินัย วิทวัสการเวช อธิบดีกรมสรรพากร
|
|
|
|
Jiab16
|
|
« ตอบ #512 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2553, 12:36:08 » |
|
" สัตว์เลี้ยงแสนรัก " บ่งบอกนิสัยจาก : http://www.jobbkk.com/th/relax/webboard/viewtopic.php?id=14380 แมว: ถ้ารักแมวเป็นชีวิตจิตใจ ลักษณะนิสัยจะเป็นคนทีรักอิสระเสรี รักตัวเอง ตามใจตัวเองเป็นที่หนึ่ง เป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง มักจะไม่ชอบอยู่ใต้การบงการของใคร บางครั้งดูเป็นคนหยิ่งจนน่าหมั่นไส้ เป็นคนช่างเอาอกเอาใจ ขี้อ้อน ( เมื่อ อารมณ์ดีหรือเมื่อต้องการสิ่งใด ) เป็น คนทำงานมีระเบียบเรียบร้อย พิถีพิถัน มีรสนิยมดี เครื่องประดับหรือของใช้มักจะต้องมีแบรนด์เนม หรือถ้าไม่ใช่ก็ต้องมีคุณภาพดีไว้ก่อน บางครั้งคนที่ไม่สนิทอาจมองว่าเป็นคนไม่ค่อยจริงใจ เนื่องมาจากความรักอิสระและความเป็นตัวของตัวเอง
สุนัข : ไม่ว่าจะเป็นสุนัขที่บ้าน หรือที่ไหนก็ขอเข้าไปลูบหัว ลูบหางเล่นกับมันสักหน่อย ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็จะบ่งบอกถึงความรักที่จริงใจ รักเพื่อนพ้อง มีน้ำใจโอบอ้อมอารี เต็มใจช่วยผู้ที่เดือดร้อน เป็นคนรักความเป็นธรรมดั่งท่านเปา ซื่อสัตย์สุจริต เป็นคนไม่ย่อท้อ หรืออ่อนแอต่ออุปสรรคต่างๆ ง่ายๆ กล้าเผชิญกับปัญหาต่างๆ ข้อเสีย คือ อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย เพราะความไม่รู้จักยืดหยุ่นนั่นเอง
ปลา : ใครที่ชอบเลี้ยงสัตว์ชนิดนี้ บ่งบอกว่าเป็นคนโรแมนติก ช่างฝัน เป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์ สืบเนื่องมาจากการชอบนำความคิดของตัวเองมาจัดตู้ปลาอยู่บ่อยๆ เป็นคนสุภาพเรียบร้อย อาจถึงขั้นขี้อาย โกรธง่ายแต่หายเร็ว เป็นคนไม่ทะเยอทะยานมากนัก มักมองโลกในแง่ดี แต่เห็นน่ารักๆ อย่างนี้เถอะ เวลาจะร้ายก็ร้ายนัก ช่างประชดประชันก็ต้องยกให้ที่หนึ่ง ก้าวร้าวขึ้นมาทันทีเมื่อโมโห
หนู : บ่งบอกได้ถึงความฉลาดเฉลียว ปรับตัวง่าย มีมนุษย์สัมพันธ์เยี่ยม ไหวพริบเป็นเลิศ มักเป็นคนพูดน้อย ขยัน รักความก้าวหน้า มีความกระตือรือร้นในสิ่งที่ตนกำลังกระทำเป็นอย่างดี เป็นคนขี้ระแวง ไม่มองโลกด้านเดียว รักอิสระ ประหยัดอดออม ชอบดูแลงานบ้านงานเรือน ตกแต่งบ้านให้น่าอยู่เสมอ และมักจะเป็นนักจอมวางแผน ไม่ว่าการใดมักจะวางแผนล่วงหน้าเสมอ
นก : สำหรับคนรักนก เป็นคนรักอิสระเหนือสิ่งอื่นใด ทำอะไรตามใจตัวเอง ไม่ชอบการผูกมัดหรือการอยู่กับที่ หรือทำอะไรแบบเดิมนานๆ เป็นคนคล่องแคล่วว่องไว มีความกระตือรือร้น เป็นคนรักสวยรักงาม ข้อเสียของ คือ ขี้หงุดหงิด จู้จี้ ขี้บ่น เบื่อง่าย ไม่เก็บอารมณ์
กระต่าย : เป็นคนประเภทคมในฝัก ข้างนอกขรุขระข้างในสุกใส ประมาณนั้น เป็นคนมีปฏิภาณไหวพริบดีเยี่ยม พลิกแพลงสถานการณ์เก่ง จึงสามารถเอาตัวรอดได้ดี เป็นคนสุภาพ อ่อนโยน รักสวยรักงาม รักความสะดวกสบาย คล่องแคล่วว่องไว เป็นคนมีจิตใจมั่นคง โรแมนติก
|
|
|
|
|
|
|
suriya2513
|
|
« ตอบ #516 เมื่อ: 30 พฤษภาคม 2553, 17:58:04 » |
|
เหลืองคน แดงคน ทันสมัยซะไม่มีอ๊ะ
|
[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี คลิ๊ก->
|
|
|
KUSON
|
|
« ตอบ #517 เมื่อ: 31 พฤษภาคม 2553, 14:57:33 » |
|
ช่าย....และอีตอนจบ ก็ต้องมารับดอกไม้จากสีชมพู ( คิ๊กๆ ๆ ๆ )
|
|
|
|
|
Kittiwit Pk
Full Member
ออฟไลน์
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 281
|
|
« ตอบ #519 เมื่อ: 31 พฤษภาคม 2553, 21:12:49 » |
|
Happy Turritopsis Nutricula...
|
|
|
|
Jiab16
|
|
« ตอบ #520 เมื่อ: 03 มิถุนายน 2553, 03:15:58 » |
|
ปอกมังคุดอย่างง่ายๆมนูญ - วิศวะ 16 ... ส่งมา
|
|
|
|
|
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์
รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842
|
|
« ตอบ #522 เมื่อ: 03 มิถุนายน 2553, 13:02:49 » |
|
ทางออกสังคมไทยหลังวิกฤติ 19 พฤษภาคม 53
เสวนาทางวิชาการ ประจำปี 2553 เนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปี ของการสถาปนาสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทางออกสังคมไทยหลังวิกฤติ 19 พฤษภาคม 53
จัดโดย
กลุ่มจับกระแสเอเชีย สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วันพุธที่ 9 มิถุนายน 2553 เวลา 13.00-16.00 น.
ณ ห้องประชุมจุมภฏ-พันธุ์ทิพย์ ตึกประชาธิปก-รำไพพรรณี ชั้น 4 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองอย่างรุนแรง เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 และในอีก หลายๆ ครั้งตลอดช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้สังคมไทยต้องเผชิญกับความขัดแย้ง และความแตกแยกของคนในสังคมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อย่างไรก็ตามสังคมไทยยังมีจุดแข็งในหลายเรื่อง อาทิ ความเป็นคนไทยที่มีจิตใจเอื้อเฟื้อ และรักสงบ ความเจริญทางด้านสังคม และเศรษฐกิจ ซึ่งยังมีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรอยู่มากเมื่อเปรียบเทียบกับนานาประเทศ ดังนั้น ความหวังของสังคมไทยที่จะก้าวพ้นวิกฤตสังคมในครั้งนี้ จึงอยู่ที่การหันหน้ามาทำความเข้าใจ และร่วมกันทั้งคนในเมืองและ ชนบท กลุ่มจับกระแสเอเชีย สถาบันเอเชียศึกษา จึงได้จัดการเสวนาทางวิชาการครั้งนี้ เพื่อเป็นอีกเวทีหนึ่งที่จะหาทางออกร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม ของหลายภาคส่วนจากวิกฤตที่เกิดขึ้น
คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
ที่มา http://www.chula.ac.th/cuth/cic/oldnews/CU_P007411.html
|
เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #523 เมื่อ: 08 มิถุนายน 2553, 05:05:59 » |
|
ฮั่นแน่! ใครจิ๊กปลาทูออกมาจากครัว27,ฮึ? จำกะทะได้นะ... เดี๋ยวจะทอดให้เกรียมทั้งปลาทู ทั้งคนจิ๊ก
ลงชื่อ น้องแมงกระพรุน(ไฟ)Turritopsis nutricula
|
|
|
|
|
|