การทำจิตให้เป็นกุศล ทำให้ระบบร่างกายทำงานดี
หากร่างกายเป็นกรด ร่างกายจะเจ็บป่วยได้ง่าย
หากร่างกายเป็นด่าง ร่างกายจะรักษาซ่อมแซมตัวเองได้ครับ
โดยปกติร่างกายจะเป็นกรดเฉพาะตับและไต นอกนั้นเป็นด่าง
สุขภาพที่ดีต้องทำให้ร่างกายเป็นด่างในประมาณ 80 เปอร์
อาหารที่ทำให้เป็นด่างได้แก่ ผักผลไม้สด สมุนไพร ยกเว้นผักกลิ่นฉุน
อาหารที่ทำให้เป็นกรดได้แก่เนื้อสัตว์ ไขมัน อาหารหมักดองทุกชนิด น้ำปลา ซีอิ้ว ฯลฯ
กาแฟ น้ำอัดลม ขนมอบกรอบ เนย นม ครีม อาหารปรุงสุกเกิน 3 ชั่วโมง อาหารสำเร็จรูป
แม้แต่โปรตีนเกษตรก็จัดอยู่ในอาหารเป็นกรด
กรดคือพิษ หากร่างกายมีแต่พิษ ร่างกายก็ไม่แข็งแรง
พยายามหลีกเลี่ยงและกินให้น้อย
ร่างกายจะแข็งแรงได้ ต้องขจัดของเสียให้หมดก่อน แล้วคงสภาพให้เป็นด่างในร่างกายได้ 80 เปอร์ขึ้น
การอดอาหารล้างพิษ การดีท๊อกซ์จึงจำเป็นมาก การปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิต
เลือกอาหาร และทำอารมณ์ เพื่อให้ร่างกายเป็นด่างให้มากที่สุดครับ
จริงๆ ยังมีรายละเอียดอีกมาก เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่คงเป็นทางโภชนาการแล้วหละ
แล้วสมาธิเกี่ยวยังไง
สมาธิ และจิตใจดี มีน้ำใจ มีความสุข ทำให้ร่างกายเป็นด่างครับ
ส่วนคนเห็นแก่ตัว คนเครียด ร่างกายเป็นกรด
นั่นจึงตอบปัญหาได้ว่า สมาธิรักษาบรรเทาโรคได้อย่างไร
อันนี้เอาแค่หยาบๆ นะครับ
มันมีลึกๆ กว่านี้ เมื่อสติสมบูรณ์ เมื่อละความยึดมั่นได้ เมื่อจิตเกิดปัญญา
สภาวะจิตที่สูงขึ้น จะทำให้ไม่ยึด พอไม่ยึดก็ไม่ทุกข์ พอไม่ทุกข์ไม่ยึด โรคหลายโรคมันก็หายได้
ปัจจุบันจากงานทดลองเรื่องโมเลกุลน้ำ ทำให้ทราบว่า
พลังงานกุศลแผ่ออกสะสมในสิ่งรอบตัวได้ และมีผลต่อสิ่งต่างๆ
โดยเฉพาะน้ำ ที่ทำให้เป็นผลึกหกเหลี่ยม
จากงานทดลองของ คุณสุกัญญา คมสัน พยาบาลจาก รพ.จุฬา
พบว่า น้ำที่นำไปผ่านพิธีสวดพุทธมนต์ โดยพระอาจารย์ที่ปฏิบัติดี มีกำลังสมาธิสูง
สามารถเปลี่ยนน้ำให้มีคุณสมบัติรักษาโรคได้จริง
ที่แน่ๆ คือ เปลี่ยนเป็นหกเหลี่ยมและมีพลังงานบางอย่าง
ซึ่งคุณสมบัติของน้ำหกเหลี่ยม คือดูดซึมนำพาสารอาหารเข้าเซลล์ได้ง่ายและไว
ขับถ่าย ขับพิษได้ดี มีอ๊อกซิเจนสูง และมีฤทธิ์เป็นด่าง
และยังมีคุณสมบัติอีกมากมาย
ที่ทำให้งานทดลองระบุว่า ทำให้เปอร์เซ็นต์ผุ้ป่วยหายไวขึ้นอย่างมาก
เทียบทั้งเดือน ลดค่าใช้จ่ายไปถึงครึ่งหนึ่ง
และพอจะสรุปได้ว่า น้ำหกเหลี่ยมเราก็สร้างได้ ให้น้ำในร่างกายเราเป็นหกเหลี่ยม
การทำบุญ จิตใจผ่องใส สวดมนต์ ทำสมาธิ ล้วนทำให้น้ำในร่างกายเป็นหกเหลี่ยม
เรียงตัวเป็นระเบียบ โมเลกุลเล็ก ส่งผลดีต่อร่างกาย
นั่นจึงทำให้สมาธิ รักษาโรคได้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับคนทำว่า ทำแบบบังคับกาย บังคับจิต
หรือว่าทำแบบถูกวิธี ทำแบบมีความสุข และเกิดปัญญา จนจิตผ่องใส ลดความยึดมั่นได้มากน้อยแค่ไหน
พอดีบรรยายเรื่องนี้อยู่อะคับ
แล้วก็มีแนวทางการทำสมาธิ การทำจิตให้ผ่องใส แบบง่ายๆ
ที่ไปบรรยายมาหลายที่แล้ว เขาก็ว่าเวริ์คกัน สำหรับคนธรรมดาทั่วไปนะครับ
คงไม่เหมาะกับพวกคงแก่เรียน หรือพวกเก่งๆแล้ว
ไม่เชื่อก็พิสูจน์ได้ครับ คาดว่าเร็วๆ นี้
หากมีบุญ คงได้ไปรับใช้ที่จุฬาอีกรอบ
ผมอาจจะไม่ใช่นักวิชาการ พูดอะไรอาจจะดูไม่ถูกกฎเกณฑ์นะครับ
แต่ผมเน้นไม่ได้พูดให้พิสูจน์ แต่ให้ฟังแล้วคิดตามว่าใช่หรือไม่
ของหลายอย่าง ภาษามันสื่อได้ไม่หมด แต่ใช้ใจพิสูจน์
และการใช้ภาษาง่ายๆ ก็เหมาะสมกับคนทั่วไปมากกว่า
เคยเห็นนักวิชาการไปอธิบายอะไรออกทีวี หรือพยายามให้ชาวบ้านเข้าใจป๊ะคับ
น้านแหละ.. บางทีเก่งมากไป ติดกฎกติกามากไป อธิบายซะยิ่งฟังยิ่ง งง
เหมือนการสอนศาสนาบ้านเราไง
ยิ่งสอน เด็กยิ่ง งง ยิ่งเรียน เด็กยิ่งเบื่อ สอนให้มันยากซะอย่างนั้นแหละ