หวย กับการปราบ ผู้มีอิทธิพล ดุลยภาพ ดุลพินิจ โดย นวลน้อย ตรีรัตน์ มติชนรายวัน วันที่ 11 มิถุนายน 2546
จากการที่รัฐบาลได้มีนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพล โดยได้มีการจัดประเภทของผู้มีอิทธิพลออกเป็น 15 กลุ่ม การค้าหวยใต้ดินถือเป็นหนึ่งใน 15 กลุ่มที่จะต้องถูกปราบ การพนันหวยใต้ดิน เป็นข้อถกเถียงมานานแล้วในสังคม ว่าควรจะจัดการอย่างไร
พัฒนาการของหวยในสังคมไทยหวยเป็นการพนันเสี่ยงทายประเภทหนึ่ง ที่รู้จักกันดีในสังคมไทยมาเป็นระยะเวลายาวนาน ตั้งแต่ต้นรัตนโกสินทร์ โดยในระยะแรกกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มคนจีน และเป็นการเล่นโดยทายอักษรภาษาจีน ต่อมาเมื่อการพนัน แพร่ระบาดสู่สังคมคนไทย จึงได้มีการออกหวยที่เป็นอักษรไทย จึงมีชื่อเรียกว่า "หวย ก ข"
ในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้โปรดให้มีการให้สัมปทาน ดำเนินการรับแทงหวยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยโรงหวยเป็นของรัฐที่มีเอกชน เป็นผู้ได้รับสัมปทานดำเนินการ ทั้งนี้นายอากรหวย ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น "ขุนบาล" หรือ "ขุนบาน" โดยรายได้จากอากรหวยมีเป็นจำนวนมาก และได้กลายเป็นรายได้ที่สำคัญของรัฐ
อย่างไรก็ตามความต้องการเล่นหวยมีมากกว่าที่รัฐจะจัดให้เล่นได้ จึงได้เกิดขุนบานเถื่อนขึ้นทั่วประเทศ
ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชดำริ ที่จะยกเลิกการเล่นพนัน แต่เนื่องจากอากรหวยเป็นรายได้ที่สำคัญ จึงได้ทรงยกเลิกอากรบ่อนเบี้ยก่อน และค่อยมีการยกเลิกอากรหวยในสมัยรัชกาลที่ 6
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการเล่นหวยฝั่งรากอยู่ในสังคมเป็นเวลาเกือบร้อยปี จึงยังคงมีการลักลอบเล่นพนันหวย ก ข อยู่ทั่วไป
ขณะเดียวกันในรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 ได้มีการออกล็อตเตอรี่ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อหารายได้บำรุงการกุศล และได้มีการออกล็อตเตอรี่ในวาระพิเศษอีกหลายครั้ง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อบำรุงสาธารณกุศล จนกระทั่งรัฐบาลภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ได้ให้มีการออกล็อตเตอรี่เป็นประจำ และในปี พ.ศ.2482 ได้มีการจัดตั้งสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้มีการออกล็อตเตอรี่เป็นประจำ การเล่นหวยจึงได้เปลี่ยนมาใช้เลขท้าย ของล็อตเตอรี่ เป็นการออกหวยแทนหวย ก ข แบบเดิม ซึ่งรูปแบบการเล่นหวยดังกล่าว ได้กลายมาเป็นรูปแบบของหวยใต้ดินในปัจจุบัน
จากงานวิจัยเรื่องเศรษฐกิจการพนัน และทางเลือกเชิงนโยบาย ซึ่งดำเนินการโดย สังศิต พิริยะสังสรรค์ และ คณะ ได้มีการสำรวจพฤติกรรมการเล่นพนันของคนไทยในปี 2544 พบว่าหวยใต้ดิน เป็นการพนันที่คนไทยนิยมเล่นมากที่สุด โดยมีผู้เล่นหวยใต้ดินถึง 23.7 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 51 ของประชากรไทยที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป
ทั้งนี้ผู้เล่นประมาณครึ่งหนึ่ง เล่นหวยใต้ดินมานานกว่า 10 ปี ผู้เล่นเพียงประมาณ 4.7 ล้านคน หรือร้อยละ 20 จะเล่นหวยเกือบทุกงวด แต่ผู้เล่นร้อยละ 60 เล่นหวยเฉลี่ยประมาณ 6 ครั้งต่อปีเท่านั้น นอกจากนี้ผู้เล่นถึงร้อยละ 46 จ่ายเงินซื้อหวยใต้ดินในแต่ละงวดประมาณไม่เกิน 100 บาท
อย่างไรก็ตาม มีผู้เล่นเกือบสองแสนคน ที่มีการเล่นหวยใต้ดินอย่างหนักที่วงเงินเกิน 50,000 บาทต่อปี การสำรวจยังพบว่าผู้เล่นหวยใต้ดิน เป็นหญิงร้อยละ 55 อยู่ในช่วงอายุ 36-55 ปี มากที่สุดที่ร้อยละ 43 โดยเป็นเกษตรกร และประกอบอาชีพส่วนตัวรวมกันร้อยละ 47 และประมาณร้อยละ 61 เป็นผู้ที่มีการศึกษาเพียงประถมศึกษาเท่านั้น
กล่าวกันว่าการเล่นพนันหวยใต้ดิน ที่แพร่ระบาดอย่างมากในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ทำให้แทบไม่มีใครไม่รู้จักหวยใต้ดิน และแทบไม่มีใครไม่รู้ว่า ถ้าต้องการจะแทงหวยจะไปแทงที่ไหน
เครือข่ายที่กว้างขวาง และซอกซอนถึงทุกกลุ่มชนของสังคมทั่วประเทศ ได้สะท้อนให้เห็นว่าหวยใต้ดิน ไม่เพียงเป็นการพนันที่มีคนเข้ามาเล่นมากเท่านั้น แต่ยังเป็นการพนันที่มีคนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในฐานะเป็นคนขาย หรือคนเดินโพย มากกว่าการพนันประเภทอื่นๆ
ในช่วงหลัง เจ้ามือได้มีการพัฒนาการดำเนินการ โดยมีการนำเครื่องมือสื่อสารทั้งแฟกซ์ และคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการจัดการมากขึ้น ทำให้เกิดความคล่องตัว สามารถยืดเวลาการรับแทงได้ยาวขึ้น สามารถบริหารความเสี่ยงได้ดีขึ้น และสามารถรู้ผลกำไรขาดทุนได้ทันที หลังจากที่ผลล็อตเตอรี่ออก
จากการที่หวยใต้ดินเป็นการพนัน ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้เล่นหวย และมีความยืดหยุ่นสูงกว่าล็อตเตอรี่ กล่าวคือมีรูปแบบการเล่นหลายอย่าง และสามารถเล่นได้แม้มีเงินจำนวนน้อย มีผลให้หวยใต้ดิน เป็นที่นิยมมากกว่าล็อตเตอรี่ และมีมูลค่าทางธุรกิจที่สูงกว่า ล็อตเตอรี่หลายเท่าตัว แม้ว่าจะเป็นการเล่นพนันที่ผิดกฎหมาย
มีข้อเสนอว่า ถ้ารัฐบาลยกเลิกการออกสลากกินแบ่งฯ ก็จะทำให้หวยใต้ดินหมดไป แต่ในความเป็นจริงมีการเล่นพนันตัวเลขประเภทหวย จากเลขตัวอื่นๆ อีกหลายชนิดในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา เช่นพนันเลขท้ายของสลากออมสิน พันธบัตร ธ.ก.ส.หรือแม้แต่การพนัน กับตัวเลขดัชนีในตลาดหลักทรัพย์ ที่เรียกว่า หวยหุ้น
การเล่นหวย ซึ่งมีพัฒนาการอยู่ในสังคมไทยกว่าร้อยปี ได้พัฒนาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตทางสังคม และวัฒนธรรมของคนไทยแล้ว เห็นได้ชัดเจนจากกระบวนการหาตัวเลขนำโชค ที่จะใช้แทงในแต่ละงวด ผู้เล่นอาจจะได้จากการตีความ จากความฝันของตนเอง การเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ ในชุมชนเช่นมีคนที่รู้จักเสียชีวิต การเกิดอุบัติเหตุ มีเด็กเกิดใหม่ ทะเบียนรถที่เพิ่งซื้อใหม่ หรือกระทั่งการขอจากพระ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นต้น
ซึ่งการได้ตัวเลขจากเหตุการณ์เหล่านี้จะต้องผ่านการตีความ เกิดพฤติกรรมการแลกเปลี่ยนความคิด และช่วยกันตีความในกลุ่มผู้เล่นหวย หรือในบางชุมชนมีการจดบันทึกสถิติการออกล็อตเตอรี่ และนำมาช่วยกันวิเคราะห์ร่วมกับปัจจัยอื่นๆ ทางโหราศาสตร์เพื่อหาตัวเลข
ดังนั้น การหาตัวเลขเด็ดได้ก่อให้เกิดกิจกรรมทางสังคมร่วมกันของชุมชน
หวยใต้ดินจึงเป็นเรื่องของการพักผ่อน การบันเทิง ความเสี่ยงและความหวังของคนในสังคม อย่างไรก็ตาม ความไม่สมดุลในในการจัดการเรื่องความเสี่ยง และความหวังของผู้เล่นบางกลุ่ม ก็ทำให้เกิดปัญหาหนี้สิน และปัญหาครอบครัวตามมาได้เช่นเดียวกัน
หวยใต้ดินและปัญหาผู้มีอิทธิพล
เนื่องจากหวยใต้ดินเป็นการพนัน ที่มีวงเงินที่เกี่ยวข้องในมูลค่าที่สูงหลายแสนล้าน เจ้ามือจึงได้รับผลกำไรเป็นจำนวนมาก และยังเป็นธุรกิจที่ไม่ต้องจ่ายภาษีแต่อย่างใด หวยใต้ดินมีการจัดตั้งองค์กรเครือข่ายการขาย และการจัดเก็บรายได้อย่างกว้างขวาง มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้ธุรกิจหวยใต้ดิน สามารถขยายเครือข่ายได้อย่างเป็นระบบ มีทั้งเจ้ามือรายย่อยในระดับตำบล ระดับอำเภอ เจ้ามือรายกลาง และรายใหญ่ ซึ่งมีการรับแทงหวยในหลายจังหวัด
เจ้ามือรายกลางและรายใหญ่ สามารถที่จะอาศัยเงินเหล่านี้ในการสร้างฐานอำนาจ ทั้งทางการเมืองเศรษฐกิจ และกลายเป็นผู้กว้างขวางทางสังคมได้ง่าย
เจ้ามือหวยมักจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตำรวจ และนักการเมืองในพื้นที่ ในบางกรณีอาจมีการจ่ายค่าคุ้มครองให้กับตำรวจเป็นประจำ และจ่ายเพิ่มเติมเมื่อมีการร้องขอเป็นครั้งคราว ในโอกาสต่างๆ เจ้ามือหวยยังเป็นผู้สนับสนุนที่สำคัญของนักการเมือง ทั้งการสนับสนุนทางการเงิน และเครือข่ายที่ใช้ในการซื้อเสียง
ในช่วงกว่าทศวรรษที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างเจ้ามือหวยที่สำคัญหลายประการคือ
ในอดีตเจ้ามือหวยใต้ดิน มีการศึกษาไม่สูงมากนัก ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าชาวจีน แต่เจ้ามือหวยใต้ดินรุ่นใหม่ในปัจจุบัน เป็นผู้มีการศึกษาในระดับสูง จากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งในประเทศ และต่างประเทศ มีความรู้ทางด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างดี เป็นผู้มีบทบาทในสังคม และมีการประกอบธุรกิจที่ถูกกฎหมายในท้องถิ่น ซึ่งทำให้เจ้ามือหวยเหล่านี้มีบทบาทที่เพิ่มขึ้นในทางเศรษฐกิจ และเป็นช่องทางในการผ่องถ่ายเงินรายได้จากหวยใต้ดิน
ในขณะที่เจ้ามือหวยรุ่นก่อน มักจะมีบทบาทในการสนับสนุนทางการเมืองเป็นสำคัญ เจ้ามือหวยรุ่นปัจจุบัน ได้เข้าสู่ระบบการเมืองโดยตรง โดยเฉพาะเมื่อมีการกระจายอำนาจ ทำให้เกิดโอกาส ในการเข้าสู่การเมืองท้องถิ่นในระดับต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
เจ้ามือหวยใต้ดินจำนวนมาก จึงเข้าสู่การเมืองท้องถิ่น และกลายเป็นผู้มีอิทธิพลทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมได้ง่ายและสูงกว่าในอดีต
ข้อสังเกตต่อการทำหวยให้ถูกกฎหมาย
เมื่อรัฐบาลประกาศให้ธุรกิจหวยใต้ดิน เป็นหนึ่งในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล ปรากฏว่าทำให้การรับแทงหวย หยุดชะงักไปบ้างในบางพื้นที่ ขณะเดียวกันได้มีข้อถกเถียงว่า ควรจะมีการดำเนินการให้ธุรกิจการรับแทงหวย เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย โดยรูปแบบที่ถกเถียงกันมีอยู่ 2 แบบ ที่สำคัญคือ จะให้รัฐเป็นเจ้ามือเอง หรือให้เอกชน รับสัมปทาน หรือใบอนุญาต
รูปแบบที่หนึ่ง รัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการแต่เพียงผู้เดียว กล่าวคือให้สำนักงานสลากกินแบ่ง เป็นเจ้ามือรับแทงเพียงรายเดียว ซึ่งกรณีนี้จะเป็นประโยชน์ที่สามารถสร้างความเชื่อมั่น และเชื่อถือของผู้เล่นหวยได้มาก ว่าจะไม่มีการโกงผู้เล่น ถ้ามีผู้ถูกหวยเป็นจำนวนมาก และรัฐสามารถจัดเก็บภาษีได้อย่างครบถ้วน
แต่จะต้องมีการลงทุนทางด้านเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น
กล่าวคือจะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง ในการจัดการที่สำคัญ คือต้องมีการเปลี่ยนแปลงจากโครงสร้าง การใช้คนเดินโพย ซึ่งเป็นกลไกที่สำคัญในการขายหวยใต้ดิน และจ่ายเงินรางวัล มาเป็นการใช้เทคโนโลยีเป็นสำคัญ เพื่อให้สามารถรวบรวมและจัดส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง
นอกจากนี้รัฐจะต้องคิดถึงรูปแบบการจ่ายเงินรางวัลที่รวดเร็ว และจะต้องมีรูปแบบการบริหารความเสี่ยงที่ยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพ ทันต่อเหตุการณ์เพื่อป้องกันกันการขาดทุน
รูปแบบการให้สัมปทานหรือบริษัทเอกชนเป็นผู้จัดการ วิธีนี้จะเป็นประโยชน์ในการทำให้เกิดการแข่งขัน และเป็นประโยชน์กับผู้เล่น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะเป็นปัญหาน่าจะเป็นการจัดเก็บภาษี เพราะการจัดเก็บภาษีตามมูลค่าการแทง น่าจะทำได้ลำบาก ทั้งนี้เพราะบริษัทอาจหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีได้โดยง่าย อย่างไรก็ตามการให้สัมปทานโดยการประมูลภาษี ซึ่งถือเป็นการจัดเก็บภาษีแบบเหมาจ่าย จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ โดยการประมูล จะช่วยทำให้ราคาที่เสนอใกล้เคียงกับราคาตลาดมากที่สุด แต่ไม่ได้เป็นหลักประกันว่า จะใกล้เคียงกับภาษีที่รัฐควรจะได้
รูปแบบนี้ถือเป็นรูปแบบที่เคยใช้ในอดีต ที่ทำให้การจัดเก็บภาษีทำได้ง่ายขึ้น โดยวิธีนี้เจ้ามือหวยใต้ดินที่ผิดกฎหมาย อาจเข้าสู่ระบบที่ถูกกฎหมายได้ และคนเดินโพยที่มีจำนวนมาก ก็สามารถที่จะดำเนินการต่อได้
แต่รัฐจะต้องมีการจัดการในเรื่องการให้สัมปทานที่โปร่งใส และเป็นธรรมกับทุกกลุ่ม โดยยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ และรัฐจะต้องมีกลไกในการกำกับดูแลที่ดีพอ ที่จะไม่ให้เกิดการแข่งขันมากเกินไป จนกลายเป็นการกระตุ้นการขยายตัวของการพนัน
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้แสดงเจตจำนงหลายต่อหลายครั้ง ที่ต้องการจะรับแทงพนันหวย โดยมีการเปิดให้เอกชน ยื่นในสมัครเพื่อคัดเลือกเข้าเป็นผู้ขายหวย 2 ตัว 3 ตัว นี้ โดยจะให้มีการคิดตั้งเครื่องขาย ที่สามารถออนไลน์เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง
อย่างไรก็ตาม เมื่อรัฐบาลมีนโยบายปราบผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับหวยอย่างเร่งด่วน ทำให้สำนักงานสลากกินแบ่งฯ เห็นโอกาสที่จะเข้ามาแทนที่หวยใต้ดินได้อย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากยังไม่มีความพร้อม ในเรื่องระบบที่จะดำเนินการ ทำให้สำนักงานสลากกินแบ่งฯ คิดที่จะใช้ระบบธนาคาร หรือไปรษณีย์ช่วยในการเป็นจุดรับแทงไปก่อน
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อันตรายเป็นอย่างยิ่ง
เพราะการรับแทงหวย ก็ยังเป็นการพนัน ซึ่งในแต่ละประเทศที่มีการพนันหวยอย่างถูกกฎหมาย จะมีข้อห้ามที่สำคัญคือ สถานที่เปิดให้มีการรับแทงพนัน จะต้องห่างไกลจากสถานศึกษา และวัด และจะต้องไม่มีการรับแทงพนัน จากเด็กและเยาวชน ซึ่งทั้งธนาคาร และไปรษณีย์จำนวนหนึ่งจะตั้งอยู่ในชุมชน ซึ่งใกล้สถานศึกษาและวัด ดังนั้นจึงเป็นความไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ที่จะใช้กลไกดังกล่าว
นอกจากนั้นแล้วโดยทั่วไป ผู้ขายจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ และมีความผิดถ้าหากมีการขายหวยให้กับผู้เยาว์ ซึ่งธนาคารและไปรษณีย์คงไม่อยากที่จะเล่นบทบาทนี้เป็นแน่
นอกจากนี้แล้ววัตถุประสงค์ในการให้มีการพนันไม่ว่า จะเป็นล็อตเตอรี่ หรือการรับแทงพนันประเภทหวยที่ถูกกฎหมาย ในประเทศต่างๆ มักจะเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ กล่าวคือมีการนำเงินไปเพื่อการพัฒนาทางสังคม ศิลปวัฒนธรรมกีฬา และสาธารณะประโยชน์อื่นๆ โดยตรง ทั้งนี้เพราะกิจกรรมเหล่านี้มักจะได้รับการจัดสรรงบประมาณเป็นลำดับท้ายๆ เสมอ เงินรายได้จากการพนันประเภทนี้ จึงมีส่วนน้อยเท่านั้นที่จะถูกส่งเป็นเงินงบประมาณโดยตรง ซึ่งเรื่องดังกล่าวยังไม่มีการพูดกันเลยว่าจะดำเนินการอย่างไร
ยังคงมีปัญหาอื่นๆ ที่ดำรงอยู่อีกเป็นจำนวนมาก ที่จะต้องมีความชัดเจน มีกฎ กติกา ที่สามารถเชื่อได้ว่าการทำหวยใต้ดิน จะไม่เป็นการซ้ำเติมปัญหาในปัจจุบัน รัฐบาลจึงควรใคร่ครวญให้รอบด้าน พร้อมทั้งรับฟังความเห็นจากคนในสังคมเสียก่อนที่จะตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใดลงไป
http://www.geocities.com/ekonomiz/article2003_2/article2003june11p1.htm