Korkai (";)
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #175 เมื่อ: 24 กันยายน 2550, 15:48:38 » |
|
หรือว่า...หล้าเป็น "แฝด" ผู้น้องของป้าหงส์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
WARM
|
|
« ตอบ #176 เมื่อ: 24 กันยายน 2550, 17:51:30 » |
|
แฝด ที่ผลัดพรากกันมานาน และแล้วก็เจอกันจนด้ายย
ซึ้งง่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #177 เมื่อ: 24 กันยายน 2550, 22:18:29 » |
|
Nong Jessy, you are the one with safety helm!...green or blue helm?? p.nn
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เจษฎา
|
|
« ตอบ #178 เมื่อ: 24 กันยายน 2550, 23:40:32 » |
|
คนที่ยืนกอดอกใส่เสื้อแขนยาวคนที่ห้าจากขวาครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไม่หล่อ แต่ไม่ค่อยว่าง
|
|
|
ป.ปลา
|
|
« ตอบ #179 เมื่อ: 25 กันยายน 2550, 00:39:31 » |
|
คนที่ยืนกอดอกใส่เสื้อแขนยาวคนที่ห้าจากขวาครับ ท่าหล่อมั่กมากค่ะ :lol: :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ป.ปลา
|
|
« ตอบ #180 เมื่อ: 25 กันยายน 2550, 00:41:12 » |
|
นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โลกร้อน :lol: :lol: :lol: ต้องลดจำนวนด่วน :twisted: :twisted:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Korkai (";)
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #181 เมื่อ: 25 กันยายน 2550, 00:44:44 » |
|
อิจฉาตาร้อน เหรอป.ปลา :lol: :lol: :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เอ๋อ
|
|
« ตอบ #182 เมื่อ: 25 กันยายน 2550, 10:26:21 » |
|
นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โลกร้อน :lol: :lol: :lol: ต้องลดจำนวนด่วน :twisted: :twisted: สีขาวมันจะสะท้อนแสง สู้สีดำๆ อย่างเราไม่ได้ ดูดแสงและความร้อน ช่วยแก้ปัญหา global warming :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไม่สวย แต่ Self ! ขวัญใจคนใหม่ น้องจางกึนซอก...
|
|
|
veekung
|
|
« ตอบ #183 เมื่อ: 25 กันยายน 2550, 21:11:16 » |
|
สีขาวมันจะสะท้อนแสง สู้สีดำๆ อย่างเราไม่ได้ ดูดแสงและความร้อน ช่วยแก้ปัญหา global warming :lol:
แต่ระวังเป็นมะเร็งผิวหนังนะ :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ป.ปลา
|
|
« ตอบ #184 เมื่อ: 26 กันยายน 2550, 03:12:55 » |
|
อู้ยยยย มิรู้อะไร
ผิวแบบพวกชั้นนี่มีความเสี่ยงน้อยที่จะเป็นมะเร็งผิวหนังนะจ๊ะ อิอิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ป.ปลา
|
|
« ตอบ #185 เมื่อ: 26 กันยายน 2550, 03:28:42 » |
|
มาบ่นอีกหน่อย ให้เข้าเรื่องโลกร้อน
ดับเบิ้ลเอ ออกโฆษณารณรงค์ให้ปลูกต้นAA (ซึ่งมันก็คือต้นยูคาลิปโซ่...เอ้ยย ยูคาลิปตัส) ไม่อยากจะนึกเลยว่าถ้าชาวบ้านแห่ปลูกอีกเหมือนตอนอีสานเขียว มันจะเป็นยังไง แค่นี้ก็ร้อนจะตายอยู่แล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Korkai (";)
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #186 เมื่อ: 26 กันยายน 2550, 09:53:10 » |
|
ขออธิบายนะคะ... โครงการปลูกต้นกระดาษ ของ Double A ที่เห็นในโฆษณาขณะนี้ มีจุดประสงค์ เพื่อต้องการให้ชาวบ้าน หรือ เกษตรกรปลูกต้นยูคาลิปตัส ตามหัวไร่ปลายนา เป็นการใช้พื้นที่ที่เหลืออยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรอีกทางหนึ่ง ซึ่งทางบริษัทฯ มีต้นกล้า ที่ผ่านการวิจัยและพัฒนา มาเป็นเวลากว่า 25 ปี จนได้พันธุ์ที่มีลักษณะดีเหมือนกันทุกต้น ไม่ว่าจะปลูกในพื้นที่ใดก็ตาม และมีจำนวนมากมายไว้ให้เกษตรกรรับไปปลูก ฟรี! และเมื่อต้นไม้เติบโตมีอายุ 3-5 ซึ่งก็แล้วแต่พันธ์ ก็นำมาขายคืนให้กับบริษัทฯอีกด้วย) ทางบริษัทฯไม่ มีนโยบายให้ทำลายป่า หรือ ตัดต้นไม้เป็นไร่ๆ เพื่อนำพื้นที่ปลูกป่าต้นยูคา อย่างที่เข้าใจนะคะ แล้วอีกอย่างหนึ่ง การปลูกต้นยูคา สามารถช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อีกด้วย มีผลการวิจัยมาสนับสนุนด้วยนะ (เดี๋ยวหาข้อมูลให้จ้า) อ่านข้อมูลต้นกระดาษดั๊บเบิ้ลเอ เพิ่มเติมได้ที่ www.doubleapaper.com หรือ www.chaiyoaa.com หัวข้อ คุยเฟื่องเรื่องต้นกระดาษดั๊บเบิ้ลเอ ขอบคุณมากๆค่ะ ที่ได้มีโอกาสประชาสัมพันธ์โครงการดีๆ อย่างนี้ :lol: :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เอ๋อ
|
|
« ตอบ #187 เมื่อ: 26 กันยายน 2550, 16:04:09 » |
|
โอ้...ดีจริงๆ มีคน Double A อยู่แถวนี้ แต่ต้นยูคาฯ นี่เขาว่ามันทำให้ดินเสียจริงรึเปล่าอ่ะ
หรือต้นของ double A เขาปรับปรุงแล้ว :?:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไม่สวย แต่ Self ! ขวัญใจคนใหม่ น้องจางกึนซอก...
|
|
|
Korkai (";)
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #188 เมื่อ: 26 กันยายน 2550, 20:37:09 » |
|
เด๋วถาม PR CORPERATE มาให้จ้า... จะได้มีข้อมูลอ้างอิงประกอบ อิ อิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ป.ปลา
|
|
« ตอบ #189 เมื่อ: 27 กันยายน 2550, 00:20:54 » |
|
ขอโทษนะ อย่าว่าเราอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะป้าไก่ เราไม่ได้มีอคติกับ AA
แต่ชั้นมีอคติกับต้นยูคาฯ เรื่องยูคาฯ ทำให้ดินเสียนี่ไม่มีเอกสารเป็นงานวิจัยหรอกนะ เท่าที่เห็น เพราะมันปลูกอยู่แถวบ้านชั้นเต็มไปหมดนี่ ดินแข็งมาก ไม่มีแร่ธาตุเหลืออยู่เลย ต้นไม้เล็กๆ หญ้า ก็ไม่ค่อยขึ้นบนดินพวกนี้ คือถ้าเป็นป่ายูคาฯ ก็จะมีแต่ยูคาฯ อย่างเดียวไม่มีอย่างอื่น ถ้ามีก็จะมีน้อยๆ มากๆ จนแทบไม่นับ
ป่าแถบริมน้ำมูล (ที่เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านช้าง) เป็นป่าละเมาะแบบป่าแล้ง มันก็มีต้นไม้เล็กๆ น้อยขึ้นบ้างแม้ไม่มีต้นไม่ใหญ่ แต่พวกพี่จิ๋วคิดโครงการอีสารเขียวขึ้น คราวนี้มีแต่ต้นยูคาฯ ไม่มีต้นไม่อื่นๆ ไม่มีหญ้า
ช้างไม่กินใบยูคาฯ แล้วก็ไม่มีหญ้าให้กิน พอหมดหน้าทำนา ชาวนาที่เป็นควาญช้างก็ต้องเร่พาช้างมาหากินในเมือง
คิดแล้วเศร้าใจนะ
ส่วนเรื่องช่วยโลกร้อน ชั้นไม่คิดว่าช่วยได้จริง ถึงแม้ยูคาฯ จะเป็นต้นไม้มีส่วนในการช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ยูคาฯ ปลูกแถบชนบทก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มันไม่เยอะอยู่แล้ว มันไม่ได้ช่วยดูดคาร์บอนไดออกไซด์ที่พ่นๆ ออกมาจากในเมืองได้
ยูคาฯ ที่ปลูกในเมืองไทย เป็นยูคาฯ ให้เนื้อไม้ กระบวนการการสังเคราะห์แสงเกิดน้อยกว่าการดูดดึงแร่ธาตุจากพื้นดินขึ้นมา
ส่วนเรื่องความสามารถในการดูดคาร์บอนไดออกไซด์ จริงๆ แล้วก็ด้อยกว่าต้นไม้ในป่าชายเลนแน่นอน และดูดได้น้อยกว่าไม้พื้นถิ่นอยู่มาก
ชาวบ้านขายไม้ได้เงินก็จริง แต่ไม่นานดินก็ไม่มีแร่ธาตุ เค้าจะปลูกจะหากินกับดินโดยพืชอย่างอื่นไม่ได้แล้ว ต้องพึ่งยูคาฯ อย่างเดียว และไม่นานแม้แต่ยูคาฯ ก็จะปลูกบนดินผืนนั้นไม่ขึ้น
ถามอีกหน่อยสำหรับ AA
จะห้ามให้ชาวบ้านไม่ถางป่าเพิ่มขึ้นได้ไหม ? (ชาวบ้านน่ะ ได้ยินว่าอะไรขายได้ก็จะแห่กันไปปลูก ไม่มีที่ก็ไปถางป่า นี่เรื่องจริงที่ไม่สามารถปฏิเสธได้) มีนโยบายไม่รับไม้ยูคาที่ปลูกในพื้นที่ที่มาจากการถางป่าหรือเปล่า ?
มีการให้ความรู้ชาวบ้านไหมว่าปลูกยูคาฯ แล้วต้องบำรุงดินยังไงถึงจะกลับมาใช้ปลูกพืชอย่างอื่นได้ ?
มีการทำการศึกษาไหม ว่าพื้นที่ปลูกยูคาฯ เดิมมีกี่ไร่ พื้นที่เกษตรมีกี่ไร่? พื้นที่ป่าเสื่อมโทรมที่ยังพอมีพืชพื้นถิ่นอยู่กี่ไร่ ? แล้วจะทำการศึกษาต่อไหมว่าหลังจากนี้มีการถางป่า ถางพงมาปลูกยูคาฯ กันเพิ่มกี่ไร่ ? ชั้นไม่อยากกลับบ้าน แล้วนั่งมองข้างทางเห็นแต่ป่ายูคาฯ แล้งๆ ร้อนๆ อีกแล้วล่ะ :cry: :cry: :cry:
ขอโทษนะ บ่นยาวไปหน่อย เพราะนี่คือปัญหาของแผ่นดินอีสานบ้านของชั้นจริงๆ :cry:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ป.ปลา
|
|
« ตอบ #190 เมื่อ: 27 กันยายน 2550, 00:24:48 » |
|
และที่น่าสนใจ
ชั้นเคยทำงานหนังสือ และก็ยังเรียกตัวเองว่าคนทำหนังสือ กระดาษส่วนใหญ่ที่ใช้พิมพ์หนังสือ เป็นกระดาษนำเข้าจากต่างประเทศ เพราะกระดาษที่ผลิตในประเทศไทยมีราคาสูงเกินไป
คนทำหนังสือทุกวันนี้ประสบปัญหาสู้ราคากระดาษไม่ได้ ทั้งๆ ที่อยากจะผลิตหนังสือดีๆ ออกมาสักเล่ม ต้นทุนสูง ราคาหนังสือก็สูง คนมีเงิน คนชั้นกลางซื้อหนังสืออ่านได้ แต่คนจนๆ ไม่มีโอกาสเพราะหนังสือแพง :cry: :cry: :cry:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #191 เมื่อ: 27 กันยายน 2550, 00:41:12 » |
|
Nong Plaa, I don't know how far is the expanding of"recycle paper"...but in Germany I know and use only this!!!...tissue for WC,block paper for school ,letter paper..and,and,and...it looks not so attractive but everybody use so it is like normal.even the book...lopk really yellowish!but the details is count jaaaa. p.nn
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ป.ปลา
|
|
« ตอบ #192 เมื่อ: 27 กันยายน 2550, 00:45:50 » |
|
พี่หนิงคะ กระดาษสามารถรีไซเคิลได้ไม่มีสิ้นสุดจนกว่ามันจะย่อยสลายไปค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #193 เมื่อ: 27 กันยายน 2550, 00:49:20 » |
|
You should see my WC tissue...herr,herr...can not devide..which is which cause it looks so yellow!!! p.nn
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เจษฎา
|
|
« ตอบ #194 เมื่อ: 27 กันยายน 2550, 15:56:42 » |
|
ไม่ได้หมายความว่าน้องปลาไม่มีสาระหรอกนะครับ แต่สองความเห็นข้างบนน่ะมีสาระมากเห็นด้วยอย่างยิ่ง อยากจะตอบแบบนี้แหละแต่ไม่มีความเพียร การปลูกยูคาเหมือนการผูกขาด และทำให้ความหลากหลายทางชีวภาพหมดไป เหมือนกับที่เรากลัวในกรณีของพืชจีเอ็มโอ แต่กรณีของยูคานี่น่ากลัวกว่าเยอะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไม่หล่อ แต่ไม่ค่อยว่าง
|
|
|
veekung
|
|
« ตอบ #195 เมื่อ: 27 กันยายน 2550, 21:04:22 » |
|
เราก็ไม่รู้เรื่องต้นยูคาเท่าไหร่หรอกนะ ขอผ่านเรื่องปลูกดีหรือไม่ดีแล้วกันนะ แต่เท่าที่เราสังเกตุเห็นได้ก็คือที่ตื่นตัวเรื่องโลกร้อนเนี่ยะมันมีเฉพาะในสังคมเมืองอ่ะ ในสังคมชนบทเค้าไปรู้เรื่องหรอกนะ เพราะอะไรน่ะหรือก็เพราะว่าเค้าไม่รู้สึกน่ะซิว่าโลกมันร้อนขึ้นยังไงเพราะต้นไม้ ป่าไม้ ธรรมชาติต่าง ๆยังคงมีมากอยู่ (เมื่อเทียบกับเมืองนะ) ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ช่วยได้มากแล้วตัวเค้าเองก็ไม่รู้สึกเดือนร้อนอีกด้วย (ใครจะไปสนล่ะว่าน้ำแข็งขั้วโลกจะละลายหมดในเมื่อตอนนี้เค้ายังมีกินอยู่) แล้วไอ้โครงการรณรงค์ต่าง ๆ น่ะมันก็เกิดขึ้นตามกระแสนะว่าม่ะ จะมีใครซักกี่คนที่ตระหนักถึงผลกระทบต่อสภาวะโลกร้อนจริง ๆ (ดูซิอเมริกายังไม่ยอมลงชื่อในสนธิสัญญาโตเกียวที่ว่าด้วยการลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจก ก็แหง่ล่ะถ้าเค้ายอมลงนามก็เท่ากับว่ายอมตัดทางทำมาหากินของตัวเองล่ะนะ) กลับมาที่บ้านเรา เราก็ไม่รู้หรอกนะไอ้โครการปลูกต้นยูคาของ AA น่ะเป็นไง (เพราะไม่มีทีวี) แต่ชาวบ้านอ่ะอยู่ดี ๆ ได้เงินใครจะไม่เอาเป็นเรา เราก็เอานะ (พวกนักการเมืองชั่ว ๆ เลยได้ดีไงล่ะ :evil: อ่ะนอกเรื่องขอโทษด้วย) ทางที่ดีนะถ้าการรณรงค์ควบคู่ไปกับการทำความเข้าใจและมีมาตรการป้องการผลที่อยู่นอกเหนือจากโครงการที่จะให้โลกร้อนขึ้นไปอีก เช่นชาวบ้านถางป่าเพื่อปลูกยูคาอะไรประมาณนี้อ่ะ อันนี้ก็คงต้องเป็นหน้าที่ขององค์กรที่จัดโครงการขึ้นมารับผิดชอบไปนะ (ไม่ใช่เอาแต่ยอดขายนะหวังว่า) พูดซะยืดยาวในปัจจุบันก็ยังมีคนสงสัยอยู่ว่าที่โลกเราร้อนขึ้นเนี่ยะส่วนหนึ่งมาจากฝีมือของมนุษย์ หรือมันเป็นครรลองของธรรมชาติอยู่แล้วที่ต้องร้อนขึ้นอย่างนี้ (แต่มนุษย์ไปเร่งมันซะงั้น) มาถึงตรงนี้อยากให้โลก reset ตัวเองอย่างในหนังเรื่อง the day after tomorrow จังเลย (ชอบมากหนังเรื่องนี้) :lol: :lol: :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #196 เมื่อ: 27 กันยายน 2550, 21:25:19 » |
|
Nong Veevee, I think for all of us...we should simplify it to some campaign easier to do and to set down...if tree and plant help to cool down(compare to gas carbon produced by the automobil)the world...let start by our house...plant it green...make our surrounding jungle! nice text ka. p.nn
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เอ๋อ
|
|
« ตอบ #197 เมื่อ: 27 กันยายน 2550, 23:19:39 » |
|
ได้ความรู้ดีค่ะ
เราไม่ค่อยมีความรู้เรื่องกระบวนการพวกนี้เท่าไหร่ แต่เรื่องเทรนด์การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมพวกนี้มันก็อยู่ในวงแคบๆ เฉพาะสังคมเมืองจริงๆ แต่คิดว่าคงไม่ใช่เพราะได้รับผลกระทบอย่างเดียวหรอก เรื่องกระแสแห่ทำอะไรตามๆ กันมันเป็นเรื่องธรรมดาของสังคมเมืองอยู่แล้ว (ถ้าทุกคนทำ เพราะได้รับผลกระทบ ทุกอย่างคงเป็นรูปเป็นร่างกว่านี้) เห็นรึเปล่าว่าเดี๋ยวนี้มีแฟชั่นถุงผ้าออกมาเยอะมาก ตามร้านกระเป๋านี่มี copy ออกมาเยอะแยะ กลายเป็นกระเป่าหิ้วแฟชั่น มากกว่าหวังผลทางสิ่งแวดล้อม แล้วอะไรที่เป็นกระแสแป๊บเดียวก็ตกยุค
ส่วนในชนบทมันยากอยู่แล้วที่จะมานั่งแยกขยะหรือรีไซเคิล เพราะมันยุ่งยาก แถวบ้านเราที่บริเวณบ้านกว้างขวาง เขาก็เอามากองสุมๆ กันแล้วเผาไปเลย มันง่ายกว่าอยู่แล้ว เคยมีโครงการเก็บขยะประจำหมู่บ้านอยู่เหมือนกัน แต่ไม่จริงจังอะไร...
ขอเฉนอกเรื่องนิด ตอนนี้เรากำลังอ่านเรื่อง "เพชรพระอุมา" (ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหนมา ถึงเพิ่งมาเริ่มอ่าน มันสนุกจนวางไม่ลงจริงๆ) เรื่องนี้เขียนขึ้นเมื่อ 50 ปีก่อน ฉากในเรื่องเป็นป่าเมืองไทย เสือสิงห์กระทิงวิ่งกันเต็มป่า เลือกยิงเอาได้ตามใจชอบ อ่านแรกๆ แอบสงสารสัตว์ เพราะเราเกิดมาในยุคอนุรักษ์แล้วนี่เนาะ แต่นวนิยายก็เขียนขึ้นตามสภาพสังคมยุคนั้น
ไม่น่าเชื่อเลยนะ ว่าไม่กี่สิบปีผ่านไป ป่าเมืองไทยแทบไม่เหลืออะไรเลย... :? (พ่อเราบอกว่าเมื่อก่อนหลังบ้านเรามีเก้งด้วยแหล่ะ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไม่สวย แต่ Self ! ขวัญใจคนใหม่ น้องจางกึนซอก...
|
|
|
|
|
|