25 พฤศจิกายน 2567, 18:35:41
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: มีกิ๊ก  (อ่าน 13791 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ปุจฉา
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 69

« เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2550, 09:24:00 »

นมัสการครับ

ผมมีคำถาม  แต่ไม่มั่นใจว่าควรจะถามท่าน(ซึ่งเป็นพระ)จะเหมาะสมหรือไม่ครับ :?:

เพราะดูจะเป็นเรื่องโลก ๆ ชอบกล   คือ ผมมีภรรยาแล้วและก้อมีกิ๊กด้วย  ทำอย่างไร

จึงจะบริหารจัดการได้ดีครับ :?:

ขอบคุณครับ]
[/b]
บันทึกการเข้า

คนที่เข้มแข็งที่สุดก็ยังมีนาทีที่น้ำตาไหลริน
วิสัชนา
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 21

« ตอบ #1 เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2550, 15:19:44 »

คำตอบ..เรื่องมีกิ๊ก
              พยายามพิจารณาให้เห็นโทษของการมีกิ๊กให้มากๆ   แล้วนำมาเปรียบเทียบกับความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้รับจากการมีกิ๊ก
              เราจะเห็นว่ามันไม่คุ้มค่ากันเลย
              คนเราหากเห็นโทษในการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว
              ความกลัว ความเข็ดขยาดในโทษนั้นๆ ก็สามารถที่จะไปข่มความอยากหรือความเผลอไผลของใจ ไม่ให้ทำในสิ่งนั้นๆ ได้
              เรื่องของการมีกิ๊กเป็นเรื่องของการหลงไปตามอารมณ์ หากเราพยายามใช้เหตุผลเข้าระงับ มันก็สามารถผ่านพ้นไปได้


คำตอบ..เรื่องลูกติดเกมส์
               คำว่า "ติด" ก็คือการห้ามใจไม่ได้ เมื่ออยากเล่นต้องเล่น เมื่อไม่อยากเลิกก็ไม่เลิก อย่างนี้เรียกว่า..ติด
               พ่อแม่ควรฝึกลูกให้มีวินัยในการกระทำในเรื่องต่างๆ เวลาไหนควรทำอะไร เวลาไหนไม่ควรทำอะไร ต้องจัดตารางชีวิตให้ลูก
                อย่าให้เด็กจัดเอง มิฉะนั้นจะมีแต่คำว่าเกมส์ ๆ ๆ ๆ เต็มตารางไปหมด
                อย่าไปโทษเด็ก ควรหันกลับมาดูวิธีการเลี้ยงลูกของเราเอง
                หากเราฝึกลูกให้มีวินัยตั้งแต่ยังเล็กๆ แล้ว โตเป็นวัยรุ่นเขาก็สามารถที่จะควบคุมตัวเองให้ทำในสิ่งต่างๆ ตามเวลาที่เหมาะสมได้
                หยุดได้เมื่อถึงเวลาที่ต้องหยุด ไม่เล่นได้เมื่อยังไม่ถึงเวลาที่จะเล่น
                ควรมีบทลงโทษเมื่อไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ เช่นให้เล่นเกมส์ได้วันละหนึ่งชั่วโมง หากเกินไป 30 นาที วันพรุ่งนี้ก็เล่นได้แค่ 30 นาที
                หลักที่สำคัญที่สุดคือการฝึกให้ลูกรู้จักควบคุมความอยาก (เล่น) และความไม่อยาก (เลิก) ให้อยู่ในกรอบของความเหมาะสมตามที่พ่อแม่ได้ตกลงไว้กับลูก
บันทึกการเข้า

เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ จิตย่อมใส ใจย่อมสว่าง ณ กลางกมล
ปุจฉา
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 69

« ตอบ #2 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2550, 07:44:15 »

นมัสการพระอาจารย์อีกครั้งครับ

ท่านช่วยบอกโทษการมีกิ๊ก2-3 ข้อสิครับ  

เพราะผมยอมรับอีกแหละว่า  ผมมรู้สึกดี  หัวใจพองโต มีความสุข กระชุมกระชวย รอเวลาได้เจอกิ๊ก  ใจเต้นโครมคราม
ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานาน     แรกๆ ที่เริ่มคบกันคิดหลายครั้งที่จะเลิก  มาถึงตอนนี้ผูกพันเสียแล้ว  ทำงานที่เดียวกัน
พอเจอใจผมก็อ่อน    เธอน่าเห็นใจ  อ่อนหวาน  เธอยอมรับได้ว่าผมมีภรรยาแล้ว

ผมกำลังคิดหาวิธีบริหารจัดการให้อยู่กันอย่างมีความสุข  (ตอนนี้ที่บ้านยังไม่รู้ครับ และโทษใหญ่ที่ผมเห็นคือข้อนี้เท่านั้น)  ผมมีความสุขดี
และไม่ต้องการจะเลิกครับ

ขอบคุณครับ  คนมีกิ๊ก
บันทึกการเข้า

คนที่เข้มแข็งที่สุดก็ยังมีนาทีที่น้ำตาไหลริน
วิสัชนา
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 21

« ตอบ #3 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2550, 17:51:45 »

อ้างจาก: "ปุจฉา"
นมัสการพระอาจารย์อีกครั้งครับ

ท่านช่วยบอกโทษการมีกิ๊ก2-3 ข้อสิครับ  

เพราะผมยอมรับอีกแหละว่า  ผมมรู้สึกดี  หัวใจพองโต มีความสุข กระชุมกระชวย รอเวลาได้เจอกิ๊ก  ใจเต้นโครมคราม
ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานาน     แรกๆ ที่เริ่มคบกันคิดหลายครั้งที่จะเลิก  มาถึงตอนนี้ผูกพันเสียแล้ว  ทำงานที่เดียวกัน
พอเจอใจผมก็อ่อน    เธอน่าเห็นใจ  อ่อนหวาน  เธอยอมรับได้ว่าผมมีภรรยาแล้ว

ผมกำลังคิดหาวิธีบริหารจัดการให้อยู่กันอย่างมีความสุข  (ตอนนี้ที่บ้านยังไม่รู้ครับ และโทษใหญ่ที่ผมเห็นคือข้อนี้เท่านั้น)  ผมมีความสุขดี
และไม่ต้องการจะเลิกครับ

ขอบคุณครับ  คนมีกิ๊ก


วิสัชนา...

โทษของการมีกิ๊กมีมากมาย บรรยายไม่หมด ที่สำคัญที่สุดคือครอบครัวแตกแยก

ลองคิดถึงตอนที่แต่งงานกันใหม่ๆ ซิ คิดถึงความฝันที่จะสร้างครอบครัว มีพ่อแม่ลูกที่อบอุ่น

แต่ถ้ามีกิ๊กล่ะก็...คุณไม่มีทางไปให้ถึงฝัน ถ้าถึงก็เป็นเพียงแค่ฝันร้าย

และเมื่อนั้น..ความสุขเพียงเล็กน้อยที่ได้รับ จากช่วงฮันนี่มูนกับกิ๊ก..ก็จะหมดไป

เหลือแต่ความกังวล กลัวบ้านใหญ่จะรู้ กลัวคนจะเห็น เจอกันก็ต้องแอบๆ หลบๆ ซ่อนๆ

ชีวิตแบบนี้หรือที่เรียกว่า..ความสุข

ยิ่งไม่ยอมเห็นโทษ ยังต้องการจะบริหารการจัดการให้มีความสุข

คิดอย่างนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับ..ผมจะจับไฟยังไงไม่ให้ร้อน?

มันไม่มีทางเป็นไปได้

และการคิดอย่างนี้ก็เป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวอย่างที่สุด

ถามหน่อยเถอะ..ถ้าภรรยาทำอย่างที่เราทำอยู่อย่างนี้ เมื่อเราทราบเราจะรู้สึกอย่างไร

เราต้องการให้ตัวเองมีความสุข โดยไม่สนใจว่าใครจะทุกข์เพราะความสุขของเราอย่างนั้นหรือ

คนๆ นั้นไม่ใช่ใครที่ไหนนะ เป็นแม่ของลูกเรา ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้หญิงที่เรารักที่สุด

ตอบแทนเขาอย่างนี้ล่ะหรือ

ถ้าหากเขาไม่ดี จะหย่าร้างหรือเลิกลากับเขา แล้วไปมีใหม่ อันนี้พอรับได้

แต่นี่เก็บเขาไว้ แล้วเราก็ไปหาเศษหาเลย

ขึ้นชื่อความไม่ถูกต้อง เมื่อทำแล้ว ยังไงมันก็ไม่ถูกต้อง

ความผิด..ทำแล้วจะให้ถูก..เป็นไปไม่ได้

สิ่งที่เป็นเหตุของความทุกข์ ทำแล้วมันจะสุขตลอดไป ..นี่ก็เป็นไปไม่ได้

เลิกซะเถอะ..ถ้าไม่อยากทุกข์

ความสุขที่เกิดจากการทำความดียังมีรอเราอยู่อีกมากมาย

อย่าไปเเสวงหาความสุขจากการทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องเลย ...หาไม่เจอหรอก..
บันทึกการเข้า

เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ จิตย่อมใส ใจย่อมสว่าง ณ กลางกมล
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #4 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2550, 18:16:00 »

นมัสการพระอาจารย์ ka,
highly respect for the last reply .It hits in the middle of my opinion about this topic.I live in the western world where there are quite free for such thing but when I exactly look into those matter one more time I found that in the western world there are fair!fair play for both sides..man and women.If one side does not want to play what they had promised to their contract,respect the others by ..let him/her out of the game..Self in Europe,where the rate of divorce so high two third was seperated but it is fairplay!they look down for such unfaithfully to each other.they can marry and remarry many times in their life but...one another,not all in one!
khesorn mueller
บันทึกการเข้า


ปุจฉา
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 69

« ตอบ #5 เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2550, 19:28:14 »

อ้างจาก: "khesorn mueller"
นมัสการพระอาจารย์ ka,
highly respect for the last reply .It hits in the middle of my opinion about this topic.I live in the western world where there are quite free for such thing but when I exactly look into those matter one more time I found that in the western world there are fair!fair play for both sides..man and women.If one side does not want to play what they had promised to their contract,respect the others by ..let him/her out of the game..Self in Europe,where the rate of divorce so high two third was seperated but it is fairplay!they look down for such unfaithfully to each other.they can marry and remarry many times in their life but...one another,not all in one!
khesorn mueller


ก้อขอแปลว่า

นมัสการพระอาจารย์ต้วยความเคารพในวิสัชนา(เรื่องมีกิ๊ก) ของพระอาจารย์อย่างยิ่ง
คำตอบโดนใจค่ะ ..............  ดิฉันอาศัยอยู่ต่างประเทศ......โลกตะวันตกที่มีเสรีภาพในเรื่องชู้สาว........
มานั่งคิดดูจะเห็นว่า..........โลกตะวันตกนั้นทั้งผู้หญิง..ผู้ชาย..
จะเล่นกันแฟร์ ....แฟร์(ยุติธรรม)....................................ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ต้องการทำตามที่ได้ตกลงกันไว้ล่ะก้อ  (ถ้าอยากจะมีกิ๊ก)จะขอเลิกร้างกันไป...                            .เค้าเคารพกันดีค่ะ...................................................  
ในยุโรปอัตราการหย่าร้างสูงค่ะ ......................... 2/3 ของคู่ที่หย่าร้างกันจะเล่นตามกติกา
ผู้คนที่นี่จะดูถูกการที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อคู่สามีหรือภรรยาของตัว.
คนที่นี่จะแต่งงานแล้ว หย่า หย่าแล้วแต่งสักกี่หนก้อได้ในชีวิต  ...แต่..ไม่ใช่
สามคนผัวเมียจาก เกษร มูลเลอร์

คุณเกษร  ถ้าไม่ต้องการให้ผู้แปล แปลผิด....กรุณาสื่อสารด้วยภาษาไทย.....THANK YOU...
from no.name.    Pls  do not ever think to ask me my name.
บันทึกการเข้า

คนที่เข้มแข็งที่สุดก็ยังมีนาทีที่น้ำตาไหลริน
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #6 เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2550, 19:54:25 »

นมัสการพระอาจารย์ คะ,
no,I never expect to know the name of พระอาจารย์,this opinion about the relationship among the couple was  only thing I live my daylife there in Germany,so it was just my opinion not concern to give or to judge anything what the people do in Thailand.
I am so sorry คะ ,I can not type thai คะ พระอาจารย์ ,my notebook is european version.
please let me clear this sentence naka พระอาจารย์ :"ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ต้องการทำตามที่ได้ตกลงกันไว้ล่ะก้อ (ถ้าอยากจะมีกิ๊ก)=I mean husband does not want to have "relationship"(between man and women) only to his wife like he had promised the day he marry her with his signature to his official bonding....so let her know ,from this point,they both know what to do with their couple and fair for her.
I ask myself what the other women think after she knows well he is married...why can she accept it as a normal? it is a question of "moral".
regards,
khesorn mueller
บันทึกการเข้า


ปุจฉา
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 69

« ตอบ #7 เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2550, 20:39:00 »

คุณเกษรค่ะ


เพื่อทราบ  ผู้แปลไม่ใช่พระอาจารย์  .........พระอาจารย์ไม่ใช่ผู้แปล.....

ข้าพเจ้าหมายถึงว่า..กรุณาอย่าคิดถามชื่อผู้แปล (ที่อาจจะแปลผิดค่ะ)....มิใช่ถามชื่อพระอาจารย์

ท่านยินดีให้......ติดต่อหลังไมค์ได้....สำหรับผู้ที่ต้องการคำแนะนำค่ะ..
[/color]
บันทึกการเข้า

คนที่เข้มแข็งที่สุดก็ยังมีนาทีที่น้ำตาไหลริน
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #8 เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2550, 20:45:07 »

Oh,pardon me...I see ka.
excuse me sir.
nn.
บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #9 เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2550, 23:00:38 »

อ้างจาก: "ปุจฉา"
ก้อขอแปลว่า

นมัสการพระอาจารย์ต้วยความเคารพในวิสัชนา(เรื่องมีกิ๊ก) ของพระอาจารย์อย่างยิ่ง
คำตอบโดนใจค่ะ ..............  ดิฉันอาศัยอยู่ต่างประเทศ......โลกตะวันตกที่มีเสรีภาพในเรื่องชู้สาว........
มานั่งคิดดูจะเห็นว่า..........โลกตะวันตกนั้นทั้งผู้หญิง..ผู้ชาย..
จะเล่นกันแฟร์ ....แฟร์(ยุติธรรม)....................................ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ต้องการทำตามที่ได้ตกลงกันไว้ล่ะก้อ  (ถ้าอยากจะมีกิ๊ก)จะขอเลิกร้างกันไป...                            .เค้าเคารพกันดีค่ะ...................................................  
ในยุโรปอัตราการหย่าร้างสูงค่ะ ......................... 2/3 ของคู่ที่หย่าร้างกันจะเล่นตามกติกา
ผู้คนที่นี่จะดูถูกการที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อคู่สามีหรือภรรยาของตัว.
คนที่นี่จะแต่งงานแล้ว หย่า หย่าแล้วแต่งสักกี่หนก้อได้ในชีวิต  ...แต่..ไม่ใช่
สามคนผัวเมียจาก เกษร มูลเลอร์

คุณเกษร  ถ้าไม่ต้องการให้ผู้แปล แปลผิด....กรุณาสื่อสารด้วยภาษาไทย.....THANK YOU...
from no.name.    Pls  do not ever think to ask me my name.


Let me clear my text one more time naka,what I do really mean is that..in the western world,the relation between man and women is free...as long as they are not married!but if they(man and women)decided to live their life together untill the rest of their life..what is the commitment,roll and responsibility for them both is a mission to lead to the end...
But human grow and change...they may find that it is not what they think from the first sight...this is what I want to say from the sight of western(European)man or woman does not want to play their roll as husband and wife anymore...
They will break up their contract(marry contract!!)and begin their single life one more time.
They will not (it is a high punishment)accept any triangle relationship in between the couple...if their wife knew,she can sue him with this reason and it will cost him his last cent!
So,if one like to have many relationships...they can decide to live alone....fair for both side...
this is what I do really mean.
km.
บันทึกการเข้า


pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #10 เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2550, 23:54:07 »

http://www.pantown.com/board.php?id=8651&area=1&name=board11&topic=2&action=view
ธรรมเนียมการแต่งงานของฝรั่ง อ่านเจอเลยเอามาฝากค่ะ
บันทึกการเข้า

pom shi 2516
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #11 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2550, 02:40:53 »

P.Pusadee ka,
thank you so much for a worth text...support my opinion very well!...from the eye of other culture,western single life is may be so free, so fun and less  rule to care...they know what 're waitting for them after marry...decide or not decide....that is a hard job...so who ,man or woman ,who says"catch me if you can"Huh??before and after married.....a good question!
nn
บันทึกการเข้า


ปุจฉา
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 69

« ตอบ #12 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2550, 08:12:53 »

อ้างจาก: "khesorn mueller"
นมัสการพระอาจารย์ คะ,
no,I never expect to know the name of พระอาจารย์,this opinion about the relationship among the couple was  only thing I live my daylife there in Germany,so it was just my opinion not concern to give or to judge anything what the people do in Thailand.
I am so sorry คะ ,I can not type thai คะ พระอาจารย์ ,my notebook is european version.
please let me clear this sentence naka พระอาจารย์ :"ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ต้องการทำตามที่ได้ตกลงกันไว้ล่ะก้อ (ถ้าอยากจะมีกิ๊ก)=I mean husband does not want to have "relationship"(between man and women) only to his wife like he had promised the day he marry her with his signature to his official bonding....so let her know ,from this point,they both know what to do with their couple and fair for her.
I ask myself what the other women think after she knows well he is married...why can she accept it as a normal? it is a question of "moral".
regards,
khesorn mueller


นมัสพระอาจารย์ค่ะ

ขอแปลถวายพระอาจารย์ตามคำสั่งของท่าน
   ท่านผู้เชี่ยวชาญท่านอื่นจะกรุณาช่วยแปล หรือท้วงติง(ถ้าแปลผิด)  ก้อขออนุโมทนาค่ะ

ไม่ค่ะ  ดิฉัน (เกษร) ไม่ได้ประสงค์จะถามนามพระอาจารย์  ดิฉันเพียงจะขออกความคิดเห็นเรื่อง
ความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยา  ซึ่งเป็นสิ่งเดียวในชีวิตของดิฉันที่เยอรมันนี้ค่ะ  เพราะฉะนั้น
ก้อเป็นเพียงความเห็นค่ะ  ไม่ได้ประสงค์จะตัดสินการกระทำของผู้ใดที่อยู่ทางเมืองไทยนะคะ

ขอโทษพระอาจารย์ด้วยค่ะ ดิฉันไม่มีแป้นคีย์บอร์ดภาษาไทย (เพราะฉะนนั้น คงต้องใช้ภาษาอังกฤษต่อไป....และผู้แปลก้อต้องแปลต่อไป  ...อันนี้ผู้แปลเติมเองค่ะ)

ขอธิบายเพิ่มเติมข้อความที่ว่า  " ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ต้องการทำตามที่ได้ตกลงกันไว้ล่ะก้อ (ถ้าอยากจะมีกิ๊ก) "  ดิฉันหมายความว่า  ชายใดที่ไม่ต้องการคงความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยากับภรรยาของตนตามที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ในวันที่แต่งงานกับเธอ  และลงชื่อผูกพันกันไว้อย่างถูกต้องตามกฏหมาย...........ควรจะบอกให้เธอทราบ  เพื่อว่าคนทั้งสองคนจะได้รู้ว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตคู่....ซึ่งยุติธรรมต่อฝ่ายหญิงค่ะ

ฉันถามตัวเองว่า ผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์กับชายที่เค้ามีเจ้าของแล้วคิดได้ไงว่า....."ดิฉันยอมรับได้ว่า คุณแต่งงานแล้ว"   ทำไมยอมรับได้หน้าเฉยตาเฉยเหมือนไม่ใช่เรื่องผิด (normal)(ผู้แปลใส่อารมณ์ตามภาษาของคุณเกษรนะคะ)........  แล้ว  "คุณธรรม" (moral) ล่ะ :idea:



นมัสการเจ้าค่ะ...เกษร  มูลเลอร์
บันทึกการเข้า

คนที่เข้มแข็งที่สุดก็ยังมีนาทีที่น้ำตาไหลริน
ปุจฉา
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 69

« ตอบ #13 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2550, 08:39:37 »

อ้างจาก: "khesorn mueller"
อ้างจาก: "ปุจฉา"
ก้อขอแปลว่า

นมัสการพระอาจารย์ต้วยความเคารพในวิสัชนา(เรื่องมีกิ๊ก) ของพระอาจารย์อย่างยิ่ง
คำตอบโดนใจค่ะ ..............  ดิฉันอาศัยอยู่ต่างประเทศ......โลกตะวันตกที่มีเสรีภาพในเรื่องชู้สาว........
มานั่งคิดดูจะเห็นว่า..........โลกตะวันตกนั้นทั้งผู้หญิง..ผู้ชาย..
จะเล่นกันแฟร์ ....แฟร์(ยุติธรรม)....................................ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ต้องการทำตามที่ได้ตกลงกันไว้ล่ะก้อ  (ถ้าอยากจะมีกิ๊ก)จะขอเลิกร้างกันไป...                            .เค้าเคารพกันดีค่ะ...................................................  
ในยุโรปอัตราการหย่าร้างสูงค่ะ ......................... 2/3 ของคู่ที่หย่าร้างกันจะเล่นตามกติกา
ผู้คนที่นี่จะดูถูกการที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อคู่สามีหรือภรรยาของตัว.
คนที่นี่จะแต่งงานแล้ว หย่า หย่าแล้วแต่งสักกี่หนก้อได้ในชีวิต  ...แต่..ไม่ใช่
สามคนผัวเมียจาก เกษร มูลเลอร์

คุณเกษร  ถ้าไม่ต้องการให้ผู้แปล แปลผิด....กรุณาสื่อสารด้วยภาษาไทย.....THANK YOU...
from no.name.    Pls  do not ever think to ask me my name.


Let me clear my text one more time naka,what I do really mean is that..in the western world,the relation between man and women is free...as long as they are not married!but if they(man and women)decided to live their life together untill the rest of their life..what is the commitment,roll and responsibility for them both is a mission to lead to the end...
But human grow and change...they may find that it is not what they think from the first sight...this is what I want to say from the sight of western(European)man or woman does not want to play their roll as husband and wife anymore...
They will break up their contract(marry contract!!)and begin their single life one more time.
They will not (it is a high punishment)accept any triangle relationship in between the couple...if their wife knew,she can sue him with this reason and it will cost him his last cent!
So,if one like to have many relationships...they can decide to live alone....fair for both side...
this is what I do really mean.
km.



ก้อขอแปลว่า
ขอชี้แจงเพิ่มเติมอีกหน่อยนะคะ

ดิฉันหมายความอย่างนั้นจริงๆ ในโลกตะวันตก  ผู้คนมีอิสระเสรีในการคบหากันฉันท์ชู้สาว  ตราบเท่าที่เขา-เธอได่ได้แต่งงาน  กต่ถ้าเขาหรือเธอตัดสินใจแต่งงาน และตกลงใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกันตราบชีวิตจะหาไม่แล้วล่ะก้อ........การผูกมัด...บทบาท และความรับผิดชอบถือเป็นพันธกิจของทั้งสองฝ่ายตราบวันสุดท้ายของชีวิต

.....แต่ก้อนั่นแหละ..มนุษย์เปลี่ยนแปลงกันได้....เธออาจจะมาพบทีหลังว่า.....มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด  ..เหมือนเมื่อแรกเห็น.....นี่คือสิ่งที่ดิฉันต้องการจะสื่อจากสายตาของคนตะวันตก(ยุโรป)  ถ้าชาย - หญิงไม่ต้องการเล่นบทสามี-ภรรยากันอีกต่อไป ก้อจะเลิกรากันไป  แล้วกลับไปเป็นโสดอีกครั้ง

...เขาจะไม่ควงชีวิต สามคนผัวเมีย  (เป็นการลงโทษกันอย่างแรง)  ขณะที่อีกฝ่ายไม่โสด  ถ้าภรรเมียรู้เข้าจะฟ้องร้องชายผู้เป็นสามีจนเหลือแต่ตัวล่อนจ้อนเลยทีเดียว

ดังนั้นถ้าใครผู้ใดรักชีวิตมากชู้มากเมีย ล่ะก้อ  พึงดำรงตนเป็น.....โสด....จะยุติธรรมต่อทั้งสองฝ่าย

..ขอย้ำว่าดิฉันหมายความตามนั้นจริง ๆ...KM
บันทึกการเข้า

คนที่เข้มแข็งที่สุดก็ยังมีนาทีที่น้ำตาไหลริน
ปุจฉา
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 69

« ตอบ #14 เมื่อ: 17 กรกฎาคม 2550, 13:07:31 »

อ้างจาก: "ปุจฉา"
นมัสการพระอาจารย์อีกครั้งครับ

ท่านช่วยบอกโทษการมีกิ๊ก2-3 ข้อสิครับ  

เพราะผมยอมรับอีกแหละว่า  ผมมรู้สึกดี  หัวใจพองโต มีความสุข กระชุมกระชวย รอเวลาได้เจอกิ๊ก  ใจเต้นโครมคราม
ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานาน     แรกๆ ที่เริ่มคบกันคิดหลายครั้งที่จะเลิก  มาถึงตอนนี้ผูกพันเสียแล้ว  ทำงานที่เดียวกัน
พอเจอใจผมก็อ่อน    เธอน่าเห็นใจ  อ่อนหวาน  เธอยอมรับได้ว่าผมมีภรรยาแล้ว

ผมกำลังคิดหาวิธีบริหารจัดการให้อยู่กันอย่างมีความสุข  (ตอนนี้ที่บ้านยังไม่รู้ครับ และโทษใหญ่ที่ผมเห็นคือข้อนี้เท่านั้น)  ผมมีความสุขดี
และไม่ต้องการจะเลิกครับ

ขอบคุณครับ  คนมีกิ๊ก



ขอนำคำถามตอบจากเคส คล้าย ๆ กันมาฝาก...และขอแนะนำว่าถ้าเลิกได้จงเลิกเสียเถิด  คุณจะมีปัญหาและความทุกข์ อย่างยิ่งยวดตามมาอีก มากมาย อย่างที่คุณจะคาดไม่ถึง มีคนเขามีประสบการณ์อย่างคุณ เขาไม่เชื่อเรื่องกรรมเวร ตอนนี้เรื่องยาว มีปัญหาทั้งครอบครัว และหน้าที่
การงาน  ธุรกิจล้มถูกฟ้องล้มละลาย  ตัวเองนอนเป็นอัมพาต อัมพฤกษ์ ตกงาน ต้องอาศัยบ้านคนอื่นอยู่ จากที่เคยเป็นเจ้าของโรงแรม กลับต้องหนีหัวซุกหัวซุน หลบหน้าเจ้าหนี้  ลูกอีก ๓ คน กำลังเรียนทั้งนั้น ลำบากมาก   ตอนป่วยนะคุณ  เมียน้อยที่เคยปรนเปรอด้วยการส่งเรียนที่สวิสเซอร์แลนด์   ซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์BMW ให้  เขายังไม่มาเยี่ยมเล้ย   คนที่ต้องมาดูแลเช็ดอึเช็ดฉี่ให้  ก็คือเมียหลวงคู่ทุกข์ คู่ยากที่เคยทำร้ายจิตใจเขาไว้นั่นแหละ ....
แล้วคุณรู้ไหมว่า เธอคนที่ 2 ของคุณ จะหยุดได้แค่นี้  คนเราได้คืบจะเอาศอก  เคยอยู่ด้วยกันวันละ ๑ ชั่วโมง ขยับเป็น ครึ่งวัน  ทั้งคืน  ๑, ๒ ,๓ ...วัน  แล้วลูกคุณละจะมีปัญหาตามมาอยากให้เกิดขึ้นกับลูกคุณเรื่องไหน ก็ลองอ่านปัญหาของประชาชนอื่น ดูเอาเถิด แล้วคิดเอาเองนะว่าใครเป็นคนผูกปมเป็นปมแรก

(จาก คอลัมน์เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว ของดังตฤณ)
ถาม – ผมมีภรรยาแล้ว โดยเส้นทางอาชีพต้องทำงานกับผู้หญิงสองต่อสองบ่อยครั้ง จะห้ามตัวเองอย่างไร ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุจริงๆเลยครับ ฝ่ายหญิงยอมร่วมมือด้วยแน่ ขอเพียงผมเอื้อมไปคว้า เธอก็ท่าทางจะไม่ถอย (เคยแกล้งๆทำเหมือนหยอกเล่นแล้วไม่ว่า) ใจหนึ่งเหมือนบอกตัวเองว่าต้องเอาให้ได้ แต่อีกใจหนึ่งก็สงสารภรรยาอย่างแรง ขออุบายหรือวิธีคิดเพื่อห้ามใจให้ขาดด้วยครับ

ข้อแรก อย่าบอกตัวเองว่าที่ไม่ทำก็เพราะสงสารภรรยา คนเราเห็นแก่ตัวกันทั้งนั้นครับ โดยเฉพาะเมื่อมโนธรรมลดระดับต่ำลงใกล้ติดพื้น เราจะไม่เห็นใจใครนอกจากตนเอง ทางที่ดีให้เฝ้าบอกตัวเอง ว่าที่ไม่เอาการประพฤติผิดทางกามนี้ ก็เพื่อไม่ต้องทุกข์เองในภายหลัง พอตอบตัวเองถูกว่าทำไมไม่เอา ก็จะได้ทำทุกวิถีทางเพื่อห้ามใจแบบไม่ต้องฝืนมาก

ข้อที่สอง ให้ตั้งใจคิดว่าไม่เอาแน่ๆ ไม่ทำแน่ๆ ไม่แม้แต่จะหยอกเล่น คิดสองสามครั้งแรกจะสั่งสมเป็นความเคยชิน ความเคยชินจะทำให้คุณรู้สึกห่างจากกระแสราคะผิดๆออกมาเรื่อยๆ กับทั้งปฏิเสธแรงขับดันของตนเองง่ายขึ้นเรื่อยๆ ขอให้ระลึกไว้ว่าถ้าทำตรงข้าม ปลูกฝังความเคยชินไว้ในทางมิชอบ คุณจะถลำลึกลงทุกทีและถอนตัวออกยากยิ่ง

ข้อที่สาม เมื่อใดเกิดอารมณ์ทางเพศกับเพื่อนร่วมงานของคุณ อย่ากัดฟันห้ามตัวเอง ให้ยอมรับตามจริงว่ามีอารมณ์เพศขึ้นมา การยอมรับตามจริง ไม่หลอกตัวเองว่าเป็นพระอิฐพระปูนไร้อารมณ์ จะทำให้ไม่เกิดแรงกดดัน ไม่เพิ่มแรงดันให้กับอารมณ์เพศโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ สำคัญคือให้ยอมรับว่าเกิดอารมณ์ แต่อย่าให้กายโอนอ่อนตามอารมณ์ก็แล้วกัน

เมื่อปฏิบัติทุกข้อบริบูรณ์ ยิ่งวันอารมณ์แบบปุถุชนจะยิ่งถอยห่างออกมา จนในที่สุดคุณเห็นเพื่อนร่วมงานแล้วจะรู้สึกเฉยๆ กลายเป็นความชินที่จะอยู่สองต่อสองโดยไม่ต้องเก็บกดอารมณ์เพศเอาไว้ เพราะมีปราการแห่งขันติและอุเบกขาสูงใหญ่ช่วยกั้นขวาง ไม่ให้เอื้อมมาแตะต้องกันโดยง่ายอยู่แล้ว

หากคุณผ่านด่านยากๆนี้ได้ ก็จะสบายใจว่าไม่ได้ทำเรื่องผิด ยิ่งนานเท่าไรขันติบารมียิ่งสูงขึ้นเท่านั้น คุณจะมีมโนธรรมแยกแยะผิดชอบชั่วดีได้ชัดขึ้น ห่างไกลจากนรกทางใจมากขึ้น แต่หากผ่านไม่ได้ คุณจะกระวนกระวายที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้กระทำความผิดติดตัวในเบื้องแรก พอชินแล้วก็จะสงบลงด้วยใจที่กระด้างแบบคนหน้าหนา ต่อไปขันติบารมีของคุณจะต่ำลงๆ กระทั่งอาจทำเรื่องผิดๆแล้วมาอุทานภายหลัง ว่านี่คุณทำอะไรลงไป

กรรมอันเกิดขึ้นร่วมกันระหว่างชายหญิง ถ้าทำทั้งรู้อยู่ว่าอาจบาดใจสามีหรือภรรยาของอีกฝ่าย กรรมนั้นจะย้อนกลับมาบาดใจกันและกันในภายหลังได้ คุณจะเจอคู่กรรมด้วยเรื่องทางเพศ หวังประโยชน์ทางเพศ แล้วบาดใจกันทางเพศอีกแล้วๆเล่าๆ

บอกใจตัวเองให้เลือกทางปลอดโปร่งและเยือกเย็นเถิดครับ อย่าเลือกทางรกชัฏและอบอ้าวเลย
บันทึกการเข้า

คนที่เข้มแข็งที่สุดก็ยังมีนาทีที่น้ำตาไหลริน
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><