25 พฤศจิกายน 2567, 19:34:50
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 13  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: * I N V E S T M E N T *  (อ่าน 167691 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ppornson
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,724

« ตอบ #50 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2551, 18:48:12 »

ไม่ค่อยรู้เรื่องเลยแฮะ..ไอ้เราก็ซื้อๆขายๆไปเรื่อย..ไม่ค่อยได้สนใจ..แต่ได้ความรู้ดี
บันทึกการเข้า
Apirat T.
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,357

« ตอบ #51 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2551, 09:37:29 »

อ้างจาก: "Max"
ตอนนี้ที่บริษัท

ออกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ตัวใหม่ครับ

ชื่อว่า พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟ็คครับ

return ประมาณ 7.5% ต่อปีครับ

ช่วงนี้เปิดให้จองซื้อครับ แต่ว่าไปรอซื้อช่วงเข้าตลาดหลักทรัพย์ก็ได้ครับ  Cheesy


งงจัง ขอรายละเอียดหน่อยแม็ค
ทำไมเค้าถึงคิดว่า ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ช่วงนี้แล้วจะดีอ่ะ

ตาแคม  :?  :?  :?
บันทึกการเข้า
Max
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,435

« ตอบ #52 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2551, 10:35:05 »

อ๋อ...ตัวนี้จะไม่เหมือนตัวอื่นๆ ล่ะตาแครม

คือ ตัวนี้เป็นเหมือนกองทุนรวมแบบหนึ่ง แต่ว่าจะสามารถซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้

ซึ่งปกติแล้วกองทุนรวมจะซื้อขายกันที่ บริษัทจัดการกองทุนรวมที่เค้า ตั้งกองทุนนั้นๆ ขึ้นมาน่ะ


ถ้าถามว่า ทำไมเค้าถึงลงคิดว่าลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ช่วงนี้ดี

เราคิดว่าคำถามตาแครมคงถามว่า ทำไมถึงคิดว่าลงทุนในหุ้นกลุ่มอสังหา ช่วงนี้ดีใช่เปล่าอ่ะ

อันนี้ไม่แน่ใจอ่ะ  อาจจะเป็นเพราะว่ารัฐบาลประกาศกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะพวกอสังหาอ่ะ

เพราะว่าการกระตุ้นทางภาคอสังหาริมทรัพย์แล้วจะทำให้ภาคอื่นๆ ได้รับการกระตุ้นไปด้วย

เช่นแรงงาน  ของตกแต่งบ้าน การขนส่ง ฯลฯ คือกระตุ้นอันนี้ทีเดียวแล้วได้ผลพวงเยอะน่ะ


ส่วนกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่นำเสนอ นี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการได้รับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องอ่ะ

ไม่เน้นขายเก็งกำไรเพราะผู้ลงทุนส่วนใหญ่มักจะถือกันนานไม่ค่อยขาย

ทำให้ราคาขายในตลาดหลักทรัพย์ไม่ค่อยขยับ ตามการเก็งกำไรน่ะ

ซึ่งมันก็ได้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูงน่ะ 7.5% ต่อปี  น่าสนนะ
บันทึกการเข้า
Apirat T.
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,357

« ตอบ #53 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2551, 08:02:11 »

ได้ไอเดียเรื่อง LTF/RTF มาจากพี่อาร์ตและน้องหลิม
ว่าจะลองเล่นดู

ในบอร์ดมีใครแนะนำอะไรหรือเปล่า
กะลังจะปิดแชร์หนึ่งวง จะได้เอาเงินไปลงทุนที่อื่นต่อ

ตาแคม  :wink:
บันทึกการเข้า
Max
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,435

« ตอบ #54 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2551, 09:39:44 »

ดีครับ LTF

แต่ถ้าสนใจออมตังค์ขั้นต่ำ เดือนละ 2,000 บาท

โดยเลือกลงทุนในกองทุนรวมอะไรก็ได้ที่บริษัทเรามีเปิดบริการ

ถ้าสนใจก็ลองเข้าไปดุรายละเอียดหน้าweb บริษัทเราก็ได้นะ  Cheesy
บันทึกการเข้า
ppornson
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,724

« ตอบ #55 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2551, 19:49:05 »

แล้วมาเปิดแชร์ในนี้กันดีมะ..กรูเป็นท้าวแชร์เอง..
บันทึกการเข้า
Max
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,435

« ตอบ #56 เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2551, 12:28:54 »

ตอนทำข้อสอบ Finance

มีการเอาเรื่องแชร์มาออกด้วยอ่ะ

ถามว่ามีกี่รูปแบบ แบบไหนให้ความเสี่ยงต่างกันยังไง บอกผลดีผลเสียมา

เสร็จเลย ....ไม่เคยเล่น
บันทึกการเข้า
Max
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,435

« ตอบ #57 เมื่อ: 04 มีนาคม 2551, 12:41:52 »

พอดีมีเสี่ย บางท่านโทรมาถามว่ามีเงินนิ่งๆ อยุ่หลายสตางค์

อยากลงทุน จะลงทุนอะไรดี  โดยสนใจการลงทุนในทองคำ จะดีไหม

อันนี้ผมว่ามันก็แล้วแต่การคาดการณ์นะ ต้องดูว่าที่ทองคำมันขึ้นเพราะว่า

อะไรด้วยมันอิงกับปัจจัยอะไร  ถ้า ณ ตอนที่เราจะขายแล้วปัจจัยนั้นนันลดลง

ก็จะทำให้ราคาทองทำลดลงด้วยอ่ะ (ตอนแรกคิดว่ามันจะซื้อทองคำเอาไปเป็นสินสอดอ่ะ)


แต่ที่จะแนะนำอันนี้ เป็นกองทุนรวมครับ

เอาตามความรู้ที่พอจะมี ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญอะไรนะครับ แบบพอรู้อ่ะ


กองทุนรวมคืออะไร  ?

          เอาคร่าว ๆ ก่อนนะครับ  กองทุนรวมคือ การลงทุนประเภทหนึ่งที่ มีการระดมเงินทุนกัน

ทั้งจากประชาชนทั่วไป และสถาบันการเงินระดมทุนกันมาลงทุนในสิ่งที่จะลงทุนโดยมีวัตถุประสงค์

เดียวกันครับ  เช่นต้องการลงทุนในหุ้นที่เสี่ยงมากๆ ลงทุนในตราสารหนี้ที่เสี่ยงน้อยๆ  เป็นต้น

ซึ่งจะสามารถหาอ่านข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนรวมได้ที่ สถาบันพัฒนาความรู้ตลาดทุนครับ

www.tsi-thailand.org

การซื้อกองทุนรวม ?

           ตอนจะไปซื้อกองทุนรวม  เราต้องถามตัวเราก่อนว่าเรามีวัตถุประสงค์แบบไหน

คือโดยมากจะวัดจากความเสี่ยงครับคือ เสี่ยงมาก,  เสี่ยงน้อย, ปานกลาง  ซึ่งเสี่ยงมาก

ก็ย่อมจะได้ return กลับมากมากตาม  เสี่ยงน้อยก็จะตรงข้ามกัน  อันนี้ก็อยู่ที่ใจล่ะครับ

ว่าต้องการแบบไหน  ซึ่งถ้าแบบไม่ได้ศึกษามาเลย กองทุนรวมที่เสี่ยงมากๆ

คือกองทุนรวมที่ลงทุนในตราสารทุน (หุ้นอย่างเดียว)  รองลงมาก็แบบผสม (หุ้นและตราสารหนี้)

แล้วก็เสี่ยงค่อนข้างน้อยก็เป็นกองทุนรวมตราสารหนี้   ซึ่งตราสารหนี้นั้นก็จะแบ่งระดับความเสี่ยง

ออกเป็นแต่ละระดับอีกครับ ซึ่ง สิ่งที่จัดได้ว่า เสี่ยงน้อยสุดคือ พันธบัตรรัฐบาล  เหตุที่จัดว่าเสี่ยง

ต่ำเพราะ การที่รัฐบาล ออกพันธบัตรมาให้เราถือ โดยเหมือนกับมากู้เงินเรา แล้วเราก็ได้ดอกเบี้ย

จากพันธบัตรที่รัฐบาลขายให้เรา  ถ้าประเทศเจ๊ง ก็เท่ากับว่าเราไม่ได้อะไรเลย เค้าเลยจัดว่า

ความเสี่ยงมันเป็นศูนย์ครับ บางทีเราก็จะได้ยินพันธบัตรรัฐบาลโดนเรียกว่า Gov bond บ้าง

Governtment bond บ้าง มันคืออันเดียวกันนะครับ  

             ซึ่งเราจะรู้ได้อย่างไรว่ามันเสี่ยงมากเสี่ยงน้อยขนาดไหน เราก็สมารถขอดู หนังสือชี้ชวน

ของกองทุนนั้นว่า เค้าจะลงทุนอะไร ....  เสี่ยงขนาดไหน....มีค่าธรรมเนียมอะไรบ้าง....

ซื้อ หรือ ขายคืน ได้ที่ไหน   ยังไงถ้าจะซื้อเราต้องขอดูตัวนี้ก่อนนะครับ


Return ?

            คราวนี้มาดูว่าถ้าเราจะลงทุนในกองทุนรวมเราจะได้ Return อะไรมาบ้าง

อันดับแรกนะครับ ก็จะได้เงินปันผล  ซึ่งเราต้องดูในหนังสือชี้ชวนเค้านะครับว่า

กองทุนนั้นมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไหม (อันนี้เราจะโดนภาษีนะครับเงินปันผล)

และอีกอย่างคือ ส่วนต่างของราคาตอนเราซื้อ กับตอนเราขายคือ  ซึ่งราคาตอนเราซื้อ

ต่อหน่วยลงทุน  เค้าจะเรียกกันว่า NAV หรือ Net Asset Value หรือ มูลค่าทรัพย์สิน

ต่อหน่วยลงทุน   สมมุติว่า เราซื้อกองทุนหมีน้อย ซึ่งมี นโยบายการลงทุนในหุ้นอย่างเดียว

แบบโคดเสี่ยงแต่ return ดีมากๆ ณ ตอนต้นปี ที่ 10 บาท ต่อหน่วยลงทุน ผ่านไปสัก

สองเดือน มูลค่าทรัพย์สินสุทธิมันเพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจาก ผู้จัดการกองทุนนั้นๆ บริหารดี

ราคากลายเป็น 14 บาท ต่อหน่วยลงทุน เวลาเราไปขายเราก็ได้ส่วนต่างที่ 4 บาทครับ

แต่เราสามารถถามได้เลยนะครับว่า Return มันประมาณกี่ % พวกพนักงานขายเค้า

จะบอกให้ได้ครับ  พวกนี้ต้องมีใบอนุญาตทางการเงินนะครับ

ส่วนการที่เราไปซื้อตามสาขา Bank นั้น ๆ ผมคาดว่าพนักงาน Bank เค้าไม่ได้มี

ใบอนุญาตพวกนี้นะ ถ้าให้ได้ โทรไปถามหรือว่าซื้อที่สาขาของบริษัทนั้นๆ เลยดีกว่าครับ

ได้ขอมูลที่ดีกว่าน่ะ


ใครเป็นผู้บริหารกองทุน?

           บริษัทที่ทำหน้าหน้าที่บริหารกองทุนนั้นๆ โดยมากมันจะมีชื่อนำหน้าว่า

บริษัทหลักทรัพย์จัดการ,   บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม, บลจ (บอลอจอ) ....

ชื่อจะแนวๆ นี้ครับ

ปัจจุบันมีทั้งหมด 21 แห่ง ซึ่งจะมี สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาด

หลักทรัพย์มากำกับดูแล อีกทีหนึ่งเพื่อให้เป็นไปตามหลักกฎเกณฑ์ครับ ทำผิดมีปรับ

มีโทษให้ครับ.....  ส่วนคนที่บริษัทกองทุนนั้น ๆ เค้าจะเรียกกันว่า ผู้จัดการกองทุน

หรือว่า Fund Manager ครับ พวกนี้นั้นจะมี ใบอนุญาต ทางการเงินครับแสดงให้เห็นว่า

มีความรู้ทางด้านการเงินที่ดีที่จะมาบริหารเงินของเราได้ ซึ่งใบอนุญาตตัวนี้จะมีแบบสากล

และแบบของไทยเราเองครับ แบบสากลเรียกว่า CFA ครับ ส่วนแบบไทยเรียกว่า ซีซ่า ครับ

CISA  ซึ่งทั้งหมดจะมี 3 Level ด้วยครบ Level 3 นั้น นับหัวได้ในเมืองไทยครับ

ซึ่งกองทุนรวมนั้นถือได้ว่าเป็นนิติบุคคล อีกบุคคลหนึ่งครับ หากว่าบริษัทจัดการเจ๊งบ๊งไป

กองทุนที่เราลงทุนนั้น ก็ไม่ได้เจ๊งตามไปด้วยนะครับ แต่ว่าจะถูกเปลี่ยนไปบริหารโดยที่อื่นแทน


จะเลือกซื้อที่ไหน?

              เมื่อได้ ความเสี่ยงที่ต้องการ ประเภทที่ต้องการแล้ว  ก็มาดูว่าจะซื้อของ

บลจ. ไหนดีครับ  ก็บอกว่าแล้วแต่สะดวกครับ เพราะว่าแต่ละที่ก็จะมีผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

ที่แตกต่างกันออกไป เก่งไปคนละแบบครับ แต่ทั้งนี้ต้องดูนะครว่า เค้าอำนวยความสะดวก

ในการให้ข้อมูลเราขนาดไหน ถูกต้องไหมนะครับ



** แค่นี้ก่อนแล้วกัน  ใครมีไรลองถามๆ มาดูนะครับเผื่อตอบได้อ่ะ จะได้มาลงทุนกันอ่ะครับ**

** ชาร์ปมีอะไรแชร์ไหม**
บันทึกการเข้า
Mr.EggMan
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,826

« ตอบ #58 เมื่อ: 10 มีนาคม 2551, 22:05:52 »

หวัดดีครับ พี่น้อง

พอดีตอนนี้พอมีเงินเหลือเก็บบ้างครับ เลยยสนใจจะลงทุนคร้าบ ฝากธนาคารแล้วท้อใจคร้าบ
ไม่ทราบว่าพอจะแนะนำได้ไหมครับ ส่งรายละเอียดมาที่ jakkreepan@hotmail.com ได้เลยครับ

 :lol:

คนตังค์เหลือ
บันทึกการเข้า

jakkreepan@hotmail.com
Love is in the A...I...R......H
Max
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,435

« ตอบ #59 เมื่อ: 11 มีนาคม 2551, 18:57:30 »

ไข่แล้วโดนภาษีเยอะเปล่า

ถ้าโดนภาษีเยอะ ก็ให้ไปลงทุนพวก LTF น่ะ แต่ต้องลงทุน 5 ปีนะ

(เงินต้องเย็นนะ ไม่ได้รีบใช้ไปขอสาวอ่ะ)

แล้วรับความเสี่ยงได้ขนาดไหน Huh?

 Cheesy

เพื่อนๆ ครับ

จะมีหุ้น ชื่อ PFFUND เข้าตลาดหลักทรัพย์วันที่ 20/3/51 นี้นะครับ

อยู่ในหมวดอสังหาริมทรัพย์  (กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค)

Return ประมาณ 7-8 % ต่อปี การันตี 5 ปีครับ

แต่ว่าสภาพคล่องมันจะต่ำมากๆ น่ะครับ คือว่าซื้อแล้วต้องถือยาว

ด้วย มันไม่ค่อยมีคนซื้อขายกันในตลาดหลักทรัพย์ครับ

เพระว่าจะเน้นเอาปันผลกัน  ถ้าสนใจก็ลองหาๆ ดูเผื่อมีคนขาย

ราคาตอนวันจองอยู่ที่ 10 บาทครับ แต่ว่าตอนวัน IPO

(Initial Public Offering) (วันที่เปิดซื้อขายวันแรก)

ในตลาดหลักทรัพย์อาจต่ำกว่านั้นครับ  ปันผลปี 2 สองครั้งครับ
บันทึกการเข้า
Mr.EggMan
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,826

« ตอบ #60 เมื่อ: 11 มีนาคม 2551, 20:41:01 »

อ้างจาก: "Max"
ไข่แล้วโดนภาษีเยอะเปล่า

ถ้าโดนภาษีเยอะ ก็ให้ไปลงทุนพวก LTF น่ะ แต่ต้องลงทุน 5 ปีนะ

(เงินต้องเย็นนะ ไม่ได้รีบใช้ไปขอสาวอ่ะ)

แล้วรับความเสี่ยงได้ขนาดไหน Huh?


ตอนนี้เราทำงานที่นี่ ต้องเสียภาษีให้ที่นี่ แต่รายได้เราที่ได้ไม่เกี่ยวกับภาษ๊ ทางบริษัทเค้าแยกจ่ายให้ต่างหาก
เราก็เลยกำลังลังเลว่า จะเล่นกองทุนรวมดีไหม ถ้าเราหักภาษีไม่ได้ ตอนนี้ก็ดูรายละเอียดของพวกพันธบัตร กับตราสารหนี้อยู่ แต่ยอมรับเลยว่า งงชะมัด แต่ตอนนี้เจอความผันผวนของเงิน ก็แย่แล้ว เหมือนเงินเราลดลงๆเรื่อย เลยอยากจะปรึกษาว่า ทำอย่างไร
จริงๆ เราสามารถแยกส่วน ที่เป็นเงินเย็นได้ เงินร้อนได้น่ะ รบกวนแนะนำแล้วกัน ว่าไปหาศึกษาข้อมูลที่ไหน พอดีเราไปตามอ่านที่พวกนายแปะๆไว้ มัน advance เกินเลยงง

ขอบคุณมากครับ
บันทึกการเข้า

jakkreepan@hotmail.com
Love is in the A...I...R......H
Mouy (Again)
มือใหม่หัดเมาท์
*

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 150

« ตอบ #61 เมื่อ: 11 มีนาคม 2551, 22:25:08 »

เอ... รู้สึกว่าแต่ละประเทศจะมีวิธีการลงทุนที่ต่างกันนะ ว่าแต่ไข่จะลงทุนที่ประเทศไหนล่ะ... อย่างพี่บางคนที่อยู่ออสเตรเลีย เค้าก็ไปลงทุนทองคำนะ... กฎหมายและการส่งเสริมการลงทุนของแต่ละประเทศไม่เหมือนกันน่ะ... อย่างบ้านเราต้องการให้คนเอาเงินมาฝากเข้ากองทุนรวมเยอะๆ ก็เลยมีกฎหมายในเรื่องของการลดหย่อนภาษี ดังนั้น ศึกษาให้ดีก่อนการลงทุน..แหะๆๆ.. ได้ช่วยไหมเนี๊ยะ... :shock:
บันทึกการเข้า
Mr.EggMan
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,826

« ตอบ #62 เมื่อ: 12 มีนาคม 2551, 01:13:08 »

อืม น่าคิดครับพี่ ผมไม่เคยลองศึกษาของที่นี่เลยว่าเป็นไง ต้องลอง จริงๆผมตั้งเป้าจะเอาเงินกลับไปลงทุนที่เมืองไทยอย่างเดียว ขอบคุณครับ จะลองศึกษาทางนี้ดู

แหม นี่น่าจะเชื่อแม่แต่แรก หาแฟนเรียนบัญชี ป่านนี้รวยไปแล้น
 :lol:
บันทึกการเข้า

jakkreepan@hotmail.com
Love is in the A...I...R......H
BeKamon
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 235

« ตอบ #63 เมื่อ: 12 มีนาคม 2551, 08:47:38 »

อ้างจาก: "Mr.EggMan"


รบกวนแนะนำแล้วกัน ว่าไปหาศึกษาข้อมูลที่ไหน พอดีเราไปตามอ่านที่พวกนายแปะๆไว้ มัน advance เกินเลยงง

ขอบคุณมากครับ


มาแนะนำแหล่งข้อมูลในการลงทุน

ช่วงนี้ตลาดหลักทรัพย์เขาทำ SET Corner แจกให้กับห้องสมุดหลายๆ แห่งรวมทั้งห้องสมุดที่ทำงานอยู่ด้วยค่ะ

มีหนังสือหลายๆ เล่มที่เกี่ยวกับการลงทุน ถ้ากลับมาบ้านเราว่างๆ ก็มาใช้ห้องสมุดได้นะ (สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น ซ.พัฒนาการ 37)

หรือจะเข้ามาทางอินเทอร์เน็ต ก็มี E-Learning ในเว็บห้องสมุด http://library.tni.ac.th

แล้วคลิกที่ TSI E-Learning ค่ะ จะมีข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน หุ้น และการออมเงิน เชิญชวนให้ช่วยใช้หน่อยนะคะ หวังว่าคงเป็นประโยชน์ได้บ้าง :wink:
บันทึกการเข้า

Something might change, but something never changes. (The Matrix Revolution)
Max
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,435

« ตอบ #64 เมื่อ: 12 มีนาคม 2551, 10:07:08 »

อ้างจาก: "Max"
พี่ก็ไม่รู้ว่าถือเป็นการ Financing หรือเปล่าอ่ะ

แต่ถ้าใจเย็นพอ แล้วมาลงทุน แบบลองเทอมด้วย ก็ลองอ่านนี้นะ

พี่ว่าผลตอบแทนมันโอเค เลยอ่ะครับ

"พลังของการถือหุ้นไว้เฉยๆ"

เชื่อว่านักลงทุนทุกท่านคงเคยได้ยินกองทุนรวมประเภท Index Fund มาบ้าง

กองทุนประเภทนี้มีวิธีการลงทุนที่แปลก กล่าวคือ ซื้อหุ้นทุกตัวที่เป็นองค์ประกอบของดัชนีหุ้นอะไรสักอย่างแบบปูพรมคือซื้อทุกตัวแล้วก็ถือมันไว้เฉยๆ อย่างนั้นโดยไม่บริหารจัดการ ถ้ามีใครมาซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มก็เอาเงินที่ได้ไปซื้อหุ้นในดัชนีเพิ่มแบบปูพรมในวันนั้นทันทีอีกโดยไม่มีการรอจังหวะที่เหมาะสม ถ้าได้รับเงินปันผลจากหุ้นที่ลงทุนมาก็เอาเงินที่ได้นั้นกลับไปซื้อหุ้นเดิมอีกเช่นกัน

คุณว่านโยบายการลงทุนแบบนี้จะทำผลงานได้ดีแค่ไหน?

เผอิญว่าในตลาดหุ้นไทยมีกองทุนแบบนี้อยู่ด้วย นั่นคือ กองทุนรวมทหารไทย SET50 ซึ่งลงทุนในหุ้นทั้ง 50 ตัวที่อยู่ในดัชนี SET50 Index แบบปูพรม ปรากฏว่าผมเพิ่งไปเช็คมาหมาดๆ ผลตอบแทนรวมตลอด 3 ปีที่ผ่านมาของกองทุนนี้เท่ากับ 48.34% (ผลตอบแทนรวมตลอด 1 ปีที่ผ่านมาเท่ากับ 20.94%)



ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยเจอทั้ง ซึนามิ ไข้หวัดนก สถานการณ์ภาตใต้ รัฐประหาร มาตรการ 30% และระเบิดกลางกรุง แต่การถือหุ้น "ไว้เฉยๆ" โดยไม่พยายามขายหนีความเสี่ยงมาถือเงินสดไว้ชั่วคราว หรือพยายาม BLASH ให้ได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น กลับทำผลงานได้ถึง 48.34% หรือเพิ่มขึ้นมาเกือบครึ่งหนึ่งของพอร์ตเลยทีเดียว เห็น "พลังของการถือหุ้นไว้เฉยๆ" มั้ยครับ การถือหุ้นไว้เฉยๆ นั้นจริงๆ แล้วไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ในระยะสั้นราคาหุ้นอาจผันผวนบ้างตามข่าวที่เข้ามากระทบ แต่ในระยะยาวแล้วราคาหุ้นจะขึ้นไปตามกำไรที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นของธุรกิจ

แล้วลองเปรียบเทียบกับผลงานของพอร์ตแบบซื้อๆ ขายๆ ของคุณดูสิครับ ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา คุณสร้างผลตอบแทนโดยรวมได้สักเท่าไร?  

copy from http://api.settrade.com/blog/1001ii/2007/06/13/70


เพื่อนไข่ ลองอ่านอันนี้ดูนะ

คือเราเข้าใจนะว่ามันจะแบบ งงๆ  แล้วมันก็มีความรู้สึกกลัวผสมด้วย

เพราะมันคือการลงทุน เอาเงินเราไปลงทุน

เอาอย่างนี้อยากให้ลองจัดพอร์ตของเราก่อนว่าเราจะเอาตราสารหนี้เท่าไหร่

ตราสารทุนเท่าไหร่ เคยมีอาจารย์บอกว่าให้คิดง่ายๆ เหมือนจัดทีมฟุตบอล

อยากได้ยิงเยอะๆ ก็ศูนย์หน้าเยอะหน่อย 4-3-3  ถ้าแบบ ไม่เสี่ยงก็กองหลังเยอะหน่อย

ไว้เจอกันจะเอาหนังสือเล่มนี้ให้แล้วกัน

- ลองจัดความต้องการของตัวเองดูนะว่าจะเอาแบบไหน 60-40  หรือ 50-50

คือความเห็นเรานะอายุเรายังน้อย ควรแบบเสี่ยงๆ ก่อน 70-30 หรือ 60-40 ก็ดีนะ

ตราสารทุน-ตราสารหนี้

- ตราสารทุนเราอยากแนะนำ พวก Index Fund ตามที่เราเอามาให้อ่านข้างบนน่ะ

คือมันจะขึ้นลงผันผวนตามดัชนีของตลาดหลักทรัพย์น่ะ เราก็ลงกองประเภทนี้อยู่น่ะ

โดยเราให้บริษัทหักจากเงินเดือนเอาไปลงกองทุน ประเภทนี้เลย ซึ่งในเมืองไทย

มักจะมีชื่อว่า Set50 น่ะ  เราว่า return มันดีทีเดียว

- Set50 คือการที่ตลาดหลักทรัพย์คัดเลือกหุ้นในตลาดหลักทรัพย์

ที่มีสภาพคล่อง การซื้อขายที่บ่อยๆ จำนวน 50 ว่ามีตัวอะไรบ้างน่ะ จะมีการจัดลำดับทุก

ครึ่งปีมั้งถ้าจำไม่ผิด ถ้าจะลงทุนพวกนี้ก็ลองถามๆ แต่ละที่ว่า return เท่าไหร่

แล้วลองพิจารณาดู

- ส่วนตราสารหนี้กองพวกนี้ return จะไม่สูงมากนัก มีแบบรับประกันเงินต้นด้วย

แต่ว่าก็ต้องยอมรับกับผลตอบแทนที่ต่ำอ่ะ ต้นมันก็สนใจกองนี้อยู่

- ยังไง ลองดูที่ของตุรกี น่าจะมีพวกบริษัทที่เป็น Fund  หรือ Asset Management

อยู่น่ะ  ลองถามๆ หากองทุน Set50 ดูเพราะว่าน่าจะคล้ายๆ กันล่ะ หนังสือหรือทฤษฎีการลงทุน

มันก็เรียนๆ เล่มเดียวกันน่าจะไม่ต่างกันมากนักล่ะ
บันทึกการเข้า
ชาร์ป
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,119

« ตอบ #65 เมื่อ: 12 มีนาคม 2551, 14:01:26 »

ที่ยุโรป ระวังเรื่อง suprime ที่เกิดจากสหรัฐ ด้วยนะครับ

....

ผมมีบทความมาให้อ่าน ...

สหรัฐขย่มโลก
 
11 มีนาคม พ.ศ. 2551 00:00:00
 

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งอย่างหนักอีกครั้งในการซื้อขายเมื่อวานนี้ (10 มี.ค.) ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นไทยที่ร่วงไป 14.92 จุด ด้านหนึ่งอาจจะมองเป็นภาวะการเก็งกำไร ข่าวเศรษฐกิจสหรัฐเป็นระยะ แต่หากมองย้อนกลับไป จะบอกเราในตัวแล้วว่าปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐหนักหนากว่าที่คาดไว้มาก และที่ผ่านมา นักธุรกิจ นักลงทุนในตลาดหุ้น หรือรวมถึงนักเศรษฐศาสตร์บางกลุ่ม "มองดี"

โดยเชื่อว่ารัฐบาลสหรัฐสามารถที่จะจัดการปัญหาได้ เพราะเป็นแหล่งที่ระดมผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจ การเงิน แถมมีนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ ในฐานะที่เป็นศูนย์กลางของทุนนิยมโลก แต่เมื่อดัชนีสำคัญเศรษฐกิจสหรัฐถูกประกาศออกมา จะเห็นว่าเอาเข้าจริงแล้ว ภาพที่สวยงามของสหรัฐ เป็นแค่ "มายา" ที่ถูกหยิบมาเพื่อลวงตาชาวโลก โดยเฉพาะนักลงทุนที่หลงเป็นเหยื่อของการเก็งกำไร ที่ถูกปล่อยข่าวดีมาเป็นระยะ เพื่อเป็นเงื่อนไขล่อให้นักลงทุนเข้ามา ก่อนที่จะเทขายหุ้นในช่วงหลัง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง

วานนี้ (10 มี.ค.) ดัชนีนิกเคอิในตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดปรับลงต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ลดลง 1.96% ส่วนหนึ่งเพราะได้รับผลจากการตกลงของหุ้นโซนี่ คอร์ป และหุ้นกลุ่มส่งออก ขณะที่ข้อมูลตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐลดลงกว่า 6 หมื่นตำแหน่ง ทำให้วิตกว่าสหรัฐอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว ตลาดหุ้นจีนที่เซี่ยงไฮ้ เมื่อปิดตลาดดัชนีคอมโพสิตทำสถิติตกต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ร่วงลง 3.59% ตลาดหุ้นอินเดียดิ่งลงกว่า 3% หรือลดลง 494.28 จุด ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ดัชนีร่วงลง 38.80 จุด หรือ 2.33% เมื่อปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 1,625.17 จุด

ส่วนตลาดหุ้นมาเลเซียมีความพิเศษกว่าประเทศอื่นๆ เพิ่มเติม เพราะนักลงทุนตื่นกลัวพากันถอนตัว และกังวลกับผลการเลือกตั้ง เมื่อพรรคร่วมรัฐบาลพ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 50 ปี ทำให้ต้องหยุดพักซื้อขาย 1 ชั่วโมง หลังดัชนีดิ่งลงถึง 10% ตลาดหุ้นออสเตรเลียดัชนีปิดตลาดปรับลดลง 1.6% ตลาดหุ้นนิวซีแลนด์ปิดตลาดดัชนีลดลง 0.60% ตลาดสำคัญในยุโรปพากันปรับลดลงถ้วนหน้า

ปรากฏการณ์หุ้นดิ่งทั่วโลก เป็นการบ่งชี้ว่าปัญหาซับไพร์มในสหรัฐ ได้ขยายในวงกว้างและลงลึกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากธนาคารขนาดใหญ่ทั้งในสหรัฐและยุโรป มียอดขาดทุนสูงกว่าที่คาดการณ์ รวมถึงสภาพคล่องระหว่างธนาคารในยุโรปตึงตัว และอาจลามสร้างความเสียหายให้กับสถาบันประกันความเสี่ยงหุ้นกู้ ที่สำคัญ อาจจะเห็นธนาคารขนาดเล็กในต่างประเทศล้มละลาย "นำร่อง" ในไม่ช้า ซึ่งจะเป็นสัญญาณวิกฤติขั้นสุดท้ายของปัญหาซับไพร์ม

ซึ่งเมื่อบวกกับปัจจัยราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นปิดเหนือบาร์เรลละ 105 ดอลลาร์ จะยิ่งซ้ำเติมให้เศรษฐกิจทั่วโลกย่ำแย่ลงไปอีก เหตุผลหลักที่ปัญหาซับไพร์มยากแก่การยุติแถมขยายไปสู่สินเชื่อประเภทอื่น เพราะมาตรการด้านภาษีที่รัฐบาลสหรัฐคลอดออกมานั้น เป็นเพียงการบรรเทาปัญหาของประชาชน ที่ถูกยึดบ้านกันถ้วนหน้า แต่แก่นแท้ของวิกฤติมีความคล้ายคลึงกับปี 2540 ของไทย เพราะหัวใจอยู่ที่ "ภาคสถาบันการเงิน" ที่มีปัญหาเรื่องทุน ซึ่งการแก้ต้องมีการเพิ่มทุนกันจำนวนเงินมหาศาล

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มทุนในภาคสถาบันการเงินสหรัฐจะสำเร็จได้ ภาครัฐต้องมีส่วนเข้าเพิ่มทุน เช่นที่รัฐบาลไทยปฏิบัติผ่านกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เมื่อปี 2540 ซึ่งเมื่อพิจารณาจากวัฒนธรรมสหรัฐและประเทศอยู่ในช่วงเลือกตั้งด้วยแล้ว ถือว่า "ยากมาก" เพราะโดยธรรมชาติประชาชนสหรัฐจะเข้าใจตรงกันว่า หากเอกชนบริหารขาดทุนแล้ว ต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเอง รัฐบาลไม่ควรนำภาษีประชาชนไปอุ้มสถาบันการเงิน

ดังนั้น จึงไม่มีนักการเมืองรายใดเสนอเป็นนโยบายเพื่อแก้ปัญหาแม้จะรู้ต้นตอก็ตาม ส่วนความคาดหวังที่จะให้นักลงทุนจากญี่ปุ่น สิงคโปร์ หรือตะวันออกกลางเข้ามาทุ่มเม็ดเงินให้นั้น ในระยะสั้นคงยาก เพราะไม่มั่นใจว่า "ความเสียหายจะยุติเมื่อไร" หากเร่งเพิ่มทุนเข้าไปอาจจะสูญเสียได้อีก ดังนั้น จึงเลือกที่จะรอมากกว่า ดังนั้น ปรากฏการณ์วิกฤติในสหรัฐ สิ่งที่รัฐบาลไทยต้องทำ คือบอกความจริงให้ประชาชนและนักลงทุนรู้ว่าปัญหานั้นรุนแรงแค่ไหน และประเทศต้องเตรียมพร้อมอย่างไร โดยเฉพาะผลกระทบต่อส่งออก ขณะเดียวกันต้องหันมาเน้นการบริโภคภายในประเทศ การลงทุนภาครัฐมากขึ้น แต่ทั้งนี้ ก็เป็นเพียงชะลอผลกระทบ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยฝากชะตากรรมกับการส่งออกมานานเกินจะแก้ในระยะสั้นได้
 

.....


อ่านก็เก็บเป็นประเด็นมาคิดครับ  อย่าเพิ่งเชื่ออะไร ...


.....


เรื่องการลงทุน  ผมถนัดหุ้นมากกว่าครับ เลยไม่ค่อยสนใจกองทุนเท่าไรนัก เพราะ ไม่ค่อยเชื่อใจผู้ริหารกองทุนเท่าไรนัก แถม บางอย่าง หุ้นดีแต่ขนาดเล็ก บริษัทกองทุนก็ไม่สามารถไปซื้อได้เพราะ มีข้อจำกัด กฎบังคับอยู่ ....

ถ้าเรื่องลงทุนในหุ้น  ผมแนะนำให้อ่านหนังสือ ของ ดร.นิเวศน์  ครับ
เริ่มต้นผมเริ่มอ่านเรื่อง  ตีแตก ... ได้ idea มาอะเลยครับ

....

การลงทุนที่ได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดคือ ทำธุรกิจ เองครับ ... ส่วนเรื่องความเสี่ยง ก็ขึ้นอยู่กับว่าเรารู้แค่ไหน

....

แต่ถ้าสำหรับเราคนฐานะปานกลาง  น่าจะมีแผนการใช้เงิน และ มองยาวไปอีก 10 ปี เป็นอย่างน้อย

เช่น เราต้องการใช้เงินเดือนละ 10000 บาท ... ถ้าเราอยากมีอิสระทางการเงิน ก็ดูว่า จะถือทรัพย์สินอะไรที่ ให้ดอกเบี้ยหรือปันผล เดือนละ 10000 (ปีละ 1.2 แสน)

ถ้า พันธบัตร ให้ผลตอบแทน 5%  ... เราก็บอกว่า มีพันธบัตร  อยู่ 2.4 ล้านบาทก็ ok แล้ว

คราวนี้ค่อยมาคิดต่อไปว่า จะทำอย่างไร ให้มีทรัพย์ สิน(พันธบัตร)ที่  2.4 ล้าน

ก็มาพิจารณาผลตอบแทนในการลงทุน  ...แบบปีต่อปี ไปเรื่อย ๆ ว่า เราควรจะมีผลตอบแทนปีละเท่าไร และให้ทบต้นไปเรื่อย ๆ

....

..

ส่วนเรื่องกองทุน ... ผมคงเสนอว่า ดูผู้บริหารกองทุน แนวทางที่กองทุนลงทุน  ทรัพย์สอนของกองทุน อย่าเพิ่งไปดูเฉพาะ ผลตอบแทนที่เกิดในอดีตอย่างเดียวครับ

...
บันทึกการเข้า
Max
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,435

« ตอบ #66 เมื่อ: 12 มีนาคม 2551, 17:20:26 »

ถ้าไม่มีเวลาศึกษาข้อมูลมากนัก

ก็มาลงกองทุนรวมครับ  บริษัทผมก็ได้  Cheesy

เพราะถ้าเล่นหุ้นเอง  เราก็ต้องกระจายพอร์ตเป็นเพื่อกระจายความเสี่ยง

ยังไงถ้าจะลงหุ้น ....ผมก็ยังเชียร์ให้ลง กองทุนรวมประเภท Index Fund

หรือ Set50 ครับ  พอมีความรู้สักพักแล้วค่อยไปเล่นหุ้นเองครับก็ได้ครับ

เพราะยังไงข่าวสาร ความน่าเชื่อถือของแหล่งข่าว การตัดสินใจ

สิ่งเหล่านี้ถ้าเล่นหุ้นเองผมไม่รู้นะว่าจะเข้าถึงได้ขนาดไหน

ใช้บริการมืออาชีพ ก็ดีนะครับ  Cheesy

** ชาร์ป สนใจ Property Fund ไหม Yield ดีนะ  :wink:
บันทึกการเข้า
Mr.EggMan
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,826

« ตอบ #67 เมื่อ: 12 มีนาคม 2551, 18:33:25 »

ขอบคุณทุกๆคนมากครับ

ผึ้ง (แหมชื่อนี้แสลงใจ)

ขอบคุณมากเหมาะสำหรับมือใหม่อย่างผมมาก จะรีบให้จบหลักสูตรไวไว

Max and Sharp

ขอบใจหลายๆ เราเห็นภาพชัดเจนขึ้นมากแล้วจะรีบอ่านและทำความเข้าใจ ไม่เกินอาทิตย์คงจะมีอะไรมาคุยด้วยแน่นอน

ป.ล. Max ไว้เรากลับเมืองไทย (คงประมาณ เม.ย.นี้) อาจจะได้คุยกันละเอียดๆ ว่าแต่เปลี่ยนเบอร์รึป่าว เราเคยได้มาจากต้น

 Cool
บันทึกการเข้า

jakkreepan@hotmail.com
Love is in the A...I...R......H
ppornson
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,724

« ตอบ #68 เมื่อ: 12 มีนาคม 2551, 18:54:41 »

อูย..มีแต่รวยๆไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไรกันทั้งนั้นเลย...แบ่งๆมาให้แถวๆนี้ลงทุนบ้างก็ได้นะ
บันทึกการเข้า
หลิม 81
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,840

« ตอบ #69 เมื่อ: 13 มีนาคม 2551, 10:17:26 »

ถ้าเหลือเยอะแนะนำทำธุรกิจกับน้าแครมครับ


ไม่ยาก ขึ้นดอย รับเด็ก ส่งเด็ก รับตังค์...ง่ายมั้ยครับ



การลงทุนมีความเสี่ยง.... :lol:  :lol:
บันทึกการเข้า

@ ปีนี้ปีของผม @
Apirat T.
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,357

« ตอบ #70 เมื่อ: 09 เมษายน 2551, 08:00:34 »

ถึง น้องหลิม เพื่อนแม็กซ์ และทุกๆ ท่าน
ช่วงนี้มีไรเด็ดๆ ซักตัวไหม๊
เงินกะลังร้อน

ตาแคม
บันทึกการเข้า
Max
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,435

« ตอบ #71 เมื่อ: 09 เมษายน 2551, 09:49:22 »

น้าแคม การลงทุนมีความเสี่ยง....

ช่วงนี้ลองดูเป็นพวกกองทุนรวมที่คุ้มครองเงินต้นก็ได้นะ

แล้วดูว่า ผมตอบแทนกี่ % อายุการลงทุนกี่เดือน เพราะมันจะถอนออกมาก่อนกำหนดไม่ได้

ดูว่าจะใช้เงินช่วงไหน

เห็นว่ามีออกมากันเรื่อยๆ ของแต่ละ บริษัทจัดการกองทุนรวมน่ะ

ซึ่งเค้าจะเงินนี้ไปลงทุนที่หลากหลายเช่น พันธบัตรรัฐบาล, ทองคำ ฯลฯ

ลองดูนะ

** ไปทำรายมาอ่ะ ได้เงินมาเยอะ  Cheesy
บันทึกการเข้า
Max
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,435

« ตอบ #72 เมื่อ: 17 เมษายน 2551, 16:14:08 »

มีบทความเกี่ยวกับ Asset Allocation มาให้อ่านครับ

สำหรับเสี่ยๆ ที่ไม่รู้จะจัดการกับเงินที่มีมาก ล้นอย่างไรอ่ะ

ตอนที่1

http://www.one-asset.com/ThailandMutualFund/ETF/Education_t.asp?EduID=38

ตอนที่ 2

http://www.one-asset.com/ThailandMutualFund/ETF/Education_t.asp?EduID=39

ตอนที่ 3

http://www.one-asset.com/ThailandMutualFund/ETF/Education_t.asp?EduID=40
บันทึกการเข้า
Max
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,435

« ตอบ #73 เมื่อ: 10 มิถุนายน 2551, 11:30:18 »

ใครซื้อ LTF ไว้

ทยอยซื้อ ถัว ไว้ก็ดีนะครับ

น่าจะหลุด 800 แล้วครับ  Cheesy
บันทึกการเข้า
Sleepy
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 46

« ตอบ #74 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2551, 07:24:04 »

ถามหน่อยเด่ะ Max ตอนนี้ราคาทองเป็นไงว่ะยังน่าเล่นป่าวอ่ะ ปกติที่นี่(ฮ่องกง) เพื่อนๆมันเล่นทองกัน เล่นค่าเงินบ้าง Fund ไม่ค่อยมีเพราะมันค่อนข้างนาน เล่นหุ้นมีบ้าง(แต่ขี้เกียจนั่งเฝ้าอะ แล้วก็ไม่ค่อยรู้พื้นฐานหุ้นที่นี่อะ บทวิเคราะห์หุ้นก็อ่านไม่ออก)
บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 13  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><