ขอบายเรื่องชกครับ ผมไม่ชอบความรุนแรง อิ อิ
ลองเขามาครับพี่หนุงหนิง
ตามนี้
หุ้นกู้ก็คือตราสารที่บริษัทต่างๆออกเสนอขายให้ผู้ลงทุนเพื่อต้องการกู้ยืมเงินครับ ผู้ถือหุ้นกู้หรือผู้ลงทุนในหุ้นกู้ก็คือเจ้าหนี้ของบริษัท ได้รับผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย หุ้นกู้จะมีกำหนดอายุที่แน่นอน กำหนดวันจ่ายดอกเบี้ยที่แน่นอน และอาจมีระบุเงื่อนไขปลีกย่อยอื่นๆอีก ความเสี่ยงการลงทุนในหุ้นกู้ที่สำคัญที่สุดก็คือความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับเงินต้นคืนถ้าผู้ออกหุ้นกู้ผิดนัดชำระหนี้ ในหนังสือข้อสนเทศการเสนอขายหุ้นกู้จะมีรายละเอียดสิ่งที่ผู้ออกหุ้นกู้สัญญากับผู้ลงทุนว่าจะปฏิบัติอย่างไรตลอดอายุของหุ้นกู้ เช่น รักษาสัดส่วนของหนี้สินต่อทุนไว้ไม่เกินกี่เท่า จ่ายเงินปันผลได้ไม่เกินเท่าไร เป็นต้น
การลงทุนในหุ้นกู้ก็เหมือนกับการปล่อยกู้ ซึ่งเราต้องวิเคราะห์ความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ก่อน นอกจากนี้กฎหมายยังบังคับให้ผู้ออกหุ้นกู้จัดให้มีการประเมินอันดับเครดิตโดยผู้จัดอันดับความน่าเชื่อถือ ข้อมูลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจะช่วยให้ผู้ลงทุนสะดวกขึ้นที่จะประเมินความเสี่ยง อันดับเครดิตกลุ่มใหญ่ที่เรียงลำดับจากดีที่สุดไปดีน้อยลงคือ AAA, AA, A, BBB, BB, B, CCC, CC.....ไปเรื่อยๆจนถึง D โดยปกติหุ้นกู้ที่มีคุณภาพดีควรจะมีอันดับเครดิต BBB ขึ้นไป ในแต่ละกลุ่มใหญ่ๆข้างต้นยังแบ่งย่อยได้โดยใช้เครื่องหมาย + กับ - เพื่อแยกอันดับความน่าเชื่อถือให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เช่นในกลุ่ม A ก็จะมีได้ 3 อันดับคือ A+, A, A- โดยเรียงจากดีไปดีน้อยลง
อันดับเครดิตที่ดี แข็งแรง ก็หมายความว่าความเสี่ยงในการเบี้ยวหนี้จะต่ำ แต่ผลตอบแทนของหุ้นกู้ก็จะต่ำกว่าเมื่อเทียบกับหุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับบริษัทที่มีเครดิตด้อยกว่า
การลงทุนในหุ้นกู้ของผู้ลงทุนรายบุคคล จะต้องติดต่อซื้อขายผ่านดีลเลอร์ค้าตราสารหนี้ ซึ่งส่วนใหญ่คือธนาคารพาณิชย์ กับบริษัทหลักทรัพย์รวม 46 รายที่เป็นสมาชิกศูนย์ซื้อขายตราสารหนี้ไทย (TBDC) ซึ่งสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซด์ ของ TBDC คือ
http://www.thaibdc.or.th/ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยยังเปิดให้มีการซื้อขายตราสารหนี้สำหรับรายย่อยผ่านระบบอิเลคทรอนิคส์ด้วยสำหรับหุ้นกู้บางบริษัทฯ แต่ไม่ค่อยแอคตีฟนักในปัจจุบัน แต่ในอนาคตคงจะดีขึ้นเพราะรัฐบาลมีนโยบายรวมศูนย์การซื้อขายไปไว้ที่ตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งคงใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
ส่วนใหญ่การลงทุนในหุ้นกู้มักเป็นการซื้อขายกันระหว่างลูกค้าสถาบัน เพราะหุ้นกู้โดยทั่วไปจะดีลกันเป็นวงเงินใหญ่ๆ 10 ล้านขึ้นไป การซื้อขายออเดอร์เล็กๆมักทำยากและราคาไม่ดี ผู้ลงทุนทั่วไปจึงมักลงทุนในหุ้นกู้ผ่านกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นกู้แทนการลงทุนโดยตรง เพราะไม่ต้องใช้เงินมากแล้วก็มีสภาพคล่อง รวมทั้งไม่ต้องเสียภาษีด้วยครับ