รู้แล้ว .... อิ อิ
TEAMออเดอร์กระฉูด คาดพลิกฟันกำไรบาน
ทันหุ้น – TEAM คืนสังเวียน พื้นฐานแกร่งพ่วงสัญญาณเทคนิคสวย นักวิเคราะห์ประเมินผลงานไตรมาส 3/2552 อู้ฟู้หอบกำไรเข้ากระเป๋ามากกว่าครึ่งปีแรกที่ทำได้ 18 ล้านบาท มาอยู่ที่ 70 ล้านบาท หลังออเดอร์ชิ้นส่วนอิเล็ทรอนิกส์ใหม่ในไตรมาส 2/2552 เริ่มผลิดอกออกผลยาวถึงไตรมาส4 หนุนทั้งปีนี้สะสมกำไรเข้าพอร์ตกว่า 90 ล้านบาท ขณะที่ราคาทางสัญญาณเทคนิคยังแจ่มส่อแววไต่ระดับขึ้นแตะแนวต้านใหม่ 3.00 บาท โบรกระบุชัดอย่าประวิงเวลาหาจังหวะลุย
ความ เคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท ทีมพรีซิชั่น จำกัด (มหาชน) TEAM ปิดตลาด (30 ก.ย.) ที่ 2.76 บาท เพิ่มขึ้น 0.32 บาท มีมูลค่าการซื้อขายสุทธิ 19.74 ล้านบาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง ประเมินทิศทางธุรกิจของบริษัท ทีมพรีซิชั่น จำกัด (มหาชน) TEAM โดยคาดว่า จะมีแนวโน้มประกาศผลประกอบการในไตรมาส 3/2552 ออกมาดีเกินคาด โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 25-30 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น ( EPS ) ที่ 0.12 บาท ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบทียบกับช่วงไตรมาส 2/2552 ที่มีกำไรสุทธิเพียง 15 ล้านบาท และยังสูงกว่าผลประกอบการโดยรวมในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ที่มีกำไรสุทธิ 18-19 ล้านบาท
หอบกำไร 90 ล้าน
ทั้งนี้ได้ประเมินจากคำสั่งซื้อ สินค้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์ และงานประกอบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCBA) ที่มีการฟื้นตัวเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/2552 และเชื่อว่า TEAM จะเริ่มทยอยรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส 3/2552 เป็นต้นไป
อนึ่งในไตรมาส 2/2552 บริษัทมีกำไรสุทธิ 15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 12 ล้านบาท เนื่องจากมีรายได้จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่งวด 6 เดือน กำไรสุทธิ 18.29 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.032 บาทลดลง 18.23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 22.37 ล้านบาท กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.04 บาท
ขณะที่บริษัทมีรายได้จากการขายรวมในไตรมาส 2/2552 อยู่ที่ 423 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.6% จากปีก่อน เนื่องจาก TEAM มีรายได้จากตลาดอเมริกาเพิ่มขึ้น ทำให้สัดส่วนรายได้มาอยู่ที่ 58% จาก 38% ในไตรมาส 2/2551 ซึ่งช่วยกระจายรายได้จากตลาดยุโรป และเอเชีย
นอกจากนี้ประเมินว่าไตรมาส 4/2552 TEAM จะยังมีผลประกอบการที่ดีต่อเนื่อง และส่งผลให้ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะมีกำไรสุทธิรวมประมาณ 70-75 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับงวดครึ่งปีแรกจะมีกำไรสุทธิรวมประมาณ 90 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.16 บาท ซึ่งมากกว่าปีก่อนที่ทำได้ 73 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้นเพียง 0.13 บาท
“ ทิศทางของ TEAM ตั้งแต่ไตรมาส 3/2552 จะเป็นขาขึ้น โดยเฉพาะในปีหน้าที่มีโอกาสจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ที่บริษัทเคยทำกำไรได้สูงสุดถึง 300 ล้านบาทเมื่อปี 2550 คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.53 บาท” นักวิเคราะห์กล่าว
ทั้งนี้จะผลทำให้มูลค่าหุ้นปี 2553 ของ TEAM อ้างอิงอัตราพีอีเรโชว์ (P/E) 8 เท่า ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 4.24 บาท ซึ่งจากราคาหุ้นในช่วงนี้น่าจะเป็นจังหวะที่น่าลงทุน เนื่องจากมองว่าราคาหุ้นน่าจะผ่านจุดต่ำสุดแล้ว
นางสาวมยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทิศทางโดยภาพรวมของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์ มีการฟื้นตัวดีขึ้นมาก โดยประเมินว่าในไตรมาส 3/2552 กลุ่มจะมีการประกาศผลประกอบการออกมาดีกว่าไตรมาส 2/2552 แต่คงจะต่ำกว่าหากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในไตรมาส 3/2551 อุตสวาหกรรมยังไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจมากนัก
อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์ และกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องธุรกิจส่งออก จะมีความกังวลเกี่ยวกับค่าเงินบาท ซึ่งมีการแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่ 34 บาท โดยปัจจุบันอยู่ที่ 33 บาท เทคนิคสวย
“แม้ว่าทิศทางในไตรมาส 4 จะยังดีขึ้นต่อจากไตรมาส 3 แต่ก็ยังห่วงเรื่องของค่าบาทที่แข็งค่าขึ้น เพราะจะกระทบต่อรายได้ที่ลดลง” นางสาวมยุรีกล่าว
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์ ฝ่ายวิจัยจะพิจารณาเป็นรายหุ้น โดยแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ DELTA ประเมินราคาเป้าหมาย 19.70 บาท แนะนำ “ทยอยสะสม” HANA ราคาเป้าหมาย 22.00 บาท และแนะนำ “เก็งกำไร” SVI ราคา 2.40 บาท KCE 3.36 บาท รวมถึง แนะนำ “ถือ” CCET ที่ราคา 3.46 บาท
“หุ้น TEAM ฝ่ายวิจัยไม่ได้ดูพื้นฐานไว้ แต่ก็น่าจะได้ผลบวกตามทิศทางอุตสาหกรรม” นงสาวมยุรีกล่าว
นัก วิเคราะห์สัญญาณเทคนิค บริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ จำกัด กล่าวว่า ทิศทางราคาหุ้น TEAM เป็นบวก มีสัญญาณการ “ซื้อ” โดยมีปริมาณการซื้อขายเข้ามารองรับ เชื่อว่าจะช่วยดันราคาหุ้นปรับขึ้นได้ต่อเนื่องจากวานนี้ (30 ก.ย.) โดยประเมินแนวต้านแรกไว้ที่ 2.88 บาท หากทะลุจะมีแนวต้านถัดไปที่ 3.00 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 2.64-2.48 บาท
“หุ้น TEAM มีการปรับเพิ่มขึ้นมา สภาพคล่องก็มีมาก ราคาหุ้นจึงจะไปได้อีก จากจุดนี้นักลงทุนลุยได้เลย” นักวิเคราะห์กล่าว