รูปที่มีอยู่ทุกบ้าน ...http://www.manager.co.th/MetroLife/ViewNews.aspx?NewsID=9500000122629ความประทับใจของเหล่าคนดังกับ “รูปที่มีทุกบ้าน”
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 16 ตุลาคม 2550 18:52 น.
เนื่องในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ภาครัฐและเอกชน ต่างจัดกิจกรรมเพื่อร่วมแสดงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่เว้นแม้กระทั่งบุคคลที่มีชื่อเสียงและกลุ่มศิลปิน ที่ต่างรวมใจทำกิจกรรมดีๆ ภายใต้ โครงการรูปที่มีทุกบ้าน ซึ่งจัดโดย คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ร่วมกับ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ และคนไทยในต่างแดน ถ่ายภาพในหลวงที่มีอยู่ประจำบ้าน พร้อมข้อความถวายพระพร หรือคำบรรยายถึงแรงบันดาลใจในชีวิตที่เกิดจากพระบรมฉายาลักษณ์หรือภาพพระราชกรณียกิจของพระองค์ (ความยาวไม่เกิน 4 บรรทัด) ส่งมาเพื่อรวบรวมประกอบกันขึ้นเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ขนาดใหญ่ (ภาพโมเสค) เพื่อเป็นมิ่งขวัญสัญลักษณ์แห่งแรงบันดาลใจ และความจงรักภักดีต่อพระองค์ สืบไป
พร้อมกันนี้ บุคคลที่มีชื่อเสียงและเหล่าศิลปินเข้าร่วมโครงการรูปที่มีทุกบ้าน อาทิ อภิรักษ์ โกษะโยธิน, ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล, ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม, คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์, ชฏาทิพ จูตระกูล, ดลชัย บุญยะรัตเวช โดยบุคคลเหล่านี้ได้บอกเล่าเรื่องราวแห่งความประทับใจที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไว้อย่างน่าประทับใจ
อภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผยว่า “ภาพนี้ได้มาเมื่อปี 2539 ซึ่งเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงครองราชย์ครบ 50 ปี ปกติจะตั้งไว้ที่โต๊ะทำงานตลอดตั้งแต่อยู่บริษัทเอกชน พอมาเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ก็ได้อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์นี้มาไว้ที่โต๊ะทำงาน เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ เพราะว่าเป็นภาพที่พระองค์ท่านทรงงาน เราได้เห็นภาพที่พระองค์ท่านทรงตรากตรำ ทรงงานเพื่อดูแลทุกข์สุขของพสกนิกรชาวไทยในถิ่นทุรกันดาร เห็นภาพนี้ก็ทำให้ตัวเองรู้สึกว่า เราในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่งก็น่าจะทำงานเพื่อประเทศชาติ เพื่อถวายพระองค์ท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทในปัจจุบันผมก็ได้พระองค์เป็นแรงบันดาลใจ และน้อมนำพระราชดำรัสของพระองค์มาบริหารกรุงเทพมหานครให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงการที่พระองค์เคยพระราชทานแก่กรุงเทพมหานครมาตลอดระยะเวลาหลายสิบปี กรุงเทพมหานครได้น้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระองค์ในหลายๆเรื่องมาปฏิบัติ”
“ในปีนี้เป็นปีมหามงคล 80 พรรษา ก็ได้ทำโครงการภายใต้แนวทางที่ว่า ทรงเป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งเป็นความรู้สึกส่วนตัวของผมที่ได้มาจากภาพนี้ด้วย และภาพเดียวกันนี้ กรุงเทพมหานครก็เคยใช้เป็นภาพโครงการปณิธานล้านดวงใจถวายในหลวงเมื่อปีที่แล้ว ที่เชิญชวนคนมาลงนามที่จะตั้งปณิธานทำบัญชีรายรับรายจ่าย ใช้ชีวิตอย่างพอเพียงก็มีความรู้สึกที่ดีทุกครั้งที่ได้เห็นภาพนี้”
ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล ประธานมูลนิธินพรัช-รัตนโกสินทร์ เผยว่า “พระบรมฉายาลักษณ์นี้ได้มานานกว่า 20 ปีแล้ว จำได้ว่าตอนนั้นมีการสู้รบกับผู้ก่อการร้าย ตามหน่วยทหารก็จะมีรูปพระราชทานให้กับหน่วยทหาร พี่ได้รูปนี้มาก็เลยประทับใจ และเป็นรูปที่พี่รักมากๆ เลย จากการที่มีรูปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่ที่บ้าน ทุกครั้งที่ได้เห็นรูปของพระองค์ ก็จะมีความรู้สึกว่าเราโชคดีที่เกิดมาเป็นคนไทย และมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเสียสละปฏิบัติพระราชภารกิจเพื่อลูกหลานราษฎรของพระองค์ตลอดมา ท่านเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวในโลกที่มีแต่ให้ เราลูกๆของท่านก็รับอย่างเดียว มีความรู้สึกว่าอยากให้พระองค์ทรงมีพระทัยเบิกบาน ทรงมีความสุข ไม่ต้องทรงแบกภาระเหมือนอย่างปัจจุบัน พี่ก็จะพยายามทำอะไรที่เราทำได้ให้ดีที่สุด เพื่อดำเนินการตามเบื้องพระยุคลบาทตลอดไป”
ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ผมเลือก “รูปที่มีทุกบ้าน” เป็นรูปนี้ ด้วยแรงบันดาลใจจากการที่เคยรับเสด็จฯ และเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จฯ มาทรงดนตรีที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งผมเป็นนิสิตอยู่ กว่าสามสิบปีมาแล้ว
สามปีก่อน ผมก็ได้รับเสด็จฯ และเข้าเฝ้าเหมือนสมัยเป็นนิสิตอีกครั้ง เมื่อเสด็จฯลงทรงดนตรี ณ พระราชวังไกลกังวล ทรงดนตรีร่วมกับวงดนตรีแจ็ซจากเมืองนิวออร์ลีน ประเทศสหรัฐอเมริกา
รู้สึกชื่นชมในพระอัจฉริยภาพทางดนตรีของพระองค์ท่าน และเป็นมงคลแก่ชีวิตตนเองอย่างยิ่ง
“รูปที่มีทุกบ้าน” รูปนี้ เตือนใจให้รำลึก และมีความหมายลึกซึ้งกับชีวิตผม
ผมเป็นคนที่กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เคารพบูชามาโดยตลอด เมื่อไปหรือผ่านไปในสถานที่ใดซึ่งมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผมจะยกมือไหว้เสมอ และผมจะยกมือไหว้พระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เคารพบูชาอย่างหนึ่งในชีวิตผม
เมื่อลูกๆ ผมยังเด็กอยู่ พวกเขาเคยสงสัยไม่เข้าใจเมื่อผมยกมือไหว้พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เวลาที่เรานั่งรถผ่าน
ตอนนี้พวกเขาเข้าใจแล้ว และยกมือไหว้ตาม”
แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงวิทยาศาสตร์ เผยว่า “ในหลวงทรงเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานของหมอ พระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยเพื่อดูแลให้พสกนิกรมีความสุข หมอจึงตั้งปณิธานที่จะทำหน้าที่ดูแลเรื่องความเป็นธรรมให้แก่ประชาชนสำหรับรูปที่เป็นแรงบันดาลใจให้หมอมากที่สุดก็คือ รูปที่พระองค์ทรงประทับอยู่ข้างๆ ล้อรถยนต์หลวง ในขณะที่ทรงงานต่างจังหวัด ถามว่าทำไมจึงเลือกภาพนี้ เพราะอย่างแรกเลย ได้เห็นความเป็นคนธรรมดา ได้เห็นความห่วงใยในพสกนิกร ก็เหมือนเป็นแรงบันดาลใจ สำหรับคนที่ตั้งใจ เหมือนกับคนที่รับราชการ ที่จะดูแลความสุข ความทุกข์ของประชาชน อีกส่วนหนึ่งที่ประทับใจรูปนี้ก็คือ ประวัติของรูปนี้ พระองค์เสด็จไปโดยที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า ตอนที่ไปถึงเจ้าหน้าที่เขาไม่ได้เตรียมตัว ข้าราชบริพารก็ไปตามตัวมาแล้วบอกว่าในหลวงเสด็จ ปรากฎว่าเขาไม่เชื่อ เพราะเขาไม่มีหมาย พอมาเห็นพระองค์แล้วกลับไปดูรูปที่บ้าน เขาบอกว่าเหมือนกันเลย ซึ่งรูปนี้ทำให้เกิดอะไรหลายๆอย่าง เวลาเรามองแล้วเกิดความรู้สึกสงบนิ่ง ความทุกข์หายทุกครั้งเลยค่ะ เรามองว่าพระองค์เป็นต้นแบบที่ดี ทำให้เราลุกขึ้นได้ และจากที่เราเคยล้มถี่ๆ ก็ล้มห่างๆ และในที่สุดก็ไม่ล้มอีกเลย”
ชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เผยว่า “รูปนี้ติดอยู่ในบริษัทสยามพิวรรธน์มาเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว ได้มาจากวังสระปทุม เป็นภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโอบกอดสมเด็จย่า รูปนี้เป็นรูปที่ติดไว้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ เพราะว่ารูปนี้จะแสดงให้เห็นชัดถึงความรักระหว่างแม่กับลูก และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นผู้มีกตัญญูกตเวทิตายิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งหาที่ปรียบมิได้ พระองค์ทรงบำเพ็ญประโยชน์ร่วมกับสมเด็จย่าที่จะสร้างสรรค์โครงการหรืองานต่างๆ ที่จะช่วยพสกนิกร เพราะฉะนั้น รูปนี้เป็นแรงบันดาลใจของพวกเราว่า เวลาทำงานเราควรกตัญญูกตเวทิตาต่อแผ่นดิน ต่อประเทศ และพวกเราก็ควรร่วมแรงร่วมใจทำสิ่งที่ดี ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติให้มากที่สุด”
ดลชัย บุณยะรัตเวช ประธาน บริษัท Brand Scape จำกัด เผยว่า “ภาพนี้คุณพ่อให้เป็นของขวัญตอนเปิดออฟฟิศ แบรนด์ สเคป เมื่อ 4 ปีก่อน เพื่อเป็นสิริมงคล ซึ่งผมชอบภาพนี้มาก เพราะผมคิดว่าเราเกิดมาเป็นคนไทย มี 3 สิ่งที่เป็นตัวยึดเหนี่ยวจิตใจ ก็คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ชาติ หมายถึง ทำอะไรให้นึกถึงพระคุณแผ่นดิน ต้องทำตัวเป็นคนไทยที่มีคุณค่า ศาสนา หมายถึง ไม่ว่าจะศาสนาใดก็สอนให้เป็นคนดี มีสติ มีสมาธิ มีคุณธรรม และพระมหากษัตริย์ หมายถึง เป็นศูนย์รวมจิตใจ และเป็นตัวอย่างของความดี พระองค์ทรงเป็นตัวอย่างของคุณธรรมจริงๆ ภาพนี้สะท้อน 3 สิ่งได้ลงตัวในภาพเดียว พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างของคนที่ทำอะไรด้วยคุณธรรม ด้วยปัญญา และด้วยความพากเพียร สามสิ่งนี้ เป็นแรงบันดาลใจให้ผมมีวิถีชีวิตที่ต้องมีสติและต้องทำตัวให้เป็นทรัพยากรแผ่นดินให้มีคุณภาพ”
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถส่งภาพและข้อความผ่านช่องทางต่อไปนี้ ด้วยวิธีการดังนี้
• ทางเว็บไซด์ คลิกไปที่
www.ourking.net แล้วลงทะเบียนเพื่อกำหนดรหัสผ่าน โดยแจ้งชื่อ ที่อยู่ เลขบัตรประจำตัวประชาชน ปีเกิดของผู้ส่ง แล้วโหลดภาพ (ขนาดไม่เกิน 200 kb) ตามวิธีการที่ระบุ
• ทางไปรษณีย์ ส่งภาพขนาดจัมโบ้ (4 นิ้ว X 6 นิ้ว) พร้อมคำบรรยายหลังภาพ พร้อมชื่อ ที่อยู่ เลขบัตรประจำตัวประชาชน ปีเกิดของผู้ส่ง มาที่ ตู้ ปณ. 80 ปณฝ. มักกะสัน กรุงเทพฯ 10402 และสามารถเข้าไปที่
www.ourking.net โดยใช้เลขบัตรประจำตัวประชาชนเป็นรหัสผ่าน
• ส่งภาพได้ถึง 15 พฤศจิกายน 2550 เท่านั้น
:wink:
