:lol: น้องหนิงคะ ลาแพรี แพงมากๆ ในเมืองไทย พี่แอ๊ะซื้อใช้มา 15ปี แล้วตั้งแต่ยังไม่มีขายใน
ไทย พี่แอ๊ะซื้อจากสวิส และฝรั่งเศส เมื่อก่อนพี่แอ๊ะใช้ คริสเตียนดิออร์
ตอนหลังคนขายที่ ฝรั่งเศส แนะนำให้ใช้ ลาแพรี แทน ดิออร์ค่ะ
เมื่อ10ปีให้หลังจึงมีตัวแทนลาแพรีในไทย
แต่พี่แอ๊ะจะฝากน้องเขยซึ่งเป็นกัปตันการบินไทย
ให้ เพราะสู้ราคาที่เมืองไทยไม่ไหว :cry:
พี่แอ๊ะใช้มานานมากก่อนใครๆ เลยค่ะ เพราะถูกกับผิวพี่แอ๊ะซึ่งแห้งมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :cry:
ลาแพรี ส่วนผสม จะทำจากไข่ปลาคาเวียร์ค่ะ แพงมากแต่พี่แอ๊ะจำเป็นต้องซื้อ แต่ก็คุ้มค่ะพี่แอ๊ะ
ใช้ตัว top ตัวเดียว ไม่กล้าบอกว่าขวดละ กี่หมื่นเด่ว ดร.กระป๋องดุ เอาค่ะ :shock:
พี่แอ๊ะใส่ตู้เย็นไว้ทีบ้านกรุงเทพ 1 ขวด บ้านยโส 1 ขวด แต่ใช้ได้นาน จนคุ้มเลยค่ะ :shock:
ตอนหลังพี่แอ๊ะมีสปา ในร.พ พี่แอ๊ะ พี่แอ๊ะเลยใช้product จาก สเปน
ชื่อ germain cappuchini มาใช้ตอนทำสปา แต่พี่แอ๊ะเป็นตัวแทนเลยได้ราคาไม่สูงมาก
เพื่อนพี่แอ๊ะเค้าเป็นคนset spa ให้ชีวาศรม เค้าแนะนำ germain ก็ดีมากๆ แต่ก็ไม่ลืมใช้ลาแพรี
เป็นhome care เพราะขาดไม่ได้ค่ะ หน้าจะเหี่ยวมากถ้าไม่ใช้ ลาแพรี :lol:
ทีนี้ พี่แอ๊ะไปรู้จัก คนขาย tahitian noni จริงๆแล้วเค้าเป็นน้ำดื่มเพื่อสุขภาพ
แต่เค้าเพิ่งนำเข้า skincare มาด้วย เป็นผลิตภัณฑ์ ที่ทำจาก noni และ pure มาก เป็น
ธรรมชาติมาก ลองใช้มาเดือนกว่าแล้ว หน้า ฟูขึ้น ไม่แห้งเหี่ยว swelling ค่ะ ราคาก็ไม่แพงเลยค่ะ
ลองส่งให้น้องสาวที่สุราษฏร์ ซึ่งเค้าหน้าเหี่ยวเหมือนกัน :cry: เค้าบอกว่าหายเหี่ยวค่ะ
เลยเห็นว่าดี เลยอนุญาตให้เค้านำมา ให้เจ้าหน้าที่ร.พ ทำdirect sale กันค่ะ
ที่เมืองไทย ก็มี uniliver นะคะ เค้าขายแบบdirect sale เหมือนกันค่ะ
แต่พี่แอ๊ะเคยลองใช้ ไม่ค่อยถูกกะผิวพี่แอ๊ะเท่าไรค่ะ :shock:
จริงๆ แล้วทางการแพทย์ เดี่ยวนี้เค้ามีการทดสอบ dna ของเรา นะคะ แล้วเราสามารถเลือกเครื่องสำอางให้ตรงกะ dna ของเราได้ค่ะ
:lol: :lol:
คนไทย จะวุ่นวายกะเครื่องสำอางมาก แต่ฝรั่งเค้า ไม่ค่อยวุ่นวาย กับเครื่องสำอางเหมือนคนไทย
เพราะคงมีเครื่องสำอางดีๆ ให้ใช้ มากมาย น่ะค่ะ