Max
|
|
« ตอบ #50 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2549, 00:19:27 » |
|
เอาเพลงมาฝากครับ
Big Ass : Begins: พรหมลิขิต
เหม่อมองบนฟ้าไกล ฉันมองด้วยความสงสัย ว่าใครกันนะใคร ที่พาให้เธอเดินหลงทางมาเจอกับฉัน
*มีคนเป็นล้านคน ฉันว่าเหตุผลจริงจริงที่เราเจอกัน จากเป็นคนไม่เชื่ออะไร สุดท้ายก็ได้แต่ถามตัวเองซ้ำซ้ำ
**ตกลงคือพรหมลิขิตใช่ไม๊ ที่เขียนให้เป็นอย่างนั้น ตกลงให้เรารักกันใช่มั้ย อย่างนั้นขอได้ไม๊ โปรดอย่าทำให้เราพลัดพราก ให้เรารักกัน เนิ่นนานถึงจนวันตาย โอ้ว โอว ฉันขอได้ไม๊
เมื่อก่อนลมหายใจ ก็คิดว่าเป็นของฉัน แต่ก็ได้พบเธอ รู้จริงจริงลมหายใจคือเธอเท่านั้น คนมีอีกเป็นล้านคน ไม่มีเหตุผลที่เธอต้องเลือกฉัน จากเป็นคนไม่เชื่ออะไร สุดท้ายก็ได้แต่ถามตัวเองอีกครั้ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
iamfrommoon
|
|
« ตอบ #51 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2549, 08:05:49 » |
|
"เวลา" เคยได้ยินคำนี้บ่อยๆ หลายคนบอกว่า ถ้าจะคบใครสักคน คงต้องใช้"เวลา"เรียนรู้กัน หลายคนบอกว่า ถ้าอกหัก คงต้องใช้"เวลา"ในการทำใจ :cry: ถ้าตอนนี้เรายังไม่มีใคร เพื่อนๆ มักบอกว่า อืมม ใจเย็นๆ ให้"เวลา"ผ่านไป เดี๋ยวความรักก็วิ่งมาหาเองแหละ :oops: โหหห "เวลา" เนี่ยดูจะเป็นปัจจัยสำคัญในหลายๆ เรื่องเลยนะคะ เพราะอะไรช่วยกันมาตอบหน่อยนะคะ Time will prove everythingไม่ว่า เรื่องอะไรๆ "เวลา" มันเป็นส่วนสำคัญเสมออย่างที่ BeKaMon พูดมาเลย...
ในความคิดเห็นส่วนตัว "เวลา" นั้น...เราจะให้ความสำคัญกับมันมากแค่ไหน...หากไม่มุ่งมั่นนับวันและเวลา ปล่อยให้มันเดินเรื่อยไป ก็จะไม่รู้สึกว่า มันทรมานในกรณีที่ต้องเจ็บปวดหรือผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นจากเรื่องต่างๆ ในชีวิต หรือเราจะรู้สึก โอ้! เวลาช่างทำให้เรามีความสุขจัง :oops:
ดังนั้น หากเมื่อไหร่ก็ตามที่ "เวลาเป็นตัวที่ทำให้รู้สึกว่า Failure...ก็ปล่อยวางซะ พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสในการมองมุมต่างๆ ของชีวิตให้กว้างขึ้นก็จะได้ประสบการณ์ชีวิตที่ดีไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม... :lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #52 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2549, 09:14:49 » |
|
สิ่งที่เป็นข้อถกเถียงกัน..ในปัจจุบันสำหรับวงการวิทยาศาสตร์คือเวลา..
เวลา..เป็นสิ่งสมมติ..หรือเวลา..เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในธรรมชาติ...
พอเข้าใจกันมั๊ย..
ถ้ามันสมมติ..มันก็เป็นสิ่งที่มนุษย์สมมติขึ้น..เวลาไม่ได้มีจริงๆ..จับต้องไม่ได้..เราสมมติมันขึ้นมาเพื่ออ้างอิงเรื่องตำแหน่งของเวลาให้เข้าใจตรงกัน..
แต่ถ้าเวลาเป็นสิ่งที่มันมีอยู่จริงตามธรรมชาติ..
ถ้าโลกเราถูกกำหนดตำแหน่งโดยพิกัด 3 มิติ..เราจะพูดถึงหนอนตัวนึง..ที่กำลังไต่อยู่บนขอบบ่อน้ำ..เมื่อเวลาผ่านไป..มันก็ไต่วนอยู่บนขอบบ่อน้ำ ซึ่งสามารถบอกตำแหน่งบนโลกของมันได้ด้วยแกน x y z
แต่ถ้าเรากำหนดให้โลกนี้มี 4 มิติล่ะ..มิติที่ 4 คือ..เวลา..
ดังนั้น..หนอนตัวเดิม..ที่ถ้าวาดระนาบการเดินของมันบนแกน xy มันก็จะเป็นรูปวงกลม..ซ้ำๆไปมา..
จะเห็นได้ว่า..ถ้าเรากำหนดเป็น 4 มิติ..การวาดระนาบการเดินของหนอนจะเปลี่ยนไป..กลายเป็นรูปคล้ายๆสปริง โดยมีแกนเวลาตั้งฉากกับระนาบกระดาษ(พอนึกออกกันมั๊ยครับ..)
และเวลา..ถ้ามันเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว..มันก็จะสอดคล้องกับกฎของเทอร์โมไดนามิค..ว่าสิ่งที่ขับเคลื่อนให้เหตุการณ์มันวิ่งไปสู่ความไม่เป็นระเบียบ ( chaos) คือ..เวลา..
มันก็เลยมีคำถามอีก..ว่าถ้าเวลาเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ..ถือกำเนิดมาพร้อมๆกับกำเนิดของจักรวาล ตามทฤษฎี BIG BANG แล้ว..ก่อนเกิด BIG BANG..
เวลาอยู่ตรงไหน..
แล้วทำไมมนุษย์อยู่ๆถึงนึกถึงเรื่อง..เราต้องกำหนดเวลา..
ทำไมเราต้องกำหนดเวลาเป็นเลขฐาน 60 (เรื่องนี้เคยอ่านแต่ลืมแล้ว..ไว้จะค้นใหม่..)
เวลาที่ผ่านไป..กับคำว่า..ลืม..มันจะแปรผันตรงกัน..ส่วนจะเป็นเส้นตรง..หรือ พาราโบลา..มันก็แล้วแต่การประทับอยู่ของเหตุการณ์
เคยมีคำกล่าวว่า..การเวียนว่ายตายเกิดของมนุษย์..ที่ทำให้มนุษย์ไม่สามารถจำชาติที่แล้วของตัวเองได้..คือ..การที่เราหลับอยู่ในครรภ์มารดาถึง 9 เดือน..
คุณฝัน 1 คืน..ตื่นมาก็ลืมหมด..น่าคิดเหมือนกัน..ว่าเรื่องราวในชีวิตทั้งหมดในชาตินี้..จะถูกลืมหรือไม่..ถ้าเรานอนหลับไป 9 เดือน..
ดังนั้น..ถ้าลองเอาเรื่องมารวมกัน..คือ..เวลาเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว..เวลาจะขับเคลื่อนเหตุการณ์ให้ไปสู่ความไม่เป็นระเบียบมากขึ้น..เวลา..สอดคล้องกับการลิม..และเวลา..มันทำให้อะไรต่างๆดีขึ้น..
มันก็คงบอกได้ว่า..ที่อะไรๆมันดีขึ้น..ก็เพราะเราลืมนั่นเอง..
สมองเรา..จะถูกผลักดันให้ไปสู่ความเป็นระเบียบเรื่องใหม่..ความรู้สึกเราก็จะแปรผันไปตามเหตุการณ์ที่เข้ามาในแต่ละวัน..หน่วยความจำในสมองถูกทดแทนด้วยเรื่องใหม่ๆ..เรื่องเก่าก็จะถูกทับถมไป..และเกิดการถ่ายโอนหน่วยความจำในขณะที่เรา..ฝัน..
ดังนั้น..การฝัน..จะทำให้เราเดินหน้าไปสู่เรื่องใหม่ๆได้..
เชอร์ลอค โฮล์ม..ไม่ยอมรับรู้ว่า..โลกนี้เคลื่อนที่รอบดวงอาทิตย์ เพราะเค้าเชื่อว่า..สมองเรามีข้อจำกัดเรื่องหน่วยความจำ..ดังนั้น..เค้าจะสนใจเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับการสอบสวนคดีเท่านั้น..ส่วนเรื่องอื่น..เค้าไม่สนใจเลย..
ไม่ต้องรีบร้อนที่จะลิม..ไม่ต้องไปทุรนทุรายเมื่อเราอกหัก..ไม่ต้องกังวล..ว่าเราจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเค้า..ไม่ต้องเป็นทุกข์ซะเต็มประดา..เมื่อนึกถึงเค้าที่จากไป..ไม่ต้องเศร้า..เมื่อเห็นสถานที่เก่าๆ เรื่องราวเก่าๆ..
เพราะตามกฎฟิสิกส์..ยังไงๆ..เราก็จะต้องไปสู่ความเป็นระเบียบใหม่..โดยการขับเคลื่อนของ..เวลา..อยู่ดี..
ผ่านไป 10 ปี..ไอ้น้องจะมานั่งหัวเราะ..เออ..วันนั้นเราเป็นบ้าอะไรไปวะ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
BeKamon
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 235
|
|
« ตอบ #53 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2549, 11:06:50 » |
|
ขอบคุณนะคะที่ช่วยเข้ามาตอบเรื่องเวลากัน คุณพี่ประภาสมาแล้ว โพสต์มีสาระเนื้อๆ แบบนี้ดีค่ะ ชอบค่ะ อ่านแล้วได้แนวคิดแปลกออกไป ได้ความรู้ด้วยค่ะ เคยอ่านหนังสือเรื่องหนึ่ง เป็นหนังสือแปลอะค่ะ จำชื่อเรื่องไม่ค่อยได้ รู้สึกว่า จะชื่อ "ความลับของเวลา" อะไรประมาณเนี่ยอะค่ะ ลองอ่านไปนิดหน่อย งงอยู่บ้างเหมือนกัน ว่าจะไปหามาอ่านอีกอะค่ะ ช่วงที่อ่านไม่ค่อยสนใจ เพราะอ่านแล้วมันมีความรู้ทางด้านการคำนวณด้วย ก็เลยงงๆ แล้วก็หยุดอ่านไปเลยอะคะ (ไม่เก่งคำนวณอะ :cry: ) อ้อ จำหน้าปกได้ คนเขียนเป็นฝรั่งใส่แว่นตาด้วยอะค่ะ ปกสีน้ำตาลปนเขียวอะ คุณพี่ประภาสน่าจะเคยอ่านแน่ๆ เลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Something might change, but something never changes. (The Matrix Revolution)
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #54 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2549, 21:00:11 » |
|
ที่เห็นนั่นชื่อ สตีเฟน ฮอร์ฟกิ้ง..คับ..ประวัติเค้าถือว่าเหลือเชื่อมากๆสำหรับคนที่พิการขนาดพูดยังไม่ได้..แต่สามารถคิดและถ่ายทอดออกมาได้..
หนังสือเล่มนั้นไม่ได้อ่าน..เพราะเคยอ่านจักรวาลในเปลือกนัท ที่เขียนโดยคนเดียวกัน..แต่มันเซ็งที่คนแปล..แปลได้ห่วยมาก..อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ก็เลยเข็ด..ไม่ได้ซื้ออ่านอีกซึ่งน่าเสียดาย..
มันจริงๆนะ..สำหรับคนที่เคยผ่านเหตุการณ์แบบนั้นมาแล้ว..
ผ่านไปหลายปี..นั่งมองย้อนกลับไป..มันก็คิดแบบนั้นจริงๆ..
ตอนนั้นกรูเป็นบ้าอะไรวะ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลูกพิ้ง
|
|
« ตอบ #55 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2549, 01:29:45 » |
|
คงต้องขอเซฟข้อมูล- เก็บคำถามของ Bekamon กับคำตอบดีดีที่มีให้กัน โดยเฉพาะของ พี่ปุ๊กกี้กะพี่ประภาสไว้อีกแล้วล่ะค่ะ อ่านแล้วโดนใจค่ะ :oops: :oops: ที่บอกว่าผ่านไปหลายปี..นั่งมองย้อนกลับไป..มันก็คิดแบบนั้นจริงๆ.. ตอนนั้นกรูเป็นบ้าอะไรวะ..เวลาที่ผ่านมาและผ่านไป ทำให้ความคิดเราเติบโตขึ้นและช่วยรักษาใจเราได้ ลอง
กลับไปย้อนนึกดูตอนนั้นเราทุรนทุรายใจ แต่มาวันนี้เรากลับเฉยๆ ไม่รู้สึกอย่างเช่นแต่ก่อน
ก็รู้สึกดีที่ยังนึกถึงกัน อย่างไรก็ตามความห่วงใยและความปรารถนาดีก็มีอยู่เช่นเดิม :oops: เคยอ่านข้อความนี้มานานแล้วละค่ะ ประทับใจเลยจดเก็บเอาไว้ .....กาลเวลาเนิ่นช้า สำหรับผู้ที่รอคอย เร็วเหลือหลาย สำหรับผู้หวาดผวา ยาวนานนักหนา สำหรับผู้เศร้าสลด สั้นยิ่งนัก ใ นความรู้สึกผู้ปรีดา ทว่า....สำหรับผู้มีรัก กาลเวลาจักเป็นนิรันดร์ :oops: :oops: :oops:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
BeKamon
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 235
|
|
« ตอบ #56 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2549, 08:11:52 » |
|
".....กาลเวลาเนิ่นช้า สำหรับผู้ที่รอคอย เร็วเหลือหลาย สำหรับผู้หวาดผวา ยาวนานนักหนา สำหรับผู้เศร้าสลด สั้นยิ่งนัก ใ นความรู้สึกผู้ปรีดา ทว่า....สำหรับผู้มีรัก กาลเวลาจักเป็นนิรันดร์"
ถ้อยคำข้างบน เราไม่อยากจะอ่านเลยลูกพิ้ง เพราะแต่ละช่วงเวลาวินาทีที่อ่าน มันกินใจ และบาดใจมาก กว่าจะอ่านได้รู้สึกมันนาน มันเนิ่นช้า อยากจะอ่านรวดเดียวและเข้าใจได้ในทันที โดยที่ไม่ต้องไล่สายตาผ่านสี่บรรทัดนี้ ลูกพิ้ง!! เรารู้สึกแบบนี้จริงๆ :wink:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Something might change, but something never changes. (The Matrix Revolution)
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #57 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2549, 08:40:11 » |
|
อย่าเรียกผมแบบนั้นเลยครับ..แบบว่ายังห่างไกลจากพี่จิกอีกเยอะ..สมองมันนึกอะไรได้มันก็ไหลไปได้เรื่อยๆ..
อ่านแล้วก็รู้สึกอยากแก้ไขบางส่วนนะ..เดี๋ยวว่ากันอีกที..
ฟิสิกส์ยุคใหม่หลังนิวตัน..ก็ไม่ได้เรียกจักรวาลที่เราอยู่แบบนิวตันแล้ว..(space)
แต่เค้าจะเรียกคู่กันว่า กาล-อวกาศ (space-time) เพราะเป็นที่ยอมรับกันแล้ว..ว่ามันเป็นสิ่งที่เป็นผลซึ่งกันและกัน..
อวกาศโค้ง..ก็มีผลต่อเวลาเหมือนกัน..
ส่วนเวลาในแง่ปรัชญาก็มีมากมาย..นึกออกเดี๋ยวว่าอีกที..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
(n_n)Cellkrub
Full Member
ออฟไลน์
รุ่น: 2540
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 579
|
|
« ตอบ #58 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2549, 11:06:17 » |
|
อย่าเรียกผมแบบนั้นเลยครับ..แบบว่ายังห่างไกลจากพี่จิกอีกเยอะ..สมองมันนึกอะไรได้มันก็ไหลไปได้เรื่อยๆ..
อ่านแล้วก็รู้สึกอยากแก้ไขบางส่วนนะ..เดี๋ยวว่ากันอีกที..
ฟิสิกส์ยุคใหม่หลังนิวตัน..ก็ไม่ได้เรียกจักรวาลที่เราอยู่แบบนิวตันแล้ว..(space)
แต่เค้าจะเรียกคู่กันว่า กาล-อวกาศ (space-time) เพราะเป็นที่ยอมรับกันแล้ว..ว่ามันเป็นสิ่งที่เป็นผลซึ่งกันและกัน..
อวกาศโค้ง..ก็มีผลต่อเวลาเหมือนกัน..
ส่วนเวลาในแง่ปรัชญาก็มีมากมาย..นึกออกเดี๋ยวว่าอีกที.. พี่โต้งอ่าน Beyond Einstine ของ Proff.Mishio Kaku ยัง ผมว่าเป็นหนังสือเกี่ยวฟิสิกส์ยุคหลังนิวตัน สำหรับคนที่ไม่ใช่นักฟิสิกส์ที่น่าสนใจเลยล่ะ (เนื้อหามันเน้นไปทางด้าน String Theory อ่ะ ส่วน A universe in the nut shell นี่ยอมรับว่าสำนวนคนแปลทื่อด้านไป แต่โดยเนื้อหาก็ครบถ้วนสมบูรณ์ตามต้นฉบับอยู่นะ เห็นพี่โต้งอ่านหนังสือแนวๆนี้ คิดว่าคงติดตามงานของ Fritjop Crapa มั่งใช่ปะ Toa of physic The turning point หรือ The hidden connection เห็นอยู่สามเรื่องนี้มั้งที่แปลออกมา แหะๆเด๋ววันหลังมาคุยด้วย อ่านเทือกๆนี้เหมือนกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
party
|
|
« ตอบ #59 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2549, 14:01:50 » |
|
" เวลาที่เรารักใคร เราจะรู้สึกตัวเล็กเหลือเกิน "
" เวลาที่ใครรักเรา เราจะรู้สึกตัวใหญ่เหลือเกิน "
" แต่ถ้าเราเจอคนที่เรารักเค้า และ เค้ารักเรา เราจะผลัดกันตัวเล็ก ตัวใหญ่ :wink: "
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลูกพิ้ง
|
|
« ตอบ #60 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2549, 15:59:21 » |
|
" เวลาที่เรารักใคร เราจะรู้สึกตัวเล็กเหลือเกิน "
" เวลาที่ใครรักเรา เราจะรู้สึกตัวใหญ่เหลือเกิน "
" แต่ถ้าเราเจอคนที่เรารักเค้า และ เค้ารักเรา เราจะผลัดกันตัวเล็ก ตัวใหญ่ :wink: " ข้อความด้านบนที่น้องปาร์มาโพสต์ไว้ น่าจะเป็นที่พี่จิก - ประภาส ชลศรา
นนท์ เคยเขียนไว้ในคอลัมน์คุยประภาสค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
party
|
|
« ตอบ #61 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2549, 16:43:04 » |
|
" เวลาที่เรารักใคร เราจะรู้สึกตัวเล็กเหลือเกิน "
" เวลาที่ใครรักเรา เราจะรู้สึกตัวใหญ่เหลือเกิน "
" แต่ถ้าเราเจอคนที่เรารักเค้า และ เค้ารักเรา เราจะผลัดกันตัวเล็ก ตัวใหญ่ :wink: " ข้อความด้านบนที่น้องปาร์มาโพสต์ไว้ น่าจะเป็นที่พี่จิก - ประภาส ชลศรา
นนท์ เคยเขียนไว้ในคอลัมน์คุยประภาสค่ะ ช่ายแล้วคะพี่แอน เพื่อนเค้า Forward มาให้อ่าน อ่านแล้ว...เออ..จริงของเค้าคะ.. :wink:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #62 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2549, 22:51:15 » |
|
Destiny let me found you go together to Destination...
Destiny...
Destiny.. !!!!
OH!!!!
Destiny ...
:lol:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
yuuyee
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #63 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2549, 16:44:23 » |
|
หาต่อไปนะเว้ย...ชาร์ป สู้ตาย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #64 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2549, 18:45:58 » |
|
มรึง บ่นอะไรของมรึง
ไอ้ผู้ชายโรแมนติก :roll:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #65 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2549, 18:52:17 » |
|
บักเซลล์..มรึงอย่าอะไรกับกรูมาก..กรูก็งูๆปลาๆไปเรื่อย..
BEYOND EINSTINE ยังไม่ได้อ่าน..แต่กำลังหาซื้ออยู่..แต่หายากจัง..
ส่วน TOA OF PHYSICS กรูอ่านตั้งแต่อยู่ ม 4แล้ว..ลืมหมดแล้ว..และหาหนังสือไม่ได้แล้วด้วย..ใครมีบอกบ้าง
เล่มเก่าๆของฮอฟกิง..เคยอ่านตอน ม ปลาย..ประวัติย่อของเวลา..จากบิ๊กแบง..ถึงหลุมดำ..ตอนนี้อยากอ่านอีกมาก..ไม่มีพิมพ์ซ้ำแล้วด้วย..ใครมีบอกด่วน..
ที่อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจเพราะคนแปลมันพยายามคงเนื้อหาไว้นี่แหละ..แปลมันซะทื่อๆ..กรูก็งงสิครับ..ที่มันอธิบายเรื่อง สตริง..กรูอ่านไม่รู้เรื่องเลย..10 มิติ 13 มิติ เป็นเส้นๆอะไรของมันน่ะ..
ว่าแต่ 2 เล่มสุดคลาสสิคข้างบนใครมีบ้าง..
ถึงบักซาร์ป..กรูหมั่นไส้มรึงว่ะ..ไอ้โรแมนตริกกกกก...
สู้ไอ้แครมมมมกรูไม่ได้..เผลอตีหัวลากเข้าบ้าน...ได้ผล..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #66 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2549, 21:57:33 » |
|
เห็นด้วยกับความเห็นเซียนโต้งครับ ปล...เซียนโต้ง วันนี้โทรหาทำไม ไม่รับสาย...จะใช้ตังค์ซะหน่อย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #67 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2549, 22:56:53 » |
|
ถึงบักซาร์ป..กรูหมั่นไส้มรึงว่ะ..ไอ้โรแมนตริกกกกก...
สู้ไอ้แครมมมมกรูไม่ได้..เผลอตีหัวลากเข้าบ้าน...ได้ผล..
:lol: ไม่ต้องชมขนาดนั้นก็ได้ ท่านพี่ หุ หุ ตอบ สมหลิม ... ไม่รู้เหมือนกัน ว่ากรูเป็นอะไร ... แต่ที่แน่ ๆ คือ กรูไม่ใช่กะเทยลำน้ำโขง เว้ย ... บ้านกรูไม่ได้อยู่ติดลำน้ำโขง ... :twisted: :evil: :twisted:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #68 เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2549, 07:50:21 » |
|
อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ มีพาดพิง
ตาแคม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
iamfrommoon
|
|
« ตอบ #69 เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2549, 07:51:30 » |
|
:lol: :roll: :lol:
เซียนโต้ง...พี่ขอเบอร์หน่อยสิครับ มีเรื่องรบกวนน่ะ ส่งให้ทาง pm ข้อความจากบอร์ดก็ได้นะ
Thank u in advance na ja
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #70 เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2549, 12:44:49 » |
|
แหะ แหะ โทษที ช่วงนี้เข้าหน้างานบ่อย ไม่ค่อยได้ดู เบอร์ข้าพเจ้า 081-9100272 คร้าบบบบ..
ตอบให้ทางpmมันเป็นยังไงอ่ะ..แบบว่าค่อนข้างโลเทค..
น้องออดิทจดไว้ก็ดีนะ..เดี๋ยวโทรไปจะได้ไม่ตกใจ..แหะ แหะ
ว่าแต่มันพาดพิงอะไรกับมรึงวะไอ้แครมมม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #71 เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2549, 12:49:55 » |
|
สู้ไอ้แครมมมมกรูไม่ได้..เผลอตีหัวลากเข้าบ้าน...ได้ผล..
ไม่ได้หมายถึงไอ้ชาร์ป ผมหมายถึงคุณนั่นแหละ ตาแคม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #72 เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2549, 13:14:43 » |
|
อ้าว..เหรอ..โทดที..เรามาดีกันนะ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
(n_n)Cellkrub
Full Member
ออฟไลน์
รุ่น: 2540
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 579
|
|
« ตอบ #73 เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2549, 13:40:06 » |
|
บักเซลล์..มรึงอย่าอะไรกับกรูมาก..กรูก็งูๆปลาๆไปเรื่อย..
BEYOND EINSTINE ยังไม่ได้อ่าน..แต่กำลังหาซื้ออยู่..แต่หายากจัง..
ส่วน TOA OF PHYSICS กรูอ่านตั้งแต่อยู่ ม 4แล้ว..ลืมหมดแล้ว..และหาหนังสือไม่ได้แล้วด้วย..ใครมีบอกบ้าง
เล่มเก่าๆของฮอฟกิง..เคยอ่านตอน ม ปลาย..ประวัติย่อของเวลา..จากบิ๊กแบง..ถึงหลุมดำ..ตอนนี้อยากอ่านอีกมาก..ไม่มีพิมพ์ซ้ำแล้วด้วย..ใครมีบอกด่วน..
ที่อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจเพราะคนแปลมันพยายามคงเนื้อหาไว้นี่แหละ..แปลมันซะทื่อๆ..กรูก็งงสิครับ..ที่มันอธิบายเรื่อง สตริง..กรูอ่านไม่รู้เรื่องเลย..10 มิติ 13 มิติ เป็นเส้นๆอะไรของมันน่ะ..
ว่าแต่ 2 เล่มสุดคลาสสิคข้างบนใครมีบ้าง..
ถึงบักซาร์ป..กรูหมั่นไส้มรึงว่ะ..ไอ้โรแมนตริกกกกก...
สู้ไอ้แครมมมมกรูไม่ได้..เผลอตีหัวลากเข้าบ้าน...ได้ผล.. beyond einstine ที่ซีเอ็ดมีขายคับ ศูนย์หนังสือจุฬาก็มีอ่ะ ส่วนเดอะเต๋า ผมมีแต่ฉบับกอปปี (ยิมห้องสมุดไปซีร๊อก)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #74 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2549, 08:33:51 » |
|
ดีมาก..บักเซลล์..นึกว่าชีวิตนี้จะไม่ได้อ่าน TOA อีกแล้นนน..เดี๋ยวไปแถวนั้นแล้วยืมถ่าย..ถ้าจะให้ดี..ถ่ายรอไว้เลยก็ได้นะ..เดี๋ยวไปจ่ายตังค์ให้..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|