24 พฤศจิกายน 2567, 14:48:29
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 142 143 [144] 145 146 ... 179   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: เที่ยวออสเตรเลีย ในมุมที่น่ามอง  (อ่าน 1214682 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 14 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #3575 เมื่อ: 16 มีนาคม 2556, 21:14:47 »

อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 12 มีนาคม 2556, 23:20:11

.....สวัสดีครับ พี่อร.....

สวัสดีค่ะน้องตี๋.ลำปางเริมร้อนแล้วสิคะ
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #3576 เมื่อ: 16 มีนาคม 2556, 21:16:29 »

อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 14 มีนาคม 2556, 19:21:29
อ้างถึง
ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 09 มีนาคม 2556, 15:14:32
น้องแหลม
พี่อยู่กทม.แล้ว
มีงานมีการส่งข่าวเหมือนเคยนะคะ
ขอบคุณเหมือนเคยค่ะ

ครับ.. จะทำหน้าที่ไม่ให้บกพร่องเลยครับพี่

ขอบคุณค่ะ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3577 เมื่อ: 16 มีนาคม 2556, 23:10:45 »

พี่'อร

รูปและข้อความชุดแรกโพสต์แล้วครับ
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #3578 เมื่อ: 18 มีนาคม 2556, 20:24:42 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 16 มีนาคม 2556, 23:10:45
พี่'อร

รูปและข้อความชุดแรกโพสต์แล้วครับ

ขอบคุณค่ะจะตามไปดู
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #3579 เมื่อ: 19 มีนาคม 2556, 11:23:55 »

ได้อ่านเรื่องนี้ จากเพื่อนส่งมาให้ อยากให้ทุกคน ได้อ่านบ้าง
แต่น้องเหยง อาจจะรู้มากกว่า ก็อ่านผ่านๆค่ะ

 


 " หมอบรรจบ" ประจานข้าวเน่า เข้าปากคนไทย ฉะรัฐบาลฆ่าชาวบ้านเลือดเย็น
 
วันพุธ ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2556, 10.11 น. แนวหน้า
 
หลังจากที่ นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล ผู้อำนวยการศูนย์ธรรมชาติบำบัดบัลวี
 และอดีตกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิศรา
 ถึงนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาลว่า กำลังทำให้สารก่อมะเร็งระบาดหนัก
 หากกระบวนการเก็บสต๊อกข้าวไม่ดีข้าวเปลือกที่เก็บไว้จะมีเชื้อราขึ้น
 โดยถือว่า โครงการจำนำข้าวกำลังฆ่าคนไทยทั้งประเทศอย่างเลือดเย็น นั้น
 ล่าสุด นพ.บรรจบ ได้โพสต์ในเฟซบุ๊คส่วนตัว Banchob Junha โดยนำประสบการณ์
 ของผู้รักสุขภาพ พูดคุยประเด็น "โครงการรับจำนำข้าว" ของรัฐบาล
 โดยงัดหลักฐานเป็นภาพข้าวเน่าบรรจุถุง
 พร้อมแชร์ประสบการณ์ตรงของผู้รักสุขภาพที่เจอข้าวเน่ากับตัวเอง
 ตามรอยข้าวเน่า เข้าปากคนไทย
 เมื่อสัปดาห์ก่อนผมพบกับผู้รักสุขภาพรายหนึ่ง เขามาบ่นกับผมว่า "
 คุณหมอรู้มั้ยเมื่อวานนี้ผมไปออกกำลังกายแล้วก็ชวนเพื่อนๆจะกินข้าวที่ร้านแห่งหนึ่ง
 พอเขาเอาข้าวมาเสิร์ฟ เปิดฝาหม้อออกมาผมก็ได้กลิ่นเหม็นตระหลบไปหมด
 ผมรีบไปขอดูว่าร้านนี้เขาเอาข้าวจากที่ไหนมาหุงให้ลูกค้ากิน
 พอไปดูก็เห็นตำตาจริงๆด้วย เป็นข้าวถุงที่ขายถูกๆของรัฐบาลนั่นเอง
 ผมนึกได้ทันที กลิ่นนี้เป็นกลิ่นเชื้อรานั่นเอง
 ผมรีบบอกเพื่อนๆว่าพากันกลับไปกินข้าวที่บ้านดีกว่า "
 " ทำไมเถ้าแก่ถึงได้จมูกไวนัก" ผมถาม
 " ก็ผมค้าข้าวมา 30 กว่าปี ทำไมผมจะไม่รู้ กลิ่นเชื้อราในข้าว
 หลอกคนอื่นได้แต่หลอกผมไม่ได้หรอก"
 ที่แท้ผู้รักสุขภาพรายนี้ท่านเป็นเจ้าของกิจการค้าข้าว
 บริษัทของเขาเคยส่งออกข้าวขายให้ต่างประเทศปีละไม่น้อย "คุณหมอครับ
 พูดก็พูดเถอะ ปีนี้สถานการณ์ร้ายแรงที่สุดตั้งแต่ผมทำการค้ามา
 เพราะนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาลนี่แหละ กิจการค้าข้าวขาดทุนกันป่นปี้
 หมอรู้มั้ยครับเมื่อปีที่แล้วบริษัทของผมจำใจต้องไปประมูลข้าวเพื่อจะส่งไป
 นอก พอประมูลได้ก็ต้องจ่ายเงินสดๆให้กับรัฐบาล
 โดยเรายังไม่ได้เห็นสินค้าเลยนะ
 เขาให้ไปเอาสินค้าจากโกดังที่นครสวรรค์บ้าง จังหวัดนั้นบ้าง
 พอไปถึงเปิดโกดังออกมา แทบจะล้มทั้งยืน เป็นข้าวขึ้นราทั้งนั้น
 เพราะรัฐบาลจะบอกว่า รับสินค้าตามสภาพ สภาพที่เขาว่าก็คือขึ้นรา
 เป็นอันว่าขาดทุนป่นปี้ทั้ง 5,000 ตัน ที่ประมูลนั้น
 ส่งออกไม่ได้ก็ต้องหาทางขายออกไปทางอื่น"
 ผมแซะถามว่าขายไปทางไหน แต่เถ้าแก่แกล้งไม่ตอบคำถามซะอย่างนั้นแหละ
 เหมือนเป็นที่รู้กัน
 "ปีนี้ลูกชายของผมต้องไปหาซื้อข้าวที่เมืองลาว
 เพราะเรามีสัญญาส่งออกไปเป็นสิบประเทศ แต่ข้าวเมืองไทยใช้ไม่ได้
 ผมก็จำยอมต้องไปซื้อข้าวเมืองลาวส่งให้กับลูกค้า"
 นี่แหละคับ เรื่องจริงเสียงจริงของโครงการจำนำข้าว
 ที่รัฐบาลเพื่อไทยกำลังผลาญไทยอยู่
 ความจริงทางวิชาการก็มีอยู่ว่าข้าวที่ขึ้นรานั้น จะอุดมด้วยอะฟลาท็อกซิน
 พิษจากเชื้อราซึ่งก่อมะเร็งตับและอาจเป็นมะเร็งที่อวัยวะอื่นได้อีกด้วย
 เนื่องจากผมทำงานด้านสุขภาพประเด็นนี้จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผม พยายาม
 " ตามรอยข้าวเน่า เข้าปากคนไทย"
 เพื่อส่งข่าวให้ผู้รักสุขภาพชาวไทยทั่วประเทศ
 สุดท้ายผมก็พอจะเข้าใจเส้นทางข้าวเน่า ดังต่อไปนี้คือ:
 
1. ปัญหาเริ่มต้นจากนโยบายประชานิยม โดยรัฐบาลประกาศนโยบายจำนำข้าว
 ตั้งราคารับซื้อข้าวเปลือกถึงตันละ 15,000 บาท/เกวียน
 เป็นราคาต้นทุนที่สูงกว่าตลาดต่างประเทศมาก เมื่อรวมค่าใช้จ่ายต่างๆ
 และเบี้ยบ้ายรายทาง ต้นทุนของข้าวรัฐบาลก็ตกประมาณ 22,000 บาท/เกวียน
 2. เมื่อรัฐครอบครองข้าวทั่วประเทศมาอยู่ในกำมือ ก็ต้องหาที่เก็บ
 จึงประกาศเช่าโกดังข้าวตามจังหวัดต่างๆ
 โกดังเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่ได้มาตรฐานสากล เช่นว่าจะต้องมีพัดลมดูดอากาศ
 ช่องระบายความชื้น และอื่นๆ แต่สมัยที่ข้าวซื้อมาขายไปได้คล่อง
 จะไม่มีการหมักหมมข้าวไว้นานๆ ปัญหาจึงยังไม่ปรากฏ
 แต่เมื่อมาเจอราคาข้าวที่สูงกว่าตลาดโลก ข้าวจึงขายไม่ออก
 เกิดการหมักหมมข้ามเดือน ข้ามปี ดังนั้น
 ข้าวในโกดังรับผิดชอบของรัฐบาลก็เริ่มเกิดเชื้อรา เกิดอาการเน่าเสีย
 3. สภาพเช่นนี้ รัฐบาลต้องเร่งหาทางกำจัดออก
 จึงออกจึงดำเนินการจัดจ้างให้บริษัทผู้ค้าข้าวต่างๆให้นำข้าวเชื้อราไปปรับ
 ปรุงคุณภาพ (คือนำข้าวสารมาผ่านกระบวนการทำความสะอาด)แล้วบรรจุถุง
 ขายระบายออกไปในนามของ "ข้าวธงฟ้า" "ข้าวถูกใจ"
 และข้าวช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติ บ้าง
 เพื่อใช้ปากท้องของประชาชนระดับล่างช่วยบริโภคข้าวเชื้อราเหล่านั้นไป
 ต้องรู้อย่างหนึ่งว่า กระบวนการทำความสะอาดไม่สามารถจะขจัดสารพิษอะฟลาได้
 เพียงทำให้ข้าวดูดีขึ้นเท่านั้น นี่เป็นเส้นทางที่หนึ่ง
 ซึ่งคนไทยผู้บริโภคต้องรับสารพิษจากเชื้อราเพราะการระบายข้าวเน่าของรัฐบาล
 4. ข้าวที่ล้นอยู่ในโกดังยังคงเน่าต่อไป
 รัฐบาลจึงเปิดประมูลเป็นครั้งคราวให้ผู้ค้าข้าวทั้งที่ส่งออกและทั้งที่ค้า
 ขายภายในประเทศประมูลออกไป
 ผู้ประมูลต้องใช้ความสามารถสุดท้ายปัญญาของแต่ละบริษัท
 เช่นสืบเสาะที่ไปที่มาของข้าวแต่ละโกดังที่จะประมูลว่า ใหม่หรือเก่า
 โกดังอยู่ในสภาพดีหรือไม่ดี อาจมีการขอข้อมูลจากฝ่ายตรวจสอบคุณภาพข้าว
 ซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนของรัฐบาลในการดูแลคุณภาพในโกดัง
 แต่ก็เป็นที่รู้กันว่า ฝ่ายตรวจสอบในแต่ละพื้นที่มีโอกาส "รู้กัน"
 กับเจ้าของโกดัง หลายๆโกดังก็จัดการ "ล้อมกอง" ข้าวในโกดัง กล่าวคือ
 เอาข้าวเน่ากองไว้ตรงกลางโกดัง ข้าวคุณภาพดีเรียงไว้ด้านนอกๆ
 เวลาตรวจสินค้า เพียงแต่แทงกระสอบข้าวนอกๆมาตรวจก็สามารถให้ใบรับรองว่าข้าวอยู่ในสภาพดี
 แต่ที่แท้แล้วข้างในเป็นข้าวเน่า
 กระบวนการล้อมกองนี้อาจเป็นที่รู้กันระหว่างโกดังข้าวกับพนักงานตรวจ
 ซึ่งแต่งตั้งโดยรัฐบาล
 5. ผู้ส่งออกเมื่อซื้อข้าวจากโกดังของรัฐบาล จะเจอปัญหา 2 ประการ
 หนึ่งคือ ข้าวไม่ได้คุณภาพ มีเชื้อรา ส่งออกไม่ได้ สองคือ
 ราคาข้าวต้นทุนสูงกว่าที่จะส่งต่างประเทศได้
 จึงได้แต่นำข้าวเหล่านั้นระบายออกไป 2 ทาง หนึ่งคือ สีเป็นข้าวบรรจุถุง
 ปนเปกันไประหว่างข้าวดีและข้าเน่า ส่งขายตามซูเปอร์มาร์เกต
 ข้าวเหล่านี้จะเข้าปากผู้บริโภคระดับกลาง
 นี่เป็นเส้นทางเส้นที่สองของการกินข้าวเชื้อรา
 ถึงแม้ผู้บริโภคจะไม่ได้ซื้อข้าวธงฟ้าหรือข้าวถูกใจ
 แต่กินข้าวถุงตามซูเปอร์ฯ ก็มีสิทธิ์กินเชื้อราเข้าไปเหมือนกัน
 ส่วนทางออกอีกประการหนึ่งของผู้ค้าข้าวเมื่อได้ข้าวเชื้อรามาก็ต้องหาทาง
 เวียนเทียนขายข้าวเชื้อรานั้นกลับไปให้โรงสี
 6. ฝ่ายโรงสี จะมีจังหวัดละหลายสิบโรงที่เข้าสังกัดกับรัฐบาล
 เพื่อเป็นโรงสีที่รับซื้อข้าวจากชาวนาและแปรสภาพ
 คือสีเป็นข้าวสารส่งเข้าโกดังของรัฐบาลไป แน่นอนว่า
 เพื่อที่จะเข้าไปมีส่วนได้เสียในโครงการจำนำข้าวนี้ แต่ละโรงสี
 รวมไปถึงแต่ละโกดัง ก็ต้องดิ้นรนใช้ " ทุกๆปัจจัย "
 เพื่อให้ตัวเองเข้าสังกัดเพื่อเข้าสู่วงจรของการค้าข้าวที่มีรัฐบาลเป็น
 เถ้าแก่ใหญ่ของวงการนี้
 7. โรงสีจะเปิดรับจำนำข้าวจากชาวนา แน่นอนว่า จะต้องกดราคาให้ต่ำลงไป
 โดยอ้างเปอร์เซ็นต์ความชื้นบ้าง หรือคุณภาพอื่นร้อยแปดพันเก้า
 สุดท้ายชาวนาก็อาจจะขายไปได้ในราคา 9,000 - 12,000 บาท/เกวียน
 โรงสีออกใบรับให้ ชาวนายังไม่ได้เห็นเงินทันที
 ซึ่งก็มีบางรายที่โกงกันไปบ้าง ชาวนาขายได้ก็รีบไปปลูกข้าวรุ่นต่อไป
 ผลปรากฏว่า ชาวนาภาคกลางซึ่งน้ำดี สามารถปลูกข้าวนาปรังปีละหลายครั้ง
 ในปัจจุบันนี้จะไม่รอให้ข้าวสุกเต็มที่ซึ่งกินเวลาประมาณ 120
 วันดังแต่ก่อน แต่พอข้าวมีอายุ 90 วันก็เกี่ยวแล้วส่งขายทันที
 เพราะโครงการจำนำข้าววัดกันที่ปริมาณ ไม่ได้วัดที่คุณภาพข้าวกันอีกแล้ว
 ผลก็คือ ข้าวไม่สุกดี ความชื้นสูง เมื่อสีเป็นข้าวสารก็อมความชื้นสูง
 ยิ่งเปิดโอกาสให้ขึ้นราได้ง่ายขึ้นอีก
 8. โรงสีรับจำนำข้าวชาวนาในราคาต่ำ แล้วไปขายต่อแก่รัฐบาลในราคา 15,000
 บาท/เกวียน เป็นอันได้กำไรต่อที่หนึ่ง
 ทีนี้เมื่อได้ข้าวที่ขายมาใหม่ๆจากชาวนา ได้เงินจากรัฐบาลแล้ว
 โรงสีก็จะพิจารณาว่าข้าวที่ได้มาใหม่จะขายไปทางไหน
 ถ้าส่งออกได้ก็ส่งออกในรูปของข้าวนึ่ง ซึ่งเน้นขายให้กลุ่มประเทศอาหรับ
 เป็นข้าวคุณภาพดี
 ในเวลาเดียวกันก็เปลี่ยนเอาข้าวเน่าซึ่งเป็นข้าวเวียนเทียนที่รับซื้อมา
 จากบริษัทผู้ค้าข้าว
 เอาข้าวส่วนนี้ส่งให้กับรัฐบาลในนามของข้าวรับจำนำล็อตใหม่
 โดยที่แท้แล้วเป็นข้าวล็อตเก่าที่เวียนเทียนกลับไป
 9. เมื่อข้าวเวียนเทียนหมุนกลับเป็นข้าวรัฐบาล
 รัฐบาลก็เปิดประมูลอีกให้ผู้ค้าข้าวซื้อเอาไป ผู้ค้าข้าวซื้อมา
 ขายต่างประเทศไม่ได้ ก็ได้แต่บรรจุใส่ถุงขายเข้าซูเปอร์มาร์เกต
 รอให้คนไทยบริโภคกันไป เป็นอันว่า ด้วยนโยบายจำนำข้าวนี้
 ข้าวใหม่มีโอกาสส่งออกได้น้อยเต็มที เพราะสู้ราคาต่างประเทศไม่ได้
 นอกจากจะยอมขายขาดทุน ดังที่รัฐบาลเพิ่งจะมายอมรับ
 แต่แท้ที่จริงแอบขายขาดทุนมานานแล้ว เพื่อระบายออกเท่าที่จะได้
 ส่วนข้าวที่ค้างสต็อกขายไม่ทันก็เน่าเพิ่มขึ้นทุกที
 รอให้ถูกเวียนเทียนแล้วกลายเป็นข้าวถุง
 รอให้คนไทยช่วยกันบริโภคจนกว่าจะหมด
 ทุกวันนี้คนไทยจึงไม่มีโอกาสกินข้าวใหม่
 ต้องอ้าปากคอยกินข้าวเชื้อราจากข้าว รุ่นแล้วรุ่นเล่าไปเรื่อยๆ
 จนกว่าจะเป็นมะเร็งตายกันไปข้างหนึ่ง
 10. คนไทยยังมีโอกาสรับเชื้อก่อมะเร็งทางอ้อมอีกทางหนึ่ง กล่าวคือ
 ทุกขั้นตอนของการแปรสภาพข้าวและปรับปรุงคุณภาพข้าว จะมีปลายข้าว รำข้าว
 ฝุ่นข้าว ซึ่งล้วนไม่สูญเปล่าทั้งนั้น เพราะจะมีเล้าหมู เล้าไก่
 บ่อเลี้ยงปลา มารับซื้อเอาไปเลี้ยงหมู ไก่ ปลา
 ในเมื่อผลิตภัณฑ์เหล่านี้ล้วนอุดมด้วยพิษอะฟลา ผลก็คือ
 ปศุสัตว์รุ่นต่อๆไปนับจากนี้ก็จะมีสารก่อมะเร็งแฝงอยู่ในเนื้อของสัตว์เหล่า
 นี้ ดังข้อมูลจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติอเมริกาเปิดเผยว้แล้วว่า
 สารก่อมะเร็งอะฟลาท็อกซิน B1 ในข้าว จะถูกเปลี่ยนเป็นอะฟลาท็อกซิน M1
 ในเนื้อสัตว์รอที่จะก่อมะเร็งให้กับคนที่กินเนื้อสัตว์เหล่านี้ต่อไป
 นี่เป็นเส้นทางที่สามที่ก่อมะเร็งให้กับคนไทยต่อไป
 11. ข้าวที่เอาอกมาระบายเป็นข้าวตั้งแต่ปี 48/49 ปี 54/55 และปี 55/56
 เชื้อรามีมากน้อยตามระยะเวลาของข้าวที่ตกค้าง
 ดังนั้น เมื่อพูดถึงปัญหาข้าวเน่า บางคนอาจคิดว่า
 นโยบายนั้นถูกต้องเพื่อให้ชาวนาได้ประโยชน์
 แต่คนที่ทำผิดคือเจ้าของโกดังข้าวที่ดูแลไม่ดี คือโรงสีที่สับเปลี่ยนข้าว
 คือผู้ค้าข้าวที่มีนำข้าวมาเวียนเทียน แต่แท้ที่จริงแล้ว
 เหนือสิ่งอื่นใดปัญหาใหญ่สุดที่เกิดขึ้นคือการกำหนดนโยบายจำนำข้าวเพื่อ
 ประชานิยม โดยกำหนดราคาสูงกว่าตลาดโลกมาก จนเกิดภาวะที่ระบายข้าวไม่ออก
 เป็นความผิดระดับต้นทางของปัญหาทั้งหมด
 เช่นเดียวกับนโยบายประชานิยมนั่นเอง
 ต่อปัญหาการควบคุมสารพิษอะฟลาท็อกซิน
 สถาบันสุขภาพแห่งชาติอเมริกาหรือกระทรวงสาธาณสุขอเมริกันนั่นเอง
 ได้แนะแนวทางมาตรฐานไว้ว่า "
 วิธีการที่จะควบคุมพิษจากเชื้อราเหล่านี้โดยส่วนใหญ่แล้วต้องเน้นที่การ
 ป้องกัน ได้แก่ ดำเนินเกษตรกรรมอย่างมีความรับผิดชอบ
 การตากผึ่งผลิตผลทางเกษตรให้แห้ง
 มีงานวิจัยอีกหลายชิ้นที่เน้นหนักเรื่องการป้องกันการปนเปื้อนสารพิษเหล่า
 นี้ตั้งแต่ก่อนการเก็บเกี่ยว
 การวิจัยก้าวไปถึงขั้นที่ว่าจะต้องพัฒนาพันธุ์ข้าวที่สามารถต้านทานการติด
 เชื้อรา มีการวิจัยถึงขั้นพันธุวิศวกรรมศาสตร์เพื่อใส่ยีนที่ต่อต้านเชื้อราลงใน
 พันธุ์ข้าวด้วย การใช้สารทางชีวภาพช่วยควบคุมเชื้อรา
 หรือใช้กระบวนการปรับสภาพยีนเป้าหมาย( targeting regulatory genes)
 ของเชื้อราที่สร้างพิษ
 อย่างไรก็ตามตราบเท่าปัจจุบันยังไม่มีวิธีหนึ่งวิธีใดที่จะแก้ปัญหานี้ได้
 เพราะการติดเชื้อราพิษมักจะปนเปื้อนเข้าสู่อาหารเป็นอาจิณ
 หลีกเลี่ยงกันแทบไม่หวาดไม่ไหว
 มีแต่จะใช้ความพยายามทุกวิถีทางในการคัดแยกสินค้าเกษตรที่ปนเปื้อนเชื้อรา
 พิษเหล่านี้ออกไปจากอาหารที่สนองเข้าสู่ชุมชน
 ด้วยกระบวนการคัดกรองและควบคุมดูแลโดยรัฐบาลเท่านั้น"
 นั่นแปลว่า รัฐบาลทุกประเทศต้องมีธรรมาภิบาลในการคัดแยกผลิตภัณฑ์เกษตรที่ปนเปื้อนสาร
 พิษไม่ให้เข้าสู่ปากท้องของประชาชน และแม้แต่ประชากรของประเทศคู่ค้า
 แต่ในทางกลับกันถ้ารัฐบาลของเรารู้ทั้งรู้ว่าข้าวเน่า ปนเปื้อนเชื้อรา
 แต่กลับใช้วิธีปรับปรุงคุณภาพข้าว ใส่ถุงกลับไปให้ประชาชนกิน
 เหมือนกับการ " ย้อมแมว " ขาย
 เช่นนี้ก็เท่ากับเพิ่มโอกาสการเป็นมะเร็งให้กับประชาชนทั้งประเทศ
 จะเป็นการสมควรอยู่หรือ ?
 ถึงคราวหรือยังที่รัฐบาลจะต้องทบทวนนโยบายจำนำข้าว
 รีบแก้ปัญหาข้าวเน่าอย่างถูกต้องตามหลักการสากล
 และปกป้องสุขภาพประชาชนทั้งประเทศให้ปลอดภัยจากปัญหานี้โดยด่วน!!!


      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3580 เมื่อ: 20 มีนาคม 2556, 18:32:03 »

พี่'อร


ผมมาเพิ่มเติมให้ครับ
ข้าวสารเข้าโกดัง ต้องทำการอบรมยารักษาคุณภาพ หรืออีกนัยหนึ่งคือ กำจัดมอดข้าวสาร
การอบรมยาจะทำทุกๆ 2-3 เดือน ขึ้นกับสภาพของอากาศที่ขณะนั้น
แต่ปกติจะอบกันทุกๆ 2 เดือน
มีคำถามตรงข้อ 11 ว่า ข้าวสารที่เข้าโครงการปี 48/49 ต้องผ่านการอบยามากี่ครั้งแล้ว
สารที่ใช้คือ Aluminium phosphide สูตรใกล้เคียงกับก๊าซพิษฟอสจีนที่ใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 1
ข้าวที่อบด้วยยาฆ่ามอดปีละ 6 ครั้ง เอามาหุง ความร้อนจะช่วยไล่สารพิษให้ระเหยออกไปจากเมล็ดข้าว
และข้าวสารแปรสภาพเป็นข้าวสุก ไม่ทราบว่าจะมีสารพิษตกค้างอยู่อีกเท่าใด ??
เฉพาะเรื่องยาตกค้างนี้ ก็นับไม่ไหวแล้วครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3581 เมื่อ: 20 มีนาคม 2556, 18:42:10 »

ทำไม ข้าวสารถึงเน่า ??

เนื่องจากโรงสีต้องสีแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร
ด้วยการรับข้าวเปลือกความชื้นสูงจากชาวไร่-ชาวนา ต้องแข่งกับให้ได้ข้าวเปลือกจำนวนมากๆ
เพราะรัฐบาลให้ค่าแปรสภาพเป็นรำ ข้าวปลาย โรงสีเอาไปขาย ได้ไม่พอ 450 บาท(ราคาจ้างเดิม รัฐแถมเงินจนครบ)
ปัจจุบันค่าสีแปรสภาพปรับเพิ่มขึ้นแล้ว แต่ผมจำไม่ได้
โรงสีเอาใจชาวนา ด้วยการหักความชื้นน้อยลง (ศัพท์วิชาการ-เอาใจตลาด)
แต่รัฐกำหนดให้โรงสีส่งข้าวสารเข้าโกดัง 6 กระสอบ/เกวียน (อัตรานี้แปรผันตามชนิดของข้าวเปลือก)
ปกติสีข้าวเปลือกแห้งความชื้น 15% จะได้ข้าวสารความชื้น 13% ใส่กระสอบส่งโกดังกลาง
ทำตามบรรทัดบน โรงสีจะขายทุน ไม่เหลืออะไรเลย
โรงสจึงสีข้าวเปลือกที่ความชื้น 18-19% เพื่อให้ได้ข้าวสารความชื้น 15-16% ซึ่งเก็บไว้นานไม่ได้
เพราะจะขึ้นรา เนื่องจากเมล็ดข้าวสารยังมีความชื้น (นี่แหละครับ ต้นเหตุข้าวเน่า เมื่อเก็บไว้นานๆ)
แต่มัจำเป็น เวลาเอาข้าวสารไปส่ง ก็ติดสินบนเซอร์เวเยอร์ ข้าวสารก็ลงได้ครับ

หนักหน่อยคือ ประมูลข้าวเน่าราคาถูกออกมา แล้วเปลี่ยนกระสอบใหม่ ส่งเข้าโกดังกลางแทนข้าวสารใหม่
แล้วเอาข้าวสารใหม่ที่ได้ไปขายในตลาด ส่วนต่างของข้าวสารใหม่ VS ข้าวสารเน่า ทำคนร่ำรวยครับ ??
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3582 เมื่อ: 20 มีนาคม 2556, 18:44:14 »

ภาษิตไทยแต่โบราณ

ซื่อ-กินไม่หมด
คด-กินไม่นาน
ของหลวง-กินตั้งนาน ก็ไม่หมด

มีกินได้ทุกปีครับ ตามงบประมาณที่จัดสรรออกมา ?!!!


มีภาค 2 ครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3583 เมื่อ: 21 มีนาคม 2556, 22:49:51 »

น้ำจิ้ม.......??


"เยาวภา" ว่าที่นายกฯ สำรอง?
เปลว สีเงิน21 March 2556 - 00:00

    "นารีขี่ม้าขาว" ตัวจริง-เสียงจริงมาแล้วไง เข้าใจผิดกันทั้งเมืองมาเป็นปีว่า "นายกฯ ยิ่งลักษณ์" คือนารีขี่ม้าขาว "ที่แท้กลายเป็น "นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์" หรือ "เจ๊แดง" ที่ไพร่ใส่สูทเทิดทูนเป็น "นางพญาจิ้งจอกขาว" แห่งสำนัก นปช.เพื่อไทย การคืนสู่ยุทธจักรของนาง ใช่มาในความหมาย "นายกฯ สำรอง" หรือไม่ ดูที่คุณโอ๊คโพสต์ใน fb ก็ได้
    ".....การมีนายกฯ สำรองสำหรับพรรคอื่นไม่จำเป็นหรอกครับ แต่สำหรับพรรคเพื่อไทย ผมว่ามีไว้สัก ๒-๓ คน กำลังสวย อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ครับในยุคนี้"
    แสดงว่าคุณโอ๊คหรือพานทองแท้ "รู้จริง" คือรู้ว่า เวลาการเป็นนางแบบท็อปโมเดลของ "อาปู" ใกล้หมดแล้ว เพราะ ป.ป.ช.เอาจริงแน่ กับเรื่องแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ประเด็น ๓๐ ล้านโอนให้ผัว เมื่อเช็กแล้ว "หลักฐานขัดกัน" มันก็เลยเป็นปมให้ ป.ป.ช.ต้องจับขึ้นขาหยั่งส่องกล้อง ชนิด....
    "อย่ามาทำเสียงสำออยซะให้ยาก!"
    แค่นั้นก็ท้องผูกแล้ว แต่นี่ยังเจอเรื่องทุจริตจำนำข้าวเป็นแสนๆ ล้าน ถ้าเป็นอัยการเจอ ยังจะสยายหัวร่อให้เห็นลิ้นไก่ใจระทวยได้ เพราะพี่ชายเคยบอกว่า "อัยการของผม"
    แต่นี่เป็น ป.ป.ช.ชุดคุณวิชา มหาคุณ คุณกล้านรงค์ จันทิก และ พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง บอกได้คำเดียว...อยากโชว์ลิ้นไก่ก็รีบโชว์เป็นครั้งสุดท้าย เพราะอีกไม่เกินไตรมาส
    กระเดือกจะไปทาง คอจะกระเด็นไปทาง!?
    เห็น ป.ป.ช.มียศ พล.ต.อ.นำหน้าชื่อ หลายคนร้องอั๊ยยยยย่ะ ก็คงไม่เป็นไร จะได้เป็นการตอบโจทย์ว่า เป็นหลาวทองของพระยายมทูต หรือของพระยามูลเมือง สิ้นเรื่อง-สิ้นสงสัยกันไปเลย!
    ก็อยากเตือน "กระทรวงพาณิชย์" ด้วยหวังดี ตั้งแต่ตัวรัฐมนตรีลงมาถึงตัวปลัดหญิง อย่านึกว่าเล่นเกมซ่อนหา ป.ป.ช.ขอเอกสารอะไรมา...ข้าไม่รู้-ไม่เห็น-ไม่มี แล้วนึกว่าจะรอด
    ผมเกรงว่า จะถูกรางวัลเลขท้ายหวยจีทูจีไอ้เปี๋ยงบ้าง เจ๊ ด. บ้าง ตะรางเขาก็รับขังผู้หญิง ซี ๑๐ ซี ๑๑ ด้วยนะ เดี๋ยวจะว่าไม่บอก!
    พูดถึงเจ๊ ด. ที่ถูกกล่าวขานขนานไปกับเรื่องจำนำข้าว ผมว่า นายกฯ ยิ่งลักษณ์ไม่ได้เรื่อง ฝ่ายค้านเขาอภิปรายในสภาฯ ก็แล้ว เอาเอกสารหลักฐานมาแฉก็แล้ว ว่าเรื่องจำนำข้าวทุกเม็ดเกวียนละหมื่นห้านั้น มันเป็นนโยบายบ่อนทำลายประเทศ แถมยังโกงกินเป็นขบวนการทุกขั้นตอน
    นายกฯ ต้องจัดการ!
    แต่ก็ไม่เห็นจัดการ กลับไปบูรณาการโกงให้การขายข้าวของไทยกลายเป็นระบบผูกขาดโดยรัฐ ซ้ำการขายแบบจีทูจีจนบัดป่านนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ก็ยังตอบไม่ได้ว่า จีทูจีกับประเทศไหน กี่ตัน ราคาเท่าไหร่ แอล/ซี ซักใบ ก็ไม่มีใครเห็น?
    หรือ "กระทรวงคลัง" ของกิตติรัตน์ "ไวต์ลาย" เห็น?
    แอบขายถูกๆ พวกกันเอง แล้วเอามาเวียนเทียนขายหมื่นห้าราคาจำนำอีกรอบหรือเปล่า ชาวบ้านเขาสงสัย และตอนนี้ข้าวที่ซื้อไว้อัดแน่นรอเน่า (เผาจะตามมาทีหลัง) ตามโกดังเช่า มีกี่ล้านตัน ที่บอกจะโละประมูล ยอมขาดทุน (เงินประชาชน) เพื่อเอาทุนคืนมาบ้างนั้น โละให้ใคร ราคาเท่าไหร่?
    ได้เงินส่งเงินคืนคลัง คืน ธ.ก.ส.ไปบ้างหรือยัง และเงินนั้นสามารถสำแดงที่มา-ที่ไปได้ถูกต้อง ไม่ใช่ล่องลอยมาจากไหนไม่รู้ หล่นปุ๊คืนให้คลังใช่ไหม ทุกวันนี้การขายข้าวของรัฐบาลกลายเป็น "ความลับสุดยอดทางราชการ" ประเทศเดียวในโลกไปแล้ว!
    ขายข้าวได้ มีแต่เขาจะเอามาโม้เป็นผลงานรัฐบาล!
    แต่นี่...รัฐบาลนางยิ่งลักษณ์ทั้งแถลงต่อสภาฯ ก็ไม่ได้ แถลงต่อสื่อไปยังประชาชนก็ไม่ได้ ไทยอยู่ในระบบการค้าเสรีแท้ๆ แถมคุยว่า ยึดหลักธรรมาภิบาล แต่ทุกอย่าง "ปิดลับ" หมด กระทั่งว่า ที่รับจำนำมาด้วยต้นทุนตันละกว่า ๘๐๐ เหรียญฯ ในขณะที่ราคาตลาดอยู่ตันละ ๔๐๐ กว่าเหรียญฯ นั้น
    แม่เนื้อหอมยิ่งลักษณ์ กับพ่อจำปีหอมบุญทรง "ขวัญใจเจ๊แดง" ขายตูดแหกกันไปในราคาตันละกี่เหรียญฯ?
    ยิ่งลักษณ์ใช้ไม่ได้จริงๆ มันต้อง "นายกฯ เยาวภา" และผมก็อยากเห็นการเปลี่ยนตัวนายกฯ จากยิ่งลักษณ์ ผู้น้องสาว เป็นเยาวภา ผู้พี่สาวไวๆ เหตุผลขั้นแรก คือ
    อยากให้นายกฯ เยาวภาเข้ามาใช้อำนาจนายกฯ กระชากหน้ากาก "ไอ้โม่งแดง" ที่อยู่เบื้องหลังขบวนการทุจริตข้าวอันฉาวประเทศอยู่ตอนนี้!
    เห็นกล่าวขานกันให้รึ่มว่า นาง ด...นาง ด....คือตัวการเรื่องข้าว แล้วนาง ด. มันคือใคร ยิ่งลักษณ์ไม่สามารถกระชากหน้ากากให้ประชาชนเห็นได้ จะด้วยไม่มีตัว หรือมี แต่ลูบหน้า-ปะจมูกจึงไม่กล้า หรือด้วยกัน หวังว่าถ้านางเยาวภามาเป็นนายกฯ แทนยิ่งลักษณ์
    เธอต้องกล้าโชว์เป็นผลงานแน่! 
    โชว์ด้วยการกระชากหน้ากากนาง ด. แล้วสะบัดหลังมือใส่หน้าซ้าย-ขวา เพียะๆๆๆๆๆ ให้ ๓, ๕, ๗, ๙, ๑๑ วอยซ์ทีวี เอเชียอัพเดต ถ่ายทำเป็นข่าวไปประจานในแต่ละช่อง
    เสร็จแล้ว ให้คุณภิญโญเอาไป ซัก-ขยี้ ออกอากาศ ในรายการตอบโจทย์ ทางไทยพีบีเอสซะให้เข็ด!   
    แล้วเรื่องประมูลโครงการบริหารจัดการน้ำ ๓.๕ แสนล้าน บริษัทที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้าประมูล ๑ ใน ๖ กลุ่มบริษัท มี "เค วอเตอร์" ของเกาหลีด้วย
    ได้ข่าวว่าบริษัทเกาหลีเริ่มจินตลีลาแต่หัววัน ทั้งเรื่องราคากลาง ทั้งเรื่อง TOR ขอปรับโน่น-เปลี่ยนนี่ ผมว่านอกจากทักษิณ ก็นางเยาวภา ๒ คนนี้เท่านั้น ที่สามารถคุยเรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆ ระบบอันเดอร์ เดอะ เทเบิล กับกลุ่มบริษัทเกาหลีรู้เรื่อง
    นางแบบท็อปโมเดลน่ะ...ชีก็เอาแต่สนุกแต่งชุดฮันบกถ่ายรูปเท่านั้น!
    สรุปแล้ว ที่ปฏิเสธกันเหยงๆ เมื่อ ๓-๔ วันก่อนว่า ไม่มี-ไม่ใช่-ไม่จริง ไม่ได้ให้ ส.ส.ลาออก เพื่อให้นางเยาวภาเข้าสภาฯ มาเตรียมท่าเป็นนายกฯ สำรอง ถึงวันนี้ ที่ว่าไม่มี ก็มีแล้ว ที่ว่าไม่ใช่ ก็ใช่แล้ว ที่ว่าไม่จริง ก็จริงแล้ว
    จำเป็นครับ...จำเป็นต้องให้เจ๊แดงเข้าไปบริหาร-จัดการ ส.ส.ในสภาฯ ชนิด "ถึงลูก-ถึงคน" เพราะเกมต่อไป พักเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แล้วเข้าเกียร์เดินหน้าเรื่อง "แก้รัฐธรรมนูญ" รายมาตรา ส่วนญัตติร่างแก้ไขมาตรา ๒๙๑ ที่คาอยู่ในสภาฯ ก็ให้คารอท่าไว้ หมายความว่า "เจาะเอาทุกทาง"
    ทางไหน "ได้ก่อน-เอาก่อน"!
    ส.ว.ดิเรก ถึงฝั่ง คราวนี้ "ถึงฝั่ง" เสียทีนะ คิดว่าผลงานทำทีม ส.ว.ผสม ส.ส.นปช.เพื่อไทย ตบเท้าเข้าเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ "รายมาตรา" จำนวน ๓ ร่าง ต่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาเมื่อวาน (๒๐ มี.ค.๕๖) ต้องเข้าตาทักษิณแน่
    เพราะแต่ละมาตราที่ขอแก้ เป็นการแก้เพื่อผลประโยชน์ ส.ส.-ส.ว.ในการดำรงคงอยู่ในระบบรัฐสภาโดยตรงแล้ว ที่ผมอยากให้จับตากันเป็นพิเศษ ที่ ส.ส.-ส.ว.ระบอบทักษิณ เขาทำ "ตีลูกซึม" ขอแก้ด้วย คือ
    มาตรา ๖๘ เรื่องการใช้สิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญ!
    ตรงนี้น่าห่วง ห่วงด้วยความระแวง-ระไว เพราะการแก้มาตรานี้ เท่ากับเป็น "ใบเบิกทาง" ไปสู่การเปลี่ยนระบอบ-ล้มสถาบัน ประสานสู่แผน "รัฐธรรมนูญ ฉบับทักษิณ" แบบสมูธ แอส ซิลค์
    การยื่นแก้ไขมาตรานี้ ทำให้ความคลุมเครือที่ว่า รัฐธรรมนูญฉบับที่ทักษิณต้องการให้ตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมาเขียนใหม่นั้น จะเขียนกันไปในแนวใด-ทางใด ดูจากข้อความมาตรา ๖๘ ที่เขาต้องการแก้ไขเป็นอย่างอื่นก็ได้
    มาตรา ๖๘ บุคคลจะใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้ หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการอันมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้ มิได้
    ในกรณีที่บุคคลหรือพรรคการเมืองใดกระทำการตามวรรคหนึ่ง ผู้ทราบการกระทำดังกล่าวย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นคำร้องของให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว แต่ทั้งนี้ ไม่กระทบกระเทือนการดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำการดังกล่าว.........ฯลฯ
    ยังไม่หมด ยังมีอีก ๒ วรรค หารัฐธรรมนูญอ่านเองละกัน ผมเพียงยกเป็นตัวอย่างให้เห็น ถ้าแก้มาตรานี้เป็นอื่น ก็หมายความว่า เมื่อแก้สำเร็จแล้ว
    สามารถล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ได้!!!
    หรือสามารถใช้วิธีการอื่นใดนอกเหนือจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้บัญญัติไว้ก็ได้ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจปกครองประเทศ!!!     
    ครับ...จะแก้กันสำเร็จในยุค "รัฐบาลยิ่งลักษณ์" หรือ "รัฐบาลเยาวภา" หรือว่า ในจำนวนขุนศึกตระกูลชิน จะมี ใครเสร็จ ก่อน สำเร็จ นั่น...เห็นทีต้องจุดธูปถาม "งูแสงอาทิตย์เขมือบเหี้ย" ซะแล้ว!..

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3584 เมื่อ: 22 มีนาคม 2556, 10:06:02 »

จากมติชน ออนไลน์....

เจ๊แดง ทำได้ทุกอย่าง นายกฯสำรอง นักบินผู้ช่วย ...แต่ !!!
วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 09:45:22 น.
 
การ์ตูนคิวคน โดยอรุณ วัชระสวัสดิ์ มติชน 22 มีนาคม 2556

เจ๊แดง เธอคือ นายกฯสำรอง  นักบินผู้ช่วย ...


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1363919921&grpid=03&catid=&subcatid=

 
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #3585 เมื่อ: 22 มีนาคม 2556, 11:03:48 »

ขอบคุณน้องเหยงได้ความรู้เรื่องข้าวเยอะเลยค่ะ
      บันทึกการเข้า
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
*****


ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927

« ตอบ #3586 เมื่อ: 23 มีนาคม 2556, 07:58:16 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 22 มีนาคม 2556, 10:06:02
จากมติชน ออนไลน์....

เจ๊แดง ทำได้ทุกอย่าง นายกฯสำรอง นักบินผู้ช่วย ...แต่ !!!
วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 09:45:22 น.
 
การ์ตูนคิวคน โดยอรุณ วัชระสวัสดิ์ มติชน 22 มีนาคม 2556

เจ๊แดง เธอคือ นายกฯสำรอง  นักบินผู้ช่วย ...


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1363919921&grpid=03&catid=&subcatid=

 


 ชอบนะ ชอบนะ ชอบนะ
      บันทึกการเข้า

“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้
อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3587 เมื่อ: 23 มีนาคม 2556, 12:27:49 »

อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 23 มีนาคม 2556, 07:58:16
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 22 มีนาคม 2556, 10:06:02
จากมติชน ออนไลน์....

เจ๊แดง ทำได้ทุกอย่าง นายกฯสำรอง นักบินผู้ช่วย ...แต่ !!!
วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 09:45:22 น.
 
การ์ตูนคิวคน โดยอรุณ วัชระสวัสดิ์ มติชน 22 มีนาคม 2556

เจ๊แดง เธอคือ นายกฯสำรอง  นักบินผู้ช่วย ...


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1363919921&grpid=03&catid=&subcatid=

 


 ชอบนะ ชอบนะ ชอบนะ

เขาเรีบกว่าอะไร solf หรือ hard Landing อ่ะ??

หรือมีชื่ออื่นอีก อ้ายประเภท dead หรือ crash landing

 งง งง
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3588 เมื่อ: 23 มีนาคม 2556, 12:56:33 »

พี่ปี๊ด

นำมาฝากโดยเฉพาะ แสดงให้เห็นถึงฝีมือคนไทยจริงๆ


เสียว! กัปตันการบินไทย เอาเครื่อง A380 ลงสนามบินนาริตะ
ท่ามกลางอากาศแปรปรวน มีลมเฉือนรันเวย์(ชมคลิป)

วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 12:15:02 น.
 
ข่าวสดออนไลน์ : คลิปชาวเน็ตยกย่องนักบินการบินไทย เอาเครื่องลงสนามบินนาริตะ ท่ามกลางอากาศแปรปรวน มีลมเฉือนรันเวย์ (crosswind) บันทึกภาพวันที่ 13 มี.ค. 2556 ความเร็วลมที่สนามบินนาริตะของญี่ปุ่น 27.4 m/s เครื่องบินการบินไทย รุ่น A380


<a href="http://www.youtube.com/watch?v=nQW6ThGILq4" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=nQW6ThGILq4</a>

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1364015650&grpid=02&catid=&subcatid=
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #3589 เมื่อ: 24 มีนาคม 2556, 15:52:07 »

ขอบคุณค่ะน่าตื่นเต้นค่ะ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3590 เมื่อ: 24 มีนาคม 2556, 15:58:13 »

สวัสดีครับ พี่'อร

บ่ายวันอาทิตย์ ไม่ได้ไปไหนหรือครับ ??

แต่ช่วงนี้แดดร้อนจริง ๆ
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #3591 เมื่อ: 25 มีนาคม 2556, 09:12:48 »

พี่มาชลบุรีค่ะมาดูบ้านตัดหญ้า ทำสวน
ปรากฎว่าช่วงนี้อากาศร้อน
คราวที่แล้วพี่หากระป๋องนำ้และเมล็ดพืช
ไว้ให้นกกลับบ้านคราวนี้
พี่ได้นกมาเป็นสมาชิกมาเป็นใหม่
นอกจากกระรางหัวขวานเจ้าเดิม
นกประจำถิ่นเช่นกาเหว่า.ที่มาลงที่สนามประจำ
ตอนนี้ได้เพิ่มนกเขาขาวมาอีกตัวค่ะ
สวยดีแถมกินจุอีกต่างหาก
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #3592 เมื่อ: 25 มีนาคม 2556, 09:17:41 »

หน้าตาเป็นอย่างนี้ค่ะ
ขอโทษด้วยค่ะ,smart phone
ไม่Smart สมชื่อเสียแล้ว
หรือคนใช้ไม่เป็นเสียก็ไม่รู้
Uploadไม่ได้ค่ะ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3593 เมื่อ: 26 มีนาคม 2556, 09:10:37 »

สวัสดีครับ พี่'อร, พี่นก, พี่นี้ และสมาชิกของห้องนี้
ในวันอังคารที่ 26 มีนาคม 2556 ตรงกับวันสถาปนาจุฬาฯ ครบปีที่ 96 แล้ว
สำหรับท่านที่อยู่ กทม.และปริมณฑล คงได้มีโอกาสไปร่วมงานสถาปนาที่จะจัดขึ้น
ณ ศาลาพระเกี้ยว ในช่วงเย็นนี้


พยากรณ์อากาศ กทม.และปริมณฑล ในวันนี้
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #3594 เมื่อ: 27 มีนาคม 2556, 15:25:21 »


สวัสดียามบ่ายครับ... พี่อร..พี่นก..พี่มีนา..พี่ปี๊ด..พี่เหยง..พี่หนุน..พี่ตี๋..น้องยา และพี่น้องทุกท่าน

กรุงเทพอากาศร้อนจริงๆ..


      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #3595 เมื่อ: 27 มีนาคม 2556, 15:26:35 »

อ้างถึง
ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 25 มีนาคม 2556, 09:12:48
พี่มาชลบุรีค่ะมาดูบ้านตัดหญ้า ทำสวน
ปรากฎว่าช่วงนี้อากาศร้อน
คราวที่แล้วพี่หากระป๋องนำ้และเมล็ดพืช
ไว้ให้นกกลับบ้านคราวนี้
พี่ได้นกมาเป็นสมาชิกมาเป็นใหม่
นอกจากกระรางหัวขวานเจ้าเดิม
นกประจำถิ่นเช่นกาเหว่า.ที่มาลงที่สนามประจำ
ตอนนี้ได้เพิ่มนกเขาขาวมาอีกตัวค่ะ
สวยดีแถมกินจุอีกต่างหาก

รอชมรูป.. นกเขาขาว ครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3596 เมื่อ: 28 มีนาคม 2556, 09:58:09 »

พี่'อร


เมื่อวานไปคัดสำเนาที่ สนง.ที่ดินจังหวัดนครสวรรค์มา
สะดวก รวดเร็ว และเย็นดี (ขณะทำงาน)
พักเที่ยง สนง. ประหยัดพลังงานด้วยการปิดไฟ ปิดแอร์ทุกตัวเลย
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #3597 เมื่อ: 28 มีนาคม 2556, 13:18:53 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 28 มีนาคม 2556, 09:58:09
พี่'อร


เมื่อวานไปคัดสำเนาที่ สนง.ที่ดินจังหวัดนครสวรรค์มา
สะดวก รวดเร็ว และเย็นดี (ขณะทำงาน)
พักเที่ยง สนง. ประหยัดพลังงานด้วยการปิดไฟ ปิดแอร์ทุกตัวเลย

ค่ะน้องเหยง
ไม่เฉพาะสำนักงานในที่ทำงานที่พี่อยู่ก็เปิดแอร์9.30ปิด11.00เปิดอีกที13.30แล้วปิด15.30ค่ะ
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #3598 เมื่อ: 28 มีนาคม 2556, 13:21:54 »

ดีใจที่การบริการได้รับคำชม
ส่วนใหญ่ที่มาถึงพี่เป็นคำไม่นิยมเป็นส่วนใหญ่ค่ะ.
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #3599 เมื่อ: 28 มีนาคม 2556, 13:28:47 »

อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 27 มีนาคม 2556, 15:26:35
อ้างถึง
ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 25 มีนาคม 2556, 09:12:48
พี่มาชลบุรีค่ะมาดูบ้านตัดหญ้า ทำสวน
ปรากฎว่าช่วงนี้อากาศร้อน
คราวที่แล้วพี่หากระป๋องนำ้และเมล็ดพืช
ไว้ให้นกกลับบ้านคราวนี้
พี่ได้นกมาเป็นสมาชิกมาเป็นใหม่
นอกจากกระรางหัวขวานเจ้าเดิม
นกประจำถิ่นเช่นกาเหว่า.ที่มาลงที่สนามประจำ
ตอนนี้ได้เพิ่มนกเขาขาวมาอีกตัวค่ะ
สวยดีแถมกินจุอีกต่างหาก

รอชมรูป.. นกเขาขาว ครับ
ต้องขอโทษแล้วค่ะ น้องแหลม
คงต้องรอลูกกลับมาก่อนค่ะ
คนแก่ใช้งานไม่เป็นค่ะ
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 142 143 [144] 145 146 ... 179   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><