รัฐบาลเผยผลงาน ตัวชี้วัดสุขภาพดีถ้วนหน้าตัวที่ 1 ใน กทม.ให้มีสิ่งจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.)

[Samrotri2517]

                          

                      นายกฯอภิสิทธิ์ ยกระดับคุณภาพชีวิตปชช.-สรุป17ธค.
           ขอขอบคุณเวบสนุกดอทคอม วันอังคาร 7 ธ.ค. 53 ที่สนับสนุนเนื้อหา  
           http://news.sanook.com/986774-%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%9B%E0%B8%8A%E0%B8%8A.-%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%9B17%E0%B8%98%E0%B8%84..html

            

         นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟังแนวทาง ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจนอกระบบ จากส่วนราชการต่างๆ ผ่าน โครงการเร่งรัดปฏิบัติการด่วนเพื่อคนไทย ในการช่วยเหลือประชาชนเรื่องค่าครองชีพ ทั้งอาหาร พลังงาน และ กลุ่มอาชีพคนขับแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง และ หาบเร่แผงลอย โดยมีเป้าหมาย ที่จะให้ผู้ประกอบอาชีพเหล่านี้ มีรายได้เพิ่มขึ้น พร้อมเข้าถึงแหล่งเงินทุน

         ซึ่ง ในส่วนของหาบเร่แผงลอยนั้น จะมีการจัดระบบสถานที่ค้าขายใหม่ เพื่อไม่ให้เป็นปัญหา ส่วนกลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ทาง กทม. เสนอให้มีการขึ้นทะเบียนใหม่ทั้งหมด เปลี่ยนรูปแบบเสื้อวิน การออกบัตรประจำตัวสำหรับผู้ขับขี่

         ซึ่งกลุ่มนี้ จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 1,200 บาทต่อเดือน ขณะที่ กลุ่มแท็กซี่ จะมีการจัดจุดจอดรับ-ส่ง ที่ชัดเจนให้ เช่น ในส่วนราชการ ห้างสรรพสินค้า สถานีขนส่ง โดยไม่ต้องเสียค่าหัวคิว

         อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอแนะในวันนี้ นายกฯ จะนำไปพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง ก่อนที่จะตัดสินใจประกาศเป็นนโยบาย เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน โดยโครงการนี้ จะปิดสรุปข้อมูลในวันที่ 17 ธ.ค. นี้

                          

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

         ประเทศไทยได้กำหนดตัวชี้วัดความก้าวหน้า ของงานสาธารณสุขมูลฐาน ไว้ 4 ข้อ

เปรียบได้กับ การวางเสาเข็มบ้าน 4 เสา เพื่อค้ำจุนบ้านไม่ให้ทรุด  คือ

1.การที่ทุกคนได้สิ่งจำเป็นพื้นฐาน(จปฐ.)ที่จำเป็นต่อชีวิต ตามเกณฑ์ถ้วนหน้า

2.การที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการมีสุขภาพดี

3.การเข้าถึงสถานบริการสุขภาพได้สะดวก เข้าถึงได้ง่าย โดยถ้วนหน้า

4.การมีสถานพยาบาลที่ให้บริการสุขภาพ อย่างมีคุณภาพ ทุกแห่ง

การมีสาธารณสุขมูลฐาน ดี เป็นพื้นฐานที่จะทำให้เกิดสุขภาพดีถ้วนหน้าได้ง่าย

รัฐบาลเผยผลงาน ตัวชี้วัดสุขภาพดีถ้วนหน้าตัวที่ 1 ใน กทม.ให้มีสิ่งจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.)

      http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3394.0.html

                              

[Samrotri2517]

                 ก.ม.ม.ชี้9ประชาวิวัฒน์แค่แก้เฉพาะหน้า
           โดย เวบสนุกดอทคอม วันอาทิตย์ ที่ 9 ม.ค. 54  
                   http://news.sanook.com/993724-%E0%B8%81.%E0%B8%A1.%E0%B8%A1.%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B9%899%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%89%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2.html

                  

         นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ ได้ส่งจดหมายอิเล็กโทรนิกส์ (อีเมล์) ให้สื่อมวลชน หลังจากที่

                  

         นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศของขวัญ 9 ข้อ ให้คนไทย ว่า ตนคิดว่า

         การประกาศนโยบายประชาวิวัฒน์ 9 มาตรการของรัฐบาลนั้น แม้หลายมาตรการจะเป็นประโยชน์กับประชาชนโดยตรง โดยเฉพาะคนยากจนด้อยโอกาสก็ตาม แต่ก็ยังเป็นลักษณะของการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งทางรัฐบาลคงปฏิเสธไม่ได้ว่า หวังคะแนนเสียงทางการเมือง เพราะมาตรการเหล่านี้ ประกาศออกมาพร้อมๆ กับการกำหนดช่วงวันเลือกตั้ง ซึ่งอยู่ในกรอบ 6 เดือนพอดี

         ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้กลับมาเป็นรัฐบาล มาตรการเหล่านี้ก็ไม่มีหลักประกันว่า รัฐบาลชุดหน้าจะรับช่วงต่อ ฉะนั้นพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะใช้นโยบายประชาวิวัฒน์ไป ขอโอกาสจากคนจนให้เลือกกลับเข้ามาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง

         ทั้ง 9 มาตรการจริงๆ แล้ว เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนที่ควรได้รับตามรัฐธรรมนูญ และถือเป็นหน้าที่ของทุกรัฐบาลที่ต้องดำเนินการอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สิ่งที่ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรมจากรัฐบาลชุดนี้ที่บริหารแผ่นดินมากว่า 2 ปีเข้าสู่ ปีที่ 3 คือ

         การริเริ่ม หรือ วางมาตรการในการแก้ไขปัญหาในระยะยาว โดยเฉพาะปัญหาความยากจน ในระดับโครงสร้าง ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม

         ฉะนั้นนโยบายประชาวิวัฒน์ของรัฐบาลประชาธิปัตย์ กับประชานิยมของรัฐบาลทักษิณ ต่างกันแค่ภาษา แต่มีรากฐานความคิดเดียวกัน คือ มุ่งเน้นแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หวังผลทางการเมือง ละเลยการปฏิรูปในระดับโครงสร้าง จึงไม่แปลกที่ทั้งรัฐบาลประชาธิปัตย์ และรัฐบาลทักษิณ เลือกที่จะไม่ดำเนินการในเรื่องของการกระจายอำนาจ การกระจายรายได้ การปฏิรูปที่ดิน การจัดเก็บภาษีแบบอัตราก้าวหน้า เพราะเกรงว่าจะกระทบกับกลุ่มอำนาจธุรกิจการเมืองที่คอยค้ำอำนาจรัฐบาลอยู่ จึงใช้วิธีผลิตนโยบายง่ายๆ เพื่อเล่นกับปัญหาเฉพาะหน้าของคนจน ด้วยการซื้อใจคนจน และให้คนจนรอพึ่งพิงรัฐบาลอย่างเดียว พึ่งพาตัวเองไม่ได้ ซึ่งเข้าข่ายติดสินบนในระดับนโยบาย

                          

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

         ผลิตนโยบายง่ายๆ เพื่อเล่นกับปัญหาเฉพาะหน้าของคนจน ด้วยการซื้อใจคนจน และให้คนจนรอพึ่งพิงรัฐบาลอย่างเดียว พึ่งพาตัวเองไม่ได้ ซึ่งเข้าข่ายติดสินบนในระดับนโยบาย

         ผมมองว่า ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาลจะต้องทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ดีขึ้นทั้งสิ้น รัฐบาลต้องไม่แบ่งแยกว่า จะไปทำตาม นโยบายที่ดี ของรัฐบาล อื่นไม่ได้ ต้องมีจริยธรรมทางการเมือง ทำเพื่อประชาชน ไม่ใช่ทำเพื่อพรรค จึงสนับสนุนการ ประกาศนโยบายประชาวิวัฒน์ ซึ่งเป็นการทำให้ตัวใช้วัดสุขภาพดีถ้วนหน้า ตัวที่ 1 ประชาชนได้รับสิ่งจำเป็นพื้นฐาน จปฐ. ถ้วนหน้า เพื่อประชาชน เป็นสิ่งที่ควรปรบมือให้

                        

[Samrotri2517]

                              โดยเวบครอบครัวข่าว วันอาทิตย์ ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2554
         http://www.krobkruakao.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7/32017/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%AF%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8-9-%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B9%8C.html

                             

                   นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศ 9 มาตรการ ปฏิบัติการร่วมเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย มุ่งเน้นสร้างความเข้มแข็งเท่าเทียมอย่างยั่งยืน

ใช้งบประมาณเพียง 2,000 ล้านบาท แต่ประชาชนได้ประโยชน์กลับคืนกว่า 26,000 ล้านบาท

        นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบนโยบายปฏิบัติการร่วมเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย ในส่วนของโครงการเร่งรัฐปฏิบัติการด่วน (เพื่อคนไทย) หรือที่บางคนรู้จักในนาม

                   โครงการประชาวิวัฒน์

        เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วนและยั่งยืน โดยสรุปเป็นมาตรการแก้ไขปัญหา 9 ข้อ คือ

1.มาตรการสำหรับกลุ่มปัญหาเศรษฐกิจนอกระบบ ประกอบด้วย

         คนไทยเท่าเทียม ประกันสังคมถ้วนหน้า สินเชื่อทั่วถึง มอเตอร์ไซค์รับจ้างทำมาหากินเป็นธรรม และหาบเร่แผงลอยทำมาหากินเป็นธรรม โดยการเข้าถึงระบบประกันสังคม โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่นอกระบบจะเปิดโอกาสให้ประชาชนสมทบเงิน 100 ต่อเดือน เข้าระบบประกันสังคม การเข้าถึงสินเชื่อ โดยเฉพาะคนขับรถแท็กซี่ ผู้ค้าหาบเร่แผงลอย สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ในอัตราที่เป็นธรรม การขึ้นทะเบียนและจัดระบบ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาระบบสวัสดิการ ต้องมีการปรับปรุงวิน ป้ายราคาต้องชัด โดยจะเริ่มในเดือนมีนาคม ประเดิมพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพิ่มจุดผ่อนผันให้ผู้ค้าจำนวน 20,000 ราย มีพื้นที่ค้าขายเพื่อลดรายจ่ายนอกระบบ และพัฒนาให้เป็นจุดท่องเที่ยว การแก้ปัญหาค่าครองชีพ โดยเฉพาะการแก้ปัญหากองทุนน้ำมัน โดยจะมีการยกเลิกการตรึงราคา LPG ในภาคอุตสาหกรรม แต่ยังตรึงราคาภาคครัวเรือนและขนส่งต่อไป เพื่อประชาชนจะได้ใช้ในราคาที่เป็นธรรม

2.มาตรการสำหรับกลุ่มลดภาระค่าครองชีพผู้มีรายได้น้อย ประกอบด้วย

         คนไทยเข้มแข็งลดภาระกองทุนน้ำมัน ทุกวันใช้ไฟฟรี ร่วมลดต้นทุนเกษตรกร ราคาอาหารเป็นธรรมโปร่งใส และมาตรการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน คือคนไทยเข้มแข็ง ปลอดภัยอาชญากรรม ได้แก่    การใช้ไฟฟ้าฟรีสำหรับคนที่ใช้ต่ำกว่า 90 หน่วย อย่างถาวร โดยการปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียม อาหารในส่วนของผู้ประกอบการ โดยจะดูแลให้ทั้งเกษตร ผู้ประกอบการรายย่อยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น อาหารในส่วนของผู้บริโภคจะต้องมีทางเลือกมากขึ้น ต้องมีการเปิดเผยต้นทุนการผลิต ต้องมีความโปร่งใส ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ โดยมีแนวคิดจำหน่ายไข่เป็นกิโลกรัม และการแก้ไขปัญหาอาชกรรม โดยเฉพาะจุดเสี่ยงกว่า 200 จุด จะมีการบูรณาการ การเพิ่มบุคคลากรในการตรวจตรา

         เพื่อให้สอดคล้องกับการปฏิรูปตำรวจ ซึ่งจะใช้งบประมาณ 200-300 ล้านบาท โดยตั้งเป้าลดปัญหาอาชญารรมได้ร้อยละ 20 ภายใน 6 เดือน

         ทั้งนี้ หลังจากนี้จะตั้งหน่วยงานขึ้นมาตรวจสอบ เพื่อกำกับดูแลผลลัพธ์ และรายงานผลทุกสัปดาห์ให้กับนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การดำเนินงานเห็นผลชัดเจน โดยจะเสนอทั้ง 9 มาตรการนี้ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 11 มกราคม 2554 เพื่อผูกพันเป็นนโยบายของรัฐบาล และให้เริ่มดำเนินโครงการต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคมนี้

         นายกรัฐมนตรี ยืนยันด้วยว่า ทั้ง 9 มาตรการ แตกต่างจากนโยบายประชานิยม เนื่องจากเป็นวาระเร่งด่วนที่ประชาชนต้องการอย่างแท้จริง ยั่งยืน และใช้งบประมาณจำกัด โดยใช้งบประมาณปี 2554 - 2555 เพียง 2,000 ล้านบาท แต่ประโยชน์ที่ได้รับสูงถึง 26,000 ล้านบาท สร้างความเป็นธรรม เพิ่มประสิทธิภาพ ลดรายจ่ายนอกระบบ และมีความยั่งยืน เพราะว่ามีกฎหมายรองรับ ซึ่งเมื่อประสบความสำเร็จก็จะหยิบเอาประเด็นปัญหาอื่นมาดำเนินการในลักษณะเช่นนี้อีก