26 พฤศจิกายน 2567, 17:03:33
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: นี่คือของขวัญจากพรรคประชาธิปัตย์ ชิ้นแรกที่ผมนับเป็นของขวัญ  (อ่าน 3645 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« เมื่อ: 08 กรกฎาคม 2553, 08:37:20 »

วันที่ 06 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เวลา 12:34:43 น.   มติชนออนไลน์

ครม.เห็นชอบ"ประสาร ไตรรัตน์วรกุล "เป็นผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่
นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที เปิดเผยเมื่อวันที่ 6 ก.ค. หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.มีมติให้ความเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้นาย ประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) คนใหม่ แทนนางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธปท.หญิงคนแรก

 ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ เป็นที่ยอมรับทั้งภาครัฐและเอกชน  ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) จบปริญญาเอก (บริหารธุรกิจ)  จาก Harvard University, สหรัฐอเมริกา

ดร.ประสารเคยทำงานที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ก่อนจะไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลัก ทรัพย์(ก.ล.ต.)ช่วง 28 ธ.ค 542-27 ธ.ค. 2546 สมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล มีนายธารินทร์ นิมมานเหมินท์  เป็นรมว.คลัง และต่อเนื่องมาถึงพรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาล สมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรี มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์  เป็นรมว.คลัง

 นอกจากเป็นกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทยแล้ว ยังดำรงตำแหน่งเป็น ประธานกรรมการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด,รองประธานกรรมการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด, รองประธานกรรมการ บริษัท เมืองไทย กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด

........................................

ผมติดตามการคัดเลือกผู้ว่า ธปท. ด้วยใจโหยหา
ดีใจที่ครั้งนี้ 4 ท่าน สุดท้ายน่่าสนใจทั้งสิ้น
แต่ หากดูโดยกว้าง และ ลึก
 
ผมลุ้น ดร.ประสาร อยู่ เพราะไล่อ่านประวัติ และความคิดจากทั้ง 4 ท่าน
3 ท่านที่เหลือ มีจุดอ่อนในด้านลึก

ขอบคุณ รัฐบาล ที่ให้ของขวัญมีค่าสำหรับคนไทย
ขอบคุณจากใจครับ


      บันทึกการเข้า
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #1 เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2553, 20:43:05 »


ขอขอบคุณ คอลัมภ์ข่าวการเมือง เวบแนวหน้า วันอาทิตย์ 11 กรกฏาคม 2553
http://www.naewna.com/news.asp?ID=218809



นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์
"ต้อน"ทูตพาณิชย์ตะวันออกกลาง ลงชายแดนใต้เจรจาการลงทุน


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 กรกฎาคมที่ห้องประชุมวิทยาลัยอิสลามยะลาวิทยาเขตปัตตานี  
นำ คณะทูตพาณิชย์จากกลุ่มประเทศตะวันออกกลางลงพื้นที่ประชุมร่วมกับนักธุรกิจใน
พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย ประธานหอการค้า ประธานสภาอุตสาหกรรม และ
กลุ่มนักธุรกิจมุสลิม ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อหาลู่ทางการลงทุน การค้า การเชื่อมโยง
กับประเทศตะวันออกกลาง โดยมี ดร.อิสมาแอลลุตฟี จะปะกิยา อธิการบดีมหาวิทยาลัยอิสลามยะลา
วิทยาเขตปัตตานี ให้การต้อนรับ

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า การนำคณะทูตพาณิชย์จากกลุ่มประเทศตะวันออกกลางลงพื้นที่ในครั้งนี้
สืบเนื่องจากความร่วมมือทางการค้าภายใต้โครงการลิมอดาซา ระหว่าง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ของไทยกับ 5 รัฐทางตอนเหนือของประเทศมาเลเซีย เพื่อเชื่อมโยงทางด้านการค้า การลงทุน และ
การท่องเที่ยว อุตสาหกรรมฮาลาล และธุรกิจโลจิสติก เพื่อสร้างโอกาสทางการค้า และ
เศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้


 โดยมอบหมายให้มหาวิทยาลัยอิสลามยะลาเป็นสถาบันหลักในการขับเคลื่อนโครงการ ดังกล่าว
โดยคาดว่าในเดือนกันยายนนี้ จะจัดการประชุมลิมอดาซา ซัมมิด ครั้งแรก ในพื้นที่ โดยจะนำ
ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าประชุม ร่วมกับประเทศพันธมิตรทางการค้า ที่เป็นกลุ่มประเทศมุสลิม
สำหรับธุรกิจที่จะดำเนินการในโครงการลิมอดาซานั้น จะเน้นธุรกิจด้านอาลาลเป็นหลัก และจะ
ส่งเสริมให้นักลงทุนชาวต่างชาติ เข้ามาลงทุนในพื้นที่ ให้มากขึ้น และจะเชื่อมโยงสินค้าฮาลาล
ที่ผลิตได้ส่งออกไปยังประเทศตะวันออกกลาง
ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของความร่วมมือทางด้านการค้าการลงทุน

โดยเฉพาะเรื่องของการส่งเสริมวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้าอาลาลนั้น รัฐบาลได้มอบหมายให้
ศอ.บต. เป็นผู้ขับเคลื่อน เพื่อให้สอดคล้องกับการส่งเสริมแนวทางการพัฒนาในพื้นที่จังหวัด
ชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะทางด้านปศุสัตว์ ซึ่งรัฐบาลต้องการสร้างรายได้พื้นฐานให้กับ
ประชาชนในพื้นที่ และจะมีการจัดตั้งกลุ่มให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้า

รมช.พาณิชย์ ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่นั้น ไม่ถือว่า
เป็นอุปสรรคต่อการค้าการลงทุน เนื่องจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลางมีความเข้าใจถึง
สภาพของปัญหาทีเกิดขึ้น โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้พยายามสร้างความเข้าใจถึงสถานการณ์ที่
เกิดขึ้นมาโดย ตลอด และ มีความเชื่อมั่นว่าหากโครงการดังกล่าวประสบผลสำเร็จ
ก็จะส่งผลดีต่อการพัฒนาพื้นที่


วันที่ 11/7/2010

 gek gek gek

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX



ขอปรบมือให้ท่าน รมช.พาณิชย์ อลงกรณ์ พลบุตร ที่เปลี่ยนสนามรบ ให้เป็นสนามการค้า เหมือน
การยิงปืนนัดเดียว ได้นก 2 ตัว คือ ด้านเศรษฐกิจ และ ด้านการเมือง ไปพร้อมกันเลย


 win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #2 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2553, 13:01:18 »


ขอขอบคุณคอลัมภ์ข่าวการเมืองเวบแนวหน้าวันอังคาร 13 ก.ค.2553 ที่อื้อเฟื้อข่าว
http://www.naewna.com/news.asp?ID=219050



นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตีฝ่ายความมั่นคง

รัฐบาลให้ความสำคัญกับแผนพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ที่มุ่งยกระดับรายได้ประชาชน โดยต้องการให้ทุกครอบครัวมีรายได้เกิน 120,000 บาท

แต่จนถึงขณะนี้โครงการดังกล่าวยังให้ผลไม่เป็นที่พอใจ ตนต้องไปเร่งรัดโครงการ
เพราะจนถึงขณะนี้โครงการพัฒนายกระดับรายได้ประชาชนทำไปได้เพียง 50% เท่านั้น
ซึ่งเหลือเวลาอีก 2 เดือนใกล้หมดปีงบประมาณ 2553 จากนี้จะลงพื้นที่ติดตามทุก 10 วัน


 win win win
วันที่ 13/7/2010
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #3 เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2553, 08:03:51 »


ขอขอบคุณ วันพุธที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ.2553 ที่่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.thairath.co.th/content/pol/96021



นายกรัฐมนตรีจวกกลางวง ครม.แจกโบนัสผิดวัตถุประสงค์ขีดเส้นให้เฉพาะหน่วยงาน
ที่มีประสิทธิภาพมีเงินเหลือจ่าย โดยไม่ต้องใช้งบประมาณ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 ก.ค.
ซึ่งมีนายกฯ เป็นประธาน ในระหว่างการพิจารณาเรื่องที่

สำนักงาน ก.พ.ร.ขออนุมัติการจัดสรรเงินรางวัลประจำปีงบฯ 2552 สำหรับส่วนราชการจังหวัด และ
สถาบันอุดมศึกษาที่ไม่เงินเหลือจ่าย  ประจำปีงบฯ 52 วงเงิน 1,073,629,255.03 บาท

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขึ้นว่า แนวคิดเองการให้เงินรางวัลแก่ข้าราชการนั้น
มันผิดเพี้ยนไปจากวัตถุประสงค์เดิมที่เคยกำหนดไว้

ให้แก่หน่วยงานที่มีผลงานดี ดูแลจัดสรรงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดงบประมาณได้
เงินเหลือจ่ายจะนำมาจ่ายแป็นโบนัสให้แก่ข้าราชการไม่ได้เฉลี่ยเท่ากันทุกคนแต่ให้ตามผลงาน
แต่ปัจจุบันมันบิดเบี้ยวไปจากวัตถุประสงค์เดิมที่มาขอตั้งงบประมาณไปจ่ายเป็น เงินโบนัสกัน


ด้าน นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.ไอซีที กล่าวว่า เห็นด้วยว่า ควรจะจ่ายเงินรางวัลให้
หน่วยงานที่ประหยัดงบประมาณได้ ทำงานมีประสิทธิภาพ ส่วนหน่วยงานไหนที่
ใช้งบล่าช้าไม่ตรงกฎเกณฑ์ ไม่มีเงินเหลือจ่ายก็ไม่ควรได้

ซึ่งผอ.สำนักงบประมาณได้แย้งว่า บางทีหน่วยงานอื่นที่ทำงานได้ดี
แต่เขาไม่มีเงินเหลือจ่ายก็มี ควรจะมีสิทธิได้รับเงินรางวัล
เช่น
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทำงานได้ดีมาก แต่ไม่มีเงินเหลือจ่ายเลย

ซึ่งท้ายสุดนายกรัฐมนตรี จึงได้สรุปว่า

ในครั้งนี้จะให้เงินรางวัลประจำปีงบฯ 52 แก่เฉพาะข้าราชการชั้นผู้น้อยเท่านั้นผู้บริหารไม่ให้
และ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทบทวนและทำความเข้าใจเรื่องการให้เงินรางวัล
ประจำปีของส่าวนราชการฯ ให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์และวัตถุประสงค์เดิม.


 หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><