25 พฤศจิกายน 2567, 20:51:05
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: "กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมขับเคลื่อนจริยธรรม ให้เกิดขึ้นในสังคม"  (อ่าน 10796 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« เมื่อ: 14 กันยายน 2552, 12:17:49 »


รมว.วธ. เรียกร้อง อปท. ร่วมขับเคลื่อนนโยบายสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

 ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

ข่าวจาก สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ NNT  14 ก.ย. 52  

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ขอให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น

ร่วมขับเคลื่อนนโยบายสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ (14 ก.ย. 52)



นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวถึง

การดำเนินการตามนโยบายสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ระหว่างเดินทางมา

ปฏิบัติงานที่จังหวัดตราดว่า

ตามที่รัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์แห่งชาติ และ

ในระดับจังหวัดทั่วประเทศได้มีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นดูแล

โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด ภาคราชการ ภาคประชาสังคม และ

ภาคประชาชนเป็นคณะอนุกรรมการ

ทำหน้าที่พัฒนาสื่อต่างๆ ทั้งร้านเกมส์ คาราโอเกะ อินเตอร์เน็ต สื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ

ให้เกิดความปลอดภัย สร้างสรรค์ ไม่เป็นภัยต่อชุมชน

รวมทั้งเป็นการขยายพื้นที่สื่อส่งเสริมการเรียนรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน

เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของชาติ

อย่างไรก็ตามการดำเนินการตามนโยบายนี้ จะต้องมีการตั้งคณะอนุกรรมการย่อย

ระดับอำเภอ ระดับตำบลขึ้น โดยเฉพาในระดับตำบลที่ควรมีผู้นำ ทั้ง นายก อบต.

หรือนายกเทศมนตรี ร่วมเป็นประธานคณะอนุกรรมการย่อย

ทั้งนี้เนื่องจากการปฏิบัติงานในระดับชุมชนคณะอนุกรรมการย่อย

นับว่าใกล้ชิดกับชุมชนมากที่สุด

รู้จักสภาพพื้นที่ดีที่สุดดังนั้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)

จะต้องร่วมเข้ามาทำหน้าที่นี้

โดยเฉพาะการกลั่นกรองการเปิดรับสื่อของเยาวชน ซึ่งก็คือ

บุตรหลานของคนในชุมชนนั่นเอง

ทั้งนี้เพื่อให้เยาวชนสามารถรับสื่อที่เป็นประโยชน์ต่อการ

ดำเนินชีวิตเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีคุณภาพ

นำมาจาก

http://news.sanook.com/รมววธ-เรียกร้อง-อปท-ร่วมขับเคลื่อนนโยบายสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์-825660.html

 win win win

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

นำข่าวมาเสนอพวกเราว่า จะให้เกิดจริยธรรมในสังคม

แบบให้เป็นไปตามยถากรรม คงเกิดได้ยาก เหมือนการย้ายภูเขา จะเขยื้อนได้

ต้องใช้สามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขาของ ท่าน ศ.น.พ.ประเวศ วะสี

จัดการให้สิ่งยาก ๆ เกิดขึ้น

ด้วยการให้ความรู้ เป็นด้านที่หนึ่ง

มีการรวมตัวกันของผู้รับความรู้รวมตัวเป็นสมัชชาชุมชนมีวัฒนธรรม เป็นอีกด้านหนึ่ง

และ จะให้เกิดขึ้นไ้ด้ต้องมีให้ครบ 3 ด้านของสามเหลี่ยม ด้านที่สาม ด้านการออกกฏระเบียบ

มีทั้งเชิงบวก ทำแล้วได้ประโยชน์ เชิงลบ ไม่ทำตามต้องเสียประโยชน์หรือถูกลงโทษ

เมื่อครบและสมดุลย์กันทั้ง 3 ด้านก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ในที่สุด

 หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #1 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2552, 18:45:52 »


                    

นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

แนะ ทุกภาคส่วนร่วมพัฒนาสังคมและวัฒนธรรม

ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน 4 ประการ


สำนักข่าวไทย วันอาทิตย์ ที่  18 ต.ค. 52 18.05 น.  

รมว.วธ. แนะ ทุกภาคส่วนร่วมพัฒนาสังคมและวัฒนธรรม

ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน 4 ประการ (18 ต.ค.52)

นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวระหว่างบรรยายพิเศษให้

ผู้นำชุมชนในพื้นที่จังหวัดตราดว่า

จากปัญหาวิกฤติทางเศรษฐกิจที่ทั่วโลกประสบอยู่ทำให้เห็นว่ากระแสทุนนิยม

มีส่วนในการเสริมให้เกิดปัญหาดังกล่าว


ดังนั้น ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะผู้นำชุมชน ครู อาจารย์

ควรร่วมฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจ และ สังคมภายใต้

แนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน 4 ประการ ประกอบด้วย

1.การสร้างคนให้มีคุณภาพโดยคงไว้ซึ่งวิถีชีวิตท้องถิ่น

2.การสร้างสังคมให้เข้มแข้งในรูปแบบการทำงานแบบประชาคม

ซึ่งเป็นส่วนที่เห็นได้ชัดที่สุดในการสร้างสังคมประชาธิปไตย

3.การพัฒนาพื้นที่ภายใต้กรอบความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อมของชุมชน และ

4.การนำเอาเทคโนโลยีมาใช้อย่างเหมาะสมกับชุมชนของตน เช่น

คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต แต่ต้องมีการเฝ้าระวังไม่ให้สื่อที่ไม่ดี

เข้ามาสู่บุตรหลาน ครัวเรือนและชุมชน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ยังกล่าวถึงกรณีที่มีข่าวกระแสต่อต้าน

ป้ายโฆษณาลดความอ้วน ที่ไม่เหมาะสมกลางเมืองเชียงใหม่ว่า

จากกระแสต่อต้านของสังคมไทยต่อป้ายโฆษณาดังกล่าว นับว่าเป็นสิ่งที่ดี

ที่แสดงให้เห็นว่า ชุมชน และสังคม มีความเข้มแข็งในการรักษา

วัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น  

 
บรึ๋ยยย บรึ๋ยยย บรึ๋ยยย

ขอเสริมข่าว ในเนื้อข่าว ข้างล่าง ไม่ลงข่าวว่าถูกลงโทษอย่างไร เมื่อติดป้ายโฆษณา

ขัดต่อศีลธรรมอันดีงาน ผิดกฏหมายอะไร ต้อง ถูกปรับ หรือ จำคุกด้วย หรือ ไม่

พวกเราชาวนิติศาสตร์ หรือ ใครรู้ ช่วยบอกด้วย เป็นความรู้เมื่อพบอีกจะได้แจ้งจับ

เพื่อลงโทษ ให้เห็นจะได้ไม่มีการทำผิดเกิดขึ้นอีก

ตาม สามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา ของ น.พ.ประเวศ วะสี

จะแก้ปัญหายาก ๆ นอกจากด้านที่ 1 ให้ความรู้ ด้านที่ 2 รวมกลุ่มสร้างเป็นวัฒนธรรม

ต้องใช้ด้านที่3 ด้านกฏหมายถ้าไม่ปฏิบัติมีบทลงโทษด้วย

http://news.sanook.com/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87-839092.html

อย่างไรก็ตามการดำเนินการในเรื่องนี้ทางสภาวัฒนธรรมจังหวัด และ

คณะกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ในระดับจังหวัดที่มีการจัดตั้ง

ครบในทุกจังหวัดแล้ว ควรมีบทบาทในเรื่องนี้ โดยควรดำเนินการแจ้งเตือน

เจ้าของป้ายโฆษณาให้ทราบ เนื่องจากป้ายโฆษณาก็เป็นสื่ออีกอย่างหนึ่งที่

ต้องพิจารณาให้มีรูปแบบที่อยู่ในจารีต ประเพณีของสังคมไทย

นำมาจาก สำนักข่าวไทย ทางสนุกดอทคอม ที่

http://news.sanook.com/%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%A7%E0%B8%98-%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0-%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1-%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%AD-839124.html

 หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #2 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2552, 06:28:59 »


     กระทรวงวัฒนธรรมจัดโครงการรักพ่อทำตามคำสอนพ่อเฉลิมพระเกียรติ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ประชาชนถวายสัตย์ปฏิญาณ
ในเรื่องคุณธรรม 4 ประการ วันที่ 5 ธ.ค. นี้ ทั่วประเทศ ...
http://school.mediathai.net/edu_news_detail.php?board=3498


                  

     นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวหลังประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) ว่า ที่ประชุมหารือถึงการที่กรมการศาสนานำเสนอโครงการรักพ่อ ทำตามคำสอนพ่อ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 5 ธันวาคม 2552 โดยการจัดกิจกรรมให้ประชาชนร่วมถวายสัตย์ปฏิญาณที่จะประพฤติปฏิบัติตามพระราช-ดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเรื่อง

คุณธรรม 4 ประการ ได้แก่

เมตตาธรรม
สามัคคีธรรม
สุจริตธรรม และ
เที่ยงธรรม

     ในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ ทั่วประเทศ โดยเห็นว่าเป็นกิจกรรมที่ดี ที่สำคัญรัฐบาลควรให้ความรู้แก่ประ-ชาชน และรณรงค์เรื่องคุณธรรม 4 ประการตลอดไป โดยใช้วันที่ 5 ธ.ค. เป็นวันเริ่มต้นการรณรงค์ ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมการศาสนาจัดทำแผนงานรณรงค์ ให้ประชาชนน้อมนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน นอก จากนี้ ที่ประชุมยังเสนอเรื่องการประสานความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยรัฐและเอกชน รวมถึงมหาวิทยาลัยราช-ภัฏทั่วประเทศ ในการส่งเสริมงานทางด้านวัฒนธรรมร่วมกัน

 หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า

     นำมาให้พวกเราได้ทราบ นำไปเผยแพร่ และ ร่วมปฏิบัติตามคุณธรรม 4 ซึ่งมุ่งให้เห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว เพื่อให้ชาติมีความสงบร่มเย็น เอื้ออาทรกัน  ฯลฯ

 win win win

      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #3 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2552, 14:03:10 »




ค่ายอนามัยชุมชนจุฬาฯปั้นบัณฑิต"จิตอาสา"-แทนคุณแผ่นดิน

คมชัดลึก วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2552

"คุณยายได้รับบัตรคิวหรือยังคะ"..."คุณน้ามาตรวจโรคอะไรครับ" ... "จะไปขูดหินปูนด้วยมั้ยคะ" เสียงใสๆ บวกใบหน้ายิ้มแย้มของบรรดานิสิตหนุ่มสาวชาวจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สอบถามชาวบ้านที่หอบลูกจูงหลานมารอรับบริการตรวจสุขภาพ จากนั้นก็จูงมือพาไปส่งยังห้องตรวจโรค ดูแล้วน่ารัก อบอุ่นเกินคำบรรยายใดๆ ช่องว่างระหว่างวัย ช่องว่างระหว่างหมอกับคนไข้ถูกปิดลง เพราะหัวใจของทั้งสองฝ่ายมาบรรจบกันผ่าน "ค่ายอนามัยชุมชน" ประจำปี 2552

สโมสรนิสิตจุฬาฯ 6 คณะทั้งแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ สหเวชศาสตร์ วิทยาลัยพยาบาลสภากาชาดไทย ร่วมกับอาสาสมัครแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร รวม 320 ชีวิต ได้ร่วมกันจัดค่ายนี้ขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 พฤศจิกายน 2552 ที่โรงเรียนบ้านไพรนกยูง(วันชัยประชาสรรค์) หมู่ 5 ต.ไพรนกยูง อ.หันคา  จ.ชัยนาท โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)ไพรนกยูง โรงเรียนบ้านไพรนกยูง(วันชัยประชาสรรค์) รพ.หันคา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยนาท และหน่วยงานเอกชนอีกหลายแห่ง

 บรรดานิสิตจุฬาฯ ช่วยกันบำเพ็ญประโยชน์ โดยทาสีรั้วโรงเรียน จัดหนังสือในห้องสมุด ตีเส้นสนามกีฬา รวมทั้งให้บริการด้านสุขภาพแก่ชาวบ้านแบบครบวงจรทั้งการตรวจสุขภาพ จ่ายยา ตรวจเลือด ปัสสาวะและอุจจาระเพื่อตรวจโรคต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดัน ขูดหินปูน ถอนฟัน แนะนำวิธีออกกำลังกายแก่ผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมและไหล่ติด การรับประทานอาหารให้เหมาะสมตามวัย ตรวจมะเร็งเต้านม กำจัดเหา และอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เช่น โรคไข้เลือดออก โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รวมทั้งมีบริการฉีดยาป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ยาคุมกำเนิดให้สุนัขและแมวฟรี

 "ค่ายอนามัยชุมชนนี้จุฬาฯ จัดมาได้ 10 ปีแล้ว มุ่งปลูกฝังให้นิสิตจุฬาฯ มีจิตอาสา ช่วยเหลือชุมชนเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดินที่ช่วยให้ได้เรียน ไม่ใช่เรียนจบแล้วจ่ายเงินชดใช้ การออกค่ายจะทำให้นิสิตเห็นถึงสภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของชาวบ้านต่างจังหวัด เมื่อนิสิตสาขาต่างๆ ได้ทำงานร่วมกัน จะเข้าใจถึงความสำคัญของแต่ละสาขาและรู้จักนำไปใช้ในการทำงานจริง" รศ.จันทนี อิทธิพานิชพงศ์  รองคณบดีฝ่ายกิจการนิสิตคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ บอกถึงเป้าหมายของค่ายอนามัยชุมชน

นำมาจาก

http://www.komchadluek.net/detail/20091120/38052/ค่ายอนามัยชุมชนจุฬาฯปั้นบัณฑิตจิตอาสาแทนคุณแผ่นดิน.html

 หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า

      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #4 เมื่อ: 21 มกราคม 2553, 19:30:11 »


แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อสังคม รวมสามชุดรองรับโครงการคุณธรรม

         น.ส.นราทิพย์ พุ่มทรัพย์ ผอ.ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม) ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคม เปิดเผยว่า

                        

         จากการประชุมคณะกรรมการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคม ครั้งที่ 1 ซึ่งมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่ผ่านมา

         ที่ประชุมได้มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อขับเคลื่อนการทำงานส่งเสริมกิจการเพื่อสังคม 3 ชุด ตามที่ศูนย์คุณธรรมได้นำเสนอโครงการได้แก่

1.คณะอนุกรรมการด้านการสร้างการรับรู้และเรียนรู้

2.คณะอนุกรรมการพัฒนารูปแบบและขีดความสามารถของกิจการเพื่อสังคม

3.คณะอนุกรรมการพัฒนาช่องทางการเข้าถึงเงินทุนของกิจการเพื่อสังคม


         โดย บทบาทหน้าที่ของคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าว จะทำหน้าที่จัดประกวดกิจการเพื่อสังคมระดับประเทศ คัดเลือกกิจการเพื่อสังคมที่หลากหลาย จัดสัมมนาภายในประเทศและระหว่างประเทศ พร้อมทั้งพัฒนาคู่มือเนื้อหาประกอบการเรียนในระดับโรงเรียน มหาวิทยาลัย และสถาบันเฉพาะทาง รวมทั้งศึกษาและพัฒนารูปแบบองค์กรที่อาจจะต้องมีกฎหมาย และกฎเกณฑ์เฉพาะ พัฒนากองทุนใหม่ๆ

         นอกจากนี้จะมีการพัฒนาศูนย์บ่มเพาะกิจการเพื่อสังคมโดยเฉพาะ คล้ายกับตัวอย่าง KaosPilot ที่แสกนดิเนเวีย อีกทั้งเสริมศูนย์ข้อมูลให้คำปรึกษา และศูนย์อบรมที่เกี่ยวข้อง เช่น

         โครงการต้นกล้าอาชีพ หรือ เพิ่มประเด็นตลาด fair-trade ในศูนย์ข้อมูลการค้า กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น

น.ส.พ.แนวหน้า วันที่ 18/1/2010

         http://www.naewna.com/news.asp?ID=195620

         นำมาให้พวกเราได้ดีใจ ที่จะใช้คุณธรรมร่วมขับเคลื่อนประเทศให้เจริญก้าวหน้าด้วย

         การใช้กฏหมาย เป็นด้านที่สามของสามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา ถ้าไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น   ก็ไม่ทำ

         แต่คุณธรรม จะเป็นด้านที่สอง ของสามเหลี่ยมเป็นวัฒนธรรม ที่อยู่ในจิตสำนึก ถึงไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น ก็จะทำ เพราะ มี คุณธรรม หิริ โอตัปปะ ละอาย และ เกรงกลัวต่อบาป
         เวบบอร์ดซีมะโด่งนี้ก็ทำหน้าที่ให้ความรู้เป็นด้่านที่หนึ่ง พวกเราขอขอบคุณ รักนะ เวบมาสเตอร์ และ ทีมงาน ทำให้พวกเราทุกคณะ ทุกอาชีพ ได้เข้ามาให้ความรู้แลกเปลี่ยนกันได้ที่นี่


          รักนะ รักนะ รักนะ
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #5 เมื่อ: 31 มกราคม 2553, 18:20:20 »


                      

         ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการ หรือ เจ้าหน้าที่ของรัฐแต่ละประเภท ให้ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรม (ราชการแนวหน้า)

1. โดยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 279 กำหนดให้มาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐแต่ละประเภท ให้เป็นไปตามประมวลจริยธรรม โดย

         จะต้องมีระบบการบริหารจัดการ รวมทั้งการลงโทษตามความร้ายแรงแห่งการกระทำ การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมให้ถือว่าเป็นการกระทำผิดทางวินัย

2. ขณะเดียวกัน มาตรา 280 ยังกำหนดให้ผู้ตรวจการแผ่นดินมีอำนาจหน้าที่เสนอแนะหรือให้ คำแนะนำในการจัดทำหรือปรับปรุงประมวลจริยธรรมตามมาตรา 279 และส่งเสริมให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐมีจิตสำนึกในด้านจริยธรรม และรายงานการกระทำที่เป็นการฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมให้ผู้ที่รับผิดชอบ ดำเนินการบังคับให้เป็นไปตามประมวลจริยธรรม ตามมาตรา 279

3. สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้เผยแพร่หลักของมาตรฐานจริยธรรมสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งทาง การเมืองข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐถือปฏิบัติเพื่อรักษาประโยชน์ของราชการโดยรวม เป็นกลางทางการเมือง และให้บริการแก่ประชาชนตามหลักธรรมาภิบาล (เสมอหน้ากันนั่นแหละ) จำนวน 9 ประการ ดังนี้

(1) ยึดมั่นในคุณธรรมและจริยธรรม

(2) มีจิตสำนึกที่ดี ซื่อสัตย์ สุจริตและรับผิดชอบ

(3) ยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตนและไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน

(4) ยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้องเป็นธรรมและถูกกฎหมาย

(5) ให้บริการแก่ประชาชนด้วยความรวดเร็ว มีอัธยาศัยและไม่เลือกปฏิบัติ

(6) ให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนอย่างครบถ้วนถูกต้องและไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง

(7) มุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน รักษามาตรฐานมีคุณภาพโปร่งใสและตรวจสอบได้

(8 ) ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

(9) ยึดมั่นในหลักจรรยาวิชาชีพขององค์กร

4. ก.พ. จึงได้กำหนดมาตรฐานทางจริยธรรมขึ้นเรียกว่า ประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือน เพื่อใช้บังคับเป็นมาตรฐานกลาง ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติให้ความเห็นชอบแล้ว และประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือนฉบับนี้ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 126 ตอนพิเศษ 162 ง. หน้า 73 - 86 เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2552 แล้ว

5. สำนักงาน ก.พ.ได้มีหนังสือที่ นร 1013.7/ว 32 ลงวันที่ 22 ธันวาคม 2552 แจ้งเรียนให้ส่วนราชการดำเนินการ 2 ประการคือ

(1) เสนอชื่อผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกเป็นประธานคณะกรรมการจริยธรรมของส่วนราชการให้ ก.พ.ให้ความเห็นชอบพร้อมทั้งเสนอชื่อกรรมการอื่นด้วยเพื่อ ก.พ.จะได้แต่งตั้งเป็นคณะกรรมการจริยธรรมประจำส่วนราชการต่อไป

(2) ให้จัดตั้งกลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรมขึ้นภายในส่วนราชการโดยขึ้นตรงต่อหัวหน้าส่วนราชการ ทั้งนี้ให้หัวหน้าส่วนราชการตั้งรองหัวหน้าส่วนราชการ เป็นหัวหน้ากลุ่มงานนี้

6. ส่วนอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการจริยธรรมประจำส่วนราชการและกลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรมมีประการใดและข้าราชการที่ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมและข้าราชการที่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการจริยธรรม หรือ ก.พ. หรือปฏิบัติตามคำแนะนำของหัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรมจะเป็นประการใด คงจะต้องอดใจรอครั้งหน้าครับ

         ปฏิรูป  น.ส.พ.แนวหน้า วันที่ 31/1/2010

         http://www.naewna.com/news.asp?ID=197491

         win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #6 เมื่อ: 24 กุมภาพันธ์ 2553, 07:45:56 »


                          

          การรักนวลสงวนตัว-ไม่ชิงสุกก่อนห่าม กลายเป็นกระแสรณรงค์ที่ต้องจุดกันขึ้นมาทุกปี...เมื่อใกล้จะถึง 14 ก.พ.

          “วันวาเลนไทน์-วันแห่งความรัก” ของชาวคริสต์ ซึ่งกับปีนี้ ก็เช่นกัน และปีนี้วันวาเลนไทน์ตรงกับ “วันตรุษจีน” พอดี ก็น่าคิดว่า การฉลองของคนไทย โดยเฉพาะวัยรุ่น จะเลยเถิดมากขึ้นหรือไม่ ??
    
          ให้ความสำคัญกับวันแห่งความรัก...ก็มิใช่เรื่องเสียหาย
    
          แต่ทุก ๆ ปีก็จะเกิดเรื่องเสียหาย...เพราะรักโดยไร้สติ !!
    
          ทั้งนี้ สำหรับชาวคริสต์ก็ย่อมจะตระหนักดีถึงหัวใจสำคัญของวันวาเลนไทน์-วันแห่งความรัก ซึ่งมิใช่ วันปล่อยตัว-ปล่อยใจทำเรื่อง เสื่อมเสียทางเพศ แต่ที่ผ่าน ๆ มาวัยรุ่นไทยจำนวนไม่น้อยก็ทำให้วันนี้กลายเป็น “วันได้ตัว-วันเสียตัว” ซึ่งสะท้อนถึงการรักโดยไร้สติ “รักเลยเถิด” จน “สร้างปัญหา” ให้ตนเอง ผู้อื่น สังคม
    
          กับพฤติกรรมไม่ถูกต้อง-ไม่เหมาะสมในวันแห่งความรัก ที่เกิดมากในเมืองไทยที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ จึงมีการเปิดประเด็น

          “วันแห่งความรักแบบชาวพุทธ” ซึ่งอยู่ในช่วงใกล้เคียงกับวันวาเลนไทน์...นั่นก็คือ

          “วันมาฆบูชา” ที่ปีนี้ตรงกับวันที่ 28 ก.พ.
    
         “มาฆบูชา” หมายถึง การบูชาในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือนมาฆะ หรือ เดือน 3 ถือเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนา เพราะ

          วันนี้ในสมัยพุทธกาลเมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วได้ 9 เดือน ขณะประทับอยู่ ณ วัดเวฬุวัน วัดแห่งแรกในพุทธศาสนา ณ เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ พระสงฆ์สาวกที่พระพุทธองค์ได้ส่งไปเผยแผ่พุทธศาสนาตามเมืองต่าง ๆ ได้พร้อมใจกันกลับมาเฝ้าพระพุทธเจ้าโดยมิได้นัดหมายกันถึง 1,250 รูป ซึ่งถือเป็นเหตุอัศจรรย์ยิ่ง
    
          การมาของพระพุทธสาวกเหล่านี้ ถือเป็นการมาประชุมพิเศษ ที่ประกอบด้วยองค์ 4 อันเป็นที่มาของการเรียกวันนี้อีกอย่างว่า

          “วันจาตุรงคสันนิบาต” นั่นคือ...

1.เป็น วันมาฆปูรมี คือวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ กลางเดือนมาฆะ (เดือน 3) จึงเรียกว่า “วันมาฆบูชา”,

2.พระภิกษุที่มาประชุมในวันนั้นมีจำนวนถึง 1,250 รูป,

3.พระภิกษุที่มาประชุมล้วนเป็น พระอรหันต์ ที่สำเร็จ อภิญญา 6 คือเป็นผู้มีความรู้อันยอดยิ่ง 6 ประการ ได้แก่ แสดงฤทธิ์ได้ มีหูทิพย์ ตาทิพย์ ระลึก ชาติได้ กำหนดรู้ใจผู้อื่นได้ และมีญาณหยั่งรู้ในธรรมอันเป็นที่สิ้นแห่งกิเลสทั้งหลาย,

4.พระภิกษุเหล่านี้ล้วนเป็น เอหิภิกขุอุปสัมปทา หมายถึง ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าโดยตรง
    
          ในวันดังกล่าวนี้พระพุทธเจ้าทรงเห็นเป็นโอกาสเหมาะที่จะแสดง

          “โอวาทปาติโมกข์”

          อันเป็นการประกาศหลักการ อุดมการณ์ และวิธีการปฏิบัติในการเผยแผ่พุทธศาสนา ให้นำไปใช้ได้ในทุกสังคม ซึ่งจะเรียกว่าเป็นธรรมนูญแห่งพุทธศาสนา หรือ “หัวใจของพุทธศาสนา” ก็ว่าได้
    
          กล่าวสำหรับ หลักการ อุดมการณ์ และ วิธีการปฏิบัติ ตามที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้นี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ชี้ว่า....

          เนื้อหาหลักนั้นว่าด้วยการส่งเสริม ให้มวลมนุษย์ตั้งมั่นในการ ทำความดี ละเว้นความชั่ว ไม่เบียดเบียนซึ่ง กันและกัน นั่นก็คือ “ทรงสอนให้ทุกคนมีความรักอันยิ่งใหญ่ เป็นรัก ที่ไม่เห็นแก่ตัว เพราะสอนให้รู้จักรัก และเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลก”

                        
    
          นี่จึงเป็นที่มาของ “วันมาฆบูชา-วันแห่งความรัก” และ ถ้าใครนึกถึง

                     

             “หัวใจ” ก็ลองพินิจดู “ใบโพธิ์”
    
          ทั้งนี้ กับเรื่อง “ความรัก” ที่อิงกับ “พุทธศาสนา” นั้น พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) ได้เคยให้สติชาวพุทธไว้ สรุปได้ ว่า....

          ความรักนั้นมี 2 ประเภทคือ....

1.ความรักที่อยากได้เขามาทำให้ ตัวเราเป็นสุข ซึ่งอาจทำให้คนอื่นเป็นทุกข์ ทางพระเรียกว่า “ราคะ” หรือ “เสน่หา” กับ

2.ความรักที่อยากเห็นเขามีความสุข อยากทำให้เขาเป็นสุข พอทำได้ตัวเราก็เป็นสุขด้วย เหมือนพ่อแม่อยากเห็นลูกมีความสุข อยากทำให้ลูกเป็นสุข ทางพระเรียกว่า “เมตตา” รวมทั้ง “ไมตรี” ซึ่งสามารถต่อเนื่องไปถึง “กรุณา-สงสาร” ด้วย
    
          “ความรักแบบที่ 1 นั้นก็ยอมรับได้ แต่จะต้องให้อยู่ในกรอบ ในขอบเขตที่ดีงาม แล้วก็ใช้ให้เป็นประโยชน์ แต่เพราะก็ยังมีส่วนที่เป็นโทษ จึงควรต้องปรับปรุงพัฒนาต่อไปด้วย

          ความรักแบบ ที่ 2 เพื่อเสริมคุณค่าของความรักแบบแรก เมื่อความรักแบบที่ 2 เจริญงอกงามมากขึ้น ก็จะช่วยให้ความรักแบบที่ 1 ประณีตงดงาม จนกระทั่งแม้เมื่อไม่สามารถอาศัยความรักแบบที่ 1 ต่อไปได้ ก็ยังมี ความรักแบบที่ 2 หล่อเลี้ยงชีวิตร่วมกันอยู่ตลอดไป”  ...พระพรหมคุณาภรณ์ให้สติเรื่องความรักไว้ประมาณนี้
    
          ขณะที่ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว.วชิรเมธี ก็เคยให้สติวัยรุ่นไทยกับวันแห่งความรักผ่านสื่อไว้ อาทิ...

          “วัยรุ่นจะมีความรักไม่ใช่เรื่องผิด แต่ในความรักนั้นต้องมีสติอยู่เสมอไป มองแต่ว่าเมื่อไรจะมีอะไรด้วยกัน รักแบบนี้เป็นรักที่สัตว์เดรัจฉานก็มีได้ ไม่ต้องใช้สติปัญญาขั้นสูงอะไร ในฐานะที่เราเป็นมนุษย์เราต้องไปให้ไกลกว่านั้น

          รักแล้วต้องพากันสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามขึ้นไป เรารักใคร อย่าทำให้คนที่เรารักทุกข์”

                    
    
          “วันแห่งความรัก” ในแบบชาวคริสต์ก็มีความงดงาม
    
          แบบชาวพุทธก็มีความงดงามกับ “วันแห่งความรัก”
    
          สำคัญอยู่ที่ว่าจะเลือก “รักเป็น-รักดี” หรือไม่ ??.

http://news.impaqmsn.com/articles_hn.aspx?id=303964&ch=hn
          นำมาโพสต์ บอกพวกเรา กับบทความจริยธรรมดี ๆ เห็นว่าดี จึงบอกต่อ  เหอๆๆ

          รักนะ รักนะ รักนะ


      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #7 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2553, 19:39:23 »


ขอขอบคุณเวบเดลินิวส์วันจันทร์ ที่ 09 สิงหาคม 2553 ที่สนับสนุนเนื้อหาข่าว
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=38&contentID=84043

กระทรวงวัฒนธรรม วธ.มอบรางวัลสาวท้องแก่พลเมืองดี ตาม
โครงการคนดี คิดดี สังคมดี เจ้าตัวเผยดีใจเป็นแรงกระตุ้นสังคมไทย




วันที่ (9 ส.ค.) ที่กระทรวงวัฒนธรรม นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รมว.วัฒนธรรม เป็นประธาน
มอบเกียรติบัตร และเงินรางวัล จำนวน 20,000 บาท ให้แก่ น.ส.ธิติมา ยุราวรรณ อายุ 33 ปี
สาวท้องแก่ 9 เดือน พลเมืองดีที่ช่วยประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการจับกุมคนร้ายที่
โจรกรรมรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ในท้องที่ สน.หลักสอง และขับหลบหนี จนทำให้เจ้าหน้าที่
สามารถจับกุมตัวไว้ได้สำเร็จ

ตามโครงการ “คนดี คิดดี สังคมดี” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
และยกย่องให้เป็นแบบอย่างการทำความดีของสังคมไทย

นางธิติมา กล่าวว่า ขอขอบคุณ วธ.ที่ให้ความสำคัญกับการทำความดีของคนตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง
ในโอกาสนี้ตนอยากฝากให้คนในสังคมไทยทุกคนไม่นิ่งนอนใจในการทำความดี
เพราะจะช่วยให้สังคมไทยน่าอยู่มากกว่านี้ รู้สึกดีใจที่เป็นจุดเริ่มให้เกิดกระแสการทำความดี
เนื่องจากได้รับทราบกระแสการตอบรับผ่านทางเว็บไซต์ต่าง ๆ ซึ่งส่วนมากระบุว่า


มีกำลังใจในการทำความดีเพื่อสังคม ทั้งนี้ ตนมีกำหนดคลอดบุตร ในวันที่ 12 ส.ค.นี้ ซึ่งถือ
เป็นฤกษ์งามยามดี เนื่องในโอกาสตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ จึงขอมอบรางวัลนี้เป็นของขวัญในวันเกิดลูกคนที่สอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโอกาสนี้ รมว.วธ.ยังได้เปิดตัว นายสุรบถ หลีกภัย ลูกชายนายชวน หลีกภัย
ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม
โดยจัดให้เป็นผู้ร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนด้วย

รักนะ รักนะ รักนะ
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #8 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2553, 14:48:21 »


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   13 สิงหาคม 2553 00:20 น.
http://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9530000112032

“นิพิฏฐ์” สั่ง ศน.ปรับบทบาทเข้าถึง ปชช.เร่งปรับศาสนาหวั่นถูกมองเชย



นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รมว.กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.)

“นิพิฏฐ์” สั่ง กรมศาสนา ศน.ปรับบทบาทเข้าถึง ประชาชน เร่งส่งเสริมศาสนาหวัน
ถูกมองล้าสมัย เผย ต้องทำให้ประชาชนเห็นว่า

ศาสนาไม่ใช่เรื่องล้าสมัย การทำงานจะต้องเข้าถึงทุกภาคส่วนและอย่างเข้มแข็ง
       
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รมว.กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า กรมศาสนา (ศน.) ดูแลถึง 5 ศาสนา
พุทธ คริสต์ อิสลาม พราหมณ์-ฮินดู ซิกข์ เกี่ยวเนื่องกับความมั่นคงของ ชาติ และ พระมหากษัตริย์
แต่จำนวนบุคลากรมีแค่เพียง 109 คนเท่านั้น ส่งผลให้การดูแลแต่ละศาสนาไม่ทั่วถึง เนื่องจาก
ศาสนิกชนแต่ละศาสนาก็มีเป็นจำนวนมาก และปัจจุบันคนส่วนใหญ่มองว่าเรื่องของศาสนาเป็น
สิ่งที่ล้าสมัยด้วย ดังนั้น กรมการศาสนา ศน.จึงจำเป็นต้องปรับบทบาทการทำงานในการส่งเสริม
หลักธรรมทางศาสนาให้เข้าถึงประชาชนทุกภาคส่วน และต้องทำให้ประชาชนเห็นว่า ศาสนาไม่
ใช่เรื่อง ล้าสมัยการทำงานด้านศาสนา จะต้องเข้าถึงทุกภาคส่วนอย่างมีความเข้มแข็ง
       
“ศน.ต้องเร่งสร้างเครือข่ายและแนวร่วมในการส่งเสริมงานด้านศาสนาไปตามภูมิภาคต่างๆ ซึ่ง
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด (สวจ.) ทุกแห่งมีส่วนสำคัญที่จะต้องเร่งสร้างเครือข่ายนี้ ทั้งภาครัฐ
เอกชน สถาบันการศึกษาให้มีมากขึ้น ทั้งส่งผลให้การทำงานของข้าราชการช่วยแบ่งเบาภาระ
ได้ระดับหนึ่งที่เกิดปัญหาการขาดบุคลากร” รมว.วธ.กล่าว


  gek gek gek
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #9 เมื่อ: 06 กันยายน 2553, 16:16:19 »


              ศูนย์คุณธรรมผนึกวธ.มั่นใจงานเข้มแข็งขึ้น
         วันจันทร์ ที่ 06 กันยายน 2553 เวลา 0:00 น
         http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=42&contentID=89864    

                

        น.ส.นราทิพย์ พุ่มทรัพย์ ผอ.ศูนย์ ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม) เปิดเผยความคืบหน้าการโอนย้ายศูนย์คุณธรรมจากสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (สบร.) มาสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ว่า

        ในเร็ว ๆ นี้ตนจะหารือกับนายสด แดงเอียด อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) เกี่ยวกับเนื้องานที่ทำว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร หากย้ายมาแล้วจะทำงานร่วมกันเช่นไร เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน ซึ่งงาน ของศูนย์คุณธรรมจะเน้นการรวบรวมองค์ความรู้และแนวทางการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมให้เข้าถึงเด็ก เยาวชน และประชาชน พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายกับสถาบันการศึกษา ดำเนินการวิจัย รวมถึงการสร้างหลักสูตรต่าง ๆ เช่น

        หลักสูตรพัฒนาความซื่อสัตย์นักการเมือง  หลักสูตรการสร้างจิตอาสาให้เด็กและเยาวชน เป็นต้น เพื่อช่วยต่อยอดให้สถาบันการศึกษา หน่วยงาน และชุมชนได้นำไปปรับใช้ นอกจากนี้ ศูนย์คุณธรรมยังจัดงานสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติเป็นประจำทุกปี เพื่อกระตุ้นให้เครือข่ายร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหาคุณธรรมจริยธรรมในสังคมไทย

                            
    
         นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า การโอนย้ายศูนย์คุณธรรมมาสังกัดวธ.นับว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเนื้อหางานส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับภารกิจการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ไปสู่ประชาชน

        ซึ่งหากมาร่วมกันทำงานกับกรมการศาสนาจะทำให้ การทำงานเกิดความเข้มแข็งยิ่งขึ้น เพราะศน.จะทำให้ประชาชนเข้าใจในหลักธรรมศาสนพิธีของแต่ละศาสนา แต่ศูนย์คุณธรรม จะ เน้นสร้างองค์ความรู้ วิธีการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม หากผนึกกำลังทำงานกันแล้ว จะทำให้ระบบการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น.

                 win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><