22 พฤศจิกายน 2567, 18:34:43
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: "จับเท็จคนลวง...ไม่ต้องรอให้ฟ้าผ่า ตามคำสาบาน"  (อ่าน 3972 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« เมื่อ: 17 มกราคม 2553, 16:40:25 »


         จับเท็จคนลวง...อย่ารอฟ้าผ่า
 
คมชัดลึก :วันอาทิตย์ ที่ 17 มกราคม 2553

             

         จะมีเครื่องมืออะไรที่สามารถบอกถึง "ความในใจ" ที่ซ่อนอยู่ลึกในใจคนได้ดีไปกว่า "เครื่องจับเท็จ" ที่ช่วยภารกิจด้านสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริง ของตำรวจกับผู้ร้ายที่แฝงไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว ขณะเดียวกันก็ช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ของผู้ต้องสงสัยได้อีกด้วย

         เครื่องจับเท็จทำงานโดยผสมผสานอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่ใช้ตรวจหาการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ขณะผู้ต้องสงสัยถูกถามคำถามเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือสิ่งที่เกิดขึ้น ผู้ตรวจจะดูอัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต อัตราการหายใจ และการเปลี่ยนแปลงกระแสคลื่นไฟฟ้าที่ชั้นผิวหนัง โดยเปรียบเทียบกับภาวะปกติ

 ถ้าเส้นกราฟที่ได้มีการแกว่งหรือขึ้นๆ ลงๆ ที่ต่างกันมาก นั่นก็อาจจะชี้ได้ว่า ผู้ที่ถูกตรวจสอบในขณะนั้นกำลังหลอกลวง แต่ว่าผลการตรวจสอบนั้นก็แล้วแต่ผู้ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบจะตีความว่า นี่ใช่การโกหกหรือไม่

         ตามที่เคยเห็นในฉากหนัง เครื่องจับเท็จจะมีสายระโยงระยางเชื่อมตัวเครื่องกับผู้ต้องสงสัย แต่ด้วยเทคโนโลยีไร้สายที่ก้าวหน้า อีกไม่นานจะมีเครื่องจับเท็จแบบไร้สาย หนึ่งในผลงานวิจัยของหน่วยปฏิบัติการวิจัยเทคโนโลยีโฟโทนิกส์ ภายใต้สังกัดศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ

 เครื่องจับเท็จไร้สายจะทำงานร่วมกับอุปกรณ์ตรวจจับอุณหภูมิระยะไกล โดยอาศัยหลักการถ่ายเทความร้อน และการตรวจวัดเชิงแสงเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของผู้ต้องสงสัย

                          

         ดร.ศรัณย์ สัมฤทธิ์เดชขจร นักวิจัยหน่วยปฏิบัติการวิจัยเทคโนโลยีโฟโทนิกส์ เนคเทค กล่าวว่า เครื่องจับเท็จไร้สายเป็นผลงานต่อยอดจากซอฟต์แวร์วัดอุณหภูมิระยะไกล หรือเครื่องตรวจอุณหภูมิร่างกายระยะไกล ซึ่งติดตั้งใช้จริงอยู่ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในช่วงที่ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ 2009 ระบาด จุดเด่นของเครื่องจับเท็จไร้สายคือ ประสิทธิภาพที่แม่นยำสูง

         "เครื่องจับเท็จทั่วไปเมื่ออยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม จะแสดงผลไม่ชัดเจน เนคเทคจึงนำเทคโนโลยีไอทีทางไกล มาช่วยสร้างซอฟต์แวร์ใช้ในการสืบสวนสอบสวนและวิเคราะห์ความผิดปกติ ข้อดีของการใช้เทคโนโลยีไร้สายคือ สามารถตรวจสอบความจริงจากปากคำของผู้ต้องหา โดยไม่ต้องสัมผัสตัว ช่วยในการหาหลักฐานเพิ่มเติมในคดีต่างๆ รวมถึงยืนยันความบริสุทธิ์ของผู้ต้องสงสัย ทำให้กระบวนการสอบสวนของหน่วยงานด้านความมั่นคงได้รับความน่าเชื่อถือ"

         เนคเทคนำเทคโนโลยีไอทีเข้ามาช่วยในรูปแบบซอฟต์แวร์ช่วยสืบสวนสอบสวน โดยวิเคราะห์และประมวลผลจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เช่น อุณหภูมิใบหน้า หลังจากใช้เวลาศึกษาและปรับแต่งโปรแกรมอยู่ 3 ปี ทีมวิจัยได้ซอฟต์แวร์ต้นแบบชื่อ "เทด" (Thermal Analyzer for Deceptive Detection : TAD) ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังทดสอบประสิทธิภาพอยู่

         “งานวิจัยดังกล่าวเกิดจากโจทย์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่มองหาเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้ช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ให้แก่ผู้ต้องหา ปัจจุบันยังไม่มีเทคโนโลยีที่สามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้ ถ้าเราทำสำเร็จ ถือว่าเป็นครั้งแรกของโลก” ดร.ศรัณย์ กล่าว

         โปรแกรมดังกล่าวอาศัยการตรวจจับความเปลี่ยนแปลงของคลื่นความร้อน ของอุณหภูมิบนใบหน้า ด้วยหลักการถ่ายเทความร้อน หรือระบบตรวจวัดเชิงแสงมาใช้ควบคู่ไปกับการติดตามบริเวณที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถตรวจสอบและวิเคราะห์ผลได้ทันที หลังจากเสร็จสิ้นการทดสอบ

         เวอร์ชั่นล่าสุดมีความแม่นยำของการวิเคราะห์อยู่ที่ 84% สามารถควบคุมสภาวะแวดล้อมให้คงที่ ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิ ความชื้น ที่มีผลต่อผลการวิเคราะห์ และยังเก็บข้อมูลผู้ถูกสัมภาษณ์ ชุดคำถาม พร้อมทั้งรวบรวมผลการวิเคราะห์ไว้ในฐานข้อมูลด้วย

         นักวิจัยมั่นใจว่า ซอฟต์แวร์จับเท็จช่วยให้การสืบสวนสอบสวนทำได้ง่าย และสะดวกมากยิ่งขึ้น และยังมีโอกาสเชิงพาณิชย์ด้วย

         ก่อนหน้านี้เทคโนโลยีรูปแบบคล้ายกันถูกนำมาประยุกต์ใช้ทำซอฟต์แวร์วัดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิระยะไกล เพื่อตรวจวัดไข้ผู้โดยสารจากต่างประเทศ ในช่วงที่ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ 2009 ระบาดเมื่อปีที่แล้ว

         ทีมวิจัยยังได้พัฒนาเครื่องพิสูจน์บัตรเครดิตปลอม โดยแยกแยะความผิดปกติในตำแหน่งต่างๆ ของบัตรเครดิตด้วยเทคโนโลยีประมวลผลภาพจากจุดที่ผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นตัวอักษร รูปตราสัญลักษณ์ และเครื่องหมายที่สายตาเปล่าไม่อาจแยกแยะได้

         จุฑารัตน์ ทิพย์นำภา

http://www.komchadluek.net/detail/20100117/44882/%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87...%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2.html

         หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><