25 พฤศจิกายน 2567, 22:59:35
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: " อยู่ในโลกอย่างไรไม่ทรมาน์ "  (อ่าน 7551 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2552, 07:53:58 »

อยู่ในโลกอย่างไรไม่ทรมาน์  พิจารณาตรองไปให้จงดี   

อยู่ให้เหมือนลิ้นงูในปากงู  ไม่เคยถูกเขี้ยวงูอยู่สุขศรี

จากคอลัมภ์ ชักธงรบ จาก น.ส.พ.ไทยรัฐ 27ก.ย.2549

ลิ้นงูในปากงู

งูในมิติทางธรรม เป็น ทรัพย์สิน ยศศักดิ์ และอำนาจ

ใครมีมาก...ก็เท่ากับมีงูใหญ่หลายๆตัว อยู่รอบๆตัว

รอวันเภทภัยหายนะ มาเยือน



โรงมหรสพทางวิญญาณ สวนโมกขพลาราม ของท่านอาจารย์พุทธทาส

 gek gek gek



ผมนึกถึงภาพ ลิ้นงูในปากงู ในฝาผนังโรงมหรสพทางวิญญาณ

สวนโมกขพลาราม ของท่านอาจารย์พุทธทาส

ภาพงูตัวใหญ่ มีหงอน คลับคล้ายพญานาค อ้าปาก

มีพระนั่งหลับตาทำสมาธิ อยู่ในปาก

ท่านอาจารย์ เขียนเป็นปริศนาธรรม

ให้ช่วยกันคิด ช่วยกันไขว่า

อยู่ให้เหมือนลิ้นงูในปากงู

มีคำกลอนเกริ่นบรรยาย...ผมขอคัดย่อมาแต่พอเข้าใจ...

อยู่ในโลกอย่างไรไม่ทรมาน์  พิจารณาตรองไปให้จงดี

อยู่ให้เหมือนลิ้นงูในปากงู  ไม่เคยถูกเขี้ยวงูอยู่สุขศรี

อยู่ในโลกไม่เคยถูกเขี้ยวโลกีย์...

เขี้ยวโลกีย์ ที่ว่า ท่านอาจารย์อธิบาย คือ

เขี้ยวของโลกที่ขบขย้ำคนอยู่ คือโลกธรรม 8 ประการ

กลุ่มแรก คือ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข

กลุ่มหลัง คือ เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา และทุกข์

นั่นคือการได้และการเสีย หรือบวกกับลบ ซึ่งเป็นเพียงมายา

ปรากฏชั่วคราว ตามเหตุปัจจัยที่ปรุงแต่งขึ้น

เห็นความเกิด-ดับ ของมายานี้แล้ว

ไม่ถือมั่น ไม่หวั่นไหว ต่อโลกธรรม จึงอยู่เหนือโลก

ไม่ต้องหนีไปไหน แต่ก็ไม่ถูกเขี้ยวของโลก

เหมือนลิ้นของงูในปากงู ชิดเขี้ยวอันเต็มไปด้วยน้ำพิษ

แต่ไม่เคยถูกพิษนั้นเลย

โลกนอกตัวเราสมัยนี้ เต็มไปด้วยพิษงู เราจะอยู่อย่างฉลาด

โดยไม่ถูกพิษเหล่านั้น มีผลเท่ากับอยู่ คนละโลกทีเดียว

ท่านอาจารย์ไขปริศนา ลิ้นงูในปากงู ไว้แค่นี้...


กิเลน ประลองเชิง

ดูภาพปริศนาธรรมเพิ่มในโรงมหรสพทางวิญญาณ ที่

http://www.rosenini.com/suanmokkh/chaiya/sm19.htm#

 bye bye bye bye bye bye
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #1 เมื่อ: 28 กันยายน 2552, 21:17:49 »




การบรรยายธรรมะโดยท่าน ว.วชิรเมธี ท่านได้ให้พร 4 ข้อ ดังนี้

1. อย่าเป็นนักจับผิด 

คนที่คอยจับผิดคนอื่น แสดงว่า หลงตัวเองว่าเป็นคนดีกว่าคนอื่น

ไม่เห็นข้อบกพร่องของตนเอง

'กิเลสฟูท่วมหัว ยังไม่รู้จักตัวอีก' 

คนที่ชอบจับผิด จิตใจจะหม่นหมอง ไม่มีโอกาส

'จิตประภัสสร' ฉะนั้น จงมองคน มองโลกในแง่ดี '

แม้ในสิ่งที่เป็นทุกข์ ถ้ามองเป็น ก็เป็นสุข '

2. อย่ามัวแต่คิดริษยา    

'แข่งกันดี ไม่ดีสักคน  ผลัดกันดี ได้ดีทุกคน'

คนเราต้องมี พรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

คนที่เราริษยาเป็นการส่วนตัว มีชื่อว่า 'เจ้ากรรมนายเวร' 

ถ้าเขาสุข เราจะทุกข์ ฉะนั้น เราต้องถอดถอน   

ความริษยาออกจากใจเรา เพราะไฟริษยา เป็น

'ไฟสุมขอน' (ไฟเย็น) เราริษยา 1 คน เราก็มีทุกข์ 1 ก้อน

เราสามารถถอดถอนความริษยาออกจากใจเราโดยใช้วิธี

'แผ่เมตตา' หรือ ซื้อโคมลอยมา แล้วเขียนชื่อคนที่เราริษยา

แล้วปล่อยให้ลอยไป

3. อย่าเสียเวลากับความหลัง
 
90% ของคนที่ทุกข์ เกิดจากการย้ำคิดย้ำทำ

'ปล่อยไม่ลง ปลงไม่เป็น'

มนุษย์ที่สลัดความหลังไม่ออก เหมือน

มนุษย์ที่เดินขึ้นเขาพร้อมแบกเครื่องภาระต่างๆ ไว้ที่หลังขึ้นไปด้วย

ความทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้ว จงปล่อยมันซะ

' อย่าปล่อยให้คมมีดแห่งอดีต มากรีดปัจจุบัน '

' อยู่กับปัจจุบันให้เป็น '  ให้กายอยู่กับจิต จิตอยู่กับกาย คือ

มี 'สติ' กำกับตลอดเวลา

4. อย่าพังเพราะไม่รู้จักพอ   

'ตัณหา'ที่มีปัญหา คือ ความโลภ ความอยากที่เกินพอดี เหมือนทะเลไม่เคยอิ่มด้วยน้ำ

ไฟไม่เคยอิ่มด้วยเชื้อ  ธรรมชาติของตัณหา คือ 'ยิ่งเติมยิ่งไม่เต็ม' 

ทุกอย่างต้องดู ' คุณค่าที่แท้จริง ' ไม่ใช่ คุณค่าเทียม 

เช่น คุณค่าที่แท้ของนาฬิกาคืออะไร ? คือไว้ดูเวลาไม่ใช่ใส่เพื่อความโก้หรู

คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์มือถือคืออะไร ? คือไว้สื่อสาร

แต่องค์ประกอบอื่นๆ ที่เสริมมาไม่ใช่คุณค่าที่แท้จริงของโทรศัพท์ 

เราต้องถามตัวเองว่า

'เิกิดมาทำไม' คุณค่าที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ตรงไหน

ตามหา ' แก่น ' ของชีวิตให้เจอ

คำว่า 'พอดี'  คือ ถ้า 'พอ' แล้วจะ 'ดี'   

รู้จัก 'พอ' จะมีชีวิตอย่างมีความสุข'
 

sing sing sing
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #2 เมื่อ: 29 กันยายน 2552, 11:15:11 »

หมอสำเริง
นำเสนอแต่กระทู้ดีๆ ใช้ในชีวิตประจำวันได้ดี
เพื่อนคนนี้ และแฟ้มบุคคลขอตบมือให้ ครับผม

      บันทึกการเข้า
jumID
Full Member
**


ซีมะโด่งที่คิดถึง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 494

« ตอบ #3 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2552, 14:13:06 »

นานๆเข้ามาเยี่ยมซีมะโด่งบ้านเรา
มีหัวข้อแบบอ่านแล้วสบายใจดี
แต่ถ้ารู้เพียงทฤษฎี ปฏิบัติยังต้องลงมือ
สาธุค่ะ
      บันทึกการเข้า

ซีมะโด่งที่คิดถึง
เพื่อนเดียว-69
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu69
กระทู้: 152

« ตอบ #4 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2552, 15:39:41 »

อยู่ในโลกด้วยการไม่เบียดเบียนกัน

เริ่่มบ่มเพาะเหตุของตนที่ การสังวรในศีล ๕

และพิสูจน์ความจริงด้วยตนเองในหลักกรรมและการเวียนว่ายตายเกิด  ครับ พี่่หมอ
      บันทึกการเข้า

หน้าที่ของมนุษย์ คือการศึกษาธรรม เรียนรู้ธรรม เพื่อยอมรับธรรม

ธรรม คือธรรมชาติของรูปนาม
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><