25 พฤศจิกายน 2567, 19:42:48
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: "สวยเพียบพูนด้วยเสน่ห์"  (อ่าน 3298 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2552, 11:57:50 »



.................................

มีอุบาสิกาหญิงคนหนึ่ง เกิดในตระกูลที่มั่งคั่ง

ไม่ว่าจะเป็นด้านทรัพย์สมบัติ ยศถาบรรดาศักดิ์

หรืออำนาจวาสนา หรือความสวยงามภายนอก

เรียกได้ว่า หาคนเปรียบเทียบได้ยาก

แต่ก็ยังไม่มีใครมารักมาชอบ ไม่มีแม้แต่คนที่มา

คุยถูกคอ

จึงไปขอคำชี้แนะจากพระอาจารย์ ว่า

ทำยังไงถึงจะมีเสน่ห์ให้คนมารักมาชอบ

พระอาจารย์เลยตอบว่า

ถ้าเจ้าสามารถร่วมงานกับผู้อื่น ด้วยจิตที่มีเมตตา

พูดจาด้วยคำเซน ฟังเสียงของเซน ทำเรื่องราว

เกี่ยวกับเซน ใช้จิตของเซน

เจ้าจะกลายเป็นผู้มีเสน่ห์ดึงดูดผู้คนมากที่สุด


“คำของเซน พูดยังไงเจ้าคะ?” อุบาสิกานั้นถาม

“คำของเซน คือพูดแต่เรื่องเรื่องดีๆ พูดแต่ความจริง

พูดจาอ่อนน้อมถ่อมตน พูดแต่เรื่องที่มีประโยชน์

ต่อผู้อื่น”


“แล้วเสียงของเซน ฟังยังไงเจ้าคะ?”

“เสียงของเซนคือทำเสียงทั้งหมดให้เป็นเสียง

ละเอียดอ่อน ทำเสียงด่าทอเป็นเสียงที่มีเมตตา

ทำเสียงดูถูกเหยียดหยามเป็นเสียงที่คิดจะช่วยเหลือ

และถ้าเจ้าฟังเสียงร้องไห้ เสียงวุ่นวาย เสียงหยาบ

เสียงน่าเกลียด โดยที่เจ้าก็ไม่ถือสา นั่นคือ

เสียงของเซน”


“แล้วเรื่องราวของเซนทำยังไงเจ้าคะ”

“เรื่องของเซนคือ ทำบุญบริจาค ช่วยเหลือ

งานกุศล ช่วยบรรเทาสาธารณภัย

ทำสิ่งที่ถูกต้องตามศีลธรรม”


“แล้วจิตของเซนใช้ยังไงเจ้าคะ”

จิตของเซนคือ จิตของเจ้า ของข้าพเจ้า

ของปุถุชน ของอริยะชน ล้วนเป็นสิ่งเดียวกัน

เป็นจิตที่ห่อหุ้มสรรพสิ่ง เป็นประโยชน์ให้กับสรรพสิ่ง

หลังจากที่อุบาสิกาท่านนั้นได้ฟังคำชี้แนะจาก

พระอาจารย์ จึงเปลี่ยน ความเย่อหยิ่งจองหองที่มีอยู่เดิม

ไม่คุยโวโอ้อวดถึงฐานะตนเองต่อหน้าผู้อื่น

ไม่ยกยอตัวเองว่าสวยเลอเลิศกว่าคนอื่น และ

มักจะอ่อนน้อมและมีมรรยาทต่อผู้อื่น เป็นห่วงเป็นใย

และดูแลเอาใจใส่ต่อคนในปกครอง

เมื่อปฏิบัติเช่นนี้ไปนานเข้า

อุบาสิกาท่านนั้นก็ได้รับฉายาจากผู้อื่นว่า

“เป็นอุบาสิกาที่มีเสน่ห์มากที่สุด”


 ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><