23 พฤศจิกายน 2567, 00:33:18
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ช้าก่อน..." อาชีวะ-ช่างกล " ไม่ได้แย่อย่างที่คิด !!!  (อ่าน 5738 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« เมื่อ: 05 กันยายน 2553, 12:34:45 »


            วันที่ 04 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 16:26:01 น.  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
       http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1283592394&grpid=07&catid=00&sectionid=0225

                        ช้าก่อน..." อาชีวะ-ช่างกล "ไม่ได้แย่อย่างที่คิด !!!

                                

        กรณี นักศึกษาเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง   ใช้อาวุธปืนยิงใส่นักศึกษาโรงเรียนคู่อริบนรถโดยสารประจำทางสาย 113บริเวณป้ายรถเมล์ปากซอย รามคำแหง 164 แต่ถูกเด็กนักเรียนตาย สร้างความโศกสลด  ผมเองเป็นพ่อของลูกสองคนก็รู้สึกแย่ (ครับ)  เพราะผมเองก็ไปส่งลูกไปเรียนทุกวัน
    
         ยิ่งผมดูทีวี เห็นภาพแม่ของเด็กที่ถูกยิงตาย ร้องไห้ ใจคอผมไม่ดี จากนั้นนักข่าวทีวีผู้ขยันขันแข็งก็พาไปดูโรงเรียนของเด็กน้อยผู้จากไป พาไปดูชีวิตและความงดงามของเด็กนักเรียนก่อนที่จะถูกยิงตาย   ยิ่งดูก็ยิ่งหดหู่    ยิ่งดูยิ่งรู้สึก หมดหวัง
      
        ผมได้ยินเพื่อนผมด่า สาปแช่ง เด็กช่างกล เด็กอาชีวะ   บางคนมีอารมณ์ร่วม เสนอให้ ปิดโรงเรียนช่างกล ปิดโรงเรียนอาชีวะ (แม่งเลย) จากนั้น สื่อทั้งหมดก็ร่วมกันรายงานข่าวว่า

        ช่างกล  อาชีวะ มันเลว จริงๆ   มันยิงกัน มันเอามีดฟันกัน  มันป่าเถื่อน  
มันเสพยาเสพติด ข่าวเลวถูกผลิตซ้ำ เป็นข่าวทุกต้นชั่วโมง

      
         "มันดื่มเหล้ากันจนเช้า   แล้วก็ดักรอ ศัตรูคู่อริ  มันไม่เรียนหนังสือกันหรืออย่างไร  ครูของมัน สอนมันอย่างไร ให้เป็นโจร(ว่ะ) " นี่คือ ความเห็นที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ขุ่นเคือง
    
         ผมดูการผลิตซ้ำของสื่ออยู่ 2 วันแล้ว ผมก็เลิกดู   ผมว่า

         โลกแห่งความเป็นจริง  ไม่ใช่ อย่างที่เห็นในทีวีอย่างแน่นอน  
มันเป็นภาพด้านเดียว มันยัดเยียดกันเกินไป
    
         ข้อมูลที่ผมรู้คือ  ประเทศกำลังพัฒนาเช่นประเทศไทย กำลังขาดแรงงาน  
ประตูโรงงานเปิดรับสมัคร"ช่าง" แต่ขอโทษ ไม่มีแรงงานป้อนเข้าสู่ภาคการผลิต

                    
    
         นักลงทุนทั้งไทยและเทศ ยอมรับตรงกันว่า   ประเทศไทยกำลังประสบปัญหา
ขาดแคลนแรงงาน อย่างหนัก  กว่า 300,000  อัตรา

    
         ผมเคยถามนักวิชาการด้านแรงงานว่า แรงงานหายไปไหนหมด?  คำตอบคือ  
ค่านิยมของคนรุ่นใหม่ เปลี่ยนไป  พวกเขาอยากเรียนมหาวิทยาลัย ไม่อยากเรียนเป็นช่าง
    
        ข้อเท็จจริงส่วนนี้ ผมเองก็เคยประสบด้วยตนเอง ตอนไปสอนหนังสือให้คณะนิเทศศาสตร์
วารสารศาสตร์ ในหลายมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชนในฐานะอาจารย์พิเศษ
    
         ผมพบว่า  คนรุ่นใหม่ นิยมเรียนนิเทศศาสตร์ วารสารศาสตร์  กันอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง
จนผมเองสงสัยว่า เรียนกันไปทำไมมากมายขนาดนี้  แล้วจะไปทำอะไรกิน
    
                ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

        ปีหนึ่ง  ๆ แต่ละมหาวิทยาลัยผลิตกันออกมาสู่ตลาดนับหมื่นคน เช่นเดียวกับ  นิติศาสตร์บัณฑิต  ก็ปั๊มกันออกมาหลายหมื่นคนต่อปี   ทั้งที่มีคุณภาพและด้อยคุณภาพ
    
        สังคมนี้ ไม่มีใครอยากเป็นช่าง  ไม่มีใครอยากมือเปื้อน  ทุกคนอยากตัวสะอาด
ใส่เสื้อเชิ๊ตอยู่ในห้องแอร์ แต่งตัวเนี๊ยบ  พูดจาไพเราะ ดูดีกันหมด    
 
        เอาเข้าจริงในประเทศที่พัฒนาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาประเทศของประเทศเยอรมัน
ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศญี่ปุ่น หรือล่าสุดที่มาแรงมากๆ คือประเทศจีน
    
ทุกประเทศที่กล่าวมาทั้งหมด  เติบโตและพัฒนา มาได้ เพราะ"ช่างฝีมือ"ในโรงงาน (ครับ)

                        
  
       อย่างที่มีคำพูดว่า "อาชีวะสร้างชาติ" นั้นเป็นจริงเสมอ ไม่มีประเทศพัฒนาแล้ว
ประเทศใดสร้างชาติจากน้ำลายของนักการเมือง
  
        ผมเห็นว่า ถ้าพวกสื่อช่วยกันผลิตซ้ำเรื่อง ช่างกลเลว -อาชีวะเถื่อนไปเรื่อยๆ    
จะไม่มีใครอยากเรียนช่าง  พ่อแม่ก็ขยาดที่จะส่งลูกเรียนช่าง  
  
                 ที่สุด สังคมไทย จะมีแต่ลูกชายที่มีใบหน้านวล สีชมพู    
  
        ทั้งๆ ที่ประเทศนี้จะพัฒนาเติบไปได้ ต้องมาจาก แรงงาน และความคิดสร้างสรรค์ของบรรดาช่างฝีมือ พอเถอะครับ   พี่น้องสื่อที่รัก   เราร่วมกันป้ายสี  เด็กช่างกลและเด็กอาชีวะ กันเกินไปแล้ว
  
         ผมเชื่อว่า เด็กช่างที่นอกแถว  มีไม่เกิน 0.001 %   เป็นตัวเลขที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับนักเรียนช่างทั้งหมด อย่าทำลายภาพลักษณ์ของ เด็กช่างกล และเด็กอาชีวะ   แค่นี้ก็ไม่มีใครอยากเรียนช่างกันแล้ว  
  
         อย่าลืมว่า  ประเทศไทยจะก้าวหน้าหรือถอยหลัง อนาคตฝากอยู่กับเด็กหนุ่มสาวที่พร้อม
จะมือเปื้อนน้ำมัน เนื้อตัวมอมแมม ไม่ใช่พวกผู้ชายพกตลับแป้ง(ครับ)                                
 
                                              ขุนสำราญภักดี  4  กันยายน 2553
    
                                                       gek gek gek
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #1 เมื่อ: 05 กันยายน 2553, 14:47:22 »


              น.ส.พ.เดลินิวส์ วันอาทิตย์ ที่ 05 กันยายน 2553 เวลา 14:27 น 
        http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=561&contentId=89854

                       ทำงานเชิงรุกแก้ปัญหานร.ตีกัน

                     

         วันนี้ (5 ก.ย.)นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ  รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า
ตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ดำเนินการอย่างจริงจัง เน้นการป้องกันเชิงรุก
เพื่อไม่ให้เกิดกรณีนักเรียนอาชีวะตีกันอีก จนเป็นเหตุให้เกิดความสูญเสีย

        โดยขณะนี้ได้สั่งการให้ นายเฉลียว อยู่สีมารักษ์  ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ  ระดมความเห็นจาก
ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว พร้อมตั้งคณะทำงานเชิงรุก

        โดยมีตนเป็นประธาน  แบ่งการทำงานออกเป็น 4 ทีม
เข้าไปตรวจค้นสถานศึกษากลุ่มเสี่ยง 18 แห่งอย่างเข้มข้น  และรายงานผลมาให้ตนรับทราบวันต่อวัน
เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างเร่งด่วนต่อไป 

         ขณะเดียวกันจะจับนักเรียนนักศึกษากลุ่มเสี่ยงพวกหัวโจ๊กเข้าอบรมหลักสูตรการเป็นพลเมืองดี
ร่วมกับทหาร และการพาไปศึกษาชีวิตของผู้ที่อยู่ในสถานพินิจ 

         อย่างไรก็ตามตนจะนำเสนอขอมูลและสภาพปัญหาต่างๆ พร้อมแผนมาตรการแก้ปัญหานักเรียน
นักเลงเข้ารายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อหาทางแก้ปัญหาเรื่องเหล่านี้อย่างเป็นระบบต่อไป.


                       win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #2 เมื่อ: 05 กันยายน 2553, 16:51:05 »


              ขอขอบคุณเวบเดลินิวส์ วันอาทิตย์ ที่ 05 กันยายน 2553 เวลา 12:26 น 
              http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=561&contentID=89804

                   เล็งขนหัวโจกอาชีวะเข้าค่ายคุณชาย

             

                     มรว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่า กทม.

       วันนี้ (5ก.ย.) ที่วัดบำเพ็ญเหนือ แขวงและเขตมีนบุรี ถ.เสรีไทย กทม. มรว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร
ผู้ว่า กทม. พร้อม ผอ.เขต กลุ่มกรุงเทพตะวันออก นักศึกษา อาชีวะ7สถาบัน เจ้าหน้าที่ ตร.
ผู้นำศาสนาทั้งพุทธและอิสลาม รวมกว่า 580 คนร่วม

โครงการอาชีวะรวมพลัง สร้างสรรค์เพื่อพัฒนากรุงเทพมหานครของกลุ่มกรุงเทพตะวันออก 
   
       มรว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้สังคมเราน่าเป็นห่วงเพราะมีข่าวความขัดแย้งระหว่างสถาบัน
อย่างรุนแรงมากขึ้น และส่วนหนึ่งมีผลต่อภาพลักษณ์ ของสถานศึกษาและเยาวชนไทย และ
เด็กก็จะเป็นฝ่ายเสียโอกาส และผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องก็ถูกลูกหลง

       ทางเจ้าหน้าที่ของกทม.ได้ประชุมหาแนวทางแล้วจึงมีกิจกรรมที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมให้มี
ความเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพมากขึ้น โดยกระตุ้นให้เด็กเข้าใจในบทบาทและหน้าที่ของพลเมือง
ที่ดี และในวันที่ 29-30ก.ย.นี้ ตนจะออกทุนส่วนตัว เป็นเจ้าภาพจัดค่ายนำนักเรียนอาชีวะทั้ง7
สถาบัน ให้ผู้บริหารนำหัวโจก ของแต่ละแห่งมาเข้าค่าย ที่วังตะไคร้ จ.นครนายก
โดยจะเชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ มาร่วมกำหนดกิจกรรมด้วย


         หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
บ่าวหน่อ เมืองพลาญ
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2540
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 490

เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 19 มกราคม 2554, 10:57:37 »

โรงงานที่ผมอยู่ก็ต้องการ วุฒิ ปวช. และ ปวส. ครับ วุฒิ ม.6 ไม่ค่อยเห็นเขาเขียนกัน

ผมก็ยังงงว่า อาชีวะ หายไปไหนหมด
      บันทึกการเข้า

RCU80 จงเจริญ
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><