23 พฤศจิกายน 2567, 11:26:34
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 2 3 [4]  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: มาร่วมแบ่งปันสิ่งดีๆ จากสิ่งที่ได้อ่าน+การทำงาน กันครับ  (อ่าน 49208 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #75 เมื่อ: 12 สิงหาคม 2553, 08:45:58 »


FW:กินรังนก34ขวด=3800บาทมีคุณค่าทางอาหารเท่ากับนม1กล่อง=10บาท...แล้วจะกินเพื่อ..!!??‏



อยู่ที่วิจารณญาณของแต่ละคน......
 
ดูโฆษณารังนก แล้วเครียดมาก ครีเอทีฟ เปลี่ยนจุดขายได้ไหม

รักแม่มาก ซื้อรังนกเนื้อทองเกรดเอ ให้แม่ยกกระเช้า...กตัญญูรู้คุณ อยากตอบแทน

....ความจริง.....

ส่วนประกอบของรังนก โดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทยพบว่า

ประกอบด้วย  น้ำ 5.11% โปรตีน 60.9% แคลเซียม 0.58% โปแตสเซียม 0.03%


สำหรับรังนกสำเร็จรูปพร้อมบริโภคที่มีจำหน่ายในท้องตลาด ซึ่งประกอบไปด้วย

รังนก 1% น้ำตาลกรวด 12% นั้น เมื่อสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า

ถ้ามองในแง่โภชนาการแล้ว ผลจากการวิเคราะห์สารอาหารของรังนกสำเร็จรูปทั้ง 2 ขนาด

ที่มีขายในท้องตลาด จะเห็นว่าพลังงานที่ได้จากรังนกสำเร็จรูปนี้ได้จากน้ำตาลทรายกรวด

ที่เติมลงไป และมีปริมาณน้อยกว่าไข่ไก่ 1 ฟอง หรือประมาณ 1 ใน 3 ของนม 1 กล่อง

ในแง่ของโปตีน ถ้าต้องการให้ได้โปรตีนเท่ากับไข่ไก่ 1 ฟอง ต้องกินรังนกถึง 26 ขวด

หรือ ถ้าจะให้ได้เท่ากับนม 1 กล่อง ต้องกินรังนกถึง 34 ขวด หรือ

อีกนัยหนึ่งมีโปรตีนในรังนกสำเร็จรูป 1 ขสด (70-75 มล.) เท่ากับนมสด 1/2 ช้อนโต๊ะ

หรือ ในถั่วลิสง 2 เมล็ด หรือ 1/4 ฟอง ของไข่นกกระทา

...............................

อ้าว....ให้แต่น้ำตาลกะโปรตีนกับแม่นิ เข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภคหรือไม่....!!???

แพงเว่อร์มาก ก็แค่น้ำลายนกผสมน้ำตาล...รังนกทั้งกระเช้ายังไม่เท่าไข่ฟองเดียว!!?? เวรกรรม..!!!

คิดสักนิด ซื้อมากินเอง คุ้มไหม ซื้อให้ใคร คนรับได้อะไร !!!??

  gek gek gek

ของแพงก็ไม่ได้ดีเสมอไปอย่าติดกับดักมายา ความโก้หรู ความเชื่อ..กินแล้วดี..ที่เขาโฆษณาให้ดู

อย่างว่า..ของกิน..ของ..คนมีเงิน..คนจนอย่างเราจะมาโวยวายทำไม!!??

ก็อิชั้น สงสารนกนี่ค่ะ มีคนมา..พังบ้านคุณ.. คุณโกรธไหมล่ะ

น้องนกเขา..สำรอกน้ำลาย..มาสร้างนะ ไม่ได้เทปูน..!!

แงะรื้อบ้านเขามามาผสมน้ำตาลเอามาขายแพงๆ

ทำนาบนรังนก..ภูมิใจไหมค่ะ..คุณพี่!!??
 
คนซื้อบาป กินก็ไม่ได้ประโยชน์ เปลืองเงินโดยใช่เหตุ แต่คนขายรวย..!!

gek gek gek
 
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #76 เมื่อ: 12 กันยายน 2553, 15:42:08 »


         วันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 15:03:55 น.  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
         http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1284278449&grpid=02&catid=no

                          

                 เปิดหัวใจดวงแกร่ง"เจ๊เกียว"สุจินดา เชิดชัย
                      ธุรกิจ เงินตรา ลิขิตฟ้า และบุญคุณ !


          เปิดใจ "เจ๊เกียว" 53 ปีบนเส้นทางต่อสู้ จากเงิน 121 บาท กลายมาเป็นเศรษฐีพันล้าน เสียภาษีปีละร้อยล้าน เชื่อหรือไม่ว่า ไม่มี พระอาทิตย์ตกดินในอาณาจักรเชิดชัย เงินงอกตลอด 24 ชั่วโมง อยากรู้เคล็ดลับเศรษฐี ต้องอ่าน

         ในแวดวงธุรกิจเดินรถ  ไม่มีใครไม่รู้จัก  "เจ๊เกียว"  สุจินดา เชิดชัย  เจ้าของสัมปทานรถทัวร์รายใหญ่และกิจการในเครือเชิดชัยกรุ๊ป อย่างแน่นอน  จนหลายคนเรียกเธอว่า "เจ้าแม่รถทัวร์"  
        
         "เจ้าแม้บ้าอะไรขับรถเอง บอดี้การ์ดสักคน  ก็ไม่มี " เจ๊เกียว หลานย่าโม  ตอบชัดเจน
        
         เชื่อหรือไม่  จากเงินลงทุนเพียง  121 บาท เจ๊เกียว สร้างอาณาจักรเชิดชัย ให้ยืนหยัดและมั่งคงมากว่า 53 ปีแล้ว  ขณะที่เธอกลายเป็นเศรษฐีนีภูธร ผู้มีบารมี และคอนเน็กชั่นรอบด้าน ตั้งแต่เด็กขายกาแฟ นักการเมือง ไปจนถึงเจ้าสัวใหญ่ในเมืองไทย
        
        ทุกวันนี้  เจ๊เกียว ในวัย 73 กะรัต ยังคงทำงานหนักไม่ยอมเหน็ดเหนื่อย  เธอนอนแค่วันละ 6 ชั่วโมง   แถมยังขับรถเดินสายดิวส์ธุรกิจและพบปะสังสรรค์ผู้คนด้วยตัวเอง              
        
        ยานพาหนะคู่ใจของเจ๊เกียว   ไม่ใช่รถเบนซ์ หรือ BMW  ป้ายแดง แต่เป็น ฮอนด้า ซีอาร์วี รุ่นล่าสุด  ที่ดูโทรมมากแล้ว
        
        ใครอยากรู้ว่า   "เจ๊เกียว" ใช้ชีวิตสนุกและมันส์แค่ไหน หรือ มีรสนิยมแบบใด
      
 "ประชาชาติธุรกิจ" ชวนเจ๊เกียว สนทนาว่าด้วยชีวิตหลากมิติของเธอ ที่ใครหลายคนอาจไม่เคยรู้ ...

       ---------------------------
  
@ ทำไมต้องมีรูปเจ๊เกียวติดข้างรถทัวร์ด้วยครับ
      
         ก็อยากจะให้เขารู้ว่า เชิดชัย  บริหารโดยเจ๊เกียว    ตอกย้ำแบรนด์ แต่ไม่ถูกนะนั่นน่ะ รูปละ 3 หมื่น  แล้วก็มีเวอร์ชั่นถ่ายกับหลาน เป็นเวอร์ชั่นที่ไปเดินแฟชั่นโชว์กับหลาน  ก็เลยนำมาติดไว้ด้วย ฉันเป็นคนชอบถ่ายรูป

@ ทุกวันนี้ ธุรกิจหลักของอู่เชิดชัยมีแต่รถยนต์ หรือแตกไลน์ไปอย่างอื่นด้วย                  
 
         ที่มีแตกไลน์ออกมาก็คือ   บริษัทรับจัดไฟแนนซ์รถยนต์  เช่น อีซูซุ วอลโว่ และรถเอนกประสงค์ต่างๆ  หรือคุณขอมาฉันก็จะซื้อให้ แล้วก็ทำเรื่องเงินกู้ แต่ต้องเกี่ยวกับรถยนต์(นะ)    

@ แล้วมีกลยุทธ์สู้กับรถตู้ยังไงบ้าง
        
         ฉันกลับไม่อยากสู้(นะ)  อยากให้เขาทำมาหากินไป เพราะเขาก็มีครอบครัว มีญาติพี่น้องที่ต้องดูแล ฉะนั้น เราก็ทำรถใหญ่ของเราไป คงไม่ไปต่อสู้ ถ้าไปต่อสู้ ก็ไปเจอลูกกระสุน เอาชีวิตไปตาย แล้วเราสมควรตายเหรอ ชีวิตเรายังน่ารื่นรมย์จะตาย มีความสุขออก
 
@ แล้วมีวิธีปรับกลยุทธิ์รับมือกับธุรกิจสายนี้อย่างไรบ้าง
          
         เราก็ทำรถให้ดี เดินรถตรงเวลา รถสะอาด มีบริการที่ดี  ทำมาตรฐานให้สูง  มีคนขับรถดี อย่ามีอุบัติเหตุ ถ้ามีอุบัติเหตุก็ต้องดูแลเขาให้จบ  ฉันยังอุตส่าห์ขอทางการ ขอประกัน ประกันหัวละ 10 บาท  แล้วใช้ล้านนึงเวลาตาย  แต่ตอนหลังเห็นเขาตัดออก  วันละ 5 บาท   แต่เอาอย่างฉันนี่แหละ   ขึ้นรถทีนึงขอเก็บ 10 บาท  มาทำประกัน แต่ต้องเก็บทั้งหมดนะ เก็บไม่ทุกบริษัทไม่ได้  แต่ก็อาจจะสำเร็จยาก แต่ก็ต้องพยายามสร้างมาตรฐานไปเรื่อยๆ  

@ เรียกเจ๊เกียวเป็นเศรษฐีนีพันล้านได้มั๊ย            
 
         ฉันไม่เคยคิดว่าตัวฉันเป็นเศรษฐี เพราะฉันเกิดมาลงทุนด้วยเงิน 121 บาท  ลงทุนเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2501 คือวันแต่งงานฉัน แล้วฉันก็สร้างเนื้อสร้างตัวของฉันมาตลอด  ถามว่าวันนี้ฉันมีกี่พันล้าน ก็คงไม่คิด เพราะฉันไม่เคยไปคำนวณ  ฉันคิดแต่ว่า วันหนึ่งถ้าเงินไม่พอใช้ ฉันก็จะไปบอกแบงก์กรุงเทพ เอาเงินแบงก์กรุงเทพมาทำธุรกิจ  เป็นพันธมิตรหลักเลย  ฉันทำงานแล้วก็ผ่อนไปเรื่อยๆ  จนหมด  พอมีโครงการใหม่ก็ไปขออีก

              
 
@ บอกเคล็ดลับการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จกับลูกๆหลานๆหน่อยจะได้มั๊ย
 
         คนเราต้องใช้หลักชีวิต 3 หลัก  

1. ขยัน

2. ประหยัด และ

3. มีคุณธรรม
 

         สามอย่างแค่นั้นเองอย่าไปเอามากหลาย  ไม่ต้องไปทำอะไรผิด ไม่ต้องไปมีเรื่องกับใคร ไม่ต้องไปกลัวใคร เพราะเราไม่ได้ทำผิด  

         แล้วก็สอนลูกเราให้ถือศีล 5  เพราะถ้าทำได้ก็เลิศแล้ว   ศีล 8 ก็เยอะไป  แล้วชื่อเจ๊เกียวก็อยู่คู่ฟ้าเมืองไทยนี่แหละ ทำธุรกิจอู่เชิดชัยมา  53 ปี  ตอนนี้อายุฉัน 73 แล้ว   สำหรับเชิดชัยฉันเคยตั้งปณิธานไว้ว่า  จะไม่มีตะวันตกดินที่เชิดชัย   เพราะกลางวันได้รายรับจากอู่  ส่วน 6 โมงเย็นถึงตี 4 ถึงสว่าง ก็ได้เงินจากการเดินรถ มันเลยไม่มีตะวันตกดินที่เชิดชัย ได้เงิน 24 ชั่วโมง

@ เลือกตั้งครั้งต่อไป ลูกๆก็ยังอยู่เพื่อไทยเหมือนเดิม
          
         อยู่เพื่อไทยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง   เพราะฉันถือบุญคุณเป็นหลัก
  
@ แล้วถ้ามีคนถามเจ๊ว่า เจ๊ใส่เสื้อสีอะไรล่ะ
          
         ฉันนะเหรอ  ฉันจะไม่ตอบ เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในใจเราเอง ฉันจะไม่บอกใครเลย เพราะบอกไปแล้วก็มีทั้งบวกและลบ
    
         ฉะนั้น สิ่งที่บวกและลบจะไม่พูด อย่างเขาบอกว่า ให้ช่วยเอารถไปขนเสื้อแดง  ฉันบอกว่า ฉันขนไม่ได้หรอก  ถึงจ้างฉันก็ไปไม่ได้   เพราะว่ารถฉันมีหน้าที่วิ่งโดยสาร ไปไหนไม่ได้  แล้วอีกอย่าง ฉันไม่สามารถไปทำในสิ่งที่ ตัวเองต้องเดือดร้อน ฉันเป็นผู้หญิงนะ ใครจะคุ้มครองฉันล่ะ

         ฉะนั้นฉันจะไม่บวกไม่ลบ ฉันก็จะ 50: 50
 
@ ได้ข่าวว่า เจ๊เป็นคนเชื่อในเรื่องโชค
      
         ฉันเชื่อในเรื่องโชค  เวรกรรม ฟ้าลิขิต   ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว  

         ฉะนั้น ถ้าอยากรวยก็ต้องทำดี แต่ส่วนหนึ่งฉันว่าอยู่ที่การกระทำของเรา ฉันไม่ได้แขวนพระอะไรเลย  แต่ตอนเช้า ฉันก็จะกรวดน้ำ สวดมนต์  แต่บทสวดฉันก็จะแต่งตั้งขึ้นมาเอง  มีคาถาลับ  (หัวเราะ) จากหลวงพ่อที่เดินธุดงค์บ้าง  แต่ฉันไม่ได้วิ่งไปหาหลวงพ่อนะ แต่ต้องช่วยเหลือตัวเองก่อน  เพียงแต่ฉันชอบดูหมอ ฉันมีหมอประจำตัวคู่บุญเจ๊เกียว ดูฤกษ์ยามให้ทุกอย่าง ยกหูกริ๊งเดียว  ชื่อ หมอดูไพศาล  ( ปราโมทย์ ปิตตะพันธุ์)
 
@ เศรษฐีพันล้านอย่างเจ๊เกียว ใช้จ่ายวันละเท่าไหร่
        
         บางวันไม่ได้ใช้เงินเลย เพราะกับข้าวที่บ้านมีเยอะ  บางวันก็ 400-500 บาท
 
@ โกรธหรือไม่สบายใจหรือเปล่า เวลาที่มีใครมาเรียกว่า มาเฟียบ้าง เจ้าแม่บ้าง
          
         อย่ามาเรียกฉัน  ฉันไม่ใช่เจ้าแม่  เจ้าแม่บ้าอะไรขับรถเอง   แล้วก็ไม่เห็นมีใครเดินตามเลย เพราะฉันไม่ชอบ   ที่ขับรถเอง เพราะฉันชอบ มันส์ดี รถฉันใครอย่ามาซื้อต่อนะ โทรมน่าดูเลย  แล้วเวลาขับ ตรงไหนสะพานสูงๆ ที่จำได้ ฉันจะเร่งเครื่องไม่เบรกเลย   แล้วกระแทกให้ไปตกตรงกลางสะพาน  แล้วเด้งสัก 3 เด้ง แต่ถ้าได้ 5 เด้ง เก่งที่สุดเลย  ตึง ตึง ตึง
 
@ ทุกวันนี้ชีวิตมีความสุขมั๊ยครับ
          
          เกินจะสุข  อายุ 73 กำไรแล้ว   ตื่นเช้ามา ก็ทำงาน แล้วก็นอนตี 3  บางทีช่วงค่ำ ก็ขับรถไปดูหนัง อย่างบุญชู ฉันไปดูมาแล้วนะ   ขับรถไปเอง ไปซื้อตั๋ว เอาขนมใส่กระเป๋าไปกิน  ใช้ชีวิตสนุกมาก หรือสักอาทิตย์หนึ่ง ฉันก็ไปตลาดสี่มุมเมือง  ไปซื้อผัก จนกลิ่นผักเต็มรถไปหมด          
 
          จะบอกให้ว่า กลางวันผักจะขายถูก เพราะผักมันตาย  อย่างหน่อไม้ กลางคืนมัดละ 80 บาท  กลางวันเหลือ 25 บาท  

          แล้วการที่เราไปตลาดก็ได้กำไร

กำไรที่ 1.  เราก็ได้ของถูก ได้ไปช่วยชาวบ้านซื้อของ

กำไรที่ 2. ไปตลาดเหงื่อโชกทั้งตัว  เคยไปโยคะร้อน ชั่วโมงครึ่ง เหงื่อยังไม่อออกเลย  ไปตลาดซิ ไม่เกิน 20 นาที โอ้โห ! เหงื่อแตก  ได้สุขภาพ
 
@ เคยลำบากที่สุดแค่ไหน        
 
         ก็ลำบากมาก แต่ก็สนุกดี  ต้องวิ่งหาเงินกู้  มาใช้ในอู่  ลำบากมาก แต่ไม่เคยเกลียดตัวเอง (นะ) ไม่เคยท้อถอย ไม่เคยโทษชะตาชีวิต  กรรมมา(กู) ก็สู้ก่อน   สักวันบุญก็มาถึง   คือ

         วันนึง 24 ชั่วโมง  ฉันจะใช้เวลา 18 ชั่วโมงให้เต็มที่ ขอนอนแค่ 6 ชั่วโมง  ฉันเคยเลี้ยงหมู เคยตัดเสื้อ อะไรเป็นเงินทำหมด แล้วได้เงินมาก็จะเก็บดีๆ แล้วเงินมา ก็ต้องต่อเป็นเงิน ไปใช้หนี้แบงก์ ให้เงินทำหน้าที่ของมันไป
 
@ ให้เงินทำหน้าที่ของมันไป  เป็นอย่างไร  
        
         ธุรกิจที่เราจะรวยได้  เราอย่าปล่อยให้ธุรกิจเรามีช่องว่าง  สมมุติว่าใครจะเช่ารถ จะซื้อรถ พยายามตามให้ติดๆ   แล้วก็ตั้งเป้า   ปีนี้ 2 พันล้าน ปีหน้าเราอาจจะตั้ง 3 พันล้าน  ปีต่อๆ ไป อาจจะตั้งมากกว่านั้น    ฉะนั้นการเก็บเป้า ต้องเก็บตั้งแต่วันที่ 1 ถึงวันที่ 365   ทำทุกวัน    ฉะนั้น ชีวิตฉัน ไม่เคยปวดหัว มีเวลาว่างก็ไปดูหนัง    ชอบดูหนังรัก    แล้วก็พวกเกี่ยวกับดวงดาว จักวาล ความเป็นไปของโลก โลกจะไปทางไหน อย่างนั้นชอบดู
 
@เมื่อกี้บอกว่าชอบดูหนัง ดูละคร
    
         ละครดูเป็นบางเรื่อง  อย่างกุหลาบไร้หนามก็ดู  แต่จบไม่ดีเลยอ่ะ คนชั่วได้ดี    คนทำไม่ดีก็ต้องได้ไม่ดี (หัวเราะ)   ละครบางเรื่อง เพลงเพราะ เราก็อัดไว้  อย่างเพลงละครเรื่องไทรโศก  อัดไว้เลย เพราะมาก (ว่าแล้ว ...เจ๊ก็ร้องเพลงละครไทรโศกให้นักข่าวประชาชาติฟัง)  
            
@ ชีวิตเจ๊เกียว  เคยร้องไห้บ้างมั๊ย
      
         ชีวิตฉันไม่ค่อยมีน้ำตา  สามีตายก็ไม่ร้องไห้ แปลกมั๊ย  ก็จัดงาน    แต่ดูละครแล้วร้องไห้ (หัวเราะ)  คือบางทีชีวิตตัวละครที่รันทดจริงๆ เราก็สงสาร บางทีก็อยากเอาเงินไปช่วยเหลือคนที่ยากไร้
 
@ อยากให้คนรุ่นลูกหลาน หรือประวัติศาสตร์บันทึกชีวิตเจ๊อย่างไรบ้าง
          
         ไม่ต้องการดีกว่า  ฉันไม่ต้องการความนิยมชมชอบจากใคร  ไม่ต้องมาบอกว่าเจ๊เกียวดีหรือไม่ดี   นี่เขียนพินัยกรรมตายไว้เลยว่า

1. ห้ามไปขอพระราชทานเพลิงศพ  

2. ตายที่ไหน ให้เก็บเข้าบ้าน ทำพิธีแค่ 40-50 วัน  ให้จบ  

สวด 48 วัน วันที่ 49 เผา   วันที่ 50 ลอยอังคารแล้วก็จบเลย    

3. ห้ามรับพวงรีด ห้ามรับเงินช่วยเหลือ

4. ไม่ต้องเลี้ยงอาหาร นอกจากน้ำชา กาแฟ ขนม  หรือ ซาลาเปา 9 สี  แค่นั้นก็พอ
      
        
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
  หน้า: 1 2 3 [4]  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><